เรามาเล่าประสบการณ์ของเรากับพระเครื่องกันเถอะ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย newhatyai, 8 ตุลาคม 2007.

  1. newhatyai

    newhatyai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,768
    ค่าพลัง:
    +6,203
    อันนี้ผมก็อปมา แต่ของผมก็มีครับประสบการณ์แต่ตอนั้นผมไม่อยู่ ครับผมจึงไม่ค่อยรู้ครับ
    เรื่องแรกเรย

    พ่อท่านฮกผงกระดูกผี 108 ป่าช้า
    [​IMG]
    พุทธลักษณะ เป้นพระพุทธเจ้ายืนประทานพร ถอดแบบมาจากพระยี่สิบศตวรรษ
    เนื้อ หาสาระที่เป็นเนื้อผงกระดูกผี 108 ป่าช้า ป่าช้าละ 4 ศพ ตายวันเสาร์เผาวันอังคาร
    ที่มา ของคำว่า พระเพิ่มประชากรหลวงพ่อฮกกล่าวว่า ประชากรใน ต.ห้วยลึก มันน้อยจังหูจึงคิดว่าน่าจะให้ผู้คนทั่วไป มีเพื่อนๆ ยามเหงาแบบว่าเวลาอยุ่คนเดียว ก็อาจจะมีเพื่อนหลายๆท่าน อยู่เป็นเพื่อนคลายเหงาที่กล่าวมานี้ผู้ที่อยุ่คนเดียวอันที่จริงนะมันเหงาเหมือนเดิม แต่คนที่เดินผ่านไปมารู้สึก "อบอุ่น" เพราะเห็นว่าเพื่อนนั่งอยุ่ระเบียงบ้าน พรรคพวกแยะเต็มบ้านไปหมด เดินบ้าง นั่งบ้างทำให้เพื่อนใกล้เคียงพลอยอิจฉาตะหงิดๆ นี่เป็นเพียงเรื่องราวเบื้องต้น.
    พ่อท่านฮก เน้นเพิ่มประชากรด้วยวิชาอาคมที่แก่กล้าของพ่อท่านฮก ท่านสามารถ "สะกดวิญญาณ" ด้วยพระคาถาอาคม ทำให้วิญญาณที่เชื่อว่า "เฮี้ยน" เป็นวิญญาณที่มีฤทธิ์ในด้านเมตตามหานิยม และสุดยอดของการแคล้วคลาดสามารถแสดงฤทธิ์ในหลายหลายวิธีของการเสริมสร้างบารมีทำให้ดวงวิญญาณเหล่านั้นสามารถสร้างบารมีและโอกาสไป "จุติ" ของในอีกภพภูมิของวิญญาณแต่ละดวงนั่นเอง เรื่องของการเพิ่มประชากรอย่างไม่เป้นทางการนี้ สร้างความฮือฮาให้กับเพื่อนๆ ที่ได้ประสบพบกับตนเอง ความเข้มขลังเริ่มกระฉ่อนไปทั่วประเทศ ยิ่งเป็นประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ นับว่าสมัยนั้นนับถือแบบชนิดที่ว่า สุดขั่วหัวใจเลยที่เดียว เห็นคนเต็มบ้าน จากคำบอกเล่าของ ร.ต.อ. วิทูร บุรานนท์ <ในยุคนั้น ปัจจุบันยศและตำแหน่งสูงขึ้นขออนุญาตเอ่ยนาม> ได้แวะไปที่วัดท่าข้าม เพื่อขอพระผงปาฏิหาริย์ จาก หลวงพ่อฮก ที่ อ.รัตภูมิ หลังจากที่ได้รับพระแล้ว ก็นำพระผงปาฏิหาริย์ จากหลวงพ่อฮกตั่งไว้บนหิ้งพระภายในบ้านพัก มีอยู่วันหนึ่งตนเองต้องเดินทางไปทำธุระยังต่างจังหวัดหลายวัน หลังจากที่ทำธุระต่างจังหวัดเสร็จ ก็กลับบ้านพัก ได้มีลูกน้องเข้ามาทักว่า "ผู้กองให้ใครมาอยู่บ้านหรือ เห็นอยู่เต็มบ้านเลย" คำพูดนี้ทำให้ ร.ต.อ. วิทูร บุรานนท์ อึ้งไปพักใหญ่ ก็ได้แต่ยิ้มๆ ลูกน้องก็ไม่ได้พูดอะไร ณ.เวลานั้น ร.ต.อ. วิทุร ฯ ก็ถามตัวเองว่ามันเกิดอะไรขึ้นการแน่ ทำไมคนถึงเต้มบ้านพัก แล้วอยู่ๆ ลูกน้องก็มาทัก ก็ไม่ใช่คนเดียวกลับมีหลายคยบางคนนึกว่ามีงานเลี้ยงด้วยซ้ำไป ว่าแล้วงานนี้คงไม่พ้นพระผงปาฏิทาริย์พ่อท่านฮก เป็นแน่แท้นึกแล้วขนหัวลุก
    มีเพื่อนร่วมเดินทาง มีอยู่ครั้งหนึ่ง ร.ต.อ. วิทูร ฯ นึกอยากจะไปกราบหลวงพ่อฮก จึงได้ขับรถยนต์จาก อ.นาทวี จ.สงขลา เพื่อไปหาหลวงพ่อฮก วัดท่าข้าม อ.รัตภูมิ จ.สงขลา พอถึงเขต อ.รัตภูมิ ก็ค่ำมืดพอดีตนเองจำหนทางไม่ค่อยได้เพราะไม่ค่อยคุ้นเคยกับพื้นที่ จึงได้จอดรถสอบถามชาวบ้านที่เดินอยู่ริมถนน ลุงทางไปวัดท่าข้ามไปทางนี้ใช่ไหม เสียงคุณลุงกับคุณป้า ตอบพร้อมกันว่าให้ขับรถขึ้นตรงแล้วเลี้ยวขวาตรงไป แต่เสียงคุณลุงคุณป้าหยุดนิดหนึ่งพร้อมพูดต่อว่ามันมืดแล้วไม่น่าจะเข้าไป พร้อมกับเหลือบมองภายในรถยนต์กระบะ แล้วพูดว่า เอาต๊ะไม่พรื่อมาหลายคน คำพูดของชาวบ้านที่พูดภาษาถิ่น <ภาษาใต้> แบบห้วนๆ สร้างความตกตลึง ซึ่ง ร.ต.อ.วิทูร ฯ ขับรถยนต์มาเพียงคนเดียว แต่ทำไมชาวบ้านถึงเห็นว่ามีคนนั่งหลายคนในรถนั่น ต้องเป็นเพราะมีพระผงกระดูกหลวงพ่อฮก อย่างแน่นอน

