เมื่อแม่ขอให้กินยายุติการตั้งครรภ์ (ทำแท้ง) เพื่อช่วยรักษาชีวิตพ่อกับแม่ไม่ให้ตรอมใจ

ในห้อง 'ทุกข์และปัญหาชีวิต' ตั้งกระทู้โดย janjae, 22 มีนาคม 2015.

  1. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,993
    ผมเคยมีประสบการณ์ที่ต้องอยู่กับคนที่มีลักษณะคล้ายๆกับคุณแม่ของคุณ...
    ผมคิดว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ทุกข์ใจ ทรมานใจทั้งคุณและสามี มากๆครับ...
    ไม่ว่าสามีคุณจะทำอะไร คุณแม่คุณจะมองว่าเป็นสิ่งที่ชั่วร้ายและทนไม่ได้ แม้แต่เห็นเงาก็ถึงกับกรีดร้อง ร่ำไห้ แค่ได้ยินชื่อสามีคุณ ก็ทำให้คุณแม่คุณอาละวาดได้ทั้งวัน ทั้งๆที่ยังไม่ทันเห็นตัว...

    ไม้อ่อนก็ใช้ไม่ได้ผลครับ ไม้แข็งยิ่งไม่ได้ผลเข้าไปใหญ่ การบอกให้คุณแม่คุณ สวดมนต์ไหว้พระ ถ้าสามารถทำได้ผมจะส่งเก้าอี้สำหรับนั่งสวดมนต์ไปให้ฟรีๆ เลยทีเดียว..แต่ว่าเป็นไปไม่ได้ครับ และไม่ใช่วิธีที่ดีเลย ...

    การใช้ธรรมะเข้าแก้ไข ต้องดูบุคคล ต้องดูเวลา ต้องดูสถานะการณ์ ขนาดว่าองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้ายังไม่ทรงตรัสสอน พวกบัวเหล่าที่ 4 แม้บัวเหล่าที่3 ยังทรงพิจารณาว่าถึงเวลาของเขาแล้วหรือยัง ธรรมใดจึงจะถูกกับวาสนาของเขา...
    ดังนั้นการที่เอะอะ อะไรก็จะเอาธรรมะเข้าจัดการกับทุกคน...ผมไม่เห็นด้วยนะครับ...ขอไม่บ่นต่อดีกว่านะ...

    การจะไปบอกรักแม่ กราบเท้าแม่ จนกระทั่งได้กลิ่นเล็บขบติดจมูกขึ้นมา ก็ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรครับ ไร้สาระ ... คือสิ่งที่กระทำลงไปแล้วไม่ได้เกิดประโยชน์ ผมนิยามสิ่งนั้นว่า ไร้สาระ ...

    การปฏิบัติธรรม เป็นการอยู่กับความจริง อย่างมีสติ
    การมีสติคือ การรู้เท่าทันอารมณ์ในขณะปัจจุบัน แล้วไม่ไหลไปตามอารมณ์นั้นๆ จากนั้นจึงมาพิจารณาด้วยเหตุด้วยผล ตามความเป็นจริงต่อไป...

    คุณแม่คุณเกลียดสามีคุณเข้ากระดูกดำ...ดังนั้นแล้ว...เอาสามีคุณไปห่างๆ อย่าให้แม่คุณได้ยิน ได้เห็น ได้กลิ่น สามีคุณ รวมทั้งอย่าไปพูดถึงด้วย...

    คุณอายุ 32 ปีแล้ว ถ้าทำแท้ง ... หมดสิทธิ์มีลูกต่ออีกแล้วครับ ลูกคนนี้เป็นลูกคนแรก และเป็นคนสุดท้ายของคุณ จะเป็นความหวัง รอยยิ้ม และความสุขของคุณ นับตั้งแต่วันที่คุณได้ยินเสียงร้องแรกของเขา ไปจนวันสิ้นลมหายใจของคุณ ... จำสิ่งนี้เอาไว้ แล้วคุณจะรักษาลูกในท้อง และสุขภาพกาย สุขภาพใจของตัวคุณเองด้วย...

