เพจ คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง, 17 กันยายน 2017.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    “ถ้าเราเป็นคนดีเราจะมาเกิดทำไม เราก็ไป
    นิพพานแล้ว ไอ้ที่เรายังเกิดอยู่ก็เพราะว่าเรายังมี
    เลวอยู่มาก ควรจะรีบชำระสะสางความเลวให้สิ้นไป”

    หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

    .jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
     
  2. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    “คนที่ถูกด่าบ่อยๆ อารมณ์จิตจะชิน ชินกับการถูกด่า
    หรือถ้าถูกตีบ่อยๆ หนังมันก็ด้าน เมื่อศึกษาธรรมะจิต
    ใจก็รู้เท่าทันสภาวการณ์ เราก็ยิ้มให้กับคนด่าได้”
    .. พระราชพรหมยาน

    -อารมณ์.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
     
  3. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    ท่านท้าวมหาราช ๔ พระองค์คอยดูแลตอน
    เจริญพระกรรมฐาน
    …”เวลาจะนั่งกรรมฐาน ต้องคิดไว้เสมอ
    จะเป็นผีเป็นเทวดานี่เขาเข้าถึงตัวเราไม่ได้
    วัดจากตัวเราไปได้ ๑ วา รอบ ๆ อย่างเก่งก็มี
    ฤทธิ์ได้แค่นั้น ไม่ว่าจิตอยู่ในเกณฑ์ของสมาธิ
    มากหรือน้อยก็ตาม ถ้าเราสมาทานแล้ว คำว่า
    ผีจริง ๆ เข้ามาไม่ได้เลย ที่จะเข้าใกล้เราได้มี
    พวกเทวดาเท่านั้น นี่จำไว้เลย

    ถ้าเจริญกรรมฐาน จิตจะเริ่มเข้าถึงปีติ อันนี้
    ท้าวมหาราชจะส่งเทวดาเข้าคุมทุกคนนะ
    ปีตินั้นคือ จิตใจของเรามีความแน่วแน่
    เวลาเจริญพระกรรมฐานนี่นะ การทำสมาธิจิต
    จะแบบไหนก็ตาม ถ้าเรามีความชอบใจ อันนี้เป็น
    ปีติตั้งแต่ระยะนี้เป็นต้นไป ท้าวมหาราชจะส่งคน
    มาคุม กันผีเข้ามารบกวน

    พวกผีหรือที่เรียกว่า อมนุษย์ ถ้าจะมาทำร้ายเรา
    เขาเข้าไม่ได้เลย ถ้าบังเอิญเรานั่งไป เราก็เห็น
    ว่ามีคนสักคนหนึ่งลากคอคนหรือรัดมือรัดเท้าลาก
    ไป อย่าไปห้ามนะ ถ้าหากมาเป็นศัตรูเขาก็จัดการทันที

    ถ้ามันจะมาขอส่วนบุญ ถ้าเข้ามาใกล้ แค่มายืนได้
    แค่วากว่า ๆ ถ้าเราสงสัย เราเห็นเข้าก็อุทิศส่วน
    กุศลให้แก รูปร่างหน้าตาแจ่มใสแกก็ไป ไม่มีอะไร
    ไม่ต้องกลัว..”

    โดยหลวงพ่อฤาษี วัดจันทาราม (ท่าซุง) อุทัยธานี

    -๔-พระองค์.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
     
  4. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    “ถึงแม้ว่าเลือดและเนื้อของพ่อจะเหือดแห้งไปก็ตาม
    ที หรือว่าชีวิตินทรีย์ของพ่อจะสลายไปก็ตาม พ่อทำ
    ทุกอย่างได้เพื่อลูก”

    หลวงพ่อพระราชพรหมยาน

    .jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
     
  5. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    การเก็บลูกหลานของหลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    มีอยู่ ๗ วิธี คือ

    ๑. การออกหมายเกณฑ์ คือการตั้งสัตยาธิษฐานว่า
    ถ้าผู้ใดเป็นเชื้อสายของท่าน เมื่อได้อ่านหนังสือเล่ม
    ใดเล่มหนึ่งของท่าน หรือได้ฟังเทป หรือฟังวิทยุ
    ที่ท่านเทศน์ หรือได้อ่านได้ยินได้ฟังเรื่องราวเกี่ยว
    กับตัวท่านแล้ว ขอให้เกิดศรัทธาปสาทะจนต้องมา
    หาท่าน

