(((เปิดตำนานเรื่องราวหลวงปู่พิบูลย์วัดพระแท่น(บ้านแดง)จ.อุดรธานี)))

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย namayti, 29 ตุลาคม 2013.

  1. ปทุมวัน56

    ปทุมวัน56 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +4
    สุดยอดครับ พระบูชาหลวงพ่อพิบูลย์
     
  2. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    ประวัติหลวงพ่อพิบูลย์ (ตอนที่ 23)
    อภินิหารของหลวงปู่ (ต่อ)
    หลวงปู่ลอย ผู้เลื่อมใสศรัทธาหลวงปู่พิบูลย์ ซึ่งหลวงปู่ลอยเคยเป็นผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งแถววัดโพธิ์สมภรณ์ วันหนึ่งควายที่เลี้ยงอยู่ 5-6 ตัวหายไปหาอย่างไรก็ไม่พบจนหมดปัญญาจะหาต่อ จึงไปหาหลวงปู่ทำนายให้ว่าตนเองจะได้ควายกลับคืนมาหรือไม่ หลวงปู่จึงบอกกับผู้ใหญ่บ้านลอยว่า"มันไม่ได้หายไม่ไหน เวลาประมาณบ่ายสามโมงให้ไปที่บ่อน้ำมันจะมากินน้ำที่นั่น"และก็เป็นจริงตามที่หลวงปู่ทำนายไว้สร้างความดีใจ และเลื่อมใสแก่ผู้ใหญ่ลอยมาก ภายหลังผู้ใหญ่ลอยกลับมาบวชพระอยู่วัดโพธิสมภรณ์ ได้ศึกษาประวัติหลวงปู่และบันทึกไว้ที่กุฏิจำลอง บอกประวัติหลวงปู่ และสร้างรูปเหมือนหลวงปู่คล้ายกับการก่อสร้างที่วัดพระแท่น ตั้งอยู่ส่วนหลังของวัดโพธิสมภรณ์ ส่วนหลวงปู่ลอยผู้มีจิตศรัทธา และเลื่อมใสศรัทธาหลวงปู่ได้ตั้งมั่นที่จะอยู่กับหลวงปู่ตลอดไปจึงได้สร้างสถูปไว้เก็บอัฐิของหลวงปู่พิบูลย์ และรูปเหมือนของหลวงปู่พิบูลย์ที่มีอยู่ในปัจจุบันนี้ เมื่อหลวงปู่พิบูลย์มรณภาพแล้วศพหลวงปู่พิบูลย์ก็เก็บไว้ในสถูปเจดีย์ ตรงที่หลวงปู่ลอยได้หล่อรูปเหมือนประดิษฐานไว้ที่หลังวัดโพธิสมภรณ์
    ต่อไปนี้ เป็นทำนายล่วงหน้าของหลวงปู่พิบูลย์ เพื่อให้เป็นแนวความคิดแก่อนุชนคนรุ่นหลัง มีหลายเรื่องที่ท่านบอกไว้แต่ผู้เขียนไม่สามารถจำได้หมด มีคำต่างๆดังนี้ ต่อไปในภายภาคหน้า"ม้าจะมีเขา"ในปัจจุบันก็คือจำพวกรถจักรยานยนต์"เสาจะออกดอก"ปัจจุบันคือ เสาไฟฟ้า"แม่มาร(ผู้ตั้งครรภ์)ออกลูกไม่มีบ้านเรือน"ปัจจุบันต้องไปออกลูกที่โรงพยาบาล"จะไม่มีรอยเท้าของคนเดินดิน" ปัจจุบันคือจะไปไหนมาไหนต้องสวมรองเท้าขึ้นรถ"หญิงอายุไม่ถึง 15 จะเอาผัวมีลูก ข้อนี้ใจความปัจจุบันก็คือแต่งงานกันตั้งแต่อายุ 12-13-14 ปี ดังที่เราเห็นอยู่ในปัจจุบัน"หญิงออกจากบ้านมารท้องกรองน้ำตา"ปัจจุบันคือผู้หญิงไปได้เสียกับผู้ชายพอได้แล้วผู้ชายไม่รับผิดชอบจึงต้องอุ้มท้องร้องไห้กลับมาหาพ่อแม่"ต่อไปต้นกัลปพฤกษ์จะขึ้นกลางบ้าน กลางเมือง" ปัจจุบันก็คือตลาดสด ตลาดนัดเคลื่อนที่มาลงตามหมู่บ้านทุกครึ่งเดือน"ต่อไปหญิงชายจะเหมือนกัน เมื่อมองดูแล้วจะไม่รู้ว่าหญิงหรือชาย เหมือนฝูงนกเขาไม่รู้ว่าตัวผู้ตัวเมีย" ปัจจุบันก็คือหญิงชายแต่งกายเหมือนกัน ไว้ผมสั้นยาวเหมือนกันหมด"แคนวงเดียวหมดลำพอฮ้อย(ร้อยคน)นุ่งผ้าส่อย(ผ้าที่ถูกตัดทำเป็นริ้ว)ผ่าบ้านผ่าเมือง" ปัจจุบันคณะหมอลำใช้แคนอันเดียวแต่คนเป็นร้อย เช่น หมอลำเรื่อง หมอลำซิ่ง และผู้คนจะใส่เสื้อผ้าแหวกหน้าแหวกหลัง นุ่งน้อยห่มน้อย โชว์เนื้อโชว์ตัว สนามพิบูลย์รังสรรค์ที่หลวงปู่ได้ทำไว้นี้ หลวงปู่บอกว่าเอาไว้ดูควายงาม วัวงาม หมายถึง เอาไว้เป็นสถานที่จัดงานรื่นเริงต่างๆ เช่น หมอลำ งานประจำปี"ทางสิบคืนซาว(ยี่สิบ)คืนหย่อ(ย่อ)เป็นคราวมื้อ สิบแม่น้ำซาวแม่น้ำ หย่อเป็นแผ่นดินเดียว แขนสั้นยาวคาวตาลึก อธิบายได้ว่าจะหย่นระยะการเดินทาง เช่น ไปกรุงเทพฯ แต่เมื่อก่อนใช้เวลาเป็นแรมเดือน แต่ปัจจุบันไปเช้าเย็นกลับก็ได้
     
  3. ธีระนะโม

    ธีระนะโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,694
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +6,226
    สวัสดี เช้าวันจันทร์ท่านเจ้าของกระทู้ และผู้ศรัทธาหลวงพ่อ ครับ
    ขอบารมีหลวงพ่อพิบูลย์ ปกปักรักษาคุ้มครองทุกท่านขอให้เจอแต่สิ่งดีๆ.......
     
  4. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    เดินสายบุญหลายจังหวัดครับ...กลับมาแล้ว...มาต่อเรื่องราวของบูรพาจารย์สายบ้านแดงกันต่อครับ...สวัสดีเช่นกันเด้อท่าน"ธีระนะโม"ยาวกันถึงปีใหม่ไทย(สงกรานต์)เลย ขอทุกท่านจงมีความสุข ร่ำรวยๆ แคล้วคลาดปลอดภัย บารมีหลวงปู่พิบูลย์ ตลอดจนพระครูบาอาจารย์ที่ท่านเคารพศรัทธา ได้โปรดคุ้มครองทุกท่านและทุกครอบครัวทุกประการครับ...
     
