+ + + + + + + + เปิดรังมาเล่า + + + + + + + + พระเครื่องของขลัง โดย พรพรต

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ๑พรพรต๑, 14 ตุลาคม 2012.

  1. ๑พรพรต๑

    ๑พรพรต๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +545
    ผมเป็นเพียงคน ๆ หนึ่งที่หลงใหลในศาสตร์ลี้ลับดังเช่นชายไทยแต่โบราณ ที่ต่างสนใจศึกษาค้นคว้าตลอดจนเสาะหาของขลังศักดิ์สิทธิ์ ได้เข้ามาอ่านบทความในเวปนี้จากผู้รู้หลาย ๆ ท่าน ต่างชอบในเครื่องรางของขลังนับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์แตกต่างกันไป ตามความนับถือและความชอบส่วนตัวของแต่ละบุคคล ทุก ๆ วันมีสมาชิกหน้าใหม่เกิดขึ้นทุก ๆ วัน มีผู้สนใจเข้ามาศึกษาตักตวงความรู้เรื่องศาสนา เรื่องพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง วิชาอาคม ฯลฯ มากมายในเวปแห่งนี้ที่ถือว่าเป็นเวปเกี่ยวกับพุทธศาสนา และพระเครื่องพลังจิตที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ........

    ความรู้มากมายในเวปนี้หากพูดกันตามตรงก็เหมือนกับหลาย ๆ เวป ด้วยหลายท่านที่โพสก็ลอกเอามาจากเวปอื่น ๆ เอามาเสนอ ในส่วนนี้ข้าพเจ้าว่าเจตนาผู้เผยแพร่มีเจตนาดี อุตสาห์สละเวลาค้นหาเรื่องราวอีกบทความดี ๆ มาแบ่งปันความรู้ดี ๆ ...... แต่ เรื่องราวบางเรื่องผู้เผยแพร่คนแรก (จากเวปที่ไปคัดลอกเอามา) บางทีใครจะรู้ว่าเป็นจริงหรือเพียงเขียนขึ้นเพียงเพื่อ “ขาย” ทำให้ความจริงบางเรื่องคลาดเคลื่อนออกไปมาก ทำให้ผู้สนใจในด้านนี้ (พระเครื่องของขลัง) อาจได้รับข้อมูลที่คลาดเคลื่อนได้ .........

    บทความกระทู้นี้เป็นเพียงกระทู้เล็ก ๆ จากคนที่รักหลงใหลในเครื่องรางของขลังคนหนึ่ง ที่อยากมาเสนอเรื่องราวดี ๆ เรื่องเล่าความหลัง เรื่องราวพระเครื่องของขลัง จากผู้อาวุโสผู้มีความรู้ผู้อาบน้ำร้อนมาก่อนได้บอกกล่าว ซึ่งข้าพเจ้าอาจมีโชคดีอยู่นิดหนึ่งตรงที่ ข้าพเจ้ามีโอกาสไปพูดคุยได้รับฟังเรื่องราวดี ๆ เกี่ยวกับพระเครื่องตลอดจนเครื่องรางของขลัง จากผู้อาวุโสหลายท่านที่ต่างมาพบปะพูดคุยกัน โดยข้าพเจ้าได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งของวงสนทนาบ่อยครั้ง อีกทั้งได้มีโอกาสสอบถามเรื่องราวครั้งเก่าจากท่านเหล่านี้ เช่นนี้ทำให้ข้าพเจ้าอยากนำเอาประสบการณ์ (ส่วนตัว) ที่ได้รับฟังมานำมาเผยแพร่บอกกล่าวให้เพื่อนสมาชิกที่สนใจ และสละเวลาเข้ามาอ่านกระทู้เล็ก ๆ จากคน ๆ หนึ่งที่ไร้ชื่อเสียและคนรู้จัก แต่ตั้งใจนำเรื่องราวดี ๆ มาเขียนเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ และอาจจะเป็นอีกหนึ่งบทความที่ “อาจจะ” ให้ความรู้กับเพื่อนสมาชิกได้บ้างเท่านี้ข้าพเจ้าก็ดีใจอย่างยิ่งแล้ว

    สำหรับผู้ที่ชอบพระเครื่องตลอดจนเครื่องรางของขลังต่าง ๆ ซึ่งในปัจจุบันนี้มีอยู่มาก ข้าพเจ้าขอนำเอาเรื่องราวข้อมูลการสร้างพระเครื่องรุ่นต่าง ๆ เท่าที่ข้าพเจ้าทราบ ตลอดจนประวัติของผู้สร้างพอสังเขป และเกล็ดอภินิหารเรื่องเล่าอัศจรรย์มาเผยแพร่ สำหรับผู้ที่ชอบเรื่องราวอภินิหาร (เหมือนข้าพเจ้า) บทความในกระทู้นี้อาจจะสร้างความสุขในการอ่าน การศึกษาให้ท่านทั้งหลายได้บ้างขอบพระคุณมากครับ “”””” ๑พรพรต๑ “””””

    หมายเหตุ พระเครื่องวัตถุมงคลทั้งหมดที่นำภาพมาลงในกระัทู้นี้เป็นพระเครื่องซึ่งเคยอยู่ในการครอบครอง และบางชิ้นยังอยู่ในการครอบครองของเรา ภาพทั้งหมดที่นำมาลงในกระทู้นี้ไม่ได้ยืมภาพหรือวัตถุมงคลของผู้ใดมาเผยแพร่ แต่เป็นพระเครื่องที่เคยอยู่ในการครอบครองของเราทั้งสิ้น หากไปเห็นพระเครื่องหรือวัตถุมงคลซ้ำกับของเรานี้ ก็ให้ทราบว่า วัตถุมงคลนั้น เขาได้มาจากเรา(ขอแบ่ง) จึงแจ้งมาให้ทราบ เพื่อมิให้สับสน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 ตุลาคม 2012
  2. ๑พรพรต๑

