เซน

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย สันโดษ, 19 ตุลาคม 2008.

  1. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    <TABLE style="BORDER-COLLAPSE: collapse" borderColor=#111111 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top bgColor=#ffffff><TABLE id=AutoNumber2 style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px; BORDER-LEFT-WIDTH: 0px; BORDER-BOTTOM-WIDTH: 0px; BORDER-COLLAPSE: collapse; BORDER-RIGHT-WIDTH: 0px" borderColor=#111111 cellSpacing=0 cellPadding=0 border=1><TBODY><TR><TD style="BORDER-RIGHT: medium none; BORDER-TOP: medium none; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-BOTTOM: medium none" width="100%">

    เซน <!-- InstanceEndEditable -->​


    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-RIGHT: medium none; BORDER-TOP: medium none; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-BOTTOM: medium none" width="100%"><!-- InstanceBeginEditable name="Detail" -->


    <CENTER></CENTER>


    <DD>เซนคือวิธีแห่งการรู้แจ้งอันสมบูรณ์ ใครก็ตามที่ได้ปฏิบัติเซน ย่อมสามารถเข้าถึง การรู้อย่างฉับพลัน และใช้ชีวิตใหม่ในสถานะแห่งพุทธะ


    <DD>เซนอยู่ในชีวิตประจำวันนั่นเอง เป็นชีวิตตามธรรมดาๆ แต่ก็ไม่ใช่ธรรมดาตามธรรมดาที่เราเข้าใจกันอยู่โดยปกติทั่วไป


    <DD>ที่จริงเซนนั้นก็เหมือนกับการตื่นนอน ล้างหน้า แปรงฟัน กินอาหาร อาบน้ำ ล้างถ้วย ล้างชาม อันเป็นกิจวัตรสามัญประจำวันของคนเรา ดำเนินไปตามครรลองที่มันควรจะเป็นเท่านั้นเอง


    <DD>วิธีการปลุกเร้ากายใจให้สดชื่นนั้น คือ ถึงเวลาหิวก็กินข้าว ถึงเวลาอ่อนเพลียก็นอน ซึ่งเป็นท่วงทำนองของธรรมชาติ ที่ตัวตนจะดำรงอยู่ ณ ที่นี้อย่างแท้จริงอยู่เสมอ


    <DD>จงใช้ชีวิตอยู่กับเหตุ ทิ้งผลไว้ให้แก่กฎอันยิ่งใหญ่ของจักรวาล


    <DD>จุดมุ่งหมายของเซน คือการทำให้เราตระหนักว่าไม่มีตัวตน


    <DD>ใช้ชีวิตอยู่ในโลก แต่อย่าให้ฝุ่นของโลกเกาะติดได้ เหมือนดอกบัวเกิดในโคลนตม แต่ไม่ติดโคลนตมฉันนั้น


    <DD>ชีวิตนี้แสนสั้น เราย่อมไม่อาจที่จะใช้ชีวิตที่มีเวลาอยู่นี้ ไปในการขบคิดใคร่ครวญเรื่องทางอภิปรัชญา อย่างไม่มีวันสิ้นสุด เพราะอภิปรัชญาไม่อาจนำไปสู่สัจจะอันยิ่งใหญ่ได้เลย


    <DD>ชีวิตของเราจะสูญเปล่าไป หากเราหลีกหนีการใช้ชีวิตตามความจริง เมื่อไปอยู่ในโลกแห่งความคิดอันล้ำลึกแล้ว เราก็จะเป็นเพียงวิญญาณพเนจร หากยังวุ่นวายอยู่ด้วยความคิดว่ามีหรือไม่มี ชีวิตก็จะสูญเปล่าไปเสีย


    <DD>ให้ดูทุกข์ และความไม่มีทุกข์ ที่มีอยู่ในใจ จึงจะเข้าถึงธรรมที่ปราศจากทุกข์ได้