    ๒. ฝากพระ ฝากพรหม หรือเทพยดา ให้ไปเข้าฝัน
    ตามตัวให้ หรือให้ไปบอกในสมาธิ

    ๓. ท่านไปเข้าฝันเอง ทำให้ต้องตามมาหาท่าน (มี
    เรื่องเล่ากันหลายเรื่องแล้ว) หรือไปสงเคราะห์ด้วย
    อภิญญา

    ๔. ตามเพื่อน ญาติ พี่น้อง หรือคนรัก มาวัดหรือ
    ซอยสายลม หรือที่อื่น ๆ เพื่อมากราบท่าน แล้วก็
    มาติดใจหลวงพ่อ

    ๕. แสวงหาพระดีไปทั่วประเทศ พอมาเจอหลวงพ่อ
    วัดท่าซุงเข้า ก็เลิกแสวงหา

    ๖. พอเห็นท่านครั้งเเรกโดยบังเอิญก็ติดใจ ทำบุญ
    ด้วยทันที โดยไม่รู้ว่าท่านเป็นใคร คราวหนึ่ง ท่าน
    ขึ้นไปดอยตุงแล้วลงมาฉันก๋วยเตี๋ยวเพลอยู่ที่ร้าน
    ข้างถนน ที่อำเภอแม่สาย มีผู้หญิงอายุ ราว ๓๐
    เศษคนหนึ่งเดินผ่านมาพบเข้า ก็ไปซื้อลูกประคำมา
    ถวายท่าน ท่านก็เอาประคำคล้องคอท่านทันที
    (ตามปกติท่านจะไม่คล้องลูกประคำ นอกจากเพื่อ
    เจริญศรัทธาหมู่คณะเฉพาะงาน)
    พวกเราก็ล้อท่าน ท่านหัวเราะ บอกว่า “ท่านแม่มา
    บอกว่า น้องรักเขาถวาย คล้องให้กำลังใจเขาหน่อย”

    ๗. ท่านตามไปเก็บเอง เมื่อเป็นลูกศิษย์ท่านแล้ว ทุก
    คนจะซาบซื้งในมหากรุณาอันมหาศาลของท่านเอง
    โดยมิต้องบรรยายในที่นี้ เพราะท่านทำทุกๆ อย่าง
    เพื่อสงเคราะห์ลูกหลานของท่านในทุกโอกาส

    ที่มา:จากหนังสือประวัติหลวงพ่อพระราชพรหมยาน

    .jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
     
  6. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    “ถ้าเรายังรู้สึกว่าคนอื่นเขาชั่ว แสดงว่าเราชั่วมาก
    ทั้งนี้เพราะว่า ถ้าเราดีแล้วไม่มีใครชั่ว เพราะว่าเรา
    ยอมรับนับถือกฎของกรรม เรายังนินทาว่าร้ายบุคคล
    อื่น นั่นเรายังชั่วอยู่ อาการอย่างนี้จงลืมเสียให้หมด”

    หลวงพ่อพระราชพรหมยาน

    .jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
     
  7. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    สำหรับพระโสดาบันมีอารมณ์อย่างหนึ่งคือ เกาะพระ
    นิพพานเป็นอารมณ์ จิตมีความคิดอยู่เสมอว่า ถ้าร่าง
    กายนี้พังเมื่อไหร่ เราต้องการไปจุดเดียวคือนิพพาน
    ฉะนั้นคนที่มีความเคารพในพระพุทธเจ้า ในพรธรรม
    ในพระอริยสงฆ์มั่นคง มีศีล ๕ บริสุทธิ์ ถ้าจิตยังไม่
    ต้องการพระนิพพานเขาไม่เรียกว่าพระโสดาบัน เขา
    เรียกเป็นผู้เข้าถึงไตรสรณคมน์เท่านั้น

    คำสอนหลวงพ่อวัดท่าซุง (ธัมมวิโมกข์ฉบับที่ ๔๑๔)

