เงินเฟ้อที่เพิ่มความรุนแรงขึ้นแล้ว??? รู้ทันโลก (โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย k.kwan, 11 พฤศจิกายน 2010.

  1. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,912
    ค่าพลัง:
    +7,320
    วันที่ 19 มีนาคม 2555 10:37
    5 สัญญาณ"สงครามอิหร่าน"ใกล้ปะทุ
    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
    [​IMG]
    เข็มนาฬิกาดูจะเคลื่อนเข้าใกล้โมงยามแห่งสงครามมากขึ้นทั้งท่าทีดื้อแพ่งของอิหร่านกรณีโครงการนิวเคลียร์ การแสดงออกของอิสราเอลที่พร้อมโจมตี

    ไม่ว่าสงครามใกล้จะปะทุ หรือเป็นการขยับที่ต้องการขู่อิหร่าน ฟอเร็กซ์ครันช์ดอทคอมรวบรวม 5 สัญญาณที่เพิ่มความตึงเครียดกรณีอิหร่านมากขึ้นในระยะนี้

    สัญญาณแรก ได้แก่ การที่องค์กรโซไซตี้ ฟอร์ เวิลด์ไวด์ อินเตอร์แบงก์ ไฟแนนเชียล เทเลคอมมูนิเคชั่น (SWIFT) หน่วยงานระหว่างประเทศที่เป็นตัวกลางทำธุรกรรมการเงินราว 80% ในโลก ตัดขาดสถาบันการเงินของอิหร่านออกจากระบบตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา (17 มี.ค.) การขยับครั้งนี้ส่งผลอย่างมากต่ออิหร่าน และเกิดขึ้นหลังจากสหภาพยุโรปประกาศคว่ำบาตรเด็กดื้อรายนี้

    สัญญาณที่ 2 เสียงส่วนใหญ่ในคณะรัฐมนตรีอิสราเอลเห็นพ้องให้โจมตีอิหร่าน โดยหนังสือพิมพ์อิสราเอล “มาริฟ” รายงานว่า ขณะนี้สมาชิกคณะรัฐมนตรี 8 ใน 14 คน สนับสนุนการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวกับนิวเคลียร์ในอิหร่าน ซึ่งคณะรัฐมนตรีเปิดไฟเขียวให้นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู เปิดฉากโจมตีอิหร่านเมื่อเห็นว่าเหมาะสม

    สัญญาณที่ 3 นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูเตรียมประกาศต่อสาธารณะ โดยเขามีท่าทีตอบโต้อิหร่านอย่างแข็งกร้าวหลังกลับจากเดินทางเยือนสหรัฐ ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า นี่เป็นการเตรียมพร้อมเพื่อประกาศต่อสาธารณะเกี่ยวกับสงคราม

    สัญญาณที่ 4 ระบายน้ำมันสำรองในคลังยุทธศาสตร์ แม้จะเป็นกระแสข่าวที่มีการออกมาปฏิเสธในภายหลัง ทว่าหากสหรัฐและอังกฤษตัดสินใจระบายน้ำมันจากคลังสำรองฉุกเฉิน เพื่อกระตุกราคาน้ำมันให้ลดลง นี่อาจหมายถึงการเตรียมพร้อม

    สัญญาณที่ 5 การเตือนครั้งสุดท้าย แหล่งข่าวชาวรัสเซียเปิดเผยว่า นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐ ได้ขอให้รัสเซียส่งข้อความไปถึงอิหร่านว่า การเจรจา 6 ฝ่ายที่กำลังจะมีขึ้น เป็นโอกาสสุดท้ายก่อนที่จะมีการดำเนินการทางทหาร

    ขณะที่ ราคาน้ำมันมีบทบาทสำคัญต่อการตัดสินใจในทุกๆ ด้าน เพราะอิหร่านเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับ 5 ของโลก และอยู่ติดช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งทางเรือที่มีสัดส่วนราว 40% ของทั้งโลก

    แต่นอกจากสัญญาณต่างๆ นี้จะสะท้อนถึงการเตรียมพร้อมเพื่อโจมตีอิหร่าน สิ่งเหล่านี้อาจเป็นการเพิ่มแรงกดดันต่ออิหร่าน ซึ่งเป็นความพยายามที่จะบีบให้ปฏิบัติตาม โดยไม่ต้องใช้มาตรการทางทหารจริงๆ

    http://www.bangkokbiznews.com/home/...319/442386/5-สัญญาณสงครามอิหร่านใกล้ปะทุ.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มีนาคม 2012
  2. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,912
    ค่าพลัง:
    +7,320
    วันที่ 19 มีนาคม 2555 08:34
    ศก.อิหร่านอาจล่มหลังถูกตัดขาดจากระบบการเงินโลก
    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
    [​IMG]
    อิสราเอลชี้เศรษฐกิจอิหร่านอาจล่มสลายหลังสวิฟท์ตัดขาดอิหร่านจากระบบการเงินโลก

    นายยูวัล สเตนนิซ รัฐมนตรีต่างประเทศ ของอิสราเอล กล่าวว่า การที่สมาคมการสื่อสารโทรคมนาคมทางการเงินระหว่างธนาคารทั่วโลก (สวิฟท์) ตัดขาดธนาคารอิหร่าน ที่ถูกขึ้นบัญชีดำออกจากระบบธุรกรรมการเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลกนั้น อาจจะส่งผลให้เศรษฐกิจอิหร่านล่มสลาย

    "เศรษฐกิจยุคใหม่ไม่สามารถขับเคลื่อนไปได้หากปราศจากระบบการชำระบัญชีระหว่างประเทศ การที่อิหร่านถูกตัดขาดจากสวิฟท์ จะส่งผลให้สถาบันการเงินของอิหร่านประสบความยากลำบากในการโอนเงินรายได้จากการขายน้ำมันไปยังต่างประเทศ" นายสเตนนิซกล่าวให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุกองทัพบกของอิสราเอล

    ทั้งนี้ สวิฟท์ ประกาศตัดขาดสถาบันการเงิน 30 แห่งของอิหร่าน ออกจากระบบธุรกรรมการเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลก เมื่อเสาร์ที่ผ่านมา ตามมาตรการคว่ำบาตรของสหภาพยุโรป (อียู) ขณะที่นายลาซาโร แคมปอส หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่บริหาร(ซีอีโอ)ของสวิฟท์ กล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวถือเป็นการคว่ำบาตรทางการเงินต่ออิหร่าน

    อย่างไรก็ตาม นายสเตนนิซ ยังไม่มั่นใจว่า การดำเนินการดังกล่าวจะสามารถยับยั้งอิหร่านจากการยกเลิกโครงการนิวเคลียร์ได้หรือไม่

    ขณะที่ นายเดวิด โคเฮน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ฝ่ายต่อต้านการก่อการร้ายและข่าวกรองการเงินของสหรัฐ กล่าวว่า การตัดสินใจของสวิฟท์ สะท้อนให้เห็นว่า นานาประเทศเห็นพ้องกันถึงความเป็นจำเป็นในการเพิ่มแรงกดดันเพื่อโน้มน้าวให้อิหร่านแก้ปัญหานิวเคลียร์ที่ผิดกฏหมายซึ่งเป็นประเด็นที่นานาประเทศวิตกกังวล

    อย่างไรก็ตาม อิหร่าน ยืนยันว่าโครงการนิวเคลียร์ มีจุดประสงค์ในทางสันติ แม้ชาติตะวันตกพยายามกดดันให้อิหร่านยุติการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมเพื่อคลายความสงสัยเกี่ยวกับเจตนาในการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่านก็ตาม

    http://www.bangkokbiznews.com/home/...ร่านอาจล่มหลังถูกตัดขาดจากระบบการเงินโลก.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มีนาคม 2012
  3. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,912
    ค่าพลัง:
    +7,320
    วันที่ 19 มีนาคม 2555 06:21
    กรีซเสนอสร้างเครือข่ายสินค้าเกษตร
    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
    [​IMG]
    ผู้นำกลุ่มเกษตรกรกรีซเสนอแนวคิดสร้างเครือข่ายจำหน่ายสินค้าเกษตรจากผู้ผลิตถึงมือผู้บริโภคโดยตรง ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง หวังพยุงฐานะเกษตรกร

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ผู้นำกลุ่มเกษตรกรในประเทศกรีซเสนอแนวคิดการสร้างเครือข่ายการกระจายสินค้าจากเกษตรกรถึงมือผุ้บรโภคโดยตรงเพื่อช่วยเหลือเกาตรกรในประเทศที่กำลังเผชิญปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง

    นายอีไลอัส โซลากิดิส ผู้นำกลุ่มเกษตรกรทางภาคเหนือของกรีซ และผู้อำนวยการสถาบันวิทยาศาสตร์การกีฬาในเมืองโคโลญจน์ ประเทศเยอรมนี นำเสนอแนวคิดการสร้างเครือข่ายสินค้าเกษตรจากผู้ผลิตถึงมือผู้บริโภคโดยตรง ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง ทั่วยุโรปที่เชื่อว่าจะทำให้ผู้ผลิตและผู้บริโภคได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย

    ก่อนหน้านี้ นายโซลากิดิสได้ชักชวนกลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตมันฝรั่งในเมืองเนฟโรโกปี เมืองชายแดนทางตอนเหนือของกรีซติดต่อกับบุลแกเรียเพื่อขายผลผลิตให้กับผู้บริโภคโดยตรง และ ได้ราคาสูงกว่าที่จำหน่ายผ่านพ่อค้าคนกลางถึง 1 เท่าตัว

    นายโซลากิดิส ระบุว่า มีอาสาสมัคร 96 คน ที่จะช่วยเกษตรกรให้เข้าถึงลุกค้าได้โดยตรง และ ระบุว่าผู้ผลิตข้าว และ น้ำมันมะกอกในกรีซให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการของตนเอง และกล่าวด้วยว่า ระบบดังกล่าวจะช่วยลดการถูกพ่อค้าคนกลางเอาเปรียบ และ ได้รับเงินค่าผลผลิตการเกษตรล่าช้า ซึ่งตนเองจะผลักดันให้เกิดเครือข่ายการนำเสนอสินค้าเกษตรโดยตรงถึงมือผู้บริโภคในประเทศยุโรปต่อไป

    http://www.bangkokbiznews.com/home/...442333/กรีซเสนอสร้างเครือข่ายสินค้าเกษตร.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มีนาคม 2012
  4. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,912
    ค่าพลัง:
    +7,320
    วันที่ 18 มีนาคม 2555 08:32
    "โอบามา"จี้รัฐสภาเลิกหนุนน้ำมันในประเทศ
    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    [​IMG]

    บารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐเรียกร้องรัฐสภาเลิกให้เงินอุดหนุนเพื่อแก้ปัญหาน้ำมันแพง

    ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ของสหรัฐ เรียกร้องรัฐสภาสหรัฐดำเนินการเพื่อยกเลิกมาตรการให้เงินอุดหนุนด้านภาษีแก่บริษัทน้ำมันในวงเงิน 4 พันล้านดอลลาร์ เพื่อแก้ปัญหาการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน ซึ่งส่งผลให้คะแนนความนิยมของเขาลดลง

    นายโอบามา กล่าวในรายการวิทยุและอินเตอร์เน็ตประจำสัปดาห์ว่า “ในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า ผมคาดว่ารัฐสภาจะลงมติสนับสนุนการยกเลิกการให้เงินอุดหนุน และในการดำเนินการดังกล่าว สมาชิกรัฐสภาแต่ละรายจะตัดสินใจว่า จะยืนหยัดเพื่อบริษัทน้ำมันหรือเพื่อชาวอเมริกัน"

    นอกจากนี้ นายโอบามา ยังเรียกร้องให้ผู้มีสิทธ์เลือกตั้งในสหรัฐ เขียนหรือโทรไปยังสมาชิกรัฐสภาของเขตเลือกตั้งของตน เพื่อสนับสนุนความพยายามของเขาในการยกเลิกการสนับสนุนบริษัทน้ำมันขนาดใหญ่ ซึ่งเขาระบุว่ากำลังทำกำไรได้สูงกว่าช่วงที่ผ่านๆมา

    แต่ผู้นำสหรัฐ ก็ยอมรับว่า ไม่มีวิธีแก้ปัญหาน้ำมันแพงได้อย่างรวดเร็ว สิ่งที่เขาทำก็เพื่อช่วยให้ครอบครัวอเมริกันประหยัดเงินในการซื้อน้ำมัน ซึ่งรวมไปถึงการลงนามปฏิรูปวอลล์สตรีท เพื่อป้องกันเทรดเดอร์ปั่นราคาในตลาดพลังงาน และการดำเนินการในเรื่องมาตรฐานเศรษฐกิจน้ำมันเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ซึ่งส่งผลให้รถยนต์ต่างๆ ประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า อีกทั้ง ยังย้ำถึงความจำเป็นในการในการพัฒนาแหล่งพลังงานทางเลือกเพื่อลดการพึ่งน้ำมันของสหรัฐลง โดยแสดงความคิดเห็นว่า สหรัฐใช้น้ำมันมากกว่า 20% ของทั่วโลกในขณะที่มีแหล่งน้ำมันสำรองเพียงแค่ 2% เท่านั้น

    ผลสำรวจล่าสุด บ่งชี้ว่า ราคาน้ำมันที่ถีบตัวสูงขึ้น ส่งผลให้อัตราการไม่เห็นด้วยกับนโยบายเศรษฐกิจของนายโอบามา พุ่งสูงถึง 50% ในขณะที่ 65% ไม่เห็นด้วยกับวิธีแก้ปัญหาราคาน้ำมันแพงของผู้นำสหรัฐผิวสีคนนี้

    http://www.bangkokbiznews.com/home/...70/โอบามาจี้รัฐสภาเลิกหนุนน้ำมันในประเทศ.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มีนาคม 2012
  5. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,912
    ค่าพลัง:
    +7,320
    วันที่ 17 มีนาคม 2555 20:51
    "โอบามา"เรียกร้องเลิกพึ่งพาน้ำมันต่างชาติ
    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
    [​IMG]

    ประธานาธิบดีสหรัฐเรียกร้องให้ชาวอเมริกันยุติการพึ่งพาพลังงานจากต่างชาติ

    ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ของสหรัฐ เรียกร้องวันนี้ ให้ชาวอเมริกัน ยุติการพึ่งพาแหล่งพลังงานจากต่างชาติ และยุติการให้เงินอุดหนุนบริษัทน้ำมันหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐในแต่ละปี

    ทั้งนี้ นายโอบามา กล่าวในรายการวิทยุและอินเตอร์เน็ตประจำสัปดาห์ว่า สิ่งที่ชาวอเมริกันไม่สามารถทำได้คือ ความต้องการพลังงานของชาวอเมริกัน ที่ต้องขึ้นอยู่กับประเทศอื่นๆ ซึ่งคำกล่าวของนายโอบามามีขึ้นขณะที่เขาเผชิญกับคำวิพากษ์วิจารณ์จากพรรครีพับลีกัน ที่ตำหนินโยบายพลังงานของเขาที่ทำให้ราคาน้ำมันในประเทศสูงขึ้น

    ขณะที่สมาคมยานยนต์อเมริกา (เอเอเอ)คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันทั่วสหรัฐจะอยู่ที่ 4.25 ดอลลาร์ต่อแกลลอน ภายในเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากราคา 3.83 ดอลลาร์ของวันนี้ และว่า ระหว่างปี 2541-2547 ราคาน้ำมันจะอยู่ระหว่าง 1-2 ดอลลาร์

    ถ้อยแถลงของโอบามา มีขึ้่นหลังจากนายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ กล่าวว่า ราคาน้ำมันที่ทะยานขึ้น แสดงให้เห็นว่า โลกยังคงเผชิญกับสถานะที่ไม่แน่นอน และตกอยู่ในอันตราย ทั้งยังระบุว่า ไม่มีหนทางที่ง่ายดาย และรวดเร็ว ที่จะทำให้ค้นราคาน้ำมันเบนซินลดลงมา

    นายไกธ์เนอร์ ระบุด้วยว่า ชาวอเมริกันต่างรู้สึกถึงผลกระทบที่เกิดจากราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น ซึ่งการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันในขณะนี้ ยิ่งเน้นให้เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องมีการเดินหน้ามากขึ้น ในการพัฒนาแหล่งพลังงานเพิ่มเติม ในทุกรูปแบบ และว่า ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น จากแรงกดดันในเรื่องอิหร่าน ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐ เผชิญกับความท้าทายเพิ่มมากขึ้น
    http://www.bangkokbiznews.com/home/.../โอบามาเรียกร้องเลิกพึ่งพาน้ำมันต่างชาติ.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มีนาคม 2012
  6. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,912
    ค่าพลัง:
    +7,320
    วันที่ 18 มีนาคม 2555 11:57
    ชาวลอนดอนนับพันประท้วงต้านผู้นำซีเรีย
    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
    [​IMG]
    ชาวลอนดอนร่วม 1 พันคนชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลอัซซาสในเมืองหลวงของอังกฤษ

