เรื่อง พุทธวจน

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย คือคนไทย, 22 มกราคม 2017.

  1. คือคนไทย

    คือคนไทย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2015
    โพสต์:
    13
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +78
    ถาม : เรื่อง “พุทธวจนะ”

    ถ้าเราฟังแต่คำพุทธวจนะ แล้วปฏิบัติไปตามพุทธวจนะโดยไม่สนใจคำครูบาอาจารย์เลย เราสามารถที่จะบรรลุธรรมได้หรือไม่ครับ

    ตอบ : ได้ ได้เด็ดขาดเลย แต่ แต่ทำได้จริงหรือเปล่าล่ะ? นี่โดยความจริง สามัญสำนึกพูดถึงเมื่อกี้ บอกว่าถ้าเป็นวิทยาศาสตร์กับพุทธศาสตร์ที่มันขัดแย้งๆ กันไง ถ้าเราทำพุทธวจนะเราก็ทำตามพระพุทธเจ้า แล้วโดยทั่วไปก็บอกว่านี่ทำตามพุทธพจน์ๆ พุทธวจนะ ทุกคนปฏิบัติตามพุทธวจนะ แล้วพุทโธ พุทโธ แล้วทำสมถะ พระป่าไม่ทำตามพุทธวจนะ เวลาศึกษาก็ไม่ยอมศึกษา ศึกษาแล้ววางไว้

    ดูสิคำว่าศึกษานะ หลวงตาท่านเป็นพระมหา เวลาท่านศึกษาขึ้นมา เวลาท่านศึกษา ท่านอ่านแล้วท่านบอกว่าอ่านว่ามีสวรรค์ ท่านอยากไปสวรรค์ พอศึกษาไปถึงสวรรค์ เออ สวรรค์มันยังเวียนตายเวียนเกิด ไปถึงนิพพาน อยากไปนิพพาน แล้วศึกษาเป็นมหา เพราะท่านตั้งใจว่าเป็นมหาแล้วท่านอยากออกปฏิบัติ เวลาจะออกปฏิบัติขึ้นมา บอกว่า

    “ถ้ามีใครแก้ข้อสงสัยว่านิพพานมีจริงหรือไม่มีจริง เราจะหาครูบาอาจารย์องค์นั้นฝากเป็นฝากตาย จะปฏิบัติกับองค์นั้น”

    แล้วขณะที่หลวงตาท่านออกไปหาหลวงปู่มั่น ท่านไปอยู่กับพระอรหันต์หลายองค์นะ ก่อนที่จะไปเจอหลวงปู่มั่นท่านไปอยู่กับพระอรหันต์หลายองค์ แล้วพระอรหันต์องค์ที่หลวงตาไปอยู่ด้วยก็อยากจะให้หลวงตาอยู่ด้วย เพราะ เพราะคนที่จะฝึกหัดปฏิบัติ คนที่มีแวว คนที่มีเป้าหมาย คนที่มีบารมีจะเป็นคนมีความเพียร มีความขยันหมั่นเพียร มีสติ มีปัญญา เด็ก คนที่ช้างเผือก พอมันมีแววทุกคนก็อยากจะเอาไว้ปฏิบัติ

    หลวงตาก่อนที่จะไปหาหลวงปู่มั่น ท่านบอกท่านไปอยู่กับพระหลายองค์ พระหลายๆ องค์นั้นก็อยากจะเอาท่านไว้อยู่กับท่าน เพราะท่านเป็นคนใฝ่ดี ปฏิบัติดี นิสัยดีมาก แต่หลวงตาท่านบอกว่าขนาดว่าพระองค์นั้นพูดท่านก็ยังเฉยอยู่ ก็ไปหาญาติโยมมาช่วยโน้มน้าว แต่หลวงตาท่านบอกว่าท่านตั้งใจไว้แล้วว่าอย่างไรก็ต้องไปหาหลวงปู่มั่น อย่างไรก็ต้องไปหาหลวงปู่มั่น ท่านถึงลาทั้งหมดไปหาหลวงปู่มั่น เวลาไปถึงหลวงปู่มั่น เห็นไหม หลวงปู่มั่นบอกว่า

