"เปิดกรุท่ากระดาน"ทางเลือกสุดท้ายของหลวงพ่อวัดต้นลำใย

การหา "ปัจจัย ๒๐ ล้านบาท" อาจจะเป็นเรื่องง่ายสำหรับวัดและนักสร้างวัตถุมงคลในกรุงเทพฯแต่ถ้าเป็นวัดในต่างจังหวัดแล้ว หากเจ้าอาวาสไม่เป็นที่รู้จักของลูกศิษย์ และไม่มีบารมีมากพอกว่าจะได้เงินแต่ละบาท เพื่อสร้างศาสนสถาน เลือดตาแทบกระเด็น

โครงการจัดสร้าง สะพานข้ามแม่น้ำแม่กลองหรือ สะพานบุญสมปรารถนาเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชย์ครบ ๖๐ ปี ซึ่งต้องใช้งบประมาณกว่า๒๐ ล้านบาท ของ พระครูกาญจนกิตตสารเจ้าอาวาสวัดต้นลำใย และเจ้าคณะตำบลบ้านใหม่อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "หลวงพ่อวัดต้นลำใย" ถือเป็นโครงการหนึ่งที่ยากยิ่งสำหรับพระต่างจังหวัด ที่จะเรียกศรัทธาจากญาติโยมได้

อย่างไรก็ตามเพื่อให้สะพานบุญสมปรารถนาสร้างแล้วเสร็จในปี ๒๕๕๐ หลวงพ่อวัดต้นลำใยถึงกับประกาศว่า "หากได้เงินไม่พอ หลวงพ่อจะนำที่ดินมรดกของโยมพ่อและโยมแม่ ที่ได้มอบให้ก่อนถึงแก่กรรม จำนวน ๒ แปลง ซึ่งเป็นที่ดินส่วนตัว ไม่ใช่ที่ดินวัด โดยแปลงแรกจำนวน ๒๐ ไร่ มีต้นไม้ด้วย โดยจะมอบให้ผู้ที่มีจิตศรัทธาถวายเงินให้ ๒ ล้านบาท ส่วนอีกแปลงหนึ่งจำนวน ๕ ไร่ ๒ งาน จะมอบให้ผู้ถวายเงิน ๓ ล้านบาท"

​

จนถึงวันนี้หลวงพ่อวัดต้นลำใยก็ยังขายที่ไม่ได้ ด้วยเหตุนี้เอง ท่านจึง เปิดกรุพระท่ากระดานที่บรรจุกรุไว้เมื่อพ.ศ.๒๕๓๖ โดยก่อเป็นเจดีย์ไว้บริเวณหน้าอุโบสถมหาอุด โดยเชิญนายทหารระดับนายพล ๕ ท่าน ขณะเดียวกันได้นิมนต์เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรีรองเจ้าคณะจังหวัด คณะอำเภอทุกอำเภอ รวมทั้งเซียนพระที่มีชื่อเสียงจากกรุงเทพฯ ไปเป็นสักขีพยาน

หลวงพ่อวัดต้นลำใย บอกว่า การเปิดกรุพระท่ากระดานของวัดในครั้งนี้ เพื่อนำปัจจัยทั้งหมดที่ได้จากการให้เช่าบูชาพระจากกรุดังกล่าว ไปสมทบทุนโครงการจัดสร้างสะพานนี้ ซึ่งมีความยาว๒๑๐ เมตร โดยญาติโยมได้ร่วมทำบุญมากว่า๑๕ ล้านบาท ยังขาดอยู่อีกประมาณ ๕ ล้านบาทเศษ

ทั้งนี้หลวงพ่อวัดต้นลำใยได้ให้เหตุผลที่ไม่สร้างพระเครื่อง รวมทั้งจตุคามรามเทพ เหมือนวัดอื่นๆ ไว้ว่า หากคำนวณเฉพาะส่วนที่เป็นต้นทุน ตั้งแต่ค่าปั๊มจตุคามฯ ค่ากล่อง ค่าพิธีกรรม ค่านิมนต์พระ ค่าทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ ซึ่งเท่าที่ทราบถ้าอยากได้เงิน ๑๐ ล้านบาท จะต้องลงทุนสร้างวัตถุมงคล ๓-๔ ล้านบาท วัดบ้านอกคงไม่มีทุนมากพอที่จะหาเงินมาลงทุนก่อน ที่สำคัญคือ เมื่อลงทุนไปแล้วอาจจะขาดทุนก็ได้ ซึ่งมีวัดหลายแห่งมีข่าวว่าขาดทุนก็มี

​

"อาตมาคิดหาปัจจัยให้ได้อีก ๕-๖ ล้านบาทเท่านั้น คิดขายที่ดินส่วนตัวก็ไม่มีใครซื้อ คิดไปคิดมาก็นึกถึงพระท่ากระดานที่สร้างไว้เมื่องานฝั่งลูกนิมิต ปี ๒๕๓๖ คิดว่าฝังไว้เพื่อเป็นสมบัติของคนรุ่นหลัง มาคิดอีกทีกว่าคนรุ่นหลังจะได้ใช้อาตมาคงมรณภาพไปก่อน เงินทำบุญแม้ว่าจะไม่ได้นำมาสร้างวัด แต่ญาติโยมก็อนุโมทนา เพราะการสร้างสะพานถือเป็นสาธารณสมบัติที่ทุกคนล้วนได้รับประโยชน์ร่วมกัน เงินที่ญาติโยมทำบุญมาถือว่าได้บุญเช่นกัน" หลวงพ่อวัดต้นลำใย กล่าว