    ที่กรุงลอนดอน เมืองหลวงของอังกฤษ มีประชาชนราว 1 พันคน ชุมนุมประท้วงที่หน้าสถานทูตซีเรีย เพื่อต่อต้านการปราบปรามอย่างนองเลือดของรัฐบาลอัซซาส โดยมีช่างภาพพอล คอนรอย ที่ได้รับบาดเจ็บจากการปราบปรามในเมืองฮอมส์ ที่ทำให้เพื่อนร่วมงานของเขา มารี โคลวิน เสียชีวิต ร่วมด้วย

    ทั้งนี้ คอนรอย ที่ยังคงต้องนั่งบนรถเข็น หลังจากที่บาดเจ็บ กล่าวว่า เขารู้สึกเสียใจที่ทั่วโลกมีปฏิกิริยาอย่างล่าช้า ต่อการปราบปรามอย่างนองเลือดของประธานาธิบดีอัซซาส และยังบอกกับกลุ่มผู้ประท้วงอีกว่า อังกฤษ ควรตัดความสัมพันธ์กับรัฐบาลซีเรีย รวมถึงผู้แทนจากซีเรีย พวกฆาตรกรเหล่านี้ ควรออกจากประเทศไปให้หมด และเขาหวังว่า โลกจะหันมามองวิกฤตที่เกิดขึ้น และร่วมแก้ไขให้ได้

    ทั้งนี้ สหประชาชาติ (ยูเอ็น)รายงานว่า การปราบปรามอย่างนองเลือดในซีเรียตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตจแล้วอย่างน้อย 8 พันราย

    http://www.bangkokbiznews.com/home/...85/ชาวลอนดอนนับพันประท้วงต้านผู้นำซีเรีย.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มีนาคม 2012
  7. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,912
    ค่าพลัง:
    +7,320
    วันที่ 19 มีนาคม 2555 15:01
    มอสซาด-ซีไอเอรู้อิหร่านไม่มีนุ๊ค
    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
    [​IMG]

    หน่วยข่าวกรองมอสสาดของอิสราเอลและซีไอเอของสหรัฐ รู้ดีว่าอิหร่านไม่มีอาวุธนิวเคลียร์

    หนังสือพิมพ์นิวยอร์ค ไทม์ส รายงานอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ข่าวกรองของสหรัฐว่า หน่วยข่าวกรองมอสสาด ของอิสราเอล ทราบดีเช่นเดียวกับสำนักข่าวกรองกลางของสหรัฐ (ซีไอเอ)ว่า ไม่มีข้อพิสูจน์ว่า อิหร่าน กำลังพัฒนาโครงการนิวเคลียร์

    เจ้าหน้าที่ซีไอเอ ซึ่งไม่เปิดเผยนาม ระบุว่า หน่วยมอสสาด เห็นด้วยกับสหรัฐ ในประเด็นโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ซึ่งความเห็นส่วนใหญ่ ของบรรดาหน่วยข่าวกรองสหรัฐ ออกมาในแนวทางเดียวกันว่า อิหร่านได้ยุติโครงการวิจัยอาวุธนิวเคลียร์ ไปตั้งแต่หลายปีก่อน แต่การยอมรับในเรื่องนี้แตกต่างอย่างสิ้นเชิง กับความเห็นของเหล่านักการเมืองอิสราเอล ที่ยังคงยืนกราน จะให้ใช้ปฏิบัติการทางทหารโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านโดยทันที เพื่อขัดขวางการคุกคามที่คงอยู่ของอิหร่านต่ออิสราเอล

    การประเมินผลด้านข่าวกรอง เป็นกุญแจสำคัญว่า สถานการณ์ที่ชะงักงันกับอิหร่าน จะลงเอยด้วยการเข้าสู่สงคราม หรือสันติภาพ หน่วยข่าวกรองของสหรัฐ พยายามค้นหาคำตอบมานานหลายปี เพื่อพยายามจะพิสูจน์ให้ได้ว่า อิหร่านกำลังพัฒนาหัวรบนิวเคลียร์ และขีปนาวุธเพื่อใช้ติดหัวรบ แต่ด้วยปัญหานานับประการ พบว่า อิหร่าน ได้ปิดโครงการนี้ไปตั้งแต่ปี 2546 และปัจจุบัน จากข้อมูลข่าวกรองเกี่ยวกับอิหร่าน ก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นแต่อย่างใด

    อิหร่าน เป็นเป้าหมายที่ยากที่สุดของการเก็บรวบรวมข่าวกรอง ยากยิ่งกว่าเกาหลีเหนือ และสหรัฐ อีกทั้งมีสายลับไม่มากพอ ที่จะส่งไปตรวจสอบข้อมูล มีรายงานเรื่องการใช้เซ็นเซอร์ ไปติดตั้งใกล้กับโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน เพื่อจับตาการเคลื่อนไหว แต่ในขณะที่แหล่งข่าวกรองวงในอาจจะยอมรับว่า อิหร่าน ยังห่างไกลการมีอาวุธนิวเคลียร์ ไว้ในครอบครอง การคว่ำบาตรอิหร่านยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไป โดยทั้งผู้นำอิสราเอลและสหรัฐ ต่างไม่ได้คิดจะใช้ไม้แข็งเล่นงานอิหร่าน ด้วยการใช้ปฏิบัติการทางทหารแก้ปัญหา เพื่อป้องกันประเทศจากความทะเยอทะยานทางนิวเคลียร์ของอิหร่าน ที่ยืนยัน มาตลอดว่า มีวัตถุประสงค์ในทางสันติและจะไม่ยอมรามือ

    http://www.bangkokbiznews.com/home/.../442459/มอสซาด-ซีไอเอรู้อิหร่านไม่มีนุ๊ค.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มีนาคม 2012
  8. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,912
    ค่าพลัง:
    +7,320
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=bSBEMNSO-I8&feature=bf_prev&list=UUpwvZwUam-URkxB7g4USKpg&lf=plcp]Life or Debt: 'Greece must escape bailout prison' - YouTube[/ame]

    อัปโหลดโดย RussiaToday เมื่อ 20 มี.ค. 2012
    The Greek Parliament is set to approve the country's new international bailout deal later today as more protests, against austerity measures in return for rescue funds, are planned. Athens received a second bailout this year. Combined with its first rescue package, the country stands to receive over 172 billion euros in loans from eurozone countries and the IMF. But Greece's creditors claim the country's most recent austerity measures could be 'accident prone'. Experts say the country may fail to lower its debt burden to the specified targets, later requiring more rescue loans. Greece is in its fifth year of recession, and many believe it needs to recover before debt reduction
     
  9. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,912
    ค่าพลัง:
    +7,320
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=bSBEMNSO-I8&feature=bf_prev&list=UUpwvZwUam-URkxB7g4USKpg&lf=plcp]Life or Debt: 'Greece must escape bailout prison' - YouTube[/ame]

    อัปโหลดโดย RussiaToday เมื่อ 20 มี.ค. 2012
    The Greek Parliament is set to approve the country's new international bailout deal later today as more protests, against austerity measures in return for rescue funds, are planned. Athens received a second bailout this year. Combined with its first rescue package, the country stands to receive over 172 billion euros in loans from eurozone countries and the IMF. But Greece's creditors claim the country's most recent austerity measures could be 'accident prone'. Experts say the country may fail to lower its debt burden to the specified targets, later requiring more rescue loans. Greece is in its fifth year of recession, and many believe it needs to recover before debt reduction
     
  10. nickybamby

    nickybamby เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +174
    ทำไมเนื้อหาข่าวที่ผมเห็นมันออกข้างจอจังเลยครับ อ่านยากมาก ใครเป็นบ้าง??
     
