เพจ คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง, 17 กันยายน 2017.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    สัตว์ทุกประเภทเขาคือคน

    ให้จำไว้ด้วยว่าสัตว์ทุกประเภท เนื้อแท้จริงๆ
    เขาเป็นคน อาศัยคนที่ทำความชั่ว ทำตัวให้ตก
    ในบาปอกุศล เมื่อตกอบายภูมิคือตกนรกมาแล้ว
    ผ่านนรก ผ่านเปรต ผ่านอสุรกายมาแล้ว ก็มาเป็น
    สัตว์เดรัจฉาน เป็นการชำระกรรมหนักขั้นสุดท้าย
    เป็นวาระสุดท้าย แต่ว่าไม่ใช่ชีวิตเดียวนะ

    ชำระกรรมหนักครั้งสุดท้ายนี่ไม่ใช่ครั้งเดียว เคยฆ่าปลามากี่ตัว ต้องเกิดเป็นปลาให้เขาฆ่าเท่า
    นั้นครั้ง หนักใจตรงเกิดเป็นยุงละซีจำไม่ได้ ถือว่า
    ต้องใช้ชีวิตตามที่ฆ่าเขา พวกทำได้กำไรที่สุดคือ
    พวกเรือตังเก โอ้โฮ วันหนึ่งแกล่อเป็นลำๆ เลย
    ไปเห็นใจหายวาบ ไอ้สัตว์ทุกประเภทก็คือคน

    ก็รวมความว่า เกิด แก่ เจ็บ ตาย เหมือนกันใช่ไหม
    ร่างกายเต็มไปด้วยความสกปรกโสโครกเหมือนกัน แล้วก็รักสุข เกลียดทุกข์เหมือนกัน

    โดย…หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดจันทาราม
    (ท่าซุง) จ.อุทัยธานี

    1504393924_898_สัตว์ทุกประเภทเขาคือคน.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
     
  2. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    พระโสดาบันทรงอารมณ์แบบนี้

    คนที่เขาเป็นพระโสดาบัน เขาทรงอารมณ์แบบนี้
    คือ ปรารภความตายเป็นปกติ ไม่ประมาทในชีวิต คิดว่าการเกิดมานี่มันต้องตาย ในเมื่อเขาจะตาย
    เขาก็ไม่ประมาท ไม่ยอมไปอบายภูมิ

    นั่นคือ เกาะพระพุทธเจ้า เกาะพระธรรม เกาะพระ
    อริยสงฆ์ คือเคารพในพระพุทธเจ้าจริง เคารพใน
    พระธรรมจริง เคารพในพระอริยสงฆ์จริง เป็นปกติ
    และก็มีศีล ๕ บริสุทธิ์

    มีจิตต้องการพระนิพพานเป็นอารมณ์เดียว การทำ
    ความดีทุกอย่างไม่หวังผลตอบแทนในปัจจุบัน
    คิดว่าผลความดีที่เราต้องการได้แก่ เราต้องการ
    นิพพานอย่างเดียว เท่านี้เองความเป็นพระโสดาบัน

    โอวาทหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม ๒ หน้า ๑๕๗

    1504393683_362_พระโสดาบันทรงอารมณ์แบบ.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
     
  3. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    จิตว่างจากกิเลสเมื่อถึงพระนิพพาน

    บรรดาท่านพุทธบริษัทชายหญิงที่สามารถไปถึง
    พระนิพพานได้เป็นปกติให้ไปทุกวัน อย่างน้อยที่
    สุด ตอนเช้ามืดตื่นขึ้นมา ไม่ต้องลุกนั่งก็ได้ นอน
    แล้วรวบรวมกำลังใจส่งไปนิพพานก่อน จะใช้เวลา
    มากก็ได้น้อยก็ได้ ตามกำลังเวลา ทำให้จิตสบาย
    ที่ตรงนั้น คือให้สบายที่สุด ที่นิพพาน

    และก็ตั้งใจคิดว่าวันนี้ถ้าตายเมื่อไร ขอมาที่นี่เมื่อ
    นั้น คือมานิพพานเมื่อนั้น เท่านี้แหละบรรดาท่าน
    พุทธบริษัททั้งหลาย การที่จิตไปอยู่ที่นิพพาน
    จิตว่างจากกิเลสทั้งหมด

    เวลานั้นกิเลสนิดเดียวถ้ามี มันจะถึงนิพพานไม่ได้
    เฉพาะเวลา และความจริง ในการขัดจิตให้ว่างจาก
    กิเลสให้ว่างขนาดนั้นไปทุกวัน มันจะเกิดความเคย
    ชิน ในที่สุดยามปกติจิตของเรามันจะมีความสงบ
    มีแต่ความสุข ถ้าตายเมื่อไร บรรดาท่านพุทธบริษัท
    ทั้งหลาย ที่ตรงนั้นเป็นที่ไปของเราคือนิพพาน

    จาก : หนังสือ รวมคำสอนธรรมปฏิบัติ เล่ม ๑๑
    โดย…หลวงพ่อพระราชพรหมยาน

    หมายเหตุ : การไปถึงนิพพานได้ เป็นหมวดวิชา
    มโนมยิทธิ (ผู้มีฤทธิ์ทางใจ) ที่หลวงพ่อได้สอนไว้

