เคล็ดแก้การกินข้าวเรือนผี,การคะลำถือคาถาอาคมให้ขลัง

ในห้อง 'ประสบการณ์ ผลของการสวด' ตั้งกระทู้โดย พญายา, 25 มิถุนายน 2014.

  1. พญายา

    พญายา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,265
    ค่าพลัง:
    +8,171

    เคล็ดลับที่มีผู้เคยใช้จริงในการแก้ไขเมื่อต้องกินข้าวเรือนผี

    -เมื่อหลายปีก่อนขณะที่จขกท.นั่งทานข้าวในบ้านงานศพ มีคณะหาเสียงเลือกตั้งผ่านเข้ามาและนั่งล้อมวงกินข้าวที่บ้านงานศพ แต่มีผู้หญิงคนหนึ่งไม่ยอมกินอาหาร เมื่อถูกซักถามเธอตอบว่า....มีของค่ะ....(ไม่กินข้าวในบ้านงานศพหรือข้าวเรือนผี) นี้ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งคือการอดอาหาร แต่เจ้าภาพอาจมีเขม่น หรือคนที่เขานึกหมั่นไส้ ....ของอะไรว่ะ! ของเมิงจะดีจะแน่นักหรือ?....อย่างนี้เป็นต้น บางคนที่เรียนคาถามาหรือมีของเก่าที่ตกทอดมาจึงเลี่ยงที่จะทานของในงานศพ แต่มาร่วมสวดมนต์ไหว้พระรับศีล มอบซองปัจจัยก็พอ เพื่อรักษาความขลัง
    -มีพระสงฆ์รูปหนึ่งท่านเรียนคาถากับอาจารย์ฆราวาสไว้หลายบท มีข้อห้ามประการหนึ่งคือการไม่ให้ไปกินข้าวเรือนผี แต่เนื่องจากเป็นกิจนิมนต์เมื่อท่านสวดศพที่หน้าโลงศพเสร็จแล้ว จึงบอกทางเจ้าภาพให้จัดอาหารอีกสำรับหนึ่งและปูเสื่อไว้ภายนอกชายคาห่างจากชายคาสัก2วา เพราะท่านต้องไม่อยู่ในเรือนของผี ท่านมีข้อคะลำ ถ้าบ้านงานศพที่มีเพิงที่พักอีกหลังหนึ่งท่านก็จะออกมาฉันเช้าหรือเพลที่เพิงนั้นไม่ฉันภายในบ้านที่เก็บศพ ส่วนเพื่อนพระสงฆ์รูปอื่นที่ไม่ได้ถืออย่างท่านก็ฉันอาหารไปตามปกติ
    -พระสงฆ์อีกรูปหนึ่งนั้น ถ้านิมนต์ท่านเข้ามาในเรือนที่เป็นสองชั้น ชั้นล่างนั้นจะต้องเอาผ้าขาวขึงกั้นด้านบนศรีษะให้ท่านไปตลอดทางเดินจนถึงที่ท่านจะนั่ง ท่านจึงจะรับนิมนต์
    -พระบวชใหม่รูปหนึ่งก่อนจะฉันอาหารท่านจะทำปากขมุบขมิบ ที่บาตรของท่านจขกท.จึงหาโอกาสสอบถามว่าท่านมีคาถาดีหรือจึงเสกข้าวกิน พระบวชใหม่รูปนั้นบอกว่า ...ฉันกินเดนพุทธเจ้า....เพราะเป็นบ้านงานศพ ฉันจึงใช้เคล็ดลับ ถวายและลาข้าวพระพุทธก่อน ที่ฉันจะฉัน เพื่อไม่ให้เป็นอาหารเดนของผี ที่เรามองไม่เห็น นี่ก็เป็นอีกหนึ่งความเชื่อส่วนบุคคล ไม่สงวนลิขสิทธิ์