  5. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    ประวัติหลวงพ่อพิบูลย์ (ตอนที่ 24)
    อภินิหารของหลวงปู่ (ต่อ)
    คำว่าแขนสั้นยาวคาวตาลึก ได้แก่ การสั่งของทางโทรศัพท์ ส่วนคาวตาลึก ได้แก่การดูข่าวสารทั่วโลกทางโทรทัศน์ ส่วนสิบแม่น้ำหย่อเป็นแผ่นดินเดียว คือ การสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเชื่อมต่อกันระหว่างหมู่บ้านกับหมู่บ้าน อำเภอกับอำเภอ จังหวัดกับจังหวัด จนถึงประเทศกับประเทศ หลวงปู่ยังทายต่อไปอีกว่า ถ้าบ้านเมืองไม่มีถนนหนทางเหมือนตาจีวรของพระภิกษุ ตราบนั้นบ้านเมืองยังไม่เจริญเต็มที่ ถ้าสร้างถนนหนทางเหมือนตาจีวรหรือดุจคันนาตามทุ่งนา เมื่อนั้นจึงจะเจริญเต็มที่ "เจ้าผู้เที่ยวทางเวิ้งเหิง(อ้อมไป)ไปมันสิค่ำ มัวแต่เก็บหมากเว้ามันสิซ่า(ช้า)ค่ำทาง" อธิบายได้ว่าการกิจการงานหน้าที่ต่างๆ ไม่อยู่ในกรอบศีลธรรม ทำในสิ่งที่ไม่มีประโยชน์ ไม่พอจะเป็นบุญกุศลได้ พอนานๆ ไปก็จะแก่เฒ่าเสียเวลาบำเพ็ญกุศลอันเป็นประโยชน์ต่อตนเองในภายภาคหน้า ในยามหนุ่มสาวมัวเมาในลาภ ยศ สรรเสริญ ยามแต่เฒ่าเข้าวัดไม่ทันได้ทำบุญกุศลก็ตายก่อน อีกบทหนึ่งว่า "เจ้าผู้ควายบักเลเฒ่านอนซำบ่ฮู่ค่ำ บัดตะเวน(ตะวัน)ค่ำค้อยตัวเจ้าซิอ่าวหา" บทนี้อธิบายว่าคนเกิดมาในเมื่อถึงวัยหนุ่มเป็นสาวหลงมัวเมาสนุกสนานรื่นเริง ลุ่มหลงอยู่กับรูป รส กลิ่น แส สี ลืมวันเดือนปี ไม่ได้บำเพ็ญกุศลคุณงามความดี พออายุแก่เฒ่ามาแล้วจะไปบำเพ็ญประโยชน์ก็ไม่ทันทำให้นั่งคิดนอนคิดคอยความตายเพียงอย่างเดียว "เจ้าผู้ไซหลังหล่าบ่หมานปลาน่ำเพิ่น (คนไปหาปลามาท้ายเพื่อแต่ไม่ได้ปลาเหมือนเพื่อน) ยามฝนถือ(ถูก)แต่น้ำ ยามแล้งถือแต่ลม" บทนี้อธิบายว่าเมื่อเกิดมาเป็นคนไม่ได้บำเพ็ญกุศลคุณงามความดี อันเป็นที่พึ่งของตนในภายภาคหน้า เมื่อเขาจัดงานบุญงานกุศลมัวเที่ยวเล่นสนุกสนานอย่างเดียว ไม่หาบุญหากุศลใส่ตนเอง อันนี้บอกไว้ว่าเป็น "โมฆะบุรุษ" หมายถึงผู้ว่างเปล่าจากประโยชน์เกิดขึ้นมาเสียชาติเกิด อีกประการหนึ่งหลวงปู่ท่านได้แนะนำชาวบ้าน ญาติ โยมว่าบุคคลใดได้บวชลูกบวชหลานเข้ามาอยู่ในพระพุทธศาสนาบุคคลนั้นย่อมได้ชื่อว่าเป็นเครือญาติกับพระพุทธเจ้า ถ้าใครไม่ได้บวชลูกหลานเข้ามาไว้ในพุทธศาสนาย่อมไม่ได้เป็นเครือญาติกับพระพุทธเจ้า บทอีกต่อไปว่าให้ญาติโยมทั้งหลายดูรอยมือรอยเท้า และจดจำรอยมือรอยเท้าของหลวงปู่ไว้ให้ดี....
    พระครูมัญจาภิรักษ์ เจ้าอาวาสวัดพระแท่น(บ้านแดง)องค์ปัจจุบัน
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 เมษายน 2014
  6. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    ประวัติหลวงพ่อพิบูลย์ ตอนที่ 25 (ต่อ)
    อภินิหารของหลวงปู่ (รอยมือรอยเท้าของหลวงพ่อพิบูลย์)
    ญาติโยมบางคนก็ขอดูรอยมือรอยเท้าของท่าน บางคนก็เห็นว่าเป็นรูปดอกจันทร์หรือรูปกงจักรและมีรอยแดงๆ ฝังอยู่ หลวงปู่บอกว่า ถ้าจำอย่างนี้เมื่อนานไปคงจะไม่เห็นให้จำลงไปลึกซึ้งกว่านี้อีก ที่จริงรอยมือของท่านก็คือสถานที่ที่ท่านสร้างและพัฒนาไว้ เช่น กุฏิ วิหาร ห้วยหนองคลองบึง คำว่ารอยเท้าก็คือถนนหนทางที่หลวงปู่พาชาวบ้านตัดไว้ให้ช่วยกันดูแลรักษาให้ยั่งยืนสืบไปถึงลูกหลาน กับอีกคำหนึ่งว่า "ต่อไปผ้าเหลืองแต่งครองบ้านครองเมืองเด้อ" อันนี้เป็นคำพูดของหลวงปู่อย่างหนึ่งที่เคยพูดพระภิกษุกับญาติโยมอยู่เสมอ ข้อนี้คงจะหมายความว่า พระสงฆ์จะเป็นผู้นำในการพัฒนาหมู่บ้านและวัด เป็นผู้ว่าแบบแปลนแผนผังทุกอย่างในการพัฒนาไม่ว่าจะเป็นหรือตายก็ต้องมีพระนำหน้า พึงให้เห็นว่าชีวิตคนเราเกี่ยวเนื่องกับพระสงฆ์ตั้งแต่แรกเกิดกระทั่งตาย พระสงฆ์เป็นเพื่อนคู่คิดมิตรคู่บ้าน จะตั้งบ้านตั้งเมืองที่ไหนก็ต้องมีพระสงฆ์เป็นที่พึ่งทางใจมาตลอด พระสงฆ์จะเปรียบประหนึ่งว่าเป็นครูเป็นอาจารย์ แต่ก่อนบ้านเมืองไม่เจริญยังเป็นบ้านป่าบ้านดงอยู่ไกลแพทย์ หมอ อนามัย เมื่อเจ็บไข้ได้ป่วยก็วิ่งเข้าหาพระ โรงเรียนก็อยู่วัด พระเป็นทั้งผู้สอนผู้ให้ที่พักที่อาศัย ป่วยทางกายก็เข้าวัด ป่วยทางใจก็เข้าวัด พระสงค์ก็หายาให้กิน รดน้ำพุทธมนต์ ผูกแขนให้ เป่าให้ แตกร้าวสามัคคีกัน พระก็เป็นผู้ช่วยประสานสามัคคีกัน เมื่อบ้านเมืองเดือดร้อนพระสงฆ์ก็ช่วยขับไล่ภูตผีปีศาจ ทำให้หมู่บ้านอยู่ร่มเย็นเป็นสุขทุกยุคทุกสมัยมาจนถึงปัจจุบัน ดังที่หลวงปู่ได้นำพาชาวบ้านแดงตั้งบ้านสร้างบ้านแดงมา
    อีกเรื่อง พ่อจารย์คำตัน เคยได้บวชร่วมหลวงปู่พิบูลย์ ได้เล่าให้ฟังว่าสมัยที่หลวงปู่พิบูลย์อยู่ที่วัดโพธิสมภรณ์ ฝายห้วยยางมันขาด ชำรุดอุดอยู่อย่างไรก็ไม่อยู่จึงได้ปรึกษากับหลวงปู่ๆจึงแนะนำว่าให้เริ่มทำตั้งแต่ตอสะแบงถึงกอไผ่โจด(กอไผ่ชนิดหนึ่ง) ทั้งที่หลวงปู่ไม่ได้มาเห็น แต่สามารถบอกได้ว่าให้กั้นเสริมจาก จุดนั้นให้ถึงจุดนั้นได้ พอชาวบ้านได้ทำตามคำแนะนำของหลวงปู่แล้ว ฝายกั้นน้ำห้วยยางก็ใช้กักเก็บน้ำได้ และไม่มีการชำรุดอีกเป็นที่สาธารณประโยชน์ของหมู่บ้านแดงมาจนถึงทุกวันนี้ สิ่งใดชาวบ้านสงสัยก็ได้ไปปรึกษากับท่าน หลวงปู่จะให้คำแนะนำและบอกแนวทางในการปฏิบัติทุกอย่าง ถ้าเงินทองขาดเขินพ่อจารย์คำตันกับพรรคพวกก็ได้ไปรับเงินจากหลวงปู่มาสร้าง และพัฒนาหมู่บ้านตลอดการพัฒนาของหลวงปู่ทั้งวัดทั้งบ้าน
    รูปเหมือนหลวงพ่อพิบูลย์ที่วัดโพธิสมภรณ์
    [​IMG]
    สถูปหลวงปู่ที่พระปลัดบัวลอยสร้าง
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 เมษายน 2014
  7. ธีระนะโม

    ธีระนะโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,694
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +6,226
    กลับบ้านสงกรานต์คนที่บ้านบอก พระครูอมรธรรมโมภาส(หลวงปู่ชม โอภาโส) วัดสามัคคี อ.เมือง จ.หนองคายศิษย์เอกรูปสุดท้ายของหลวงปู่พิบูลย์ อายุท่านน่าจะประมาณ99ปี มางานพิธีวางศิลาฤกษ์สร้างอุโบสถ ที่วัดแถวบ้าน แต่เราก็ไปไม่ทัน
    ท่านนั่งอธิฐานจิตวัตถุมงคลในงานพิธีอยู่3 ชั่วโมง ถือว่านานมากสำหรับท่านที่อายุ99ปี
    ท่านบรรพชาและอุปสมบทที่วัดพระแท่นตามคำสั่งของหลวงปู่พิบูลย์ได้มีโอกาสรับใช้ครูบาอาจารย์อย่างใกล้ชิด เมื่อครั้งที่หลวงปู่พิบูลย์ถูกกักบริเวณที่วัดโพธิ์สมภรณ์ ท่านต้องไปๆมาๆต่อมาเมื่อหลวงปู่พิบูลย์มรณภาพท่านเป็นผู้นำชาวบ้านในการขอศพหลวงปู่พิบูลย์คืน และท่านได้จัดสร้างเหรียญห้าเหลี่ยมหลวงปู่พิบูลย์รุ่นแรก ปี2507 ซึ่งมีประสบการณ์มากมายทำให้ในปัจจุบันราคาสูงมาก
    ต่อมาพอเสร็จธุระหลวงป่พิบูลย์แล้ว หลวงปู่ชมท่านก็ได้ออกธุดงค์ไปต่างสถานที่ต่างๆในลาว และได้จำพรรษาที่ภูเขาควายเป็นเวลา5พรรษา เกจิอาจารย์หลายรูปและทหารในเมืองลาวต่างรู้จักกิติศัพท์หลวงปู่ชมดีหลวงปู่คำตัน วรราช วัดพระพุทธบาทภูเขาควาย เกจิอาจารย์ชื่อดังเมืองลาวสหธรรมิกหลวงปู่ชม ท่านชื่นชมหลวงปู่ว่า ในสมัยก่อนพี่น้องทหารลาวเขายิงปืนใหญ่ใส่กัน หลวงปู่ชมท่านไม่กลัวเดินนำหน้าเฉยเลย เป็นที่เลื่องลือกันในเมืองลาว
     
  8. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    ขอบคุณครับท่าน"ธีระนะโม"ที่นำเรื่องเล่าประสบการณ์สู่กันฟัง...ปัจจุบันหลวงปู่ไม่สบายบ่อยครั้ง แต่ก็ยังสามารถรับกิจนิมนต์จากญาติโยมลูกศิษย์ลูกหาได้อยู่...ท่านมีเมตตาสูงมาก ท่านชอบนั่งนิ่งๆ ไม่ค่อยพูด หลายครั้งที่ผมไปกราบท่าน ท่านมักจะคายคำหมากใส่ไว้ในกระดาษทิชชูแล้วส่งให้..เหมือนกับรู้ว่าเราอยากได้...ตอนนี้เก็นไว้หลายก้อน..แข็งเป็นหินหมดแล้วครับ...กราบหลวงปู่เหนือเศียรเกล้า...
     