  11. เด็กแวนซ์

    เด็กแวนซ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    206
    ค่าพลัง:
    +35
    ิเห็นคราบน้ำตาแล้วสงบใจ เมื่อไหรโลกนี้จะมีสันติสุข
     
  12. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,912
    ค่าพลัง:
    +7,320
    วันที่ 26 มีนาคม 2555 08:15
    สเปนล้มเหลวคุมขาดดุลงบ
    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
    [​IMG]
    นายกฯอิตาลีเผย สเปนเสี่ยงจุดชนวนวิกฤตหนี้ยุโรปรอบใหม่ เพราะไม่สามารถคุมการขาดดุลงบประมาณได้

    นายมาริโอ มอนติ นายกรัฐมนตรีอิตาลี กล่าวว่า สเปนอาจจะจุดชนวนทำให้เกิดวิกฤตหนี้ยุโรประลอกใหม่ เนื่องจากสเปน กำลังเผชิญกับอุปสรรคในการควบคุมยอดขาดดุลการคลัง

    การแสดงความคิดเห็นของนายมอนติ มีขึ้นก่อนที่รัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซน จะจัดประชุมร่วมกันที่เมืองโคเปนเฮเกน ในวันที่ 30 มี.ค.นี้ โดยที่ประชุม จะหารือกันเกี่ยวกับการเพิ่มศักยภาพด้านการปล่อยเงินกู้ของกองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป ซึ่งปัจจันมีวงเงิน 5 แสนล้านยูโร หรือ 6.64 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ

    ทั้งนี้ รัฐบาลสเปน แสดงความกังวลว่า อาจจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการยอดขาดดุลในปีนี้ได้ หลังจากที่รัฐบาล รายงานยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่พุ่งขึ้นอย่างมากในเดือนที่ผ่านมา

    ขณะเดียวกัน ก็มีกระแสคาดการณ์รอบใหม่ว่า ผลผลิตด้านเศรษฐกิจของสเปนจะลดลง 1.7% ในปีนี้ ซึ่งหนักกว่าที่อียูคาดการณ์ไว้ที่ 1% และร่วงแรงกว่าที่ทางการสเปนคาดการณ์ไว้ในระดับ 1.5% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งภาวะเช่นนี้สุ่มเสี่ยงต่อการคว่ำบาตรจากสหภาพยุโรป (อียู)

    ยอดขาดดุลรัฐบาลสเปนจะพุ่งสู่ระดับ 5.8% ของผลผลิตในประเทศในปีนี้ ซึ่งสูงกว่าที่สเปนให้คำมั่นต่อ 27 ประเทศของสหภาพยุโรป (อียู) ว่าจะควบคุมตัวเลขขาดดุลไว้ที่ 4.4%

    อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสเปน ยังคงตั้งเป้าปรับลดยอดขาดดุลให้มาอยู่ที่ 3% ในปี 2556 เพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับด้านการคลังของอียู

    อัตราว่างงานในสเปน พุ่งขึ้นอย่างมาก โดยมียอดคนตกงานมากที่สุดในภาคอุตสาหกรรมบริการ โดยกระทรวงแรงงานของสเปนเปิดเผยว่าในเดือนก.พ.มีจำนวนผู้ตกงานเพิ่มขึ้น 112,269 คนส่งผลให้สเปนมียอดผู้ตกงานอย่างเป็นทางการรวมทั้งสิ้นที่ 4,712,098 คนและทำสถิติมีจำนวนคนว่างงานเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน
    http://www.bangkokbiznews.com/home/...n/20120326/443619/สเปนล้มเหลวคุมขาดดุลงบ.html
     
  13. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,912
    ค่าพลัง:
    +7,320
    แก้ไขให้แล้วค่ะ
     
  14. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,912
    ค่าพลัง:
    +7,320
  15. kountee

    kountee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    117
    ค่าพลัง:
    +166
    ยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป (ตราบจนมีคำว่า"หลบหน่อยพระเอกมา")ประเทศไทยเป็นแบบนี้มานานมากแล้ว นับตั้งมีระบอบประชาธิปไตยและเปลี่ยนคำว่า ประเทศสยามมาเป็นประเทศไทยจนลืมรากเหง้าและสันดาษความเป็นสยามไป (ประชาธิปไตย..ดีจริงหรือในสังคมไทย) ต่างคนต่างแบ่งก๊ก เหล่า แย่งชิ่งสิ่งนี้มาโดยที่พวกเรียกมันว่า อำนาจ มีอำนาจย่อมกำหนดได้ทุกสิ่ง ไล่ตั้งแต่ระดับประเทศจะหันซ้าย หันขวาสั่งได้หมด เงินตราไหลมาไม่มีวันหมดใครกอบโกยได้จังหวะดีกลายเป็นเศษฐีเพียงไม่กี่อึดใจ ส่วนประชาชนส่วนใหญ่โดน ปิดตา หู จมูก ลิ้น กายใจ ไม่มีสิทธิที่จะมองเห็นความจริงว่าความเป็นมาของสิ่งทึี่เกิดในปัจจุบันและต้นตอเกิดมาจากสาเหตุใด ไม่มีแม้แต่มองต่าง มองนอกกรอบ ออกความคิดเห็นที่ผิดหูผิดตาเหล่าหัวโจกจนคนดีๆเหล่านี้ต้องอยู่แบบสงบ เจียมตัว ส่วนนายทุนรายใหญ่อยู่แบบราชา นำเงินมาทำบุญที่มาจากคนอยากจน และระดับกลางมาเป็นเครื่องป้องตัวแบบ Auto เห็นตามข่าวโครงการโน้นนี้ ผ่านจอทีวีแล้วสงสารประเทศ ถึงผมจะไม่รู้ว่าอะไรทำให้เป็นแบบนี้แต่ผมก็รู้ว่าประเทศไทยเป็นแบบนี้เพราะอะไร (ผมไม่ขอกล่าว) สุดท้ายผมขอกล่าวอีกนิดว่าผมเริ่มเบื่อกับระบอบประชาธิปที่ตั้งขึ้นเพียงแค่ให้ประเทศมหาอำนาจยอมรับว่า เราชาวสยามเป็นผู้พัฒนาแล้ว (จริงหรือ?)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2012
  16. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,912
    ค่าพลัง:
    +7,320
    วันที่ 27 มีนาคม 2555 06:24
    "บิล กรอส" คาดประชุมเดือนหน้าเฟดใช้คิวอี3
    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์


    [​IMG]


    "บิล กรอส" คาดการณ์เฟดส่งสัญญาณใช้มาตรการคิวอี 3 ในการประชุมเดือนหน้า

    นายบิล กรอส ประธานบริหารแปซิฟิก อินเวสเมนท์ แมเนจเมนท์ (พิมโค) ซึ่งเป็นบริษัทจัดการกองทุนพันธบัตรรายใหญ่สุดของโลก แสดงความเห็นผ่านทวิตเตอร์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะส่งสัญญาณการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 3 (คิวอี3) ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในเดือนเม.ย.นี้

    การแสดงความคิดเห็นของนายกรอส มีขึ้นหลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด ได้ปรับลดแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐในการประชุมเมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา พร้อมกับยืนยันว่า จะตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น ไว้ที่ระดับต่ำเป็นพิเศษไปอย่างน้อยจนถึงปลายปี 2557

    นอกจากนี้ การแสดงความคิดของนายกรอส ยังสอดคล้องกับที่หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานก่อนหน้านี้ว่า เฟดกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาเรื่องการใช้มาตรการคิวอี3 แต่เป็นการดำเนินการในรูปแบบที่แตกต่างไปจากมาตรการคิวอี1 และคิวอี 2

    ทั้งนี้ วอลล์สตรีท เจอร์นัล ระบุว่า เฟด อยู่ระหว่างเตรียมการเพื่อขยายขอบเขตการใช้มาตรการโอปะเรชั่น ทวิสต์ หรือการขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะสั้น เพื่อซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะยาวในปริมาณที่เท่ากัน

    อย่างไรก็ตาม พิมโค ได้ปรับลดสัดส่วนการถือครองพันธบัตรรัฐบาลของสหรัฐในเดือนก.พ.ลงเหลือ 37% ของสินทรัพย์ทั้งหมด จากเดือนม.ค.ที่ระดับ 38% ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปีที่พิมโคปรับลดการถือครองพันธบัตรสหรัฐ

    http://www.bangkokbiznews.com/home/...8/บิล-กรอส-คาดประชุมเดือนหน้าเฟดใช้คิวอี3.htm
     
  17. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,912
    ค่าพลัง:
    +7,320
    วันที่ 27 มีนาคม 2555 06:19
    ดัชนีสัญญาซื้อบ้านสหรัฐหดตัวมากกว่าคาด
    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    [​IMG]

    สหรัฐเผยดัชนีการทำสัญญาซื้อบ้านหดตัวลงเหนือความคาดหมาย

    สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ เผยว่า ดัชนีการทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย เดือนก.พ. ร่วงลง 0.5% มาอยู่ที่ 96.5 ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือนก.พ. หลังจากเพิ่มขึ้น 2.0% ในเดือนม.ค.

