เปิดข่าว*รอยพระพุทธบาทแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ(แห่งที่ 4)ณ วัดทุ่งเศรษฐี(ราม2)+พระธาตุ-สิ่งศักดิ์สิทธิ์

ขออนุโมทนาด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

 

^_^

 

อนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยครับ กับคุณ ฅนเมืองพริบพรี ในข้อความที่เขียนด้านบน

 

โอ้อยู่ข้างหอเอง เดี๋ยวบวชเสร็จแล้วจะกลับมาไหว้นะครับ ^^ สาธุ

 

พอดีว่าวัดอยู่ไม่ไกลจากบ้านผมมากนักมีโอกาส ไปกราบหลวงพ่อเณรท่านอีก
จะเรียนถามถึง
เรื่อง ความสำคัญของพระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าอู่ทอง ปฐมกษัตริย์กรุงศรีอยุธยา(ที่วัด)
ว่ามีความสำคัญและนัยยะ เกี่ยวหลวงพ่อท่านรึเปล่า อย่างที่ผมอยากรู้
(ส่วนท่านจะตอบหรือไม่ก็ไม่เป็นไรครับ)
และถ้าได้อ่านประวัติการอัญเชิญพระหัตถธาตุ พระพุทธเจ้า 5 พระองค์
จะทราบว่า มีพระบรมธาตุ และพระอรหันตธาตุ เสด็จ มาเกาะที่พระหัตถธาตุ
มากมายเสมอมา... เป็นบุญตา บุญใจที่ได้พบจริงๆครับ

 

ประการที่หนึ่ง

ถ้าตามอ่านหนังสือประวัติพระเดชพระคุณหลวงปู่ปาน จะทราบดีที่สุดครับ
โดยเฉพาะ คำสั่งของท่านพระอุปัชฌาย์ และ คำสั่งของพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ ที่ท่านได้มอบไว้ให้กับ หลวงพ่อฯ ทั้ง 2 รูป โดยส่วนตัวคิดว่า ท่านทั้งสองรูปไม่น่าที่จะฝืนคำสั่งของ ครูบาอาจารย์นะครับ

ประการที่สอง

เรื่องนี้ จริง ๆ ไม่อยากจะเขียน แต่ขอให้กลับไปหาหนังสือสมัยพระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ ยังทรงขันธุ์อยู่อ่านดูครับ

ท่าน (พระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ) ได้กล่าวไว้ เมื่อมีผู้ไปกราบเรียนถามถึง พระที่ท่านอ้างว่าเป็น หลวงพ่อฯที่เป็นสหธรรมิกกับท่าน พระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ ได้กรุณาตอบมาว่า "เป็นลิงคนละฝูงกับท่าน"

ถ้าไม่เชื่อใจ ลองถามจากศิษย์รุ่นเก่า ๆ ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ ดูก็ได้ครับ อย่างคุณหมอสมศักดิ์ ฯลฯ เป็นต้น

เป็นที่น่าสังเกตุว่า ถ้าพระ เป็นเพื่อนสหธรรมิกกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ ท่านจริง ทำไมท่านถึงกล่าวเช่นนี้ ?

เรื่องนี้ ก็จะต่อเนื่องจากข้อข้างบนที่ผมบอกไปครับ ก็ลองตรองดูเองแล้วกันครับ

ผมให้ข้อมูลแค่นี้ครับ

 

ถ้าอ่านหนังสือเกี่ยวกับ ประวัติของ หลวงพ่อฯ ทั้ง 2 องค์ แล้วจะทราบว่า

พระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ เคยกล่าวถึง ชื่อ ของท่านทั้งสองไว้ คือ

- หลวงพ่อฯ (น้อม)

กับ

- หลวงพ่อฯ (สวัสดิ์)

ซึ่ง ไม่ได้มีชื่อไหน ที่เกี่ยวกับ "ช่อ" ตามรูปที่มีการอ้างว่า เป็น หลวงพ่อฯ ทั้ง 2 องค์ที่เป็น สหธรรมิก กับ พระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ แต่อย่างใดครับ


สุดท้ายนี้ กระผมก็ต้อง ขอขมาต่อองค์พระรัตนตรัย ที่ได้ เอ่ยชื่อของ หลวงพ่อฯ ทั้งสองท่านด้วยครับ

