เรื่องเล่าในพระธรรมบท ตอน พาลนักษัตรเหล่าวัยรุ่นป่วนเมืองในยุคพุทธกาล

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 16 กรกฎาคม 2017.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,439
    เรื่องเล่าในพระธรรมบท ตอน พาลนักษัตรเหล่าวัยรุ่นป่วนเมืองในยุคพุทธกาล
    19958932_10213707270825715_979712466751934234_n.jpg
    พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภนักษัตรของคนพาล ตรัสพระธรรมบท พระคาถาที่ 26 และพระคาถาที่ 27 นี้

    ครั้งหนึ่งได้มีการจัดงานเฉลิมฉลองพาลนักษัตรในกรุงสาวัตถี ในระหว่างที่จัดงานเทศกาลครั้งนี้พวกชายหนุ่มที่โง่ๆทั้งหลายเอาขี้เถ้าและมูลโคทาตามตัว แล้วเที่ยวตระเวนร้องตะโกนเสียงอึกทึกตามที่สาธารณะต่างๆ พวกเขาจะไปหยุดอยู่ที่หน้าประตูบ้านของผู้คนทั้งหลาย และเมื่อเจ้าของบ้านนำเงินมาให้ถึงจะออกเดินทางไปที่บ้านหลังอื่นต่อไป

    ในระหว่างนั้นมีพวกอุบาสกอุบาสิกอยู่ในกรุงสาวัตถีเป็นจำนวนมาก พวกอุบาสกอุบาสิกาเหล่านี้ เห็นว่าในช่วงเทศกาลนี้เต็มไปด้วยพวกวัยรุ่นที่ส่งเสียงเอะอะโวยวาย จึงได้ส่งข่าวไปทูลพระศาสดาขอให้พระองค์ประทับอยู่แต่ในวัดและอย่าได้เสด็จเข้ามาในตัวเมืองเป็นเวลา 7 วัน พวกเขาได้จัดส่งภัตตาหารไปถวายที่วัดและพวกตนเองก็เก็บตัวเงียบอยู่แต่ในเรือนไม่ออกมาข้างนอกเหมือนกัน พอถึงวันที่ 8 เมื่อเทศกาลพาลนักษัตรนี้เลิกแล้ว พระศาสดาและพระสาวกก็ได้รับนิมนต์ให้ไปรับอาหารบิณฑบาตในตัวเมือง เมื่ออุบาสกอุบาสิกากราบทูลเกี่ยวกับพฤติกรรมก้าวร้าวและน่าละอายของพวกเด็กวัยรุ่นเหล่านั้น พระศาสดาได้ตรัสว่าเป็นธรรมชาติของพวกคนโง่ที่มีพฤติกรรมไร้ยางอาย

    จากนั้นพระศาสดาได้ตรัสพระธรรมบท พระคาถาที่ 26 และพระคาถาที่ 27 ดังนี้

    ปมาทมนุยุญฺชนฺติ
    พาลา ทุมฺเมธิโน ชนา
    อปฺปมาทญจ เมธาวี
    ธนํ เสฏฺฐํ ว รกฺขติฯ

    คนพาล ปัญญาทราม
    มักมัวแต่ประมาท
    ส่วนบัณฑิต ย่อมรักษาความไม่ประมาท
    เหมือนรักษาทรัพย์อันประเสริฐ.

    มา ปมาทมนุยุญฺเชถ
    มา กามรติสนฺถวํ
    อปฺปมตฺโต หิ ฌายนฺโน
    ปปฺโปติ วิปุลํ สุขํฯ

    พวกเธออย่ามัวแต่ประมาท
    อย่ามัวแต่จะลุ่มหลงในกามคุณ
    ผู้ไม่ประมาท เพ่งพินิจอยู่เท่านั้น
    ถึงจะบรรลุสุขอันไพบูลย์(คือบรรลุนิพพาน)ได้.


    เมื่อพระสัทธรรมเทศนาจบลง ชนเป็นอันมาก ได้บรรลุอริยผลทั้งหลาย มีพระโสดาปัตติผลเป็นต้น เทศนามีประโยชน์แก่มหาชนแล้ว.
     

แชร์หน้านี้

Loading...