เรื่องเล่าปริศนาธรรมกับไซอิ๋วโดยท่านเขมา นันทะ ตอน บทที่ ๔ ปัญญารู้ไตรลักษณ์ คือการ "บวช" แท้

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 15 กรกฎาคม 2017.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,439
    เรื่องเล่าปริศนาธรรมกับไซอิ๋วโดยท่านเขมา นันทะ ตอน บทที่ ๔ ปัญญารู้ไตรลักษณ์ คือการ "บวช" แท้
    20031827_10213685026589623_381487849284457070_n.jpg
    พระถังซัมจั๋งคอตก เดินจูงม้าไปในป่าใหญ่แต่ลำพัง แสนว้าเหว่ เดินมาครู่หนึ่งพบพระโพธิสัตว์กวนอิมแปลงมาเป็นแม่เฒ่า ได้สนทนาปราศรัยรู้ความกันแล้ว แม่เฒ่ากล่าวว่าจะไปไซทีโดยไม่มีเห้งเจียนั้น ย่อมไปไม่ถึงโดยแน่นอน แม่เฒ่ารับว่าจะช่วยไปตามเห้งเจียให้ นางได้มอบเสื้อและห่วงมงคลสวมหัว พร้อมทั้งมนต์สะกดหัวใจไว้ปราบเห้งเจียในเวลาดื้อหรือดุร้าย

    กล่าวฝ่ายเห้งเจีย นั่งซดน้ำชาอยู่กับพญาเล่งอ๋อง พญาเล่งอ๋องได้เตือนสติให้รำลึกถึงมรรคผล เห้งเจียจึงเหาะย้อนกลับมาหาพระถัง พระถังก็ให้เห้งเจียสวมเสื้อและห่วงมงคล โดยหลอกว่าเป็นหมวกวิเศษที่ใครใส่แล้วยิ่งฉลาดรอบรู้ในการหนังสือ ส่วนเสื้อนั้นใครสวมแล้ว จะรู้จักขนบธรรมเนียมประเพณีโดยไม่ต้องเรียนต้องฝึก เห้งเจียหลงเชื่อ ครั้นแล้วพระถังก็ลองร่ายมนต์สะกด เห้งเจียก็ปวดขมับล้มม้วนกลิ้งไปมา เป็นอันว่า เจ้าลิงจอมโจกของเราก็อยู่ในกำมือของพระถังซัมจั๋งโดยสิ้นเชิง

    นาม : ( หัวเราะกั๊กๆ )

    รูป : แกเข้าใจรึ ?

    นาม : เปล่า

    รูป : แล้วหัวเราะหาอะไรวะ

    นาม : หัวเราะเยาะความโง่ของคนสมัยเราที่อุตริกล่าวว่า "แต่ก่อนคนเรายังโง่" ซึ่งเรื่องจริงกลับตรงข้าม

    รูป : ตรงข้ามยังไง ?

    นาม : มันตรงกันข้ามว่า คนโบราณผูกปริศนาไว้ให้ คนสมัยนี้แหละโง่ แล้วยังหยิ่ง ยกตัวอีกซิ อย่างที่อาจารย์เล่ามา แกรู้รึ ?

    รูป : ก็นิทานสนุก ๆ ไปคิดอะไรให้ปวดหัวทำไมเล่า อาจารย์ท่านก็แต่งไปเรื่อย ๆ นึกไหนได้ก็ว่ากันไป

    โหงว : ถ้าแกขืนหมิ่นข้า ข้าจะยอมโง่โดยหยุดเฉลย เพื่อให้แกโง่สองเท่าของข้า

    นาม : โธ่ อาจารย์อย่าถือสามันเลย ผมอยากทราบจริง ๆ ว่า ปัญญาที่กบดานและดื้อดุร้ายจะถูกควบคุมได้อย่างไร ?

    โหงว : กวนอิมโพธิสัตว์ คือเมตตาบารมี ได้นำเสื้อวิเศษ คือการเฝ้าดูจิต โดยการทำในใจไว้อย่างแยบคาย (โยนิโสมนสิการ) ซึ่งใครใส่แล้วรู้ขนบธรรมเนียมโดยไม่ต้องเรียน ขนบธรรมเนียมที่พระอริยเจ้าได้ทำทางไว้ คือการมีสติเฝ้าดูชีวิต หรือ การทำในใจไว้อย่างแยบคาย แล้วจะรู้ทาง รู้ธรรม รู้วินัย โดยไม่ต้องเรียนเลย

    รูป : แล้ว มงคล ๓ ห่วงเล่าครับ ?