    แคล้วคลาด
    ร.ต.อ.วิทูร ฯ ได้เล่าให้งฟังว่าตนเองได้ขับรถยนต์กระบะ บรรทุกไข่ไก่มาเต็มคันรถ ในขณะที่กำลังขับรถกระบะอยู่เพลินๆ ทันใดมีรถบรรทุกสิบล้อ ขับแซงเต็มถนน ทำให้ผมตกใจมากกระทืบเบรคเต็มที่ ทำให้รถยนต์กระบะเสียการทรงตัวรถหมุนคว้างไป 4-5 รอบคุณพระช่วย เหตุการณ์ในครั้งนั้นผมกะว่ารถต้องไปฟาดกับรถบรรทุก 10 ล้อ อย่างแน่นอน แต่แล้วเหลือเชื่อปาฏิหาริย์มีจริง รถผมลงข้างทางไม่พลิกคว่ำและไม่ไปกระแทกกับรถบรรทุกแต่อย่างใด รอดมาได้อย่างหวุดหวิดจริงๆ ท่ามกลางความเงียบในขณะที่รถหยุดนิ่งอยู่กับที่ ภรรยาที่นั่งมาด้วยพูดว่า "พี่ไข่แตกหมดหรือปล่าวคะพี่" ผมเองงงกับคำถามที่ภรรยาผมถามแทนที่จะห่วงชีวิตกลับไปถาม ไข่ไก่แตกหมดหรือปล่าว ผมเองโกรธก็โกรธ ขำก็ขำ แต่หัวเราะไม่ออก
    สำหรับเรื่องราวปาฏิหาริย์ของหลวงพ่อฮก วัดท่าข้ามที่สร้างด้วยกระดูกผี 108 ป่าช้า นั้นมีอีกมากมายแต่จะบอกชี้แนะให้ทุกๆ ท่านได้ทราบว่า กระดูกผีที่ได้นำมาสร้างเป็นพระเครื่องนั้น มีความ "เฮี้ยน" จริงๆวิญญาณที่ต้องการสร้างบุญสร้างกุศล มีมากมาย ณ.จุดนี้เองหากว่าเรามีโอกาสก็อยากจะให้ผู้ที่ครอบครอง พระผงกระดูกผีหลวงพ่อฮก ทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลไปให้กับกระดูกผีหลวงพ่อฮก ได้นำมาสร้างเป็นพระถือว่าเป็นการสร้างบารมี อีกทางหนึ่งเช่นกัน
    พระผงหลวงพ่อฮก เป็นพระเครื่องที่น่าแขวนนำติดกายอยากได้สิ่งใดให้ตั่งจิตอธิษฐานพร้อมภาวนาคาถา "พุทธานิมิตตัง" 3 จบ ส่วนใหญ่มักจะประสบความสำเร็จ...............
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ตุลาคม 2007
  2. เงาใจ

    เงาใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +1,214
    ผม ขอเล่า ประสปการณ์ เรื่องการ จับพระ แล้วเพ่ง จิต ไว้ที่ องค์พระครับ มันเป็นการบังเอิญ รึ บุญเก่า ของผม ไม่ทราบ ครับ ขณะเพ่งอยู่ใน องค์พระท่านครับ มือ ผมสั่นครับ กึกๆๆๆ นานพอควรๆ และ ต่อมา จิตเราจะ อยู่ ในห้วงอะไร สักอย่างครับ หมุนครับ ... วืดๆๆๆๆๆ.... และใจเรา มีความสุขๆๆๆๆๆ...มากๆๆๆๆๆๆๆบอกไม่ถูกครับ เหมือน น้ำตาไหลๆๆๆๆ ออกมาเยอะมากๆๆๆๆๆๆ อยากอยู่อย่างนี้ ... ตลอดชีวิต ครับ.. แต่ทำไงได้... โลก.. เรา. มันไม่เที่ยง จ๊ะ หลังจากออกจาก น้ำตาร่วงๆๆๆๆๆ และจิต หมุนๆๆๆ แล้ว มาสู่โลก ปัจจุบัน เห็น คน ในโลก... สงสาร ไปหมด ครับ ไม่รู้ๆ ความรู้สึก เกิดขึ้นได้ยังไง และหลังจาก นั้น... ผมก็เดิน... ตามรอยพระพุทธเจ้า ครับ การเพ่งพระ เป็นทาง เข้าสู่ สมรภูมิรบ ของชีวิต... อีกทางครับ .... เหตุการณ์ เกิดขึ้นจริงๆๆ ครับ
    ปัจุบันผมก็ทำจริง ตามความรู้สึกๆ ตอนนั้น ช่วยตัวเอง. ช่วยสังคม. ช่วยมนุษย์โลกครับ นั้น คือ อุดมการณ์ อันยิ่งใหญ่... สำหรับผมครับ ขอฝากผู้ที่ยัง ไม่ตื่นคับ...ปัญญา โลกัสมิง ชาคะโร ปัญญาเป็นเครื่องตื่น ในโลกครับ