 

ขอบคุณมากๆครับ ที่ให้ข้อมูล เป็นความรู้ จะก็รับฟังเสมอครับ
เราก็เคารพบูชาครูบาอาจารย์ทุกท่าน ครับเป็นที่สุด เช่นเดียวกัน
ถ้าคุณหรือใครยังสงสัยอยู่(รวมถึงตัวผมเองเช่นกัน-เพราะได้รับข้อมูลใหม่เพิ่ม
แต่ก็ไม่ได้แย้งกัน อาจจะเรียกว่าเสริมๆกันดีกว่า พยายามทำใจ เป็นกลางๆไว้ ครับ )
ก็ไปที่วัดไปเรียนถามหลวงพ่อท่านเองนะครับ
เรื่องนี้เป็นอันให้ข้อมูลแค่นี้ครับ...

สิ่งใดถ้าลูกได้ปรามาสพระรัตนตรัยและครูบาอาจารย์ไปด้วยเจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี
ขอขมาโทษต่อ พระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ ครูบาอาจารย์ ทุกพระองค์ ไว้ ณ ที่นี้ด้วย
โมทนากับคุณเด็กเมื่อวานซืนด้วยครับ มีโอกาสไปกราบพระธาตุและรอยพระพุทธบาท เป็นสิริมงคลนะครับ

 

อย่าเคืองกันเลยนะครับพี่ธี อิอิ
พอดีผมทราบข่าวจากพี่โย ตอนเย็น เวลา 5 โมงเย็นแล้ว
เลยรีบเดินทางไปในทันที ถึง วัด 6 โมงเย็น จะชวนตอนไหนล่ะครับพี่

โมทนา ด้วยเถอะจ้า ไว้ไปกันใหม่ พี่

 

ผมขอยกข้อควาที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ เคยเขียนไว้มาให้อ่านกันนะครับ

".....

ครั้นเมื่อไปบ้านคุณสมบูรณ์ (คุณสมบูรณ์ เวสารัชชานนท์ : จังหวัดจันทบุรี ) จริง ๆ เกิดถ่ายจริง ๆ ตั้ง ๑๐ ครั้ง มันก็ไปไม่ไหว และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อรถเลี้ยวเข้าห้วยสะท้อน เห็นป้ายเขาเขียนบอกว่า ที่วัดหนองกุยจะมีเทศน์ภาณยักษ์ทรงเครื่อง และมีการเป่ายันต์มหาเกราะเพชร โดยฤาษีลิงขาว ฤาษีลิงดำ และสามเณรน้อย จังหวัดอ่างทอง


เมื่ออ่านป้ายเข้าก็ตกใจ การเป่ายันต์มหาเกราะเพชร บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย เขาเป่ากันอย่างไร ถ้าเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อปานจริง ๆ จะเป่าได้เฉพาะเสาร์ห้าเท่านั้น คำว่า เสาร์ห้า ก็หมายความว่า ขึ้น ๕ ค่ำของเดือนนั้น จะเดือนอะไรก็ได้ ไม่ใช่เดือนห้า ต้องเป็นข้างขึ้น และก็ ๕ ค่ำ จึงเป่าได้ ฉะนั้นการไปคราวนั้นไม่ใช่เสาร์ห้า ถ้าอาตมาไปในงานนี้ ถ้าบังเอิญไม่ป่วยนะ ความจริงที่ไม่ไปเพราะป่วย และก็ถ้าหากว่าไม่ป่วยก็คงไปไม่ได้เหมือนกัน เพราะการเป่ายันต์ฯ ไม่ใช่เสาร์ห้า อาตมาไป อาตมาก็เสียก็ถือว่า เป็นคนลบหลู่ครูบาอาจารย์ที่สอนมา โดยเฉพาะหลวงพ่อปานเอง ท่านก็เป่าเฉพาะเสาร์ห้าเท่านั้น วันอื่นท่านไม่เป่า

