เป็นไปได้ไหม ว่า นิพพาน ก็ยังไม่ใช่จุดสิ้นสุดแห่งการดับทุกข์

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย วรกันต์, 14 กุมภาพันธ์ 2009.

  1. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
     
  2. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,075
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    ตามใจ ^-^
     
  3. แพ้สะกดยังงัย

    แพ้สะกดยังงัย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    87
    ค่าพลัง:
    +69
    เจ้าของกระทู้บอกว่า
    แต่จะเป็นไปได้ไหม พระนิพพานก็ยังไม่ใช่จุดสิ้นสุดแห่งการดับทุกข์ล่ะครับ เป็นเพียงอีกสภาวะหนึ่ง ที่เบาบางกว่าพรหมโลก และนานมากๆๆๆๆเป็นเวลาหลายอสงไขย แต่คนที่ไปนิพพาน ก็ยังต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีกครั้ง เพียงแต่ นานๆมากๆๆๆๆๆๆๆๆ กว่าจะกลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีกครั้ง ดังเช่น ชั้น พรหมโลก

    เราผู้เรียนน้อยตอบ
    การเกิดในชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายของเราแล้วจะไม่การเกิดชาติในชาติหน้าอีกนี้เป็นคำแรกที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสไว้เป็นปฐมบัญญัติ เป็นเอกะวาจาครั้งแรกที่ประสูตออกมาจากพระครร์ของพระมารดา พึ่งทบทวนให้ถ่องแท้ เอวัง โหตุ
     
  4. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    คุณจิน คุณจะมาพูดเพียงคำว่าตามใจนั้นไม่ได้หรอกครับ
    ศาสนาครับ ไม่ใช่เด็กเล่นขายขนมเสียเมื่อไหร่
    ถึงมาใช้คำว่าตามใจ คิดผิดคิดใหม่ได้ครับ
    พุทธศาสนาเป็นเพียงศาสนาเดียวเท่านั้นที่ยืนอยู่บนหลักเหตุผล
    เข้าถึงที่สุดแห่งทุกข์ได้

    ใครเข้าถึง? ถ้ามีแต่ที่สุดแห่งทุกข์อย่างเดียว? โดยไม่มีผู้เข้าถึงสภาวะนั้นแล้ว?
    จะบอกได้อย่างไรว่าเป็นที่สุดแห่งทุกข์?
    การเข้าถึงเราเอาอะไรมาเข้าถึง?
    กายที่คร่ำคร่า เจ็บป่วย แก่ชราและตายเน่าเข้าโลง
    หรือจิตที่ได้รับการฝึกอบรมดีแล้วเข้าถึงกันแน่?

    พระบรมครูตรัสในปฐมพุทธพจน์ชัดเจนว่า
     
  5. เราคือผู้รู้ธรรมชาติ

    เราคือผู้รู้ธรรมชาติ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +3
    พระนิพพาน เป็นเรื่องโลกุตระครับ

    อธิบายไม่ได้ ภาษาไม่มี แล้วจะพูดกันทำไม เป็นปรมัต รู้ได้เฉพาะตน

    เหมือนกับกินของหวาน ถ้าคนไม่เคยกินหวาน ฟังคนกินหวานมาอธิบาย

    มันจะรู้เรื่องไหมครับ น่าคิดนะครับ

    สาธุครับ
     
  6. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,075
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
     
  7. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    คุณเราฯครับ ผมคนเป็นช่างสงสัย
    ใช่ครับพระนิพพานเป็นเรื่องโลกุตระ
    แล้วประหลาดตรงไหนครับ
    ที่อธิบายไม่ได้ ไม่มีภาษาพูด
    ไม่เป็นการลบหลู่ดูหมิ่นพระพุทธพจน์ของพระองค์ไปหรือครับ?

