เปลี่ยนลิ้นหัวใจด้วยเทคนิคสวนหัวใจ การผ่าตัดที่ไม่ต้องเปิดหน้าอก

ในห้อง 'ลงประกาศ ซื้อ-ขาย หรือทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย sher'am, 1 พฤศจิกายน 2016.

  1. sher'am

    sher'am สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2016
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +1
    ด้วยความเปลี่ยนแปลงของสภาพสังคมในปัจจุบัน ทำให้คนไทยจำนวนไม่น้อยต้องเผซิญกับความเครียด รวมทั้งการรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยไขมันและเกลือ ทำให้ตอนนี้คนไทยส่วนหนึ่งกำลังถูกคุกคามจากโรคร้ายที่ชื่อว่า “โรคหัวใจ” ซึ่งถือว่าเป็นโรคร้ายอีกโรคนึงที่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆของประชากร โดยสถิติจากองค์การอนามัยโลกระบุว่า โรคหัวใจคร่าชีวิตคนทั่วโลกถึงปีละ 17 ล้านรายต่อปี

    หัวใจเป็นอวัยวะที่เป็นกล้ามเนื้อ ถ้าเปรียบเทียบกับเครื่องจักรที่เราเห็นกันอยู่ทั่วไป มันก็คงทำงานเหมือนเครื่องปั้มน้ำ โดยมีหน้าที่สูบฉีดโลหิตไปยังอวัยวะต่างๆทั่วร่างกาย โดยในแต่ละวันที่เรามีชีวิตอยู่ ดังนั้นจึงเป็นอวัยวะที่ต้องดูแลกันให้ดี เพราะความผิดปกติอาจซ่อนอยู่ และแสดงอาการเมื่ออายุมากขึ้น ทุกอย่างเสื่อมลง แต่ในปัจจุบันนั้นโรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพได้เตรียมความพร้อมด้วยเทคนิคการซ่อมหรือเปลี่ยนลิ้นหัวใจแบบไม่ต้องผ่าตัดเปิดหน้าอก (TAVI/TAVR) เพื่อทำการรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจ ซึ่งเป็นวิธีที่เพิ่มความแม่นยำและปลอดภัยเพื่อผู้ป่วยสูงวัยที่มีอัตราความเสี่ยงในการรักษาสูง

    “สังคมในปัจจุบัน ได้เปลี่ยนเป็นสังคมของผู้สูงอายุมากขึ้นเรื่อยๆ โรคของความเสื่อมตามวัย ก็จะปรากฎมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน หนึ่งในโรคต่างๆเหล่านั้น คือ หลอดเลือดและลิ้นหัวใจเสื่อมสภาพ กรอบ แข็ง หมดความยืดหยุ่น และมีไขมัน หินปูนเกาะ ทำให้ลิ้นหัวใจไม่สามารถเปิดหรือปิดไม่สนิท ส่งผลให้เกิดภาวะลิ้นหัวใจตีบรุนแรง ซึ่งพบได้บ่อยในลิ้นหัวใจเอออร์ติก คือ ลิ้นหัวใจที่กั้นระหว่างห้องล่างซ้ายและหลอดเลือดแดงใหญ่ ทำให้ไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้อย่างพอเพียง มีผลให้เกิดอาการเหนื่อยง่าย อ่อนกำลัง หน้ามืดเป็นลมได้บ่อยๆ หัวใจจึงต้องทำงานหนักขึ้นในการสูบฉีดเลือด ทำให้ผนังหัวใจหนาตัว ซึ่งนำไปสู่ภาวะหัวใจวายในที่สุด” นายแพทย์ระพินทร์ กุกเรยา หัวหน้าอายุรแพทย์หัวใจ โรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพ กล่าวไว้

    “จากการติดตามผู้ป่วยกลุ่มนี้พบว่า ผู้ป่วยกว่า 80% ที่ได้รับการรักษาด้วยยาเพียงอย่างเดียว จะเสียชีวิตภายในระยะเวลา 3 ปี ส่วนผู้ป่วยที่ยังมีชีวิตอยู่ จะอยู่ด้วยความยากลำบาก ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ โดยผู้ป่วยกลุ่มนี้มักจะมีโรคประจำตัวอื่นๆร่วมด้วย เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ถุงลมปอดเสื่อมสภาพ เป็นต้น ทำให้มีโอกาสเสียชีวิตจากการผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจด้วยการเปิดหน้าอกสูงมาก และเพื่อให้ผู้ป่วยกลุ่มนี้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถดำรงชีวิตอยู่กับครอบครัวและบุตรหลานได้อย่างมีความสุข จึงมีการพัฒนาวิธีการรักษาโดยการเปลี่ยนลิ้นหัวใจแบบไม่ต้องผ่าตัดเปิดหน้าอก ซึ่งใช้สายสวนหัวใจที่มีลิ้นหัวใจเทียมอยู่ปลายสายสอดเข้าไปทดแทนลิ้นหัวใจเดิมที่ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ เพื่อให้หัวใจสามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆของร่างกายได้ตามปกติ” นายแพทย์หัวหน้าอายุรแพทย์หัวใจไว้กล่าวเพิ่ม