    .jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
     
  8. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    ไปวิมานพระพุทธกัสสป..
    “..แล้วก็ไปเตียงไปที่วิมานของ สมเด็จพระ
    พุทธกัสสป ไปครั้งแรก ไปหา องค์ปัจจุบัน ท่าน
    บอก “นี่หลวงพ่อคุณอยู่ที่โน้น”
    พระพุทธกัสสป อดีตเคยเป็นพ่อ วิมานท่านติดกัน
    พอเข้าไปไอ้เตียงมันแท่นทองผสมแก้วนี่
    พระพุทธกัสสป บอก “แท่นนี้คุณทำมาร่วมกับฉัน
    นั่งบนนี้ซิ”
    ไอ้แท่นมันสกปรก คือทองนะเห็นอะไรมันเลอะหมด
    พระพุทธกัสสป ท่านบอก “เอ้า! ผ้าผืนนี้ปัด”
    พอหยิบผ้ามา พอวางแท่นไม่ต้องปัดให้มัน มันแพล็บ
    บอกขึ้นไปใหม่ๆ นิพพานเขาเป็นอย่างนี้
    ท่านชี้ให้ดู นิพพานจริงๆ เขาเป็นอย่างนี้ ไม่ต้องไป
    นั่งทำหรอก ขึ้นไปนั่งบนแท่น หัวยังไม่ถึงครึ่งเข่า
    ไม่ถึงเข่า ไม่ถึงครึ่งแข้ง
    ไอ้นั่นมันเป็นเตียงแบบของเราใช่ไหม
    แล้วท่านก็สูงใหญ่แล้วก็สวย..”

    ที่มา: จาก ธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ ๔๑๔ หน้า ๙๑
    โดยหลวงพ่อฤาษี วัดจันทาราม (ท่าซุง)

    .jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
     
  9. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    “ถ้าเรายังไม่ถึงนิพพานเพียงใด ถ้ายังหายใจอยู่
    ก็อย่าเพิ่งคิดว่าเราดี นี่เป็นเรื่องสำคัญ”

    ..พระราชพรหมยาน

    .jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
     
  10. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    “จะคิดว่าให้สงบนี่ ไม่คิดอะไรเลยนี่ไม่ถูก จะต้อง
    คิดเฉพาะด้านดีด้านเดียว ด้านชั่วไม่คิด อันนี้ใช้ได้
    ถือว่าสงบจากความชั่ว”

    .. หลวงพ่อพระราชพรหมยาน

    -ไม่คิ.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
     
  11. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    อย่าเลวตามเขา

    สำหรับคนที่เข้ามาสร้างความชั่วให้สะเทือนใจเรา นั่นเขาเป็นทาสของกิเลสตัณหา อุปาทาน และอกุศลกรรม ไม่มีทางที่จะคืนตัวได้ เราจงคิดว่าคนประเภทนี้เขาไม่ใช่คน เขาคือสัตว์นรกในอบายภูมินั่นเอง เราคิดว่า ถ้าเราจะไปต่อล้อต่อเถียงจะกระทำตอบ เราก็จะเลวตามเขา เวลานี้จิตของเขาจมลงไปในนรก ถ้าเราทำตามแบบเขาบ้าง เราก็จะจมนรกเหมือนกัน ไม่มีประโยชน์ เราก็ระงับความโกรธด้วยอำนาจ ขันติ หรืออุเบกขา เฉย เขาเลวก็ปล่อยให้เขาเลวไปแต่ผู้เดียว เราไม่ยอมเลวด้วย

    ที่มาจาก โอวาทหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม ๑ หน้า ๒๘

    .jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
     
  12. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    วิธีทำให้ถึงอรหันต์ สั้นที่สุด ง่ายที่สุด

    เวลานั้นองค์สมเด็จพระทศพลเสด็จมาพอดี ทรงประทับยืนอยู่เหนือศีรษะด้านหน้า มีแสงสว่างมาก แล้วท่านตรัส ท่านบอกว่า “คุณ คนที่ปฏิบัติอยู่แล้วทั้งหมดนี้กำลังใหญ่ คือ เข้าถึงนิพพานทุกคน แต่ทว่าเพื่อความไม่ประมาทให้เขาทำอย่างนี้
    วันหนึ่งจะใช้เวลาไหนก็ได้ เวลาที่ใจสบาย ถ้าเวลาอื่นมันติดงานมากก็เอาเวลานอน นอนก่อนจะหลับ หรือว่าตื่นใหม่ๆ ใจสบาย เอาจิตใจจับนึกถึงท่าน (พระพุทธเจ้า) ถ้าบุคคลใดไม่ได้ทิพจักขุญาน ก็นึกภาพเอาเอง กำหนดภาพพระพุทธเจ้า หรือพระพุทธรูปองค์ใดองค์หนึ่ง ให้เป็นประกาย บังคับจิต ถ้าเห็นเป็นสีเหลืองก็บังคับให้เป็นสีแก้วให้ได้ ทำอยู่อย่างนี้ไม่กี่วันหรอกก็เป็น ให้จิตมันเป็นฌาน ถ้านึกถึงเมื่อไรก็เห็นพระพุทธเจ้าเป็นสีแก้วเป็นประกายทุกวัน”

