เรื่อง ทำแท้ง

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย noi, 27 มีนาคม 2007.

  1. noi

    noi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,120
    ค่าพลัง:
    +47,442
    <TABLE class=boxcenter cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=center>
    เรื่อง ทำแท้ง[​IMG]<O:p</O:p

    โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง<O:p</O:p



    <O:p</O:p
    เรื่องมีอยู่ว่า มีหญิงคนหนึ่งผิวขาว ร่างท้วม หน้าตาอิ่มเอิบ อายุ 42 ปี เธอตาย เจ้าหน้าที่พาไปสำนักพระยายม เรื่องนี้เป็นนิมิตลอยมาให้เห็นไม่ใช่ทิพยจักขุญาณ คือเมื่อเวลา 18 นาฬิกา วันนี้นอนภาวนาตามปกติ อารมณ์เคลิ้มเห็นภาพนี้ที่สำนักพระยายม มีหญิงคนหนึ่ง เด็กเล็กคนหนึ่ง เด็กคนนี้เล็กมาก มีสภาพนอน พระยายมท่านถามหญิงคนนั้นว่า แม่หนู เธอทำแท้งหรือ เธอรับว่าใช่เจ้าค่ะ ท่านถามว่า เมื่อทำแล้ว หลังจากนั้นทำบุญอะไรบ้าง เธอบอกว่า ที่จำได้ดีเพราะทำเป็นประจำก็คือ บูชาพระ ว่านะโม 3 จบ
    พุทธัง ธัมมัง สังฆัง และสวดอิติปิโส ภควา แล้วกรวดน้ำอุทิศให้ลูกที่ทำแท้ง ขออย่าจองเวรจองกรรมเลย เมื่อถึงปีก็เป็นเจ้าภาพบวชพระทุกปี อุทิศส่วนกุศลให้ลูกที่ทำแท้ง เธอพูดได้ชัดเจนชัดถ้อยชัดคำ ไม่เหมือนรายอื่น ๆ ที่พูดไม่ค่อยเต็มเสียง และมีมากรายไม่พูดเลย พระยายมท่านบอกว่า บุญเธอมีมาก และเด็กก็ไม่ได้จองเวรเธอ เธอไปรับผลความดีก่อน คือไปสวรรค์<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    เมื่อเธอปลอดโทษแล้ว ผลบุญก็ตอบสนองเธอ คือมีรูปสวยทันที เครื่องแต่งกายสวยมาก แพรวพราวเป็นระยับ ในนิมิตว่า มีโอกาสคุยกับเธอถึงความเป็นมาต่าง ๆ เธอเล่าให้ฟังว่า เมื่ออายุ 17 ปี พี่สาวแต่งงานได้สองปี คลอดบุตร กำลังอยู่ไฟ พี่เขยเธอเข้าห้องผิด ไปเข้าห้องเธอเข้า เธอเห็นใจพี่เขย ขณะที่พี่สาวกำลังอยู่ไฟ พี่เขยคงเปลี่ยวใจ จึงอนุญาตให้เข้าห้องผิดได้เป็นประจำ เวลาผ่านไป 6 เดือนเศษ ผลของการเปิดห้องให้พี่เขย เลยเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมาได้สองเดือน เมื่อเห็นท่าเรื่องจะบานปลาย จึงร่วมมือกับพี่เขย หายาขับเลือดอย่างแรง มีความร้อนสูง กินยานั้นเข้าไปสองครั้ง เด็กเลยไหลออกมา แต่เมื่อฟังผู้ใหญ่พูดกันว่าคนทำแท้งนั้นบาปมาก เพราะฆ่าเด็กในครรภ์ จึงตั้งใจบูชาพระทุกวัน สวดมนต์ เมื่อจบแล้วก็นั่งหลับตานึกถึงลูกที่ตาย ขอให้มารับส่วนบุญและไม่จองเวร อ้อนวอนขอให้พระพุทธเจ้าช่วย ทำอย่างนี้เป็นปกติทุกวัน เมื่อถึงฤดูกาลบวชพระ ก็เป็นเจ้าภาพบวชพระให้ปีละองค์ทุกปี อุทิศให้ลูก ต่อมาอายุ 42 ปี 3 เดือน เธอป่วยด้วยโรคทางเดินอาหาร เธอนึกถึงพระพุทธรูปที่เคยบูชา นึกถึงการใส่บาตร นึกถึงบวชพระ แล้วแต่จังหวะไหนจะนึกอะไรได้ ที่มั่นใจจริง ๆ คือพระพุทธรูปที่บูชา และภาพพระที่บวช เมื่อตอนตาย มีคน 4 คนไปรับ ตอนนั้นเห็นพระพุทธรูปที่เคยบูชาลอยมา องค์ใหญ่กว่าที่เคยบูชา พระพุทธรูปท่านพูดว่า พาเขาไปเถอะ ฉันไปด้วย แล้วท่านก็ลอยนำหน้าไป เมื่อถึงพระยายม ท่านก็ยังลอยอยู่ตลอดเวลาการสอบสวน เมื่อพระยายมสอนสวนเสร็จ ภาพพระพุทธรูปจึงหายไป<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    เมื่อถามเธอว่า เธอจะไปอยู่สวรรค์ชั้นไหน เทวดาที่เรียกว่าเทวทูต ที่จะนำเธอไปส่ง ท่านตอบแทนเธอว่า ไปอยู่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ครับ แล้วท่านก็พาเธอไป ผู้เขียนสะดุ้งตื่นพอดี จบเรื่องเพียงเท่านี้ วันนี้ขอหยุดเท่านี้เพราะปวดพุง http://www.kaskaew.com/index.asp?&title=Home+Page