    ถ้าพระบรมครูจอมศาสดาอ้างบ้างว่า
    ที่พระองค์ทรงตรัสรู้หนะเป็นปัจจัตตังรู้เฉพาะตน
    อธิบายไม่ได้ ไม่มีภาษาที่จะมาสอน
    รู้แล้วสอนไม่ได้(ไม่มีหรอกครับ...ไม่รู้จริงต่างหาก)

    ถ้าเป็นเช่นนี้ศาสนาพุทธมิหมดไปตั้งแต่พระองค์ทรงตรัสรู้แล้ว
    เพราะพระองค์รู้เพียงพระองค์เดียวหรือครับ

    เป็นธรรมดามากครับที่ผู้ไม่รู้จริงหรือไม่เคยสัมผัสมาจริง
    ย่อมมีข้ออ้างสารพัดสารพันในการโยนสิ่งต่างๆที่ตนเองไม่อยากตอบ
    ไปให้กับเจ้าปัจจัตตังเกือบทั้งนั้น
    กลายเป็นว่าความผิดบาปไปอยู่กับเจ้าปัจจัตตังหมดแต่เพียงผู้เดียว

    แสดงว่าคุณเราฯไม่เชื่อที่พระบรมครูจอมศาสดาพูดใช่มั้ยครับ???
    พระองค์ทรงบอกไว้ชัดเจนว่า
     
  8. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    คุณจินฯ คุณเที่ยวสาธุโดยไม่อ่านหรือไรครับ<O:p</O:p
    อย่าเพียงแค่เห็นว่าที่เค้าพูดมาตรงกับจริตคุณเท่านั้น <O:p</O:p
    โดยไม่คำนึงว่าเป็นการลบหลู่พุทธพจน์หรือเปล่า คุณนี่ เก้อ ยากจริงๆครับ<O:p</O:p


    ;aa24
     
  9. เราคือผู้รู้ธรรมชาติ

    เราคือผู้รู้ธรรมชาติ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +3
    ท่านผู้เจริญ ขอให้ท่านได้พบซึ่งพระนิพพานซึ่งชาตินี้

    อนุโมทนาครับ
     
  10. albertalos

    albertalos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,462
    ค่าพลัง:
    +1,137
  11. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,075
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
     
  12. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    คุณเราฯผู้เจริญครับ การจะได้พบพระนิพพานนับว่ายากแสนยาก
    แต่การจะให้เข้าถึงพระนิพพานได้นั้น ยิ่งกว่ายากแสนยากอีกครับ

     
  13. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    คุณจิน คุณนี่แย่ยิ่งกว่าพวกขี้เหล้าเมายาเสียอีก
    คนพวกนั้นรู้อยู่ว่าสิ่งที่ตัวเองเสพมันอยู่นั้นไม่ดี
    ควรเลิกหรือเสพมันให้น้อยลงหน่อย
    แต่ด้วยความไม่เคยฝึกฝนอบรมจิตมาก่อน
    จึงไม่มีพลังจิตที่มั่นคงมากพอ จึงยังต้องตกเป็นทาสมันอยู่

    พวกเค้าทั้งหลายเหล่านั้น
    ยังมีเหตุผลรับฟังและเข้าใจ สิ่งที่เกิดขึ้น
    ยอมรับ เพื่อที่จะมีการเริ่มอบรมฝึกฝนให้เกิดพลังจิตที่มั่นคง
    ในการสลัดสิ่งเหล่านั้นออกไป จนกว่าจะสำเร็จ

    ส่วนคุณนั้นยังมัวเมาอยู่กับสิ่งที่ตนเองรู้
    ว่าดีเลิศประเสริฐศรีที่สุด โดยไม่เคยยอมรับฟังของคนอื่นเลย
    ทั้งๆที่คุณพูดออกมานั้นมันขาดเหตุผลชัดๆ
    พอมีคนชี้ให้เห็นด้วยเหตุผลที่แท้จริง คุณก็ไม่ยอมรับ
    เพราะไม่ถูกกับจริตคุณเท่านั้น นี่แหล่ะ มัวเมาตัวจริง..

    ;aa24.
     
  14. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,075
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    ยังไม่ตื่น ยังเมาหลับอยู่ ^-^
     
  15. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ใครกันแน่ ที่ยังมัวเมาหลับไม่ฟื้น เป็นคน
     
