เตรียมตัวให้พร้อม...มันกำลังมา!

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย >_<.ST.>_<, 6 พฤศจิกายน 2017.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. เเสงเทียน

    เเสงเทียน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2017
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +154
    ผมเกิดมา 35 ปีบ้าน/ม่เคยท่วม ถ้าท่วม กรุงเทพก็คงตึก 4 ชั้น
     
  2. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,420
    ค่าพลัง:
    +3,195
    แผ่นดินสยามจะได้รับเคราะห์ภัยน้อยกว่าประเทศอื่นจริงหรือ!! "น้ำจะท่วมฟ้า ปลาจะกินดาว" หมายถึงทุกสิ่งทุกอย่างจะจมอยู่ใต้บาดาล ผู้ใต้น้ำย่อมมองเห็นเมือนน้ำท่วมท้องฟ้า และปลาจะแหวกว่ายไปมา ทำให้คนที่จมอยู่ใต้น้ำและประหนึ่งว่าปลาจะกินดาวนั่นเอง

    ประเด็นนี้ที่กล่าวถึงเมืองหลวงของประเทศไทย กล่าวถึงประเด็นน้ำจะท่วมฟ้า เพียงอย่างเดียว คือไม่ได้เกิดธรณีพิโรธแผ่นดินแยกฝังกลบเหมือนประเทศอธรรมที่แผ่นดินจะถล่มลงทะเล แต่น้ำจะท่วมฟ้า จะเข้าข่ายประเด็น ตึกสูงใหญ่ วัตถุเทคโนโลยี มนุษย์ขยะ สัตว์ประจำโลก ต้นไม้น้อยใหญ่ ภูเขาสูงชันและอื่น ๆ จะถูกชำระออกไปจากระบบ เพื่อลดจำนวนและน้ำหนักบนพื้นผิวโลกให้น้อยลง เพื่อสร้างความสมดุลใหม่ให้ดับดาวเคราะห์ดวงนี้ ถ้าประเด็นนี้คิดว่าประเทศไทยจะเข้าข่ายนั้นไหม! โปรดใช้วิจารณญาณค่ะ ธรรมชาติยุติธรรมเสมอ ไม่ได้ลำเอียงว่าสิ่งไหนจะได้รับการยกเว้นหรือไม่ได้รับการยกเว้น ทุกสิ่งล้วนเท่าเทียมกัน แต่ว่าจะหนักหรือเบาขึ้นอยู่กับพลังกรรมในที่นั้น ๆ

    สำหรับระยะเวลาที่จะเกิดขึ้น หากนับตั้งแต่ระยะเวลาปี 2535 เป็นต้นมาก็เป็นระยะเวลาก็ 26 ปี เข้าไปแล้ว ที่ได้ตีฆ้องป่าวประกาศร้องเตือนให้ทราบกัน และช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาชีวิตมนุษย์และทรัพย์สินได้สังเวยไปกับธรรมธรรมชาติก็นับไม่น้อย ระยะเวลาที่เหลืออยู่ล้วนมีปัจจัยและเงื่อนไขเข้ามาด้วย สิ่งที่กำล้งเป็นไปมิใช่เพื่อทำลาย แต่เป็นการช่วยเหลือ แต่ถ้าหากมีความต้องการที่จะทำลายแล้ว มิต้องรอเวลาอะไรก็สามารถดำเนินการได้ทันที ที่ป่าวประกาศร้องเตือนออกมาเพื่อให้มนุษย์กลับใจร่วมมือร่วมใจกันช่วยเหลือโลก โดยมอบพลังงานความรักให้แก่กัน หรือพลังงานงานบวกให้แก่โลก มนุษย์จึงรอดพ้นและฝ่าฟันวิกฤติธรรมชาตินี้ไปได้ต้องอยู่ที่การร่วมแรงร่วมใจกันเท่านั้น หากโลกคืนความสมดุลให้กับตนเองได้ภัยธรรมชาติก็น้อยลง เงื่อนไขระยะเวลานี้ขึ้นอยู่กับการเหวี่ยงตัวของโลก หรือการหมุนของโลก ที่จะมีผลต่อมนุษย์โลก และ...แต่เท่าที่ผ่านมามนุษย์โลกยังเข่นฆ่ากันไม่เว้นแต่ละวัน สงครามก็ล่อแหลมที่จะเป็นภัยต่อมนุษยชาติจวนเจียนทุกที เงื่อนไขทั้งสองประการข้างต้นคือระยะเวลาที่กำหนดให้เป็นไป ทุกอย่างต้องเป็นไปตามปัจจัย ระยะเวลาเงื่อนไขล้วนไม่แน่นอน มนุษย์มาถามหาระยะเวลาเกิด แต่มนุษย์กลับไม่ใคร่ครวญหาภัยพิบัติในใจตน สิ่งที่ทำให้มนุษย์พ้นภัยได้มีสิ่งเดียวคือต้องขจัดภัยพิบัติออกจากจิตใจตนเอง มีสติเตรียมพร้อมตลอดเวลานั้นคือ ความไม่ประมาทไม่หวั่นไหวกับภัยที่ต้องเจอ การถามหาระยะเวลาไม่ใช่สิ่งที่ต้องทำ แต่อาจจะสำคัญสำหรับมนุษย์ผู้ไม่ต้องการเจอทุกข์ แต่ทุกคนก็ต้องเจอแม้เมื่อยังต้องการเวียนว่ายตายเกิดกันอยู่อย่างนี้ร่ำไป หากเวลาที่ถูกกำหนดออกมาแล้วอยู่ที่เงื่อนไขไม่อาจเป็นไป มนุษย์กลับกลายไม่เชื่อไปเท่ากับทำร้ายตนเอง ดังนั้นให้หมั่นเฝ้าสังเกตุการณ์วันเวลาวิกฤติได้จากสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในโลกเป็นสำคัญ เน้นย้ำ ว่าภัยใหญ่จะเกิดขึ้นนั้นขึ้นอยู่กับจิตใจของมนุษย์เป็นสำคัญ
     
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    สัญญาณเตือนจากละครทีวี ถึงคนที่ทำผิดศีลธรรม


    เผยแพร่เมื่อ 22 ก.พ. 2018
     
  4. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,420
    ค่าพลัง:
    +3,195
    จากเหตุการณ์ภัยธรรมชาติจากอดีตถึงปัจจุบัน เป็นมหันตภัยธรรมชาติจากการสั่นสะเทือนของโลกในการยกระดับคลื่นความถี่สนามแม่เหล็กโลกนั้น มันจึงหลีกเลี่ยงมิได้เพราะว่า..ธรณีไฟใต้พิภพ พื้นที่ห่อหุ้มกายมนุษย์ด้านล่างประกอบด้วยกองเพลิงมหาศาล เลื่อนชั้นถัดมาจำนวนน้ำมหึมา แล้วก็มีแผ่นดินที่รองรับเอาไว้ และส่วนเหนือขึ้นไปก็ถูกลมห่อหุ้มเอาไว้อีก

    วันวิกฤติก่อนเวลา 11-11 สัญญาณเตือนอีกอย่างหนึ่ง การสั่นสะเทือนทางกายภาพของดวงจันทร์ ที่โลกจะสามารถรับรู้แรงสั่นสะเทือนจากดวงจันทร์ได้ไม่ใช่น้อย เพราะเกิดจากคลื่นความถี่ความเย็นระดับ ๗ ที่ถูกส่งเข้ามาจากจุดดับดวงอาทิตย์ส่งมายังพื้นผิวดวงจันทร์ เพื่อจะถูกส่งให้เข้ามากระแทกมายังพื้นผิวโลกในอัตรา ๑ ล้านกิโลเมตร ต่อชั่วโมง เป็นพลังงานที่สูงที่สุดในรอบ ๑๒,๐๐๐ ปีทีเดียว

    1412743468-CapturePNG-o.png

    ลองศึกษาข้อมูลนี้ดูค่ะ...


    https://wikivisually.com/lang-th/wiki/การติดต่อสื่อสารสะท้อนพื้นผิวดวงจันทร์

    แต่จะความแม่นยำจะมีมากแค่ไหน!!! และเงื่อนไขอีกประการหนึ่ง ธรรมชาติย่อมชนะทุกสรรพสิ่ง ไม่มีสิ่งใดเหนือธรรมชาติเหนือกฎแห่งกรรมไปได้ ถึงแม้จะมีเครื่องมือที่ทรงประสิทธิภาพแค่ไหน!! เครื่องมือนั้นก็คือส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ดั่งที่พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า ไม่มีใครหลีกหนีกรรมไปได้ แม้ว่าจะเหาะขึ้นฟ้า หรือ มุดลงไปใต้ดิน เมื่อกรรมส่งผล ทุกอณูของกรรมที่เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติไม่สามารถปิดบังซ่อนเร้นไปได้เลย

    การชำระโลกเพราะเสียสมดุลในทางมิติพลังงาน เพราะโลกได้รับพลังงานใหม่ด้านบวกจากจิตมนุษย์ไม่เพียงพอ เนื่องจากมนุษย์ขาดสติและไร้สำนึกทางจิตวิญญาณ

