เที่ยว"พุทธมณฑลสงกรานต์" สรงน้ำพระพุทธรูปจาก9วัด

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 12 เมษายน 2006.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,172
    [​IMG]<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    หลวงพ่อมั่น

    </TD></TR></TBODY></TABLE>วันสงกรานต์ถือว่าเป็นวันขึ้นปีใหม่ตามธรรมเนียมไทย และเมื่อวันสงกรานต์เวียนมาถึงในทุกๆปี พวกเราชาวไทยก็จะร่วมกันทำหน้าที่ของพุทธศาสนิกชนที่ดี ประกอบกิจกรรมทางพุทธศาสนา เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตและชำระล้างจิตใจให้บริสุทธิ์ตามคติความเชื่อของคนไทยโบราณ

    การที่ประเพณีสงกรานต์ของไทยยังถือปฏิบัติและสืบทอดมาจนถึงทุกวันนี้ได้ เป็นเพราะความหมาย คุณค่าและสาระที่แฝงอยู่ ทั้งคุณค่าต่อครอบครัว เพราะนอกจากวันที่ 13 เมษายนจะเป็นวันสงกรานต์แล้ว รัฐบาลได้กำหนดให้เป็นวันผู้สูงอายุแห่งชาติ เพื่อให้ลูกหลานได้แสดงความเคารพและความกตัญญูต่อผู้สูงอายุและผู้อาวุโส ทำให้เกิดความรัก ความผูกพัน ภายในครอบครัว

    และยังมีคุณค่าต่อสังคม เพราะวันสงกรานต์เป็นวันที่ก่อให้เกิดความสมัครสมาน การพบปะสังสรรค์เพื่อทำบุญร่วมกัน ร่วมเล่นน้ำสงกรานต์ด้วยจิตมิตรไมตรีอันดี อีกทั้งมีการทำบุญ ตักบาตร สรงน้ำพระ เหล่านี้ล้วนแต่เป็นคุณค่าต่อศาสนาและถือเป็นการสืบทอดพุทธศาสนา รวมถึงเป็นการปฏิบัติที่นำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ชีวิต

    แต่ด้วยสังคมที่แปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลา และการรับวัฒนธรรมแบบตะวันตกเข้ามา ทำให้วัฒนธรรมไทยอันดีงามที่เปรียบเสมือนสายใยความผูกพันอดีตกับปัจจุบัน กำลังจะถูกลบเลือนไปอย่างช้าๆ

    นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รักษาการรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในนามของรัฐบาล และคณะผู้จัดงาน "พุทธมณฑลสงกรานต์ เบิกบานทั่วไทย" รัฐบาลเห็นความสำคัญที่จะอนุรักษ์วัฒนธรรมที่ดีงามไว้ จึงจัดงานพุทธมณฑล สงกรานต์ เบิกบานทั่วไทย 2549 ขึ้นมา ดังนั้นเพื่อเป็นการยกระดับมาตรฐานประเพณีสงกรานต์ ซึ่งเป็นประเพณีอันดีงามของเมืองพุทธให้สืบจรรโลงต่อไป

    รัฐบาลและสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจึงได้ริเริ่มให้มีการจัดงาน "พุทธมณฑล สงกรานต์ เบิกบานทั่วไทย 2549" ณ ถนนอักษะและพุทธมณฑล ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานสงกรานต์ในปีนี้ อันเนื่องมาจากถนนอักษะ หรือที่หลายคนรู้จักกันในนามถนนอุทยานตั้งอยู่ใกล้กับพุทธมณฑล ซึ่งเป็นถนนที่มีสถาปัตยกรรมอันวิจิตรงดงามแบบไทย และเป็นเสมือนถนนสายสัญลักษณ์แห่งพระพุทธศาสนา รวมถึงเป็นสถานที่สำคัญในการประกอบกิจกรรมทางพุทธศาสนามาอย่างต่อเนื่อง

    อีกทั้งถนนอุทยานยังเป็นถนนที่กว้างขวางและได้รับการขนานนามว่ามีความสวยงามที่สุดในประเทศไทย และยังเป็นถนนที่ได้รับพระราชทานชื่อจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งนับเป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้เฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่ไทย และเป็นการร่วมเฉลิมฉลองมหามงคลสมัยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ในเดือนมิถุนายนที่กำลังจะมาถึง บนถนนสายสำคัญ ในบรรยากาศสวยงาม ร่มเย็นแบบวิถีพุทธร่วมกัน

