เป็นคนแบบนี้แปลกมั้ยคะ รับขันธ์ดีมั้ยคะ

ยาวหน่อยนะคะเรื่องมันยาวตั้งแต่เด็ก รบกวนช่วยตอบหน่อยนะคะ-/\-


สวัสดีค่ะ ขอเล่าเหตุการณ์เกี่ยวกับตัวเองนะคะ คือเป็นคนชอบธรรมะศาสนามาตั้งแต่เด็กค่ะ ป.1-2 จะเริ่มชอบเอาบทสวดมนต์ของแม่มาหัดอ่าน ชอบทำบุญ ชอบไปวัด และเป็นคนขี้สงสารมาก ทีนี้เราก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองแปลกๆมาตั้งแต่เด็ก บางทีก็ไปยืนรำหน้าศาล(ตอนเด็ก) ชอบฝันแปลกๆฝันว่าไปเที่ยวที่ที่ไม่เคยไป และจำภาพและบรรยากาศได้อย่างดี คือฝันแบบมานี้มาเรื่อยๆตั้งแต่เด็ก ส่วนมากจะชอบขึ้นบนเขาเย็นๆมีหมอกเพื่อไปทำบุญ ไหว้พระ บางทีก็ได้เดินขึ้นเขาโดยระหว่างทางจะมีเชือกผูกใบแดงๆห้อยจากตรงไม้สองฝั่งเหนือหัวคือเหมือนมีงานอะค่ะ พอเดินขึ้นไปก็ไหว้พระประมาณนี้ หรือไม่ก็ไปตามหมู่บ้านใกล้วัดเห็นคนเยอะ ชอบฝันแบบนี้แต่ความฝันคือชัดเจนและจำรายละเอียดได้ดีมากค่ะ
มีครั้งนึงฝันมีเสียงบอกจะพาไปดูนรก อยู่ๆเหมือนร่างก็ลอยขึ้น และก็วูบๆวนๆเร็วๆเหมือนลงท่อมืดๆและก็เห็นเม็กม่าลาวา ตามซอกหิน เป็นทางยาวแคบ แต่ไม่ได้เห็นกระทะทองแดงอะไรนะคะและก็ตื่นก่อน ก็จะประมาณนี้มาตลอดคือไปที่แปลกๆ
พอเริ่มโตขึ้นเข้ามหาลัยช่วงนั้นปฏิบัติเยอะมากจะสวดมนต์ ตื่นมาใส่บาตร นั่งสมาธิและฟังธรรมะทุกวัน จนเริ่มรู้สึกแปลกๆแบบชัดเจนขึ้น คือจะรู้ความคิดคนที่เวลาเรามองหน้าใครมันจะแว้บมาเลยว่าเขาคิดยังไง บางครั้งก็พลั้งปากไปทักเพื่อนคนนึงไม่ได้สนิทกันนะคะ เขาดูเป็นเด็กเรียน อยู่ๆเราก็พลั้งปากพูดขึ้นมาเองว่าเคยทำแท้งใช่มั้ย เขาก็หน้าเสีย ก็เลยบอกไปทำบุญบ้างนะ คือตอนนั้นงงกับตัวเองมากทำไมอยู่ๆพูดไปแบบนั้น ถ้ามีสติกว่านี้ก็คงเลือกไม่พูดค่ะ
และช่วงนั้นก็จะมีเหตุการณ์แปลกอีกอย่างคือชอบเห็นเลขค่ะ บางทีนั่งหลับตาและเห็นเลขขึ้นมา ปรากฏว่าหวยออกเลขนั้นจริงๆหรือบางครั้งได้ยินคนพูดตัวเลข อยู่ๆมันก็สะดุดแบบติดหูและหวยก็ออกจริงๆ และก็บ่อยครั้งก็ฝันว่ามีใครมาบอกเลข หวยก็ออกจริงๆตรงๆ แต่บางครั้งตื่นมาก็มีลืมบางตัว พักหลังเลยถ้าได้ยินและสะดุดตื่นก็จะรีบพิมไลน์หาเพื่อน จดเลขไว้และคือมันออกตรงตามนั้นจริงๆ