    การชำระความ... ก่อนวันชำระใหญ่ที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์กล่าวไว้ เป็นการกระทำของเจ้ากรรมนายเวร ที่มนุษย์เคยก่อกรรมด้านลบต่อพวกเขามาก่อนที่เคยได้รับความทุกข์ทรมานจากการจองจำด้วยอาฆาตพยาบาท โกรธแค้นที่เคยทำผิดไว้ต่อพวกเขา โดยไม่ยอมไปเกิดยังภพภูมิใด ๆ รอโอกาสแก้แค้นคืนอย่างเดียว และ มนุษย์เคยทำร้ายทุกข์ทรมานอย่างทารุณ ด้วยการเข่นฆ่าเอาชีวิต กินเลือดกินเนื้อพวกเขาอย่างเมามัน เช่นหมู เป็ด ไก่ ห่าน วัว ควาย ซึ่งเป็นเจ้ากรรมนายเวรมนุษย์ในยุคปัจจุบัน ซึ่งมีอยู่ทั้งสิ้นในสนามพลังงานโลก จำนวน 20 เท่าของประชากรโลกที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยพวกเขาจะอยู่เบื้องหลังภัยธรรมชาติที่รุนแรง เพื่อจัดการกับมนุษย์ที่เป็นบุคคลเป้าหมายที่จะเอาความของพวกตน มนุษย์ยุคนี้จึงทุกข์ยากเพราะกรรมติดจรวดจากภัยธรรมชาติจากพลังงานมืดสีดำที่มองไม่เห็นในสนามพลังงานที่เป็นกลุ่มมืดที่เรียกว่าเจ้ากรรมนายเวรอีกด้วย

    จากแหล่งข้อมูลเดิม
     
  5. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,420
    ค่าพลัง:
    +3,195
    ใช่ค่ะ ท่านไร้กรอบ ตอนแรกตนเองคิดว่าคงหมดหน้าที่แล้วมั้งค่ะ ตั้งใจจะลงเรื่องราวที่ตนเองสนใจอยากให้คนอื่นรู้ด้วย เช่น นครปอมเปอี สุสานแห่งความตาย และ ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาเกิดภัยธรรมชาติคนตายนับล้าน ๆ คนต่อหนึ่งเหตุการณ์ก็มีมาแล้ว จึงประมาทไม่ได้เลยค่ะ ก็ไม่มีเหตุที่ได้ทำสักทีค่ะ หรือบางครั้งจะหาข้อมูลมาลงก็มีเหตุไม่ได้ลงเช่นเดียวกันอีกค่ะ และที่ได้ลงก็อาจจะมาจากเหตุโพสของท่านเกษมมั้งค่ะ ที่ท่านได้โพสลงสัญญาณเตือนละครทีวีได้เตือนถึงคนทำผิดศีลธรรม มีข้อมูลที่เชื่อมโยงกันให้ได้รู้รายละเอียดเพิ่มนะค่ะ

    ท่านไร้กรอบไม่มึข้อมูลอะไรเพิ่มเติมบ้างหรือค่ะ เห็นผู้ทรงคุณหลายท่านที่มีญาณเทพกล่าวไว้ว่า ได้มีการประชุมเทวสภากันบ้างแล้ว ส่วนความคิดของตนเองนะ ข้อมูลจากแหล่งที่ได้มาจะมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างไหม!! เพราะสื่อนี้ก็เป็นระยะเวลา 10 กว่าปีที่ผ่านมาแล้ว บางทีอาจมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปแล้วก็ได้ แต่ตนเองก็ยังมั่นใจอยู่ลึก ๆ เกี่ยวกับปรากฎการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการโพสในกระทู้นี้ จึงยังเชื่อมั่นข้อมูลที่นำมาลงให้พิจารณานี้อยู่ค่ะ
     
  6. คมสันติ์

    คมสันติ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    100
    ค่าพลัง:
    +259
    เคยดูหนังเรื่อง 2012 มั้ย..นั้นแหละครับ
     
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    หยุดฟังเสียงของโลก ก่อนที่จะเกิดอะไร ๆ

    26731505_1463853333738026_1695790021674148721_n.jpg

    หยุดฟังเสียงของโลกก่อนที่จะเกิดอะไร ๆ! - พบน้ำทะเลอุณหภูมิสูงและนกตกตายจากท้องฟ้า?

    อ่าวเม็กซิโก : ปรากฏการณ์ความร้อนพุ่งสูงแปลกๆ Vent Hydrothermal https://en.wikipedia.org/wiki/Hydrothermal_vent คือข้อสันนิษฐาน

    1 มีนาคม 2018: มีการตรวจจับความร้อนที่แปลก ๆ โดยใช้เครื่องมือหลายตัว
    ภูเขาไฟใต้น้ำเริ่มปะทุ? นักวิจัยและศูนย์ตรวจสอบสภาพอากาศฯ พบว่ามี "ความผิดปกติของน้ำ"
    อีกครั้ง - รอยแตกขนาดใหญ่เปิดขึ้นในแผ่นดิน - อุณหภูมิแปลก ๆ ในอ่าวเม็กซิโก ความเป็นไปได้คือ ประตูระบายความร้อนโลกเปิด ปลดปล่อยความร้อนใต้โลก ผลที่คาดเร็ว ๆ นี้
    อาจตามมาด้วยกิจกรรมภูเขาไฟที่เพิ่มมากขึ้นทั่ววงแหวนไฟแปซิฟิก (รวมทั้งภูเขาไฟใต้น้ำระเบิด) และอาจตามมาด้วยแผ่นดินไหว? โดยเฉพาะพื้นที่ไกล้เคียงอยู่ในความเสี่ยงเช่น บริเวณอ่าวแมกซิโก - ชายฝั่งด้านทิศใต้ประเทศสหรัฐฯ ..

    นกตายตกจากท้องฟ้าในแม็กซิโก " Dead Birds Fall จากท้องฟ้าในเม็กซิโก" http://strangesounds.org/…/hundreds-of-birds-suddenly-fall-…
    นกตาย - ปลาตาย - แม่น้ำเปลี่ยนเป็นสีเลือด มีการตรวจพบในหลายพื้นที่ เจ้าหน้าที่งง?

    และโดยเฉพาะชายฝั่งสหรัฐอเมริกา?!!! กรุณาหยุดฟังเสียงของโลกก่อนที่จะอะไรๆ!
    ชนชั้นทำนาบนหลังคนกำลังหนีตาย หนูกำลังหาที่สูงหนีน้ำ (Armageddon Of Babylon) บาบิโลนอาจล่มในช่วงครบรอบ
    70 ปีการเป็นประเทศ? (อ่านทำนายเพิ่มเติม)

    จำภาพหนูวิ่งหนีน้ำขณะไททานิคกำลังล่มได้ไหม ไม่ต่างกัน พวกเขากำลังอพยพหนีตายไปยังบังเกอร์ใต้ดินในหลายประเทศที่คิดว่าปลอดภัยจากช่วง end time https://www.facebook.com/SIGNSOFTHEENDTIME/photos/a.600410333415668.1073741828.599504813506220/1455079887948704/?type=3&theater
    น้ำจะท่วมสูงตามที่เอโหนกเตือนหรือไม่?

    สัญญาณมหากลียุค Signs of the end in Current Events
    11 มกราคม ·

    บางสิ่งบางอย่างขนาดยักษ์ลุกขึ้นมาจากพื้นโลกใต้นิวอิงแลนด์ - น้ำพยายามที่จะบอกเราบางอย่าง!

    จู่ๆน้ำในมหาสมุทรหายไปในหลายพื้นที่ โดยรอบประเทศเอกวาดอร์ซึ่งเป็นประเทศที่พรมแดนติดกับมหาสมุทรแปซิฟิก ..
    https://www.facebook.com/SIGNSOFTHEENDTIME/posts/1463469890443037

    ภาพเหตุการณ์เหล่านี้ดูเหมือนว่า โลกกำลังพยายามจะบอกเล่าเรื่องราวอะไรบางอย่างกับการเกิดขึ้นของแผ่นดินไหวที่เกือบจะสอดคล้องกันอย่างสมบูรณ์แบบระหว่างพื้นที่ที่ "น้ำในมหาสมุทรหายไป"

    เอกวาดอร์ตั้งอยู่บนแผ่นอเมริกาใต้แม้ว่าจะอยู่นอกฝั่ง แต่แผ่นนั้นก็มาพร้อมแผ่นจานขนาดเล็กที่เรียกว่าจาน Nazc
    Ring of Fire ตัดผ่านเขตอันตรายซึ่งค่อนข้างจะแบ่งแผ่นแคริบเบียนออกจากจาน Cocos ซึ่งเป็นจานขนาดเล็ก 2 แผ่นในภูมิภาคนี้ รวมทั้งจาน Nazca ที่ล้อมรอบเอกวาดอร์ และระหว่างแผ่นอเมริกาเหนือที่ใหญ่กว่าแผ่นแปซิฟิกและแผ่นอเมริกาใต้

    น้ำหายไปจากมหาสมุทรทั้งทางทิศเหนือและทิศใต้ของแผ่นสองแผ่นที่มีขนาดเล็กโดยมีการสั่นสะเทือนของดินไหวขนาดใหญ่ถึง 7.6 ครั้งระหว่างพื้นที่เหล่านี้เพียงไม่กี่วัน?
    https://www.facebook.com/SIGNSOFTHEENDTIME/posts/1462067347249958

    สิ่งที่แปลกมากเกิดขึ้นเนื่องจากการระเหยหายไปของน้ำนี้เกิดขึ้นทั้งในมหาสมุทรแปซิฟิกและนอกชายฝั่งอ่าวฟลอริดาใกล้มหาสมุทรแอตแลนติกกว่าแปซิฟิก

    ถ้าโลกพยายามที่จะบอกเล่าเรื่องราว ให้เราทราบว่าดาวเคราะห์ของเรากำลัง?....

    ในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2560 เรื่องราวจาก Rutgers Today พวกเขารายงานว่า ขณะนี้มวลหินอุ่นกำลังเคลื่อนที่จากใต้ New England และขณะที่พวกเขาอ้างว่าการปะทุของภูเขาไฟได้มีการเพิ่มขึ้นนี้พวกเขาแสดงให้เห็นว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นใต้พื้นผิวของ "ภาคตะวันออกของประเทศสหรัฐอเมริกา" !! https://news.rutgers.edu/…/mass-warm-rock-rising-…/20171121…

    จาก National Geographic เรื่องนี้เกี่ยวกับกิจกรรมทางธรณีวิทยาที่น่าแปลกใจในนิวอิงแลนด์ https://news.nationalgeographic.com/…/magma-bubble-rising-…/

    มีหลักฐานว่าแผ่นดินไหวและจากการปะทุภูเขาไฟใกล้กับบริเวณที่เกิดการปะทะกันทุกครั้งน้ำบนผิวโลก อาจไหลลงในรอยแตกและรอยแยก ขณะที่แผ่นเปลือกโลกเคลื่อนและเลื่อนไปมา

    เราได้เห็นมหาสมุทร .. น้ำไม่เพียงแต่หายไปอย่างฉับพลัน แต่เกิดแผ่นดินไหวขึ้นหลังจากนั้นไม่นาน - บังเอิญ?

    * ไม่ลืมว่าเหตุการณ์ลักษณะนี้นาซ่า-สื่อหลักหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึง
    ** ระยะหลังมานี้ผู้นำทางจิตวิญญาณมักแนะนำบอกคนของเขา (โดยเฉพาะในอเมริกา) และสวดคำสดุดี 23 และบทเพลงสรรเสริญ 91 เพราะจะมีการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ ชีวิตของผู้คนในสหรัฐ

    ผู้นำทางศาสนารัสเซียปล่อยคำเตือนโลกถึงจุดวิกฤติ!?
    เรากำลังอยู่ในเส้นทางที่อันตรายมากในการทำลายตนเอง - ถ้าความชั่วร้ายเกิดขึ้น เวลาสิ้นสุดจะเกิดขึ้นกับเรา!!

    ในภูมิภาค Cascadia มีโอกาศที่จะเกิดความผิดปกติขึ้นทั้งในสหรัฐอเมริกาและอเมริกาใต้และทั่วโลก หลายแห่งมีการสวดส่งไปให้อเมริกา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการจัดการกับความวิปริตของอเมริกาและการประท้วงทั้งหมด การต่อต้านเขา ทรัมป์.


    ที่มา https://th-th.facebook.com/SIGNSOFTHEENDTIME/
     
  8. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,420
    ค่าพลัง:
    +3,195
    อ่านโพสของท่านเกษม หยุดฟังเสียงของโลกบ้าง ก่อนที่จะเกิดอะไรๆ

    กับ กระทู้ด้านล่างนี้ค่ะ

    เตรียมระวังครั้งยิ่งใหญ่“น้ำจะท่วมโลก”ใกล้หมดเวลามนุษยชาติ เริ่มสะท้อนผลกระทบ แล้วจริงๆหรือ!

    http://palungjit.org/threads/เตรียม...ชาติ-เริ่มสะท้อนผลกระทบ-แล้วจริงๆหรือ.639637/

    ตรงกับข้อมูลการรับสื่อจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ถ่ายทอดไว้ในหนังสือของ อ.ปริญญา เลยค่ะ

    ก่อนการชำระโลกครั้งใหญ่ แกนหมุนรอบตัวเองของโลก จะถูกกำหนดให้มันค่อย ๆ ขยับตัวเบี่ยงเบนไปจากแนวเดิมเรื่อย ๆ จะทำให้ขั้วโลกเหนือก้มหัวลงหันเข้าหาดวงอาทิตย์ บริเวณขั้วโลกเหนือจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น ทำให้น้ำแข็งละลายกลืนกับน้ำในมหาสมุทร เมื่อโลกเอียงก้มหัวมากขึ้นเรื่อย ๆ น้ำจากขั้วโลกเหนือจะพากันหลั่งไหลลงสู่เบื้องล่าง ขณะเดียวกันกำหนดให้เกิดการสั่นสะเทือนใต้มหาสมุทรบริเวณขั้วโลกใต้ เพื่อกระเทาะเอาก้อนน้ำแข็งขนาดยักษ์ให้หลุดออกเพื่อใช้เป็นมวลถ่วงดุลน้ำหนักมวลระหว่างขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ โลกจะค่อย ๆ ม้วนตัวก้มหัวเอาขั้วโลกเหนือคว่ำแทนที่ขั้วโลกใต้อย่างช้า ๆ โดยน้ำขั้วโลกเหนือที่ไหลลงสู่ด้านล่างและก้อนน้ำแข็งขนาดยักษ์ขั้วโลกใต้ช่วยส่งเสริมกระบวนการทางเทคนิคนี้ให้แนบเนียนยิ่งขึ้น เมื่อขั้วโลกเหนือย้ายตนเองไปสู่ขั้วโลกใต้แล้ว จะค่อย ๆ พลิกม้วนตัวขึ้นเพื่อย้อนคืนสู่ตำแหน่งเดิมของตนโดยไม่ย้อนรอยเดิม เพื่อเป็นแนวแกนหมุนรอบตัวเองในตำแหน่งใหม่ หรือยุคพลังงานใหม่คือ แกนหมุนรอบตัวเองของดาวเคราะห์โลก ทำมุมแนวดิ่งอยู่ที่ 32 องศา แทนแนวเดิมที่อยู่ที่ 23.5 องศา เพื่อสร้างฤดูกาลใหม่ที่สมดุลให้กับมนุษย์ยุคพลังงานใหม่

    เหตุการณ์ต่าง ๆ เริ่มจะเป็นจริง และเริ่มขยับเข้าใกล้แล้ว ทุกสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นบนโลกเหตุการณ์แทบจะเป็นไปตามที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์สื่อแจ้งเตือนล่วงหน้าได้กำลังจะเป็นไปตามนั้นแล้วหรือ!!ค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มีนาคม 2018
  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    สิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อแกนโลกพลิกกลับขั้ว



    การพลิกกลับขั้วของแกนแม่เหล็กโลก คือกระบวนการเมื่อขั้วทิศเหนือและขั้วทิศใต้กลับตำแหน่งกัน เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น, ที่จุดหนึ่งของเวลา สนามแม่เหล็กโลกจะลดลงเกือบจะถึงศูนย์เกาซ์ โลกที่จุดนั้นของเวลามีคุณสมบัติของแม่เหล็กเป็นศูนย์ สิ่งนี้บังเอิญมาเกิดขึ้นพร้อมกัน กับการหมุนรอบพลิกกลับขั้วของดวงอาทิตย์ในทุกๆ สิบเอ็ดปีพอดี

    ในประวัตศาสตร์ของมนุษย์ยุคใหม่ ปรากฎการณ์แกนโลกพลิกตัวที่เคยเกิดขึ้นนั้นไม่เคยถูกบันทึกมาก่อน แต่ในปัจจุบัน, แบบตัวอย่างคอมพิวเตอร์สามารถทำนายผลลัพธ์ที่เป็นจริงได้ ซึ่ง NASA เคยนำคำพูดที่น่ากลัว มากล่าวถึงในที่สาธารณะเกี่ยวกับการพลิกกลับขั้วจะทำคุณสมบัติของแม่เหล็กของโลกอ่อนแอและเบี่ยงเบนไป แต่ไม่ใช่ศูนย์

    ตามแบบตัวอย่างคอมพิวเตอร์ Hyderabad การพลิกกลับเกี่ยวกับขั้วของโลกและดวงอาทิตย์สามารถเป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาที่จริงจังดังต่อไปนี้

    - ระบบอิเล็กโทรนิคจำนวนมากจะทำงานผิดปกติ (ระบบขีปนาวุธ ,computer)

    - การอพยพของฝูงสัตว์ เช่น นก หรือปลาวาฬ ทำให้สูญเสียทิศทางและอื่นๆ

    - ระบบภูมิคุ้มกันโรคในบรรดาสัตว์รวมถึงมนุษย์จะทำให้อ่อนอย่างมาก

    - ทำให้ภูเขาไฟเพิ่มขึ้น, เกิดการเคลื่อนที่ของเปลือกโลก แผ่นดินไหว และแผ่นดินถล่ม

    - สนามแม่แหล็กโลก (Magnetosphe re) จะอ่อนแอลง และการแผ่รังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากดวงอาทิตย์จะเพิ่มปริมาณถึงระดับอันตราย ก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังตามมา ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้

    - กลุ่มวัตถุในอวกาศที่มีเส้นผ่านมากมายจะเฉียดเข้าใกล้โลกได้ง่ายขึ้น

    -แรงดึงดูดของโลกจะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

    ถ้าคุณรวมเค้าเรื่องการทำลายล้างกับเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ ความเป็นไปได้เหล่านี้เป็นไปได้ทั้งหมด, คุณสามารถดูได้โดยง่าย, โลกอาจจะกลายเป็นที่ที่ไม่เหมาะสมสำหรับอารยธรรมของมนุษย์เมื่อถึงปี 2012 และผู้ที่จะรอดได้นั้นอาจต้องมีชีวิตอยู่ใด้ดินหรือใต้เปลือกโลกเท่านั้น..