อย่างไรก็ตามเพื่อความเข้มขลังและเป็นสิริมงคลของพระท่ากระดาน เมื่อวันเสาร์ที่ ๒ มิถุนายน เวลา ๐๙.๓๙ น. วัดยังจัดพิธีพุทธาภิเษกซ้ำ โดยได้นิมนต์พระจำนวน ๑,๐๘๐ รูป ทั่ว จ.กาญจนบุรี และใกล้เคียงมาเจริญพระพุทธมนต์ โดยมี นายอำนาจผการัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีเป็นประธานจุดเทียนชัย ผู้มีจิตศรัทธาจะร่วมบุญ "สร้างสะพานบุญสมปรารถนา เฉลิมพระเกียรติ" สอบถามรายละเอียดได้ที่โทร.๐-๑๙๒๕-๑๙๙๐, ๐-๓๔๖๕-๘๓๒๐, ๐-๑๑๙๑-๗๖๓๘

​

ความเห็นเซียนพิธีเปิดกรุพระท่ากระดานวัดต้นลำใย เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๐ ตรงกับวันวิสาขบูชา เวลา ๐๙.๓๙ น. มีเซียนพระไปร่วมเป็นสักขีพยาน ๓ คน คือ นายพิศาลเตชะวิภาค หรือ"ต้อย เมืองนนท์" อุปนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย นายนิพนธิ์เฮงเส็ง หรือ"นุ เพชรรัตน์" ผู้จัดพิมพ์หนังสือพระพุทธชินราชอินโดจีน และนายรักษ์ศรีเกตุ แฟนพันธุ์แท้พระเครื่องร่วมเป็นสักขีพยาน

นุเพชรรัตน์ บอกว่า หากกระแสจตุคามฯ ไม่แรง การเปิดกรุพระท่ากระดานของวัดต้นลำใยในครั้งนี้ น่าจะได้รับความนิยมจากผู้เช่าบูชามากอย่างล้นหลาม เพราะหากพิจารณาจากมวลสารซึ่งใช้ตะกั่วเก่าพันปีที่เราถือว่ามีพุทธคุณมีความขลัง และความศักดิ์สิทธิ์ในตัวเองแล้ว พิธีกรรมการปลุกเสกพระท่ากระดานในครั้งนี้ วัดได้นิมนต์พระอาจารย์มากมายหลายองค์ซึ่งมีชื่อเสียงทั้งนั้น มาร่วมพิธีปลุกเสกใหญ่ เช่น หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง, หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม, หลวงพ่อหลิว วัดไร่แตงทอง, หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม, หลวงพ่อลำไย วัดทุ่งลาดหญ้า, หลวงพ่อเล็ก วัดเขาดิน กาญจนบุรี, หลวงพ่อแย้ม วัดสามง่าม นครปฐม ฯลฯ เป็นต้น ด้านต้อย เมืองนนท์ กล่าวว่า พระท่ากระดานของวัดต้นลำใยเชื่อว่าจะต้องเป็นพระยอดนิยมในเร็ววันนี้ เช่นเดียวกับพระท่ากระดาน ของวัดศรีโลหะราษฎร์บำรุง เป็นแน่ นอกจากจะมีพิธีปลุกเสกจากพระเกจิอาจารย์ดังๆ หลายท่าน ที่ถือว่าสุดยอดในปัจจุบันแล้ว พระแต่ละพิมพ์ส่วนใหญ่จะกดพิมพ์ได้คมลึกชัดเจน เนื้อตะกั่วเก่ายังแดงสดสวยงดงามมาก และฐานด้านหน้าองค์พระของวัดต้นลำใยยังได้ปิดทองไว้ทุกองค์

ที่มา

​

 

เรียน สาธุชนผู้ชอบทำการบุญการกุศล ทุกท่าน

วันนี้บุญใหญ่ได้มาถึงท่านแล้ว เพราะวัดต้นลำใยนี้เรารู้จักดี บรรพบุรุษก็นอนอยู่ที่นี่เหมือนกัน

สะพานนี้สร้างมาเพื่อมหากุศลโดยแท้เพราะว่า

1. พระเณรไปได้บิณฑบาตร โปรดสัตว์ฝั่งวังขนายได้สะดวกขึ้น
2. เด็กนักเรียนได้ขี่จักรยานไปโรงเรียนในระยะทางที่สั้นลง
3. ย่นระยะทางเข้าตัวเมืองกาญจน์ได้สิบกว่ากิโลเมตร
4. ชาวบ้านเจ็บป่วยยามค่ำคืนจะได้อาศัย
5. ผู้มีจิตศรัทธามาทำบุญในวัดได้สะดวกจากถนนใหญ่

นับเป็นมหากุศล ทำบุญครั้งเดียว ได้อานิสงค์หลายต่อ เกินคุ้ม สะพานที่มีประโยชน์แบบนี้ นานๆจึงจะมีมาให้ทำบุญกันซะที ต่อไปจะมีผู้มาใช้เป็นอันมาก
จึงป่าวประกาศมาให้ทราบทั่วกัน

ขออนุโมทนา.....สาธุกับผู้มีจิตศรัทธาทุกท่าน

นิพพานัง ปัจจโย โหตุ

 

ขอให้ผู้มีจิตอันเป็นกุศลที่ทราบข่าวนี้ร่วมกันบริจาคทรัพย์คนละเล็กคนละน้อยตามแต่ศรัทธา เพื่อทำบุญสร้างสะพานให้สำเร็จสมดังเจตนารมย์อันดีของหลวงพ่อฯ ด้วยเถิด

 

ขอร่วมโมทนาบุญและร่วมบุญด้วยอีกครั้งหนึ่ง 1500 บาทครับ

สาธุ สาธุ สาธุ