    ให้คุณพ่อคุณพาแม่ไป โรงพยาบาล เพื่อขอรับยาระงับประสาท ซึ่งได้ผลดีครับ มีผลต่อเคมีในสมอง ทำให้อารมณ์ดี ยิ้มได้ หัวเราะก็ยังได้เลย เห็นแมลงวันบินผ่านหน้ายังขำ..
    มีสมาธิมากขึ้นด้วยครับ ช่วยให้กินได้ นอนหลับ แล้วคุณแม่คุณจะหลงรักยาพวกนี้ครับ... ภายใต้การควบคุมดูแลและคำแนะนำจากคุณหมอ คุณแม่คุณจะดีขึ้นครับ จะไม่ติดยาแน่นอน...

    ให้คุณพ่อพาแม่ไปเดินเที่ยวเล่นพักผ่อนหย่อนใจ ในที่ที่เขาอยากไป หรือมีความหลังด้วยกันครับ เพราะคุณแม่คุณก็มักจะชอบเล่าแต่เรื่องความหลังครั้งเก่าๆซ้ำแล้วซ้ำเล่า นับครั้งไม่ถ้วนแล้ว...ให้คุณพ่อพาแม่ไป ตุเลง ตุเลง... กินไอติมบ้าง น้ำแข็งไสบ้าง ไปกันสองคน คุณไม่ต้องไปด้วยให้เกะกะ...การเปลี่ยนบรรยากาศจะช่วยให้คุณแม่คุณเครียดน้อยลงครับ...

    กิจกรรมอะไรที่แต่ก่อนคุณแม่คุณชอบ ก็ให้คุณพ่อคุณนี่แหละ พาทำกิจกรรมนั้นๆ เช่นชอบทำขนม ชอบถักนิตติ้ง ชอบปลูกดอกไม้ ดอกกุหลาบ ก็ให้พ่อพาไปให้หมกมุ่นในสิ่งที่ชอบ หรือว่าชอบทำทานก็ให้พ่อพาไปทำทาน ทำไปทานไป หนักๆเข้าก็สบายใจขึ้นได้เอง...อย่างน้อยก็จนกว่าคุณจะคลอดลูกผ่านไปแล้ว 3 เดือน...เนื่องจาก 3 เดือนแรกของทารก จะมีอาการโคลิค คุณจะเหนื่อยเกินกว่าจะไปรับเรื่องกระทบกระเทือนจากแม่ และสามีคุณจะต้องช่วยดูและคุณและลูก โดยให้คุณและลูกอยู่ห่างๆแม่คุณในช่วงนี้ เนื่องจากคุณจะมีอาการซึมเศร้าเกิดขึ้นด้วย ในระยะนี้...

    แม่คุณรักคุณมาก และเกลียดทุกคนที่จะมาแย่งคนที่เขารักไป คุณเองก็ควรอยู่ห่างๆแม่ไว้ก่อน ปล่อยให้คุณพ่อคุณเป็นคนดูแล เพราะแม้ว่าแม่คุณจะรักคุณมาก แต่เวลาเห็นท้องที่ป่องออกมาของคุณมันทำให้นึกถึงสามีคุณ แล้วทำให้ปี๊ดแตกขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้..อยากช่วยให้แม่คุณสบายใจในช่วงนี้ ขอแนะนำให้คุณ อยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ ...เชื่อสิว่า คุณยังมีเวลาดูแลคุณแม่คุณอีกหลายปีครับ ไม่จำเป็นต้องมาเยอะอะไรตอนนี้หรอกครับ...ทำตัวแบบนกไปก่อนดีกว่านะครับ...รู้หลบเป็นปี รู้หลีกเป็นหาง ....

    ผมไม่ใช่หมอผี หมอดู หรือนักจิตวิทยา อะไรใดๆทั้งสิ้น...
    คุณอ่านแล้วก็ลองคิดตามไปด้วย ไม่จำเป็นต้องเชื่อผม และไม่จำเป็นต้องทำตามคำแนะนำของผม...คุณลองนำสิ่งที่ผมเสนอแนะนี้ ไปให้สามีคุณอ่าน แล้วค่อยหารือกัน นำไปปรับใช้ ตัดสินใจร่วมกัน...
    คำแนะนำ มันก็เป็นเพียงแค่คำแนะนำครับ
    เพราะในท้ายที่สุด คนที่จะตัดสินใจว่าจะทำหรือไม่ทำ อย่างไร จะเป็นตัวของคุณเองครับ
    ขอให้โชคดีทั้งสามี ลูก และตัวคุณเอง...
    This too will past....
    แล้วสิ่งนั้นจะผ่านพ้นไป...
    แม้สุข...ก็ต้องผ่านพ้นไป
    แม้ทุกข์...ก็ต้องผ่านพ้นไปด้วยเช่นกัน...