    กลุ่มนักค้นคว้าเรื่อง UFO จำนวนมาก (ในต่างประเทศ) ที่ได้ทำการติดต่อกับพวกเขาอย่างลับๆ รายงานว่ามนุษย์ต่างดาวได้ตระหนักถึงเหตุการณ์เกี่ยวกับโลกในช่วงระยะอันใกล้นี้ ได้เข้ามาบันทึกและศึกษาเหตุการณ์การสูญพันธุ์ของรูปแบบอารยธรรมเกี่ยวกับมนุษย์ อันเนี่องมาจากการขาดของความรู้ของเราเอง ขณะนี้เขากำลังจัดเตรียมเครื่องมือสำหรับการตรวจวัดและคัดเลือกมนุษย์ที่เขาจะช่วยชิวิตเอาไว้ได้จำนวนหนึ่งแล้ว...

    พวกเขาได้รับสัญญาณและรับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับโลก ว่ามีบางสิ่งที่รุนแรงจะเกิดขึ้น ซึ่งเขากำลังเตรียมช่วยเหลือเราอย่างเงียบๆ รวมถึงการเคลื่อนย้ายเราไปสู่ปลายทางที่ปลอดภัยที่เราไม่อาจรู้ (ซึ่งฃ่าวนี้ตรงกับข้อมูลทางกลุ่มเขากะลาของไทยที่บอกไว้คล้ายกัน เกี่ยวกับการเตรียมการช่วยเหลือตามจุดต่างๆ 8 จุด ทั้งในไทยและต่างประเทศ)

    หลายๆเหตุการณ์ เช่นTsunami, มันเป็นไปได้ที่เราจะงงงวยและจ้องมองมัน กับสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่มีใครคาดคิดมาก่อน ถ้าเรื่องราวนี้ถูกต้อง, มันอาจจะเป็นหนทางหนึ่งที่เราจะอยู่รอดจะเพื่ออารยธรรมของเรา บางทีเราอาจต้องเคลื่อนย้ายสู่ดาวเคราะห์อื่นๆ เช่นที่มันอาจจะเคยเกิดขึ้นบนดาวอังคารเมื่อหลายล้านปีมาแล้ว...

    Magnetic Pole Reversal ขั้วแม่เหล็กโลกพลิกด้าน

    เมื่อเร็วๆ มานี้ องค์การ NASA ได้เคยทำให้สาธารณะชนเกิดความหวาดหวั่นด้วยการออกมาเปิดเผยว่าการพลิกกลับของขั้วแม่เหล็กโลกจะทำให้ความเข้มข้นของสนามแม่เหล็กโลกอ่อนลง และไร้ความมั่นคงแต่ไม่ถึงกับลดลงถึงระดับศูนย์ แต่จากการศึกษาร่วมกันของนักวิทยาศาสตร์ด้านคอมพิวเตอร์จำนวนหนึ่งกับกลุ่มนักธรณีฟิสิกส์และนักดาราศาสตร์ฟิสิกส์พบว่า ทั้งโลกและดวงอาทิตย์จะสิ้นสุดระยะเวลาที่ใช้ในกระบวนการพลิกกลับของขั้วแม่เหล็ก (Magnetic Pole Reversal) โดยครั้งล่าสุดกระบวนการนี้ ได้เกิดขึ้นเมื่อหลายล้านปีที่ผ่านมาจนทำให้สัตว์จำพวกไดโนเสาร์สูญพันธุ์จนหมดสิ้น

    คำถาม......? โลกจะเป็นอย่างไรเมื่อขั้วแม่เหล็กโลกกำลังพลิกด้าน

    การพลิกกลับของขั้วแม่เหล็กโลก คือ กระบวนการที่ขั้วแม่เหล็กเหนือและขั้วแม่เหล็กใต้สลับตำแหน่งกัน เมื่อการพลิกกลับของขั้วแม่เหล็กนี้เกิดขึ้น ณ ขณะเวลาใดเวลาหนึ่ง (ซึ่งไม่สามารถทำนายได้ว่าจะกินเวลานานเท่าใด อาจกินเวลาแค่ 1 ช.ม. หรืออาจเป็นเดือนก็ได้) มันหมายถึงว่าค่าการเหนี่ยวนำของสนามแม่เหล็กโลกจะลดลงจนมีค่าเป็นศูนย์หน่วยกาซ และโลก ณ ขณะเวลานั้นจะสูญเสียอำนาจแห่งสนามแม่เหล็กโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

    คำถาม.......? จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อไม่มีสนามแม่เหล็กโลก

    โดยปกติสนามแม่เหล็กโลก จะเป็นเสมือนโล่กำบังที่ช่วยปกป้องโลกไว้อีกชั้นหนึ่งโดยเฉพาะ การช่วยกำบังโลกจากพายุสุริยะที่เกิดจากดวงอาทิตย์ แต่เมื่อไม่มีสนามแม่เหล็กโลกในเวลาที่ว่านั้น สิ่งมีชีวิตบนโลกจะต้องเจอกับหายนะ นั่นก็คือ พายุสุริยะ(บางคนเรียกลมสุริยะ มันเหมือนกันนะเดี๋ยวจะสับสน) พายุสุริยะ คือ พลังงานที่เกิดจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ที่เกิดจากธาตุไฮโดรเจนบนพื้นผิวดวงอาทิตย์ ซึ่งจะถูกปล่อยออกมาสู่อวกาศด้วยแรงระเบิดมหาศาล ซึ่งพายุสุริยะนั้นประกอบด้วย รังสีคอสมิก(และอีกมากมาย) และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าอันมหาศาล

    คำถาม........? เราจะเป็นอย่างไรเมื่อต้องเผชิญกับพายุสุริยะ

    "ฮารัลด์ เลสช์" (Harald Lesch) ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัย "มิวนิค" ได้สร้างแบบจำลองสนามแม่เหล็กโลกขึ้นมาศึกษาในเรื่องนี้เป็นการเฉพาะ เพื่อหาคำตอบว่าโลกเราจะเป็นอย่างไรหากไม่มีสนามแม่เหล็ก แบบจำลองที่ "ฮารัลด์ เลสช์" สร้างขึ้นพบว่า ถ้าโลกเราถูกพายุสุริยะกระหน่ำ ผลที่ได้สร้างความประหลาดใจอย่างยิ่ง จากภาพจำลองที่คอมพิวเตอร์สร้างขึ้นแสดงให้เห็นว่า เมื่อ มวลอนุภาคคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากพายุสุริยะมาถึงโลก จะทำปฏิกิริยากับชั้นบรรยากาศ เกิดเป็นสนามแม่เหล็กชุดใหม่มาแทนที่และทรงพลัง พอที่จะทานแรงปะทะของรังสีคอสมิก ทำให้รังสีคอสมิกที่เป็นอันตรายจากดวงอาทิตย์เบนออกสู่อวกาศ

    แต่ทะว่าโลกเรานั้นสามารถรอดพ้นจากอันตรายจากรังสีคอสมิกไปได้ แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นจากกระบวนการนี้ไม่ได้เป็นผลดีต่อสิ่งมีชีวิตบนโลกเลย ตามหลักแล้วกระแสไฟฟ้าจะไหลไปสู่ที่ๆมีความต่างศักย์ที่น้อยกว่า และสนามแม่เหล็กชุดใหม่ที่จะเกิดขึ้นจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้านั้นไม่ได้เสถียรเหมือนแม่เหล็กโลกเดิม ฉะนั้นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ทำปฏิกิริยากับบรรยากาศโลกย่อมไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่นั้น สิ่งที่คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจะกระทำต่อไปนั้นก็คือ การปลดปล่อยพลังงานไฟฟ้าอันมหาศาลสู่ที่ๆมีความต่างศักย์ที่น้อยกว่า

    นั่นก็คือพื้นผิวโลก เหตุการณ์ที่ว่านี้คือ พายุฟ้าผ่านั้นเอง พายุฟ้าผ่านี้ อาจกินเนื้อที่ทั้งทวีปหรือทั่วโลก สายฟ้าที่กระหน่ำลงมาจากก้อนเมฆอิเล็กตรอนนั้น จะกระหน่ำผ่าลงมาทุกๆที่โดยไม่หยุดจนกว่าพลังงานคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากพายุสุริยะจะหมดลง และจะเกิดขึ้นอีกถ้าพายุสุริยะลูกต่อไปมาถึง หรือจนกว่าการกลับขั้วของแม่เหล็กโลกจะเสร็จสมบูรณ์ จนทำให้กระบวนการสร้างสนามแม่เหล็กโลกจะทำงานได้อีก สิ่งมีชีวิตบนโลกมากมายจะต้องตาย และเทคโนโลยีต่างๆที่มนุษย์สร้างขึ้น จะถูกทำลายลงในครั้งนี้ แต่ถ้ารังสีคอสมิกสามารถหลุดรอดมากจากสนามแม่เหล็กไฟฟ้าได้ สิ่งมีชีวิตที่รอดจากการถูกฟ้าผ่า ก็อาจจะต้องตายจากโรคมะเล็งและความร้อน