  9. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    ประวัติหลวงพ่อพิบูลย์ ตอนที่ 26 (ต่อ)
    อภินิหารของหลวงปู่ (ลป.ละสังขาร)
    เรื่องถนนหนทางห้วยหนองคลองบึง การจัดสรรที่ดิน สถานที่จัดตั้งหน่วยงานราชการในอนาคต เช่น ที่ตั้งอำเภอ โรงเรียนมัธยม โรงเรียนประถมศึกษา การไฟฟ้า อนามัย ตลาด โรงพยาบาล การประปา เหล่านี้เป็นต้น หลวงปู่ได้จัดสรรไว้ให้เป็นที่เป็นทางตั้งแต่ประมาณ 70-80 ปีมาแล้ว ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางชาวบ้านก็มีอยู่มีกิน ไม่มีภูตผีปีศาจอาศัยอยู่ได้ ทำลายวิชาอาคมพวกเดรัจฉานวิชาให้หมดหายไป หลวงปู่อยู่วัดโพธิสมภรณ์เป็นเวลา 15 ปี ถูกจับไปอยู่เกาะสีชัง 3 ปี พ.ศ.2489 เวลา 06.00 น.หลวงปู่ก้เริ่มมีอาการป่วยเป็นโรคท้องร่วง เมื่อเสร็จกิจออกจากห้องน้ำแต่ก็ออกมาไม่ได้เนื่องจากแข้งขาไม่มีเรี่ยวแรง หลวงปู่หนูซึ่งขณะนั้นเป็นโยมอุปถากหลวงปู่อยู่เป็นผู้เข้าไปพยุงหลวงปู่มาที่ห้องพัก เป็นอยู่อย่างนั้นหลายเที่ยวจนกระทั่งเวลา 10.00 น.หลวงปู่ก็ยังไม่ได้ฉันอาหารเช้าจนถึงเวลา 11.00 น.ถึงได้ฉันอาหารเช้าแต่ก็ฉันได้แค่สองสามคำเท่านั้น หลวงปู่หนูก็ช่วยประคับประคองหลวงปู่อยู่อย่างนั้น บางวันก็ฉันได้บ้างไม่ได้บ้าง จนกระทั่งอาการของหลวงปู่ทรุดหนักลงไปเรื่อยๆ พอถึงวันขึ้น 7 ค่ำ เดือน 3 ตอนค่ำของวันนั้น หลวงปู่จึงบอกให้หลวงปู่หนูนำหลวงปู่เข้าไปในกุฏินุ่งสบงทรงจีวรรัดอกให้ดีแล้วนำหลวงปู่เข้าไปนอนในท่าไสยาสน์ เอาผ้าห่มผืนหนึ่งห่มให้ หลวงปู่หนูจึงถามว่า"หลวงปู่อยากกลับบ้านแดงไหม"หลวงปู่ตอบว่า"ต้องกลับให้ได้ แม้จะเหลือแต่หัวก็จะกลิ้งกลับบ้าน"สุดท้ายก็สั่งให้หลวงหนูปิดประตูให้แน่น อย่าให้ใครเข้ามาจนกว่าจะมีสัญญาณบอก แล้วทุกคนก็ออกไปหมดรวมทั้งหลวงปู่หนูด้วย วันนั้นหลวงปู่โชติก้อยู่ข้างนอก จนกระทั่งถึงเวลา 6 ทุ่ม ก็มีสัญญาณดังขึ้นบนหลังคากุฏิ คือ สังกะสีดังโครมและมีแสงสว่างพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าดุจพลุดอกไม้ไฟ หลวงปู่หนูก้เข้าใจว่าหลวงปู่ได้สิ้นลมหายใจแล้ว จึงได้เปิดประตูเข้าไปจับดูตัวหลวงปู่ก้เย็นไปหมดทั้งตัวแล้ว พอรู้ว่าหลวงปู่มรณะภาพแล้วก็เลยออกมาจากห้อง พูดอะไรก็ไม่ออก และได้มีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งเมื่อรู้ว่าหลวงปู่มรณภาพก็กรูเข้าไปรื้อค้นสิ่งของที่สำคัญของท่าน ชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณนั้นก็ว่าไม่ได้ เงินในบัญชีของท่านที่แม่ชีปุยเก็บไว้จำนวน 3,058 บาทก็เหลือแต่ตัวเลขจำนวนเงิน พอรุ่งขึ้นก็จ้างช่างที่เป็นคนญวนมาทำหีบศพให้หลวงปู่ในราคา 200 บาท ทำพิธีศพอยู่ที่นั่น 5 คืน แล้วจึงนำศพของหลวงปู่บรรจุในเบ้า(ที่เก็บศพ)หลังจากนั้นชาวบ้านก็เลิกลากลับบ้าน...
    สนามพิบูลย์รังสรรค์ในปัจจุบัน
    [​IMG]
    ใช้เป็นสถานที่ประชุมเพลิงหลวงปู่ครับ
    [​IMG]