    และตัวคุณ สามี และลูกรัก ก็จะสามารถผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้อย่างดีด้วย เช่นกัน..
    ขอให้โชคดีครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มีนาคม 2015
  2. markdee

    markdee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    745
    ค่าพลัง:
    +1,911
    คุณ raming2555 ตอบได้เหมือนที่ใจอยากบอกคุณ janjae แต่แรกเลย โดนใจจริงๆค่ะ
     
  3. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,275
    ค่าพลัง:
    +82,733
    ขอบพระคุณพี่ระมิงค์มากนะคะ ติงเอาใจช่วยท่านเจ้าของกระทู้มาโดยตลอดค่ะ
    ต้องผ่านไปให้ได้นะคะ ผ่านไปอย่างดีที่สุดค่ะ
     
  4. janjae

    janjae Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2015
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +38
    ขอบพระคุณทุกท่านนะคะ

    ขอขอบพระคุณคุณ raming2555 อย่างสูงด้วยค่ะ สำหรับคำแนะนำที่มีประโยชน์ ดิฉันอ่านและคิดตามด้วยเหตุผล เห็นด้วยกับคุณหลายสิ่งหลายอย่าง

    เพราะเวลานี้ทุกคนในครอบครัวก็ลงความเห็นกันว่า คุณแม่มีปัญหาค่อนข้างหนัก นึกย้อนไปก่อนหน้านี้ไม่ใช่แค่เรื่องของดิฉัน แต่ไม่ว่าจะเรื่องอะไรในครอบครัว หากคุณแม่อยู่ในภาวะที่ควบคุมตนเองไม่ได้ ก็มักจะเกิดเหตุการณ์คล้ายๆเช่นนี้ คือ ไม่ฟังเหตุผลและอัตตาค่อนข้างสูงมาก ใครอยู่ใกล้ต่างก็บ่นว่ามันเหมือนมีกระแสที่อยู่ด้วยแล้วรู้สึกหมดแรงไปด้วย

    ตอนนี้กำลังปรึกษาจะพาคุณแม่ย้ายไปอยู่ต่างที่กับคุณพ่อซักระยะ ซึ่งคุณพ่อเห็นด้วยอยากจะพาไปมากๆ ก็หวังว่าทุกอย่างจะคลี่คลายไปในทางที่ถูกที่ควรค่ะ สิ่งที่ทำได้คือให้เวลาช่วยเยียวยาอีกทาง

    ตอนนี้ก็อย่างที่คุณ raming2555 บอกไว้ว่าทุกสิ่งย่อมผ่านพ้นไป ไม่ว่าทุกข์หรือสุข ดิฉันก็คิดตลอดเวลาว่าความอดทนและพยามยามแก้ไขปัญหาด้วยความตั้งใจดี จะส่งผลดีกลับมาบ้างค่ะ

    ขอให้ทุกท่านที่เมตตาแนะนำและตักเตือน มีความร่มเย็นเป็นสุขนะคะ
     
  5. markdee

    markdee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    745
    ค่าพลัง:
    +1,911
    น้ำตาจะไหล.ยินดีด้วยค่ะ
     
  6. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,189
    ค่าพลัง:
    +20,861
    แนะนำให้แยกบ้านอยู่กับพ่อแม่ นะครับ

    เรื่องแบบนี้เป็นปัญหาโลกแตก แม่ผัว/ลูกสะใภ้ พ่อตา/ลูกเขย อะไรทำนองนี้
    เท่าที่ดูวิเคราะห์ได้ว่าคุณแม่คุณมีอาการทางประสาทจนไม่สามารถแบ่งแยกความผิดชอบชั่วดีได้ บอกให้คุณไปฆ่าลูกตัวเองคนสติดีไม่มีใครทำแบบนั้นลงคอได้หรอก ครับ