    <DD>ปาฏิหาริย์ที่แท้ อยู่ในชีวิตประจำวันธรรมดาๆ นี่เอง ให้กิจวัตรประจำวันดำเนินไปตามครรลองของมันอย่างเป็นธรรมชาติ ชีวิตคุณมีอยู่เพียงขณะเดียว อดีตก็ละไปแล้ว อนาคตก็ยังมาไม่ถึง ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด คนเราสามารถมีชีวิตอยู่ได้ ก็แต่ในขณะปัจจุบันเท่านั้น


    <DD>เดี๋ยวนี้ คือสิ่งที่เรา เป็น มันไม่สามารถจะเป็น เป้าหมาย หรือ ภาวะ ที่เราจะต้อง มุ่ง ไปให้ถึง เดี๋ยวนี้ คือการกระทำ หรือ ความเคลื่อนไหว ซึ่งปรากฏอยู่ในขณะนี้ ก่อนที่ ความคิด จะปิดบังมันไว้เสีย


    <DD>ถ้าเราพบความผิดในบุคคลอื่น เราเองก็ตกอยู่ในความผิดนั้นด้วยเหมือนกัน เมื่อผู้อื่นทำผิด เราไม่จำเป็นต้องเอาใจใส่ เพราะมันจะเกิดความผิดขึ้นแก่เราเอง ในการที่จะไปรื้อหาความผิด


    <DD>ทุกๆ ครั้งที่มีการเตือนตนเองให้ถ่อมตน อัตตาของตนก็จะขยายทั้งแง่ขอบเขตและกำลัง ความถ่อมตนที่แท้จะเกิดขึ้นเมื่อเราไม่ได้นึกถึงความถ่อมตน วิปัสสนานั้นไม่ใช่การให้ความสำคัญแก่ตนเอง หรือการปฏิเสธละทิ้งตนเอง


    <DD>มันจะมีประโยชน์อะไร ที่จะมานั่งอภิปรายกันว่า ต้นหญ้าและต้นไม้ตรัสรู้ได้อย่างไร ปัญหามันอยู่ที่ว่า ตัวท่านเองนั่นแหละ จะสามารถบรรลุถึงการตรัสรู้ได้อย่างไร


    <DD>ยึดมั่นคราใดเป็นทุกข์ครานั้น การปฏิบัติทุกอย่างต้องมาลงที่ความไม่ยึดมั่นถือมั่น สิ่งใดหรือเรื่องใดที่ปฏิบัติแล้ว ยิ่งทำให้เกิดยึดมั่นถือมั่นมากยิ่งขึ้น ถือว่าผิดแล้ว


    <DD>การตรัสรู้ธรรมหรือไม่ หาได้อยู่ที่การปฏิบัติเข้มงวด หรือเคร่งครัดเป็นเวลานานไม่ แต่ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติถูกต้องหรือไม่ต่างหาก


    <DD>ระหว่าง รู้ กับ ทำ นั้นช่างห่างไกลกันเสียเหลือเกิน
    คำของปรมาจารย์รุ่นแรกสุดของเซ็น มีอยู่ 4 ประโยค


    <DD>1. พ้นจากการบัญญัติ <DD>2. เข้าถึงไม่ได้ด้วยการเรียนตามตำรา <DD>3. ลัดตรงเข้าสู่ใจ <DD>4. มองดู (รู้) พุทธะก็เกิด
    ฮวงโป