    .jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
     
  4. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    คำสอนของหลวงปู่

    หลวงพ่อปานท่านก็สอนไว้เสมอว่า “เรื่องของ
    ขันธ์ ๕ นั้น ลูกเอ๋ย จงอย่าสนใจมันมากนัก ทั้งนี้เพราะอะไร ก็เพราะว่าขันธ์ ๕ มันก็เป็นขันธ์ ๕
    ที่เรียกว่าขันธ์ ๕ ก็เพราะว่าขัน ๕ เมื่อมันเกิดขึ้น
    มาแล้ว สิ่งที่มันตามมาด้วยก็คือ ความแก่
    ความทรุดโทรม ความป่วยไข้ไม่สบาย ความทุกข์
    และการพลัดพรากจากของรักของชอบใจ
    ประสบกับอารมณ์ที่ไม่พึงปรารถนา
    และมีความตายไปในที่สุด”

    ท่านสอนแบบนี้ อาตมายังจำได้ บอกว่าก่อนที่จะ
    ภาวนากรรมฐานบทใดก็ตาม ควรพิจารณาขันธ์ ๕ เห็นว่าเป็น อนิจจัง คือความไม่เที่ยง ทุกขัง
    เป็นทุกข์ อนัตตา มันสลายตัว ถ้าเราเกิดมาเป็นคน
    จงอย่าเมาในความเป็นคน จงคิดว่าเราจะตายเป็น
    ผีอยู่ตลอดเวลา ว่าเรื่องความตายนี้ ไม่ต้องมีใคร
    มาบันดาลให้เราตาย เราก็ตายของเราเองได้

    ที่มา : จากหนังสือ พ่อสอนลูก
    โดย…หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดจันทาราม
    (ท่าซุง) จ.อุทัยธานี

    .jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
     
  5. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    บุญอยู่ที่จิตเป็นสมาธิ

    เขตของบุญน่ะ มันอยู่ตรงที่จิตเป็นสมาธินะ
    ตัวบุญน่ะอยู่ที่จิตเป็นสมาธิ ที่มีอารมณ์ตั้งมั่น
    ไม่ใช่ตัวบุญอยู่ที่องค์ภาวนาอย่างเดียว

    ถ้าหากว่าเราภาวนาแบบชนิดนกแก้วนกขุนทอง
    ว่าไป พุทโธ ธัมโม สังโฆ ว่าไปโดยจิตไม่ตั้ง
    อารมณ์ไม่ทรงอยู่ เพราะว่าไปบ้าง พุทโธๆ
    หรือว่า ธัมโมสังโฆ ก็ตาม หรืออย่างอื่นก็ตาม
    แต่จิตอีกส่วนหนึ่งมันแลบไปสู่อารมณ์อย่างอื่น
    อย่างนี้ว่าเท่าไรก็ไม่เป็นบุญ

    การที่พระพุทธเจ้าทรงสอนให้มีการภาวนาด้วย
    ก็เพื่อจะใช้อารมณ์ยึด คือ สติ ให้รู้อยู่ว่านี่เรา
    กำหนดลมหายใจเข้าออก หรือว่าเราภาวนา
    อย่างไร แล้วก็ควบคุมอารมณ์อยู่เฉพาะอย่างนั้น
    อย่างเดียวให้เป็น เอกัคตารมณ์ อารมณ์ของเรา
    เป็นหนึ่งไม่มีสอง อย่างนี้จัดว่าเป็น สมาธิ

    จาก : หนังสือรวมคำสอนธรรมปฏิบัติ เล่ม ๘
    โดย…หลวงพ่อพระราชพรหมยาน

    1504392964_774_บุญอยู่ที่จิตเป็นสมาธิ.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
     
  6. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    การเจริญวิปัสสนาญาณ

    วิปัสสนาญาณเบื้องต้นที่องค์สมเด็จพระทศพล
    สอน ให้บรรดาท่านพุทธบริษัทมีความเข้าใจว่า
    ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกเกิดขึ้น มันย่อมเป็นไปตาม
    กฎของธรรมดา คือเมื่อเกิดขึ้นแล้วมันไม่มีการ
    ทรงตัว ที่เราเรียกกันว่าไม่เที่ยง

    สิ่งที่ไม่เที่ยงถ้าเราไปยึดถือว่ามันเที่ยง ใจมันก็เป็น
    ทุกข์ และในที่สุดไอ้อาการไม่ทรงตัวนี่มันเข้าถึง
    ที่สุด คือสลายตัวเอง ทีนี้เมื่อเวลาที่มันจะสลายตัว
    เราก็ไปดึงไม่ให้มันสลายตัว อารมณ์จิตก็เป็นทุกข์
    ทุกข์มันเกิดจากอารมณ์จิตฝืนกฎธรรมดา

    ทีนี้การเจริญวิปัสสนาญาณ นี่ว่าวิปัสสนาญาณ
    ล้วน เฉพาะวิปัสสนาญาณนะ พระพุทธเจ้าสอนให้
    เรายอมรับนับถือกฎของความเป็นจริง หรือกฎของ
    ธรรมดานั่นเอง ไม่มีอะไรยาก