    นาม : ผมเดาว่า ศีล สมาธิ ปัญญา ใช่ไหมครับ ?

    โหงว : ผิดถนัด เห้งเจียคือปัญญา ซึ่งเราจะได้พบ ศีล สมาธิ ในบทถัด ๆ ไป ไม่ใช่ที่นี่ ห่วงมงคล ๓ ห่วงคือ ไตรลักษณ์ ได้แก่ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ๓ วงนี้ รวบมัดเป็นวงว่าง (สุญญตา) วงเดียวไว้สวมหัวของปัญญา นั่นคือจิตที่ดื้อรั้นกระสับกระส่าย ไหลไปตามอารมณ์นั้น ต้องให้มันกำหนดกัมมัฏฐานที่มีไตรลักษณ์เป็นอารมณ์จึงจะชื่อว่าบวชจริงไม่ใช่ที่กายเท่านั้น

    รูป : แล้วทำไมอาจารย์แต่งให้พระถังซึ่งเป็นพระ เที่ยวทุศีลหลอกลวงแม้กระทั่งลิงว่า ห่วงมงคลคือหมวก ก็ไม่รู้ ?

    นาม : นี่ แก เลื่อนลอยอีกแล้วละซี

    โหงว : จิตของคนธรรมดาจะไม่ยอมกำหนดไตรลักษณ์ จะต้องหลอกล่อ(ปัคคหะ) ว่ากำหนดไตรลักษณ์ แล้วจะรู้เรื่องปริยัติได้หมดสิ้น ที่จริงเราไม่ได้หลอกเลย ปริยัติทั้งหมดทั้งสิ้นในพระไตรปิฎก รวมลงที่ว่า สิ่งทั้งปวงเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา หรือสรุปว่าคือ สุญญตา อันอุปมาด้วยห่วงมงคลวงว่างครอบไว้เหนือหัวของปัญญา

    นาม : แหม สนุกจริงครับ

    รูป : แล้วคาถาบีบขมับเล่า ?

    โหงว : ทุกครั้งที่จิตดื้อไม่ยอมทำตามในการมุ่งสู่ความหลุดพ้น มักจะวนไปสู่อารมณ์โลก ๆ ตามปรารถนา คือดันไปกำหนดว่า สิ่งทั้งปวงเป็นของเที่ยง เป็นสุข หรือเป็นตัวตนเข้า จงร่ายมนต์บีบขมับคือ กำหนดกัมมัฏฐานที่มีไตรลักษณ์เป็นอารมณ์ แล้ว ปัญญามันจะยอมรับใช้

    นาม : เป็นอันว่า ชีวิตสามารถปลุกเร้าบังคับให้ปัญญาทำหน้าที่จูงม้าหลวง(วิริยะของศรัทธา)พาชีวิตบ่ายหน้าสู่นิพพาน อันเป็นเป้าหมาย.... โอ้โฮ วิเศษจริง ๆ

    รูป : ผมฟังไม่สนุกเลย แหมคุยกันคอแห้ง ขอน้ำชามาซดกันหน่อยนา

    โหงว : มัวซดน้ำชาอยู่ใต้บาดาลนั่นแหละ อีนางเง็กมิ่นกงจู๊

    รูป : อาจารย์ด่าใครครับ เง็กมิ่นกงจู๊ ไหนกัน ?

    นาม : อาจารย์ครับ โปรดเฉลยก่อน เพราะไซอิ๋วยาวมาก กว่าจะถึงตอนนั้น เดี๋ยวผมก็ลืมเสียเท่านั้น

    โหงว : เง็กมิ่นกงจู๊ คือ กามสุขัลลิกานุโยค เมียน้อยของงูหม้ออ๋อง(มิจฉาทิฏฐิ)

    รูป : อาจารย์ด่าผม

    นาม : อาจารย์ครับ ได้โปรดเล่าต่อไป

    โหงว : บทถัดไปหวาดเสียวมาก เพราะพระถังจะพบปีศาจร้ายตัวแรกที่อาศัยอยู่ในบึง ฟังนะ ..............



    **คัดจาก "เดินทางไกลกับไซอิ๋ว" โดย "เขมานันทะ" หน้า ๑๔ - ๑๘
     

แชร์หน้านี้

Loading...