พอมาช่วงหลังมีกิเลสมากๆค่ะยอมรับ อยากรวยอยากได้นู้นนี่นั้น สิ่งที่เคยรับรู้มันหายไปค่ะไม่รู้สึกอะไร จนมาช่วงนี้ล่าสุดเลยค่ะ เริ่มมีความรู้สึกเดิมกลับมา เริ่มฝันแปลกๆและได้ยินเลขเหมือนเดิม จนมีโอกาสได้ไปวัดเจดีย์หอยเจอหลวงพ่อทองกลึงกำลังตรวจองค์ คือพอได้ยินท่านสวดตรวจองค์เรารู้สึกใจเต้นจะร้องไห้น้ำตาคลอ จนลองตรวจปรากฏว่าตัวสั่นร้องไห้ หลวงพ่อบอกมีองค์ให้รับขันธ์ ตอนนั้นยังไม่เชื่อก็จุดธูปตามหลวงพ่อบอกแต่ไม่รับค่ะ อยากเดินตามพระพุทธเจ้าไม่อยากมีบ่วง จนกลับมาบ้านผ่านมาเดือนกว่าๆเริ่มฝันแปลกๆยังฝันเห็นเลขอยู่ค่ะถูกหวยด้วย(ฝันบ่อยแต่ซื้อไม่บ่อยค่ะ ตัวละ50บาทไม่เล่นเยอะ) และก็ฝันว่าไปสถานที่นึงน่าจะเป็นวัด เป็นกุฏิไม้ พอขึ้นไปเจอพราหมณ์เหมือนเป็นผู้หญิงผมยาว บอกหลวงพ่อไม่อยู่ เดี๋ยวเขาทำพิธีให้ เราก็นั่งรอและหันข้างมองตู้กระจก พอเรามองเข้าไปก็ตกใจเห็นตัวเองใส่ชุดไทยมีชฏา ทั้งที่จริงๆไม่ได้ใส่ไรมาเลย พราหมณ์ก็บอกจะทำพิธีให้และให้เราถอดเสื้อผ้า เราเลยบอกว่าหนูไม่ได้ใส่อะไรมาเลย (คือตอนนอนไม่ได้ใส่เสื้อผ้าจริงๆค่ะ) เขาให้เรานอนและทำพิธีอะไรสักอย่างรอบตัวไม่โดนตัว จากนั้นเราก็คลุมผ้าลงไปตามหาหลวงพ่อและก็เจอค่ะ ไม่แน่ใจว่าท่านชื่ออะไรรู้แค่ว่าท่านเป็นพระเกจิเพราะใส่ผ้าสีน้ำตาลเลือดหมู ท่านก็บอกว่าให้รีบรับขันธ์นะท่านมาแล้ว มาเต็มตัว เป็นผู้หญิง ให้รีบรับให้เร็วที่สุด คือจำได้แม่นและก็ตื่นค่ะ ตอนนั้นเริ่มกังวลและลังเลแล้วค่ะ แต่ก็ไม่อยากจะเชื่อเต็มร้อยเหมือนกัน แต่ช่วงนี้ฝันแม่นมาก ฝันว่ามีคนมาบอกว่างูเข้าบ้านๆตอนเช้ามืด ตื่นมางูเห่าเข้าบ้านจริงๆค่ะ
วันนี้เลยตัดสินใจไปหาหลวงพ่อทองกลึงอีกครั้ง มาด้วยความ60/40 ยังไม่เชื่อเต็มร้อยค่ะ ครั้งแรกยังคิดว่าที่สั่นเพราะใส่อุปทาน ครั้งนี้เริ่มเชื่อเหมือนกันแต่กะมาฝืนดูค่ะว่าจะมีอาการมั้ย เลยตรวจองค์อีกรอบ ตอนแรกตั้งใจจะฝืนดูเพราะเราไม่เชื่อเต็มที่ เราสงสัย แต่ถึงเวลาคือมันฝืนไม่ได้ค่ะอาการเดิมมาเราร้องไห้ตัวสั่นมาก จนหลวงพ่อถามไปถามมา หลวงพ่อบอกตอนนี้ที่มาคือเต็มที่แล้วใช่มั้ย ให้รับเถอะมีองค์100%