    ขอบคุณครับ ที่ เสียเวลาอ่านครับ
     
  3. newhatyai

    newhatyai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,768
    ค่าพลัง:
    +6,203
    ขอบคุณครับ
    แหม มีบาลีมาด้วยน่ะครับ
     
  4. ชายเสรี

    ชายเสรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    394
    ค่าพลัง:
    +1,950
    ผมขอเล่าประสบการณ์พระคำข้าว หลวงพ่อฤาษีนะครับ
    ประมาณปี 2542 ( ถ้าจำไม่ผิดนะครับ ) ผมทำงานในบริษัทต่างชาติแห่งหนึ่ง เวลานั้นมีการติดตั้งเครื่องจักรใหม่ โดยที่ผมรับหน้าที่เป็นผู้ตรวจสอบการติดตั้ง ขณะนั้นเวลาประมาณบ่าย 2 โมง ผมสังเกตุเห็นน็อตยึดฐานของแท่นเครื่องตัวหนึ่งขันไม่สุดเกลียว ผมจึงถือประแจเข้าไปตรวจสอบและขันอีกครั้ง โดยที่ไม่ได้ระวัง มีเพื่อนผมยืนอยู่ด้านหลัง 3 คน สักครู่ผมรู้สึกเหมือนมีอะไรมากระทบที่ศรีษะ พร้อมกับเสียงดัง เคร้ง!!! ตามมา เพื่อนผมที่อยู่ด้านหลังร้องเสียงกันดัง ผมก็งงๆว่า มันร้องอะไรกัน เพราะตอนนั้นผมนั่งยองๆเพื่อขันน็อตอยู่
    พอผมหันกลับมามองที่พื้นก็พบกับ แท่นเหล็กขนาดกว้างประมาณ 7 นิ้ว ยาวประมาณ 20 นิ้ว หนาประมาณ 1.5 เซ็นต์ กองอยู่ที่พื้นแล้วก็มีฝรั่งคนนึงที่ทำหน้าที่ติดตั้งเครื่อง โดดลงมาจากคานเหนือศรีษะผม พร้อมกับเข้ามาจับคลำที่ศรีษะผมเป็นการใหญ่ ผมก็งง ก็เลยหันไปถามเพื่อน เพื่อนเลยเล่าให้ฟังว่า ฝรั่งคนนั้นกำลังขันน็อตล็อคแผ่นเหล็กตรงคาน เหนือตรงที่ผมนั่งอยู่ แล้วเขาก็ทำแผ่นเหล็กหลุดมือ ร่วงลงมาตรงศรีษะผมพอดี ลักษณะการร่วงจะร่วงลงมาเป็นแนวตรงลงมาที่ศรีษะผมพอดี แต่ปรากฏว่าพอใกล้จะถึงศรีษะผม กลับเบนออกเหมือนมีใครมาปัดออก แต่ก็โดนศรีษะผมอยู่ดีตรงปลายๆ แต่ผมไม่รู้สึกเจ็บอะไรและไม่มีอะไรบาดเจ็บเสียหายแม้แต่น้อย เพื่อนผมทั้ง 3 คนพูดยืนยันเหมือนกันหมด ทั้งเนื้อทั้งตัวผมห้อยพระคำข้าวอยู่องค์เดียว
    ฝรั่งคนนั้นเรียกผมว่า Lucky boy พร้อมกับหัวเราะอย่างโล่งอก เพราะถ้ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นนี่ ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่มากๆครับ
    ขอยืนยันเรื่องดังกล่าวข้างต้นเป็นความจริงทุกประการ แต่เรื่องเวลาและขนาดของเหล็กอาจคลาดเคลื่อนเล็กน้อยนะครับ เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นมานานแล้วครับ
     
  5. พรหมาวตาร

    พรหมาวตาร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    99
    ค่าพลัง:
    +66
    พระราหูกะลาตาเดียว