    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD>

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. putipongb

    putipongb เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2007
    โพสต์:
    594
    ค่าพลัง:
    +3,843
    เท่าที่ทราบมาวิธีขออโหสิกรรมลูกที่ทำแท้ง ให้จุดธูป16ดอกกลางแจ้งขออนุญาตเจ้าที่ให้วิญญาณเด็กคนนั้นเข้ามาได้ และให้สวดมนต์ขออโหสิพร้อมกับตั้งชื่อเด็ก วันรุ่งขึ้นให้ไปถวายสังฆทานต้องมีชุดเด็กอ่อน ขวดนม นมผง กล้วยน้ำว้าหนึ่งหวีและเครื่องสังฆทาน เมื่อถวายแล้วให้ขอเครื่องเด็กอ่อนไปบริจาค แล้วกรวดน้ำให้ พี่น้องทำแทนพ่อแม่ก็ได้ครับ แต่ตอนคืนที่เญเด็กเข้าบ้านถ้ามีเสียงหรืออะไรแปลกๆห้ามทัก ผมทำมาแล้วเพราะแม่สุขภาพไม่ดีมีลูกหลงตอนอายุมากหมอให้เอาออกกลัวเด็กพิการ ตัวผมเองก็มักจะมีปัญหาติดขัดอะไรเรื่อยๆ ผู้รู้เขาบอกว่าน้องอิจฉาเลยแกล้ง ผมก็ทำพิธีแทนแม่ ก็รู้สึกดีขึ้นมากครับ ไม่รู้ว่าอุปทานรึเปล่าแต่ถือว่าทำบุญอย่างน้อยก็จิตใจสบายครับ
     
  3. จิตต์ปภัสสร

    จิตต์ปภัสสร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2007
    โพสต์:
    670
    ค่าพลัง:
    +4,545
    เท่าที่เคยได้ยินมาก็คือให้ทำบุญอุทิศ ส่วนกุศลในวันพระขึ้น 15 เพราะถือว่าเปิดทั้ง 3 โลก ให้จัดเตรียมดังนี้ คือ
    1.ให้ถวายพระปางสะดุ้งมาร 5 นิ้ว 1 องค์
    2.อาหารคาว หวาน 1 ปิ่นโต
    3.จีวร 1 ชุด
    4.ดอกไม้ ธูปเทียน 1 ชุด
    5.น้ำเปล่า 1 ขวด
    6.หุ่นกุมารที่เป็นเด็กที่ไม่ได้เกิด