    [​IMG]
    การคะลำให้คาถาอาคมขลัง
    จขกท.เคยเขียนไปบ้างแล้วในห้องอื่น คือคนที่เรียนอาคมนั้น มักจะมีบ้านชั้นเดียว แยกราวตากผ้าไว้ห่างตัวบ้าน ใช้ราวไม้ไผ่ในระดับสายตา เพื่อไม่ให้หลงไปลอดและไม่ใช้ราวตากผ้าร่วมกับลูกเมีย อาหารนั้นก็หาปูหาปลาทำกินเอง เพื่อไม่ให้เป็นเดน
    [​IMG]
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กรกฎาคม 2014
  2. พญายา

    พญายา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,265
    ค่าพลัง:
    +8,171
    ในกรณีการใช้เครื่องรางของหลวงพ่อเถิงนั้น
    [​IMG]
    หลวงพ่อท่านมีวิชาสักยันต์ด้วย แต่ท่านจะบอกแค่ว่า อย่าประมาท อย่าโอ้อวดส่วนที่เพิ่มเติมเข้ามานั้นเป็นเพราะว่า บรรดาคนแก่ที่เป็นลูกศิษย์ได้กำชับเข้ามาเป็นความเชื่อว่าถ้าอยากจะถือให้ขลังๆนั้นจะต้อง
    -ไม่เอาไว้ต่ำ คือเป็นการให้ความเคารพ ให้ดูเหมาะสม อย่างเช่นตะกรุดเอามาใส่ถุงกางเกงก็จะดูต่ำไป อยู่ใกล้หรือจะกระทบกับอวัยวะเพศ หรือถ้าแอบม้วนตะกรุดไว้ที่ขากางเกงก็จะดูต่ำเกินไป ในการพกเครื่องรางจะต้องให้สูงกว่าระดับของเอวขึ้นไปจึงจะดี รวมทั้งเมื่อถอดออกจากตัวก็ควรอยู่สูงเกินศรีษะ คนสมัยก่อนจะถือว่า เท้าเป็นของร้อนเป็นของต่ำ อวัยเพศก็เป็นของต่ำของสกปรก รวมทั้งก้นและรูทวาร เป็นช่องทางขับของเสีย ของเหม็น เคยทีเรื่องขบขันคือหนุ่มๆที่จะไปสักยันต์กับอาจารย์ที่เก่งคนหนึ่งเพราะเห็นคนแถวบ้านไปสักมาแล้วรอดตายจากอุบัติเหตุ พออาจารย์บอกข้อห้ามข้อคะลำว่า อย่าให้ผู้หญิงอยู่ด้านบนตัวเรา โดยเฉพาะเวลาร่วมเพศ จะทำได้ไหม? พวกหนุ่มๆที่ไปนั้นถอยกลับบ้านกันหมดไม่มีใครสักยันต์เลย
    -ไม่ด่าแม่ ซึ่งเป็นผู้ให้กำเนิด เพราะของที่ถือนั้นจะหลุ่ยหรือเสื่อมพุทธคุณลงไป การเสื่อมหรือหลุ่ยไป เปรียบเทียบเหมือนใบเลื่อยตัดเหล็กถ้าเอามาตัดโดนวัสดุที่แข็งเกินไป คมของเลื่อยนั้นก็หลุ่ย ลื่น หรือใบเลื่อยนั้นหักเสียไป ต้องเปลี่ยนใบใหม่
    -ไม่กินข้าวเรือนผี เวลามีคนตาย ถ้าเราได้ไปช่วยงานนั้นและมีของขลังที่พกติดตัวมา(เพราะสมัยก่อนยังไม่มีโรงพัก ถนนหนทางยังไม่เจริญ อาจมีคนไม่หวังดีคอยดักซุ่มทำร้าย หรือสัตว์ร้ายต่างๆ หรืออุบัติภัยอื่นๆเมื่อเราเดินทางไป-กลับจากงานศพช่วงระหว่างทางได้) และเวลาที่เราจะกินอะไรทีก็ เราก็เอาออกมาจากชายคาของเรือนหลังนั้นเสีย เพื่อจะไม่ได้กินอยู่ในเรือนของผี หรือร่วมชายคาเดียวกัน ถ้าไม่ระวังของขลังนั้นก็อาจจะหลุ่ยไป ใช้ไม่ได้ผล