    ๑พรพรต๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +545
    พระแหวกม่านพิมพ์รัศมี หลวงพ่อกวย ออกวัดหนองอีดุก หลังจาร หายากมาก
    หลวงพ่อกวยท่านเรียกพระพิมพ์แหวกม่านว่า”พิมพ์เผยม่าน”พระผงพิมพ์แหวกม่านของหลวงพ่อกวยทุกพิมพ์ทุกองค์มีความสำคัญ เป็นพระที่พลิกฟ้าพลิกชะตา เวลาท่านเสกท่านจะเชิญวิหารธรรมขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เสกหนุนดวง เสกฤกษ์ลอย ไม่เสกฤกษ์จม ดูฤกษ์เสก เสก คนดีก็ใช้ได้ คนร้ายก็ใช้ดี เสกเทศาตรีฤกษ์(ฤกษ์โสเพณี)คือมีแต่คำว่าได้ มีแต่คนหลงรัก เสกเพชฌฆาตฤกษ์ คือใครใส่ไปทวงหนี้ก็มีแต่ได้ ไม่มีเสีย เป็นฤกษ์เปิดร้านทำการค้าเปิดบ่อนการพนันก็ทำได้ คือคนดีก็ใช้ได้ คนร้ายก็ใช้ได้ แต่ข้อห้ามในการใช้คือห้ามไปเป็นชู้กับผู้อื่น และการลักทรัพย์ลักเล็กขโมยน้อย เวลาท่านจะให้ใครท่านจะใส่ถาดใบใหญ่ ๆ เชิญบารมี พระรัตนตรัย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ มีคนถามหลวงพ่อว่า”พระองค์นิดเดียว ทำไมถึงใส่ถาดใบใหญ่ ๆ” ท่านบอกว่า “ถาดใบนี้ยังเล็กไปเมื่อเทียบกับวิหารธรรมขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังใส่ไม่พอ” พระของท่านเป็นของมีค่าหายาก ถึงแม้ท่านจะมาดังไม่กี่ปี แต่ผู้ที่ใช้บูชาต่างกํมีประสบการณ์ทั้งนั้น ใครที่ทำคุณคนไม่ขึ้น ทำการค้าติดขัดไม่ประสบความสำเร็จ มีความอับโชควาสนา ให้บูชาพระของท่านบูชาด้วยคาถาจินดามณี และคาถาพระสิวลี การค้าการเงินจะค่อย ๆ ดีขึ้นเป็นลำดับ
    [​IMG]
    คาถามนต์จินดามณี

    นะ สิง วัง พรหมมา มะอะอุ

    คาถานี้ชื่อมนต์จินดามณี ตีค่าไว้๑,๐๐๐ตำลึงทอง ใช้ภาวนามหาลาภ ภาวนาค้าขาย ใช้ภาวนาคู่กับสมเด็จของหลวงพ่อทุกแบบ หลวงพ่อใช้คาถานี้ลงในยันต์พัดโบกผืนใหญ่ของวัด คาถาที่ลงท่านลงว่า

    มะอะอุ สิงวัง พรหมมา จิตตัง มานิมา

    คาถานี้ใช้ภาวนะเป็นประจำนะร่ำรวย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มกราคม 2013
  3. ศนิวาร

    ศนิวาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    7,337
    ค่าพลัง:
    +17,631
    [​IMG]

    พระสวยครับ
     
  4. atiwan_p

    atiwan_p เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +904
    ผมมีแต่ พระผงเล็บมือข้างเม็ด วัดหนองอีดุก ไม่รู้ว่าพุทธคุณจะเหมือนพระผงแหวกม่าน หรือเปล่าครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • a1.jpg
      a1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      76.3 KB
      เปิดดู:
      807
    • a2.jpg
      a2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      76.8 KB
      เปิดดู:
      647
    • a3.jpg
      a3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      70.5 KB
      เปิดดู:
      1,158
  5. มหากาพย์

    มหากาพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    985
    ค่าพลัง:
    +492
    เข้ามาติดตามครับ :cool:
     
  6. ลูกหญิง

    ลูกหญิง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2010
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +88
    :cool::cool::cool::cool::cool:
     
  7. ๑พรพรต๑

    ๑พรพรต๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +545
    ประวัติพระเครื่อง พระชุดวัดหนองอีดุก