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 เมษายน 2014
  10. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    ประวัติหลวงพ่อพิบูลย์ ตอนที่ 27 (ต่อ)
    อภินิหารของหลวงปู่ (ลป.กลับบ้านแดง)
    หลังจากนั้นมาอีก 4 ปี ชาวบ้านแดงพร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้านก็ได้ปรึกษาหารือชักชวนกัน มีความประสงค์ที่จะนำศพของหลวงปู่กลับบ้านแดง การไปติดต่อประสานงานกับทางวัดโพธิสมภรณ์มีปัญหายุ่งยากมากจนแทบจะไม่ได้ศพศพกลับมา แต่ชาวบ้านก็ไม่ท้อถอย จนในที่สุดก็สามารถนำศพของหลวงปู่กลับมาสู่บ้านแดง โดยนำคณะเกวียนร้อยเล่มนำขบวนศพของหลวงปู่ออกจากเมืองอุดรธานี เมื่อนิมนต์ศพของหลวงปู่ขึ้เกวียนแล้วจะเอาวัวเทียมเกวียน เอาวัวคู่ไหนเข้าไปก็ไม่สามารถเข้าเทียมเกวียนได้ จำเป็นต้องปลดแอกทิ้งทั้งหมด ได้จัดสรรวัวอยู่หลายคู่ และในที่สุดก็ได้วัวของนายทราย สร้อยหนู บุตรชายของนายคำมี สร้อยหนู ซึ่งนายคำมี เคยบวชเป็นพระอยู่ร่วมกับหลวงปู่ พอเอาวัวคู่ของนายทรายก็ไม่มีปัยหาอันใด ขบวนเกวียนจึงเริ่มออกเดินทางออกจากเมืองอุดรธานี โดยไปทางทิศเหนือของอุดรธานี ทางบ้านบ่อน้ำ เลี้ยวมาทางทิศตะวันออกทางบ้านเหล่า บ้านหนองบุ บ้านสามพร้าว บ้านหว้าน บ้านไท บ้านดอนกลอย และเลี้ยวมาทางบ้านแดง จนมาถึงกุฏิของหลวงปู่ คณะชาวบ้านแดงจำนวนมากพากันออกไปต้อนรับอยู่ที่บ้านหนองดพธิ์คำ ในตอนนั้นผู้คนจากบ้านใกล้เรือนเคียงเยอะมากมืดฟ้ามัวดินกันไปหมด เพื่อจะไปจัดตั้งขบวนแห่ศพของหลวงปู่เข้าบ้านแดง ในวันขึ้น 10 ค่ำเดือน 2 (บ้างก็ว่าปี 2492 บ้างก็ว่าปี 2493) เมื่อมาถึงบ้านแดงแล้ว ได้นำศพของหลวงปู่พิบูลย์มาประกอบพิธีอยู่ที่สนามพิบูลย์รังสรรค์ ตามที่พ่อเถิง ศรีเดช ซึ่งในขณะนั้นเป็นไวยวัจกรณ์อยู่ ได้บอกว่าครบงัน(สมโภชน์)อยู่ทั้งหมด 7 วัน 7 คืน เสร็จแล้วจึงได้นำสพหลวงปู่เข้ามาไว้ในวัดพระแท่น ญาติโยมก็มีมาบำเพ็ญกุศลตามยุคสมัย
    กล่าวถึงพ่อครูคำพันธ์ เข็มพรหยิบ ตอนนั้นบวชเป็นเจ้าอาวาสอยู่จึงได้ปรึกษาหารือกับชาวบ้านจัดสร้างเจดีย์ไว้บรรจุอัฐิของหลวงปู่ จึงได้ตกลงกันสร้างเจดีย์ขนาดใหญ่เป็นเวลาหลายปีกว่าจะสะเร็จ เมื่อถึง พ.ศ.2504 จึงได้ทำพิธีถวายเพลิงศพหลวงปู่การจัดงานศพครั้งนั้น ฝ่ายสงฆ์มีพระครูอาทรศิริรัตน์ หลวงปู่โชติ ธมฺมธโร เจ้าอธิการคำพันธ์ คนฺธโร พระครูวิลาศวิหารกิจ บ้านนาทราย หลวงพ่อชม พระครูอมรธมฺโมภาส ฝ่ายฆราวาสผู้เป็นสายธรรมของท่านคือพ่อจารย์กุ้ม พร้อมด้วยข้าราชการ ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ชาวบ้านทุกคนทำบุญบำเพ็ญกุศลให้ท่านอยู่ 2 คืน แล้วนำสพออกไปสู่เมรุชั่วคราวที่สนามพิบูลย์รังสรรค์ ในวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 4 ปีฉลู พ.ศ.2504 บำเพ็ญกุศลต่อจนถึงเวลา 19.30 น.จึงได้ทำพิธีปล่อยไฟด้วยตะไลม้าเข้าสู่เมรุ วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4 ตอนเช้าจึงได้เก็บอัฐินำมาบรรจุที่เจดีย์ พอปี 2507 หลวงปู่ชมได้พาชาวบ้านแดงหล่อรูปเหมือนท่านมาประดิษฐานไว้ในพระวิหารพร้อมเหรียญรุ่นแรกจำนวน 4,000 เหรียญ เป็นเหรียญทองแดง 2,000 เหรียญ เป็นเหรียญทองเหลือง 2,000 เหรียญ
    ประวัติเหล่านี้ได้คัดลอกออกมาจากหนังสืออักษรธรรมจากใบลาน หลวงปู่หนูเป็นผู้เขียนไว้หลังจากที่หลวงปู่พิบูลย์ได้มรณภาพแล้ว ข้าพเจ้าผู้เขียนได้สอบถามข้อมูลจากผู้เฒ่าผู้แก่ และผู้ที่เคยได้อยู่ร่วมกับท่านมาเพิ่มเติมเนื้อหาพยัญชนะข้อความทุกประโยคเป็นความจริงไม่ได้เพิ่มเติมเสริมเนื้อหา ข้าพเจ้าพระครูมัญจาภิรักษ์ ขอนอบน้อมกราบคารวะแด่หลวงปู่พิบูลย์ผู้เป็นครูบาอาจารย์ ถ้าผิดพลาดประการใด ข้าพเจ้าขอขมาลาดทษแก่ท่าน ขอให้ผู้อ่านใคร่ครวญด้วยปัญญาของตนเทอญฯ...
    หลวงปู่โชติ ธมฺธโร ศิษย์เอกของหลวงพ่อพิบูลย์
    [​IMG]
    ธรรมใหญ่สายบ้านแดงที่ยังดำรงขันธ์อยู่ ลป.ชม ธมฺโมภาส วัดสามัคคี จ.หนองคาย
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 เมษายน 2014
  11. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    ประวัติหลวงพ่อผมยาว ตอนที่ 28 (ติ่ง)
    พ่อผมยาว เดิมชื่อ ติ่ง ภูมิลำเนาเดิมอยู่บ้านหนองลี อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี บิดาชื่ แถว มารดาชื่อ คำภา ไม่ทราบนามสกุล
    ประมาณปี พ.ศ.2450 พ่อแม่ได้อพยพขึ้นมาอยู่บ้านตาลศาลจอด ตำบลโคกสี อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร เพราะบ้านเดิมอดอยาก ทำมาหากินลำบาก มาอยู่บ้านตาลศาลจอดได้เพียงปีเดียว จึงย้ายมาตั้งฐานใหม่อยู่ที่บ้านเพียปู่ ตำบลไชยวาน อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี
    ต่อมาประมาณปี พ.ศ.2462 ที่บ้านเพียรปู่มีการทำบุญเดือน 6 (บุญบั้งไฟ) มีการดื่มสุราเมาเฮฮา สนุกสนานกันตามประเพณีบ้านเมือง ในสมัยนั้นนายติ่ง(หลวงพ่อผมยาว)เป็นหนุ่มอายุประมาณ 20 ปี ด้วยความคะนองเมาสุราอาละวาดใช้คบไฟจุดเผาบ้านเรือนคน แต่ชาวบ้านช่วยกันดับไว้ทันจึงไม่ลุกลามไปมาก ส่วนนายติ่งถูกจับมัดกับเสารั้วไว้จนเลิกงานบุญจึงปล่อย นี่เป็นเหตุหนึ่ง เหตุที่สอง นายติ่งถูกเกณฑ์ทหารด้วยความกลัวจึงได้หลบหนีกลับบ้านเก่า คือ บ้านหนองลี อำเภอกบินทร์บุรี จังหวักปราจีนบุรี ซึ่งมีเขตแดนติดกับประเทศเขมร
    ต่อมาได้ทราบว่านายติ่งกับพวกอีก 7 คนได้ชวนกันไปเรียนวิชาอาคมกับฤาษีเขตกบินทร์จันทคาม คาถาที่เรียนนั้นเรียกว่า"ธรรมใหญ่ห้าร้อยชาติ"เมืองสะมังกันผี ค่ายกครูเป็นเทียนหนักร้อย 5 เล่ม หนักบาท 1 เล่ม และขันธ์ 5 ขันธ์ 8 คาถาที่เรียนนั้นห้ามพูดกับใครเป็นเวลา 10 ปีจึงจะเกิดความศักดิ์สิทธิ์ ได้เรียนอยู่เพียง 7 วันทั้งคณะก็ได้ลาท่านฤาษีแยไปคนละทิศละทางกัน
    นายติ่งจึงมาปรากฏตัวขึ้นที่วัดนอก(วัดสามัคคีบำเพ็ญผล) บ้านหนองหาน อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี อยู่วัดนอกนี้ เมื่อแรกๆ ก็ไม่มีใครรู้จักถามก้ไม่พูด เนื่องจากพ่อผมยาวไว้ผมยาวคนจึงเรียกชื่อว่า"พ่อผมยาว"และเป็นนามที่เรียกติดปากกันต่อๆมา เนื่องจากถามไม่พูดนี่เองจึงมีเด็กๆไปล้อเลียนบ้าง ปาไม้บ้าง ก้อนหินบ้าง ใส่พ่อผมยาวตลอด จนได้รับความรำคาญมาก ในระยะนั้นมีคนๆหนึ่งชื่อธรรมสุก แสดงตัวเป็นคนอุปัฏฐาก ได้นำพ่อผมยาวมาอยู่ริมหนองเจ้าฟ้า และเมื่ออยู่ที่นั่นก็ไม่พ้นจากคนตามมาหยอกเย้าหรือรังแกอยู่เสมอ ตอนนั้นมีคนแถวบ้านไชยวานเพียบู่ เข้ามาธุระที่ที่ว่าการอำเภอหนองหาน ได้ยินกิตติศัพท์เรื่องพ่อผมยาว เมื่อพากันไปดุจึงรู้ว่าเป็นนายติ่ง บ้านเพียปู่ผู้หลบหนีเหตุคราวนั้น จึงได้ไปถามเรื่องราวที่เป็นไป แต่นายติ่งก็ไม่พูด บางคนที่เกลียดชังก็ปาไม้ใส่บ้าง ปาก้อนหินใส่บ้าง หนักเข้าถึงกับนำรังมดแดงมาเคาะใส่พ่อผมยาวก็มี......
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กรกฎาคม 2014
  12. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    อีกหนึ่งเหรียญประสบการณ์ที่ราคายังพอเช่าหาได้สบายๆ
    [​IMG][​IMG]
    รุ่นสร้างอำเภอพิบูลย์รักษ์ นับเป็นรุ่นสุดท้ายที่ทันและท่านหลวงปู่โชติ ปลุกเสกครับ ปัจจุบันเช่าหากันที่ 700-1,000 ครับ ตามสภาพครับ
     
  13. ฮักแพง

    ฮักแพง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    97
    ค่าพลัง:
    +1,523
    สวัสดีครับ ลูกหลวงพ่อแห่งวัดพระแท่น บ้านแดงทุกท่าน
    นำภาพเหรียญสายฝนกลาก มาเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ และเพื่อเทิดทูลหลวงปู่วัดพระแท่น เหรียญนี้ติดตัวราชการที่ใต้ ปลอดภัย วันนี้ถ่ายภาพให้ชม สำหรับค่านิยมผมไม่ทราบ ณ.ปัจจุบันผมไม่ทราบจริงๆครับ ท่านใดมีรักษาไว้ ที่ชลบุรีดังมาก
    เพื่อเทิดทูลหลวงปู่ครับ
    ฮักแพง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.JPG
      1.JPG
      ขนาดไฟล์:
      155.3 KB
      เปิดดู:
      2,549
    • 2.JPG
      2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      140.3 KB
      เปิดดู:
      832
  14. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    ...ยินดีด้วยครับ...ยังไม่มีรายการการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุหรือโดนอาวุธทำร้ายจนถึงแก่ชีวิตในศิษย์ศรัทธาที่แขวนเหรียญหลวงปู่พิบูลย์เลยแม่แต่คนเดียว...
    ...เหรียญที่นำมาเป็นบล็อกกลากนอกมือ 1 ในตระกูลสายฝนกลาก...ค่านิยมราคากลางอยู่ประมาณ 4,000-8,000 ตามสภาพ...หายากขึ้นเรื่อยๆแล้วครับ...
     