หลังจากนั้น วันรุ่งขึ้น วันที่ ๑๙ ไปที่วัดเขาไผ่ วัดเขาไผ่นี่ไปได้เพราะอะไร เพราะว่าผู้ใหญ่จุ๋มนี่รู้เรื่องกันดี เพราะว่าไปที่นั่น ไม่มีงานทำ เพราะว่าไปถึงแล้วก็นั่งที่เดียว และก็มีคนมาทำบุญกัน ผู้ใหญ่จุ๋มก็ไม่รบกวนว่า หลวงพ่อต้องไปทำโน่น ต้องไปทำนี่ ไม่อย่างนั้นเราจะนั่งตรงไหน เราก็นั่งของเรา ผู้ใหญ่จุ๋มก็ไม่กวน ตามใจทุกอย่าง ฉะนั้นเมื่อไปนั่งอย่างเดียวก็ไปได้ แต่หนองกุยนี่ คงไม่ได้นั่งอย่างเดียวแน่ เพราะท่านจะเกณฑ์ให้เป่ายันต์เกราะเพชร

 

."......

ฉะนั้น การที่วัดหนองกุยเขียนป้าย มีชื่ออาตมาไปเป่ายันต์เกราะเพชร ไม่ใช่วันเสาร์ห้า อาตมาก็ไปไม่ได้ ถึงแม้ว่าไม่ป่วย ก็ไปไม่ได้ ทั้งนี้เพราะว่า ไม่ใช่วันเสาร์ห้า


และอีกประการหนึ่ง การเป่ายันต์เกราะเพชรตั้ง ๓ องค์ นี่จะเป่ากันอย่างไร ฤาษีลิงขาวอยู่ข้างหน้า ฤาษีลิงดำรอง แล้วเณรเล็กรอง ถ้าว่ากันทางโลกแล้ว ทางอาวุโสก็ไม่ถูกต้อง อาตมามีอาวุโสมากกว่าฤาษีลิงขาว ฤาษีลิงขาวนี่ก็คนละฝูง ไม่ใช่ฝูงเดียวกัน ไม่รู้ว่าท่านเกิดมาจากป่าไหน แต่ลิงขาวที่เป็นเพื่อนอาตมานั่นยังอยู่ ยังมีชีวิตอยู่ ยังอยู่ในป่า ไม่ได้ออกมา


แต่ลิงขาวองค์ที่เป่ายันต์เกราะเพชรนี่คนละฝูง แต่ว่าขึ้นชื่อว่าความสามารถ บรรดาท่านพุทธบริษัทจะเหยียดหยามกันไม่ได้ และความสามารถของท่านอาจจะมี และก็ต้องมีด้วย ถ้าไม่มี ท่านก็ทำไม่ได้ ถือว่าในเมื่อไม่ใช่วันเสาร์ห้า อาตมาก็ต้องไม่ไป ถ้าไปก็เสียแน่นอน เพราะว่าใคร ๆ ก็ทราบว่าการเป่ายันต์เกราะเพชรต้องเป็นวันเสาร์ห้า และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาตมาก็เป็นพระที่ท่านตั้งให้เป็นพระราชาคณะ ถ้าเสียก็เสียมากกว่าพระสามัญชนธรรมดา
ก็รวมความว่า บรรดาญาติโยมพุทธบริษัทโดยทั่วหน้า ที่มีความสงสัยว่า อาตมาทำไมจึงไม่ไปวัดหนองกุย ก็โปรดทราบตามนี้ และในที่สุดนี้ อาตมาภาพก็ขอตั้งสัตยาธิษฐาน อ้างคุณพระศรีรัตนตรัย มีพระพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ และสังฆรัตนะ ทั้งสามประการ จงอภิบาลทุกท่าน ท่านเจ้าของบ้านก็ดี ท่านที่มาร่วมทำบุญก็ดี และลูกสาวที่บ้านคลองน้ำใส อำเภออรัญประเทศ อุตส่าห์มาตั้งร้อยกิโลกว่าเอาเทียนมาถวาย เอาทองมาถวายก็ดี และลูกหลานที่รัก ลูกแก้วทางบ้านฉางก็ดี และทุกท่านก็ตาม


อ้างอิงจาก หนังสืออ่านเล่น เล่มที่ 21 ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ ครับ

 

http://palungjit.org/showthread.php?p=366930

กระทู้เก่าก็เคยมีการถามกันมาแล้วครับ

ตรงความเห็นคุณปองจัง นี่ ผมว่าคงจะต้องพิจารณาให้เยอะกว่านี้นะครับ พระระดับอย่าง หลวงพ่อฯ ทั้งสองนี่ ท่านอยู่ป่าไหนก็ได้ครับ ไม่จำเป็นจะต้องเข้ามาอยู่ในเมือง สมัยนี้ ป่าที่ว่าน้อย ๆ ก็ไม่ใช่จะโล่งเตียนไปซะหมด ป่าที่ยังดิบ ยังทึบก็มีอยู่เยอะ