    พระชุดวัดหนองอีดุก จัดเป็นพระของหลวงพ่อกวย ที่ไปออกช่วยวัดของลูกศิษย์ของท่านคือ อ.แสวง อาจารย์แสวงวัดหนองอีดุกนี้เป็นศิษย์ที่เคยเรียนอาคมกับท่าน มีความเคารพในหลวงพ่อกวย แต่ตัว อ.แสวงท่านก็เป็นศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำวัดท่าซุง เรียนกรรมฐานในแนวทางของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ เป็นศิษย์ฝึกมโนมยิทธิ ตั้งแต่สมัยหลวงพ่อฤาษีลิงดำยังอยู่วัดหัวตะพาน จ.ชัยนาท ภายหลังหลวงพ่อฤาษีย้ายมาอยู่วัดปากคลองมะขามเฒ่า ท่านก็ได้ติดตามมาเรียนวิชาเพิ่มเติมกับหลวงพ่อฤาษีลิงดำ เมื่อในคราวผูกพัทธสีมา อุโบสถ วัดหนองอีดุก ปี 2515 มีการสร้างพระเครื่อง มีเหรียญหลวงพ่อพระพุทธชัยนาท และพระเครื่องต่าง ๆ ทั้งพระสังกัจจายน์ พระพุทธพิมพ์เล็บมือ พระพิมพ์โมคคัลลา สารีบุตร(องค์ใหญ่) พิมพ์พระปางป่าเลไลย์ พระสรรค์ข้างเม็ด พระพิมพ์แหวกม่านข้างเม็ด ฯลฯ พระต่าง ๆเหล่านี้ ได้รับการปลุกเสกพิธีใหญ่ ที่วัดหนองอีดุก ในวันนั้น มีเกจิอาจารย์หลายรูป มี หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง อ.ฝุ่น(เตี้ย) วัดสามเอก ฯลฯ ได้เข้าปลุกเสกในพิธีนี้ แต่พระเนื้อผงทั้งหมด เป็นพระที่สร้างจากมวลสารมีส่วนผสมผงและของศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อกวยและได้รับการปลุกเสกจากหลวงพ่อกวยมาก่อนหน้านั้นแล้ว เป็นอย่างดี เป็นพระที่ออกนอกวัดแต่ท่านตั้งใจทำตั้งใจเสกเพื่อช่วย อ.แสวง เพื่อหาเงินเข้าวัด พระเนื้อดินนี้ผสมผงวิเศษและยังมีดี ดีของสัตว์ ดีนี้ใช้ในทางแก้อาถรรพ์ คนทำมาหากินไม่ขึ้นอยู่ไม่ติดที่ทำคุณคนไม่ขึ้น ค้าขายฝืดเคือง เป็นคนต้องอาถรรพ์ต่าง พวกดีสัตว์ที่ปลุกเสกแล้วนี้สามารถช่วยให้เรื่องร้าย ๆ คลายลงได้ หลายคนที่เป็นนักเล่นหลวงพ่อกวยรุ่นเก่าต่างออกความคิดเห็นว่าเนื้อพระบ้างมีสีอมเขียวปนม่วงแดง เป็นพระแสอยู่ในเนื้อพระ เขาว่าผสมดีปลาดุก แต่ความจริงดีปลาดุกก็อาจจะใส่ลงไปได้ แต่ดีสัตว์ที่ใส่ลงไปแน่ ๆ จากการสอบถาม ผู้รู้และสนใจค้นหาข้อมูลของหลวงพ่อกวยมาแต่เก่าก่อน ได้บอกข้อมูลไว้ว่า ดีสัตว์ที่เป็นมงคลใช้แก้อาถรรพ์ที่ทาง สถานที่พัก หรือบุคคลที่ต้องอาถรรพ์นั้น ประกอบจากดีสัตว์มงคลหลายชนิดเช่น ดีเต่า ดีงูเหลือม ดีเสือ ดีหมี ดีไก่ดำ เป็นต้น และการที่ใช้ดีสัตว์เหล่านี้ ก็ให้ผลแตกต่างกันไป

    1. ดีเต่า เพราะเต่าเป็นสัตว์อายุยืน ดีทางสุขภาพร่างกาย ให้มีอายุยืนยาว อยู่รอดปลอดภัย

    2. ดีงูเหลือม งูเค้าถือว่าเป็นสัตว์นอนกิน ดีทางโชคลาภ เวลากินแล้วอิ่มนาน เก็บรักษาทรัพย์ไว้อยู่มั่นคง ยืนยาวนาน เหมือนกับงูเหลือม กินอาหารที อิ่มไปหลายวัน เปรียบได้ว่าทรัยพ์สินที่หามาได้ จะอยู่ได้ยืดยาวนาน

    3. ดีเสือ ดีทางปกป้องคุ้มกัน ภูตผีปีศาจยำเกรง มีอำนาจวาสนา ผู้คนทั้งรักทั้งยำเกรง เหมือนดั่งเสือ ไปไหนคนก็กลัวเกรง แต่ก็อยากเห็น ซึ่งเป็นข้อดี เป็นอาถรรพ์ของตัวเสือ

    4. ดีหมี ดีทางทรหดอดทน เข้มแข็ง ผู้ที่มีดีหมีนี้ จะดีเปรียบได้ดั่งพญาหมี อดทนเข้มแข็ง ผู้คนยำแกรง

    5. ดีไก่ดำ ดีทางทำมาหากิน ไปหากินที่ใดก็ได้ ไม่อดไม่อยาก ดีทางค้าขาย
    [​IMG]
    [​IMG]