  15. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    ประวัติหลวงพ่อผมยาว (ตอนที่ 29) ต่อ
    ...เรื่องคนรังแกพ่อผมยาวนี้ ปรากฏไปถึงหลวงพ่อพิบูลย์ซึ่งเป็นพระหลวงตาตั้งสำนักอยู่วัดพระแท่น บ้านแดง ตำบลบ้านแดง (สมัยนั้นตำบลสร้อยพร้าว)หลวงปู่พิบูลย์จึงได้ให้นายเชียง จันดี คนบ้านแดงไปรับเอาพ่อผมยาวมาอยู่ด้วย และให้อยู่กุฏิหลังหนึ่งในวัดพระแท่น
    ...หลวงพ่อผมยาวตอนนี้เริ่มพูดขึ้นบ้างแล้ว มีอาการดุด่าเป็นประจำ เช่น คำว่า"ห่ากินผี ผีกินห่า"เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่หลวงปู่พิบูลย์ได้ถูกทางการจับตัว ลูกศิษย์ของหลวงปู่พิบูลย์ต่างต้องแยกแตกหนี ท่านก็ได้หนีจากบ้านแดงพร้อมด้วยนายอ่อนสี (สามเณรอ่อนสี)ซึ่งสึกจากสามเณรเป็นผู้นำไปอยู่วัดร้างบ้านคำเก่า ตำบลไชยวาน อำเภอหนองหาน (อำเภอไชยวานในปัจจุบัน) อยู่ที่วัดคำเก่ไม่นานเท่าใด เพราะท่านชอบดุด่ามาก เลยส่งไปอยู่ศาลาคำหล่มคนเดียว ซึ่งอยู่โดดเดี่ยวกลางโคก ระหว่างบ้านท่ากะบิน อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร กับบ้านปะยาว อำเภอกุมภวาปี (ปัจจุบันคืออำเภอวังสามหมอ) อาจารย์คุ้มเป็นผู้สร้างให้เป็นที่พักของคนเดินทาง หลวงพ่อผมยาวมาอยู่ที่ศาลาคำหล่มคนเดียวประมาณ 3 ปีเศษ ท่านจึงสั่งให้นายอ่อนสี ผู้ใหญ่บ้านคำ ไปรับมาอยู่ที่วัดเก่า บ้านคำเก่า เป็นรอบที่สอง อยู่ได้ 1 ปี นายอ่อนสี เลยไปส่งท่านไว้บ้านดอนทัน ตำบลบงเหนือ อำเภอสว่างแดนดิน อยู่ในความอุปการะของผู้ใหญ่อ่อน ผู้ใหญ่บ้านบ้านดอนหันได้เพียงปีเดียว ก็อยู่ไม่ได้อีก จึงสั่งให้นายอ่อนสี ไปรับมาอยู่วัดเก่า บ้านคำเก่าอีกเป็นครั้งที่ 3
    ...ครั้งนี้อยู่ได้หลายปีจนถึงสมัยคนเล่นบัตรเล่นเบอร์ มีคนไปขอหวยขอเลขกับท่าน พอท่านไปซื้อแล้วถูกจึงมีคนเคารพนับถือมากขึ้น มาจากต่างถิ่นต่างๆ ทั้งพระเณรและคฤหัสถ์จากบ้านเป็นตำบลเป็นอำเภอเป็นจังหวัด และมีคนนำเครื่องสักการะข้าวปลาอาหารมาให้แทบทุกวัน
    ความเป็นอยู่และอุปนิสัยใจคอของหลวงพ่อผมยาว
    1.เป็นคนอยู่อย่างอิสระเหนือกฎหมายบ้านเมือง แต่ไม่เคยทำให้ผิดกฎหมายบ้านเมือง ทางบ้านเมืองไม่เคยใช้การงานอะไรเลย เพราะถึงใช้ก็ไม่ทำ แม้แต่ทำบุญให้ทาน เป็นคนไม่มีถิ่นบ้านเรือน ทรัพย์สินอะไรเป็นหลักเป็นแหล่ง
    2.ใครจักทักทาย พูดจา สอบถามเรื่องราวอะไรเป็นกิจะลักษณะไม่ได้เลยจะทำทีเป็นบ้าใบ้ไปเลย
    3.ชอบทำการจักสานจำพวกครุ ตะกร้า ลอน แซง ไซ ตังบาน เครื่องดักสัตว์ต่าง ๆ อยู่เสมอ สิ่งเหล่านี้ทำขึ้นมากๆ มีคนขอแต่ก็ไม่ยอมให้ โดยตอบว่า"หึ"คำเดียวแต่ถ้าหยิบเอาไปเลยท่านก็ไม่ว่า จะให้ค่าหรือไม่ให้ก็แล้วไป
    4.เป็นคนหากินและทำกินเอง ชาวบ้านใกล้เคียง เช่น บ้านคำ บ้านาก่อม ใครได้อาหารมาจะเป็นเนื้อ ปู่ ปลาหรืออะไรก็ตาม ถ้าท่านไปพบเข้าก็จะหยิบถือเอาเลยโดยไม่ได้ออกปากขอ มีเงินเท่าไหร่ให้เขาหมด ไม่มีเงินก็เอาของเขาเปล่าๆแต่ไม่เอามากแค่พออิ่มไปมื้อหนึ่งเท่านั้น
    5.ชอบดื่มสุรา เมื่อมีคนไปหาจะเอาไปฝากท่านเสมอ บางวันดื่มมากเมาตลอดทั้งวัน
    6.ชอบทำเครื่องรางของขลังให้คนผู้ไปหาเสมอ มีด้ายมัดข้อมือ ตะกรุดผ้ายันต์ เป็นต้น
    7.เคยบอกใบ้ให้หวย เมื่อมีคนไปถาม มีถูกบ้างผิดบ้าง
    8.ตามคนเล่าลือ ท่านอาจมีญาณอะไรบางอย่าง ซึ่งบออกเหตุการณ์อะไรให้รู้ล่วงหน้า เช่นวันใดจะมีแขกทางไกลมาหามากๆ ท่านจะเตรียมอาหารสถานที่ไว้คอยต้อนรับพอเหมาะพอควรกับแขกที่มา
    9.ไหว้พระสวดมนต์ทุกคืน แต่คำสวดฟังไม่รู้เรื่อง
    10.เป็นคนมีอภินิหารบางอย่าง ตามคำบอกเล่าของนายอ่อนสี ผักผ่อน อดีตผู้ใหญ่บ้านบ้านคำ ครั้งหนึ่งในฤดูฝนพ่อผมยาวพักอยู่วัดเก่า บ้านพักคำเก่า ระหว่างนั้นฝนตกหนักมาก น้ำได้ไหลหลากมาตามห้วยสงคราม พ่อผมยาวได้ชวนนายอ่อนสีไปใส่โต่ง (เครื่องดักปลา) ที่ลำห้วยสงครามห่างจากที่พักประมาณ 3 เส้น เมื่อดักไว้สักครู่หนึ่งก็จะเก็บโด่งเพื่อเอาปลา ปรากฏว่าก้นโต่งติดกับเศษไม้ดึงเท่าไหร่ก้ไม่ขึ้น พ้อผมยาวจึงดำน้ำลงไปเพื่อดึงเอาเศษไม้ออกจากก้นโต่งแต่ดึงไม่ออก และผมของท่านได้ไปติดกับสวะขุยไผ่อีกด้วย ทำให้ท่านขึ้นจากน้ำไม่ได้ นานประมาณ 1 ชั่วโมง นายอ่อนสี จึงวิ่งเข้าไปในบ้านหาเพื่อนบ้านมาช่วย ได้นายมาก โภคสมบูรณ์ ซึ่งเป็นผู้เฝ้าวัดดอย โดยให้นายมากคอยสังเกตเหตุการณ์อยู่บนฝั่ง แล้วนายอ่อนสี เป็นผู้ดำน้ำลงไปคลำหา เจอขาพ่อผมยาว แล้วคลำไปตามตัวเห็นผมท่านติดอยู่กับสวะ นายอ่อนสีดึงตัวแกแต่ไม่หลุด นายอ่อนสีจึงขึ้นมาเอามีดลงไปตัดสวะเหล่านั้นขาดออกทั้งผมและสวะ น้ำได้พัดนายอ่อนสี และพ่อผมยาวไหลไปตามลำห้วยประมาณ 2-3 เส้น แล้วจึงตะเกียกตะกายขึ้นฝั่งได้ นายอ่อนสีขึ้นฝั่งตะวันตก พ่อผมยาวขึ้นฝั่งตะวันออก พอถึงฝั่งแล้วพ่อผมยาวก็เป็นลม นายอ่อนสีได้ข้ามสะพานมาหาพ่อผมยาว ร่วมกับนายมากนำพ่อผมยาวมาพยาบาลที่กุฎิที่พัก ท่านอ่อนเพลียมากกินข้าวไม่ได้ ถามอะไรก็ตอบไม่ได้ แต่สั่นศีรษะแทนคำตอบ ผ่านไปได้ 3 วันจึงกินข้าวและพูดจาได้