    “มหา มหามาหานิพพานใช่ไหม? นิพพานไม่ได้อยู่บนอากาศ นิพพานไม่ได้อยู่ในตำรา นิพพานไม่ได้อยู่ในสรรพสิ่งในโลกนี้ นิพพานมันอยู่ที่ใจ”

    แล้วใจมันอยู่อย่างไร? นี่เวลาหลวงปู่มั่นท่านเทศนาว่าการให้ฟังเชื่อมั่นมากเลย พอเชื่อมั่นมาก เออ มีคนแก้ความสงสัยของเราแล้ว ฝากชีวิตนี้ไว้กับครูบาอาจารย์องค์นี้เลย นี่แล้วท่านปฏิบัติมา เวลาปฏิบัติมา หลวงปู่มั่นท่านยังบอกเลยบอกว่าสิ่งที่เราศึกษามา พุทธวจนะ พุทธวจนะ เวลาหลวงตาท่านจบมหามาใช่ไหมท่านบอกว่า

    “ท่านมหาเรียนธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามานี่มันประเสริฐมาก ฉะนั้น ประเสริฐขนาดไหนนะเทิดใส่ศีรษะไว้ก่อน เทิดใส่ศีรษะไว้แล้วเก็บใส่ลิ้นชักไว้ แล้วลั่นกุญแจไว้อย่าให้มันออกมา ถ้าออกมา เวลาปฏิบัติไปมันจะเตะมันจะถีบกัน”

    มันจะเตะมันจะถีบกัน หมายความว่าเรานี่รู้หมดแล้ว เพราะศึกษามามันจบ ธัมมจักฯ สวดธัมมจักฯ บทเดียวมันก็จบแล้ว ทางนี้ไม่ควรเสพสองส่วน กามสุขัลลิกานุโยค อัตตกิลมถานุโยค ให้มัชฌิมาปฏิปทา เวลาปฏิบัตินี่มรรค ๘ มัคโคทางอันเอก ปฏิบัติธัมมจักฯ ก็จบหมดแล้ว แล้วปฏิบัติมันไปได้ไหมล่ะ? มันไปไม่ได้ มันไปไม่ได้เพราะมันเตะ มันถีบกัน มันเตะ มันถีบกันเพราะอะไร? เพราะเรามีกิเลสใช่ไหม? เราก็บอกไอ้นี่เป็นสมาธิใช่ไหม? อันนี้เป็นมรรคใช่ไหม? มันมีไปหมด มันขัดแย้งกัน ท่านถึงบอกว่าให้วางไว้ก่อน แล้วปฏิบัติไป ถ้าปฏิบัติไปแล้วนะ ถึงที่สุดแล้วมันจะเป็นอันเดียวกัน

    แล้วหลวงตาท่านปฏิบัติไปนะ เวลาท่านปฏิบัติไปท่านบอกว่าตอนที่โรคเจ็บอก นี่มันเสวยอารมณ์แล้วมันก็ปล่อย มันเสวยอารมณ์แล้วมันก็ปล่อย เอ๊ะ ถ้าปล่อยอย่างนี้ไม่ใช่พระอรหันต์หรือ ท่านบอกว่านี่บุญของปริยัติ เพราะท่านเป็นมหามา “ถ้าอย่างนี้” คือสงสัย ถ้าสงสัยไม่เอา ไม่เอาก็เอามาเปรียบ เวลาปฏิบัติไป นี่ทำตามพุทธวจนะ ก็ทำตามหมด แล้วกิเลสมันก็อยู่กับใจเรา มันก็อ้างพุทธวจนะ แล้วมันก็จะชักนำเราไป

    ฉะนั้น

    ถาม : ในการปฏิบัติทำตามพุทธวจนะมันจะถึงที่สุดได้ไหม?