    เกี่ยวกับดีสัตว์ สมัยหลวงพ่อกวยยังมีชีวิตอยู่ บ้านใดหากินไม่ขึ้น ค้าขายซบเซา ผู้คนไม่เข้าร้าน ทุกยากตรากตรำ เปลี่ยนงานไปเรื่อย หรือบ้านพักอาศัยเกิดอาถรรพ์ อยู่แล้วรุ่มร้อน อยู่ในทิศทางที่ไม่ดี มีเหตุอาเพศ ผัวเมียทะเลาะกันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ลูกเต้าไม่ฟังคำสั่งสอน หรือมีเรื่องเดือดร้อนต่าง ๆเกิดขึ้นในบ้าน ท่านจะให้นำดีสัตว์ ต่าง ๆข้างต้น นำไปตากแห้ง แล้วห่อด้วยผ้าหรือถุงสีแดง นำมาให้ท่านเสก ท่านจะปลุกเสกตามตำราแล้วให้นำไปแขวนไว้หน้าบ้าน แขวนหย่อน ๆ ให้คนเข้ามาบ้าน หรือใครผ่านไปผ่านมา ให้เขาเห็นสะดุดตา พอใครถามเจ้าของบ้านว่า “นั่นอะไร” เจ้าของบ้านหรือเจ้าของร้านจะตอบว่า “ดี” นั่นแหละ ใครผ่านไปผ่านมาก็จะเวียนถามอยู่ตลอด ก็จะตอบว่าดี ดีอยู่ตลอด ดีอยู่เสมอ สิ่งร้าย ๆก็จะทุเลาเบาบางลง การที่ท่านนำดีสัตว์มาใส่ในพระเครื่องรุ่นนี้ เข้าใจว่า เพื่อส่งผลทางเกื้อหนุน ทำมาหากิน พลิกดวงพลิกชะตากลับร้ายกลายเป็นดี ให้แก่ผู้ที่ได้บูชา ไม่ว่าจะเป็นพระพิมพ์ใด แต่สร้างจากเนื้อหามวลสารชุดนี้ ถือว่าดีเด่นตามที่บอกดังกล่าวทั้งสิ้น พระวัดหนองอีดุก สมัยก่อนยังพอพบหากันได้บ่อยครั้ง แต่ปัจจุบัน ผู้ที่รู้ข้อมูลลึก ๆ ต่างเสาะหาไขว้คว้ากันครอบครองด้วยว่าวันหน้า จะต้องแพงอย่างแน่นอน ด้วยท่านตั้งใจทำ พิถีพิถัน ทั้งมวลสารและการปลุกเสก และยิ่งดีเป็นเท่าทวีคูณเมื่อได้รับการปลุกเสกโดยศิษย์เอกของหลวงพ่อปานวัดบางนมโค หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง พระอรหันต์ที่มีบารมีสูงยิ่ง แม้แต่หลวงปู่สี วัดถ้ำเขาบุญนาค ยังออกปากบอกว่าท่านไม่ธรรมดา มีบารมีสูงส่งมาก เป็นการปลุกเสกร่วมกันระหว่างหลวงพ่อฤาษีลิงดำ เป็นพระอริยเจ้าฝ่ายบุญฤทธิ์อย่างสูงยิ่ง ได้มาปลุกเสกร่วมกับหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม พระอริยเจ้าฝ่ายอิทธิฤทธิ์อย่างสูงยิ่งเช่นเดียวกัน ท่านถือว่าเป็นพระอมตะเถราจารย์เป็นเอกทางอาคมไสยเวทย์ ไม่เป็นสองรองใครในแผ่นดิน หลวงพ่อกวยนี้ แม้แต่หลวงปู่ดู่วัดสะแก ยังเคยออกปากบอกกับว่าพัศดีเรียน นุ่มดี พัศดีจังหวัดอยุธยา ว่าหลวงพ่อกวยนี้เก่งเหลือเกิน ท่านไม่ใช่พระธรรมดา พระเครื่องวัดหนองอีดุกนี้ เป็นเพียงรุ่นเดียวที่ได้รับการปลุกเสกผสานพลังทั้งบุญฤทธิ์และอิทธิฤทธิ์ เป็นพระเครื่องที่ไม่ธรรมดาเลย แน่นอน การปลุกเสกพระเครื่องของหลวงพ่อฤาษีลิงดดำ หลายท่านคงทราบดีว่าท่านไม่ได้เสกเอง ท่านจะใช้พลังจิต อัญเชิญบารมีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระอรหันต์เจ้าและพระอริยเจ้า ตลอดจนองค์พรหม องค์เทพเทวาต่าง ๆ มาปลุกเสก ทำให้ของที่ท่านเสกหรือผ่านการเสกจากท่านจะมีความขลังศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีการเสี่อมสูญสลายชั่วกัป
    พระเครื่องชุดวัดหนองอีดุกนี้ ท่านทั้งหลายขออย่าได้มองข้าม ต่อไปจะเป็นพระดีอมตะ ในชุดของหลวงพ่อกวย หลายคนเห็นว่าพระเครื่องชุดนี้มีอาจมีประสบการณ์ ทางคงกระพัน ต่อสู้ล้างผลาญน้อย นั้นก็แน่นอน เพราะผู้ที่ใส่ไปโดยมากมักแคล้วคลาด ไม่เจออะไรเลย ทำให้ขาดประสบการณ์ทางบู๊ ทางนักเลงไป แต่ก็เห็นว่าเหมาะสมกับผู้ทำมาหากิน ใช้ชีวิตทำงาน ต้องเลี้ยงครอบครัว อย่างเช่นปัจจุบันนี้ ไม่ว่าพระพิมพ์ใด หากท่านทั้งหลายได้พบเจอไม่ว่าที่ใด เป็นชุดวัดหนองอีดุกที่แท้มีมาตรฐานแล้วก็ ขอให้ท่านอย่าได้เฉยเมยปล่อยให้ผ่านพ้นไป ต่อไปภายหน้า ท่านอาจเสียใจที่ปล่อยให้แก้วอันมีค่าปล่อยให้หลุดมือไป
    [​IMG]
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มกราคม 2013
  8. atiwan_p

    atiwan_p เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +904
    ขอบคุณครับสำหรับข้อมูลดีๆ ผมเพิ่งรู้ว่า พระผงรุ่นนี้ได้ผสมดีสัตว์เข้าไปด้วย
     
  9. untra7

    untra7 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2012
    โพสต์:
    178
    ค่าพลัง:
    +209
    แล้วสมเด็จซุ้มระฆัง ของหลวงพ่อกวยพอมีประวัติการสร้างบ้างหรือเปล่าครับ
    อยากทราบจริงๆ
     
  10. ๑พรพรต๑

    ๑พรพรต๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +545
    พระเทพนิมิต ปิดทองเดิมๆ

    [​IMG]