อยากถามเลยนะคะ ควรรับขันธ์มั้ยคะ จนถึงตอนนี้ที่พิมอยู่นี้ยังลังเลค่ะ ว่าเราอุปทานรึป่าว ช่วยตอบหน่อยนะคะ -/\-

 

พิจารณาด้วยตัวเองครับ
http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=1933

 

อ่านดูครับ พิจารณาด้วยตัวเอง นะ จขกท. เรื่องที่2
http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=2542

 

รับขันธ์มีของจริงมั้ยคะ หรือทั้งหมดคือหลอกลวงทุกที่เลยคะ

 

ถ้า จขกท.รับขันธ์นี่ขันธ์นั่น (ขันธ์ตามความหมายของเค้าไม่รู้หมายถึงอะไร) ก็แปลว่า จิตใจเราตกเป็นทาสของสิ่งนั้น (คนนั้น) เต็มร้อย เมื่อจิตใจเป็นทาสเสียแล้ว ก็ไม่เป็นอิสระ ไม่เป็นตัวของตนเอง ฯลฯ

 

ต้นเหตุมาจากจิตใจทั้งสิ้น มีตัวอย่างให้ จขกท.เทียบเคียงกับอาการของตนเองดูครับ



นั่งสมาธิแล้วร้องไห้ ร้องจนตัวสั่น

นั่งสมาธิที่ปฏิบัติจริงๆครั้งนี้คือครั้งที่ 2 ที่เข้าถึง นั่งได้เกือบชั่วโมง ครั้งแรกรู้สึกลอยอยู่บนเมฆ รู้สึกดีมาก ครั้งนี้ก็เหมือนกัน แต่ครั้งนี้ลึกกว่ามากนานกว่ามากด้วยเป็นชั่วโมง ครั้งนี้นั่งระลึกจิต หรือเขาเรียกอะไรไม่รู้ ใจคิดถึงแม่คิดถึงพ่อมาก เหมือนจิตอยู่ในอดีต คิดถึงเขาเหมือนจากมานานมาก คิดถึงจับจิต คิดถึงน้ำตาไหลร้องไห้มือสั่นตัวสั่นตัวชา
ถามตัวเองว่าร้องทำไม ร้องไห้ไม่หยุด ตอนร้องรู้สึกตัว ถามตัวเองว่าร้องทำไม ตอบตัวเองไม่ได้ รู้แต่ว่าคิดถึงเขาที่จากมาไกล ไม่ได้คิดไปเองนะ ไม่ได้บ้าด้วย มีคนเป็นเหมือนเรา ใจนิ่งจิตนิ่ง แต่ทำไมใจกับจิตต้องคิดถึงเขาขนาดนั้น เราอยู่กันคนละโลกแล้ว ถึงจิตจะคิดถึงแค่ไหนก็ต้องละต้องวาง ใจคิดจะนั่งสมาธิแค่ให้มีสมาธิอ่านหนังสือ ทำไปทำมายาวเลย

เรื่องนามธรรมคือจิตใจนี่ลึกซึ้งยิ่งนักยากเข้าใจ แต่ถ้าเข้าใจมันแล้วเป็นอิสระไร้ทุกข์

 

ควรรับใหม ?