    ตอบ : แน่นอน ทำตามพุทธวจนะสำเร็จแน่นอน ทำตามพุทธวจนะสำเร็จแน่นอนเลย แล้วกิเลสมันฟังไหมล่ะ? เวลาคนบวชนี่นะ ทุกคนบวชเป็นพระทุกคนปรารถนาเป็นพระอรหันต์หมดเลย แล้วพอบวชมาแล้วสึกหมดเลย นี่ตั้งใจเต็มที่เลย สึกเกือบหมดเลยเหลือไม่กี่องค์ หลวงตาท่านบอกว่าพระที่วัดป่าบ้านตาดเยอะมากเลย ออกไปแล้วนะหายหมดเลย ไม่รู้ว่าหายไปไหนหมด ท่านพูดประจำออกจากบ้านตาดไปนี่หายเกลี้ยงเลย ไม่เหลือสักองค์ ใครเอาไปกินหมดไม่รู้ ท่านบอกนะใครเอาลูกศิษย์ท่านไปกินหมดไม่รู้

    นี่ขนาดทำตามพุทธวจนะด้วย มีครูบาอาจารย์คอยบอกชี้แนะด้วย แล้วมีครูบาอาจารย์คอยตามกำกับตรวจสอบด้วย มันยังไปไม่รอดเลย มันยังโดนเอาไปกินหมดเลย ฉะนั้น ถ้าไม่ทำตามครูบาอาจารย์เลย ฉะนั้น คำว่าทำตามครูบาอาจารย์นะ ครูบาอาจารย์อย่างเช่นหลวงปู่มั่น หลวงตา อย่างเช่นครูบาอาจารย์ของเราที่ท่านมีประสบการณ์จริง ฉะนั้น ครูบาอาจารย์ที่ไม่มีประสบการณ์จริง ไอ้นั่นมันก็เลวร้ายกว่าอีก เลวร้ายกว่า เห็นไหม ธรรมของพระพุทธเจ้าก็อย่างหนึ่ง เขาก็บอกไปอีกอย่างหนึ่ง

    ฉะนั้น พุทธวจนะเราก็สงสัยแล้วนะ ดูสิใครอ่านพระไตรปิฎกมางงนะ เพราะอะไร? เพราะในพระไตรปิฎกมันก็เหมือนครูบาอาจารย์เรา ครูบาอาจารย์เราสอนนะ อย่างเช่นพระบวชใหม่ พระบวชใหม่นะ พระบวชใหม่จะทนคำสอนได้ยาก นี่พระบวชใหม่ ในนวโกวาทบอกไว้เลย พระบวชใหม่จะทนคำสอนได้ยาก เพราะเขาติดนิสัยของคฤหัสถ์มา แล้วสมณสารูปควรทำอย่างใด ถ้าสมณสารูปควรทำนะ แม้แต่สมณสารูปก็มาฝึกหัด พระบวชใหม่ทนคำสอนได้ยาก

    ฉะนั้น เวลาพระบวชใหม่มา คำว่าทนคำสอนได้ยากมันก็เหมือนกับทารกเพิ่งออกมา พอทารก เราจะเลี้ยงทารก เราจะสอนทารกอย่างไร แล้วพอมันสัก ๑๐ ขวบนี่สอนอย่างไร? พอเป็นวัยรุ่นจะสอนอย่างไร? พออายุมันสัก ๓๐-๔๐ มันยิ่งเถียงใหญ่เลย ตอนนี้วัยทำงานมันหาเงินได้แล้ว มันยิ่งไม่ฟังพ่อแม่มันเลย แล้วเวลามันแก่มันเฒ่าขึ้นมาแล้ว ไม้ใกล้ฝั่งนะมานั่งคอตกมันทำอย่างไร?