    ให้ไปทำบุญที่วัดและบอกกล่าวกับพระว่าเราจะทำบุญอุทิศให้กับเด็กที่ไม่ได้เกิดมาลืมตาดูโลก (น่าจะเป็นในกรณีทีร่างกายไม่พร้อมทำให้เกิดการแท้งบุตร) และเมื่อทำบุญเสร็จเรียบร้อยแล้วให้สวดมนต์ต่อหน้าพระในโบสถ์และขอขมา ขออโหสิกรรมกับเด็กที่ไม่ได้เกิด (นี่คือการบอกเล่าที่ได้ยินสืบต่อกันมานะคะ) จริงเท็จประการใดถ้ามีผู้รู้ช่วยแนะนำด้วยนะคะ
    *************************************************
    ใครทำใครได้ ใครหิวคนนั้นก็ต้องกินเอง ให้คนอื่นกินแทนไม่ได้เช่นกัน
    เพราะฉะนั้นทำกรรมดีก็ต้องได้ดี ทำกรรมชั่วก็ต้องรับผลของกรรมนั้นไม่โลกนี้ก็โลกหน้านะจ๊ะ

    *************************************************

    อย่าประมาทพลาดเพียงก้าวเดียวต้องเสียใจไปตลอดชีวิต ตนเตือนตนนั่นแหละดีที่สุด อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มีนาคม 2007
  4. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,671
    ค่าพลัง:
    +51,946
    *** ฆ่ามนุษย์ ****

    ทำแท้ง...คือ การฆ่ามนุษย์ ตั้งแต่อยู่ในครรภ์
    มี "สัจจะ" อยู่หนึ่งข้อ....ที่ผู้มีใจเมตตาถวายต่อพระพุทธเจ้า
    คือ....... "สัจจะ ไม่ฆ่ามนุษย์ในครรภ์ และนอกครรภ์ ตลอดชีวิต"

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มีนาคม 2007
  5. thos1964

    thos1964 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2006
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +441
    ได้ยินมาแยะ เรื่องแก้กรรมทำแท้งเนี่ย แต่ที่ได้ยินบ่อย ๆ คือ "การบวชบุตร" โดยการเป็นเจ้าภาพบวชเณร (อาจจะเป็นลูกคนอื่นก็ได้) หรือร่วมทำบุญงานบวชเณร แล้วอธิษฐานขอส่งผลบุญให้กับบุตรที่ถูกทำแท้งไป

    สิ่งที่คุณหนุมานโพสต์ เพิ่งได้เห็นเร็ว ๆ นี้เอง ในกระทู้ข้างล่างนี้ครับ

    http://www.palungjit.org/board/showpost.php?p=532042&postcount=1

    "6. การก้าวล่วงกรรม ในกรณีเรากระทำผิดไว้และสำนึกแล้ว แต่ไม่ทราบว่าเจ้ากรรมนายเวรอยู่ไหน หรือเจ้ากรรมนายเวรยังไม่ให้อภัย หากเราสำนึกผิดอย่างเดียวจะรู้สึกเสียใจต่อการกระทำของตนเองแล้วจมอยู่กับความไม่พึงพอใจในการกระทำของตนเองในกรณีดังนี้ พระพุทธองค์ทรงแนะนำให้ก้าวล่วงออกจากกรรมเสีย โดยการกำหนดอธิษฐานจิตตั้งใจให้มั่นว่ากรรมนั้นๆ เป็นสิ่งไม่สมควร ต่อไปนี้ตลอดนิรันดรเราจะไม่กระทำกรรมนั้นอีกเป็นอันขาด เมื่อเราตั้งใจแน่วแน่ดังนี้แล้ว ใจของเราจะก้าวออกจากกรรมนั้นได้ และนับแต่นี้เป็นต้นไปกรรมดังนั้นจะไม่เกิดขึ้นในใจของเราอีกเป็นอันขาด นี้เป็นเทคนิคการก้าวล่วงออกจากกรรม"

    โดยส่วนตัวคิดว่า วิธีที่ ดร. ไชย ณ พล กล่าวถึงข้างบนนี้ น่าจะเป็นวิธีที่ดีสุดครับ ง่ายที่สุดด้วย แต่ต้องใช้ความเข้มแข็งของจิตใจมากหน่อย เพราะจะต้องพยายามไม่คิดถึงมันอีกต่อไป ยากตรงนี้แหละครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...