.....เรื่องนายพรานสุนัขชื่อโกกะ.....

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย บ้องแบ้ว, 25 มกราคม 2017.

  1. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,295
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    FB_IMG_1485320257371.jpg


    พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภนายพรานชื่อว่าโกกะ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า

    เช้าวันหนึ่ง นายพรานชื่อโกกะ พร้อมด้วยสุนัขล่าสัตว์ฝูงหนึ่งจะออกไปล่าสัตว์ ได้ไปพบพระภิกษุรูปหนึ่งกำลังเดินสวนทางเข้าเมืองเพื่อจะบิณฑบาต พอเห็นพระภิกษุเท่านั้นนายพรานโกกะก็คิดว่าเป็นลางไม่ดีและพึมพำกับตัวเองว่า “วันนี้เราพบคนกาลกัณณีเข้าแล้ว เห็นทีเที่ยวนี้เราจะไม่ได้สิ่งใดแน่ ๆ” คิดพลางเดินเข้าป่าไป เมื่อนายพรานโกกะเข้าป่าไปก็ไม่ได้อะไรเหมือนที่คิดไว้แต่แรก พอกลับมาเจอพระภิกษุรูปเดียวกันนั้นอีกในขณะที่ท่านเดินกลับวัด ก็ได้เข้าไปต่อว่าต่อขานพระว่า ที่เขาเข้าป่าไปล่าสัตว์แต่ไม่ได้อะไรสักอย่างกลับออกมาเช่นนี้ก็เพราะพระเป็นต้นเหตุ

    นายพรานโกกะจึงส่งสัญญาณให้สุนัขให้เข้ารุมกัดพระ ฝ่ายพระพยายามร้องห้ามแต่นายพรานโกกะก็ไม่ฟังความ พระเห็นท่าไม่ดีก็เลยรีบปีนขึ้นต้นไม้เพื่อให้รอดพ้นจากการถูกรุมกัดของสุนัข นายพรานโกกะได้เดินไปที่ใต้ต้นไม้ต้นนั้น แล้วใช้ลูกธนูทิ่มแทงที่เท้าของพระภิกษุเพื่อให้ลงจากต้นไม้ พระพยายามยกเท้าสลับข้างไปมาเพื่อหนีจากการถูกทิ่มแทงด้วยลูกธนูเป็นพัลวัน จนจีวรพลัดหลุดออกจากายของพระ ตกลงมาคลุมที่ร่างกายของนายพรานโกกะที่ยืนอยู่ใต้ต้นไม้ พวกสุนัขเข้าใจผิดคิดว่าพระตกลงมาจากต้นไม้จึงรุมกันจนคนที่จีวรคลุมตัวอยู่นั้นซึ่งก็คือนายพรานโกกะเสียชีวิตและช่วยกันแทะกินเหลืออยู่เพียงกระดูก

    พอถึงตอนนี้ พระจึงหักกิ่งไม้แห้งกิ่งหนึ่งขว้างสุนัขเหล่านั้น พอพวกสุนัขเห็นพระก็เลยรู้ว่า พวกมันกัดกินเจ้านายของมันเสียแล้ว จึงหลบหนีเข้าป่าไป ส่วนพระเกิดความสงสัยว่า “นายพรานเข้าไปอยู่ในจีวรของเราแล้วถูกสุนัขกัดตายเช่นนี้ ศีลของเราจะด่างพร้อยหรือไม่ ?” พอลงจากต้นไม้ก็เดินทางไปสู่สำนักของพระศาสดา กราบทูลเรื่องราวที่เกิดขึ้น และทูลถามว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อุบาสกนั้น อาศัยจีวรของข้าพระองค์จนเสียชีวิตไปแล้ว ศีลของข้าพระองค์จะด่างพร้อยหรือไม่?” พระศาสดาตรัสตอบว่า “ภิกษุ ศีลของเธอไม่ด่างพร้อย สมณภาพของเธอยังมีอยู่ เขาประทุษร้าย ต่อเธอผู้ไม่ประทุษร้าย จึงถึงความพินาศ

    ทั้งนี้มิใช่แต่ในบัดนี้อย่างเดียวเท่านั้น แม้ในอดีตกาล เขาก็ประทุษร้ายต่อผู้ไม่ประทุษร้ายทั้งหลาย ถึงความพินาศแล้วเหมือนกัน” และได้ทรงนำเรื่องในอดีตมาเล่าว่า นายพรานโกกะผู้นี้ในอดีตชาติเคยเกิดเป็นนายแพทย์ วันหนึ่งเดินตระเวนไปตามหมู่บ้านต่างๆ แต่หาคนไข้รักษาไม่ได้ ถูกความหิวโหยครอบงำ ไปพบพวกเด็กๆกำลังเล่นกันอยู่ที่ประตูบ้านหลังหนึ่ง จึงคิดอุบายจะให้งูกัดเด็กเหล่านั้น จากนั้นตนก็จะทำการรักษาเด็กที่ถูกงูกัดนั้น แล้วนำเงินค่ารักษาไปซื้ออาหารรับประทาน นายแพทย์จึงได้นำงูไปไว้ในโพลงไม้แล้วหลอกพวกเด็กๆว่าในโพลงไม้มีลูกนกสาลิกา เด็กคนหนึ่งหลงกลปีนขึ้นต้นไม้ เอามือล้วงเข้าไปในโพลงไม้ พอรู้ว่าเป็นงูไม่ใช่ลูกนกสาลิกา ได้สลัดงูออกออกจากมือตกลงมาถูกที่ศีรษะของนายแพทย์ซึ่งยืนอยู่ไม่ไกล งูรัดคอของนายแพทย์แล้วกัดอย่างแรงจนนายแพทย์ถึงแก่ความตาย นายแพทย์ ที่เคยประทุษร้ายต่อคนผู้ไม่ประทุษร้ายแล้วถึงความพินาศในครั้งนั้น ก็คือนายโกกะพรานสุนัขในบัดนี้นี่เอง

    เมื่อพระศาสดาทรงนำอดีตนิทานนี้มาเล่าแล้ว จึงตรัสพระธรรมบท พระคาถานี้ว่า
    ผู้ใด ประทุษร้ายต่อนรชน
    ผู้ไม่ประทุษร้าย
    ผู้บริสุทธิ์ ไม่มีกิเลส
    บาปย่อมกลับถึงผู้นั้น
    ซึ่งเป็นคนพาลนั้นเอง
    เหมือนธุลีอันละเอียด
    ที่เขาซัดทวนลมไป ฉะนั้น

    เมื่อพระสัทธรรมเทศนาจบลง ภิกษุนั้น ดำรงอยู่ในพระอรหัตตผล พระธรรมเทศนา ได้มีประโยชน์แม้แก่พุทธบริษัทผู้มาประชุมกัน

    เครดิต เฟสบุ้ค แก้วดารา บารมีธรรม
     

แชร์หน้านี้

Loading...