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กรกฎาคม 2014
  16. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    ประวัติหลวงพ่อผมยาว (ตอนที่ 29) ต่อ
    หลวงปู่อยู่บ้านแดง
    ...อีกครั้งหนึ่งได้พานายอ่อนสี ไปแอ้ว(ดัก)เหยี่ยวที่ตาดแม่นาย ทางไปลาดพอกได้ทั้งแม่และลูกเหยี่ยว ลูกเหยี่ยวได้เลี้ยงไว้จนโต แกได้เขียนคาถาพันไว้ที่ขาเหยี่ยวแล้วปล่อยไปหากินตามอิสระ เมื่อคนพบเข้าได้ใช้ปืนและหน้าไม้ไล่ยิงแต่ไม่ได้ผลเพราะยิงไม่ถูก จึงได้ใช้ฆ้อนไล่ตีเอาจึงเห็นแผ่นคาถาอยู่ที่ขา นายวิชัย ธานันโท เป็นผู้เก็บเอาไว้ นำไปทดลองดูเห็นได้ผลหลายอย่างจึงนำไปในทางมิจฉาชีพเที่ยวลักขโมยวัว ควาย ของชาวบ้าน แต่ในที่สุดก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงตาย
    ...หลายปีต่อมามีผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ ยม ได้สืบถามหาพ่อผมยาว โดยอ้างว่าเคยเป็นผัวเมียกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน ได้มาขออาศัยอยู่กับพ่อผมยาว ต่อมาชาวบ้านว่า นางยมเป็นปอบเข้าสิงคนแถวนั้น ชาวบ้านคำเกิด รังเกียดจึงขับไล่ให้ไปอยู่กับนายบุญ โประวะ ผู้ใหญ่บ้านจำปา ตำบลบงเหนือ อำเภอสว่างแดนดิน เพื่อให้ผู้ใหญ่บ้านฆ่าปอบให้ เป็นเวลาหลายปีต่อมาจนนางยมมีบุตรกับใครไม่ทราบ 2 คน ภายหลังได้กลับมาอยู่กับพ่อผมยาวอีกทีวัดบ้านคำภา แต่ต่อมาพ่อผมยาวได้ย้ายมาอยู่บ้านแดงอีกครั้งหนึ่งใน พ.ศ.2505 พร้อมทั้งนางยม และติดตามมาอยู่บ้านแดงได้ 2-3 ปี นางยมเลยหนีจากบ้านแดงไป ต่อมาได้ยินข่าวว่าได้ล้มตายจากไปแล้ว
    ...ส่วนพ่อผมยาวก็ได้อยู่ที่บ้านแดงตลอดมา มีผู้เคารพนับถือมากขึ้น คนบ้านใกล้บ้านไกล ตลอดจนถึงต่างจังหวัด ได้หลั่งไหลมาหาตลอด เพื่อขอสิ่งที่เป็นมงคล สิ่งที่หลวงปู่ผมยาวให้ก็ คือ หลอดคาถา และด้ายผูกแขน รดน้ำมนต์ และบางกลุ่มก็มาแสดงตนเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ ทั้งพระทั้งโยมใครมีอะไรก็นำมาให้ท่านตลอด สิ่งที่ท่านทำเป็นประจำ คือ ฝ้ายผูกแขน ทำตลอดไม่ว่าใครจะมาจากที่ไหน หลวงปู่จะผูกแขนให้ทุกตนก่อนอื่น แต่หลวงปู่จะไม่พูดกับใคร เมื่อมีเรื่องราวอะไรจะเกิดขึ้นภายในหมู่บ้านไม่ดีไม่งามหลวงปู่จะดกรธด่าว่าเสียงดังตลอดวันตลอดทั้งวันทั้งคืน ดุจจะฆ่าใครคนใดคนหนึ่ง ตื่นมาจะออกด่าว่ากล่าวตามถนนหนทาง ถ้ามีผู้ใดหนึ่งถามว่า"หลวงปู้โกรธให้ใคร"จะได้รับคำตอบจากหลวงปู่ 2 คำ คือ "หึ-อื้อ"แล้วก็จะเดินผ่านไปเลย ถ้าเป็นอยู่ในลักษณะอย่างนี้ ก็จะมีเรื่องเกิดขึ้นภายในหมู่บ้านเป็นเรื่องปกติวิสัย จนสังเกตได้ ใครจะพูดอะไร อยู่ที่ไหนภายในหมู่บ้านแดงนี้ หลวงปู่จะรู้หมด
    ...ต่อมาชาวบ้านคำ คิดถึงหลวงปู่ผมยาว ได้เหมารถสองแถวเพื่อมารอรับหลวงปู่ผมยาวที่บ้านแดง 1 คัน คนที่มารับมีนายอ่อนสี ผันผ่อน พ่อบุญ สิการิสี และนายเถิง และได้แวะรับเอาพระครูสุทธิสมณวัตร เจ้าคณะอำเภอไชยวาน วัดไชยานาถวนาราม บ้านไชยวาน และคนอื่นๆ อีกหลายคน พอมาถึงบ้านแดง พวกที่มารับได้ขนข้าวของเครื่องใช้ของหลวงปู่ผมยาวขึ้นรถพร้อมกับตัวปู่ผมยาวเอง และนำท่านกลับสำนักเก่า คือ วัดเก่าบ้านคำ แต่พอไปถึงบ้านเก่า หลวงปู่ผมยาวไม่ยอมลงจากรถ จะพูดอ้อนวอนอย่างไรก็ไม่เอา จำเป็นพวกที่มารับต้องวิ่งรถกลับคืนมาส่งท่านที่บ้านแดงอีก ท่านก็ได้อยู่บ้านแดงต่อมาตลอด
    ...จนถึง พ.ศ.2522 หลวงปู่ผมยาวได้ป่วยเป็นโรคเท้าบวมทั้ง 2 ข้าง ใครจะนำยามาให้หลวงปู่กิน แต่หลวงปู่ไม่ยอมกิน ได้แต่บอกว่าถึงเวลาที่จะต้องตายแล้ว ป่วยได้ประมาณ 1 เดือน ท่านก็ได้มรณภาพด้วยความสงบในท่านอน ชาวบ้านแดงได้รวมใจกันตกลงเก็บศพท่านไว้จนถึงปี พ.ศ.2524 จึงได้ทำพิธีฌาปณกิจศพท่าน ปรากฏว่าในวันฌาปณกิจศพท่าน ผู้ที่เคารพท่านจากต่างจังหวัด หลั่งไหลมาจนเกินความคาดหมายของชาวบ้านแดงทั้งใกล้ทั้งไกล หลังจากฌาปณกิจศพแล้ว ข้าพเจ้าพระครูมัญจาภิรักษ์ได้เก็บอัฐิของท่านไว้จนถึง พ.ศ.2531 จึงได้ทำพิธีบรรจุเข้าในรูปเหมือนของท่าน ได้มาโดยมีญาติโยมจากกรุงเทพฯ ชื่อนายหล่อ มัศยานันท์ พร้อมด้วยเพื่อนฝูงฝันเห็นหลวงปู่จึงได้ตามขึ้นมาตามความฝันนั้น พอได้ทราบประวัติของท่าน ก็เกิดความเลื่อมใสศรัทธาในปาฏิหาริย์ของท่าน ขอเป็นเจ้าภาพสร้างวิหารและรูปเหมือนท่าน และเหรียญที่ระลึกพระพุทธรูปคู่บารมี ได้ทำพิธีถวายอภินิหารหลวงปู่ผมยาว ท่านมีอภินิหารพอสรุปได้ดังนี้...
     
