เมื่อถึงเวลา อะไรๆ ก็เป็นใจ

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย InfinityMind, 12 ตุลาคม 2017.

  1. InfinityMind

    InfinityMind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +214
    เปิดดูไฟล์ 4364916

    “อยากถวายสังฆทาน” อยู่ๆ ความรู้สึกนี้ก็ผุดขึ้นมาในช่วงบ่ายของเมื่อวาน เป็นความรู้สึกอยากถวายสังฆทาน ให้ "แขก" ที่กำลังล้อมหน้าล้อมหลังอยู่ ทั้งที่โดยปกติแล้ว ข้าพเจ้ามักจะสวดมนต์แผ่เมตตาไปให้พวกเขาอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่เคยนึกถึงเรื่องถวายสังฆทานเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แต่อย่างใด

    ใจนั้นรู้แล้วว่า "ใคร" คือผู้ที่ต้องการสิ่งนี้ เหมือนจะบอกเป็นนัยว่าพวกเขาพร้อมจะโบกมือลาไปจากข้าพเจ้าแล้วนั่นเอง จึงได้ดลใจให้ข้าพเจ้านึกอยากถวายสังฆทานเพื่ออุทิศผลบุญส่งไปให้พวกเขา

    เป็นเพราะความรู้สึกนี้ผุดขึ้นมาในช่วงบ่ายของเมื่อวาน ข้าพเจ้าจึงพอมีเวลาเดินไปซื้อของที่ต้องการ ใช้เวลาไม่มากก็ได้ของครบตามที่อยากได้


    วันนี้ข้าพเจ้าตื่นรอบแรกตั้งแต่ตีสี่ เห็นว่ายังเร็วเกินไปที่ตื่นมาเตรียมของใส่บาตรและถวายสังฆทานจึงนอนต่อ แต่หลับไปได้พักหนึ่งก็รู้สึกคล้ายโดนปลุกจากเสียงทำครัวของเพื่อนบ้านทั้งที่ปกติไม่เคยได้ยินในช่วงเวลานี้ พอเห็นว่าเป็นเวลาตีห้าแล้ว ข้าพเจ้าจึงรีบลุกขึ้นมาอาบน้ำแล้วรีบไปเตรียมหุงข้าวทำอาหาร

    ตลอดเวลาขณะเตรียมทำอาหารใส่บาตร ข้าพเจ้าไม่พบอุปสรรคใดๆ เลย จากที่เมื่อวานกังวลว่าฝนจะตกในตอนเช้าหรือไม่ ก็ปรากฏว่าท้องฟ้าแจ่มใสเป็นปกติ ไม่มีเมฆฝนตั้งเค้าแต่อย่างใด อุปสรรคด้านดินฟ้าอากาศไม่มี อุปสรรคเรื่องการเตรียมอาหารก็ไม่มี

    นอกจากของนอกบ้านที่ไปหาซื้อมาแล้ว เวลาจะถวายสังฆทาน ข้าพเจ้าชอบหาของ "ในบ้าน" ใส่ไปด้วยเสมอ นั่นคือ เดินดูของที่มีอยู่ในบ้าน ว่าชิ้นไหนอันไหนที่ควรแก่การนำไปถวายเป็นสังฆทาน บางครั้งอาจจะเป็นข้าวสารหรือกระดาษทิชชู่ แต่หนนี้สิ่งแรกที่ข้าพเจ้านึกถึงคือ "พระ"

    ทีแรกคิดไว้ในใจว่าจะนำพระผงจักรพรรดิองค์เล็กๆ มาถวาย กับหาหนังสือสวดมนต์อีกสักเล่ม แต่เมื่อเข้าไปหาในห้องพระ ข้าพเจ้าก็พบว่ามีรูปหล่อเรซินอยู่องค์หนึ่งที่ยังไม่ได้ถวายสังฆทาน พอเปิดดูแล้วพบว่าเป็นรูปหล่อหลวงปู่ทวด ข้าพเจ้าดีใจมาก แล้วรีบหาหนังสือสวดมนต์ที่จะถวาย หาไปหามาก็พบหนังสือสวดมนต์บทชินบัญชร หน้าปกเป็นรูปสมเด็จโตกำลังนั่งสมาธิ ข้าพเจ้าจึงน้อมถวายภัตตาหาร สังฆทานพร้อมเครื่องบริวารทั้งหลายขึ้นน้อมบูชาแด่พระรัตนตรัย พร้อมกับอธิษฐานขอฝาก “แขก” ทั้งหลายไว้กับหลวงปู่ทวดและหลวงพ่อโต ขอพระอาจารย์ทั้งสองช่วยดูแลพวกเขาด้วย

    พอถวายเครื่องสังฆทานบูชาพระรัตนตรัยเสร็จแล้ว ข้าพเจ้าก็กล่าวขออนุญาต ขอนำของเหล่านี้ไปถวายต่อพระภิกษุสงฆ์ต่อไป ซึ่งเป็นเวลาพอดีกับที่พระสงฆ์ท่านกำลังจะบิณฑบาตมาถึงศาลาพักผ่อนตรงจุดที่ข้าพเจ้ารออยู่ ข้าพเจ้าได้ถวายสังฆทานแด่พระสงฆ์และกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลไปให้พวกเขาอย่างที่ตั้งใจโดยไม่มีอุปสรรคใดๆ ขัดขวางเลย ทุกอย่างเป็นไปโดยราบรื่น เหมือนทุกสิ่งเป็นใจ

    และเมื่อข้าพเจ้าสวดมนต์แผ่เมตตาไปให้พวกเขาในวันนี้ก็รู้สึกได้ถึงความเบา ปราศจากแรงต้านใดๆ ผิดกับวันแรกๆ ที่เริ่มแผ่เมตตาให้พวกเขา ซึ่งสิ่งนี้ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกอิ่มใจเป็นอันมาก


    เมื่อทบทวนเหตุตั้งแต่ต้นจนจบ ข้าพเจ้าก็พบว่า “เมื่อถึงเวลา อะไรๆ ก็เป็นใจ”


    หากแม้เรื่องเล่าของข้าพเจ้านี้จะมีประโยชน์มากน้อยเพียงใดก็ตาม ข้าพเจ้าขอยกความดีทั้งหมดน้อมถวายแด่พ่อแม่ครูบาอาจารย์ทุกท่าน ตลอดจนญาติพี่น้องมิตรสหาย และท่านเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ขอให้ทุกท่านจงประสบแต่ความสุข ปราศจากความทุกข์ตลอดกาลนานเทอญ.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 เมษายน 2019

แชร์หน้านี้

Loading...