    <DD>ไม่มีอะไรจะต้องลุถึง เพียงแต่ลืมตาตื่นเท่านั้นสิ่งๆ นั้นก็จะปรากฏแก่เธอ <DD>(การลืมตาตื่นเพื่อเห็นสิ่งที่เต็มบริบูรณ์อยู่แล้วตรงหน้านั้น ไม่ได้หมายถึงการเริ่มลอกกิเลสเป็นชั้นๆ จนลอกหมดแล้วจึงตื่น แต่จิตนั้นเอง คือผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ทันทีที่มีสติสัมปชัญญะ ไม่หลง ไม่เผลอ จิตปราศจากการครองคลุมของโมหะ เมื่อนั้นคือการตื่น หรือการรู้ ที่เราพูดถึงกันบ่อยๆ นั่นเอง <DD>จิตที่ปราศจากโมหะ มีความรู้ตัว จะเห็นประจักษ์ธรรมต่อหน้าต่อตา เริ่มจากธรรมในฝ่ายที่เกิดดับ หรือสังขตธรรม จนปัญญาแก่รอบ สามารถปล่อยวางธรรมในฝ่ายที่เกิดดับได้ ก็จะเข้าไปรู้จักธรรมในฝ่ายที่ไม่เกิดไม่ดับ <DD>ดังนั้น ทันทีที่รู้ ก็คือทันทีที่ตื่น พ้นจากภาวะหลับฝันทั้งที่ลืมตา และทันทีที่ตื่น จิตก็ถึงความเบิกบาน อันเป็นคุณสมบัติของจิตเอง ไม่ใช่รู้แล้วลอกกิเลสเป็นชั้นๆ ไปจนหมด จึงตื่น <DD>จิตรู้ หรือจิตตื่น มีความเบิกบานในตัวเอง ปลอดภัยอยู่ท่ามกลางความแปรปรวนและไฟกิเลส เหมือนลิ้นงู ในปากงู เหมือนดอกบัว ที่ไม่เปื้อนด้วยโคลนตม)


    <DD>คนพาล ย่อมหลีกเลี่ยงปรากฏการณ์ภายนอก แต่ไม่หลีกเลี่ยงความคิดปรุงแต่ง คนฉลาดย่อมหลีกเลี่ยงความคิดปรุงแต่ง แต่ไม่หลีกเลี่ยงปรากฏการณ์ภายนอก


    <DD>ท่านฮวงโป เดินเข้าไปในหอพระ เห็นรินไซ (หลินจิ) กำลังนั่งสัปหงกอยู่ ท่านฮวงโปเลยเอาไม้เท้าไปกระทุ้งพื้น พอรินไซเห็นก็แกล้งทำเป็นหลับต่อ พระอีกองค์นึงนั่งอยู่ใกล้ๆแต่ไม่สัปหงกกลับโดนท่านฮวงโปดุเอาว่า เอาแต่นั่งฟุ้งซ่านอยู่ได้ แล้วฮวงโปก็หันไปชมรินไซที่กำลังสัปหงกอยู่ว่า ปฏิบัติดี
    รินไซ


    <DD>เหมือนคนคิดว่าหัวของตัวเองหาย เมื่อเขาหยุดมองหาหัวของตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตาย เขาพบว่าไม่มีสิ่งใดต้องค้นหา


    <DD>ก็รินไซนี่แหละครับ ที่ไปหาฮวงโปแล้วโดนกระบองตี เรื่องนี้ที่ผมเคยถามหลวงอา เพราะอ่านแล้วไม่เข้าใจเลย ท่านว่าธรรมะไปถามคนอื่นได้ไง หาได้ที่ตัวเอง


    <DD>ตอนหลังท่านฮวงโปก็มอบให้รินไซสืบทอดคำสอนต่อ ท่านฮวงโปให้คนใช้ไปเอาตราประทับที่ได้จากอาจารย์ไปจ้างมาให้รินไซ (ตราประทับที่แสดงว่าท่านผู้นั้นสมควรได้รับการสืบทอดคำสอนไปยังรุ่นต่อไป สืบทอดกันมาเป็นรุ่นๆ พอฮวงโปสั่งคนใช้ให้ไปเอามา ท่านรินไซก็บอกให้คนใช้เอาไฟมาเผาด้วย
    โพธิธรรม


    <DD>อะไรเกิดขึ้นที่จิตก็ให้รู้ไป ไม่ต้องไปแบ่งแยกให้ค่าว่า อันนี้ถูก อันนี้ผิด ถ้าหลุดพ้นจากการให้ค่าพวกนี้ได้ ก็จะเข้าใจจิตได้ครับ
    เค็งเซ็น


    <DD>สิ่งที่ตาเธอเห็นอยู่นั่นแหละคือความจริง (ปรมัตถ์) ธรรมทั้งปวงก็คือปรมัตถ์ เธอจะต้องหาอะไรอีกเล่า
    จ้าวโจ


