เซ็นทรัล เวิลด์ เตรียมย้าย

รายงานข่าวจากศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์ แจ้งว่า ด้วยเหตุผลสำคัญหลายประการ ศูนย์การค้าจึงมีความตั้งใจอัญเชิญ “พระตรีมูรติ" ประดิษฐาน ณ เทวาลัยแห่งใหม่ บริเวณใกล้กับศาลพระพิฆเนศ ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวกให้ศรัทธาสาธุชนในการสักการบูชา ที่นับวันจะมีจำนวนมากขึ้น โดยได้รับคำปรึกษาจากผู้รู้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาด้วย
ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ได้ยื่นเรื่องขอปรับปรุงพื้นที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ ต่อสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์อย่างถูกต้อง และเริ่มดำเนินการก่อสร้างเทวาลัยแห่งใหม่ ตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน ๒๕๔๘ โดยได้รับเกียรติจาก อ.อาวุธ เงินชูกลิ่น ศิลปินแห่งชาติ และอดีตอธิบดีกรมศิลปากร ผู้ออกแบบศาลหลักเมืองกรุงเทพฯ และพระอุโบสถวัดหลวงพ่อโสธรแห่งใหม่ เป็นผู้ออกแบบให้
ในการก่อสร้างครั้งนี้ดำเนินการโดย นายไพฑูรย์ กรรณโม นักปั้นลายปูนปั้นฝีมือเยี่ยม ซึ่งเป็นผู้ปั้นลายปูน ณ เทวาลัยเดิม ทั้งนี้บรรยากาศของสถานที่ตั้งเทวาลัยใหม่ จะล้อมรอบด้วยน้ำ ปลูกดอกบัวโดยรอบ สวย สง่างาม ร่มเย็น เป็นสิริมงคลต่อผู้สักการบูชา ด้วยงบประมาณการก่อสร้างทั้งสิ้น กว่า ๒๐ ล้านบาท โดยในวันศุกร์ที่ ๒ ธันวาคม นี้ เวลา ๑๗.๐๐ น. สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เสด็จทรงเป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์ “พระตรีมูรติ" มาประดิษฐาน ณ เทวาลัยแห่งใหม่
“พระตรีมูรติ” เป็นเทวรูปประทับยืน รวมเทพทั้ง ๓ องค์ คือ พระพรหม พระศิวะ พระวิษณุนารายณ์ รวมไว้ในองค์เดียว มีอาวุธและพาหนะประจำองค์เทพทั้ง ๓ องค์ และมีสุนัข ๔ ตัวเฝ้าติดตาม
แปลความตามสารานุกรมไทย พ.ศ.๒๕๑๘ ของ อุทัย สินธุสาร "ตรีมูรติ" แปลว่า รูปสาม คือรูปสามของเทวะในศาสนาพราหมณ์สมัยพระเวท เมื่อชาวอารยันเข้ามาอยู่ในอินเดีย นับถือธรรมชาติที่ทรงอำนาจมีฐานะเป็นเทวะ ๓ องค์
คืออัคนี (ไฟ) วายุ (ลม) สูรยะ (ดวงอาทิตย์) เป็นตรีมูรติ มีหน้าที่คุ้มครองโลกให้ดำรงอยู่ ด้วยเห็นว่า โลกต้องมีความร้อน คือไฟ เผาไหม้สิ่งปฏิกูล มีลมเพื่อหายใจและต้องมีแสงสว่าง เพื่อดำเนินชีวิต
พูดอีกอย่าง “ตรีมูรติ” ก็คือ พระเป็นเจ้า ๓ พระองค์รวมกันเป็นหนึ่ง ได้แก่ พระพรหม พระศิวะ พระวิษณุนารายณ์ กลายเป็นเทพผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดพระองค์เดียว
เทวะทั้งสามจึงเป็นสัญลักษณ์แห่งพลังทางธรรมชาติ พลังสร้าง...พลังบำรุง...พลังทำลาย พลังทั้งสามนี้ มักทำเป็นรูปเครื่องหมายศักดิ์สิทธิ์ว่า...โอม
คำสวดบูชาเทพตรีมูรติที่คนทั่วโลกรู้จักกันดี คือ คำว่า "โอม" ซึ่งมีที่มาจาก "มะ" แทนองค์พรหม "อะ" แทนองค์วิษณุ "อุ" แทนองค์ศิวะ การเอ่ยคำว่า “โอม” จึงเท่ากับเป็นการเอ่ยนามของเทพทั้งสาม ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ได้รับพรอันประเสริฐจากเทพเจ้าซึ่งเป็นที่มาของคำว่า “โอมเพี้ยง” ในความหมายของการอธิษฐานขอให้เทพเจ้าทั้งสามบันดาลให้สิ่งที่ปรารถนาเป็นจริง ยามใดที่เราอยากให้ความฝันเป็นจริง เรามักอธิษฐานจนติดปากว่า “โอมเพี้ยง...ขอให้ (คำขอพร) ดังนั้นเราจึงมีองค์ศิวะ องค์พรหม องค์วิษณุนารายณ์ระลึกอยู่ในจิตใจตลอดเวลา