    คุณอายุมาถึงเลข 3 แล้ว น่าจะมีงานการเป็นหลักแหล่งมั่นคง
    สามีก็น่าจะรักกันดี อย่าไปแคร์เรื่องอยู่กันก่อนแต่งเลย ครับ เพราะนั่นคือ ชีวิตที่คุณเลือกไว้แล้ว

    งานแต่งเป็นงานทางสังคมฉาบฉวยครับ ลองไปคิดเล่นดูว่ามีคนมาแสดงความยินดีกับเรามากมายในวันนั้น แต่ถ้าชีวิตสมรสล้มเหลวขึ้นมา มีใครมาช่วยเราร้องไห้กับเราหรือเปล่า ไร้สาระทั้งนั้นงานแต่ง

    ทั้งหมดนี้ต้องใช้ความกล้าหาญในการดำเนินชีวิต ตัดสินใจเลือกอย่างฉลาดและถูกต้อง ครับ ลูกคุณคือ อนาคตของครอบครัว อย่าให้บุคคล (แม้ว่าเป็นบุพการี) แต่มีจิตบกพร่องมาทำลายอนาคตของคุณเอง

    ขอย้ำนะครับ การทำแท้งโดยเจตนามีกรรมอย่างสาหัสทันตาเห็น หลายชีวิตย่อยยับในการเป็นอยู่อย่างไม่น่าเชื่อ เห็นมามากมายนับไม่ถ้วน

    ให้กำลังใจและหวังว่าคุณคงคงจะเลือกตัดสินใจได้ถูกทาง นะครับ
    (f)
     
  7. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,993
    คนที่ควรจะขอบคุณ เป็น ครูติง ครับ
    เพราะเป็นคนที่ไปตามผมมาที่กระทู้นี้ เพื่อให้คำแนะนำบางประการ
    ซึ่งปกติผมไม่เคยเข้าบอร์ดนี้มาก่อนครับ...

    ส่วนมากผมจะนิยมเขียนแต่เรื่องบ้าๆบอๆ เฮฮา ไร้สาระ...เนื่องเพราะทุกคนมีความเครียดกันมากอยู่แล้ว ไม่อยากจะให้เครียดมากกันเข้าไปอีก...

    ตลอดชีวิตผมดำเนินไปบนเส้นทางของวิกฤติมาตลอด จนกระทั่งผมเสพติดวิกฤติ ดังนั้นแล้วแม้จะมีช่วงเวลาที่ปกติบ้าง สะดวกสบายบ้าง ผมก็จะต้องสมมติสถานการณ์ให้มันวิกฤติอยู่ตลอด เพื่อว่า ถ้ามันเกิดวิกฤติขึ้นจริงๆในภายภาคหน้า ผมจะได้ตั้งสติได้และอยู่กับวิกฤติเหล่านั้นได้ โดยไม่วิกฤติไปด้วย...

    กำลังเขียนบทความสำหรับคนที่คิดจะฆ่าตัวตายอยู่ครับ เขียนได้ตอนนึงแล้ว เขียนยากเลย เพราะหลายคนหลายความคิดหลายทัศนคติ หลากหลายประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมา ต่างฑิฐิ สิ่งแวดล้อมก็แตกต่างกัน จะค่อยๆเขียนออกมาครับ เผื่อว่าจะช่วยชีวิตใครได้สัก คนครึ่งคน ก็ถือว่าคุ้มค่ากับแรงกายแรงใจที่ทุ่มเทให้ไป เพื่อพวกพ้องน้องพี่ มวลหมู่มนุษย์ชาติ ที่เกิดมามีวิบากร่วมกัน จะได้มีชีวิตอยู่บำเพ็ญบารมีกันต่อไป...
    เขียนเสร็จเมื่อไรจะมาเผยแพร่ให้พิจารณากันครับ
     
  8. janjae

    janjae Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2015
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +38
    ขอบพระคุณมากนะคะ
     
  9. janjae

    janjae Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2015
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +38
    ขอบพระคุณอีกครั้งค่ะ และขอบพระคุณคุณติงติงอย่างสูงอีกครั้งนะคะ คุณติงติงกรุณาให้กำลังใจดิฉันทั้งทางกระทู้และทางกล่องข้อความ รู้สึกซาบซึ้งใจกับไมตรีที่มอบให้และทำให้มีกำลังใจในการสู้กับวิกฤติในชีวิตขึ้นอีกเยอะเลยค่ะ
     