    ฉะนั้น เวลาคำสอน เวลาครูบาอาจารย์ที่ท่านเป็นจริง เวลาท่านสอนนะท่านสอนเด็กๆ ท่านสอนภิกษุบวชใหม่ เห็นไหม ก็ต้องสอนข้อวัตร สอนให้ยึดหลักให้ได้ เหมือนกับเด็กเลย เด็กนี่นะ อนุบาลนะถ้ามันศึกษามา ภาษามัน การคำนวณดีนะ พอมันเรียนขึ้นไปมันจะเรียนได้ดีมากเลย ฉะนั้น เวลาครูบาอาจารย์ท่านสอนท่านสอนอย่างนั้น ฉะนั้น บอกว่าครูบาอาจารย์ที่เป็นจริงนะมันก็เป็นเรื่องหนึ่ง ถ้าครูบาอาจารย์ไม่จริงนะมันไม่ใช่พุทธวจนะ มันเป็นการที่กิเลสมันนำ แต่ถ้าเป็นครูบาอาจารย์ที่เป็นจริงนะมันจะในพุทธวจนะ

    คำว่าในนะ ในหมายความว่าเวลาหลวงตาท่านไปที่ดอยธรรมเจดีย์ ท่านชำระอวิชชาของท่านได้ ท่านกราบแล้วกราบเล่า กราบแล้วกราบเล่า ท่านกราบอะไรน่ะ? ท่านกราบถึงความซาบซึ้ง หลวงปู่มั่นท่านบอกว่าที่หนองอ้อโคนต้นไม้ใหญ่ เวลาจะออกมาละล้าละลังนะ เวลาหลวงปู่ขาวท่านบอกว่าท่านอยู่โคนต้นไม้เหมือนกัน เวลาท่านจะออกจากที่นั่นมามันฝังใจ โอ๋ย มันมีความซาบซึ้ง

    นี่หลวงตาท่านบอกว่าท่านอยู่ที่วัดดอยธรรมเจดีย์ ท่านกราบแล้วกราบเล่า กราบแล้วกราบเล่า กราบอะไร? กราบพุทธวจนะ กราบคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ธรรมและวินัยเป็นศาสดาของเรา ท่านกราบธรรมๆ กราบธรรมที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ารื้อค้นขึ้นมา แล้ววางธรรมและวินัยคือพุทธวจนะให้เรา แต่เวลาเราจะปฏิบัติให้ถึงที่สุดแห่งทุกข์โดยปฏิบัติตามพุทธวจนะ ตอนนี้ในการปฏิบัติเขาบอกว่าพุทธพจน์ๆ ต้องทำตามพุทธพจน์ ทำตามนะ ตอนนี้เขาบอกไว้ใช่ไหม?

    เราเป็นคนใช่ไหมเราก็อยากมีเงินมีทอง มีเงินมีทองเราก็ไปซื้อเครื่องพิมพ์มาพิมพ์แบงก์กันที่บ้านเนาะ ต่างคนที่บ้านก็มีที่พิมพ์แบงก์คนละเครื่อง ต่างคนต่างพิมพ์แบงก์ออกมาใช้กันเอง เพราะอะไร? เพราะว่ามันพิมพ์ออกมา พุทธวจนะทำอย่างนั้นหรือ? พุทธวจนะท่านก็สอนใช่ไหม สอนให้เราต้องทำไร่ไถนา เราทำไร่ไถนาขึ้นมานะเราจะมีข้าวกิน เราจะมีอาหารกิน เราจะมีพืชเกษตรเอาไปแลกเปลี่ยนเป็นสินค้ามา สินค้ามาเราก็ได้เงินได้ทองมา

    ในการปฏิบัติขึ้นมาก็เหมือนกัน พุทธวจนะก็สอน แต่เวลาปฏิบัติขึ้นมา เป็นจริงขึ้นมาจะทำอย่างไร? ถ้ามีครูบาอาจารย์มันมีอุบายการสั่งสอนเรา

    ฉะนั้น บอกว่า

    ถาม : ถ้าเราฟังแต่พุทธวจนะ แล้วปฏิบัติตามพุทธวจนะโดยไม่สนใจคำครูบาอาจารย์เลย เราจะบรรลุธรรมได้ไหม?

