เพื่อนทำบุญเยอะ อธิษฐานเป็นท้าวสักกเทวราช แล้วองค์ปัจจุบันนี้จะไปอยู่ไหน

เพื่อนผมทำบุญทำทานเยอะมาก ไม่เว้นวันเลย บ้านเขามีฐานะ อุปถัมภ์พระกรรมฐานหลายท่านมาก สร้างวิหารทานไม่หยุดหย่อน ใส่บาตรทุกวัน ถวายสังฆทานตลอด สวดมนต์ไหว้พระ ทอดผ้าป่า-กฐิน จิตใจดี ชอบช่วยเหลือเพื่อนๆ(โดยเฉพาะเรื่องเงินๆทองๆ 555) เอาเป็นว่าอะไรดีเขาทำหมด แต่เขาไม่ปฏิบัติธรรมสักเท่าไหร่น่ะ

วันนี้ก็ไปทำบุญกับเขา ถวายไทยธรรมกับพระกรรมฐาน เห็นเขาหลับตาอธิษฐานนาน ลองถามเขาว่าอธิษฐานอะไร เพื่อนตอบว่า

"เราจะเป็นท้าวสักกเทวราช จอมเทพชั้นดาวดึงส์โน้น พอมาเกิดเราก็จะขอเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ จะปกครองมนุษย์ให้ทำทาน รักษาศีลเป็นอย่างดี อย่างนี้ไปทุกภพชาติ"

ผมเลยถามว่า แล้วเรื่องละกิเลส เข้านิพพานหล่ะ เขาตอบว่า
"บารมีเรายังไม่ถึง ใจเราไม่ต้องการ เราต้องการแค่นี้ รอคุณมาโปรดผมแล้วกัน"

อึ่งไปเลยครับ เราตามเขามายิกๆ จะให้เราไปโปรด จึงแอบสงสัยว่า ถ้าบุญเขาถึงจริง ท้าวสักกเทวราชองค์ปัจจุบันจะเป็นอย่างไร (หรือถ้าบุญเขาไม่ถึงก็คงได้เป็นอะไรใหญ่ๆโตๆบนสวรรค์แน่ๆ....อันนี้ผมมโนไปเอง)

ภาพท้าวสักกะสวยๆในเน็ตครับ​

 

เออเนาะ สงสัยเหมือนกัน
ถ้าท้าวสักกะเทวราชองค์ปัจจุบัน ยังไม่หมดบุญ
จะมีองค์อื่นๆ ได้อีกหรือไม่

 

ผมคิดว่ามันต้องเป็นตำนานแน่ๆ เรื่องนี้ต้องถูกบรรจุอยู่ในเรื่องเล่าของพระพุทธศาสนายุคพระศรีอาริย์ เรื่องราวจะเป็นอย่างไรหนอ อยากรู้จัง

 

แต่ละตำแหน่งทั้งบนโลกหรือที่ใหนๆ เขาย่อมมี"วาระ"เช่นกัน...ก็เพื่อนของท่านจขกท. แม้จะทำบุญมากเช่นนั้น เมื่อเทียบกับท้าวสักกะองค์ปัจจุบันอย่างเทียบไม่ติด เพราะพระองค์"มีบุญอย่างยิ่ง"ที่ได้พบปะและได้สดับพระธรรมโดยตรงจากพระพุทธเจ้า ท่านได้บรรลุเป็นพระโสดาบันแล้ว ดังนั้น การที่เพื่อนของท่านจขกท.จะได้ตำแหน่งนี้คงไม่ง่ายเมื่อเทียบคุณภาพของบุญที่เขามีโอกาสทำในปัจจุบันกับสมัยพุทธกาล...

อย่างไรก็ดีขออนุโมทนาในกุศลกิริยาของเพื่อนท่านจขกท. ขอให้เขาเพียรไปไม่ท้อ ผลอันเลิศย่อมหวังได้อย่างน้อย การได้เกิดเป็นบริวารของท้าวสักกะผู้ทรงเป็นพระโสดาบันย่อมเป็นปัจจัยเกื้อหนุนอันดีที่เขาจะได้สดับพระธรรมและอาจปฏิบัติต่อจนพ้นทุกข์ได้....ถ้าเขาไม่ปิดกั้นตนเองด้วยภวตัณหาที่อยากเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์...เสียก่อน

 

เป็นไปได้สูงมาก

1.สมัยที่พระพุทธเจ้าของเรา เกิดเป็น "พระเจ้ามันธาตุราชบรมโพธิสัตว์" ก็เคยได้แบ่งครึ่งสวรรค์ชั้นดาวดึงส์กันปกครองร่วมกับท้าวสักกเทวราชถึง 36พระองค์มาแล้ว