ให้หัดตอบเอง ถึงจะถูกต้อง

ถ้าถามคนอื่น แล้วไปสร้าง น้ำหนักให้จิต ไหลไป
ส่งออกไป ไปฉวยเอาตาม ที่สิ่งภายนอกเปน
ปัจจัย นั่นแหละ อุปาธิ ทางการรับขันธ์

ยังไม่ทันเข้าพิธี อาศัยฟังคนอื่น ถึงได้เกิดเปน สตรี


ตามนัยยะ ประวัติที่เล่ามา เจ้าของกระทู้ควร
เกิดเปนเพศชาย เปน สัตตบุรุษ

แต่ที่ ภาวนาพลาด แล้วเกิดเปนหญิง เพราะ
ใช้หูฟังคนอื่น สร้างจุด ต่อม ภพ ชาติ
แล้ว เอาจิตเคลื่อนไปฉวย มาเปนตน สำคัญ
ว่าของตน

อย่าส่งจิตออกนอก

อย่าให้เกินกาย

เช่น เวลามีเสียงชวนไป.... ให้กำหนดรู้กาย

ถ้าวางจิตถูก จะไม่ถลำออกไป.... แล้วสังเกต
ความหลุด ร่อน ห่างออก จาก อุปาธิธรรมต่างๆ

ถ้ากำหนดถูก กายที่อาสัยระลึก จะแสดงปิติ
ปัสสัทธิ มีนามกายที่เปนสุญญตา เปนนักรบสุญญตา

ถ้าเปนชาย จะปรารภเปน พุทธภูมิ

ถ้ายังเกิดเปนหญิง ใช้เสียง สัมผัส ฯ ภายนอก
นำพา จะปรารภว่า พวกโหลยโถ้ย(เที่ยวรับขันธ์
โดยไม่ผ่านพิธี แย่กว่าพวก เข้าพิธีล้านๆเท่า)

 

กลลวง จาก สรรพสัตว์ ไม่มี

กลลวง จะเกิด ตอนที่มีเสียงกระซิบ มีอะไรไหวๆ
ยุบยิบ จิตมันแปรปรวน แล้ว ลืมกำหนดรู้

ดังนั้น นักภาวนาที่ดี จะไม่โทษธรรมภายนอก

กลลวง จะเกิด เมื่อเรา ขาดสติ ขาดการปรารพ
ความเพียร

ขาด กายคตาสติ

ขาด อานาปานสติ

ขาด การเหนสัญญาความแต่งต่างของกองลม
ทั้งปวง ที่มี ธรรมหนึ่ง

 

ไปหา กรวย นอนในโรงแก้ว กราบ ซะ

รับขันธ์ มีจริง และ ไม่จริง

กรวย!!!

 

จขกท อย่า งง หน่าฮับ

คนบางคนนี่ มัน รอยเล่มเกวียน ยิ่งกว่า สตรี

ปาก บอกอย่ารับ

แต่ขยิบตา อ้าง พีธี กฏเกณฑ์ อันศักดิ์สิทธิ

เสร็จแล้ว ลอบกระทืบ พุทธศาสนา ลงใต้ อุ้งวัยสิบ

ด้วยการบอกว่า

ให้ยึดมั่น ถือมั่น สิ่งนั้น สิ่งนี้

ปากบอก อย่ารับขันธ์

แต่ ร้อยเล่มเกวียน บอกว่า จงยึดมั่นถือมั่น


ปล. ถ้า งง ให้พิจารณา บาลีคำว่า
นิสสรณะ ให้ดีๆ มองให้ได้มุมลงมือประจักษ์
ไม่เอา มุมการแปลไทยที่มีอยู่ที่คุ้นเคย ชินหู

 

จริงๆแล้ว มันไม่สำคัญหรอกครับว่ามันมีจริงไหม..
ซึ่งการตัดสินใจว่าจะรับหรือไม่รับควรตั้งอยู่ในหลักเหตุผล ยกตัวอย่างเช่น
1. จุดประสงค์ที่ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรมะ เพื่ออะไร
2. จุดประสงค์ที่จะรับขันธ์ เพื่ออะไร