    ทองคำที่มาปิดหน้าพระเทพนิมิตนี้ เป็นศิษย์อาวุโสของอ.ชุมเล่าว่า ทองคำนี้เป็นทองคำที่เสกตามตำรานะหน้าทองของหลวงปู่คงวัดตาล อาจารย์ของขุนแผน ผู้เป็นเลิศด้านวิชาอาคม ครูบาอาจารย์ทางจิตวิญญาณ ผู้อยู่เหนือกาลเวลา มาสอนวิชาอ.ชุม ไชยคีรี และเป็นปฐมอาจารย์ผู้สั่งให้อ.ชุมสร้างพระผงเทพนิมิตนี้ ศิษย์อาวุโสผู้เคยปรนนิบัติรับใช้ ร่ำเรียนวิชากับอ.ชุม ตั้งแต่ปี 2512 เล่าว่า คราวหนึ่ง ได้ถามอ.ชุมว่า “พระเครื่องทั้งหมดที่ท่านอาจารย์ได้สร้างไว้ถือเป็นสมบัติอันล้ำค่าที่ฝากไว้ในแผ่นดินและลูกหลาน พระเครื่องรุ่นใดมีคุณวิเศษเก่งกาจที่สุด” อ.ชุมเงียบ เมื่อศิษย์ถามคำถามนี้ คล้ายกับว่าใช้พลังจิตค้นความคิดของศิษย์ผู้ถามแล้วท่านตอบว่า “ดีเหมือนกันทั้งหมดหล่ะลูก” ศิษย์ผู้นี้ถามต่อว่า “กระผมไม่ได้คิดลบหลู่หรือดูแคลน อยากจะทราบจากใจจริงเพื่อเป็นความรู้ต่อไปภายหน้า ซึ่งท่านอาจารย์คงจะทราบด้วยจิตแล้วว่าผมต้องการทราบคำตอบด้วยความบริสุทธิ์จริงแท้” ท่านอ.ชุมนิ่ง มองหน้าศิษย์ครู่หนึ่งแล้วตอบว่า “ อันพระเครื่องทั้งหมดที่พ่อทำมีคุณวิเศษและตั้งใจทำอย่างที่สุดเหมือนกันทุกรุ่นทุกแบบตามตำรา แต่เมื่อลูกอยากทราบว่าพระเครื่องแบบใดมีคุณวิเศษและมีอภินิหารที่สุด พ่อตอบได้ว่า พระผงเทพนิมิตซิลูก เพราะตั้งแต่ยังไม่สร้างพระก็มีครูบาอาจารย์มานิมิตบอกทั้งรูปทรงขององค์พระเครื่องตลอดจนมาบอกกรรมวิธีในการสร้าง อีกทั้งมวลสารที่สร้างก็ล้วนแล้วแต่เป็นที่สุดและหาได้ยากยิ่ง อย่างเช่น ไพลดำนี้ จำเอาไว้นะลูก หลังจากนี้ ไพลดำจะหาได้ยากอย่างยิ่ง ด้วยมันจะกลายพันธุ์ เสื่อมถอยคุณวิเศษไปจากเดิม ไพลดำที่พ่อได้มานี้ ได้มาจากป่าลึกเมืองเขมร ต้องเป็นป่าบริสุทธิ์ยังห่างไกลการรบกวนจากมนุษย์ที่จะเข้าไป รบกวน ไพลดำนี้เป็นไพลแท้ ดินที่บริเวณต้นไพลนี้อยู่ จะเป็นสีดำทั้งหมด เป็นว่าที่มีคุณวิเศษทางคงกระพันอย่างที่สุด หัวหนึ่ง ราคาแพงมาก กว่าจะได้มาก็แสนยาก ต้องใช้จิตตรวจสอบแล้วตรวจสอบอีกทุกๆหัว ว่าเป็นของแท้จริงจึงนำมาใช้ผสมใส่พระผงเทพนิมิตนี้ ทั้งการปลุกเสกก็อภินิหารอย่างที่สุด ตลอดระยะเวลาหนึ่งไตรมาส(สามเดือน) ตั้งแต่นาทีแรกที่ปลุกเสกพระรุ่นนี้ก็มีดวงวิญญาณเทพผู้ศักดิ์สิทธิ์ ทั้งปรมาจารย์ผู้มีดวงจิตเป็นอมตะเหนือกาลเวลา หลายรูป ต่างวนเวียนผลัดเปลี่ยนกันมาปลุกเสก มิได้ขาดแม้เสียววินาที องค์เก่าไปองค์ใหม่มาไม่ได้ขาด ทั้งมีการเข้าทรงปลุกเสกโดยหลวงปู่คงเป็นประธาน และดวงวิญญาณของขุนแผนแสนสะท้าน ยอดขุนพลแห่งกรุงศรีอยุธยา ก็ร่วมปลุกเสก(เข้าทรง) ตลอดสามเดือน” พระทุกๆ องค์ท่านอ.ชุมกล่าวว่า จะมีเทพรักษาอยู่ทุกๆ องค์เสมอเหมือนกันทั้งสิ้น จะต่างก็เพียงเทพผู้สิงสถิตในพระเครื่ององค์นั้น ๆเป็นเทพหมู่ใดบ้าง บ้างก็เป็นนาคนาคา บ้างก็เป็นคนธรรพ์ แตกต่างกันไป ช่วงที่ปลุกเสก มีการทดสอบ โดยนำพระเครื่องมาให้ศิษย์บางคนกำไว้ในมือ แล้วให้ศิษย์นั้นนั่งสมาธิจนจิตสงบ ปรากฏว่าเทพผู้เป็นอารักษ์ สถิตอยู่ในองค์พระผงเทพนิมิตได้มาสิงร่าง บังคับจิตของศิษย์นั้นแสดงให้เห็นและสามารถพูดคุยไต่ถามเรื่องราวแปลก ๆ หลายอย่างได้ตามกำลังบารมีของเทพองค์นั้นจะสามารถแสดง มีเรื่องอัศจรรย์ในการปลุกเสกพระผงเทพนิมิตวันสุดท้าย เทพองค์สุดท้ายผู้มาปลุกเสกปิดพิธี เป็นเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่แห่งเขาไชยสนมีอายุนับพันๆปี เป็นผู้เรืองอาคม จากอดีตกาล แสดงอภินิหาร ให้ประจักษ์แก่สายตาผู้คนที่เข้าร่วมพิธีในวันนั้น ซึ่งในวันนั้นมีนักเขียนอาวุโส ท่านหนึ่งได้เข้าร่วมสังเกตุการณ์ในพิธีกรรมครั้งนั้นคือ อ.ปฐม อาจสาคร (มาลองดูด้วยตา) เทพผู้เป็นใหญ่ผู้นี้ท่านมีชื่อยาวมาก มีผู้จดไว้ ความยาวสองบรรทัดหน้ากระดาษปกติ เทพผู้นี้ได้เข้าปลุกเสกพระรุ่นนี้พอสมควรแล้ว เมื่อออกสมาธิท่านประกาศว่า ผู้คนทั้งหลายที่มาในวันนี้ เป็นบุญวาสนาของเจ้าทุกคนที่จะได้เห็นและครอบครอบของศักดิ์สิทธิ์ ที่เทพเจ้าทั้งหลายตลอดจนท่านผู้ที่มีความรู้ความสามารถในทางวิทยาคม ไสยเวทย์ ได้ร่วมกันสร้างขึ้น และปลุกเสกอย่างตั้งใจ เป็นของวิเศษ มีคุณค่าหาที่สุดมิได้ พวกเจ้าทั้งหลายผู้ใดอยากเห็นคุณวิเศษนั้นบ้างเล่า ผู้คนทั้งหลายตอบขึ้นมาพร้อมกันว่าอยากเห็น เทพผู้ยิ่งใหญ่แห่งเขาไชยสน หลับตาลงเข้าสมาธิอีกครั้ง อึกใจต่อมา พระเครื่องทั้งหมดนับพันพันองค์ ทุกๆ องค์ลอยขึ้นจากพื้น สูงขึ้นจากพื้นประมาณหนึ่งเมตร เป็นที่สร้างความอัศจรรย์แก่ผู้พบเห็นเป็นที่สุด พระเครื่องเหล่านั้น ลอยอยู่เหนือพื้นอย่างนั้น ในช่วงเวลานั้นเองมีใครคนหนึ่ง ได้ยกมือขึ้น เหนือศีรษะแล้วแบมือออก เขาหลับตาคล้ายอธิษฐานอะไรบางอย่าง ผู้คนที่อยู่ในพิธีนั้น ต่างจับจ้องไปทางบุคคลผู้นั้น ไม่นาน มีพระเครื่ององค์เล็ก ๆ องค์หนึ่งในจำนวนพระเครื่องทั้งหมดที่ลอยอยู่เหนือพื้น ได้ลอยมาช้า ๆ วิ่งเข้าไปในฝ่ามือของชายคนนั้นอย่างน่าอัศจรรย์ เมื่อผู้คนทั้งหลายเห็นดังนั้น ต่างยกมือขึ้นอธิษฐานขอพระเครื่อง ด้วยกรรมวิธีเดียวกัน และทุกคนก็ได้พระเครื่ององค์เล็ก ๆ ที่ต่างลอยกระจายออกมาวิ่งไปหาผู้อธิษฐานแต่ละคนจนครบถ้วนทุกคนแม้นอ.ปฐม อาจสาคร เอง ก็ได้พระผงเทพนิมิตนี้ จากการอธิษฐานให้พระลอยมาในฝ่ามือได้เช่นกัน นี้คือคุณวิเศษและอภินิหาร ส่วนหนึ่งของพระผงเทพนิมิต