2.ตอนท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีทำทานจนสมบัติพร่อง พระพุทธเจ้าได้เล่าเรื่องของพระองค์เอง ที่ได้เคยเกิดเป็น "วิสัยหเศรษฐี" ได้ทำทานอย่างยิ่ง(ไม่ได้ทำกับเนื้อนาบุญน่ะครับ) ท้าวสักกเทวราชในยุคนั้น เกรงวิสัยหเศรษฐีจะมาแย่งตำแหน่ง ได้มาทำให้สมบัติวิบัติไป จนเมื่อทราบความจริงว่าท่านต้องการบรรลุอนุตตรสัมมาโพธิญาณก็มีการคืนสมบัติ ---->แสดงว่าตำแหน่งนี้หลุดได้น่ะครับ

3.อย่าลืมว่าท้าวสักกเทวราชองค์ปัจจุบัน ในสมัยพุทธกาลบุญท่านก็มีกำลังน้อยกว่าเทพบุตรรุ่นใหม่ๆที่มีโอกาสทำบุญในพระพุทธศาสนามาดี จึงต้องแปลงกายลงมาใส่บาตรกับพระมหากัสสปะ

ถ้าผู้ท้าชิงตำแหน่ง ได้ทำบุญใหญ่ๆในพระศาสนาไว้มากๆ ตั้งความปรารถนา อาจได้ครองตำแหน่ง หรือแบ่งครึ่งกันปกครองเลยน่ะครับ

*เรื่องทั้งหมดมาจากพระไตรปิฏก ลอง search key word อ่านกันได้น่ะครับ

 

เทียบชั้นกันไม่ติดหรอกค่ะระหว่างท่านท้าวสักกะกับเพื่อนคุณ
เพราะท่านท้าวสักกะองค์ปัจจุบันท่านเป็นพระอริยเจ้าขั้นโสดาบัน รอเข้านิพพานในยุคพระศรีอาร์ย์
วันพระใหญ่ท่านก็นิมนต์พระพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ที่ดุสิต มาเทศน์ให้เหล่าเทวดานางฟ้าฟังธรรมกันที่เทวสภาที่เกิดขึ้นจากบุญบารมีของท่านท้าวสักกะองค์ปัจจุบัน

เพื่อนคุณได้แค่กระพี้คือแค่ทำบุญ ยังไม่ถึงแก่นคือการทำวิปัสสนาญาณให้บังเกิดจนถึงขั้นเป็นพระอริยะเจ้า
ที่ทำมาน่ะยังไม่ได้ถึงเสี้ยวของท่านท้าวสักกะองค์ปัจจุบันเลย
แค่คิดจะเหนือกว่าหรือเป็นแทนก็เป็นการปรามาสพระรัตนตรัยแล้วล่ะ

 

ตำแหน่งเป็นของกลางๆ เหมือนตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั่นแหละ

ใครอยากเป็นก็ทำบุญอธิษฐานเอา เดี๋ยวก็ได้เอง

ไม่บาปหรอกที่อยากเป็น อย่าว่าแต่ตำแหน่งท้าวสักกะเลย ตำแหน่งพระพุทธเจ้าก็เป็นได้

บาปที่ไหนกัน สาวกด้านเอตทัคคะ ก็เริ่มจากเห็นพระพุทธเจ้าองค์ก่อนแต่งตั้งเอตทัคคะด้านนั้น ด้านนี้ พอเห็นแล้วอยากเป็นบ้าง แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตากันบำเพ็ญ เดี๋ยวก็ได้
ไม่เห็นว่าปรามาทพระอรหันเลย

 

สาธุๆทั้งสองท่านครับ

 

เปิดชม ชัดเจน

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=rT4sjthmhHw]๕.วิสัยหเศรษฐีภริยา - เกี่ยวหญ้าฯ - YouTube[/ame]

 

ทำบุญหวังตำแหน่งพระอินทร์ น่าจะได้ยากกว่าเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์ น่าจะน้องๆเอกทัคคะด้านใดด้านหนึ่ง

 

ขอให้เพื่อนคุณกำนันธงชัยสมหวังคะ เหมือนข้าพเจ้าหวังนิพพานคะ อนุโมทนากับบุญกุศลที่ทุ่มตัวสร้าง แต่เท่าที่รู้ผู้ที่จะไปเป็นใหญ่บนสวรรค์นั้น ไม่ใช่มีทิพย์สมบัติอย่างเดียว ต้องมีบุญฤทธฺิ์ด้วย คือต้องเป็นผู้มีฌานที่เก่งกล้า จึงมีฤทธ์มีพลังไปปราบมารได้ ไม่ต้องห่วงองค์ปัจจุบันจะไปอยู่ไหน ก็เหมือนโลกมนุษย์ ทุกอย่างมีหมดอายุ เกษียณ์ บนสวรรค์ก็เช่นกัน เมื่ท่านหมดวาระ ท่านก็สบายแหละ เพราะท่านเหนี่อยมานาน

 

ท่านจขกท. พึงเเนะนำเพื่อนผู้มีบุญด้วยว่า ธรรมหลักที่ทำให้เข้าถึงฐานะการเป็นท้าวสักกะคือ...(ไม่ใช่ทำบุญมากๆแต่อย่างเดียวนะครับ)

http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=12&p=7

 

"เราจะเป็นท้าวสักกเทวราช จอมเทพชั้นดาวดึงส์โน้น พอมาเกิดเราก็จะขอเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ จะปกครองมนุษย์ให้ทำทาน รักษาศีลเป็นอย่างดี อย่างนี้ไปทุกภพชาติ"