  16. seahero

    seahero เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    335
    ค่าพลัง:
    +602
    ที่ว่าสัตว์จะหมดไปจากโลกนั้นไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลครับเพราะพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ที่ท่านบำเพ็ญบารมีมาก็ต้องจากจะพาสัตว์ให้พ้นจากโลกอยู่แล้วถ้ามันจะหมดได้จริงๆท่านคงจะสมหวังแต่ความจริงแล้วผมว่าคงไม่มีวันจะหมดหรอกครับ เพราะผมคิดว่ามันต้องมีจิตดวงใหม่เกิดขึ้นมาต่ออีกเรื่อยๆด้วยตัณหาและอุปาทานแล้วที่ว่าพระนิพพานจะเต็มนั้นรู้สึกผมจะเคยอ่านจากที่ไหน พระพุทธเจ้าตรัสว่าแม้ว่าจะมีพระอรหันต์ถึงซึ่งพระนิพพานแล้วแม้มีจำนวนเท่าใดพระนิพพานก็ไม่ปรากฏว่าจะมีท่าทีว่าพร่องลงหรือเต็มขึ้นเลยแล้วที่ว่าพระนิพพานอาจยังอยู่ในการเวียนว่ายนั้นผมว่าคงไม่หรอกครับเพราะพระนิพพานไม่มีที่สุดครับ
     
  17. อวิปลาส

    อวิปลาส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    211
    ค่าพลัง:
    +353
    มีเมล็ดข้าวเปลือกอยู่ 2 เมล็ดแช่น้ำทิ้งไว้ 5 วันเสร็จแล้วนำ 1 เมล็ดลงดิน
    อีก 1 เมล็ดแกะเปลือกออก รอดูผลเมล็ดที่อยู่ในดินงอกขึ้นหรือไม่ถ้าขึ้นจบ
    อีกเมล็ดงอกขึ้นหรือไม่ถ้าไม่จบ


    ฉันใดก็ฉันนั้น
     
  18. godman

    godman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,254
    อืม อย่าไปคิด ครับ จะคิดไปทำไม ปวดหัวเนอะ
     
  19. ท้องฟ้าและแผ่นดิน

    ท้องฟ้าและแผ่นดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    232
    ค่าพลัง:
    +127
    คำว่า ธรรมะ และ นิพพาน แพร่หลายอยู่แล้ว
    ในขณะที่เจ้าชายสิทธัตถะบำเพ็ญบารมีจนบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาน
    อภิเษกเป็นองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    พระองค์เพียงแต่นำคำที่บุคคลทั่วไปเข้าใจได้ง่าย นำมาใช้เท่านั้น
    ธรรมะคือสิ่งทั้งปวง ธรรมะคือธรรมชาติของทุกสรรพสิ่ง
    ก่อนพระพุทธเจ้าอุบัติ ทุกคนคิดว่า สิ่งดีหรือไม่ดีล้วนมีเทพเจ้าเป็นผู้กำหนด
    หลังพระองค์กำเนิด ทรงประกาศว่า ทุกสรรพสิ่งล้วนเป็นไปตามเหตุตามปัจจัย
    นิพพานแปลว่า ดับแล้วเย็น
    ก่อนพระพุทธองค์ทรงอุบัติ ทุกคนปฏิบัติเพื่อไปดำรงอยู่กับพระเจ้าของลัทธิตน
    หลังพระชินสีห์ประกาศธรรม นิพพานเป็นไปเพื่อการดับกิเลสภายใน อันมีอวิชชาเป็นกำเนิด

    นิพพานคือ การดับและเย็น ใช้ได้กับทุกสิ่ง เช่น สมัยก่อนหุงข้าวด้วยหม้อดิน
    การยกหม้อข้าวลงมา จากร้อนจนเย็น ก็เรียกว่านิพพานเช่นกัน
    ดุจใจเราที่ถูกเผาไหม้ด้วยไฟ 3 กองแห่งกิเลส คือ โลภ โกรธ หลง ตลอดเวลา
    ภายในใจรุ่มร้อนวุ่นวาย ต่างแสวงหาทางออกจากความรุ่มร้อน
    แต่ด้วยตัณหาและอุปาทาน ดุจยางเหนียว ทำให้ดวงตามืดบอด ไม่รู้เหตุแห่งทุกข์ เหตุแห่งความร้อนนั้น

    ใจที่รุ่มร้อนด้วยกิเลส หากแม้ชั่วพริบตา จิตมีตัวรู้เท่าทัน จิตยกออกจากเหตุแห่ง
    กิเลสนั้น พริบตานั้นจิตจะรู้สึกปลอดโปร่ง เบาสบาย จะรู้สึกเย็นภายในอก
    ดั่งคนโบราณ บอกไว้ว่า เย็นใจ ก็เรียกว่านิพพานชั่วขณะเช่นกัน