ภูกระดึงที่ว่าโล่ง ๆ ก็ยังมีอีกด้าน ที่เป็นป่าปิด ที่ยังสมบูรณ์มาก ๆ อยู่เลยครับ

 

<TABLE class=tborder id=post1278248 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">14-06-2008, 08:52 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#1 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>tamsak<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1278248", true); </SCRIPT>
ทีม พระไตรปิฏก



เข้ามาครั้งล่าสุด: วันนี้ 01:32 PM
วันที่สมัคร: Sep 2004
สถานที่: Bangkhen, Bangkok
อายุ: 44
ข้อความ: 4,824
ได้ให้อนุโมทนา: 75,744
ได้รับอนุโมทนา 77,555 ครั้ง ใน 4,553 โพส
พลังการให้คะแนน: 6018



</TD><TD class=alt1 id=td_post_1278248 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->ทำไมต้องทำพิธีบวงสรวงในวัน "เสาร์ห้า" ?
<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->ถาม : บวงสรวงทำไมเสาร์ห้า ?

ตอบ : วันเสาร์ห้า ตามสายครูบาอาจารย์ท่านถือเป็นวันไหว้ครูประจำสายของเรา พิธีบวงสรวงก็คือว่า เหมือนกับรำลึกถึงครูบาอาจารย์ ที่มีเมตตากรุณา สั่งสอนพวกเราสืบๆ กันมาจนถึงปัจจุบันนี้ ลักษณะของงานบวงสรวงที่ทำก็ไหว้ตั้งแต่พระพุทธเจ้าลงมาเลย เพราะพระพุทธเจ้าต้องเป็นครูใหญ่อยู่แล้ว

ถาม : ทำไมต้องใช้เสาร์ห้านี้คืออะไร ?

ตอบ : คือวันเสาร์ขึ้นห้าค่ำ ถ้าได้เดือนห้ายิ่งดี ถ้าไม่ได้เดือนห้าเดือนไหนก็ได้แต่ต้องเป็นข้างขึ้นคือ ตามสายครูบาอาจารย์เขากำหนดมาอย่างนั้น

ถาม : ไม่มีเหตุผลเลยเหรอคะ ?

ตอบ : มีซิจ๊ะ แต่ว่าเหตุผลนี้ยิ่งยอมรับยากใหญ่ อย่างเช่น วันเสาร์ห้านี้เป็นวันแข็งวันที่กำลังสูงอยู่ ถ้าทำอะไรผลประโยชน์ก็จะได้มาก

ถาม : ใช่ๆ คือคนนี่ชอบบอกแต่ว่ากำลังสูง วันแข็ง คำว่า “กำลังสูง” คำว่า “วันแข็ง” นี่จริงๆ แล้ว หมายถึงอย่างไร ?

อยู่กับช่วงระยะ จังหวะ เวลา ของการโคจรของดวงดาวเรา ต้องยอมรับว่าโลกของเรามีพลังงาน ดวงดาวทุกดวงมีพลังงานของมันอยู่ จังหวะนั้นวาระนั้นเวลานั้น พลังงานจะหมุนเสริมกันมาสูงกว่า จังหวะอื่น มันเหมือนกับน้ำขึ้นน้ำลง มันขึ้นมันก็ขึ้นเป็นปกติ แต่วันนั้นมันจะขึ้นที่สูงที่สุด อย่างนี้เป็นต้น คราวนี้โบราณาจารย์ที่ท่านมีความรู้ในเรืื่องของโหราศาสตร์หรือว่าดาราศาสตร์ การโคจรของดวงดาวต่าง ๆ ท่านจับเคล็ดตรงนี้ได้ ท่านก็เอาวันอย่างนี้มาเพื่อประยุกต์ใช้งานไป ไม่แจ่มแจ้งประท้วงได้นะ (หัวเราะ)

ถาม : กำลังสงสัยว่าถ้าเกิดพลังงานที่มันได้มาสูงในที่นี้นี่ แล้วเรามีความจำเป็นอะไรจะต้องไปข้องเกี่ยวด้วย ?