    ตอบ : ได้ล้านเปอร์เซ็นต์เลย ถ้าทำตามพุทธวจนะแล้วทำได้จริงนะ แต่ทีนี้เรามีกิเลสใช่ไหม? พอเราทำพุทธวจนะเราก็อ้างพุทธวจนะไง กิเลสมันจะอ้าง อ้างพุทธวจนะเลยว่าพระพุทธเจ้าว่าอย่างนี้ ถ้าชอบใจอันนี้เป็นพุทธวจนะ ถ้าไม่ชอบใจนะอันนี้มันเจือปนเข้ามา มันเริ่มแยกแล้วนะ อะไรถ้าถูกใจนะพุทธวจนะ อะไรถ้าไม่ถูกใจนะ เพราะอะไร? เพราะกิเลสมันพาทำในพุทธวจนะไง มันไม่เป็นความจริงไง

    แต่ถ้าเวลาหลวงตาท่านไปหาหลวงปู่มั่น ขณะมีหลวงปู่มั่นนะท่านควบคุมอยู่ยังติดสมาธิอยู่ ๕ ปี เวลาหลวงตาท่านบอกว่าหลวงปู่มั่นลาก ลาก ลากเลยลากออกจากสมาธิ ลากนะลากจิตของท่านออกจากสมาธิมา ลากมาให้ใช้ปัญญาพิจารณาอสุภะ เวลาพิจารณาอสุภะเต็มที่เลยนะท่านก็ขึ้นไปหาหลวงปู่มั่น

    “นี่บอกให้ใช้ปัญญาแล้ว ให้ใช้ปัญญาแล้ว ตอนนี้ก็ใช้ปัญญาจนไม่ได้นอนเลย ไม่ได้นอนเลย พุทธวจนะทำจนเต็มที่เลย”

    ท่านบอกนั่นน่ะ “ไอ้บ้าสังขาร”

    “บ้าได้อย่างไรล่ะ? ถ้าไม่บ้า มันไม่ใช้ปัญญามันก็ชำระกิเลสไม่ได้”

    “นั่นแหละมันบ้าสังขาร”

    นี่พุทธวจนะทั้งนั้นเลยแหละ แต่เวลากิเลสนะเหมือนคนไข้ คนไข้นะ คนที่เป็นหมอ เวลาเขาเป็นโรคภัยไข้เจ็บเขายังต้องไปหาหมอให้หมอรักษาเขา คนที่เป็นหมอ เวลาเป็นโรคร้ายต้องผ่าตัดยังต้องให้หมอผ่าตัดให้หมอ หมอยังผ่าตัดตัวเองไม่ได้ คนที่เป็นหมอ เป็นโรคร้าย ไปหาหมอให้หมอผ่าตัดก็ไปเถียงกับหมอว่าต้องทำอย่างนั้น ต้องทำอย่างนั้น หมอบอกมึงนอนเฉยๆ เถอะจะผ่าตัดให้เอง เอ็งนอนเฉยๆ

    นี่เวลาเราบอกพุทธวจนะ กิเลสมันอยู่กับเรา กิเลสมันอยู่ในใจเรานี่แหละ เวลากิเลสอยู่ในใจเรา ถ้ามันถูกใจมันก็บอกเป็นพุทธวจนะ ถ้ามันไม่ถูกใจมันก็บอกว่าอันนี้ไม่ใช่ ไม่ใช่ แล้วปัจจุบันนี้คนที่มาสอนพุทธวจนะ พุทธพจน์ๆ นี่ต้องรู้ตัวทั่วพร้อม รู้ตัวทั่วพร้อม คอมพิวเตอร์มันรู้ตัวดีกว่า ไอ้เซฟทีคัทเวลาไฟมามันตัดเลย มันป้องกันไฟไหม้ได้ด้วย เซฟทีคัทมันมีของมัน มันป้องกันไฟไหม้เลย มันตัดให้ทุกอย่างเลย มันเป็นอะไรล่ะ? มันก็เป็นเซฟทีคัทไปตัดไฟไง มันไม่ได้ตัดกิเลสไง