แล้วอย่างไหนสำคัญสำหรับคุณมากกว่ากัน
ถ้าข้อ 1 สำคัญกว่าก็ยึดการปฏิบัติธรรมเป็นหลัก แล้วดูว่าสิ่งอื่น (ข้อ 2) เป็นอุปสรรคขัดขวางในการปฏิบัติธรรมหรือไม่ ถ้าเป็นก็อย่าไปรับ ถ้าไม่เป็นก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณเองว่าอยากรับไหม... ไม่ใช่รับเพราะคนอื่นบอกให้รับ ถ้าทำเพราะคนอื่นบอกให้ทำ คุณจะไม่มีความสุขกับมันหรอก

 

ศาสนาพุทธ ไม่น่าจะมีให้ไปรับขันธ์

แต่เรื่องการรู้เห็นนั้นมีจริง อาจจะเรียกว่าตาทิพย์

ถ้าสิ่งนั้นเกิดขึ้นจริงก็จะมาจาก ความชินของจิตเดิมเมื่อมีความสงบระดับหนึ่งจึงสัมผัสได้

ผมก็ไม่เเน่ใจหรอกว่าจะแก้อย่างไร แต่คิดว่า น่าจะตั่งใจทำสมาธิ เเละเจริญสติ บังคับจิต
ตัวเอง เช่นให้จดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง การทำงาน หรือ ลมหายใจ จิตจะได้ไม่คืนไปกับจิตเดิม หรือจะพูดอีกอย่างคือ บังคับจิตให้หยาบมากขึ้นอย่างการขยับตัวทำงานต่างๆ หรือทำจิตให้ละเอียดสงบมากเกินไป อย่างสมาธิขั้นสูง ก็จะไม่สามารถรับรู้สิ่งนั้นๆได้ ตามตำราเขาว่าไว้นะครับ

เคยฟังรายการ ประวัติ อาจารย์เจน สมัยเด็กๆก็เคยเห็นเอง จนเริ่มทำสมาธิบังคับเปิด ปิดความรู้นั้นได้

ตนเป็นที่พึ่งแห่งต้น มีเหตุเเละผล

 

สั้นเลย ให้ดูว่า พุทธศาสนา
เน้นเรื่องอะไรเป็นหลักครับ

 

"ขันธ์" หากเป็นไปได้ ฝาก จขกท. ถามผู้นั้นทีว่า ขันธ์ดังกล่าวนั้น หมายถึง /ได้แก่ อะไร

 

จนมีโอกาสได้ไปวัดเจดีย์หอย เจอหลวงพ่อทองกลึงกำลังตรวจองค์ คือพอได้ยินท่านสวดตรวจองค์ เรารู้สึกใจเต้นจะร้องไห้น้ำตาคลอ จนลองตรวจปรากฏว่าตัวสั่นร้องไห้ หลวงพ่อบอกมีองค์ให้รับขันธ์ ตอนนั้นยังไม่เชื่อก็จุดธูปตามหลวงพ่อบอก แต่ไม่รับค่ะ อยากเดินตามพระพุทธเจ้าไม่อยากมีบ่วง


ขันธ์ ความหมายตามหลักพระพุทธศาสนา ดังนี้

ขันธ์ กอง, พวก, หมวด, หมู่ ลำตัว, หมวดหนึ่งๆของรูปธรรม และนามธรรมทั้งหมด ที่แบ่งออกเป็น ๕ กอง คือ

รูปขันธ์ กองรูป

เวทนาขันธ์ กองเวทนา

สัญญาขันธ์ กองสัญญา

สังขารขันธ์ กองสังขาร

วิญญาณขันธ์ กองวิญญาณ เรียกรวมว่า เบญจขันธ์ (ขันธ์ ๕)


ขันธมาร ขันธ์ ๕ คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เป็นมาร เพราะเป็นสภาพอันปัจจัยปรุงแต่งขึ้น เป็นที่ตั้งแห่งทุกข์ ถูกปัจจัยต่างๆ มีอาพาธ เป็นต้น บีบคั้นเบียดเบียนเป็นเหตุขัดขวาง หรือรอนโอกาส มิให้สามารถทำความดีงามได้เต็มที่ หรืออาจตัดโอกาสนั้นโดยสิ้นเชิง