    คำถาม........? เมื่อสนามแม่เหล็กโลกเกิดการพลิกตัวอย่างสมบูรณ์จะเกิดอะไรขึ้นกับโลก

    สิ่งที่จะกล่าวต่อไปนี้อาจะเหลือเชื่อแต่ตามหลักการแล้วย่อมเป็นไปได้ การพลิกด้านของขั้วแม่เหล็กโลกนี้ไม่ได้ทำให้เกิดความหายนะจากพายุสุริยะแค่เพียงอย่างเดียว แต่อาจเกิดหายนะจากการหมุนกลับทางของโลกที่จะเกิดตามมาอีก ยกตัวอย่าง เช่น การหมุนของมอเตอร์ มอเตอร์แบบธรรมดามี 2 ขั้ว โดยให้สัญลักษณ์ A และ B ก่อนที่ขั้วแม่เหล็กโลกจะพลิกตัว ให้เปรียบโดยการใช้ ไฟฟ้าขั้ว + ต่อเข้ากับ A และไฟฟ้าขั้ว - ต่อเข้ากับ B มอเตอร์จะหมุนไปทางใดทางหนึ่ง แต่เมื่อเราต่อขั้วไฟฟ้ากลับด้านกัน ย่อมทำให้มอเตอร์เกิดการหมุนทิศทางตรงกันข้ามกับครั้งแรก และนี่ก็เปรียบกับการพลิกด้านของขั้วแม่เหล็กโลกนั่นเอง

    คำถาม........? แล้วสิ่งมีชีวิตจะเป็นอย่างไรต่อไป

    เมื่อโลกหมุนกลับทาง สิ่งมีชีวิตที่เหลืออาจจะต้องเจอกับภัยธรรมชาติมากมาย โลกหมุนกลับทางย่อมทำให้ทุกสิ่งเปลี่ยน ทั้งกระแสน้ำทะเล กระแสลม รวมถึงแผ่นดิน จากนี้จะเกิดอะไรขึ้นย่อมไม่มีใครรู้ได้ มนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่มีชีวิตรอด จะปรับตัวอย่างไรเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก มนุษย์ที่เหลือจะทำอย่างไรเมื่อวันนั้นมาถึง...........................

    หายนะที่ได้กล่าวมานี้ อาจจะไม่ร้ายแรงถึงขนาดที่กล่าวมา (หรืออาจร้ายแรงกว่า) ขึ้นอยู่กับว่า การที่ขั้วแม่เหล็กโลกพลิกตัวนั้นจะใช้เวลานานขนาดใหน ขอให้ทุกคนโชคดี

    ที่มา https://www.bloggang.com/m/viewdiary.php?id=jidjad&group=103
     
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ฟ้าผ่า หนึ่งจากสัญญาณวันสิ้นโลก


    เผยแพร่เมื่อ 13 ต.ค. 2014
     
  11. เเสงเทียน

    เเสงเทียน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2017
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +154
    ตั้งตารอเลย
     
  12. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,420
    ค่าพลัง:
    +3,195
    ลองพิจารณาข้อมูลนี้ดูค่ะ...น่าสนใจ

    42031_full.jpg


    สัญญาณเตือนล่วงหน้าของพิบัติภัย เมื่อแกนโลกพลิกเปลี่ยนขั้ว(Pole Shift)


    มีสัญญาณให้สังเกตเห็นล่วงหน้าประมาณ ๒-๓ สัปดาห์ เบื้องต้นผู้คนทั่วไปสังเกตุเห็นความผิดปกติได้ทั้ง ๓ ระนาบ คือท้องฟ้า พื้นแผ่นดิน และทะเล มหาสมุทร


    ให้สังเกตเห็นสิ่งที่ผิดปกติที่มนุษย์ในรุ่นยุคปัจจุบันไม่เคยเห็นมาก่อน เมื่อสนามแม่เหล็กโลกเริ่มเปลี่ยนแปลงผันผวน แรงโน้มถ่วง ลาวา การเคลื่อนตัวของเปลือกโลก ก็ผันผวนผิดปกติ

    ท้องฟ้า

    ๑. ฟ้าจะคำรามติดต่อกันนานแทบทั้งวัน เพราะการปลดปล่อยประจุไฟฟ้าสถิตย์ในชั้นบรรยากาศที่สะสมมาเนื่องจากสนามแม่เหล็กโลกผันผวนหนัก

    ๒. กลางวันมืดหลายวัน เพราะมีแสงน้อย มีเมฆสีเทาเข้มปกคลุมบังดวงอาทิตย์เป็นเวลานานติดต่อกันหลายวัน

    ๓. เมื่อเข้าถึงเวลากลางคืน ๒ ทุ่ม ถึง ๓ ทุ่ม บางวันก็ยังไม่มืด ยังสว่างเหมือนเวลา๔-๕ โมงเย็นปกติ

    ๔. มองเห็นสิ่งแปลกปลอมบนท้องฟ้า จำพวกวัตถุบินได้ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

    พื้นแผ่นดิน

    ๕. มีสัตว์บางชนิดที่อาศัยใต้ดินลึก ที่มนุษย์ไม่เคยเห็นมาก่อนขึ้นมาให้เห็น รูปร่างหน้าตาสัตว์เหล่านี้ไม่มีในพจนานุกรมสัตว์โลกที่เคยอ่านกัน เพราะไอกำมะถัน ไอร้อนจากก๊าซใต้เปลือกโลกดันตัวขึ้นมา บ้างก็สัตว์บางตัวก็มีชีวิตได้ไม่นาน บ้างก็ขึ้นมาตาย

    ๖. มีแผ่นดินไหวเป็นระลอกใหญ่ ต่อเนื่องกันทุกมุมโลก

    ทะเลมหาสมุทร


    ๗. มีสัตว์บางชนิดที่อาศัยใต้ทะเลมหาสมุทรในระดับที่ลึกมาก ที่มนุษย์ไม่เคยเห็นมาก่อนขึ้นมาให้เห็น รูปร่างหน้าตาสัตว์เหล่านี้ไม่มีในพจนานุกรมสัตว์โลกที่เคยอ่านกัน เพราะไอกำมะถัน ไอร้อนจากก๊าซใต้เปลือกโลกดันตัวขึ้นมา บ้างก็สัตว์บางตัวก็มีชีวิตได้ไม่นาน บ้างก็ขึ้นมาตาย

    ๘. มีแผ่นดินไหวใต้ทะเลระดับที่รุนแรงจนมีซึนามิหลายประเทศในเวลาที่ใกล้เคียงกันหลายจุดในโลก

    แต่อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์เหล่านี้ที่จะเกิดขึ้น อาจจะยังนานอีกหลายปี หรือเป็นระยะเวลาอันใกล้ที่จะถึง ทุกอย่างในโลกล้วนมีความผันแปรไม่มีอะไรเที่ยงแท้ ผู้มีปัญญาควรไม่ประมาทในการใช้ชีวิต ควรศึกษาธรรมะ รักษาศีล ทำทาน มอบความรักเมตตาอารีย์เพื่อนมนุษย์ หมั่นละลดอัตตาตัวตน ดูแลรักษาธรรมชาติให้ดี เพราะสิ่งที่จะเกิดขึ้นดังกล่าว มนุษย์ยุคเราอาจได้เห็น และอยู่ในช่วงเวลาที่จะข้ามผ่านเหตุการณ์เหล่านี้ ด้วยกัน

    เหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นอนาคตโดยลำดับ

    -สงครามสู้รบกลางเมืองปะทะกันทางอุดมการณ์ทางการเมืองไทย
    -สงครามระหว่างประเทศมหาอำนาจแถบเอเชีย ที่ปะทุจากประเทศเล็ก
    และ/หรือ อุบัติเหตุความผิดพลาดจากการทดลอง ทางเทคโนโลยีชั้นสูงที่ควบคุมปฏิกิริยาการแตกตัวไม่ได้แถบยุโรป
    -แกนโลกพลิกเปลี่ยน Pole Shift

    แกนโลกพลิกเปลี่ยน Pole Shift

    โลกมนุษย์คล้ายผลส้มกลมๆ ห่อหุ้มด้วยชั้นบรรยากาศ ที่มองไปแล้วขอบฟ้าห่างเท่ากันรอบทิศ เมื่อจังหวะพลิกเปลี่ยนเป็นเวลากลางวันในเอเซีย จะรู้สึกพื้นที่ยืนอยู่เอียงไปราวๆ 10-15 องศา ท้องฟ้าด้านนึงจะกว้าง อีกด้านตรงข้ามจะแคบ จะสังเกตเห็นได้ชัด แล้วพลิกเอียงกลับระดับเดิม

    ถัดจากนั้นไม่ถึง 5 นาที แผ่นดินไหวรุนแรง ระดับความรุนแรงสูงสุดนี้ไม่เคยมีมาก่อน ศูนย์กลางของแผ่นดินไหว ไม่ได้อยู่แถบเอเชีย