    นิพพานเป็นสภาวะหนึ่งที่จิตต้องจับไว้เป็นอารมณ์
    การจะทรงอารมณ์จนถึงพระนิพพาน
    ตัดขาดจากสภาวะปุถุชน จนเป็น พระอริยเจ้าแม้ขั้นต้น คือ พระโสดาบัน
    ต้องผ่านการรู้ภัยแห่งรูปนาม และ เห็นโทษแห่งสังขาร คือ การปรุงแต่งให้เกิด
    เพราะมีเกิด จึงมีแปรปรวน จึงมีการดับสลาย และกลายเป็นสังสารวัฏไม่รู้จบ

    เพราะขาดสติจึงเกิด
    เพราะมีสติจึงไม่เกิด
    สติ คือ การระลึกรู้
    ปัญญา คือ การรู้ชัด รู้แจ้ง
    เป็นพุทธะ เพราะรู้ชัดในสรรพสิ่ง จึงตื่นขึ้นจากความหลงมัวเมา
    และเบิกบานในการเป็นอิสระ หลุดพ้นจากสิ่งร้อยรัดทั้งปวง

    พระอริยเจ้าล้วนมีจิตอยู่ในวิหารธรรม คือสติปัฏฐาน 4
    แม้ที่สุดพระอรหันตเจ้าจะต้องมีสติอันครบถ้วนบริบูรณ์

    ผู้ที่รู้แล้วว่า การเกิดทุกครั้งเป็นทุกข์ร่ำไป
    ทุกสิ่งในโลก ล้วนเป็นสิ่งที่แปรปรวนสม่ำเสมอ ทนได้ยาก ไร้ตัวตนให้ยึดถือ
    ผู้พ้นไปแล้วด้วยดีแล้ว ย่อมไม่มีเหตุผลในการกลับมาเกิดอีก

    เช่น ผู้มักโกรธ เพราะไม่ได้ในสิ่งที่อยากได้ หรือได้ในสิ่งที่ไม่อยากได้
    เมื่อรู้เหตุแห่งความโกรธ คือความคาดหวัง ดับความอยากได้
    ก็ไม่คาดหวังสิ่งใดจากใคร ก็ไม่ผิดหวังเพราะสิ่งใด
    ความโกรธเมื่อขาดเชื้อ ความไม่พอใจที่นอนเนื่องในสันดานก็ค่อยๆจะดับสลายตามไตรลักษณ์เช่นกัน
     
  20. YUT_KOP

    YUT_KOP เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,033
    พระพุทธเจ้า อุบัติขึ้นมาแล้ว บนโลกนี้ ไม่ต่ำกว่า ล้านพระองค์แล้ว

    คิดให้ดีๆว่า ทำไม พวกเรายังมานั้ง กดคอม อยู่แบบนี้ ไม่ไป นิพพาน สะทีหว่า

    เหตุปัจจัย ไม่ได้มีอยู่ที่ พระพุทธเจ้า อย่างเดียว ที่ขนเหล่า สัพรรพสัตว์ ไปนิพพาน

    แต่มันขึ้นอยู่ กับ ตัวเรา เองว่า เราพร้อม ที่จะไปอย่างแท้จริงแล้วหรือยัง

    ดอกบัวมี สี่เหล่า

    เราเกิดตาย มานับชาติ ไม่ถ้วน

    เราอาจจะเคยฟังธรรมจาก พระศาสดามานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว

    แต่ตอนนั้น อวิชาบดบัง ไม่รับธรรมเอง จะโทษใครเค้าได้

    ไม่จำเป็นต้อง พอ พระพุทธเจ้า ท่านก็ไปนิพพานได้

    อย่างประจุบัน มีหลวงตาบัว เป็นที่พึ่ง พระพระอรหันต์

    เรายังไม่ได้ไป ฟังธรรมท่าน จนถึงจิตใจ

    หรือ ปฏิบัติ เพียงแค่น้อยนิด ของเศษธุรี จะหวัง ประสบ พบชัย

    ทำความเพียรเท่าฝ่ามือ จะชนะ กิเลสเท่ามหาสมุทร เป็นไปได้หรือ
     

แชร์หน้านี้

Loading...