 

จนมีโอกาสได้ไปวัดเจดีย์หอย เจอหลวงพ่อทองกลึงกำลังตรวจองค์ คือพอได้ยินท่านสวดตรวจองค์ เรารู้สึกใจเต้นจะร้องไห้น้ำตาคลอ จนลองตรวจปรากฏว่าตัวสั่นร้องไห้ หลวงพ่อบอกมีองค์ให้รับขันธ์ ตอนนั้นยังไม่เชื่อก็จุดธูปตามหลวงพ่อบอก แต่ไม่รับค่ะ อยากเดินตามพระพุทธเจ้าไม่อยากมีบ่วง

ตย. ให้จขกท. พินิจดู

 

พอเริ่มโตขึ้นเข้ามหาลัยช่วงนั้น ปฏิบัติเยอะมาก จะสวดมนต์ ตื่นมาใส่บาตร นั่งสมาธิ และฟังธรรมะทุกวัน จนเริ่มรู้สึกแปลกๆ แบบชัดเจนขึ้น คือจะรู้ความคิดคน ที่เวลาเรามองหน้าใครมันจะแว้บมาเลยว่า เขาคิดยังไง


บางครั้งก็พลั้งปากไปทักเพื่อนคนนึง ไม่ได้สนิทกันนะคะ เขาดูเป็นเด็กเรียน อยู่ๆเราก็พลั้งปากพูดขึ้นมาเองว่าเคยทำแท้งใช่มั้ย เขาก็หน้าเสีย ก็เลยบอกไปทำบุญบ้างนะ คือตอนนั้นงงกับตัวเองมากทำไมอยู่ๆพูดไปแบบนั้น ถ้ามีสติกว่านี้ก็คงเลือกไม่พูดค่ะ
และช่วงนั้นก็จะมีเหตุการณ์แปลกอีกอย่างคือชอบเห็นเลขค่ะ บางทีนั่งหลับตาและเห็นเลขขึ้นมา ปรากฏว่าหวยออกเลขนั้นจริงๆหรือบางครั้งได้ยินคนพูดตัวเลข อยู่ๆมันก็สะดุดแบบติดหูและหวยก็ออกจริงๆ และก็บ่อยครั้งก็ฝันว่ามีใครมาบอกเลข หวยก็ออกจริงๆตรงๆ แต่บางครั้งตื่นมาก็มีลืมบางตัว พักหลังเลยถ้าได้ยินและสะดุดตื่นก็จะรีบพิมไลน์หาเพื่อน จดเลขไว้และคือมันออกตรงตามนั้นจริงๆ
พอมาช่วงหลังมีกิเลสมากๆค่ะยอมรับ อยากรวยอยากได้นู้นนี่นั้น สิ่งที่เคยรับรู้มันหายไปค่ะไม่รู้สึกอะไร จนมาช่วงนี้ล่าสุดเลยค่ะ เริ่มมีความรู้สึกเดิมกลับมา เริ่มฝันแปลกๆและได้ยินเลขเหมือนเดิม จนมีโอกาสได้ไปวัดเจดีย์หอย ฯลฯ



จขกท. มีพื้นจิตที่ดีมาแต่เด็ก

เรื่องที่ จขกท.เล่ามา เป็นไปได้ เพราะจิตบริสุทธิ์ปราศจากกิเลส (แม้จะชั่วขณะ) เรื่องเห็นหวยเห็นตัวเลขนี่ มีเรื่องเล่าให้ฟังเหมือนกัน (ฟังเขาเล่ามาอีกที) คือมีเจ้าอาวาสวัดหนึ่งอยู่ป่าดงดอยเชิงเขาห้วยขาแข้ง ท่านเคร่งครัดปฏิบัติธรรมเจริญสมาธิภาวนาเป็นอาจิณ เมื่อสมาธิถึงระดับหนึ่งอยู่ๆก็เห็นเลข บอกหวยแม่น วันใกล้หวยออกนี่ ผู้คนหลั่งไหลกันไปหา รถจอดยาวเป็นกิโลๆ บ้างก็หน้าชื่นตาบานกันไป