  10. pim_jai

    pim_jai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    305
    ค่าพลัง:
    +568
    แนะนำให้เก็บเด็กไว้ค่ะ ไม่ทำแท้ง แยกไปอยู่กับสามีค่ะ แล้วมาเยี่ยมมาดูแลพ่อแม่เป็นระยะๆ แม่ของคุณjanjae อาจจะยังรับความจริงไม่ได้ โกรธแค้นสามีคุณที่ทำให้เสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูล ถึงกับคิดทำลายหลานทำลายสามีคุณ แสดงว่าแม่คุณไม่รักไม่มีความเมตตาคนอื่นอันได้แก่ตัวคุณจขกท สามี ลูก ไม่เมตตาตัวเองด้วย หลงผิดว่าการทำลายชีวิตคนอื่นเป็นสิ่งที่ดี รักตัวเองในทางที่ผิด ไม่กลัวบาปกรรม ไม่กลัวผลของการกระทำ
    แล้วคุณจขกท. ยังจะคิดทำลายลูกตัวเองรึเปล่า คนที่คิดฆ่าลูกตัวเองไม่สมควรเรียกว่ามนุษย์ เพราะมนุษย์เป็นผู้มีใจสูง รักตัวเองรักผู้อื่นเสมอตน ไม่คิดเบียดเบียนผู้อื่น. ขนาดหมามันยังรักลูกตัวเองไม่คิดฆ่าลูกตัวเองเลย ดิฉันหวังว่าคุณจะคิดได้ รักลูกตัวเอง รักตัวเอง ไม่เบียดเบียนทำลายชีวิตลูกเพียงเพราะเห็นแก่หน้าตาของวงศ์ตระกูล เห็นแก่ความต้องการของคนบางคนจนลืมนึกถึงความผิดชอบชั่วดีนะคะ. เรื่องความทุกข์ใจของแม่ก็คือความทุกข์ของเขาที่มีความเห็นผิด มีจิตใจเศร้าหมอง เราอธิบายให้แม่ฟังได้เรื่องบาปบุญคุณโทษ แต่ถ้าท่านไม่เข้าใจก็คงต้องอุเบกขา ให้คิดไว้ว่าทำดีที่สุดแล้ว เรื่องของจิตใจความทุกข์ของบุคคลก็เป็นหน้าที่ของเขาต้องไปปัดเป่าคลายความทุกข์ของเขาเอง เรามีหน้าที่แค่ทำดีละเว้นชั่ว กตัญญูไม่ได้หมายความว่าเราต้องทำชั่วเพื่อตามใจแม่ มันไม่ใช่...เรื่องบุญคุณก็ส่วนบุญคุณ เราต้องรู้คุณทำดีตอบแทน เรื่องของศีลก็อีกเรื่องนึง พระไม่ได้สอนให้เราฆ่าสัตว์เพื่อทำให้แม่สบายใจ พระพุทธเจ้าและพระอริยสงฆ์ท่านสอนให้เราเป็นคนมีศีล5 ไม่ฆ่าสัตว์ ถ้าเรารักและเคารพในพระรัตนตรัยจริงเราต้องเข้มแข็งมั่นคงกับความดีที่เราทำไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่ว่าจะมีโลกธรรม8แค่ไหนเราก็อดทนทำความดีละเว้นความชั่วต่อไปค่ะ

    ส่วนเรื่องการไปพบจิตแพทย์ก็เป็นสิ่งที่ดี แพทย์จะให้ยาคลายเครียด ทำให้อารมณ์ดีขึ้น แนะนำข้อดีข้อเสียของการเก็บเด็กหรือทำแท้งให้คุณไปตัดสินใจเอง ควรไปพบนักจิตวิทยาด้วยเพื่อให้แม่คุณได้พูดคุยระบายความคับข้องใจ อาจจะทำให้อะไรๆดีขึ้นค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 พฤษภาคม 2015
  11. คะนึง

