เรื่องเล่าในพระธรรมบท ตอน พ่อตาพระพุทธเจ้าทำกรรมหนักถูกธรณีสูบ

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 22 พฤศจิกายน 2017.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,438
    เรื่องเล่าในพระธรรมบท ตอน พ่อตาพระพุทธเจ้าทำกรรมหนักถูกธรณีสูบ
    23319285_521213608235090_2740344704943878973_n.jpg
    สุปปพุทธศากยะ

    พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในนิโครธาราม ทรงปรารภเจ้าศากยะทรงนามว่าสุปปพุทธะ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า น อนฺตลิกฺเข น สมุทฺทมชฺเฌ เป็นต้น

    พระเจ้าสุปปพุทธะเป็นพระราชบิดาของเจ้าชายเทวทัต และเป็นสัสสุระ(พ่อตา)ของเจ้าชายสิทธัตถะ ซึ่งต่อมาก็คือพระโดดมพุทธเจ้านั่นเอง ท้าวเธอผูกอาฆาตในพระศาสดาด้วยเหตุ 2 ประการ คือ 1. พระสมณโคดมนี้ทิ้งลูกสาวของเรา(คือพระนางยโสธรา) ออกบวช และ 2. ให้ลูกชายของเรา(คือเจ้าชายเทวทัต) บวชแล้วตั้งตัวเป็นศัตรูกับลูกชายของเรา อยู่มาวันหนึ่ง ทรงดำริว่า จะไม่ให้พระสมณโคดมไปฉันยังสถานที่นิมนต์ จึงไปนั่งเสวยน้ำจัณฑ์(สุรา)ปิดหนทางที่จะเสด็จไป เมื่อพระศาสดาเสด็จมาพร้อมหมู่ภิกษุสงฆ์ พระเจ้าสุปปพุทธปฏิเสธที่จะหลีกทางให้ และได้รับสั่งกับมหาดเล็กให้ไปบอกพระสมณโคดมว่า พระสมณโคดมไม่ใหญ่กว่าเรา เราจักไม่ให้ทางแก่พระสมณโคดม พระศาสดาเมื่อทรงพบว่าหนทางเสด็จถูกปิดกั้นไว้เช่นนั้น พระองค์พร้อมด้วยหมู่ภิกษุสงฆ์ก็ได้เสด็จกลับ พระเจ้าสุปปพุทธะได้ส่งสายลับ(จารบุรุษ)ติดตามพระศาสดาไปเพื่อสืบทราบว่าได้ตรัสว่าอย่างไรบ้างแล้วกลับมารายงานให้ทรงทราบ

    ขณะที่พระศาสดาเสด็จกลับนั้น ได้ตรัสกับพระอานนท์ว่า “เจ้าสุปปะพุทธะนั้นไม่ให้ทางแก่พระพุทธเจ้าเช่นเรา ทำกรรมหนักแล้ว ในวันที่ 7 แต่วันนี้ ท้าวเธอถูกแผ่นดินสูบ ณ ที่ใกล้เชิงบันได ในภายใต้ปราสาท”

    เมื่อจารบุรุษลายลับผู้นั้นนำความมากราบทูลให้ทราบ พระเจ้าสุปปพุทธะตรัสว่า พระองค์จะไม่เสด็จไปที่ตรงเชิงบันได เมื่อไม่ไปตรงนั้นพระองค์ก็จะไม่ถูกธรณีสูบที่ตรงจุดนั้น และก็จะพิสูจน์ว่าดำรัสของพระสมณโคดมผิดพลาด ท้าวเธอได้รับสั่งให้พวกมหาดเล็กขนเครื่องใช้สอยของพระองค์ทั้งหมดไปไว้บนปราสาท 7 ชั้น ให้ชักบันได ปิดประตู วางคนแข็งแรงประจำไว้ที่ประตู ๆ ละ 2 คน ตรัสว่า หากพระองค์หลงลืมเสด็จดำเนินไปทางนั้น ก็ให้คอยดึงพระองค์เอาไว้

    พระศาสดาทรงสดับการดำเนินการของพระเจ้าสุปปพุทธะแล้ว ตรัสว่า “ภิกษุทั้งหลาย เจ้าสุปปพุทธะ ไม่ว่าจะนั่งอยู่ในปราสาท จะเหาะขึ้นไปสู่เวหาหาวไปนั่งในอากาศ จะไปมหาสมุทรด้วยเรือ จะเข้าไปอยู่ในซอกเขา พระดำรัสของพระพุทธเจ้าผิดพลาดไม่จริงเป็นอันไม่มี ท้าวเธอจะถูกธรณีสูบในสถานที่เราพูดไว้นั่นแหละ”

    จากนั้น พระศาสดาได้ตรัสพระธรรมบท พระคาถานี้ว่า

    น อนฺตลิกฺเข น สมุทฺทมชฺเฌ

    น ปพฺพตานํ วิวรํ ปวิสฺส
    น วิชฺชเต โส ชคติปฺปเทโส
    ยตฺรฏฺฐิตํ นปฺปสเหยฺย มจฺจุ.

    ไม่ว่าผู้นั้นจะนั่งอยู่ในกลางหาว
    ไม่ว่าจะเข้าไปสู่ท่ามกลางสมุทร
    ไม่ว่าจะเข้าไปสู่ซอกเขา
    ส่วนของแผ่นดิน
    ที่ความตายไม่พึงครอบงำผู้สถิตอยู่
    ย่อมไม่มี.


    เมื่อพระสัทธรรมเทศนาจบลง ชนเป็นอันมาก บรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดาปัตติผลเป็นต้น.

    ครั้นถึงวันที่ 7 ในเวลาเดียวกับที่เจ้าสุปปพุทธะปิดหนทางภิกษาจารของพระศาสดา ม้ามงคลของเจ้าสุปปพุทธะในภายใต้ปราสาทเกิดคึกคะนองโดยไม่ทราบสาเหตุ ส่งเสียงร้องและใช้เท้าดีดฝาโรงม้าเสียงดังโครมคราม เจ้าสุปปพุทธะสดับเสียงคึกคะนองของม้ามงคลนั้นแล้ว มีพระประสงค์จะไปจับม้านั้น ได้เสด็จลุกขึ้นจากที่ประทับ บ่ายพระพักตร์มาทางประตู ฉับพลันนั้นเองประตูทั้งหลายก็เปิดเอง บันไดที่ถูกยกขึ้นไว้ก็กลับมาพาดอยู่ในที่เดิม คนแข็งแรงที่จัดไว้ดูแลที่ประตู จับท้าวเธอที่พระศอ แล้วผลักจนพระพักตร์ขมำลงไปเบื้องล่าง เมื่อท้าวเธอก้าวไปประทับยืนอยู่ที่เชิงบันได ตรงที่ภายใต้ปราสาท แผ่นดินตรงนั้นก็แยกตัวสูบท้าวเธอไปบังเกิดในอเวจีนรก.
     

แชร์หน้านี้

Loading...