เรื่องรู้เลยตาย

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย DITCE, 10 เมษายน 2007.

  1. DITCE

    DITCE ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    1,547
    ค่าพลัง:
    +13,037
    เรื่องรู้เลยตาย<O:p</O:p

    ธรรมปฏิบัติเล่ม 12 โดย...หลวงพ่อพระราชพรหมยาน<O:p</O:p
    (พระมหาวีระ ถาวโร)<O:p</O:p
    <O:p</O:p



    ความจริงเรื่องรู้เลยตายหรือรู้ก่อนเกิดนี่ ฉันเองก็ไม่ค่อยอยากจะพูด และไม่อยากจะเชื่อถือนัก เพราะดูแล้วมันเลยธงไม่น้อยเลย<O:p</O:p
    แต่มาอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง คนเขียนๆ เรื่องรู้เลยตายและรู้ก่อนเกิดไว้มากมาย เช่นรู้ว่าเมื่อสิ้นศาสนานี้แล้ว ไฟบรรลัยกัลป์จะไหม้ถึงภควพรหม ดูเรื่องมันมากมายนัก ฉันสงสัยว่ามันไฟอะไรจะดันไปไหม้แม้แต่เทวดาและพรหม ดูมันพิลึกพิลั่นมากมายเกินพอดี<O:p</O:p
    เมื่ออารมณ์สงสัยเกิดขึ้น ฉันก็อดที่จะอยากรู้ตามเป็นจริงไม่ได้<O:p</O:p
    ในที่สุดคือวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2521 ฉันนั่งคุมกรรมฐาน ความสงสัยเรื่องรู้เลยธงเกิดขึ้นมาขวางจิต จึงถามท่านผู้รู้ที่เป็นสัพพัญญูวิสัย ท่านทรงพยากรณ์ให้ทราบดังนี้<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ไฟล้างโลก และสิ้นศาสนา<O:p</O:p

    หลังจากกึ่งพุทธกาลไปไปแล้ว 4000 ปี จะมีไฟล้างโลกล้างแต่มนุษย์เท่านั้น ไม่ลุกลามไปถึงเทวดา<O:p</O:p
    ท่านบอกว่า ความชั่วที่จะเป็นเหตุให้ไฟล้างนั้น เป็นผลของสัตว์ที่สร้างอกุศลกรรมมาก มารวมตัวกันอยู่ เป็นสมัยสัตว์นรกครองโลก มีแต่ความเร่าร้อน หาความสงบสุขไม่ได้<O:p</O:p
    ความจริงแล้วมันเริ่มมีความเร่าร้อนตั้งแต่ก่อนกึ่งพุทธกาล 15 ปีแล้ว<O:p</O:p
    จากนั้นไปพวกอธรรมเกิดมาก มีอำนาจวาสนามาก ทำให้ความสงบสุขไม่มี เพราะพวกอธรรมเป็นพวกเห็นแก่ตัว มากกว่าเห็นแก่ส่วนรวม<O:p</O:p
    โลกจะร้าง ไม่มีต้นหญ้ากอไม้ แม้แต่น้ำในมหาสมุทรก็ไม่มี เมื่อครบ 1000 ปี<O:p</O:p
    หลังจากนั้นแล้ว จะมีฝนใหญ่ตกลงในมนุษยโลกแม่น้ำและมหาสมุทรจะเต็มไปด้วยน้ำ พื้นโลกจะชุ่มชื้น ต้นหญ้าต้นไม้จะเริ่มงอกงามขึ้นเป็นลำดับ จนโลกทั้งโลกกลายเป็นป่าไม้<O:p</O:p


    เกิดแบบโอปปาติกะ<O:p</O:p

    หลังจากโลกที่เขียวชอุ่มไปด้วยต้นหญ้าใบไม้นั้น ทิ้งระยะนาน 1 หมื่นปี สัตว์โลกเริ่มเกิด<O:p</O:p
    สัตว์และคนที่มาเกิดยุคต้นนั้นไม่ได้อาศัยบิดามารดาเป็นแดนเกิด มาเกิดแบบโอปปาติกะ คือมาเกิดด้วยอำนาจกรรม คือเป็นตัวตนขึ้น จะยังไม่มีพระอาทิตย์พระจันทร์ส่องแสง มีแสงสว่างเกิดจากอำนาจบุญของแต่ละคน คือมีแสงสว่างออกจากตัวเองเป็นสำคัญ<O:p</O:p
    เรื่องอาหารนั้นในระยะแรก ยังไม่ต้องการอาหาร มีความอิ่มด้วยธรรมปีติ<O:p</O:p
    เพราะแต่ละคนที่มาเกิด ล้วนแล้วแต่มาจากเทวดาหรือพรหมเท่านั้น ไม่มีสัตว์นรกหรือเปรตเจือปน โลกจึงเต็มไปด้วยความสุข หาความทุกข์ไม่ได้<O:p</O:p
    นอกจากกฎธรรมดา คือความเสื่อมของสังขาร เรื่องการทะเลาะยื้อแย่งไม่มี คนทุกคนเป็นคนสวยหมด มีผิวขาวเหลือง เนื้อละเอียดทั้งหญิงและชาย มีแต่คนรวย ไม่มีใครจน มีแต่คนใจบุญ ไม่มีใครใจบาป<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    พระศรีอาริย์มาตรัส<O:p</O:p