    จังหวะการพลิกเอียงครั้งแรก ทำให้สร้างแรงน้ำในมหาสมุทร ไหลทะลักคืนสู่แผ่นผืนทวีปที่มีระดับความสูงมากกว่าตึก 10 ชั้น แถบพื้นที่ใกล้ทะเลแล้วลดหลั่นไป ตามระยะทางหลายสิบกิโลเมตร แต่เนื่องจากแผ่นดินไหวตามมา จึงทำให้คนตกใจลงมาจากตึกสูง ทำให้เจอกับคลื่นที่ไหลทะลักเข้ามา เขื่อนเก็บน้ำบางแห่งก็แตกมีน้ำทะลักท่วมเข้ามาเสริม

    คนที่รอดจะต้องข้ามผ่านความมืดอีกหลายวัน พร้อมกับความหิว ความตื่นตระหนก ความหวาดระแวง ความกลัว ความเสียใจเสียขวัญ ตาเปล่าสามารถเห็นวิญญาณและสัตว์ร้ายโลกวิญญาณได้บางขณะ บางคนต้องเสียสติจากความสูญเสียความพลัดพรากจากคนที่รัก และความตื่นกลัว... คนที่ครองสติได้ดี คอยดูแลและปลอบประโลมทุกข์โศก ให้แก่คนรอบข้าง ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มพวกที่มีอินทรีย์แก่กล้า ผ่านการเพาะบ่มประสบการณ์ธรรมะมามากแล้ว

    เกือบสัปดาห์ผ่านไป ชีวิตใหม่จึงเริ่มต้นพร้อมแสงสว่าง อากาศบรรยากาศใหม่พร้อมการเปลี่ยนแปลง เชิงชีวภาพของร่างกายคนและสัตว์ ให้อายุยืนยาวกว่ายุคก่อนหน้า ลมหายใจใหม่ ความหวังใหม่ บางเกาะทวีปเล็กที่ผุดขึ้นมาจากแผ่นน้ำใกล้ๆ กลางอ่าวไทย....

    เนื้อหาดังกล่าวมาจากผู้ที่เคยผ่านประสบการณ์ในอดีต ที่มีการเปลี่ยนผ่านในรอบอดีตมาครั้งสองครั้ง เป็นความรู้เพื่อบรรเทาความสูญเสีย และให้พลังในการล่วงรู้เพื่อข้ามผ่านเหตุการณ์อนาคตอย่างมีสติ แต่ปัจจุบันนี้สิ่งที่เกิดขึ้นมีเพียงในกายและจิต ของผู้อ่านเท่านั้น จึงควรฝึกฝนสังเกตตัวนี้ไปก่อน


    attachment.jpg

    ภาพจารึกภัยพิบัติของชนพื้นเมืองชาวมายา และเรื่องราวต่างๆศึกษาหาได้จากตำนานของบรรพชนคนโบราณบันทึกไว้ใน เรือโนอาร์(ไบเบิ้ล), ตำนานการหนีน้ำของกิลกาเมซ(เมโส-โปเตเมีย), พระมนู(อินเดีย), ตำนานบันทึกของทวีปมู-รีมูเลีย ซึ่งเป็นช่วงยุคเวลาใกล้เคียงกันคือ ๑๐,๐๐๐-๑๓,๐๐๐ ปีล่วงมาแล้ว

    http://www.unigang.com/Article/10125
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มีนาคม 2018
  13. kareena

    kareena สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2006
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +3
    อ่านเมื่อไรก็มีสติขึ้นเมื่อนั้นค่ะ
     
  14. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,420
    ค่าพลัง:
    +3,195
    ค่ะท่านไร้กรอบ แกนโลกพลิกกลับขั้วที่จะเป็นเหตุสำคัญเพื่อที่จะเข้ายุคพลังงานใหม่ หรือยุคศิวิไลย์ที่ว่านี้ยังไม่ได้เกิดขึ้นค่ะ แต่ยังไงก็ต้องเกิดค่ะ เพราะ....ข้อมูลดังต่อไปนี้ค่ะ ว่ามีการขยับแนวแกนแม่เหล็กโลกจากกรณีที่โลกเกิดภัยพิบัติต่าง ๆ ทั่วโลกที่เป็นระยะเวลาเกือบ 30 ปีที่ผ่านมานับจากปีเริ่มต้น พ.ศ. 2535 ได้ขยับไปจากเดิม 1 องศา จาก 23.5 องศา เบี่ยงเบนไป เป็น 24.5 องศา ขยับไปแล้ว 1 องศาแล้ว เป็นข้อมูลจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้สื่อกล่าวไว้เพื่อแจ้งเตือนล่วงหน้าไว้ว่า แนวแกนแม่เหล็กโลกได้เบี่ยงเบนไป 1 องศาแล้ว และตรงกับองค์การ NASA ที่ได้เจอแหล่งข้อมูลจากองการค์นาซ่าก็ออกมายืนยันว่า แนวแกนแม่เหล็กโลกขยับเบี่ยงเบนไป 1 องศาจริง เป็นข้อมูลตรงกันกับที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์แจ้งเตือนไว้ค่ะ แต่ ณ เวลาปัจจุบันนี้เข้าไปค้นหาการขยับของแนวแกนแม่เหล็กโลกว่าเบี่ยงเบนอยู่ที่องศาเท่าไหร่แล้ว หาข้อมูลไม่เจอเลยค่ะ

    นับจากเกือบระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา แนวแกนแม่เหล็กโลกที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์สื่อไว้ว่า จะต้องเบี่ยงเบนไปจากเดิม 8.5 องศา หรืออยู่ที่ 32 องศากับแนวดิ่ง แกนหมุนรอบตัวเองของดาวเคราะห์โลกใหม่ คือ 32 องศาแนวดิ่ง แทนที่แนวแกนโลกปัจจุบันที่อยู่ 23.5 องศา ที่กำหนดให้อยู่แนวนั้นนับระยะเวลาหลายหมื่นปีที่ผ่านมาแล้ว (มุมเอียงของแกนโลกมีการแกว่งเป็นคาบที่แน่นอนประมาณ 41,000 ปี โดยมีมุมเอียงอยู่ระหว่าง 22.1 – 24.5 องศากับระนาบโคจร โดยเป็นผลรวมของแรงต่างๆที่เปลี่ยนไปตามคาบการโคจรของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดาวเคราะห์อื่นๆ ทั้งในและนอกสุริยจักรวาลของเรา โดยปัจจุบัน มุมเอียงของโลกเราอยู่ที่ 23.4 องศา และอยู่ในช่วงลดลง หรือตั้งฉากกับระบบสุริยะมากขึ้น ข้อมูลจากพันทิป)

    เมื่อแนวแกนแม่เหล็กโลกเริ่มขยับเปลี่ยนแปลงไปจริงจากเดิมที่กำหนดไว้ในหลายหมื่นปีที่ผ่านมา ก็แสดงว่าโลกกำลังจะกลับพลิกขั้ว และกำลังดำเนินการอยู่ ณ ขณะนี้ ถ้าการเบี่ยงเบนไปครบอยู่ที่ 32 องศาแนวดิ่งเมื่อไหร่ ตรงนั้นคือ สัญญาณการเกิดปรากฎการณ์โลกพลิกกลับขั้วของจริงค่ะ

    ตามกำหนดของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้แจ้งไว้ หากแนวแกนแม่เหล็กโลกเบี่ยงเบนไปอยู่ที่ 32 องศาแนวดิ่งแล้ว ตรงพิกัดตำแหน่งนี้จะเป็นกำหนดเวลาที่ส่วนโค้งของโลกจะเริ่มบดบังแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ได้เหมาะเจาะอย่างพอดีอีกด้วย

    ดังนั้นวันแรกแห่งการชำระความในกรณีชำระโลกครั้งใหญ่ที่มนุษย์จะสังเกตุมายาได้ก็คือ ฟ้าจะมืดสลัวลง ผิดปกติ จากนั้นจะเริ่มที่โลกจะม้วนตัวตีลังการครบ 1 รอบ นั้นคือ โลกจะเริ่มพลิกกลับขั้วตีลังกาม้วนกลับที่เรียกว่า
    แกนโลกพลิกเปลี่ยน Pole Shift ตรงที่แนวแกนโลกอยู่ที่ แนวดิ่ง 32 องศานี้แหละค่ะ ที่เป็นตัวชี้วัด ส่วนจะกินระยะเวลากี่วัน ที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์แจ้งไว้ว่า การตีล้งกาหนึ่งรอบจะใช้ระยะเวลา 30 วัน จะเปลี่ยนแปลงไปจากเหตุปัจจัยหรือไม่ ตามที่ ข้อความด้านล่างนี้หรือไม่ ก็ยากจะคาดเดาค่ะ


    และตอนนี้รอเวลาว่าแนวแกนโลกของเราจะเบี่ยงเบนไปอยู่ที่ 32 องศาแนวดิ่งเมื่อไหร่เท่านั้นเองค่ะ


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มีนาคม 2018
  15. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,420
    ค่าพลัง:
    +3,195
    งง! กันไหมค่ะ ข้อมูลนี้ไม่มั่นใจเลยค่ะว่า จะมีสิ่งศักดิ์ดูแลอยู่หรือเปล่า แต่ก็ยังเชื่อมั่นอยู่ลึก ๆ ค่ะ เพราะแก้ไขข้อความแล้วโพสไม่ได้ ต้องออกไปสู่หน้าใหม่ก่อนและกลับเข้ามาโพสที่แก้ไขหายไป เหลือแต่ข้อความที่ปรากฎขึ้นตามนั้นค่ะ
    สื่อที่ได้แจ้งไว้ในหนังสือ ของ อ.ปริญญาปี 2554