กาลต่อมา พระเองอยากรวยแทงเองบ้าง (บอกชาวบ้านถูกมาเยอะแล้ว) ทีนี้กินเรียบ (เจ้ามือรวยตามเคย) หลังจากนั้น ผู้คนที่เคยขึ้นไปหา ก็ค่อยๆห่างหายไปเลือนหายไปๆ (ไปหาคนอื่นต่อ) รถที่เคยจอดยาวเยียดก็ไม่มีสักคันให้เห็น สุดท้ายเจ้าอาวาสรูปนั้นก็สึกหาลาเพศไป สรุปสุดท้ายผูกคอตาย นี่รายหนึ่ง


อีกรายหนึ่งเป็นหญิงสาว ทำงานอยู่ร้านจำหน่ายพระพุทธรูปนี่แหละ หน้าที่ประจำของเธอก็เช็ดๆถูๆทำความสะอาดพระพุทธรูปในร้าน เธอทำหน้าที่อยู่หลายปี จนกระทั่งอย่างว่า หลับตาเห็นเลข นอนหลับฝันเห็นตัวเลข บอกหวยแม่น สุดท้ายก็ลาออกจากร้านกลับถิ่นเดิม ไปตั้งสำนักบอกใบ้ให้หวย คนถูกบ่อยๆเข้า ตัวเองก็เล่นมั่งแทงเองบ้าง สุดท้ายที่เคยเห็นแม่นบอกแม่น ก็กลายเป็นอันไม่แม่น เจ้ามือรวยอีก

สองตัวอย่างนี้ บอกอะไรเรา บอกว่า เมื่อจิตผ่องใสบริสุทธิ์ก็พอเชื่อได้ ต่อเมื่อกิเลสกลับคืนอีกความโลภเข้าครอบงำอีก ก็ดับมืดไป

เหมือนคนนั่งสมาธิ พอจิตสงบๆ เห็นนิมิต (แสงสีเป็นต้น) วับๆ เกิดอยากเห็นอีก ทีนี้ไม่เห็นแล้ว บางรายอยากเห็นจนฟุ้งซ่านไปเลย แต่ถ้ากำหนดอารมณ์กรรมฐานไปๆ เกิดวาบขึ้นมาอีก ฯลฯ

ดังนั้น ผู้เห็นผู้ได้จริง ท่านไม่ให้คุย ไม่ให้บอกใคร เก็บไว้เหมือนเป็น (ของใช้) สมบัติส่วนตัว

 

เป็นคนชอบธรรมะศาสนามาตั้งแต่เด็กค่ะ ป.1-2 จะเริ่มชอบเอาบทสวดมนต์ของแม่มาหัดอ่าน ชอบทำบุญ ชอบไปวัด และเป็นคนขี้สงสารมาก

จิตใจประกอบด้วยเมตตา กรุณา ไม่เสียหาย แต่เราต้องควบคุมความรู้สึกนี้ได้ หมายถึงต้องพัฒนาจิตไปให้ถึงอุเบกขาที่แท้

อาการที่แสดงออกทางกาย เมื่ออยู่ในอารมณ์ (สถานการณ์) ที่อิงๆทางธรรม ก็เกิดปีติปลาบปลื้มใจน้ำตาซึมตัวสั่นๆ...ต้นเหตุคือพื้นจิตที่ขีดเส้นใต้ตัวแดงนั่น คือต้องควบคุมความรู้สึกนี้มิให้หวั่นไหวไปกับมัน แล้วองค์ (อุปโลกน์) ที่เขาว่า ก็จะไม่มี คือหมดไป