    ผมเป็นคนที่ชอบพระเครื่องมาแต่เด็กแล้วครับ ตอนเด็กพ่อให้แขวนหลวงพ่อเกษม เขมโก พอโตขึ้นเป็นวัยรุ่น ผมก็เสาะหาพระมาแขวนเอง ส่วนมากเป็นพวกเครื่องรางของขลังครับ ที่ลำปางมนอกจากพระของหลวงพ่อเกษม ที่ดังแล้ว ด้านเครื่องรางของขลังก็เป็นของสำนักวัดทุ่งม่านใต้ น่ะครับ สำนักนี้เป็นที่ทราบกันดีว่าเด่นเรื่องคงกระพันและกันเขี้ยวงา รวมถึงป้องกันภัยจากอาวุธครับ ที่หาๆกันและขึ้นชื่อก็จะเป็นเหรียญครูบานันตา และกะลาพระราหู ดังนั้นถ้าอยากได้ของแท้ก็ต้องไปถึงวัดกันเลย
    และเพราะช่วงวัยรุ่นผมเรียนสายช่างจึงต้องหาของประเภทนี้ไว้ติดตัวครับ ผมไปถึงที่วัดเลยเพื่อไปหาเครื่องรางของขลังจากวัด เพราะบ้านผมอยู่ในอำเภอเดียวกับวัดทุ่งม่านใต้ ที่วัดสมัยผมเรียนยังไม่มีอะไรมาก ตอนที่ไปครั้งแรกพอผมไปถามกะลาราหูของครูบานันตา ที่วัดบอกว่าองที่ครูบานันตาสร้างตอนนี้ไม่มีเหลือที่วัดเลย เพราะครูบาท่านละสังขารไปตั้งแต่ปี พ.ศ. 2500 กว่าๆนู้นแล้ว แต่ยังมีหวังเณรบอกว่า แต่ก็พอรู้ว่ายังมีศิษย์ของสำนักนี้ที่ยังสืบสายวิชาของสำนักอยู่ท่านหนึ่งคือ หลวงปู่เลิศ
    ผมจึงไปที่หอระฆัง ที่ที่หลวงปู่ท่านจำพรรษาอยู่ ผมก็ไปขอท่านเลยท่านหยิบให้คู่หนึ่งเป็นพระราหูทำจากกะลาตาเดียวแกะด้วยมือของท่านเอง ท่านเอาใส่มือและประสาทให้ระบุกำกับชื่อผมด้วย แบบให้กันเฉพาะตัวเลย ผมได้มาก็ใส่ตลับแขวน ประสบการณ์ก็เริ่มตรงที่ หลังจากได้พระราหูกะลามาแล้วมีอยูว่าตอนนั้นเป็นวันงานกีฬาสี หลังเชียร์เสร็จก็นัดกันไปกินที่ร้านหมูกระทะ พวกผมมี 5 คน กินเสร็จเกิดเจอคู่อริอีกสถาบัน เท่านั้นแหละของกระจาย ผมโดนไล่ไปจนมุมที่หลังร้านแต่เชื่อไหมว่าแค่เตาลัคกี้เฟรมที่มีชั้นวางของโล่งๆบังตัวผมตัวเดียว แต่พวกนั้นหาผมไม่เจอ มันวนไปวนมาแต่ไม่เห็นผมครับ พอพวกนั้นกลับผมออกมาหาพวก ก็เจอพวกเก่ากรูเข้ามาอีก พอดีลูกสาวเจ้าของร้านวิ่งมาลากแขนผมเข้าห้องเธอไปแบบต่อหน้าพวกนั้นเลย (ไม่ได้รู้จักกับเธอแบบส่วนตัวเลยนะครับ และตอนอยู่ในห้องเธอผมยังขอเบอร์เธอด้วยและก็ยังจีบมาจนเป็นแฟนกันแล้วครับ) และก็พอดีรถตำรวจมาพอดี ผมเลยแคล้วคลาดไปอย่างไม่น่าเชื่อ ในตัวผมมีพระราหูกะลาคู่เดียวจริงๆครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...