    การร่วงลงอย่างเหนือความคาดหมายของดัชนีการทำสัญญาซื้อบ้าน สะท้อนให้เห็นว่า ยอดขายบ้านของสหรัฐยังคงหดตัวลง ในขณะที่ตลาดที่อยู่อาศัย ยังคงต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งกว่าจะฟื้นตัวขึ้น อีกทั้ง รายงานล่าสุด ของสมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์ ยังออกมาสอดคล้องกับที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.พ.ปรับตัวลดลง 1.6% แตะที่ 313,000 ยูนิต ขณะที่ยอดขายในเดือนม.ค.ถูกปรับลดลงสู่ระดับ 318,000 ยูนิต จากก่อนหน้านี้ที่ 321,000 ยูนิต ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่ายอดขายบ้านใหม่จะอยู่ที่ 325,000 ยูนิต

    รายงานยอดขายบ้านใหม่ ที่ลดลง สร้างความผิดหวังให้กับตลาดการเงินในสัปดาห์ที่แล้ว โดยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านลดลง 1.1% ในเดือนก.พ. มาอยู่ที่ 698,000 ยูนิต เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ส่วนใหญ่ของนักวิเคราะห์ที่ว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 700,000 ยูนิต แม้ว่าข้อมูลการขออนุญาตก่อสร้างที่พุ่งขึ้น 5.1% ในเดือนดังกล่าว

    http://www.bangkokbiznews.com/home/...7/ดัชนีสัญญาซื้อบ้านสหรัฐหดตัวมากกว่าคาด.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2012
  18. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,912
    ค่าพลัง:
    +7,320
    เปิดหลักฐานปล้นประเทศไทย <O:p</O:p

    ไทยส่งออกน้ำมันไปที่อเมริกา <O:p</O:p

    ตัวเลขจากรายงานระบุว่า ผลประโยชน์ที่แบ่งกันตามจริง <O:p</O:p

    บริษัทขุดได้71.2% รัฐบาลไทยได้ 28.9%<O:p</O:p

    รัฐบาลไทยใจดีมาก? กลัว เชฟร่อน+ยูโนแคล ไม่รวย!!! <O:p</O:p

    รัฐบาลและข้าราชการไทย ไม่เห็นใจคนไทยต้องใช้น้ำมันแพงเกินจริง?<O:p</O:p

    คนไทยได้ผลประโยชน์จากบ่อก๊าซและน้ำมันน้อยกว่าที่พม่าและกัมพูชา<O:p</O:p

    ให้กับบริษัทสัมปทานน้ำมันต่างชาติ รัฐบาลไทยโง่กว่ารัฐบาลพม่าและกัมพูชาอีก?<O:p</O:p

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=rYBO0MjyIwg&feature=share"]เปิดหลักฐานปล้นประเทศไทย - YouTube[/ame]

    พลังงานไทย... พลังงานใคร? ทำไมเราต้องจ่ายค่าน้ำมัน...แพ๊งแพง ใครงาบหัวคิว?
    ฉบับ PDF ไปดาวน์โหลด หรือจะส่งไปให้ใครอ่านต่อ ลิงค์ที่นี้
    http://www.thaingo.org/story/energy_thailand.pdf
    <O:p</O:p

    โอ้ว....แม่เจ้า...ประเทศไทยส่งออกน้ำมันมากกว่าข้าวอีก!!!!<O:p</O:p

    โดย:วสิษฐ เดชกุญชร: ใครทำให้คนไทยต้องซื้อน้ำมัน(และก๊าซ)แพง?

    ผมมีกรรมเหมือนท่านผู้อ่านทั้งหลายอยู่อย่างหนึ่ง คือจำเป็นต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ไม่ว่าราคามันจะสูงเพียงใด เวลาได้ยินประกาศทางวิทยุกระจายเสียงหรือวิทยุโทรทัศน์ว่าวันพรุ่งนี้ราคา น้ำมันรถยนต์จะสูงขึ้นไปอีกลิตรละ 50 สตางค์หรือ1 บาท ถ้ายังมีเวลาและทำได้ก็จะบอกคนขับรถให้
    แวะสถานีบริการแล้วเติมน้ำมันให้เต็มถัง ทั้งๆ ที่รู้ว่าเกือบจะไม่มีประโยชน์อะไร หลายครั้งที่ทำอะไรไม่ได้เลย เพราะได้ยินประกาศช้าเกินไป หรือมิฉะนั้นก็อยู่ในกาละหรือเทศะที่ไม่สามารถจะทำอะไรได้
    ในระยะหลังมานี้ ราคาน้ำมันสูงขึ้นทีละ 1 บาทต่อลิตร และขึ้นแล้วไม่มีทีท่าว่าจะลง ผมรู้สึกว่าผิดสังเกต แต่ก็ต้องยอมรับเอาโดยดุษณีอย่างเคย คิดเสียว่าจะทำยังไงได้ เมื่อเราต้องซื้อน้ำมันจากต่างประเทศมากลั่น ไม่เหมือนกับประเทศอย่างในตะวันออกกลาง ที่เขามีบ่อน้ำมันขุดขึ้นมาเองและกลั่นใช้เอง น้ำมันของเขาก็ย่อมถูกกว่าเราเป็นธรรมดา
    จนกระทั่งเมื่อ 2-3 วันมานี้เอง เพื่อนส่งเอกสารฉบับหนึ่งมาให้ทางอีเมล์และได้เปิดอ่านดูจึงรู้ว่าที่แล้วมา ผมโง่ไปถนัด ก้มหน้าอ่านไปจนจบแล้วก็จึงรู้ว่าไม่ได้โง่เฉยๆ แต่โง่อย่างยิ่ง จนเกือบเหมือนปัญญาอ่อน คงเหมือนผู้หญิงที่ถูกข่มขืนแล้วไม่รู้ว่าถูกข่มขืน
    เอกสารฉบับนี้ชื่อ "พลังงานไทย...พลังงานใคร?"เป็นผลงานของคณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการ ทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา คณะกรรมาธิการนั้นได้ศึกษาวิเคราะห์และวิจัยเรื่องเกี่ยวกับพลังงานโดยเฉพาะ น้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซ จากแง่ของธรรมาภิบาล (คือความสุจริตและโปร่งใส) ผมไม่ทราบว่าคณะกรรมาธิการเริ่มและจบการศึกษาวิเคราะห์และวิจัยเมื่อใด แต่ทราบจากเอกสารฉบับนั้นว่าจัดพิมพ์ครั้งแรกเมื่อเดือนกรกฎาคมพ.ศ.2552 และฉบับที่เพื่อนส่งมาให้ผมนั้นเป็นฉบับปรับปรุงแก้ไขข้อมูล และพิมพ์เป็นครั้งที่ 3 ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2553 หรือเมื่อสองปีที่แล้วมานี้
    เอกสารฉบับนี้เป็นฉบับย่อ แต่ก็มีความยาวถึง28 หน้า ส่วนฉบับพิสดารหรือสมบูรณ์นั้น ยาวถึง147 หน้า เพราะฉะนั้นผมจึงไม่สามารถจะถ่ายทอดมาให้อ่านกันในหน้านี้ได้มากนัก จะขอย่อยเอาเฉพาะบางประเด็นที่สำคัญ ที่ทำให้ผมรู้ว่าตัวเองโง่ มาให้อ่านกัน
    ประเด็นแรกคือ เรา (เมืองไทย) ไม่ได้สิ้นไร้ไม้ตอกและต้องซื้อน้ำมันจากแขกขาวหรือแขกดำที่ไหนอย่างที่ผม เข้าใจดอกครับ เอกสารของวุฒิสภาฉบับนี้เปิดเผยว่า เมืองไทยมีแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์กระจายอยู่ทั่วประเทศ และยังพบมากขึ้นทุกปีทั้งบนบกและในทะเล (เมื่อไม่กี่วันมานี้คุณคำนูณ สิทธิสมานสมาชิกวุฒิสภา ก็เพิ่งจะเปิดเผยหรือเปิดโปงว่า มีผู้พบน้ำมันและแอบได้สัมปทานเพื่อผลิตไปแล้ว อยู่แถวๆ ถนนพุทธมณฑลสาย 2 ในกรุงเทพมหานครนี่เอง) เราสามารถผลิตน้ำมันได้เองมานานแล้ว ในปี 2551 ปีเดียว เราขุดน้ำมันได้ถึงประมาณ 115 ล้านลิตรต่อวัน ปริมาณการผลิตน้ำมันของไทยนั้นเท่ากับ 3 ใน 4 ของประเทศเอกวาดอร์ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศสมาชิกของกลุ่มโอเปก
    ประเด็นที่สองที่ผมเคยโง่และไม่รู้จริงๆ จนกระทั่งได้อ่านเอกสารฉบับนี้ของวุฒิสภาก็คือ เราไม่ได้ซื้อน้ำมันจากสิงคโปร์เอามากลั่น ตรงกันข้ามเราส่งน้ำมันไทยออกไปขายต่างประเทศเสียด้วยซ้ำไป ปริมาณน้ำมันที่ส่งออกสูงกว่าปริมาณข้าวเฉพาะในปี 2551 เราขายน้ำมันให้ต่างประเทศได้กว่า 3 แสนล้านบาท ในขณะที่ขายข้าวได้เพียง 2 แสนล้านบาท!
    เมื่อขุดน้ำมันส่งออกไปขายได้ เราก็ควรจะซื้อน้ำมันได้ในราคาที่ถูกกว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้ แต่ที่เราต้องซื้อแพงในราคาแพงเหมือนกับว่าน้ำมันนำเข้ามาจากสิงคโปร์ ก็เพราะกระทรวงพลังงาน (ก็คือรัฐบาลนั่นแหละ) ตั้งราคาไว้อย่างนั้น เหตุผลหรือครับ?
    เพื่อเป็นแรงจูงใจให้โรงกลั่นน้ำมัน เพื่อรักษาความมั่นคงทางพลังงานให้กับคนไทย
    โอ้โฮเฮะ! เพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่า ที่ผมต้องควักกระเป๋าจ่ายค่าน้ำมันรถยนต์ไปทีละเกือบ 2 พันบาทต่อน้ำมันถังหนึ่งนั้น ผมได้ทำวีรกรรมรักษาความมั่นคงทางพลังงานให้คนไทย
    คนไทยคนไหนครับ? คนไทยที่ถือหุ้นของ บมจ.ปตท. หรือบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) น่ะแน่นอนอยู่แล้ว แต่ที่ผมไม่รู้มาก่อน เพิ่งมารู้จากเอกสารของวุฒิสภาฉบับนี้ก็คือ มีคนไทยอีกคณะหนึ่งที่เรียกว่า "คณะกรรมการ บมจ.ปตท."ซึ่งได้รับความมั่นคงอย่างแน่นหนาและแน่นอนด้วยเหมือนกัน คณะกรรมการชุดนี้ เมื่อ พ.ศ.2551 มีจำนวน 14 คน มีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่สังกัดต่างๆเป็นกรรมการโดยตำแหน่งและมีกรรมการอิสระ ด้วย เฉพาะประธานกรรมการซึ่งเป็นรองปลัดกระทรวงพลังงานนั้น ได้รับโบนัส (จ่ายจริง) เมื่อต้นเดือนมกราคม 2552 เป็นเงินกว่า 2 ล้าน 2 แสนบาท กับเบี้ยประชุมอีก 7 แสน 7 หมื่นบาทกรรมการอื่นๆ จะได้มากน้อยเพียงใดก็คงจะพอเดาได้นะครับ แต่สำหรับกรรมการผู้จัดการใหญ่นั้นได้รับโบนัสกว่า 1 ล้าน 7 แสนบาท และค่าเบี้ยประชุม 6 แสน 2 หมื่นบาท
    ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่ไปนั่งเป็นกรรมการนั้นโดยทฤษฎีเป็นตัวแทนของรัฐบาล ซึ่งน่าจะสามารถช่วยกำหนดนโยบายและกำกับดูแลให้ประชาชนผู้ซื้อน้ำมันจาก ปตท.ได้ประโยชน์อย่างเป็นธรรม
    แต่เมื่อแต่ละคนได้ทั้งโบนัสและเบี้ยประชุมกันปีละเป็นล้าน จะมีแรงพอที่จะนึกถึงและหันมาดูประโยชน์ของประชาชนสักแค่ไหน
    หันไปดูก๊าซก็จะเห็นภาพที่น่าตื่นเต้นไม่แพ้น้ำมัน เพราะการแปรรูปการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยมาเป็นบริษัทมหาชนเมื่อเดือน ธันวาคม 2544 นั้น ทำให้ บมจ.ปตท.สามารถเข้าไปผูกขาดธุรกิจแยกก๊าซและธุรกิจขนส่งก๊าซธรรมชาติ แล้วมิหนำยังได้ประโยชน์จากทรัพย์สินที่ถูกโอนไปจากภาครัฐในราคาถูกอีกด้วย ที่สำคัญก็คือท่อขนส่งก๊าซธรรมชาติซึ่งสร้างด้วยเงินภาษีของคนไทย (ครับ ของท่านผู้อ่านและของผมด้วย)ท่อขนส่งก๊าซธรรมชาตินี้ คณะรัฐมนตรีมีมติไว้ว่าปตท.จะต้องคืนให้ภายใน 1 ปี แต่ ปตท.ก็ไม่ยอมคืน จนกระทั่งภาคประชาชนต้องยื่นฟ้องต่อศาลปกครองในปี 2549 และศาลพิพากษาในปี2550 ให้ ปตท.คืนทรัพย์สินที่ได้ไปให้แก่กระทรวงการคลัง
    ในระหว่างที่ยังไม่คืนนั้น ปตท.มีรายได้จากค่าผ่านท่อ 22,000 ล้านบาท แต่พอศาลพิพากษาให้คืนปตท.ก็จ่ายคืนเพียง 1,335 ล้านบาท
    โดยเนื้อที่ของหน้ากระดาษ ผมคงเขียนได้เพียงเท่านี้ แต่ผมยังไม่หายเจ็บใจครับ ขอเขียนต่ออีกในวันอังคารหน้า