    องค์สมเด็จพระทรงธรรม์ ท่านบอกว่า ให้เขาทำอย่างนี้นะ ทุกวันอย่าได้ขาด วันหนึ่งใช้เวลา ๒ ถึง ๓ นาทีก็ไม่เป็นไร ฉันไม่จำกัดเวลา ว่าจะใช้เวลานานหรือเร็ว ถ้าเขาทำอย่างนี้ได้ทุกวัน แล้วก็ทรงอารมณ์ตามที่บอกไว้ คือ
    ๑) นึกถึงความตายไว้ อย่าประมาทในชีวิต
    ๒) เคารพในพระรัตนตรัย
    ๓) ทรงศีล ๕ บริสุทธิ์
    ๔) จิตหวังพระนิพพานอย่างเดียว
    ท่านบอกว่าเป็นอย่างนี้ละก็ ถ้าก่อนอายุขัยของเขา ๗ วัน ท่านกำหนดให้เลยนะ ว่าก่อนอายุขัยอีก ๗ วัน ต้องตายแน่อยู่ไม่ได้ ตอนนั้นกระแสจิตของเขาจะเห็นภาพในอากาศเต็มจักรวาล ทั้งพระพุทธเจ้าก็ดี พระอรหันต์ก็ดี เทวดาก็ดี พรหมก็ดี แพรวพราวไปหมด และก็หลังจากนั้นไปเมื่อกำลังใจของตนจะพ้นกำหนดในการทรงสังขาร สมเด็พระพิชิตมารบอกว่าจะเข้าถึงอรหัตผลทันที

    ที่มาจากหนังสือ คำสอนหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม ๓๙

    -สั้.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
     
  13. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    ต้องการให้มโนมยิทธิมีสภาพชัดเจนแจ่มใส

    “ถ้าต้องการจะให้เห็นแจ่มใส ให้หมั่นจับภาพพระให้ใสเป็นประกายแก้วอยู่เสมอ วันหนึ่งสักครั้งหนึ่งให้เป็นประจำก่อนหลับก็ได้ ถ้าทำอย่างนี้ละก็ ท่านบอกว่าถ้าถึงวาระอีก ๗ วันตาย ตอนนั้นจะพบพระหรือเทวดาเป็นประกายใสปลอดโปร่ง และจิตใจจะจับอยู่ในสภาพนั้น และวาระนั้นแหละ จิตใจจะตัดในที่สุด คือจิตจะตัดเข้าอรหัตผล ตายแล้วไปนิพพานทุกคน”

    โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (วัดท่าซุง)

    .jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
     
  14. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    คาถาปราโมทย์

    ..” องค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์ให้คาถาปราโมทย์โดยตรง ทรงปรารภว่าต่อไปเมื่อเธอภาวนาคาถาปราโมทย์นี่แล้ว อะไรทุกอย่างจะเห็นชัดเจนแจ่มใส ทั้งนี้เพราะว่าเธอเวลานี้เห็นนิมิตอะไรก็ตามมัคลุมเครือไปหมด ถ้าใช้คาถานี้แล้วทุกสิ่งทุกอย่าง จะสว่างแจ่มใสเหมือนกับพระอาทิตย์ในเวลาเที่ยง

    เเต่ความจริงอารมณ์แจ่มใสประเภทนี้ ตามแบบจะต้องมีแต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น แต่ทว่าในตอนนี้พระพุทธเจ้าท่านสอนมาอย่างนั้น ถ้าใครทำได้ก็ได้ไม่ได้ก็แล้วไป ใครได้มโนมยิทธิก็ลองสอบเอา เพราะมโนมยิทธิเป็นเครื่องทดสอบความรู้ทางพระพุทธศาสนา การปฏิบัติความจริงนี่ก็เรื่องของใครของมันเหมือนกัน จะทำเหมือนกันทุกอย่างไม่ได้

    คาถาปราโมทย์ที่ทำให้สมาธิจิตมีทิพจักขุญาณแจ่มใส จะจำภาพเห็นภาพนิมิตทุกสิ่งทุกอย่างได้โดยชัดเจนแจ่มใสเหมือนกลางวัน คือพระอาทิตย์เวลาเที่ยง ท่านว่าโดยสร้างนิมิตเปรียบเทียบ ปรากฏผลว่าภาพนิมิตและตรวจสอบใดๆ จะชัดเจนขึ้น และ มีภาพแจ่มใส ท่านว่าอย่างนั้น สำหรับคาถาภาวนาให้ภาวนาว่า ประโมทยะ เฉยๆ จับลมหายใจเข้าออกเหมือนกัน แล้วก็ภาวนาว่า ประโมทยะๆ ..”

    โดยพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    ที่มา : จากหนังสือ สมบัติพ่อให้ หน้า ๑๙๑
    (ประโมทยะ อ่านว่า ประ-โม-ทะ-ยะ)

    .jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
     
  15. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    อภิญญามีสภาพไม่เหมือนกัน

    ” เรื่องของอภิญญา คนส่วนใหญ่เมื่อฟังว่า อภิญญา
    แล้วก็มักจะคิดว่า ท่านที่ได้อภิญญา จะต้องมีความรู้
    แจ่มใสเหมือนพระพุทธเจ้าเสียทุกอย่าง เป็นการเข้าใจ
    ผิดถนัด พระพุทธเจ้าทรงเป็น สัพพัญญู คือมีบารมี
    เป็นจอมอรหันต์ ย่อมทรงอภิญญาดีเลิศเป็นพิเศษ
    สำหรับพระสาวกที่ได้มีกำลังไม่เท่ากัน และไม่มีทางจะ
    ไปเปรียบเทียบกับพระพุทธเจ้าได้เลย จะเปรียบให้ฟัง
    เอาเพียงทิพจักษุญาณอย่างเดียว อย่างอื่นให้เข้าใจว่า
    เหมือนกัน

    ๑. ทิพจักษุญาณของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มี
    ความสว่างคล้ายพระอาทิตย์ส่งแสงจัด ไม่มีเมฆบัง
    ไม่มีเผลอ ไม่มีพลาดในการเห็น

    ๒. ของพระปัจเจกพุทธเจ้า มีความสว่างเหมือนวันเพ็ญ
    พระจันทร์เต็มดวง มองเห็นคนกลางคืนเมื่อเดือน
    หงายมีสภาพอย่างไร ต่างกับกลางวันอย่างไร
    พิสูจน์เอาเอง

    ๓. พระอัครสาวกทั้งสอง มีความสว่างเหมือนคบเพลิง
    ดวงใหญ่สว่าง แต่แสงสว่างไม่ไกลเหมือนความ
    สว่างของดวงจันทร์

    ๔. ของพระอรหันต์สาวก สว่างเหมือนแสงตะเกียง
    ดวงน้อย

    ๕. ของท่านที่ได้ฌานโลกีย์ สว่างเหมือนอากาศเมื่อ
    พระอาทิตย์ลับแล้ว กำลังมัวตา มองดูอะไรก็ไม่
    เห็นถนัดนัก

    ข้อเปรียบเทียบนี้ยังไม่ละเอียดพอ แต่เกรงว่าลูกหลาน
    จะเบื่อฟัง เอามาเปรียบเทียบเพียงย่อๆ ท่านที่ได้ฌาน
    และอภิญญาไม่ใช่รู้อะไรหมด ยิ่งเป็นฌานโลกีย์ด้วยแล้ว
    ยิ่งมีจังหวะพลาดง่ายเหลือเกิน เพราะมีอุปาทานมาก
    ต้องระวังให้มาก ถ้าไม่ประมาทคิดว่าตัวดีไม่เป็นไร ถ้า
    ประมาทเมื่อไรเจ๊งเมื่อนั้น สำหรับพระอริยะท่านรู้ว่าท่าน
    ไม่ดีเสมอ ไม่มีความประมาท เรื่องเจ๊งไม่มี”

    หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง)
    ที่มา : จากหนังสือ ประวัติหลวงพ่อปาน หน้าที่ ๔๔

    .jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
     
  16. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    ทุกชาติที่เราเกิดมาต้องบาป บุญก็ทำบาปก็ทำ เวลาที่บาปให้ผลมันก็โง่ทุกอย่าง เห็นจากดีเป็นชั่ว จากชั่วเป็นดี เวลาที่บาปให้ผลเราต้องให้อภัยเขา การที่โมโหโทโสชาวบ้านนี่ มันตัวบาป จำไว้นะ โมโหนี่ว่างๆ เราก็ถ่ายวีดีโอไว้ ตั้งกล้องไว้ เวลาโมโหตั้งกล้องไว้แล้วก็ถ่ายมันออกท่าไหนบ้าง พอเลิกโมโหแล้วมาฉายให้ดู มันสวยไหม เสียงพูดก็เหมือนกันดีไม่ดีฟังไม่รู้เรื่อง โมโหคือโมหะตัวหลง มันเป็นบาป

