เรื่องของหลวงปู่แหวน-หลวงปู่หลุย กับสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ในห้อง 'ในหลวงกับพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย nondanun, 6 เมษายน 2010.

  1. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,611
    [​IMG]

    หลวงปู่แหวน สุจิณโณ
    วัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่

    [​IMG]

    หลวงปู่หลุย จันทสาโร
    วัดถ้ำผาบิ้ง อ.วังสะพุง จ.เลย

    ......................................................................


    เรื่องราวพระอรหันต์ทั้งสอง กับสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ

    พระคุณเจ้าทั้งสองทั้งองค์หลวงปู่แหวน และองค์หลวงปู่หลุย ล้วนแล้วเป็นศิษย์เอกหลวงปู่มั่นทั้งสิ้น ได้อบรมธรรมจากหลวงปู่มั่นมาอย่างเข้มแข็ง ท่านทั้งสองเป็นพระหมดกิเลสแล้วสาธุ

    คัดจากหนังสือชีวประวัติหลวงพ่อทวี จิตฺตคุตฺโต
    วัดอรัญญวิเวก (ป่าลัน)
    ต.ปงน้อย กิ่ง อ.ดอยหลวง จ.เชียงราย


    เรื่องของหลวงปู่หลุย จันทสาโร

    มีอยู่ครั้งหนึ่ง หลวงปู่หลุยท่านได้มาพักที่วัดดอยแม่ปั๋ง กะว่าจะอยู่กับหลวงปู่แหวนไปสักพักนึงก่อน เพราะว่าเป็นคนจังหวัดเลยด้วยกัน พออยู่ต่อมาหลวงปู่หลุยได้ยินข่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จมากราบหลวงปู่แหวน หลวงปู่หลุยได้ยินดังนั้นก็รีบไปอยู่ที่อื่น ไปอยู่ที่อำเภอแม่แตง หลวงปู่หลุยท่านกลัวพูดกับพระราชามหากษัตริย์ไม่เป็น หลวงปู่หลุยท่านพูดว่า "พูดกับพระราชาไม่เป็น นี่คอขาดบาดตายนะเรา เป็นพระป่าพระดงไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไร"

    ท่านพูดเมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จมากราบหลวงปู่แหวนแล้ว หลวงปู่แหวนท่านก็พูดกับในหลวงว่า "ท่านหลุยก็มาอยู่นี่แหละ แต่หนีไปอยู่ที่แม่แตงแล้ว กลัวพูดกับพระราชามหากษัตริย์ไม่เป็น กลัวคอขาดบาดตาย ว่าอย่างนั้น"

    สมเด็จพระราชินีก็พูดออกมาว่า "ไม่เป็นอย่างนั้นดอกพระเจ้าข้า พวกดิฉันไม่ได้ถือยศฐาบรรดาศักดิ์อะไรหรอกเจ้าข้า พูดแบบนี้เป็นกันเองนี้แหละเจ้าข้า" แล้วพระราชินีก็พูดกับหลวงปู่แหวนว่า "เมื่อดิฉันกลับจากที่นี้ไปแล้ว จะไปกราบหลวงปู่หลุยให้ได้ ไม่ต้องกลัวเจ้าข้า"

    ในหลวงท่านเสด็จมากราบหลวงปู่แหวนแต่ละครั้ง ตั้งแต่บ่ายสองโมง จนถึงหนึ่งทุ่มสองทุ่มเป็นประจำ การเสด็จมาวัดดอยแม่ปั๋ง แต่ละครั้ง ถือเป็นการส่วนตัวพระองค์เอง

    ครั้นต่อมาสมเด็จพระราชินีได้ให้ราชเลขาไปตามหาหลวงปู่หลุย ว่าท่านอยู่ที่ไหน ก็ทราบว่าหลวงปู่หลุยท่านไปพักอยู่ที่วัดหลวงปู่ตื้อ หรือว่าวัดพระอาจารย์เปลี่ยน ผู้เขียนก็จำไม่ค่อยได้ สมเด็จพระราชินีก็ได้เสด็จไปกราบหลวงปู่หลุย ตั้งแต่นั้นมาหลวงปู่หลุยก็ได้เข้าๆ ออกๆ อยู่กับพระราชวังตลอดมา ตราบเท่าหลวงปู่หลุยมรณภาพ

    อันนี้คือด้วยพระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อมที่เป็นพระมหากษัตริย์ไทยของเรา ได้เข้าไปถึงประชาชนทุกที่ทุกแห่งหนตำบลใดก็ตาม มีพระเจ้าพระสงฆ์ที่ท่านได้ประพฤติปฏิบัติอยู่ในป่าในเขาที่ไหนๆ ก็ตาม ท่านก็ย่อมเข้าถึงที่ทุกๆ แห่ง


    เรื่องของหลวงปู่แหวน สุจิณโณ

    หลวงปู่แหวนได้ป่วยหนัก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่านได้อาราธนาให้ หลวงปู่แหวนไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเชียงใหม่ ตึกสุจิณฺโณ ในหลวงท่านได้รับเอาหลวงปู่ไว้เป็นคนไข้ของพระองค์เอง จนในวันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ.2528 หลวงปู่แหวนท่านก็ได้ละขันธ์อย่างสงบนิ่ง ในเวลา 21.53 น.

    ข่าวการมรณภาพของหลวงปู่แหวน ซึ่งตรงกับวันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ.2528 ก็ได้ทราบถึงฝ่าละอองธุลีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเราและพระบรม ราชินีนาถ เหมือนกับว่าดินฟ้าถล่มไปทั่วเมืองไทย ในหลวงก็ได้พระราชทานโกศหลวง และรดน้ำอาบศพ ที่สถานพระราชทานปริญญาบัตรแก่นักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่นั้นก็ได้มี บุคคลทั่วทิศานุทิศ ไปเคารพศพหลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ เป็นครั้งสุดท้าย แล้วก็ได้นำศพของหลวงปู่แหวนมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดดอยแม่ปั๋ง ตามเดิม

    สิริอายุหลวงปู่แหวนได้ 99 ปี ในหลวงท่านขออายุหลวงปู่แหวนให้ได้ 120 ปี แต่หลวงปู่ก็พูดกับในหลวงว่า เอาเพียง 99 ปี ก็พอเถอะ มันลำบากผู้อยู่ แล้วก็ได้ 99 ปี ตามที่ว่าเอาไว้จริงๆ อันนี้คือพระผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบตามธรรมวินัยของพระพุทธศาสนาแท้จริง ขอให้พวกเราทุกๆ คน จงนำเอาเป็นตัวอย่างของหลวงปู่แหวนนี้ ไว้สืบทอดพระพุทธศาสนาต่อไป ศาสนาของเราจะได้เจริญรุ่งเรืองสืบต่อไปข้างหน้า



    ที่มา ::
     
  2. Liverpat

    Liverpat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,825
    ค่าพลัง:
    +2,780
    ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
     

แชร์หน้านี้

Loading...