    ที่มา:ดูที่นี่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มีนาคม 2012
  19. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,912
    ค่าพลัง:
    +7,320
    กระชากหน้ากากปตท. พลังงานเพื่อใคร?
    กองบรรณาธิการ Positioning Magazine กรกฎาคม 2551
    [​IMG]

    สโลแกนที่ว่า “ปตท. พลังงานไทยเพื่อไทย” อาจต้องเปลี่ยนเป็น “ปตท. พลังงานเพื่อใคร? เมื่อคนไทยกำลังต้องเดือดร้อนจากราคาน้ำมันแพงกันถ้วนหน้า แต่บิ๊กใน ปตท. กลับร่ำรวยกันถ้วนหน้า / ใครคือเจ้าของตัวจริงกันแน่ / ที่มาของสูตรราคาหายนะมาจากไหน ทำไมต้องอิงตลาดสิงคโปร์ / ทักษิณ ชินวัตร - ปตท. - ธุรกิจพลังงาน - เขาพระวิหาร และเกาะกง จึงเป็นเรื่องเดียวกัน ทั้งหมดนี้...เรามีคำตอบ

    “ต้นทุน” ชีวิตของคนไทยพุ่งขึ้นตลอดช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา มีสาเหตุชัดเจนมาจาก ปัญหา “ราคาน้ำมันแพงกระฉูด” ชนิดหยุดไม่อยู่

    แต่ไม่สำคัญเท่ากับว่า ขณะที่ประชาชนคนไทยส่วนใหญ่เดือดร้อนอย่างหนัก และบริษัทส่วนใหญ่ต่างต้องเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจจากราคาน้ำมันแพง ภาวะเงินเฟ้อ ปตท. ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจด้านพลังงานที่เคยเป็นความหวังของคนไทย กลับเติบโตสวนวิกฤต ยิ่งคนไทยต้องจ่ายแพงน้ำมันมากขึ้นเท่าไหร่ “ตัวเลขกำไร” ปตท. ยิ่งเพิ่มมากขึ้นทุกไตรมาสในทุกปี

    ผู้ใช้น้ำมันเบนซิน 91 สำหรับรถยนต์ เคยจ่ายลิตรละ 12.99 บาท เมื่อ 6 มกราคม 2543 ผ่านมาไม่กี่ปี วันที่ 15 มิถุนายน 2551 ต้องจ่าย 40.99 บาท น้ำมันดีเซลที่เคยจ่าย 11.02 บาท มาวันนี้ต้องจ่าย 41.84 บาท เพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่า สูงกว่าเบนซินอย่างไม่ไม่น่าจะเป็นไปได้ โดยเฉพาะดีเซล ซึ่งเป็นน้ำมันที่ใช้ในรถปิกอัพสำหรับขนส่ง จึงเดือดร้อนกันถ้วนหน้า กระทบไปทั้งภาคธุรกิจ ขนส่ง อุตสาหกรรม ประชาชนทั่วไป ที่ต้องแบกรับต้นทุนน้ำมันเพิ่มขึ้น จนต้องขึ้นค่าขนส่งและราคาสินค้า ไม่เว้นแม้แต่ “มาม่า”