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มกราคม 2013
  11. ้hospitalz

    ้hospitalz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +112
    ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ ผมมีอยู่องค์พ่อบอกว่าปู่ได้แจกมาตอนไปสงครามเกาหลี
     
  12. อั๋นวัดสาม

    อั๋นวัดสาม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    4,260
    ค่าพลัง:
    +9,022
    มาเจอข้อมูลดีๆอีกแล้ว :cool:
     
  13. tong5959

    tong5959 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    2,056
    ค่าพลัง:
    +6,082
    ขอแจมพระชุดหนองอีดุกด้วยครับ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  14. ๑พรพรต๑

    ๑พรพรต๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +545
    พระเนื้อตะกั่วพิมพ์จิ๋ว หลวงพ่อขัน วัดนกกระจาบ

    [​IMG]

    พุทธคุณท่านเด่นมากทางคงกระพันและมหาอุด อย่างหาตัวจับยาก ท่านเก่งทางเชือกคาดเอว สมัยก่อนกรมหลวงชุมพรฯ ท่านเคยถามหลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า ว่ามีอาจารย์องค์ใดเก่งอีก ท่านบอกว่ามี ท่านขันวัดนกกระจาบ ก็เก่ง ท่านก็เป็นศิษย์ของหลวงปู่ศุขเช่นกัน สมัยนั้นคนที่มาสักกับหลวงพ่อขัน เป็นนักเลงเยอะ ข่าวได้แพร่ไปไกล กรมหลวงชุมพรฯท่านเลยมากราบท่านมาลองดี กรมหลวงชุมพรฯได้ถามหลวงพ่อขันว่า “ของท่านดีจริงมั๊ย” หลวงพ่อขันตอบว่า “ไม่รู้สิ ฉันมีหน้าที่เสกมีหน้าที่แจกด้วยความเมตตา เขาเอาไปใช้กันเป็นอย่างไร ฉันไม่รู้” กรมหลวงชุมพรฯก็เลยขอพระท่าน เสร็จแล้วก็เอาไปลองยิงที่หน้ากุฎิท่านเลย เป็นพระพิมพ์ใดไม่ทราบ ตอนแรกท่านเอาปืนพกยิง ยิงไม่ออก ท่านเลยเอาปืน รศ.ยิง(ปืนยาว) ปรากฏว่ายิง ออกทุกนัดเลย ท่านคิดในใจว่า หลวงพ่อขันนี่ไม่เท่าไร เสร็จแล้วขึ้นไปกราบหลวงพ่อขัน
    หลวงพ่อท่านถามกรมหลวงชุมพรฯว่า” เมื่อกี้นี้เสียงอะไร “
    กรมหลวงชุมพรฯ “เสียงปืน ผมลองพระท่าน”
    หลวงพ่อขัน “ลองกันตรงนี้เลยหรอ”
    กรมหลวงชุมพรฯ หัวเราะ “ของจริงต้องลองได้ ของแท้ต้องพิสูจน์ได้สิครับท่าน”
    หลวงพ่อขัน “ยิงปืนน่ะมันเสียงดัง แต่ลูกปืนอยู่ตรงนี้” ว่าแล้วท่านก็แบมือออกมา ลูกปืนในมือหลวงพ่อขันท่านเป็นหัวลูกปืน รศ.ที่กรมหลวงชุมพรฯท่านยิงออกมา (ปืน รศ. เป็นปืนที่ล้างอาถรรพ์ ถ้าของไม่ดีจริงไม่เหนียวจริงกระจายหมด) ซึ่งเป็นจำนวนตามนัดที่ท่านยิงเลย กรมหลวงชุมพรฯเลยกราบหลวงพ่อขันและขอสักกับท่าน แต่ตอนนั้นท่านสักมาเต็มตัวไปหมดแล้ว แทบจะไม่มีที่ลงเลยท่านบอกหลวงพ่อขันว่า “ท่านอาจารย์ ขอตัวนะตัวโมเป็นที่ระลึกสักตัวเถิด” ท่านจึงได้สักอุณาโลมกับยันต์สูรจันทร์ อยู่ตรงหน้าอก
    พระเนื้อตะกั่วของท่าน ด้านหนึ่งเป็นสิงห์ ด้านหนึ่งเป็นหนุมาน เป็นทั้งคงกระพัน มหาอำนาจ แคล้วคลาด ชาตรี และมหาอุด คุ้มกันภยันตราย ท่านทำเองหล่อเอง เป็นพระขนาดเล็ก ไว้แจกเด็กแจกผู้หญิง ถ้าหาพระหลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่าไม่ได้ราคาแพง ก็พระหลวงพ่อขันวัดนกกระจาบ พุทธคุณไม่ได้หนีกันเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มกราคม 2013
  15. mrchainarong