    และกลับมาเปิดกระทู้นี้ดูอีกครั้ง ก็มีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น เมื่อข้อความนี้ยังอยู่ทั้ง ๆ ที่ได้ลบออกไปแล้วแต่ปรากฎว่ายังไม่หายไปยังอยู่เหมือนเดิม และ เมื่อเวลาประมาณตีหนึ่งหนึ่งได้ฝันเห็นสีแดงค่ะ

    แต่ที่จริงเรื่องอะไร ๆ ที่ไม่เป็นเหตุ ไม่เป็นผลไม่ค่อยอยากจะนำมาลงเลยค่ะ แต่เมื่อได้เกิดเหตุและผลตามนี้ ก็ถือว่าเป็นข้อมูลสำหรับเอาไว้พิจารณาก็แล้วกันค่ะ
     
  16. ทอนเงิน

    ทอนเงิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +708
    ขอบคุณแม่ชีจิตยิ้มที่มาไห้ความรู้ครับ
     
  17. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,420
    ค่าพลัง:
    +3,195
    เราได้ยินเกี่ยวกับเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์กล่าวเรื่องสนามแม่เหล็กโลก และ แก่นใจกลางแม่เหล็กโลก ที่เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดภัยพิบัติ เนื่องจากมีจิตใจมนษย์เป็นเงื่อนไขสำคัญ ที่อาจจะทำให้โลกและจักรวาลต้องล้มทั้งระบบเหมือนโดมิโน่

    ข้อความนี้โดนใจค่ะ

    ใครเคยไปแกนโลก ใจกลางของโลกลึกแค่ไหน แล้วนักวิทยาศาสตร์รู้ได้ไงว่ามันเป็นหินหลอมเหลว ?

    https://pantip.com/topic/33649834

    ก็เลยสงสัยนักวิทยาศาสตร์โลกได้ใช้เครื่องขุดเจาะชนิดใดลงไป และมีความลึกประมาณเท่าไหร่ และเมื่อขุดเจาะได้ในระดับนี้และรู้ได้อย่างไรว่า ใจกลางแก่นโลกเป็นอย่างไร?

    https://www.dek-d.com/board/view/1962152

    ข้อมูลที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์สื่อไว้

    แก่นแท้ใจกลางดาวเคราะห์โลก ต้องการประจุบวกจากสิ่งมีชีวิตทั้งหลายไปทำปฏิกริยาทางไฟฟ้ากับอนุภาคประจุลบของอ๊อกซิเจนเหลวบริสุทธิ์ 100% ที่มีลักษณะสีเขียวปีกแมลงทับ ที่อยู่ลึกลงไปในใจกลางโลก

    อนุภาคประจุบวกที่สิ่งมีชีวิตบนพื้นผิวโลกผลิตกันสร้างขึ้น จะแทรกซึมผ่านชั้นดินและหินลงสู่ใจกลางโลกเพื่อสร้างปฏิกิริยาทางไฟฟ้ากับอนุภาคประจุลบของอะตอมออกซิเจนเหลวบริสุทธิ์ จนก่อให้เกิดการระเบิดแตกตัวของอะตอมออกซิเจนนี้น ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จากกระบวนการนี้ ก็คือ การหลุดออกจากแก่นแท้ของอะตอมออกซิเจนแล้วแทรกซึมผ่านชั้นหินและสู่พื้นผิวโลกและฟุ้งกระจายไปในชั้นบรรยากาศอย่างกว้างขวาง นอกจากนั้นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นอีกประการหนึ่งก็คือ การแพร่กระจายของสนามแม่เหล็กซึ่งถูกเหวี่ยงจากภายในออกมาภายนอกอย่างต่อเนื่องจากการระเบิดแตกตัวของออกซิเจนในใจกลางโลกนั้นด้วย

    ถ้าหากมนุษย์และสิ่งมีชีวิตทั้งหลายบนพื้นผิวดาวโลกดวงนี้ ต่างกันช่วยหยิบยื่นพลังด้านบวกให้แก่กัน เพื่อช่วยผลิตสร้างประจุไฟฟ้าบวกให้แก่แก่นแท้ของโลกได้อย่างเต็มประสิทธิภาพแล้ว อำนาจแม่เหล็กโลกที่จะเกิดขึ้นก็ย่อมสมดุลเพียงพอหรือไม่ขาดความสมดุลอย่างแน่นอน

    mag2.gif

    สนามแม่เหล็กโลกจึงเป็นสนามพลังงานของดาวเคราะห์โลกที่เป็นเครื่องบ่งชี้ขอบเขตของระบบดาวเคราะห์โลกได้เป็นอย่างดี

    ความสำคัญของระบบโครงข่ายสนามแม่เหล็กโลก
    ๑.เป็นถนนที่รูปธรรมทางพลังงานจิตวิญญาณต่าง ๆ ใช้ในการเดินทางเข้าออกระบบโลกสู่สนามพลังงานอื่น ๆ ภายในเอกภพอันไพศาลนี้ ซึ่งมนุษย์ต่างดาวก็อาศัยเส้นแรงแม่เหล็กโลกเป๊นเส้นทางคมนาคม ถ้าระบบโครงข้ายไม่สมดุล คือ ค่อนข้างไปทางต่ำกว่าหกหมื่นกิโลเมตรจากพื้นผิวโลก จะทำให้ดาวเคราะห์โลกเชื่อมโยงกับโครงข่ายสนามพลังงานอื่นไม่ได้ หรือด้อยประสิทธิภาพ
    ๒.เป็นผู้นำคลื่นจิตของมนุษย์เพื่อติดต่อสื่อสารภาษาสากลกับรูปธรรมอื่น ๆ และติดต่อสื่อสารกับองค์ความรู้ใด ๆในสากลจักรวาล หากระบบโครงข่ายไม่สมดุลหรือด้อยประสิทธิภาพ การสื่อภาษาจิตระหว่างกันในระบบโลกเอง หรือกับเพื่อนต่างเผ่าดาวของมนุษย์ และการสื่อสารกับองค์ความรู้ผู้สูงส่งทั้งหลาย
    ๓.เป็นรั้วป้องกันจากผู้แปลกปลอมที่ดีที่สุดของระบบดาวเคราะห์โลก ถ้าดาวเคราะห์โลกมีระบบสนามแม่เหล็กโลกห่อหุ้มไว้อย่างมั่นคง อำนาจสนามแม่เหล็กโลกจะสามารถผลักใสวัตถุผู้เป็นแขกไม่ได้รับเชิญให้เบี่ยงเบนออกไปมิให้เล็ดลอดเข้ามาในระบบโลกได้ ขยะจักรวาลที่เคลื่อนตัวเข้ามาด้วยความเร็วสูงเหล่านี้จะเกิดการเสียดทานกับสนามแม่เหล็กโลก จนก่อให้เกิดความร้อนสูงจนลุกไหม้หมดสิ้นหรือเกือบหมดก่อนที่มันจะตกกระทบสู่พื้นผิวโลก ซึ่งมันไม่สามารถทำอันตรายใด ๆ ต่อทุกสรรพสิ่งในระบบโลกได้เลย

    หากปล่อยให้มนุษย์โลกยุคพลังงานเก่า ร่วมกันสั่นสะเทือนตนเองอย่างไร้จิตสำนึกกันมากขึ้น โดยมิได้นำโอวาทและสัจธรรมของพระศาสดาที่ทรงมากล่าวสื่อสอนเพื่อสร้างสติและความมีสำนึกที่ถูกต้องต่อมวลมนุษยชาติที่หลงมิติกันอยู่อย่างงมงายในแต่ละยุคสมัยที่ผ่านมาแล้ว ป่านนี้ดาวเคราะห์โลกและทุกสรรพสิ่งคงมิมีสิ่งใดเหลือไว้ให้มนุษย์ยุคพลังงานใหม่ได้เห็นกันอีกแล้ว เหตุเพราะมนุษย์เป็นตัวการทำให้การเสียสมดุลเกิดขึ้น แล้วในที่สุดมันก็จะมิมีสิ่งใดเหลืออยู่อีกเลยนั่นเอง

    ข้อมูลใด ๆ ที่เป็นความรู้ใหม่ที่เป็นส่วนสำคัญได้มาจากการถ่ายทอดจากองค์จิตจักรวาลดวงใหญ่ เป็นวิธีการถ่ายทอดในระบบจิตสู่จิตกรณีพิเศษในยุคที่โลกเกิดจากบกพร่องทางจิตสำนึกอย่างรุนแรงเท่านั้น โดย อ.ปริญญา ตันสกุล

    ใครเคยท่องบทสวดมนต์บทนี้กันใหมค่ะ บทมงคลจักรวาฬใหญ่ ที่ขึ้นต้นว่า สิริธิติมะติเตโชชะยะสิทธิมะหิทธิมะหาคุณาปะริมิะปุญญาธิการัสสะฯ บทนี้ที่เป็นบทสำคัญของมนต์ที่มีไว้ในหนังสือสวดมนต์ของเราชาวพุทธบทหนึ่ง น่าจะต้องมีที่มาที่ไปค่ะ