    คะนึง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    178
    ค่าพลัง:
    +402
    ขออนุโมทนาคะกับท่านเจ้าของกระทู้นะคะ ที่ยังมีความยับยั้งชั่งใจ ไม่ตัดสินใจในสิ่ง
    ที่ผิดพลาด ยังรักษาลูกไว้ และความกตัญญูที่มีต่อบุพการี มีความรักและเห็นใจ
    ในความทุกข์ของบุพการี อยากให้ทุกฝ่ายมีความสุขและต้องการให้เรื่องราวนี้ผ่านพ้น
    ไปด้วยดี ขอให้สมปราถนาคะ

    ขออนุโมทนาคะกับทุกคำแนะนำที่มีประโยชน์ ที่มีความรักเมตตาและปราถนาดี
    กับเจ้าของกระทู้คะ ทุกข้อคิดให้กำลังใจ และ ปราถนาให้ท่านนั้นผ่านอุปสรรคไปด้วยดี

    สิ่งนี้อาจเป็นข้อคิดในอีกมุมหนึ่งคะ เผื่อเป็นทางเลือกเพื่อพิจารณานะคะ

    เราทุกคนต่างมีกรรมเป็นเผ่าพันธ์ การมาเจอกันการมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกัน
    นั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ การที่อยู่ดี ๆ แล้วคนเราจะรักกัน หรือ เกลียดกัน
    โดยแค่เพียงเห็นหน้า โดยที่ยังไม่ได้สิ่งที่ไม่ดีให้แก่กัน หรือ ไม่รู้เหตุเกลียดกัน
    เพราะอะไร เมื่อสาวหาเหตุปัจจุบันไม่ได้ ก็ให้คิดว่า คือ กรรมที่เกิดจากอดีตชาติ
    ที่ผ่านมา

    อาทิเช่น เมื่อชาติที่แล้ว ทั้งคุณแม่คุณและแฟนคุณ เคยทำกรรมร่วมกันมา
    อันเป็นเหตุให้มีความอาฆาตพยาบาทต่อแฟนคุณ เนื่องจากคุณเป็นเหตุสำคัญ
    เพราะมีความรักให้กับคุณมาก ความรักก็เป็นห่วงจองจำให้เกิดมามีสัมพันธ์
    เป็นคนในครอบครัวเดียวกันอีก ความโกรธพยาบาทนั้นไม่หายไปจากใจ
    พอมาเจอกันความรู้สึกก็ยังเหมือนเดิม แต่เพียงแค่เปลี่ยนสถานการณ์ เป็นต้น

    เรียกว่าเปลี่ยนภพเปลี่ยนชาติ แต่สัญญาความทรงจำในจิตยังไม่เปลี่ยน
    อันมาจากโพสของคุณที่ลงไว้ว่าท่านมีความอาฆาตแฟนของคุณ และจิต
    ของแม่ของคุณแรง เมื่อใครอยู่ใกล้จะรู้สึกว่าเหนื่อย นั่นคือ แรงอาฆาต
    พยาบาทของจิตคะ เมื่อเจอเหตุให้ทำใจยอมรับไม่ได้ ประกอบกับขาดสติ
    ควบคุมความคิดไม่ได้ ฟุ้งซ่าน ทำให้ท่านคิดผิด และทำให้คุณอยากพาแม่
    ให้ไปพบหมอจิตเวชนะคะ

    อีกวิธีหนึ่งที่พอบรรเทาและช่วยได้หากได้ทำในหลายวิธีที่ท่านอื่นแนะนำแล้ว
    คือ ให้คุณและแฟนคุณ ทำบุญอุทิศให้ท่านมีความสุข และแผ่เมตตา ขออโหสิกรรม
    โดยเฉพาะแฟนของคุณ ถ้าทำได้บ่อย ๆ เสมอ ๆ ได้ยิ่งดี เพื่อกรรมที่มีต่อกัน
    จะได้เบาบางลง ต้องทำออกมาจากใจ ด้วยใจจริงเท่านั้น ผลแห่งบุญที่ได้ทำนี้
    จะทำให้คุณแม่คุณดีขึ้น ความเกลียดจะลดลง และกรรมที่เป็นผลอย่างนี้
    ชาติหน้าก็ไม่ต้องเกิดซ้ำอีก เป็นผลดีแก่ทุกฝ่าย