    mrchainarong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,179
    ค่าพลัง:
    +2,006
    สวัสดีครับพี่ กระทู้ดีดีที่น่าติดตามอ่านอีกแล้วครับ ขอบพระคุณที่แบ่งปัน....
     
  16. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,019
    [​IMG] [​IMG] 11
     
  17. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,019
    [​IMG] [​IMG]44
     
  18. bluesahara007

    bluesahara007 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +95
    เห็นขึ้นของขลัง ยังไม่มีคนประเดิมผมขออนุญาต เลยครับ
    เขี้ยวหมูป่าตัน ป่าแถบกัมพูชา สำหรับเขี้ยวนี้เป็นกำจายด้วยครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. ZAAP

    ZAAP Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +34
    ข้อมูลที่ได้อ่านเข้าใจว่าท่านผู้เปิดกระทู้นี้คงเป็นผู้สนใจใฝ่รู้มิใช่น้อย แถมยังเมตตาเอื้อเฟื้อข้อมูลแก่สาธารณะชนหมู่มากอีกด้วย พึ่งจะได้เข้ามาเห็นไล่ดูกระทู้ต่างธรรมดาไม่ค่อยได้ เข้าระบบ เพียงเข้ามาอ่านหาความรู้มาเจอกระทู้นี้ชอบมาก ชอบในเรื่องราวเรื่องเล่าอ่านแล้วเพลินดี แถมได้ความรู้อีกด้วย ขอบพระคุณผู้ตั้งกระทู้ด้วยครับ หวังว่าคงนำเรื่องราวดีๆ มาเสนอต่อๆ ไปนะครับ จะคอยติดตามอ่านเรื่อยๆ ครับขอบพระคุณครับ
     
  20. ๑พรพรต๑

    ๑พรพรต๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +545
    รูปถ่ายหลังสิงห์

    รูปถ่ายหลังสิงห์ ลพ.กวย ออกราวปี พ.ศ.๒๕๐๐ และสันนิษฐานว่าเป็นภาพต้นแบบเหรียญรุ่นแรก โดยด้านหลังภาพ ลพ.กวย ท่านนำยันต์ราชสีห์มหาอำนาจตำรา ลพ.จง วัดหน้าต่างนอกองค์อาจารย์ท่านมาประทับด้านหลัง ยันต์นี้ดีทาง มหาอำนาจ มหาอุตม์ คงกระพัน โดยตรงกลางเป็นรูปราชสีห์ มียันต์อยู่มุมทั้งสี่ด้าน เป็นคาถาหัวพญาราชสีห์ และภาพยันต์นี้ ลพ.กวย เคยนำมาสร้างผ้ายันต์ด้วยเช่นกัน ลพ.กวย ท่านเป็นผู้รู้อาคมมากเจนจบสรรพวิชาหลายแขนงวิชา และท่านทราบดีถึงข้อดีข้อด้อยต่าง ๆ ในการใช้อาคม อีกอย่างลูกศิษย์เป็นนักเลงคนจริง เป็นเสือ เป็นโจรก็มาก เป็นทหารรั้วของชาติก็มีมากเช่นกัน ด้วยความรักเป็นห่วงศิษย์ดังบิดาเมตตาบุตร ท่านพยามปลุกเสกของท่านอย่างดีที่สุด เรียกว่าสุดกำลังความสามรถเต็มภูมิที่มี อย่างของที่จะเสกหนักไปทางต่อสู้ปราบปรามท่านจะต้องเริ่มเสกด้วย เพชฌฆาตฤกษ์ เป็นต้น ของใดเริ่มเสกด้วยฤกษ์ใดใดท่านรู้ จะเสกปิดหมดวันใดเป็นวันอ่อน เป็นวันเปิดท่านจะเสกให้แข็งจะเน้น ด้วยกันศิษย์ที่อาจจะเป็นวันเปิดในวันนั้นกลัวเขาจะเอาศิษย์ไปฆ่าตาย