ที่มา: คมชัดลึก

 

<TABLE height=580 cellSpacing=3 cellPadding=2 width=431 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center width=428 height=26>

ตำนาน "ตรีมูรติ"​

</TD></TR><TR><TD vAlign=top width=428 height=16>

​

</TD></TR><TR><TD vAlign=top width=428 height=95>

ศาสตราจารย์หม่อมเจ้า สุภัทรดิศ ดิศกุล หนึ่งในนักโบราณคดีชื่อดังของไทย อธิบายไว้ว่า
"ตรีมูรติ" แปลว่า รูปสาม หมายถึง รูปสามองค์ของเทวะ หรือธรรมชาติที่ทรงอำนาจ คือ
อัคนี (ไฟ) วายุ (ลม) และสุริยะ (ดวงอาทิตย์)

<TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="44%" align=center border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>
ตามความเชื่อ โลกต้องมีความร้อน เพื่อเผาไหม้สิ่งปฏิกูล ต้องมีลมหายใจและแสงสว่าง
เพื่อดำเนินชีวิต หรือพูดอีกอย่าง "ตรีมูรติ" ก็คือ พระเป็นเจ้า 3 พระองค์รวมกันเป็นหนึ่ง
ได้แก่ พระพรหม พระศิวะ และพระนารายณ์ กลายเป็นพระเป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดพระองค์
เดียว

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="65%" align=center border=0><TBODY><TR><TD width="42%">

​

</TD><TD width="58%">

​

</TD></TR><TR><TD width="42%">

พระพรหม​

</TD><TD width="58%">

พระศิวะ​

</TD></TR></TBODY></TABLE>

ตำนาน "ตรีมูรติ" เกิดขึ้นในประเทศอินเดีย ตามความเชื่อที่ว่า การเวียนว่ายตายเกิดมีจริง
สมัยที่ชนชาวอารยันบุกเข้าไปในอินเดีย พร้อมกับนำ "ศาสนาพระเวท" เข้าไปเผยแผ่ผสม
กับคติความเชื่อพื้นเมือง เพื่อใช้ในการครอบครองอินเดีย แม้ว่าศาสนาพระเวท ไม่เชื่อใน
เรื่องเวียนว่ายตายเกิด เชื่อเพียงว่ามีเทวดาหลายองค์ เชื่อว่าผู้ที่ตายแล้วจะไปรวมกันใน
สถานที่มีพระยมเป็นเทพเจ้าแห่งความตาย ต่อมาเมื่อความเชื่อผสมปนเป จึงเกิดเป็น
"ศาสนาพราหมณ์"

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="65%" align=center border=0><TBODY><TR><TD width="42%">

​

</TD><TD width="58%">

​

</TD></TR><TR><TD width="42%">

พระนารายณ์​

</TD><TD width="58%">

พระตรีมูรติ​

</TD></TR></TBODY></TABLE>

ม.จ.สุภัทรดิศ อธิบายว่า เดิมศาสนาพราหมณ์มีเทวดาองค์เดียว ไม่ได้เป็นพระพรหม แต่
่เรียกว่า "พรหมมัน" หรือประชาบดี คล้ายกับเป็นเทวะผู้สร้างโลก สร้างมนุษย์ ในยุคที่
ศาสนาพราหมณ์รุ่งเรือง เชื่อกันว่า สิ่งที่มนุษย์ปรารถนา คือ ความต้องการของพระผู้เป็น
เจ้า ศาสนาพราหมณ์จึงพัฒนาขึ้นใหม่กลายเป็น "พราหมณ์ยุคใหม่" หรือศาสนาฮินดูเกิดมี
เทวดาที่สำคัญขึ้น 3 พระองค์ คือ พระพรหม พระอิศวร และพระนารายณ์
พระพรหม คือ ผู้สร้างโลก พระวิษณุหรือนารายณ์ คือผู้บำรุงรักษาโลก และ พระศิวะหรือ
อิศวร คือผู้ทำลาย หมายถึง การทำลายแล้วสร้างขึ้นมาใหม่พร้อมกัน เมื่อนำคติความเชื่อ
เหล่านี้รวมกัน จึงกลายเป็น "ตรีมูรติ"
ถ้าจะพูดถึงที่มาของการกำเนิด​