    <DD>บางที ก็มีพระมาถามว่า 'ผมถึงจุดที่ไม่ยึดถืออะไรแล้ว ผมจะต้องทำอย่างไรครับ' ท่านก็ตอบว่า 'ก็ทิ้งมันไว้ตรงนั้นสิ'


    <DD>มีพระมาถามว่า 'ถ้าบรรลุถึงนิพพานแล้ว จิตจะเป็นยังไงครับ' ท่านอาจารย์บอกว่า 'ทำให้ถึงตรงนั้นก่อน แล้วฉันจะตามไปบอก'


    <DD>พระองคนึงถามอาจารย์จ้าวโจว่า 'ที่เมืองจีนใครเป็นอาจารย์องค์แรกครับ' ท่านจ้าวโจว่า 'ท่านโพธิธรรม' 'แล้วท่านอาจารย์เป็นอาจารย์อยู่ในลำดับที่เท่าไรครับ' 'ฉันอยู่นอกลำดับ' 'อยู่นอกลำดับแล้วตกลงอยู่ไหนครับ' 'อยู่ในหูเธอ' <DD>เข้าใจว่า พระองค์นั้นโดนดุเรื่องถามอยู่นั่นแหละ ก็พูดให้ฟังอยู่นี่แล้วยังไปสงสัยอะไรมากมาย คืออาจารย์องค์นี้ท่านมักจะใช้คำพูดให้ศิษย์หลุดออกมาจากความสงสัย อ่านดูศิษย์ท่านแต่ละคนช่างซักช่างถามเสียเหลือเกิน
    โจซู


    <DD>มีพระรูปหนึ่งไปถามท่านโจชูว่า ตัวเองปฏิบัติแบบนี้แล้วถูกรึเปล่า ท่านโจชูบอกว่าเริ่มปฏิบัติได้ก็ดีแล้วนี่ (ท่านไม่ตอบว่าถูกหรือผิดเลย) คำสอนพระท่านส่วนใหญ่จะเน้นให้ลูกศิษย์ละวางการให้ค่าสิ่งต่างๆ ที่เป็นคู่ๆ ว่า นี่ดี นี่ไม่ดี นี่ก้าวหน้า นี่ถอยหลัง อะไรทำนองนี้ Zen in the Martial Arts


    <DD>สติที่เป็นสติสัมโพชฌงค์ ก็คือสติที่มีเองทุกขณะ โดยไม่ต้องออกแรงตั้งใจให้มีสติ และมีอยู่เองโดยไม่มีความต้องการที่จะให้มีสติ เพราะเห็นว่าสตินั้นมีประโยชน์ <DD>- วันทิพย์


    <DD>การบรรลุธรรม หมายความอย่างง่ายๆ ถึงการตระหนักในความกลมกลืนกัน อันไม่อาจแบ่งแยกออกได้ในชีวิตประจำวัน ความรู้อันแท้จริงแล้วต้องผ่านประสบการณ์ตรง เราจะอธิบายรสน้ำตาลได้อย่างไร การบรรยายด้วยวาจาไม่อาจให้ความรู้สึกได้ การจะรู้รส ต้องมีประสบการณ์กับมัน ปรัชญาของศิลปแขนงนี้ ไม่ใช่ว่าจะครุ่นคิดออกมาได้เอง จะต้องมีประสบการณ์ ดังนั้น จึงช่วยไม่ได้ที่ถ้อยคำเป็นเพียงการนำความหมายไปได้บางส่วนเท่านั้น <DD>- Joe Hyams


    <DD>รู้จักคนอื่นเป็นความฉลาด รู้จักตนเองเป็นการตรัสรู้ <DD>- เล่าจื๊อ


    <DD>เมื่อคุณแสวงหา คุณไม่อาจพบมัน <DD>- บททายของเซน


    <DD>คุณต้องเรียนรู้วิธีดำรงชีวิตอยู่ในปัจจุบัน ไม่ใช่อดีตหรืออนาคต เซนสอนว่า ชีวิตต้องยึดขณะปัจจุบัน โดยการอยู่กับปัจจุบัน คุณต้องสัมพันธ์กับตนเอง และสิ่งแวดล้อมอย่างเต็มที่ ต้องไม่ทำให้พลังของคุณกระจายไป ต้องพร้อมเสมอในปัจจุบัน ไม่มีความเสียใจต่ออดีต โดยการคิดถึงแต่อนาคต ก็ทำให้ปัจจุบันเบาบางลง เวลาที่จะดำรงอยู่คือ "เดี๋ยวนี้" <DD>- อาจารย์หาน