    เราทุกคนปารถนาอยากให้มนุษย์โลกของเราเสียหายน้อยที่สุด และ ปลอดภัยกันมากที่สุดจากภัยพิบัติการสั่นสะเทือนโลกในครั้งนี้ค่ะ จึงนำมาให้พิจารณากันค่ะ
     
  18. ทอนเงิน

    ทอนเงิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +708
    ยุคเฟสยุคไลน์นี่ละครับคุณทอดกรอบ
     
  19. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,420
    ค่าพลัง:
    +3,195
    ยังอยู่ในช่วงคาบเกี่ยวระยะปลาย ๆ ของยุคพลังเก่าอยู่ค่ะ เราทุกคนในโลกจึงมีประสบกับการทอดกรอบใกล้ ๆ จะเกรียม ๆ กันทุกคนเนื่องจากสภาวะอากาศที่ร้อนขึ้นเรื่อย ๆ ที่โลกจะก้มหัวลงใกล้กับดวงอาทิตย์มากขึ้น และ จากการยกระดับพลังงาน ซึ่งต่อไปนี้ถ้า คลื่นพลังงานระดับ 7 ที่ถูกปลดปล่อยมาจากจุดดับในดวงอาทิตย์ เป็นผลลัพธ์ค่าพลังงานที่ต้องใช้เพื่อการนี้ คาดว่าทั้งดวงอาทิตย์และดวงจันทร์จะต้องใช้พลังงานของตนเองไป 1 ใน 3 ของแต่ละดวงเลยทีเดียว ผลลัพธ์อันเกิดปฏิสัมพันธ์กันของคลื่นพลังงานในมิติคู่ขนานนี้ เป็นไปในทำนองเดียวกันกับพลังงานรวมด้านบวกจากจิตสำนึกของมนุษย์นั่นเอง

    อย่างไรก็ดี การคำนวณค่าพลังงานของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ ที่กระทำต่อโลกข้างต้นนี้เพื่อจะชี้ให้เห็นเป็นรูปธรรมว่า เพียงแค่ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ใช้พลังงานที่ตนมีอยู่ เพียง 1 ใน 3 เพื่อกระทำต่อโลกมันจะก่อให้เกิดผลรวมทางพลังงานจำนวนมหาศาลทีเดียว การสิ้นเปลืองไปกับพลังงานที่กระทำแก่โลก ที่จักรวาลได้ตัดสินในเพื่อยกระดับความสมดุลที่สอดคล้องกับพลังงานยุคใหม่ หรือยุคศิวิไลย์ ซึ่งการยกระดับพลังงานของดาวเคราะห์โลกให้สูงขึ้นครั้งนี้ ทำให้ดวงจันทร์บริวารของโลกและดวงอาทิตย์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางของระบบสุริยะ มีระดับพลังงานลดลงไปมาก การจัดระบบองค์กรให้สมดุลของจักรวาล จำเป็นต้องลดจำนวนมวลของดาวเคราะห์โลกให้น้อยลงไปจากเดิมด้วย ระบบจักรวาลจึงสมดุลต่อไป ผลจากที่ได้รับในการกระทำในครั้งนี้ที่มนุษย์สามารถจะสัมผัสรู้ได้คือ

    ส่วนที่เป็นภาคพื้นดินจะหายไป 1 ใน 3 ส่วนจากที่มีอยู่ มนุษย์จำนวน 1% ที่มีอยู่จะจบชีวิตลงทันทีกับปรากกฎการณ์ทางธรรมชาติ หรือมากกว่านั้นถ้าหากมนุษย์อยู่ในความประมาท ตลอดช่วงระยะเวลาที่ได้รับพลังงานเพื่อการนำโลกเข้ายุคศิวิไลย์ เพื่อให้ความสมดุลให้แก่โลกแล้ว มันจะวิปริตแปรปรวนและเป็นเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะสิ้นสุด ทุกอย่างจึงจะสงบลงดังเดิม

    มนุษย์ต้องรู้เวลาว่า บัดนี้จะละเลยเหลวไหลต่อไปอีกไม่ได้แล้ว ถ้าอยากอยู่รอดปลอดภัยเพื่อก้าวไปพร้อมกับโลกสู่ยุคพลังงานใหม่ท่กำลังจะมาถึง ในอีกไม่นานนี้

    สิ่งศักดิ์สิทธิ์เตือนว่า...จงเลิกคิดแบบจิตมนุษย์ จงค้นหาสติปัญญาอันเป็นพลังอำนาจในตนเองให้พบ ด้วยการเลิกงมงายและไม่อยู่ใต้การชี้นำหรือบงการของผู้อื่น จงเร่งกำจัดกรรมของตนเองด้วยการตัดสินใจกระทำต่อผู้อื่นให้ถูกต้อง และจงทำให้จิตสำนึกของตนเองสั่นสะเทือนด้วยพลังงานแห่งความรัก มอบให้แก่โลกและทุกสรรพสิ่ง เพื่อสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกันให้จงได้ ...มันยากเย็นแสนเข็ญมากเลยใช่ไหมค่ะ สำหรับผู้ที่ไม่ได้ปฏิบัติกรรมฐาน หรือ ถึงแม้ปฏิบัติก็ยังรู้ความคิด เห็นอารมณ์ ยังไม่ได้ เพราะส่วนใหญ่คนเราจะเห็นอารมณ์เป็นอัตตา

    ชอบคำสื่อของสิ่งศักดิ์สิทธิ์อาจโดนใจใครหลายคน เช่น

    จงเป็นฉลาดคิด รู้จักเลือกคิดแต่สิ่งที่มีประโยชน์ในการเพิ่มพูนภูมิรู้และภูมิปัญญาของตนเองเอาไว้เสมอ จงอย่ากระทำตนเป็นคนคิดไม่เลือก ห้ามความคิดตนเองไม่ได้ มันจะทำให้เกิดความสับสนและความเครียด บดบังสติปัญญาที่แท้จริงของตนไว้ ซึ่งร่างกายจะพลอยเสียสมดุลไปด้วย (ใช่เลยค่ะ ตนเองพิสูจน์เห็นด้วยตนเอง)

    หากมีหลายเรื่องที่จำเป็นต้องขบคิดตัดสินใจ จงจัดเรียงลำดับความสำคัญของปัญหาก่อนหลังให้ได้ แล้วหยิบมันมาคิดทีละเรื่อวตามลำดับที่ได้จัดไว้ ไม่นำทุกเรื่องมาผสมปนเปกันจนบอกตนเองไม่ได้ว่า กำลังคิดเรื่องอะไรกันแน่

    ฝึกมีสติ มนุษย์พึงรู้ว่า การฝึกให้มีสติหรือตื่นตัวตลอดเวลานั้น หากว่ายังไม่สามารถปฏิบัติได้ตลอดเวลา เพียงแค่ฝึกตนเองให้รู้เท่าทันอารมณ์รู้สึกและการนึกคิดให้ได้ เพื่อกาาควบคุมมันไว้ไม่ให้สั่นไหวไปกับสิ่งเร้าใด ๆ ที่มากระทบ โดยเป็นนายเหนืออารมณ์รู้สึกและการนึกคิดของตนเองให้จงได้ หากควบคุมได้โดยสิ้นเชิงเท่ากับว่ามนุษย์มีสติแล้ว ถ้าสามารถครองสติได้ยาวนาน ไม่ว่าจะอยู่ในอิริยาบถใดหรือกำลังทำอะไรอยู่ก็ตาม จักรวาลเรียกว่ามนุษย์กำลังเข้าถึงสมาธิเบื้องต้นได้แล้ว

    การมีสติ จึงหมายถึง การเป็นนายเหนืออารมณ์รู้สึกนึกคิด อันเกิดจากจิตใจของตนเองได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ฝืนใจ ไม่เก็บกดอารมณ์ใด ๆ เอาไว้ภายใน จนเกิดอาการโปร่งโล่งเบาสบายเพราะจิตนิ่งแม้มีสิ่งใดมากระทบก็ไม่สั่นไหวไปกับมัน

    นำมาฝากเพิ่มค่ะ เพราะสติสำคัญมาก ที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้สื่อไว้ให้ฝึกการมีสติไว้ มิฉะนั้นสติอาจแตกได้กับมหันตภัยทางธรรมชาติจากการยกระดับคลื่นความถี่สนามแม่เหล็กโลกนั้น ที่ผ่านมาได้เผยถึงเคราะห์ภัยทางธรรมชาติที่มนุษย์ต้องเผชิญกันในวันไกล้ ๆ ซึ่งกำลังคืบคลานเข้ามา มันจะทวีความรุนแรงและความถี่ในการเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ สูงขึ้นเรื่อย ๆ ชนิดที่มนุษย์ไม่อาจประมาทได้เพียงกะพริบตาเลยทีเดียว
     
  20. karokwat

    karokwat นารายณ์ ❤️ ลักษมี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2016
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +317
    ความจริงแล้ว ผมสามารถ แจ้งเวลาที่แน่นอนกับทุกคน ที่จะเข้าสู่ยุคใหม่ได้นะคับ แต่อยากให้คุณจิตรยิ้ม ลองถามสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดู ว่าให้ผมสามารถแจ้งเวลาให้ทุกคนทราบได้รึยัง.. สำหรับตัวผมนั้น เดือนนี้เป็นต้นไป พร้อมอยู่แล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มีนาคม 2018
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...