    และคุณต้องรักแม่อย่างมีเหตุผล อย่าตามใจท่านไปในทางที่ผิด ถ้าขัดใจได้
    ถ่ามีเหตุผลทีดีกว่าก็ควรขัดบ้าง เพื่อไม่ให้ท่านติดคุณจนเกินไป และ
    คอยดูแลท่านอยู่ห่าง ๆ สักพักท่านคงคิดได้ และความที่มีคุณพ่อของคุณ
    เป็นกำลังใจ ประกอบกับ การขออภัยให้อภัย ขออโหสิกรรมกันด้วยใจจริง
    ผลให้ทำรับรู้ความรู้สึกและความเมตตาปราถนาดีของแฟนคุณ ท่านจะรับรู้
    ความรู้สึกได้ หากกรรมของแม่ท่านไม่หนักจริง อาจจะเป็นส่วนหนึ่ง
    ที่ทำให้เรื่องอาจคลี่คลายไปในอนาคตได้คะ ไหน ๆ เราก็เป็นครอบครัว
    เดียวกันแล้ว หากเป็นไปได้การอยู่กันพร้อมเพรียงกัน ดีกว่าต่างคนต่างอยู่
    และปั้นปลายชีวิตของท่านเราได้ตอบแทนท่าน ทำให้ท่านมีความสุขในบั้นปลาย
    ของชีวิตนะคะ
     
  12. ทะเล้น

    ทะเล้น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +208
    ป่านนี้คงท้องโตแล้วเนาะ ดูแลให้ดีๆ เขาคือสิ่งที่เรียกว่าความรักของพ่อและแม่ เป็นสิ่งที่มีค่า

    ถ้าหากย้ายออกจากบ้านได้ก็ย้าย ค่าเช่าหอคงไม่เกินเดือนละ 2000-3000 บางที่ 1000-1800 บาท

    จากที่อ่านๆดูคือปัญหาอยู่ที่แม่คุณอายคน และไม่พอใจที่คุณดับสามีไม่ทำตามประเพณี เพราะลูกจดทะเบียนโดยไม่แต่งงาน สามีคุณเป็นคนดีก็ถือว่าายังผิดศีลข้อกาเมอยู่ เพราะไม่เป็นที่ยอมรับของพ่อแม่ ถ้าหากยังไม่ได้ผูกแขนขอขมาพ่อแม่ ก็ให้ทำเสีย หาเงินไว้สักหมื่นนึงแล้วก็จัดบายสีขันธ์ ๕ ไข่ต้ม ขนมทองหยิบทองหยอด ข้าวต้มมัด ไปขอขมาพ่อกับแม่

    แต่ถ้าได้ทำมาแล้ว ก็ถือว่าเราทำสำเร็จถูกต้องตามคลองธรรมแล้ว ถ้าแม่มีปัญหาทางจิต ก็ต้องแก้ไขที่เรา คือหลีกออกมาไปอาศัยที่อื่นจนกว่าลูกจะคลอดและโตพอประมาณสัก 3 ขวบขึ้นไป ถ้าจิตท่านไม่ดีท่านบอกตัดลูกตัดแม่ ก็ต้องยอมไปก่อนเพื่อรักษาชีวิตเด็ก หากถูกทำร้ายมากๆเด็กอาจพิการหรือแท้งได้ แล้วค่อยไปขอขมาท่านภายหลัง การทำอย่างนี้เราไม่ได้มีเจตนาหมายที่จะทำร้ายท่าน แต่ทำเพื่อไม่ให้ตัวท่านเองไปทำร้ายใครให้เกิดกรรมหนักแก่ท่านเอง