    อีกทั้งนายแพทย์โกสินทร์ ทัพวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโสศัลยแพทย์หัวใจและทรวงอก โรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพได้อธิบายเพิ่มเติมว่า TAVI เป็นหัตถการที่เปลี่ยนลิ้นหัวใจโดยสายสวนโดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ เป็นหัตถการที่เหมาะกับผู้ป่วยสูงอายุที่มีอายุประมาณ 80 ปีขึ้นไป และผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงกับการผ่าตัดสูง ผู้ป่วยที่มีลิ้นหัวใจตีบมากๆ ผู้ป่วยที่ปอดไม่ดี ผู้ป่วยที่เคยทำผ่าตัดหัวใจมาก่อนแล้ว ผู้ป่วยที่มีเส้นเลือดใหญ่แข็งมากๆ ผู้ป่วยประเภทนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีลิ้นหัวใจกั้นระหว่างหัวใจช่องล่างซ้ายกับหลอดเลือดแดงใหญ่ หรือที่เรียกว่า ลิ้นหัวใจเอออติก (Aortic Valve), ผู้ป่วยที่ไม่มีทางเลือก, ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว หรือการรักษาที่ยากซับซ้อนมากขึ้น เนื่องจากแต่เดิมผู้ป่วยมักไม่ได้รับการผ่าตัด เพราะมีความเสี่ยงที่จะผ่าตัด โดยสามารถสรุปจากที่นายแพทย์โกสินทร์อธิบายได้ดังนี้

    หลักการผ่าตัดของ TAVI
    การผ่าตัดของ TAVI เป็นการใช้ลิ้นหัวใจแบบเนื้อเยื่อยึดติดอยู่กับขดลวดพิเศษที่สามารถม้วนให้เล็กเพื่อเข้าไปอยู่ในท่อเล็กประมาณ 8-10 มิลลิเมตรของระบบนำส่ง (Delivery system) จากนั้นก็สอดระบบนำส่งไปตามหลอดเลือดแดงบริเวณขาหนีบไปยอดของหัวใจห้องล่างซ้าย ไปจนถึงตำแหน่งของลิ้นหัวใจเอออติกส์ จากนั้นจึงทำการปล่อยตัวลิ้นหัวใจที่ม้วนอยู่ออกมาจากระบบนำส่ง ซึ่งจะทำให้ลิ้นหัวใจกางออก กลายเป็นลิ้นหัวใจอันใหม่ โดยที่ผู้ป่วยจะมีแผลเล็กๆ บริเวณขาหนีบทั้ง 2 ข้าง หรือบริเวณหน้าอกด้านซ้ายหรือด้านบนของหน้าอกข้างขวา

    ข้อดีของการรักษาด้วย TAVI

    ผู้ป่วยจะมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น, ร่างกาย ฟื้นตัวเร็วขึ้น เพราะความเจ็บปวดที่แผลน้อย เนื่องจากไม่ต้องผ่าตัดเปิดหน้าอก และการดมยาลดน้อยลง รวมถึงความเสี่ยงในการรักษาลดลง ภาวะแทรกซ้อนน้อยลง เช่น ติดเชื้อ ไตวาย และมีโอกาสเสียชีวิตน้อยลง

    แต่ที่สำคัญกว่านั้นสิ่งสำคัญที่ไม่ต่างจากเทคนิคและประสบการณ์ของแพทย์คือ อุปกรณ์และเครื่องมือที่ทันสมัย โรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพเลือกทำการรักษาด้วย TAVI ในห้องผ่าตัดไฮบริด (Hybrid OR) ซึ่งเป็นการนำศักยภาพของห้องสวนหัวใจและห้องผ่าตัดหัวใจและเส้นเลือดมารวมกันไว้ในห้องเดียวเพื่อใช้ในการผ่าตัดร่วมกับการสวนหัวใจ โดยใช้เครื่องเอกซเรย์ที่สามารถปรับมุมและเคลื่อนตัวได้ 360 องศา พร้อมระบบการนำภาพเอกซเรย์แบบ Flex move Heart Navigator และ Software Heart Navigator ซึ่งสามารถถ่ายภาพหัวใจได้ทุกมุมอย่างละเอียด เพื่อให้แพทย์กำหนดและชี้จุดในการผ่าตัดหรือทำหัตถการแม่นยำ และปลอดภัยมากขึ้น ในกรณีที่ผู้ป่วยมีปัญหาแทรกซ้อนเกิดขึ้นจากการสวนหัวใจ หรือระหว่างใส่ขดลวดเข้าไปในเส้นเลือดใหญ่ ก็สามารถทำการผ่าตัดได้ทันที โดยไม่ต้องย้ายเตียงหรือย้ายห้อง โรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพมุ่งมั่นที่จะนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาสุขภาพและชีวิตให้กับผู้ป่วยโรคหัวใจ ดูแลหัวใจผู้ป่วยอย่างเต็มศักยภาพเพื่อดูแลคุณภาพชีวิตผู้ป่วยที่ดีขึ้น