ไม่ผิดที่เขาจะคิดอย่างนี้ แต่ก่อนจะได้เป็นดั่งคิด ต้องสร้างปัจจัยให้ได้เพียงพออย่างที่อยากเป็น อยากเป็นเจ้าจักรพรรดิ ก็ต้องรู้จักให้ รู้จักเสียสละ สั่งสมบารมีไปมากภพชาติ มิใช่แค่เพียงชาตินี้ปรารถนาแล้วชาติหน้าจะได้เป็นเลย และการมีความปรารถนาจะปกครองมนุษย์ให้ทำทาน รักษาศีลอย่างดีนั้น ตนเองต้องเริ่ม ทำทานและรักษาศีลให้ดีก่อน หากมีแต่ความปรารถนา แต่ไม่กระทำปัจจัยก็ยากที่จะสมหวัง

"บารมีเรายังไม่ถึง ใจเราไม่ต้องการ เราต้องการแค่นี้ รอคุณมาโปรดผมแล้วกัน"

แค่ความคิดอย่างนี้ ก็เป็นตัวขัดขวางการปฏิบัติธรรมของเขาเองอยู่แล้ว หนทางเป็นใหญ่ในสวรรค์นั้นคือทางผ่านของผู้ปฏิบัติ ไม่ปฏิบัติแต่อยากเป็น ไม่ได้เป็นแน่นอน

ส่วนเรื่องของคิวผู้เป็นใหญ่ในโลกดาวดึงนั้น มีเพียงตำแหน่งเดียว และมีคิวรอรับตำแหน่งอยู่มากมาย หากเราจะเข้าไปสมัครชิงตำแหน่ง หลังจากทำปัจจัยพร้อม ก็คงต้องรอถึงวาระที่จะรับตำแหน่งอีกเป็นแสนๆปี ( ดาวดึงครองตำแหน่งยาวนานสูงสุดประมาณ 1000 ปีดาวดึงตามอายุขัยชาวโลกนี้ )

 

เป็นอะไรก็ได้ ถ้าอยากเป็น เพียงตั้งใจและสะสมบุญบารมีไปเรื่อยๆ แม้แต่พระพุทธเจ้า
เราทั้งหลายก็ตั้งใจที่จะเป็นได้ แต่จะได้เป็น ได้สมหวังนั้นเป็นเรื่องต้องติดตามต่อไป
----------
ส่วนเรื่องของคิวผู้เป็นใหญ่ในโลกดาวดึงนั้น มีเพียงตำแหน่งเดียว และมีคิวรอรับตำแหน่งอยู่มากมาย >>
-----------
เมื่อผู้มีตำแหน่งเดิม ต้องเลื่อนชั้นไป อาจจะขอเลิกเอง เพื่อบำเพ็ญสู่นิพพาน หรือภพภูมิ
เบื้องสูงกว่านั้น
หรือ กำลังบารมีที่จะอยู่ตำแหน่งนั้นอ่อน หมดลง ผู้ที่อธิษฐานอยากเป็น ที่เข้าคิวรอ
ก็จะมาสวมตำแหน่งทันที ไม่มีการแย่งชิงตำแหน่ง ผู้ที่ตั้งใจลำดับต่อมา ก็จะเลื่อนเข้ามาเข้าคิวต่อไปเรื่อยๆ ระหว่างที่กำลังรอคิว จะอยู่ที่ไหน ก็อยู่ในชั้นที่กำลังบารมีและความพอใจในชั้นๆนั้นๆ
คิดว่าเป็นแบบนี้นะ...

 

หาข้อมูลมาให้น่าจะประมาณนี้ครับ

หลักธรรมของมฆมาณพก่อนที่จะได้เป็นพระอินทร์

วัตตบท ๗ ประการ ได้แก่
1) เลี้ยงมารดาบิดาตลอดชีวิต
2) ประพฤติอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้ใหญ่ในตระกูลตลอดชีวิต
3) มีวาจานุ่มนวลสุภาพตลอดชีวิต
4) มีวาจาไม่ส่อเสียดตลอดชีวิต
5) มีใจปราศจากความตระหนี่ ยินดีในการแจกทาน ครองเรือนตลอดชีวิต
6) มีวาจาสัตย์จริงตลอดชีวิต
7) ไม่โกรธ แม้ว่าถ้าโกรธก็ระงับได้ทันทีตลอดชีวิต

ทานบารมีอย่างเดียวไม่พอหรอกนะครับ

 

ก็รอองค์ปัจจุบันหมดบุญ เพื่อนท่านก็รอไปอาจอยู่วิมานข้างๆก่อน พอองค์ปัจจุบันหมดก็สวมตำแหน่งเลยครับ อิอิ // ซึ่งระหว่างรออาจได้ตำแหน่งใหญ่ๆโตๆ มียศฐาบรรดาศักดิ์ไม่แพ้กันเลยก็ว่าได้ครับ อิอิ ผมก็มโนนะครับ