    พระอรหันต์ทั้งหมดไม่ได้ปฏิบัติอะไรมากเลย
    ที่เป็นอรหันต์ท่านทำจิตของท่านยอมรับนับถือ
    กฎของธรรมดา ว่ามันเป็นอย่างไร ปล่อยมันตาม
    นั้น อารมณ์ไม่ฝืน แล้วก็มีจิตเป็นปกติ

    จาก : หนังสือรวมคำสอนธรรมปฏิบัติ เล่ม ๑๕
    โดย…หลวงพ่อพระราชพรหมยาน

    .jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
     
  7. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    ทุกข์เพราะกายที่บังคับไม่ได้

    กรรมฐานนี่มันอยู่ที่ใจอย่างเดียวขึ้นอยู่กับกำลังใจ
    เห็นว่าร่างกายนี้เป็นเราเป็นของเรา หรือไม่ใช่เรา
    ไม่ใช่ของเรา ถ้าร่างกายมันเป็นเราจริง เป็นของ
    เราจริง เราก็ต้องบังคับมันได้ อย่างเงินในกระเป๋า
    ถ้าเราไม่ใช้เสียอย่างหนึ่ง มันก็อยู่ในกระเป๋า
    ตลอดเวลา ถ้าเราใช้มันมันก็หมดไป ร่างกายก็
    เหมือนกัน

    ทีนี้ร่างกายเราไม่ต้องการให้มันแก่ มันเชื่อไหม
    เราไม่ต้องการให้มันป่วย มันเชื่อไหม เหมือนเงิน
    ในกระเป๋าไหม เราไม่ต้องการให้มันตาย มันเชื่อ
    เราหรือเปล่า เราก็ห้ามไม่ได้ ก็เป็นอันว่าร่างกาย
    ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา เราคือจิตที่สิงสถิตอยู่ใน
    ร่างกาย ที่เรามีทุกข์ก็อาศัยกายเป็นเหตุ

    รวมคำสอนธรรมปฏิบัติ เล่ม 9
    โดย…หลวงพ่อพระราชพรหมยาน

    1504392484_650_ทุกข์เพราะกายที่บังคับ.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
     
  8. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    อารมณ์พระอริยะ

    ร่างกายนี้มันไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ทรัพย์สิน
    ทั้งหลายที่มีมันก็ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา
    มันทรงตัวอยู่ไม่ได้ ตายแล้วนำไปไม่ได้ บางทีเรายังไม่ทันจะตาย มันก็พลัดพรากจาก
    ของรักของชอบใจ คือของที่รักที่ต้องการมัน
    สลายตัวไปหมด มันไม่ปรากฏว่าจะยืนยงคง
    ทนตลอดกาล ตลอดสมัย

    นี่เราจะเห็นได้ว่าการเกิด การแก่ การเจ็บ
    การตายเป็นของไม่ดี การจะเกิดเป็นมนุษย์ก็ดี
    เทวดาก็ดี พรหมก็ดี เราไม่ต้องการ เพราะโลก
    ทั้งสามนี้เป็นอนัตตา เหมือนกันหมด มีการเกิด
    ขึ้นในเบื้องต้น และมีการสลายตัวไปในที่สุด
    ไม่มีที่สิ้นสุด แล้วก็มีอารมณ์จับพระนิพพานเป็น
    อารมณ์ มีความต้องการอย่างเดียวคือ
    พระนิพพาน

    อารมณ์แห่งความโลภไม่มี อารมณ์แห่งความ
    รักไม่มี อารมณ์แห่งความโกรธไม่มี การเกาะ
    สิ่งนั้นสิ่งนี้ว่าเป็นเราเป็นของเราไม่มี อย่างนี้ก็
    ชื่อว่าจิตเข้าถึงความเป็นพระอรหันตผล
    เป็นพระอริยะบุคคลสูงสุดในพระศาสนา
    กิจแห่งพระพุทธศาสนาชื่อว่าจบเพียงเท่านี้

    รวมคำสอนธรรมปฏิบัติ เล่ม ๑๓
    โดย…หลวงพ่อพระราชพรหมยาน

    .jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
     
  9. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    พุทธนิมิตร

    อย่าลืมนะว่า ลูกหลานที่รัก พระพุทธเจ้าที่เห็น
    อาจจะเป็น พุทธนิมิตร ถ้าใครเขาบอกว่า
    พระพุทธเจ้าองค์เดียวจะไปช่วยคนทุกคนได้
    อย่างไร เป็นอุปาทาน พระพุทธเจ้านิพพานไปแล้ว

    ลูกรักทุกคนก็จงจำคำนี้ไว้ว่า องค์สมเด็จพระ
    จอมไตร เมื่อวันจะนิพพาน พระอานนท์มีความ
    เสียใจว่า ท่านเองเป็นแค่พระโสดาบัน ยังไม่เป็น
    พระอรหันต์ ถ้าพระพุทธเจ้านิพพานเวลานี้ ต่อไป
    ก็ไม่มีครูสอน องค์สมเด็จพระชินสีห์ จึงตรัสว่า

    “อานันทะ ดูกรอานนท์ เมื่อตถาคตนิพพานไป
    แล้ว พระธรรมวินัยที่ตถาคตตรัสไว้จะเป็นครู
    สอนเธอ” โดยเฉพาะความจริงคำว่าพระพุทธเจ้า
    ไม่ใช่ร่างกาย ร่างกายเป็นแต่เพียงเรือนร่างที่
    อาศัยเท่านั้น พระพุทธเจ้าคือ กายทิพย์
    หรือที่เรียกว่า อทิสสมานกาย

    เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน อทิสสมานกายที่มีความ
    สะอาด ตัดกิเลสได้ผ่องใส เป็นกายทิพย์
    ความเป็นทิพย์ลูกหลานทุกคนไม่มีการสลายตัว
    การจะเห็นพระพุทธเจ้าถือว่าเห็นความดีของท่าน

    ถ้าถามว่าทำไมเห็นตัวก็ต้องขอตอบว่า ในสมัย
    ที่พระพุทธเจ้ามีชีวิตอยู่ เวลานั้น ถ้าใครนึกถึง
    องค์สมเด็จพระบรมครู หรือว่าตั้งใจปฏิบัติความดี
    เพื่อมรรคผล องค์สมเด็จพระทศพลอยู่ไกลแสน
    ไกล ก็เปล่งฉัพพรรณรังสี คือรัศมีของพระองค์
    ให้ไปถึงหน้าคนนั้น ก็ปรากฏเป็นพระรูปพระโฉม
    ขององค์นั่งข้างหน้า แล้วก็เทศน์สอนเหมือนกับ
    พระองค์นั่งอยู่ที่นั้นเอง

    ก็รวมความว่า คนนั้นก็ฟังเทศน์จากพระองค์เอง
    ก็แล้วกัน อันนี้เหมือนกับลูกหลานทุกคนที่กำลัง
    ฟังอยู่ว่า เห็นภาพพระพุทธเจ้า ก็ถือว่าเห็น
    ฉัพพรรณรังสี ก็เหมือนเห็นพระองค์นั้นเอง
    จะพูดอะไรกันก็ได้ จะสอนอะไรก็ได้ จะนำใครไป
    ไหนก็ได้เหมือนกับพระองค์นำไปเอง ฉะนั้นถ้าเห็น
    ภาพ ให้นึกว่านั่นคือพระพุทธเจ้าตรงไม่มีอะไรผิด

    รวมคำสอนธรรมปฏิบัติ เล่ม ๑๖
    โดย…หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดจันทาราม
    (ท่าซุง) จ.อุทัยธานี

    .jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
     
  10. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    ฝึกจับภาพพระให้ทรงตัว
    จะได้ฌานในกสิณ

    ที่ให้ภาวนาว่า พุทโธ และให้นึกถึงภาพพระ นึก
    ถึงภาพพระพุทธรูป เป็นพุทธานุสสติกรรมฐาน
    ถ้าหากว่าพระสีเหลืองเป็นทองคำ เป็นปีตกสิณ
    พระสีเขียวหรือสีดำเป็นนีลกสิณ พระสีขาวเป็น
    โอทาตกสิน นี่เป็นได้ทั้งสองอย่าง และก็เป็น
    กสิณด้วย ทั้งพยายามทำจิตจับภาพพระพุทธรูป
    ไว้ในใจ คือเห็นลอออยู่ตรงหน้า อยู่ตรงไหนก็ได้
    ไม่ว่าอะไรใช้ได้หมด

    อย่างนี้ไม่ช้า อารมณ์จิตก็จะเป็นฌานโดยง่ายทั้ง
    เวลาจับภาพพระ จิตก็นึกถึงลมหายใจเข้าออกไว้
    ด้วย ลมหายใจเข้าออกนี่เราทิ้งไม่ได้ แต่ก่อนที่จะ
    จับภาพพระ เราก็นึกถึงลมหายใจเข้าออกเสียก่อน
    ทำใจให้สบายแล้วค่อยจับภาพพระ จนกระทั่งจิตนี่ จะทรงตัว นั่งอยู่ เดินอยู่ ยืนอยู่ ไปทางไหนอยู่
    ภาพนั้นปรากฏติดตาติดใจอยู่ตลอดเวลา
    อย่างนี้ชื่อว่าเราได้ฌานในกสิณ

    รวมคำสอนธรรมปฏิบัติ เล่ม ๓
    โดย…หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดจันทาราม
    (ท่าซุง) จ.อุทัยธานี

    .jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
     
  11. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    หลวงปู่ปานจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๓
    รองจาก พระศรีอาริย์

    ลูกศิษย์ : หลวงพ่อเจ้าคะ หลวงปู่ปาน มีพระธาตุ
    ไหมคะ

    หลวงพ่อ : ไม่มี มีแต่กระดูก

    ลูกศิษย์ : มีกระดูกหรือคะ

    หลวงพ่อ : มีกระดูก

    ลูกศิษย์ : กระดูกของท่านเก็บไว้ที่ไหนคะ

    หลวงพ่อ : เก็บไว้ที่วัดน่ะสิ เอามาได้รึ
    ทำไมต้องไหว้กระดูกละ ไหว้รูปท่านก็ถึง
    นึกถึงตัวท่านนะ ท่านเป็นเทวดาอยู่ ชั้นดุสิต

    ลูกศิษย์ : เจ้าค่ะ

    หลวงพ่อ : รอที่จะลงมาบรรลุ
    อภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณ เป็นพระพุทธเจ้า
    องค์ที่ ๓ รองจาก พระศรีอาริย์