    <DD>ล่องลอยไปตามกระแส ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จงปล่อยให้จิตใจเป็นอิสระอยู่ ด้วยความเป็นกลาง ด้วยการรับรู้สิ่งที่กระทำอยู่นั้น นี่เป็นสิ่งสูงสุด <DD>- จวงจือ


    <DD>จิตใจไม่ควรอยู่ที่ใดเป็นการเฉพาะ <DD>- ต้ากวน


    <DD>เวลาทำอะไร ทำให้ดี ขอให้ทำให้ไม่มีที่ติ ทำให้สุดความสามารถของคุณ แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญที่สุดด้านศิลปการต่อสู้ จะใช้เวลาหลายปีเรียนรู้เทคนิค และการเคลื่อนไหว นับร้อยท่าจนชำนาญ แต่ในยกหนึ่งๆ แชมป์จะใช้เทคนิคสี่หรือห้าอย่างซ้ำแล้วซ้ำอีก เทคนิคเหล่านี้ เป็นเทคนิคที่เขาทำได้ดีเลิศ ไม่มีที่ติ ทั้งเขารู้ว่า เขาพึ่งเทคนิคเหล่านั้นได้


    <DD>หยุดเปรียบเทียบตัวเองตอนสี่สิบห้ากับยี่สิบหรือสามสิบ อดีตเป็นมายา คุณต้องเรียนรู้ที่จะมีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน และยอมรับว่า ตัวเองเป็นอะไรตอนนี้ สิ่งที่คุณขาด คือความยืดหยุ่น กับความปราดเปรียว ที่คุณต้องสร้างเสริมขึ้นมาด้วยความรู้ และการฝึกหัดอย่างคงเส้นคงวา <DD>- บรุซ ลี <!-- InstanceEndEditable -->


    </DD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=top width=9 bgColor=#ffffff></TD><TD width=4>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=bottom align=left>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>


    ข้อมูลจาก http://se-ed.net/yogavacara/zen.html
     
  2. oomsin2515

    oomsin2515 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    2,934
    ค่าพลัง:
    +3,393
    อนุโมทนากับเจ้าของกระทู้ที่นำสาระ ดี ๆ มาให้อ่านครับ
    สาธุ สาธุ สาธุ<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p



    _____________________________<O:p</O:p
    เชิญร่วมบริจาคหนังสือ เข้าห้องสมุดชุมชนวัดย่านยาว<O:p</O:p
    http://palungjit.org/showthread.php?t=130823<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    http://palungjit.org/showthread.php?t=153325<O:p</O:p
     
  3. ท้องฟ้าและแผ่นดิน

    ท้องฟ้าและแผ่นดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    232
    ค่าพลัง:
    +127
    [​IMG]
     
  4. เปลือกไม้

    เปลือกไม้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2007
    โพสต์:
    15,448
    ค่าพลัง:
    +39,087
    บางที ก็มีพระมาถามว่า 'ผมถึงจุดที่ไม่ยึดถืออะไรแล้ว ผมจะต้องทำอย่างไรครับ' ท่านก็ตอบว่า 'ก็ทิ้งมันไว้ตรงนั้นสิ'

    ชอบประโยคนี้ครับ ขออนุโมทนา
     
  5. กัมพ์

    กัมพ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2008
    โพสต์:
    222
    ค่าพลัง:
    +118
    ขอเพียงสองขายืนหยัด

    สองมือมีพลังทำได้

    หนึ่งหัวคิดได้

    หนึ่งตัวตั้งมั่น

    ทุกอย่างสำเร็จด้วยตัวของเรา
     

แชร์หน้านี้

Loading...