    แต่ถ้าแม้มีสภาพจิตปกติ ก็ต้องพูดให้ท่านยอมรับความจริงในสิ่งที่เกิดขึ้น การยอมรับความจริงนี้ทำให้แม่คุณละโทสะได้บ้าง พยามพูดเกลี้ยกล่อมแต่ต้องพูดในขณะที่สามีและพ่อคุณอยู่เพื่อป้องกันการขาดสติของแม่คุณ ชีวิต ชีวิตนึงหากแม่คุณคิดที่จะฆ่านั้นมันกรรมหนัก คนเป็นสัตว์ที่ประเสริฐกว่าสัตว์จะมาทำเล่นไม่ได้ ลองให้แม่คุณคิดดูว่า หากมีคนคอยจ้องประทุษร้ายแม่คุณแม่คุณจะชอบไหมมีความสุขไหม หากมีคนจ้องแต่จะฆ่าเพราะเกลียด เพราะไม่ชอบ แม้คุณจะมีความสุขรึไม่ (โดยเฉพาะชีวิตนั้นคือเลือดเนื้อเชื้อไขของท่านเอง และ บางคราเด็กคนนี้อาจจะเป้นคนที่คอยเอาใจใส่ดูแลเลี้ยงดูท่านด้วยซ้ำเมื่อท่านชรามากแล้ว) หากท่านรู้ว่ามันทรมานไม่มีสุขก็ขอให้ยอมรับมันและปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ ไม่มีสิ่งไรๆที่เราจะพไปบังคับมันได้แม้แต่แม่คุณจะบังคับตนเองไม่ให้โกรธ ก็ไม่ได้ใช่หรือไม่ ฉันใดก็ฉันนั้น แม่ก็ไม่อาจจะบังคับสิ่งใดๆในโลกนี้ให้เป็นไปตามที่ใจปารถนาได้ทั้งหมด ให้แม่ยอมรับความจริงและละความปารถนานั้นๆไปเสีย (ตอนนี้ก็ผ่านมานานแล้วคิดว่าท่านน่าจะปลงๆได้บ้างนะครับ) แต่หากทำถึงที่สุดแล้วนอกจากหนีออกมาก็ไม่มีทางใดแก้ได้ครับ ให้ทำใจไว้ว่าเราหลบออกมาไม่ใช่เพื่อทำร้ายเนรคุณพ่อแม่ แต่ทำเพื่อลูก เพื่อสามี ไม่ให้ถูกทำร้าย และที่สำคัญที่สุด เพื่อไม่ให้ท่านเป็นฆาตรกร บางครั้งแม้ลูกคุณโตขึ้นหากยังเด็กมากนักแต่แม่คุณเกลียดลูกคุณ ลูกคุณก็อาจจะถูกทำร้ายก็ได้เพราะมีข่าวให้เห็นบ่อยๆ ดังนั้นการหลบออกมา รอจนลูกโตพอจะดูแลตนเองได้แล้วค่อยกลับไปหาท่าน พาลูกไปไหว้ขอขมาท่าน

    สุดท้ายนี้ผมคงทำอะไรไม่ได้มาก นอกจากจะขอให้ด้วยอำนาจแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย บุญใดก็ตามที่ผมได้ทำมาดีแล้ว ด้วยกาย วาจา ใจ บุญที่ได้เผยแพร่พระพุทธศาสนา ที่ผมได้มีศีลอันงามที่ทำด้วยใจกุศลตามที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนแล้ว มีทานอันประเสริฐที่ให้แก่พระอรหันต์แล้ว และ ภาวนาอันเป็นสัมมาเหล่าใดนั้นแล้ว และบุญใดก็ตามที่เคยได้ใช้ธรรมทานหรืออามิสทานเพื่อช่วยเหลือคนที่ทุกข์ได้เป็นปัจจัยช่วยเหลือให้เขาพ้นทุกข์บ้างแล้วนั้น ด้วยเกชแห่งบุญนั้นขอจงส่งผลให้แม่คุณ พ่อคุณ ตัวคุณ ลูกคุณ สามีคุณ ได้ถึงซึ่งอภัยทานแก่กัน ยินดีในอิสระสุขซึ่งกันและกัน เว้นซึ่งการผูกเวรโกรธแค้นซึ่งกันและกัน เว้นจากการเบียดเบียนทำร้ายหมายจะให้กันและกันถึงซึ่งความฉิบหาย มีจิตเอ็นดูปารถนาดี เอื้อเฟื้อต่อกัน ให้เรื่องร้ายเหล่านี้จบลงไปได้ด้วยดี ขอให้ครอบครัวคุณหมดเวรกรรมซึ่งกันและกันอยู่ด้วยกันอย่างสันติ

    สาธุ สาธุ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 13 กรกฎาคม 2015
  13. fernchanikan

    fernchanikan สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2016
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0

แชร์หน้านี้

Loading...