    ลูกศิษย์ : อย่างนั้นพระองค์เดียวกันใช่ไหมเจ้าคะ
    หลวงปู่ที่เป็นช้าง

    หลวงพ่อ : ไม่ๆ หลวงปู่ปาน เป็น
    พระเจ้าปเสนทิโกศล

    ลูกศิษย์ : พระเจ้าปเสนทิโกศล

    หลวงพ่อ : เมืองนี้ชื่อ ปเสนทิโกศล เหมือนกันหมด
    เมืองนี้พระราชาชื่อเดียวกันหมด พระราชินีชื่อ
    มัลลิกาเทวี เหมือนกันหมด

    หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง สนทนาธรรมกับลูกศิษย์
    ที่ชิคาโก วันอาทิตย์ที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๒๗
    จาก : หนังสือ รวมคำสอนธรรมปฏิบัติ
    เล่ม ๑๐ หน้าที่ ๕๐๐

    .jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
     
  12. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    อุปกิเลส

    จงตัดอารมณ์ของ อุปกิเลส ทิ้งไป
    อุป แปลว่า เข้าไปถึง เข้าไปใกล้มัน
    กิเลส แปลว่า ความเศร้าหมอง
    อารมณ์ที่เข้าไปยึดถือความเศร้าหมอง
    นี่อย่าให้มันมีในใจ

    แต่ว่าการที่จะขับมันไปทีเดียวให้หมดน่ะ
    มันเป็นไปไม่ได้ ก็ต้องค่อยๆ ขับ ค่อยๆ ฝึก
    ทำด้วยอาการไม่เคร่งเครียด เพราะจิตเรา
    ไปคบกับอารมณ์ของอุปกิเลสมันมานาน
    นี่พระพุทธเจ้าทรงเรียงไว้มีถึง ๑๖ อย่าง
    ถ้าจะมาพูดกันวันนี้มันก็ไม่จบ ขอสรุปสั้นๆ
    ตามอารมณ์ของอุปกิเลสคือ

    เอาจิตเข้าไปยุ่งกับจริยาของบุคคลอื่น
    คือว่าเราไปสนใจกับคนอื่น คนนั้นไม่ดีแบบนี้
    คนนี้ไม่ดีแบบโน้น คนโน้นก็พูดไม่ดี คนนี้ก็
    ทำไม่ดี คนนี้ก็เดินไม่ดี ว่ากันจิปาถะไปหมด
    แต่เราก็เลยลืมดูตัวเราว่าเราดีหรือไม่ดี

    รวมคำสอนธรรมปฏิบัติ เล่ม ๑๑
    โดย…หลวงพ่อพระราชพรหมยาน

    .jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
     
  13. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    พุทธานุภาพ “พุทโธ”

    ตอนที่บวชใหม่ๆ ตอนพรรษาแรกอยู่กับ
    หลวงพ่อปาน คืนวันหนึ่งลุกขึ้นมาเช้ามืด
    เจริญพระกรรมฐานเช้ามืดตอนตีสอง
    ก่อนหน้าตีสองนิดหนึ่งต้องตื่นแบบนั้นทุกวัน
    เวลานี้ก็ยังตื่นแบบนั้นเป็นปกติ เพราะชินกับ
    เวลาตื่นเวลาตีสอง ก่อนหน้าตีสองประมาณ
    ครึ่งชั่วโมงตื่น ก็เรียกว่าตีหนึ่งครึ่ง ก็เกินไปบ้าง
    ล้างหน้าล้างตาเสร็จ ทำวัตรสวดมนต์เสร็จ
    ถึงเวลาตีสองตรง ลุกขึ้นเจริญพระกรรมฐาน
    คือว่านั่งกรรมฐานภาวนาตามอัธยาศัย

    มาวันหนึ่งพอตื่นขึ้นมาเปิดหน้าต่างจะล้างหน้า
    เห็นผีไม่มีหัว มันโดดเสียไม่มีละ โอ้โฮ เยอะแยะ
    จำนวนสักสองร้อยคนกว่า โดดที่ชานตึงตัง
    ก็มองดูอะไรกันแน่ เห็นว่าผีไม่มีหัว เท่านั้นแหละ
    ก็เลยสงสัย (ตอนนั้นความกลัวก็ไม่เกิดขึ้น) ว่าไอ้
    พวกนี้ไม่มีหัวทำไมมันโดดได้ เลิกล้างหน้ามา
    สวดมนต์ มาไหว้พระสวดมนต์มันก็ตามมาโดด
    ในกุฏิ นั่งกรรมฐานมันก็โดดใกล้ๆ ก็ช่างมัน
    ใจสบาย

    พอถึงตีสี่เลิก เพราะพระลุกขึ้นสวดมนต์
    ตอนนั้นไปนอน เจ้าผีตนหนึ่งโดดเข้ามาคร่อมอก
    ก็ตั้งใจจะเอามือขวาหยิบหวายตีผีตีมัน มันก็กดมือ
    ขวาไว้ พอจะเอามือซ้ายหยิบมันก็กดมือซ้ายไว้
    กดแขนซ้ายไว้ จะว่ายังไงมันก็ว่าตาม
    พอว่าคาถาขับผีจบ มันบอกว่า “กูไม่กลัว”
    ว่าอีกบทหนึ่ง มันบอกว่า “บทนี้มึงได้ครึ่งเดียว”
    มันก็เลยว่าต่ออีกครึ่ง แสดงว่าผีตัวนี้เรียนมามาก