    ที่มาของข้อมูล: https://www.bangkokhospital.com/hearthospital/en/patient-support/news-and-media/detail/8
     
  2. nutthida

    nutthida สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2016
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +0
    สินเชื่อเงินสดแบบไหนดี ที่ใช่สำหรับเรา (เพื่อการลงทุน)

    ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เงิน ถือเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นมากในการดำรงชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการจะลงทุนเพื่อสร้างกำไรที่เติบโตในอนาคต แต่แน่นอนว่าเงินที่จะใช้ในการลงทุนนั้น ย่อมไม่ใช่เงินน้อยๆ เลย และทางเลือกหนึ่งที่หลายคนเลือก เพื่อให้สมหวังในสิ่งที่ต้องการ ก็คือการขอสินเชื่อเงินสด หรือขอสินเชื่อส่วนบุคคล นั่นเอง ว่าแต่สินเชื่อส่วนบุคคลแบบไหนดีล่ะ ที่จะเหมาะกับเราที่สุด ลองมาดูกัน

    ข้อควรรู้ก่อนขอสินเชื่อเงินสด
    - วางแผนการลงทุน ว่าต้องการจะลงทุนอะไร
    - คำนวณค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ ไม่ว่าจะเป็น ค่าสถานที่ ค่าวัสดุ ค่าเดินทาง หรือค่าจิปาถะต่างๆ ที่จำเป็น
    - เผื่อเงินสำรองไว้ด้วย

    ประเภทของสินเชื่อส่วนบุคคล
    1.รับเงินสดก้อนใหญ่กับ สินเชื่อส่วนบุคคล
    สินเชือประเภทนี้ เป็นสินเชื่อที่คุณจะได้รับเงินก้อนโตไปในทันที แล้วจึงค่อยผ่อนจ่ายทีหลัง โดยจะมีระยะเวลาในการผ่อนจ่ายแบบระยะยาว ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่ขอสินเชื่อส่วนบุคคลไปด้วย แต่สินเชื่อแบบนี้ จะเหมาะกับการกู้ไปเพื่อจ่ายใช้จ่ายค่าใช้จ่ายที่จำเป็นแบบฉุกเฉิน ที่ต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก อย่างเช่นสินเชื่อบ้าน เพื่อการซื้อบ้าน สินเชื่อรถ เพื่อการซื้อรถ เป็นต้น เพราะฉะนั้นควรพิจารณาให้ดีก่อนจะขอสินเชื่อตัวนี้ด้วยว่า คุณจำเป็นต้องใช้เงินในรูปแบบใด และสามารถหาเงินมาผ่อนชำระคืนได้ครบตามกำหนดหรือเปล่า เพราะหากคุณไม่สามารถผ่อนชำระคืนตามกำหนดได้ ก็อาจจะทำให้ดอกเบี้ยบานปลายจนน่าตกใจเลยล่ะ

    2.รับเงินสำรองพร้อมใช้กับ บัตรกดเงินสด
    สินเชื่อประเภทนี้ จะเป็นในรูปของ สินเชื่อหมุนเวียนส่วนบุคคล หรือที่เรารู้จักกันในชื่อว่า บัตรกดเงินสดหรือสินเชื่อเงินสด นั่นเอง โดยสินเชื่อแบบนี้จะมีการกำหนดวงเงินกู้สูงสุดตาม X เท่า ของรายได้ในแต่ละเดือนของคุณ และให้คุณสามารถกดเงินออกมาใช้ได้อย่างอิสระ แต่จะเริ่มมีการคิดดอกเบี้ยทุกครั้งที่คุณกดเงินออกมาใช้ด้วย ซึ่งก็จะเป็นเงินเพื่อใช้สำรองในยามฉุกเฉินได้ดีเชียวล่ะ จะว่าไปแล้ว สินเชื่อหมุนเวียนส่วนบุคคล ประเภทนี้ ก็เหมาะกับการลงทุนไม่น้อยเลย เพราะคุณสามารถกดเงินออกมาใช้จ่ายได้ตลอดเวลาที่ต้องการ ทั้งในยามฉุกเฉินก็สามารถกดเงินออกมาเพื่อใช้สำรองได้อีกด้วย น่าสนใจไม่น้อยเลยใช่ไหมล่ะ

    ต้องการสินเชื่อเพื่อการลงทุน อย่าลืมพิจารณาดูก่อนว่าคุณต้องการลงทุนแบบไหนและต้องใช้เงินลงทุนเท่าไหร่ รวมถึงจะต้องมีเงินหมุนเวียนอยู่ตลอดเวลาหรือไม่ เพื่อที่คุณจะได้เลือกประเภทของสินเชื่อได้ตรงกับความต้องการมากขึ้นนั่นเอง ไงก็ลองพิจารณาถึงความต้องการที่แท้จริงของตัวเองดูนะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...