    เมื่อโลกมีมนุษย์และสัตว์บริบูรณ์ มีดวงจันทร์ดวงอาทิตย์แล้ว ระยะเวลานับแต่มีสัตว์โลกเกิดในโลก เวลาล่วงมาได้ล้านปี คนสมัยนั้นมีอายุครองตนเองได้ 4 หมื่นปีเป็นอายุขัย ท่านว่าตอนนั้นพระศรีอาริย์จะมาตรัสเป็นพระพุทธเจ้า เขตที่ท่านลงมาตรัส สมัยปัจจุบันเรียกว่าเขตเมืองพม่า
    <O:p</O:p<O:p</O:p

    คณะคอยพระศรีอาริย์<O:p</O:p

    คนกลุ่มหนึ่งที่บำเพ็ญบารมีคอยพระศรีอาริย์ตามปฏิญญาที่ให้ไว้หลายพุทธสมัยนั้น ท่านหัวหน้าทรงพระนามว่า โกสีห์ จะสร้างเมืองแถวด้านเหนือของเมืองพม่า เรียกว่า เชียงตุง ให้ชื่อเมืองว่า สีหนคร<O:p</O:p
    รวบรวมลูกหลานทั้งหมดมาร่วมบำเพ็ญกุศล และเป็นอุปัฏฐากใหญ่ของพระศาสนา ในที่สุดก็นิพพานหมด
    <O:p</O:p<O:p</O:p<O:p</O:p

    คนเกิดสมัยนั้น<O:p</O:p

    ท่านว่าศาสนาของท่านนั้นมีผลดังนี้<O:p</O:p
    1. คนสวยทุกคน มีผิวเหลือง เนื้อละเอียด คนแก่ที่สุดมีทรวดทรงเท่ากับคนอายุประมาณ 20 ปีเศษสมัยนี้เท่านั้นเอง อายุคนสมัยนั้นท่านว่ามีอายุถึง 4 หมื่นปีเป็นอายุขัย<O:p</O:p
    2. สมัยของท่าน ไม่มีคนจน มีแต่คนรวย มีต้นไม้สารพัดนึกอยู่ในที่ทุกสถาน สัตว์นรก เปรต อสุรกาย ที่มีจิตใจชั่วร้าย ยังไม่มีโอกาสเกิดในสมัยของพระองค์ ท่านที่จะไปเกิดนั้น ต้องเป็นเทวดาหรือพรหมเท่านั้น โลกจึงมีแต่ความสุข ไม่มีตำรวจทหาร มีแต่พ่อบ้านแม่เรือน<O:p</O:p
    3. การสัญจรไปมาก็สะดวกสบาย ไปทางไหนก็พายตามน้ำ<O:p</O:p
    4. คนเข้าถึงธรรมทุกคน ท่านว่าคนที่เจริญสมถะมีฌานหรือมีวิปัสสนาญาณบ้างพอสมควร จะเข้าถึงธรรมาภิสมัยได้โดยฉับพลัน คือเป็นพระอริยะเจ้า<O:p</O:p
    คนที่ได้อริยะต้นแล้ว จะเข้าถึงอรหันตผลได้โดยฉับพลัน คนที่ทำบุญไว้น้อย คือฟังคาถาพัน และปฏิบัติตาม แต่ไม่สมบูรณ์ อย่างต่ำก็เข้าถึงไตรสรณาคมน์ อย่างสูงก็ได้อริยะ<O:p</O:p
    ที่เป็นอย่างนี้เป็นเพราะท่านบำเพ็ญบารมีถึง 16 อสงไขย กำไรแสนกัป ท่านบำเพ็ญบารมีมาก คนเลวจึงเข้าแทรกในศาสนาของพระองค์ไม่ได้ น่าเกิดจริงนะ<O:p</O:p
    เรื่องกระจุ่มกระจิ๋มอย่างนี้ เขียนไว้ให้อ่านเล่น จริงหรือไม่จริง ไม่มีผลที่จะพิสูจน์ได้ด้วยตำรา ต้องอาศัยฌานและญาณช่วยจึงจะทราบผลแน่นอน<O:p</O:p
    ถ้ามีวิริยะอุตสาหะแล้ว ไม่ช้าก็พากันมีความรู้ที่จะพิสูจน์ได้ ฟังแต่อย่าเชื่อ และอย่าเพิ่งปฏิเสธ จนกว่าเราจะมีฌานและญาณพอจะพิสูจน์ได้.<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 เมษายน 2007

แชร์หน้านี้

Loading...