    ทางรัฐบาลจะส่งเสริมให้จัดกิจกรรมนี้ขึ้นทุกๆปีเพื่อสืบสานขนบธรรมเนียม ประเพณีและวัฒนธรรมไทยที่ดีงามเอาไว้

    ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จึงวางแผนงานพุทธมณฑล สงกรานต์ เบิกบานทั่วไทย ขึ้นให้มีกิจกรรมนี้อย่างต่อเนื่องในปีต่อๆไป เพื่อเป็นการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมที่ดีงาม อีกทั้งยังเป็นการปลูกฝังให้เด็ก เยาวชน และประชาชนชาวไทยได้ตระหนักถึงความสำคัญของวันสงกรานต์ว่าเป็นประเพณีที่งดงาม อ่อนโยน เอื้ออาทรโดย การให้เกียรติซึ่งกันและกัน โดยใช้น้ำเป็นสื่อในการเชื่อมความสัมพันธไมตรี และซึมซับวิถีชีวิตไทยที่มีมาแต่โบราณเพื่อให้เข้าใจถึงคุณค่า ความหมาย และสืบสานประเพณีไทยที่งดงามให้คงอยู่ รวมถึงเป็นการส่งเสริมให้ชาวไทยและชาวต่างชาติที่มาเยือน ได้รับทราบถึงขนบธรรมเนียมของประเพณีสงกรานต์ไทยอย่างแท้จริง ที่มีความเกี่ยวข้องกับศาสนาพุทธจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตชาวไทย

    การจัดงานในครั้งนี้ รัฐบาลได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ทั้งจากภาครัฐและเอกชน ซึ่งกิจกรรมต่างๆที่จะมีภายในงานพุทธมณฑล สงกรานต์ เบิกบานทั่วไทย 2549 จะครอบคลุมทั้งด้านพิธีการ เช่น สรงน้ำพระพุทธรูปจาก 9 วัด ได้แก่ หลวงพ่อแก้ว วัดแก้ว, หลวงพ่อเพชร วัดแก้วฟ้าจุฬามณี, หลวงพ่อพลอย วัดแพรก, หลวงพ่อเงิน วัดรัศฎาธิษฐาน, หลวงพ่อทอง วัดกาญจนสิงหาสน์,

    หลวงพ่อมั่น วัดมณฑป, หลวงพ่อคง วัดสมรโกฏิ, หลวงพ่อผลบุญ วัดท่าพูด และหลวงพ่อสัมฤทธิ์ วัดเวตะวันธรรมาวาส

    ซึ่งล้วนเป็นพระพุทธรูปสำคัญเก่าแก่ที่ประชาชนชาวไทยนับถือมาตั้งแต่สมัยโบราณ มาให้ประชาชนชาวไทยได้สักการบูชาและสรงน้ำพระเพื่อเป็นสิริมงคลในวันขึ้นปีใหม่ไทย วันที่ 12 เมษายน ประกวดขบวนแห่, วันที่ 13 เมษายนตักบาตร, รดน้ำขอพร

    และนอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสงฆ์และงานรื่นเริงตามขนบธรรมเนียมแห่งพุทธศาสนามากมาย อาทิ วันที่ 12 เมษายน 2549 เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป เชิญชมขบวนแห่ประเพณีสงกรานต์ 4 ภาค, พิธีการเปิดงาน, การแสดงแสงสีเสียงและคอนเสิร์ต ในวันที่ 13 เมษายน 2549 เวลา 07.30 น.ขอเชิญร่วมทำบุญตักบาตรครั้งยิ่งใหญ่ แด่พระสงฆ์ สามเณร 999 รูป ฟังบรรยายธรรม สรงน้ำพระพุทธรูปสำคัญ 9 วัด มาติกาบังสุกุลแก่บรรพบุรุษ ที่ล่วงลับ และเล่นน้ำสงกรานต์แบบสืบสานวัฒนธรรมไทย เพื่อสร้างความเพลิดเพลินให้กับผู้ที่มาร่วมงาน ตลอดจนชาวต่างชาติที่ได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้เรียนรู้และซึมซับความงดงามของศิลปวัฒนธรรมไทยและรับความสนุกสนานในคราวเดียวกัน

    ขอเชิญประชาชนที่สนใจเข้าร่วมงาน ร่วมแต่งกายแบบวิถีไทย เพื่อร่วมสืบทอดประเพณีที่งดงาม
     

แชร์หน้านี้

Loading...