  17. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    เหรียญรูปไข่ที่แปลกออกไปจากเหรียญ 5 เหลี่ยมซึ่งเป็นเอกลักษณ์เหรียญหลวงพ่อพิบูลย์ สร้างโดย พระครูปลัดบัวลอย วัดโพธิ์สมภรณ์ อุดรธานี ซึ่งท่านเคยเป็นโยมอุปถากหลวงพ่อพิบูลย์มาก่อน
    [​IMG][​IMG]

    อีกรูปทรงครับ พระครูปลัดบัวลอยสร้างเป็นที่ระลึกสร้างสถูปของหลวงพ่อพิบูลย์ ซึ่งตั้งอยู่ในวัดโพธิ์สมภรณ์ในปัจจุบันนี้ เป็นอีกพิมพ์ครับ สร้างเมื่อปี 2526 โดยได้รับเมตตาอนุญาตจัดสร้าง และปลุกเสก โดยหลวงปู่โชติ-หลวงปู่ชม ด้วยครับ
    [​IMG][​IMG]
     
  18. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    เหรียญรุ่นแรก"สายฝนกลากในมือ" สร้างปี 2504 ตอนนี้เล่นหากันหลักพันกลางๆครับ...เจอที่ไหนกับเลยประสบการณ์ยอดเยี่ยมครับ
    [​IMG]
    [​IMG]
     
  19. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    แป๊ปเดียว...ออกพรรษาแล้ว...ห่างหายไปนานพอควร...ด้วยภารกิจทางราชการ...ยังคิดถึงเพื่อนๆสมาชิก ลูกศิษย์และศรัทธาสายนี้ตลอดครับผม...กราบหลวงปู่เหนือเศียรเกล้า...
    [​IMG]
    เหรียญหยดน้ำ"รุ่นแรก"หลวงพ่อพิบูลย์ ที่หายากสุดๆ ราคาทะลุแสนไปนานแล้วครับ
    [​IMG]
     
  20. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    ประวัติหลวงพ่อผมยาว (ตอนที่ 30) ต่อ
    อภินิหารพ่อผมยาว(ติ่ง)
    1.ในสมัยที่ท่านไปเรียนธรรมจากฤาษี พอจบมาแล้ว ถือข้อปฏิบัติไม่พูดกับใครอยู่ 10 ปี ในช่วงนี้ท่านอยู่วัดนอก (วัดสามัคคีบำเพ็ญผล) หนองหาน มีประชาชนบางกลุ่มทั้งเด็กและทั้งผู้ใหญ่เข้าใจว่าท่านเป็นบ้า ได้เอาค้อน ดิน และหินขว้างปาท่านโดยมากก็ไม่ถูก ถ้าถูกท่านบางครั้งจนศีรษะแตกแต่ท่านได้แต่เอาน้ำลายใส่ แผลนั้นจะหายทันที บางคนเอามดแดงเคาะใส่ท่านมดแดงก็ไม่กัดจะไต่หนีหมด
    2.ต่อมาอยู่บ้านแดง หลวงปู่พิบูลย์ให้คนโกนผมให้ท่าน ปรากฎว่าเอามีดใครมาโกนให้ก้ไม่เข้า(เส้นผมไม่ขาดนั่นเอง)ท่านบอกว่าถ้าจะโกนจริงๆ ต้องเอามีดของท่านเองมาโกนจึงจะได้ พอเอามีดท่านโกนก็โกนได้สำเร็จ แล้วท่านจะด่าว่า"ห่ากินผี ผีกินห่า" พูดอย่างนี้ติดต่อกันหลายวัน วัว ควาย ที่บ้านแดงตายห่าแทบหมดทุกหลังคาเรือน ชาวบ้านจึงได้มาคารวะท่าน วัว ควาย จึงหยุกล้มตาย
    3.สมัยหนึ่งได้ไปใส่โด่ง(เครื่องดักปลา)กับนายอ่อนสี ปรากฎว่าท่านลงไปปลดโด่งที่ติดสวะอยู่ใต้น้ำ พอท่านลงไปผมของท่านได้พันติดกับสวะรากไม้อยู่ใต้น้ำถึง 1 ชั่วโมง ปรารกฏว่าเมื่อช่วยท่านขึ้นมาแล้วท่านยังไม่ตาย
    4.ท่านเขียนคาถาใส่แผ่นทองแดงแล้วผูกติดกับขาเหยี่ยว ใครจะเอาอะไรไปยิงก้ไม่ออก ถ้าออกก็ไม่ถูก
    5.ครั้งหนึ่งท่านได้เดินทางจากบ้านแดงไปบ้านดงปอ ซึ่งในช่วงนั้นน้ำกำลังขึ้นมากจากลำห้วยหลวงเป็นแอ่งไปหมด ปรากฎว่าหลวงปู่ท่านเดินดำน้ำจากบ้านแดงถึงบ้านดงปอ เป็นระยะทางที่อยู่ในน้ำ 1 กิโลเมตร จนไม่มีใครเชื่อ
    แล้วมาค่อยมาต่อกันใหม่นะครับผม...
    [​IMG][​IMG]
    รูปปู่ผมยาว(ติ่ง)เก่าๆที่พอหาได้ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...