    จาก คำสอนหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม ๔๓

    .jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
     
  17. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    “ความอยากมันมี ๒ พวก
    อยากดีเขาไม่เรียกว่ากิเลส อยากชั่วเขาจึง
    เรียกว่ากิเลส”

    โดยหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

    -๒-พวก.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
     
  18. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    ” เคราะห์ ”

    …คำว่า เคราะห์ คือ บาป เราล้างไม่ได้ แต่ถ้า
    หากว่าทำความดีให้มีกำลังสูงกว่า
    คำว่า เคราะห์จะเปรียบเทียบให้ฟัง เหมือนกับ
    คนยืนอยู่กลางแดดจัดๆ
    เวลานี้อยู่ในร่มมันก็ร้อน ถ้ายืนกลางแดดมันก็
    ร้อน ถ้าทำบุญน้อยๆ ก็เหมือนกับมีร่มเล็กๆ ไป
    กางบังอยู่มันก็เย็นไปหน่อยหนึ่ง ทำบุญที่มี
    อานิสงส์มากๆ ก็เหมือนกับมีคนเอาน้ำไปราด
    ให้ ก็มีความเย็น
    “ถ้าทำบุญที่มีกำลังสูงใหญ่อย่างเราเจริญกรร
    มฐาน เหมือนกับเราแช่ในอ่างน้ำ ถึงเราจะอยู่
    กลางแจ้งกลางแดด ความร้อนมันก็น้อยไป” …

    หนังสือสมบัติพ่อให้หน้า ๒๔๓
    โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง

    .jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
     
  19. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    “อย่าไปนึกว่าคนในโลกเขาจะรักเราทุกคน และก็จง
    อย่าไปคิดว่าคนในโลกเขาจะเกลียดเราทุกคน จงถือ
    ว่ารักหรือเกลียดไม่มีความสำคัญ
    ความสำคัญมีอยู่ว่า อย่าไปคบกับความชั่ว อย่ารับคำ
    นินทาและก็อย่ารับคำสรรเสริญ ใครเขาจะนินทาว่า
    ร้ายเราก็ปล่อยให้ความเลวนั้นตกอยู่กับเขาแต่ผู้เดียว”

    บันทึกธรรมโดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    (ธัมมวิโมกข์ ฉบับ ๑๙๔ หน้า ๙๓)

    .jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
     
  20. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    “..อย่าถือเป็นเรื่องสำคัญนะ ไอ้กินเวลาเดียว ๒ เวลา กินเนื้อสัตว์ ไม่กินเนื้อสัตว์ นี่อย่านะ! อย่าถือเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าคนที่ไม่กินเนื้อสัตว์ ต้องตอบอย่าง หลวงปู่แหวน เคยมีคนมาเล่าให้ฟังมีคนหนึ่งแกบอก หลวงปู่แหวนว่า

    “เวลานี้ผมถือมังสวิรัติครับ ไม่กินเนื้อสัตว์”

    หลวงปู่แหวน ท่านบอก “ไอ้วัวควายกินหญ้าตั้งนาน ไม่เห็นเป็นพระอรหันต์ซักตัว”

    ตอบนำสมัย ไม่ใช่ทันสมัย ถ้าเรื่องเป็นความจริงตามนั้น แต่การกินไม่มีความหมายในการปฏิบัติ แต่การปฏิบัติจริงๆ มันอยู่กับ

    (๑) เข้าถึง สเก็ตพระศาสนา แล้วหรือยัง
    (๒) เข้าถึง เปลือก เข้าถึง กระพี้ เข้าถึง แก่น แล้วหรือยัง เข้าถึงเเก่นนี่ยังใช้ไม่ได้ ยังเป็นเหยื่อของอบายภูมิ จะต้องเข้าถึงพระโสดาบัน เป็นอย่างต่ำ เขาวัดกันตรงนี้ อย่าไปวัดกันแค่กิน..”

    โดย พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    (ธัมมวิโมกข์ ฉบับ ๒๓๒ หน้า ๖๔)

    .jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...