    การผูกขาดธุรกิจพลังงานอย่างครบวงจร ยังทำให้เกิดสิ่งที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในรอบ 10 ปี คือการต่อคิวเพื่อเติม “ก๊าซ LPG” (Liquefied Petroleum Gas) หลังจากรัฐบาลประกาศเตรียมลอยตัวราคาแอลพีจีที่ใช้กับรถยนต์ และราคาก๊าซแอลพีจีในตลาดโลกสูงกว่าในไทย

    ภาวะความวุ่นวายในกลุ่มผู้ค้าและลูกค้าของ “LPG” เป็นสัญญาณเตือนสำหรับลูกค้า NGV (Natural Gas for Vehicles) ของ ปตท. ในอนาคต อาจต้องประสบกับเหตุการณ์นี้เช่นกัน เพราะ NGV เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ ปตท. ผูกขาด ทั้งการผลิต และเป็นเจ้าของปั๊มทั้งหมด ที่สำคัญยังโยงใยกับทุนการเมืองในเครือข่ายของ “ทักษิณ”

    ในทางตรงกันข้าม ขณะที่ชาวบ้านกำลังเดือดร้อน แต่บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ที่กำลังขึ้นปีที่ 30 กลับมีรายได้ กำไร และเงินปันผลสูง จนหุ้น ปตท. ในตลาดหลักทรัพย์ฯ มีมูลค่าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง (ดูตารางประกอบ) ตลอดเกือบ 6 ปี่ผ่านมา มีผู้ที่เคยได้หุ้นไอพีโอ และซื้อขายหุ้น ปตท. ในตลาดหลักทรัพย์ฯ รับกำไรมาแล้วหลายรอบ จนมีการคาดการณ์จากบรรดานักวิเคราะห์ว่าราคาหุ้นเป้าหมายของ ปตท. ในปี 2551 ทะลุ 400 บาทอย่างแน่นอน

    ด้านผลประกอบการ ปี 2540-2544 ปตท. มีกำไรปีละประมาณ 22,000 ล้านบาท แต่หลังจากเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ 3 ปี ในปี 2547 ปตท. มีรายได้ 680,650.03 ล้านบาท หรือเกือบ 7 แสนล้านบาท กำไรสุทธิ 62,666.47 ล้านบาท สิ้นปี 2550 รายได้เพิ่มขึ้นกว่า 150% อยู่ที่ 1,553,053.06 ล้านบาท หรือกว่า 1.5 ล้านล้านบาท พอๆ กับงบประมาณรายจ่ายประจำปีของประเทศ และกำไรเกือบ 1 แสนล้านบาท หรือที่ 97,803.59 ล้านบาท ผู้ถือหุ้นเพิ่งได้รับปันผลล่าสุดหุ้นละ 11.50 บาท ซึ่งเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ปันผลสูงสุดรวมถึง 32,000 ล้านบาท

    ตัวเลขกำไรของบริษัท เป็นสิ่งธรรมดาของธุรกิจ โดยเฉพาะบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องทำตัวเลขให้มากที่สุดเพื่อผู้ถือหุ้น

    แต่เป็นเรื่องไม่ธรรมดาที่กำไรเหล่านั้นมาจากการคำนวณ เพื่อนำไปสู่ตัวเลขกำไรสูงสุด ทำให้คนทั้งประเทศเดือดร้อน ยิ่งไม่ธรรมดาเมื่อผู้บริหาร ปตท. ร่ำรวยทั้งจากหุ้น เงินเดือน และโบนัสในแต่ละปี โดยเป็นผู้บริหารกลุ่มเดียวที่มีตำแหน่ง หัวโขน ทั้งเป็นผู้กำกับดูแลกิจการ และราคาพลังงานของประเทศ มาเป็นบอร์ดของ ปตท.

    ปตท. ยังผูกขาดธุรกิจก๊าซ ทั้ง NGV และ LPG โดยพร้อมทุ่มลงทุนเต็มที่ 5 ปีนับจากนี้ ด้วยงบกว่า 1.7 แสนล้านบาท และยังออกแรงดันเต็มที่กับ “ไบโอดีเซล” และ “เอทานอล” ไม่ว่าจะเป็น E20 และ E85 ที่ ปตท. มีสิทธิผูกขาดรับซื้อจากผู้ผลิตแอลกอฮอล์เพียงรายเดียว โดยมีกลุ่มทุนขนาดใหญ่ทั้งค่ายซีพี และค่ายแอลกอฮอล์ยักษ์ใหญ่อย่างไทยเบฟเวอเรจ เบียร์ช้าง, ตระกูลภิรมย์ภักดี ร่วมกับบุคคลและธุรกิจในเครือข่ายของอดีตนายกรัฐมนตรี อย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และค่ายน้ำตาลมิตรผล และเทมาเส็ก ทุนจากสิงคโปร์ก็พร้อมโดดเข้ามาตลาดนี้เต็มที่

    ความหอมหวานของธุรกิจพลังงานยังเกี่ยวเนื่องโดยตรงกับสาเหตุที่ไทยต้องเสียดินแดนเขาพระวิหารเพื่อแลกกับเกาะกง ที่เชื่อกันว่าเป็นพลังงานแหล่งใหม่ในเขมร ที่ผู้นำเขมรออกมายอมรับว่าพ.ต.ท.ทักษิณพร้อมเข้าไปลงทุนธุรกิจพลังงานในเขมร

    มีการเปิดโปงข้อมูลว่า การซื้อเกาะกงของทักษิณ ทำในนาม “นิติบุคคล” หาใช่ในนามของรัฐ นั่นหมายความว่า นิติบุคคล หรือบริษัทที่ทักษิณจัดตั้งขึ้น จะได้รับการยกเว้นภาษี เนื่องจากเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ รายได้ไม่เข้ารัฐ

    เกาะกง ยังได้รับสิทธิ์เป็นเขตปกครองพิเศษ นอกเหนืออธิปไตยของไทย ย่อมหมายถึงว่า นิติบุคคลที่ทักษิณเป็นเจ้าของจะมีอำนาจอย่างเต็มขั้น โดยไม่ต้องอยู่ภายใต้กติกาของใคร

    สิ่งที่ทักษิณมุ่งหวังตลอดเวลา คือ การสร้าง “การเมืองใหม่” ต้องใช้ทุนมหาศาล เป็นการเมืองที่อิงกับทุนนิยม คนมีเงินคือผู้มีอำนาจ รายได้จากธุรกิจพลังงานจะทำให้ความหวังเป็นจริง

    นั่นคือ ปริศนาว่า ทำไม ปตท. – ทักษิณ – เกาะกง – เขมร จึงเป็น จิ๊กซอว์ ที่ต่อเชื่อมกันอย่างแยกไม่ออก

    เป็นทฤษฎีทำลายล้างที่บ่งบอกว่า แท้ที่จริงแล้ว ปตท. เป็นแหล่งพลังงานเพื่อใคร ?

    แม้จะมีคำถามมากมายกับธุรกิจพลังงาน และ “ปตท.” แต่ก็ต้องยอมรับว่า “ปตท.” สามารถสร้างภาพลักษณ์จนเป็นองค์กรที่ดูน่าเชื่อถือในสายตาของคนทั่วไป ได้รับรางวัลมากมายจากสถาบันและสื่อต่างชาติ เช่น นิตยสารฟอร์บส์ จัดอันดับให้ตั้งแต่ปี 2004 -2007 เป็น 1 ใน 500 บริษัทมหาชนขนาดใหญ่ของโลก อับดับดีขึ้นเรื่อยๆ จนปีล่าสุดอยู่ที่ 354 และฟอร์จูนอยู่ในอันดับที่ 207 และรางวัลด้านบริหารจัดการอื่นๆ อีกหลายรางวัล


    คำถามสุดท้ายตามมาว่า กระบวนการสร้าง “ปตท.” อย่างที่เห็น มีเจตนาเพียงเพื่อสร้างธุรกิจที่มีกำไร เป็น “พลังไทย เพื่อไทย” เพื่อความแข็งแกร่งของพลังงานในประเทศ หรือ เพื่อใคร


    โครงสร้างรายได้ ปตท. ปี 2550 : น้ำมันทำยอดกว่า 70%
    ------------------------------------------------------------------------------------------------
    ผลิตภัณฑ์ จำนวนธุรกิจ/บริษัทในเครือ มูลค่า (ล้านบาท) สัดส่วนของรายได้ทั้งหมด (%)
    1. น้ำมัน 8 1,116,461.56 71.89
    2. ก๊าซ 4 243,403.02 15.67
    3. ปิโตรเคมี 5 124,393.92 8.01
    4. สาธารณูปโภค 4 5,459.20 0.35
    5. รายได้จากการให้บริการ 8 6,088.52 0.39
    6. อื่นๆ - 26,166.60 1.69
    7. ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้ส่วนเสีย -31,080.23 2.00
    8. รวมรายได้ - 1,553,053.05 100.00
    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    ที่มา : รายงานประจำปี ปตท. 2550