ตอบ : ในลักษณะของการข้องเกี่ยว คือว่าวันเสาร์ห้าจริง ๆ เราไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่ว่าเราทำเพื่อสงเคราะห์คนอื่นด้วย อย่างเช่นว่า คณะศิษย์ที่เขาต้องการที่จะให้การช่วยเหลือบางส่วนที่เขายังขาดอยู่ ถ้าหากมันไม่มากจนเกินไป อย่างเช่นว่า น้ำแก้วหนึ่งมีแค่นี้ ถ้ามันขาดอยู่แค่นี้ ถ้าอาศัยตรงจุดนั้นอาจจะเติมเต็มพอดี สิ่งที่เขาตั้งความปรารถนาไว้ก็จะสำเร็จตามนั้น แต่ถ้าหากว่ามันขาดมากๆ ก็ไม่สำเร็จเหมือนกัน

ถาม : เรื่องพูดอย่างนี้ค่อนข้างจะไม่ค่อยเชื่อนะคะ ตรงที่บอกว่าถ้าเราตั้งปรารถนาแล้วเรามาได้ร่วม พิธีตรงนี้นี่จะส่งผลให้เราสมปรารถนา ?

ตอบ : อันนี้เราแค่มาดูในลักษณะของบุคคลทั่วๆ ไปแล้วกัน อย่างเช่นว่า เราอยู่ในตำแหน่งใหญ่ที่ให้คุณให้โทษคนได้ เราจัดงานขึ้นมาแล้ว บริวารเขามา..พูดง่ายๆ มาโชว์ตัวให้เราเห็น โดยปกติทั่วๆ ไปก็ย่อมพอใจว่าเขายังมางานของเรา มันก็จะเกิดความเมตตามากว่าคนอื่่นเขาขึ้น นี่พูดถึงกำลังใจคนทั่วๆ ไปนะ ที่ยังประกอบด้วยอคติเต็มที่เลย

ขณะเดียวกันคนที่ไม่มา เอ๊ะ....นี่มันไม่เห็นหัวกูนี่หว่า ก็เลยกลายเป็นว่า ถ้าถึงเวลาถึงวาระที่จะต้องพิจารณาความดีความชอบหรือต้องช่วยเหลือใคร ก็จะช่วยเหลือคนที่เราเห็นหน้ามากกว่า นี่เปรียบเทียบง่ายๆ อย่างหยาบๆ เลย แต่ว่าอันโน้นของเขามันลึกกว่าเยอะจ้ะ

ถาม : ที่เขาว่า ฟังดูแล้วมันจะขัดกับหลักของกรรม ใช่มั้ยคะ ?

ตอบ : มันไม่ใช่ขัดกับหลักของกรรม จริงๆ แล้วมันตรงไปตรงมา เพราะว่าบุคคลที่เขามาร่วมพิธี เขาต้องทำกรรมดีมาหรือว่าได้มีส่วนอันนั้นมาร่วมกัน เขาถึงได้มาในพิธีนั้น คนอื่นที่นอกสายไปที่เขาไม่เลื่อมใสในตรงจุดนั้นเขาก็ไม่ได้มาร่วมกัน มันไม่ได้ขัดหรอก มันไปด้วยกันเลยแหละ แต่เพียงแต่ว่าของเราเองลืมมองไป

ถาม : คือฟังคำอธิบายขัดกับเรื่องของกรรม ก็เหมือนกับช่วยเหลือเกื้อกูล ?

ตอบ : มันมีอยู่ แต่ว่าลักษณะการช่วยเหลือบอกแล้วต้องขาดน้อย แล้วลักษณะที่ต้องการช่วยนี่ มันก็เหมือนกับว่าเปิดโอกาสให้คนทุกคนได้ แต่ว่าถ้าหากว่าคนนั้นวาระบุญวาระกรรมของเขาไม่ได้ถึงตรงจุดนั้นเขาก็ไม่ได้มาร่วมกัน

ถาม : ฟังดูเหมือนเกี่ยวเนื่องของการยึดบารมีพระเข้ามาช่วยเหลือ ?

