เทวะโองการ

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย อารยเมตตรัยพุทธเจ้า, 17 ธันวาคม 2004.

  1. อารยเมตตรัยพุทธเจ้า

    อารยเมตตรัยพุทธเจ้า บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    เทวะบัญชา เทวะโองการ โองการแช่งฟ้า กำสรวลสวรรค์ โองการแช่งน้ำ

    เทวะบัญชา เทวะโองการ โองการแช่งฟ้า โองการแช่งน้ำ กำสรวลสวรรค์ ถูกกำหนดขึ้นมานมนานแล้ว นับตั้งแต่ครั้งยังไม่อุบัติจิตของแม่พระธรณี มีเพียงความมืดมิด ซึ่งความมืดมิดก็คือ จิตของผู้เฒ่าศักดิ์สิทธิ์ นั่นเองต่อมาผู้เฒ่าศักดิ์สิทธิ์ รู้สึกว้าเหว่เงียบเหงา อ้างว้างและเดียวดาย ไม่มีเพื่อนพูดคุยด้วย จึงกำหนดจิตเนรมิตอุบัติจิตธรรมขึ้นมาเป็นจิตเช่นกัน จิตทั้งสองอยู่ร่วมกันมานมนาน เปรียบเสมือนสามีภรรยาคู่หนึ่ง ครั้งนั้นผู้เฒ่าธรรมและศักดิ์สิทธิ์ ร่วมกันคิดคำนึงถึง การสร้างมนุษย์ขึ้นเพื่อเป็นเพื่อนพูดคุย ภายหลังจากนั้นจึงได้กำหนดจิตหยั่งรู้ล่วงหน้าพบว่าในอนาคตกาลล้วนสับสนวุ่นวายจึงได้บัญญัติ ข้อห้ามปฏิบัติ ข้องพึงปฏิบัติ ข้อควรงดเว้น ไว้เป็น เทวะบัญชา ร้อยเรียงไว้ใน พุทธบัญญัติ เทวะโองการ รวมทั้งโองการแช่งฟ้า ได้ถูกกำหนดขึ้นเพื่อเป็นอุทาหรณ์สอนใจเหล่าสาธุชนทั้งหลายดังนี้.-

    โองการแช่งฟ้า

    เมื่อครั้งพุทธกาลนานมาแล้วนับตั้งแต่ก่อนสร้างโลกสร้างจักรวาลบรรดาเหล่าสารถีทั้งหลายขององค์เทพผู้ยิ่งใหญ่ อิทิเช่น ครุฑ นาก ยักษี ยักษา มหาวายุ (วานร) ทั้งหลาย ล้วนอุบัติขึ้นมาก่อนที่จะอุบัติองค์อินทร์ที่เป็นอมตะจิต ได้เกิดการรบราฆ่าฟันกันหนักหนาสาหัสยิ่งนัก บรรดาเหล่ายักษา ยักษี ครุฑา มหาวายุ ทั้งหลายล้วนถูกฆ่าฟันตายไปจนหมดสิ้นเหลือเพียงพระอินทร์ซึ่งบังเอิญได้ดื่มน้ำอมฤทธิ์จากยอดเขาพระสุเมร บังเกิดเป็นอมตะจิตขึ้นมา แท้ที่จริงแล้วบรรดานิยายปรัมปราทั้งหลายที่มวลหมู่มนิษยโลก ได้ยินได้รู้ได้รับฟังล้วนเป็นความจริงแต่อุบัติขึ้นมานานก่อนสร้างโลกสร้างจักรวาล เดิมทีบรรดาเหล่ายักษี ครุฑา นาก มหาวายุ(พญาวานร) ทั้งหลายล้วนมีอยู่จริงแต่มิอาจอยู่ได้นานเท่าพระอินทร์ผู้ซึ่งดื่มกินน้ำอมฤทธิ์จากยอดเขาพระสุเมรุ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาบรรดาเหล่ายักษี ยักษา พญานาก ครุฑ พญาวานร ทั้งหลายล้วนหมดอายุขัย ซึ่งบรรดาทวยเทพ พญายักษ์ พญาครุฑ พญานาก พญาวานร ทั้งหลายเหล่านั้นล้วนมีอายุขัยที่แน่นอนคือ 1 โกฏิ (1 โกฏิ คือ 1,000,000 กัป 1 กัป คือ 1,000,000 ปี) แท้ที่จริงแล้วก่อนหน้านั้นหาใช่มีจริงไม่เพียงแต่ อรรถาธิบาย (อธิบาย) ไว้เพื่อปูแนวทางให้พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ที่กลับมาอุบัติเป็นพระศรีอารย์ ได้นำกลับมาตรัสรู้เพื่อให้ทราบที่มาของการสร้างโลกสร้างจักรวาล (หมายเหตุ ถ้อยคำทั้งหลายเหล่านี้ข้าพเจ้าบันทึกไว้เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2547 เหตุผลที่พระผู้สร้างพุทธพจน์กับข้าพเจ้าว่าหาใช่มีจริงไม่ เนื่องเพราะเรื่องราวทั้งหลายเหล่านั้นยากยิ่งที่จะเชื่อถือได้ ต่อมาภายหลังข้าพเจ้าจึงได้รับทราบความจริงทั้งสิ้น เมื่อข้าพเจ้าสามารถแยกแยะเหตุผล ค้นหาแหล่งที่มาทั้งสิ้นหมายถึงค้นหาต้นกำเนิดของกฎแห่งกรรม ด้วยการสอบถามด้วยจิตกับพระผู้สร้างทั้งสิ้นข้าพเจ้าจึงรับทราบความจริงที่เร้นลับ มืดมนมานานแสนนานร้อยเรียงไว้ในบทความเรื่อง
     

แชร์หน้านี้

Loading...