    แผนการลงทุน ปตท. ปี 2551-2555 ประมาณ 2.4 แสนล้านบาท เน้นลงทุนก๊าซกว่า 1.7 แสนล้าน
    หน่วย : ล้านบาท
    ธุรกิจ ปี 2551 ปี 2552 ปี 2553 ปี 2554 ปี 2555 รวม
    ก๊าซธรรมชาติ 39,933 54,555 43,510 22,140 13,016 173,154
    น้ำมัน 4,118 1,816 1,885 1,533 1,58710,939
    บริษัทร่วมทุน
    - ก๊าซฯ 15,426 9,355 9,234 3,593 1,026 38,634
    - น้ำมัน 3,887 1,437 1,662 1,309 1,3639,658
    - ปิโตรเคมีและการกลั่น 1,880 2,609 1,692 - - 6,181
    - สำนักงานใหญ่ 1,134 203 60 68 731,538
    สำนักงานใหญ่ และอื่นๆ 919 486 345 354 358 2,462
    รวม 65,563 71,905 58,390 28,663 16,690241,211


    ที่มา : ปตท. แบบ 56-1 ประจำปี 2550

    ปตท. มีแผนการลงทุนภายในปี 2551-2555 หรือช่วง 5 ปี มูลค่ารวม 241,211 ล้านบาท โดยมีแผนลงทุนโครงการก๊าซธรรมชาติสูงสุด ทั้งการวางระบบท่อก๊าซ โครงการโรงแยกก๊าซ โดยคาดมีผลตอบแทนการลงทุนไม่ต่ำกว่า 15%

    การทุ่มเทเงินกว่า 1.7 แสนล้านบาท เพื่อลงทุนโครงการเกี่ยวกับก๊าซ ทั้งแอลพีจีและเอ็นจีวี เพื่อให้ตอบสนองความต้องการบริโภคที่ต้องเลี่ยงจากการใช้น้ำมันที่มีราคาจำหน่ายสูงกว่า


    Timeline ปตท.

    ปี 2521 -ก่อตั้งการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.) มีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจรับมือภาวะขาดแคลนน้ำมันทั่วโลก และเน้นให้ ปตท. หาแหล่งปิโตรเลียมในประเทศ

    ปี 2526-2530 – สร้างคลังก๊าซแอลพีจี 6 แห่ง

    ปี 2536 –เริ่มใช้เอ็นจีวีในรถเมล์

    ปี 2544
    - 1 ตุลาคม 2544 แปลงสภาพเป็นบริษัท จำกัด (มหาชน) รับโอนอำนาจ สิทธิ และพนักงานทั้งหมด ตาม พ.ร.บ.ทุนรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2542 ซึ่งเป็นกฎหมายที่เกิดขึ้นหลังประเทศไทยประสบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 และรัฐบาลมีแผนแปรรูปขายหุ้นรัฐวิสาหกิจ

    -6 ธันวาคม 2544 เข้าซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ มีราคาไอพีโอที่ 35 บาท หลังถูกจองหมดภายในไม่ถึง 2 นาที หรือบางคนจับเวลาได้ว่า 77 วินาที 35 บาท เป็นการประเมินต่ำกว่าเป็นจริง เพราะมีการอ้างเรื่องหนี้สินที่ ปตท. มีอยู่เดิมนับแสนล้านบาท โดยหุ้น ปตท. ที่ถูกจองหมดภายในไม่ถึง 2 นาทีนั้น มีรายชื่อญาตินักการเมืองในยุครัฐบาลทักษิณได้หุ้นจำนวนมาก เช่น “ทวีฉัตร จุฬางกูร” หลาน “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” อดีตเลขาธิการพรรคไทยรักไทย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมในขณะนั้น ได้ 2.2 ล้านหุ้น มูลค่า 77 ล้านบาท

    ปี 2546 - เมษายน ปตท. ร่วมทุนกับ กฟผ. และ กฟน. ตั้งบริษัทผลิตไฟฟ้าและน้ำเย็น ให้บริการระบบไฟฟ้าและความเย็นในสนามบินสุวรรณภูมิ

    -26 กรกฎาคม 2546 คณะรัฐมนตรี (พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร) มีมติให้ ปตท. และบริษัทลูกได้รับสิทธิส่งเสริมจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ และมีมติไม่ให้นำคำสั่ง ข้อบังคับที่ใช้กับรัฐวิสาหกิจอื่นมาบังคับกับ ปตท. หลังจากนั้น ปตท. มีโครงการวางท่อก๊าซอย่างต่อเนื่อง และทำให้หุ้นของ ปตท. ราคาสูงขึ้น จากก่อนหน้านี้ราคาหุ้น ปตท. มีจุดเปลี่ยนจากการที่รัฐตั้งกองทุนน้ำมัน เพื่อไปชดเชยให้โรงกลั่นที่ ปตท. เป็นเจ้าของ และการมีมติ ครม.ให้ยกเลิกแผนการแยกท่อก๊าซออกจากบัญชีทรัพย์สินของ ปตท. จากที่เคยกำหนดไว้ก่อนแปรรูปว่าให้แยกภายใน 1 ปีหลังเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ

    ปี 2548 -1 มิถุนายน 2548 ลงนามในการเข้าถือหุ้นในบริษัททีพีไอ และภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็นไออาร์พีซี

    ปี 2549 -16 มีนาคม 2549 คณะกรรมการ ปตท. มีมติลงทุนประมาณ 4,000 ล้านบาท เพื่อเข้าถือหุ้นใหญ่ในบริษัทบางจากปิโตรเลียม

    ปี 2550
    – 14 ธันวาคม2550 ศาลปกครองมีคำพิพากษาให้ ปตท. คืนทรัพย์สินส่วนที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน และสิทธิการใช้ที่ดินเพื่อวางระบบการขนส่งปิโตรเลียมทางท่อ และแยกอำนาจและสิทธิในส่วนที่เป็นอำนาจมหาชนของรัฐออกจากอำนาจและสิทธิของ ปตท.
    -เริ่มใช้เอ็นจีวีกันแพร่หลายมากขึ้น
    -เมษายน 2550 เทกโอเวอร์ปั๊มเจ็ท ของกลุ่มบริษัทโคโนโค สหรัฐอเมริกา มูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาท


    ส่วนแบ่งการตลาดการจำหน่ายน้ำมัน (หน้าปั๊ม) ปี 2550 จากปริมาณรวม 42,016.351 ล้านลิตร
    --------------------------------------------------------------------------------
    แบรนด์ ปริมาณทุกประเภท (ล้านลิตร) สัดส่วน %
    ---------------------------------------------------------------------------------
    ปตท. 14,277.771 34
    เชลล์ 5,001.122 11.9
    เอสโซ่ 5,246.883 12.5
    เชฟรอน(คาลเท็กซ์) 4,752.680 11.3
    บางจาก 3,010.880 7.2
    อื่นๆ 9,727.014 23.2
    ---------------------------------------------------------------------

    ที่มา : กรมธุรกิจพลังงาน

    ฐานะการเงิน ปตท. (หน่วย : ล้านบาท)
    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    รายการ ปี 2547 ปี 2548 ปี 2549 ปี 2550
    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    สินทรัพย์รวม 487,226.24 649,806.66 751,453.47[SIZE=+0] 892,351.46
    หนี้สินรวม 302,311.27 371,373.72 397,131.47 493,699.95
    รายได้รวม 680,650.03 [SIZE=+0]960,260.60 1,265,476.93 1,553,053.06
    กำไรสุทธิ 62,666.4 85,521.29 95,260.60 97,803.59
    กำไรต่อหุ้น (บาท) 22.40 30.57 34.02 34.82
    มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแค็ป) 483,923.51 632,177.53 589,034.38 1,059,182.84

    ---------------------------------------------------------------------------------
    ที่มา : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

    หมายเหตุ : ดูตารางเพิ่มเติมใน Photo

    [​IMG]
    กระชากหน้ากากปตท. พลังงานเพื่อใคร? - Positioning Magazine


    [/SIZE][/SIZE]
     
  20. tobetruly

    tobetruly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2009
    โพสต์:
    210
    ค่าพลัง:
    +427
    อ๊าาาา ขอบคุณมากที่นำมาลงให้รับรู้ครับ เจ็บใจจริงๆเรื่องน้ำมัน -*-
     

แชร์หน้านี้

Loading...