    [​IMG]
    -ไม่ลอดเครือกล้วย เพราะกล้วยนั้นอ่อน อาจจะทำให้ของขลังเสื่อม รวมทั้งไม้ค้ำกล้วยถ้าเราลอดไป มันเป็นรูปทรงสามเหลี่ยมเปรียบเหมือนกับอวัยวะเพศของผู้หญิง ก็จะทำให้ของขลังที่เราพกติดตัวไปนั้นเสื่อมได้
    -บางคนมีคาถาปิด-เปิดกระหม่อมเวลาจะลอดอะไร เอามือมาบัง เขาก็ว่าทำขนาดนั้นของที่รักษาอยู่ก็ยังไม่ขลังเลย ไม่เต็มร้อย มีพระสงฆ์รูปหนึ่งเรียนคาถามาเรียกว่ามีของ ท่านต้องไปพักอยู่ในป่าช้า ขนาดเครื่องบินจะผ่าน แกยังต้องหลบไม่ให้เครื่องบินผ่านศรีษะตนเอง เพื่อนพระมาเรียกถ้าเข้าส้วมอยู่แกจะไม่พูดเลย บ้วนน้ำลายลงโถส้วมก็ไม่ได้ แกบอกที่ระวังตัวขนาดนั้นก็เพื่อรักษาของ
    -ไม่ลอดราวผ้าซิ่น เพราะเป็นสิ่งที่ผู้หญิงใช่สวมใส่ และไม่รู้ว่าผืนไหนเปื้อนประจำเดือนหรือระดูมาบ้าง เพราะถือว่าเป็นของต่ำ ผู้หญิงบางคนเรียนคาถาเป่าแก้ปวดหัวดิบมา(ปวดหัวแบบไม่มีสาเหตุ ปวดปุ๊บปั๊บ) แต่เผลอสวมผ้าถุงเข้าทางศรีษะ คาถาที่เรียนมานั้นก็เสื่อมฤทธิ์ไป เวลาเป่ารักษาให้คนที่ปวดหัวดิบก็ไม่หาย อย่างนี้เป็นต้น มีเรื่องขบขันคือ สมัยโบราณเมียด่าให้ผัวซึ่งมีวิชาอาคม ว่าฝนตกใช้ให้ไปเก็บผ้าถุงหรือผ้าซิ่น ผัวกลัวไม่กล้าเก็บผ้าถุง แต่พกตกกลางคืน ผัวเอามือล้วงผ้าถุงเร็วนักไม่กลัวอะไรเลย!
    [​IMG][​IMG]รูปมะนาวแฝด เชื่อกันว่ามะนาวสามารถล้างอาถรรพณ์บางอย่างได้ สมัยโบราณบางคนเอามาให้ม้าดม จะได้ไม่กลัวเสือ ขนาดสุนัขแค่ได้กลิ่นเสือที่อยูกับกอหญ้าถึงกับเยี่ยวราด ร้องเสียงหลง วิ่งไม่ออกเลย
    -ประตูห้องครัวเปรียบเป็นประตูป่าช้า บางคนที่พกของขลังมาและถือเรื่องนี้จะไม่เดินผ่านเข้าไปในห้องครัวโดยเด็ดขาด เพราะกลัวของเสื่อม แม้แต่บ้านของตนเองก็ต้องถอดของนั้นออกไว้ก่อน บางคนจึงแยกห้องครัวไว้ด้านข้างของเรือน เพื่อไม่ให้ต้องเดินผ่านบ่อยๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กรกฎาคม 2014
  3. e20ehq

    e20ehq เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    334
    ค่าพลัง:
    +770
    สำหรับพระนิพพานนั้น ไม่มีข้อห้ามเหล่านี้เลย...
     
  4. พญายา

    พญายา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,265
    ค่าพลัง:
    +8,171
    ขอบคุณที่แสดงความคิดเห็น
     

แชร์หน้านี้

Loading...