    ด้วยความเป็นอมตะรู้แจ้งและเมตตา ท่านรู้ดีว่าหากวันหน้ามีคนนับถือมากของ ๆ ท่านจะหายากมาก ท่านได้เสกตัวเสกแยกจิตนำจิตมาสถิตลงในรูปถ่ายของท่านให้เป็นอมตะ ใครเอาไปใช้ไปไหนก็ไม่เสื่อมถอย ใครจะมีอาคมมาคัดมาถอยวิชาที่ท่านเรียกจิตปลุกเสกลงในรูปถ่ายนี้ไม่ได้ ใครจะเอาไปอัดไปทำอย่างไรก็จะศักดิ์สิทธิ์ (เสกฟิล์ม) ก่อนจะถ่ายท่านนั่งเสกตัวเสกสังฆาฏิเรียกจิตเรียกอาการปลุกธาตุตนเองก่อนเสก คือ พร้อมเสมอ พร้อมตลอดเวลา จะมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นพร้อมจะปกป้องคุ้มครอง

    ภาพรุ่นนี้มีสองแบบ คือ ภาพมหาอุตม์ กับ ภาพแคล้วคลาด

    ๑. ภาพมหาอุตม์ คือ ก่อนจะถ่ายภาพ ลพ.กวย ท่านอธิษฐานเสกตัวท่านเองก่อนถ่ายภาพ โดยท่านเคยเล่าให้ศิษย์พระของท่านว่า ต้องเสกเอาลิ้นดุนเพดานปาก แล้วจึงเสกจีวรขมวดมุมดึงจีวรที่ปลายแขนซ้ายขึ้นมาจุกไว้ที่ใต้วงแขน แบบนี้เป็นมหาอุตม์ ดีทางหยุดอาวุธห้ามอาวุธ ปืนยิงไม่ออก จนถึงปากกระบอกแตกได้ คาถามหาอุตม์ว่า “อะนิสทัสสะ นะอัปปะติ อะนิสทัสสะ นะอัปปะติคา” จะยิง ๆ ไม่ออก หากออกก็คาปากกระบอกจนถึงปากกระบอกแตกปืนเสียหายได้ ภาพแบบนี้ประสบการณ์สูงทางหยุดอาวุธห้ามอาวุธ ห้ามอาวุธนี้ก็ เช่น จะชักมีดออกจากฝักแต่ชักไม่ออกอย่างนี้ห้ามอาวุธ อย่างสมัยก่อนมีคนทาง ศรีประจันต์ เขาเป็นศิษย์เคยสักกับ ลพ.มุ่ย และมาเป็นศิษย์มาสักยันต์กับ ลพ.กวย สักเป็นยันต์ตาราง และตัวเลขที่แผ่นหลัง ได้บูชารูปรุ่นนี้ใหม่ ๆ (ปี พ.ศ.๒๕๐๕) ได้ไปเที่ยวข้ามถิ่นไปถึงด่านช้าง สมัยนั้นด่านช้างยังเต็มไปด้วยนักเลงมือปืน ไปมีเรื่องจะถูกฟันดีมีดดาบไทย แต่แปลกฝ่ายตรงข้ามพยายามดึงมีดออกจากฝักอย่างไรก็ไม่สามารถดึงตัวมีออกจากฝักได้ ซึ่งเป็นเรื่องน่าแปลกอัศจรรย์ วันนั้นในตัวเขามีแต่รูปถ่ายรุ่นนี้กับรอยสักของลพ.กวย กับ ลพ.มุ่ย (ศิษย์พี่ ลพ.กวย) เพียงเท่านี้จริง ๆ แปลก

    ๒. ภาพแคล้วคลาด เป็นภาพแบบไม่ดึงปลายจีวรขึ้นมา แต่ท่านเสกตัวเสกสังฆาฏิเน้นคาถาทางแคล้วคลาดกำบัง คาถากำบังตนนี้ลงท้ายว่า “โสหับ” ภาพรุ่นนี้จะประสบการณ์น้อยกว่าแบบแรก คงเป้นเพราะผู้บูชาภาพแบบนี้โดยมากจะแคล้วคลาดไม่พบเจออะไร หากถูกยิงจะออกแต่ไม่ถูกเลย เคยมีคนเอาไปทนลองโดยมากลูกกระสุนออกแต่ไม่ถูกเลย แม้นยิงในระยะประชิดเขาก็ว่าไม่โดน แต่เรื่องนี้ข้าพเจ้าไม่ยืนยันด้วยไม่เคยเห็นกับตา เพีบงฟังคนก่าเขาเล่ามาอีกทอดหนึ่งเท่านั้น ภาพแบบนี้เป็นแบบแคล้วคลาดกำบังสูง

    [​IMG]

    ภาพหลังสิงห์นี้จะมีทั้งแบบใช้กระจกบางปิดประกบด้านหน้า – หลัง ก็มี หรือจะเป็นแบบเลี่ยมพลาสติกเลยก็มี เลี่ยมพลาสติกนี้จะเป็นเลี่ยมพลาสติกสีทั้งสิ้น เช่นสีเหลือง สีส้ม เป็นต้น ภาพรุ่นนี้เป็นภาพที่ดูขลังมีพลังลึกลับดูมีอำนาจดีมาก เขาเอา ลพ.กวย ไปนั่งบนตั่งแล้วจัดผ้ามาคลุมตั่งเสีย เอาไฟจัดไปส่องด้านหลังดูคล้ายแสงรัศมีออกจากกายท่านดูเข้มขลังน่ายำเกรง ภาพนี้จะเห็นได้ว่าท่านจะเอาผ้าจีวรดึงมาคลุมให้ปิดมิดปลายเท้าของท่าน ด้วยท่านเป็นพระละเอียดท่านเคยพูดถึงเรื่องนี้ว่า “เอาตีนโผล่ออกมามันไม่สุภาพ ไม่เหมาะสม” นี้เป็นเกร็ดเล็กน้อยของท่านที่ถ่านทอดไว้เผื่อเป็นความรู้แก่ผู้สนใจ ผู้ศรัทธาในองค์ ลพ.กวย ได้ทราบเรื่อราวเกี่ยวกับภาพถ่ายรุ่นนี้ ซึ่งข้าพเจ้าพอจะทราบมาบ้างเพียงเล็กน้อยจึงนำมาเผยแพร่ไว้ ณ.ที่นี้

    [​IMG][​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มกราคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...