    ต่อไปก็หมดท่าไม่รู้จะทำแบบไหน ก็นึกในใจว่า
    ในโลกนี้ไม่มีใครดีกว่าพระพุทธเจ้า มนุษย์ก็ดี
    เทวดาพรหมก็ดี เป็นลูกศิษย์พระพุทธเจ้าทั้งหมด
    ไม่มีใครเหนือท่าน นึกถึงบารมีของพระพุทธเจ้า
    ขอให้ช่วยกำจัดผีตัวนั้น และก็นึกภาวนาว่าใน
    ใจว่า “พุทโธ” แล้วเป่าพรวดเดียวเจ้าผีก็โดดหก
    คะเมนเคนเก้ โดดวิ่งหนีไปเลย

    โดย…หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดจันทาราม
    (ท่าซุง) จ.อุทัยธานี

    -พุทโธ.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
     
  14. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    กฎธรรมดา

    อารมณ์ที่ดีจริงๆ ที่พระพุทธเจ้าต้องการ
    พระพุทธเจ้าต้องการให้เรายอมรับนับถือกฎ
    ของธรรมดาว่า ทุกข์ทั้งหมดนี่มันเป็นธรรมดา
    ของร่างกายของสังขาร อะไรมันจะเกิดขึ้นถือ
    ว่าเป็นเรื่องธรรมดาของมัน อันนี้อารมณ์อรหันต์
    ไม่มีอะไรมาก มียอมรับนับถือธรรมดาเท่านั้นเอง
    จิตเป็นสุข

    ความหิวเกิดขึ้น ก็มีความเข้าใจว่าธรรมดาของ
    ร่างกายมันต้องหิว ถ้ามีอาหาร ก็กิน ไม่มีอาหาร
    ก็แล้วไป ความปวดอุจจาระปัสสาวะเกิดขึ้น ก็ถือ
    เป็นเรื่องธรรมดาของมันต้องไปถ่าย ความป่วยไข้
    ไม่สบายเกิดขึ้นถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา จะต้องรัก
    ษาโรคเพื่อเป็นการระงับทุกขเวทนา มันจะหาย
    หรือมันจะตายไม่ใช่ของแปลก
    เป็นเรื่องของธรรมดา

    ถ้าความตายจะเข้ามาถึง ก็คิดว่านี่เป็นเรื่อง
    ธรรมดาของร่างกาย ที่สุดของร่างกายมีเพียง
    เท่านี้ แต่ในเมื่อร่างกายมันไม่ดีอย่างนี้เราไม่ต้อง
    การมันอีก ส่วนที่เราต้องการคือสิ่งที่ไม่มีการ
    เปลี่ยนแปลง นั่นคือนิพพาน เข้าใจตามนี้นะ

    รวมคำสอนธรรมปฏิบัติ เล่ม ๑๕
    โดย…หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดจันทาราม
    (ท่าซุง) จ.อุทัยธานี

    .jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
     
  15. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    ฝากลุงพุฒเป็นสักขีพยานบุญ

    เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๘ ตอนนั้นเริ่มสอน มโนมยิทธิ
    ลุงพุฒ ท่านก็มา ท่านบอกว่า คุณอย่าคิดว่าคน
    ที่มาเจริญพระกรรมฐานจะได้ดีทุกคนเวลาตาย
    อาจจะเผลอไปก็ได้ ถ้าเผลอไปสำนักของผม
    ก็ต้องว่ากันตามเหตุตามผล ใครนึกถึงบุญได้
    ก็ไปสวรรค์ ใครนึกไม่ได้ก็ไปนรก มันสุดแล้ว
    แต่คนนึกนะ

    ท่านก็บอกว่าเอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ลูกหลานท่าน
    ก็คือลูกหลานผม ท่านเคยเป็นพี่มาหลายแสนชาติ
    ทีนี้เวลาเจริญพระกรรมฐานอย่าคิดว่าเวลาตาย
    อารมณ์ใจเสมอกัน เพราะถ้ามีฌานโลกีย์
    มีอารมณ์ไม่แน่ อาจจะเผลอได้

    ทีนี้ขอให้ทุกคน เวลาอุทิศส่วนกุศล
    อ้างผมเป็นพยานไว้ ถ้าเขาถามเรื่องบุญกุศล
    ถ้าบังเอิญเขานึกไม่ออก ผมจะได้เป็นพยาน
    อ้างเองว่าทำอย่างนั้นๆ ไว้ แล้วก็ไล่ไปสวรรค์
    เป็นอย่างต่ำ

    ที่มา : หนังสือ รวมคำสอนธรรมปฏิบัติ เล่ม ๑๓
    โดย…หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดจันทาราม
    (ท่าซุง) จ.อุทัยธานี

    หมายเหตุ : หลวงพ่อเล่าไว้ว่าลุงพุฒก็คือท่าน
    พญายมราช

    1504390443_897_ฝากลุงพุฒเป็นสักขีพยาน.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
     