ตอบ : จริงๆ แล้วคือใช้ตัวเอง คนที่มาร่วมพิธีเขาจะต้องมีการภาวนาในลักษณะนั้น ทำกำลังใจในลักษณะนั้น ในเมื่อการภาวนาลักษณะนั้น ทำกำลังใจลักษณะนั้น ก็คือการเติมส่วนที่ขาดให้กับตัวเองนั่นเอง ถ้าหากเราอยู่ที่บ้านบอกให้เขาทำสิ่งแวดล้อมมันไม่ชวนให้ทำ

แต่ถ้ามาอยู่ร่วมในพิธีกรรม ซึ่งเขารู้สึกว่ามันขลัง มันศักดิ์สิทธิ์ ความเชื่อมั่นของเขากำลังใจของเขายึดโยงได้ง่าย เขาก็จะทำได้ทำได้ดีด้วย จริงๆ ก็คือตัวของเขาเอง เพียงแต่ว่าพิธีกรรมนั้นเป็นแต่เครื่องโยงเท่านั้นเอง เขาทำของเขาเอง จะไปตะโกนเรียกร้องให้ใครเขาช่วยก็ไม่ได้หรอก นอกจากการแนะนำเฉยๆ อย่าลืมว่าพระพุทธเจ้า ท่านบอกแล้วว่าท่านมีหน้าที่แนะเท่านั้น จะทำหรือไม่ทำอยู่ที่ตัวเรา

ถาม : เรื่องที่เป่ายันต์เกราะเพชรที่บางวัดเขาจะเป่ายันต์เกราะเพชรให้ ?

ตอบ : เขาว่าเขาเป็นลูกศิษย์สายหลวงปู่ปาน แต่ถ้าจะไม่เป่าวันเสาร์ ๕ นี่มันเก่งเกินไป ตามสายหลวงพ่อนี่ต้องเป่าเฉพาะวันเสาร์ ๕ เท่านั้น หลวงปู่ปานท่านก็สั่งนักสั่งหนา พระท่านก็สั่งนักหนาว่า ต้องวันนี้เท่านั้น แต่ปัจจุบันนี้มีหลายสำนักที่ประกาศตัวเป็นลูกศิษย์หลวงปู่ปานบ้าง เป็นลูกศิษย์สายวัดท่าซุงบ้าง บางวัดสามารถเป่ายันต์ได้ทุกเวลาที่เราไปร้องขอ ตั้งขันครูมา ๒๙๙ บาททำให้เดี๋ยวนั้นเลย เก่งขนาดนั้น อาตมาทำไม่ได้ บางวัดก็เป่าทั้งเสาร์ทั้งอาทิตย์มันเกินไป ตำราครูบาอาจารย์ว่าอย่างไรต้องยึดถือตามนั้น คนนอกครูนอกอาจารย์มันเจริญยาก เอาบ้างมั้ย ? ไปเมื่อไหร่เป่าได้เมื่อนั้น ความจริงเขาเก่ง เราต้องรอ บางทีปีทั้งปีไม่มีเสาร์ ๕ ก็ต้องรอปีต่อไปนะ ของเราสู้เขาไม่ได้ของเขาเก่งกว่า




สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เดือนกันยายน ๒๕๔๔
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ



</TD></TR></TBODY></TABLE>
http://palungjit.org/showthread.php?t=133689

 

ดีครับ ข้อมูลจะได้กระจ่าง ครับ และจะได้หายสงสัยกัน
ผมเองได้ข้อมูลมาอย่างนี้ ก็ต้องมาว่ากันไปตามนี้ ครับ
นับถือครูบาอาจารย์แน่นอน อันนี้มิต้องสงสัย ครับ
ไว้มีโอกาสจะไปเรียนถามหลวงพ่อเณร ท่านโดยตรงเลย
ถึงเหตุผลที่ท่านเป่ายันต์เกราะเพชร ในวันนั้น ครับ
ขอบคุณคุณเด็กเมื่อวานซืนมากๆครับ
ถ้าเป็นไปได้ รบกวนคุณโทรไปคุยกับหลวงพี่ประชาหน่อยนะครับ
ทางวัดท่านจะได้ชี้แจงด้วย เกรงว่า คุณโพสต์แบบนี้ คนจะได้เข้าใจด้านเดียวครับ
และปรามาสพระท่านที่วัด ทำใจกลางๆไว้ก่อนจะดีกว่าครับ