  16. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    ทางสายสู่พระนิพพาน

    ตามความเป็นจริง ถ้าบรรดาท่านพุทธบริษัท
    ชายหญิงจิตมุ่งพระนิพพานเป็นอารมณ์
    แล้วก็ทรงคุณของพระโสดาบันด้วย
    ถ้าตายจากความเป็นคนก็ทราบแล้วว่าการ
    ลงนรกไม่มี จะเป็นเปรต เป็นอสุรกาย
    เป็นสัตว์เดรัจฉานไม่มี มีอย่างเดียวคือ
    เทวโลกหรือพรหมโลก

    ฉะนั้นในช่วงที่อยู่ในเทวโลกหรือพรหมโลก
    ของท่าน ยังไม่ทันหมดบุญวาสนาบารมี
    พระศรีอาริย์ ก็ตรัส ท่านพวกนี้ที่ตาม
    พระไตรปิฎก บอกว่าฟังเทศน์เพียงแค่จบเดียว
    เป็นพระอรหันต์

    ก็เป็นอันว่าการกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกชาติหนึ่ง
    ไม่มีความหมาย ไม่ต้องกลับมาเกิดใหม่

    จาก : หนังสือ รวมคำสอนธรรมปฏิบัติ เล่ม ๑๓
    โดย…หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดจันทาราม
    (ท่าซุง) จ.อุทัยธานี

    .jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
     
  17. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    เกร็ดความรู้
    เรื่อง วิธีฝึกมโนมยิทธิ..มีศรัทธาความเชื่อ

    วิธีการปฏิบัติจริงๆ ทุกคนต้องมีศรัทธา
    ศรัทธาคือความเชื่อ ถ้าขาดศรัทธาจริงจัง
    จะไม่มีผลในการปฏิบัติ

    ฉะนั้นขอบรรดาท่านพุทธบริษัทที่หวังปฏิบัติ
    ถ้าไม่มีศรัทธาแล้วจงอย่าฝืนทำ
    ทำแล้วก็ไร้ประโยชน์เมื่อยเปล่าๆ ใช่ไหมคุณ

    อันดับแรกต้องมีศรัทธาก่อนในพระพุทธศาสนา
    ศรัทธาคือความเชื่อในพระพุทธเจ้านี่ขอทุกคน
    ตั้งใจตามนี้นะ

    ประการที่สองต้องมีศีลบริสุทธิ์ ถ้าศีลไม่บริสุทธิ์
    สมาธิไม่เกิด แต่ว่าเรื่องศีลนี่ก็เป็นธรรมดาของ
    บรรดาท่านพุทธบริษัท ที่ยังไม่เป็นพระโสดาบัน
    ยังต้องมีการบกพร่องอยู่บ้าง

    ฉะนั้นก่อนที่จะเจริญกรรมฐานให้ตั้งใจสมาทานศีล
    ด้วยความเคารพ ก่อนหน้านี้อาจจะบกพร่อง
    ในเมื่อสมาทานศีลแล้ว แล้วก็มีความเคารพในศีล
    ถือว่าศีลบริบูรณ์ในขณะนี้ใช้ได้

    ประการต่อไปก็ต้องมี สมาธิ

    คำว่าสมาธิแปลว่าความตั้งใจ ให้ตั้งใจไว้โดย
    เฉพาะ ครูแนะนำว่าภาวนาว่าอย่างไรตั้งใจ
    ภาวนาแบบนั้น กำหนดลมหายใจแบบไหน
    ก็กำหนดตามนั้น

    จาก : หนังสือ ธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ ๓๔๑ หน้า ๖๓
    โดย…หลวงพ่อพระราชพรหมยาน

    .jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
     
  18. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    หลวงพ่อไปพบลูกศิษย์
    ตายแล้วไปอยู่ที่พระนิพพาน

    วันหนึ่งไปเที่ยววิมานบนพระนิพพาน พอไปถึง
    ก็นั่งเล่นนอนเล่นตามสบาย นึกว่าไม่มีใครมา
    ปกติท่านไปทุกวัน วันละหลายๆ เที่ยว ถ้าว่าง
    เมื่อใดก็ไปเพราะจิตเป็นสุข วันนั้นพอไปแล้ว
    ก็มีคนเกิน ๒๐๐ คนมาหา แต่งตัวแพรวพราว
    เป็นระยับเต็มอัตราพระนิพพาน ก็สงสัยว่า
    พวกนี้มาได้อย่างไร ก็เลยถามว่า

    “ในสภาพที่เป็นมนุษย์ มีรูปร่างแบบไหน
    ทำให้ดูซิ”

    ท่านก็ทำให้ดูสมัยเป็นมนุษย์นุ่งโสร่งก็ขาด
    ใส่เสื้อก็เก่าแสนเก่ามีผ้าข้าวม้าพาดไหล่
    ผอมๆ สูงๆ อาตมาจำได้เคยไปที่วัดบ่อยๆ
    ถามว่า

    “โยม มานิพพานได้อย่างไร
    การมานิพพานได้ต้องเป็นพระอรหันต์”

    โยมตอบว่า “อรหันต์ไม่ได้อยู่ที่เสื้อผ้า อยู่ที่ใจ”

    ถามว่า “โยมฝึกกรรมฐานถึงขั้นไหน”

    ตอบว่า “ผมฝึกไม่มากครับ ไปฝึก มโนมยิทธิ ได้
    ๒ ครั้ง แต่ไปพระนิพพานได้ และอาตมาบอกว่า
    ทุกวันให้ไปพระนิพพาน ตั้งใจว่าถ้าตายเมื่อใด
    ขอไปพระนิพพาน ผมกำลังป่วยหนัก เห็นพระ
    นิพพานใสชัดเจนมาก วิมานก็สวย คนก็สวย
    อยู่ใกล้ๆ แค่มือเอื้อม เมื่อจิตออกจากร่างเลย
    เข้าวิมานไปเลย แล้ววิมานก็พาลอยไป”

    เป็นอันว่าการไปพระนิพพานได้ ไม่ใช่มีความรู้มาก
    ต้องจิตสะอาดมาก ความสำคัญขณะที่ป่วยหนัก
    หรือป่วยไม่หนักก็ตาม พอเริ่มป่วยถ้าคนมีจิตเป็น
    กุศลอยู่แล้ว เขาก็จับนิพพานแล้ว

    จาก : หนังสือ ตายไม่สูญ…แล้วไปไหน
    โดย…หลวงพ่อพระราชพรหมยาน

    .jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
     
  19. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    ทบทวนพระกรรมฐาน
    ก่อนหลับและตื่นนอน

    ก่อนจะหลับ ทบทวนว่าร่างกายนี้มันไม่ใช่เรา
    ไม่ใช่ของเรา มันต้องตาย มันตายเราไม่ตาย
    เราไม่ตาย เราอยู่ที่ไหนเราจะไปนิพพาน
    ตื่นมาใหม่ๆ ก็คิดว่าร่างกายนี้มันต้องตาย
    มันตายแล้วไปไหน เราจะไปนิพพาน
    แล้วจับพระพุทธเจ้าภาวนาว่า พุทโธ ก็ได้
    อิติสุคโต ก็ได้ สัมมาอรหัง ก็ได้ ตามใจชอบ
    จิตรักพระนิพพานเป็นอารมณ์ นี่สำหรับ
    สุกขวิปัสสโก นะ

    สำหรับท่านที่ได้ในด้านของ ฉฬภิญโญ คือ
    มโนมยิทธิ ก่อนจะหลับตั้งใจรวบรวมกำลังใจ
    นึกถึงพระรูปพระโฉมขององค์สมเด็จพระ
    สัมมาสัมพุทธเจ้าให้ชัดเจนแจ่มใสตามกำลัง
    พุ่งใจไปที่นิพพานทันที ไปอยู่ที่นั่น

    ถ้าจะให้ดีไปอยู่ที่นั่นจนกว่าจะหลับไป
    ร่างกายจะหลับก็ปล่อยให้หลับไป
    ถ้าทนอย่างนั้นไม่ไหวไปอยู่สัก ๒-๓ นาที
    ก็คิดว่าถ้าตายเมื่อไร ขอมาที่นี่แห่งเดียวแล้ว
    ก็กลับ เมื่อตื่นใหม่ๆ ทำอย่างนั้นไม่ต้องลุกขึ้นมา
    พอตื่นปั๊บรวบรวมกำลังใจทำตามนั้น
    แล้วก็ไปนิพพาน

    รวมคำสอนธรรมปฏิบัติ เล่ม ๑๔
    โดย…หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดจันทาราม
    (ท่าซุง) จ.อุทัยธานี

    .jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
     
  20. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    ฝึกทรงฌานนึกถึง
    ภาพพระให้มีกำลังเข้มข้น

    เมื่อตอนที่ องค์ปฐม ท่านมา ท่านบอกใช้อย่างนี้
    ให้จับภาพพระพุทธเจ้าเป็นปกติ ให้จิตทรงกำลัง
    ฌาน ๔ เป็นปกติ ไอ้ทรงฌาน ๔ เป็นปกติ
    ฌาน ๔ นี่เวลาเราออกจากร่างกายนี่เราเป็นฌาน
    ๔ แล้ว แต่นั่นเป็นฌาน ๔ เบื้องต้นที่มีกำลังอ่อน
    ต้องใช้ให้มีกำลังเข้มข้น

    นั่นก็คือนึกถึงภาพพระพุทธรูปเมื่อไร นึกพับเห็น
    ทันที นึกจับพระรูปพระโฉมขององค์สมเด็จพระ
    สัมมาสัมพุทธเจ้าให้ชัดเจนแจ่มใสตามกำลังให้
    ได้ทุกวัน ทุกวันเและทุกเวลาที่เราต้องการ ไม่ใช่
    นั่งรอเวลาเงียบสงัด ไม่ใช่อย่างนั้น เดินไปเดินมา
    ทำงานอยู่นึกพับให้เห็นเลย เห็นแล้วอธิษฐาน
    พระพุทธเจ้า ขอพระองค์ทรงโตขึ้น ใหญ่ขึ้น
    สว่างกว่านี้ เล็กลง อยู่ข้างบน สูงมาก สูงน้อย
    เราทำอย่างนั้นอย่าคิดว่าเป็นการปรามาส
    พระรัตนตรัย

    จาก : หนังสือ รวมคำสอนธรรมปฏิบัติ เล่ม ๑๔
    โดย…หลวงพ่อพระราชพรหมยาน

    .jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...