ทราบและมั่นใจครับว่า พิธีเป่ายันต์เกราะเพชร ในสายหลวงปู่ปานและลูกศิษย์รุ่นต่อๆมาที่ครอบครู จะต้องเป่ายันต์ในวันเสาร์ 5 (ขึ้น 5 ค่ำ วันเสาร์ )เท่านั้น

แต่ตอนนี้ งดคิดปรามาส พระท่านกันไว้ก่อนนะครับ
ถ้าเช่นนั้น ก็แสดงว่าทางวัดทุ่งเศรษฐีก็
อาจจะเป่ายันต์เกราะเพชร ที่ไม่ใช่สาย หลวงปู่ปาน ก็ได้ ครับ
แต่ท่านก็นับถือหลวงปู่ปาน-หลวงพ่อฤาษีลิงเล็ก-หลวงพ่อฤาษีลิงขาวเป็นครูบาอาจารย์เช่นกัน
ท่านใดจะเป็นเช่นไร ก็เรื่องของท่าน เราทำตัวเรา ใจเราให้ดีที่สุดก็พอ

( ใจไม่ค่อยดีเลย เกรงว่า จะทำให้หลายคนไม่เข้าใจไปปรามาส
ที่จริง กระทู้นี้ โดยตรงจะเกี่ยวกับรอยพระพุทธบาทใหม่และพระบรมธาตุและพระอรหันตธาตุ
เอาเป็นว่า พระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ เคารพไว้สูงสุด
ขอขมาโทษต่อพระรัตนตัรยกันทุกคนนะครับ โดยเฉพาะเราทุกคนที่กล่าวข้อมูลในกระทู้นี้
เพราะเราไม่ได้มีเจตนา ลบหลู่ ท่านโดยทั้งสิ้น

 

อืม ก็ขออนุโมทนา สาธุ ด้วยครับ
..............สิ่งศักดิ์สิทธินั้นมีจริงนะจะบอกให้

 

ภาพแรกบอกว่าวัดทุ่งเศรษฐีสร้างตั้งแต่ปี พศ.2557 ผิดพลาดอ่ะป่าว...ใครช่วยบอกทีค่ะ ว่าทางไปวัดจากถนนศรีนครินทร์จะไปทางไหน...อยากไปนมัสการ ไม่รู้ว่าราม 2 อยู่ตรงไหน ไปไม่ถูก

 

วัดสร้างเริ่ม 2527 ครับ ก็ถูกต้องแล้วนะครับ
ปีนี้ ตรงกับปีเกิดของผม พอดี จำไม่ผิดแน่

ม.ราม 2 วิทยาเขต บางนา ครับ (นั่งรถเมล์ไปได้หลายสายครับ)

จากอนุสาวรีย์ ไป ถึง ม.ราม 2 ก็สาย 139 (ทางด่วน) , 38 ,48 (รอบเมือง)
จากหน้า ม.ราม หัวหมาก ก็ สาย 207 ครับผ่านเส้นถนนศรีนครินทร์ด้วยครับ
และก็มีรถตู้ ไปบ้างอ่ะครับ
ถึงหน้าราม 2 แล้ว สอบถาม คนแถวนั้นได้ ครับ ถ้าจะเดินไปเองก็ได้(ถ้ามีเวลา) นั่งมอเตอไซด์ไป 10-15 บาท ครับ

 

10นิ้วประนมมือของข้าพเจ้า ต่าง ธุปเทียนทอง จักขุของข้าพเจ้าทั้ง2 ต้างดอกบัวปทุมชาติ ขอกราบองค์พระศาสดาทุกๆพระองค์ ด้วยกาย วาจา ใจ อันปราณีต บริสุทธิเป็นพุธโทอานิสง เป็นธงไชยตลอดไป............................................งูขาว

 

อนุโมทนามากๆๆครับ

จะหาโอกาสไปให้ได้เลยถ้าได้ลงกรุงเทพครับ

ได้พระพุทธบาทมาแต่แม่น้ำโขงเชียว ว้าวว...

รอยพระพุทธหัตถธาตุ ไม่เคยเห็นที่ไหน อยากเห็นจังเลย

อนุโมทนาอีกทีครับ

 

ข้าพเจ้าขอร่วมโมทนารอยพระพุทธบาทวัดทุ่งเศรษฐีด้วยค่ะ