    นี่ก็เหมือนกัน พุทธวจนะ สาธุนะ พระป่านี่ พระที่ปฏิบัติ หลวงตาเวลาท่านบรรลุธรรม ท่านกราบแล้วกราบเล่า กราบแล้วกราบเล่า แล้วหลวงตาเวลาท่านเทศน์นะท่านบอกว่าเวลาเหยียบหัวพระพุทธเจ้าไป ธรรมและวินัยเป็นศาสดาของเรา เหยียบวินัยไป คือทำผิด แม้แต่ความซื่อสัตย์กับตัวเองยังไม่ซื่อสัตย์ ถ้าความซื่อสัตย์กับตัวเองมันก็จะไม่พูดจาแบบไม่มีเหตุไม่มีผล เวลามุสาโกหกนี่นะมันผิดศีล แต่นี้มันยิ่งกว่าผิดศีลเพราะมันรู้ถูก รู้ผิด แล้วพูดออกไป นี่เหยียบหัวพระพุทธเจ้าไปแล้วแสดงธรรม พุทธวจนะไหม?

    เวลาบอกพุทธวจนะๆ เอ็งรู้จริงหรือ? พูดเรื่องพุทธวจนะแล้วมันเป็นจริงอย่างนั้นหรือเปล่า? มันเป็นจริงตามที่พุทธวจนะบอกไว้อย่างนั้นไหม? สติ สมาธิ ปัญญามันเป็นอย่างนั้นไหม? ที่ว่าเป็นปัญญาๆ นี่เอาพุทธวจนะมาข้อหนึ่ง แล้วก็ตีแผ่ แล้วก็ตีกระจาย เอาพุทธวจนะแล้วก็อธิบายๆ มันเป็นพุทธวจนะไหม? มันเป็นความจริงอย่างนั้นไหม? ที่บอกเป็นพุทธวจนะ แล้วพูดอธิบายมันเป็นอย่างนั้นไหม? ปัญญาที่พระพุทธเจ้าปรารถนา ปัญญาพระพุทธเจ้าที่สั่งสอน ปัญญาที่พระพุทธเจ้าต้องการทำมันเป็นอย่างนั้นไหม? แต่เวลาหลวงปู่มั่นของเรา เวลาท่านพูดออกมา เวลาหลวงตาท่านติดสมาธิ ท่านบอกว่า

    “มหา จิตเป็นอย่างไร?”

    “สงบดีครับ สงบดีครับ”

    จนได้จังหวะ “สงบแบบนี้มันสงบแบบเศษเนื้อติดฟัน”

    หลวงตาท่านบอกว่า “ถ้าเป็นเศษเนื้อติดฟัน แล้วสัมมาสมาธิ พุทธวจนะ มรรค ๘ สัมมาสมาธิของพระพุทธเจ้าว่าอย่างไร? สัมมาสมาธิของพระพุทธเจ้าที่เป็นสมาธิ นี่เป็นสัมมาสมาธิ”

    หลวงปู่มั่นบอกว่า “สัมมาสมาธิของพระพุทธเจ้า สัมมาสมาธิมันไม่มีสมุทัย สัมมาสมาธิของท่านมันมีสมุทัย สมุทัยคือตัณหาความทะยานอยาก สมุทัยคือกิเลส มันมีกิเลสอยู่ในสมาธินั้น”

    อืม มหานะ เรียนพุทธวจนะมานะ งงเลยล่ะ งง ไปไม่ถูก หมุนเลย งงเลย เอ๊ะ น่าจะจริงของท่าน เห็นไหม พุทธวจนะ สัมมาสมาธิๆ สัมมาสมาธิของพระพุทธเจ้าเป็นอย่างไร? หลวงปู่มั่นบอกว่าสัมมาสมาธิของพระพุทธเจ้าไม่มีสมุทัย สัมมาสมาธิของท่านมีสมุทัยในสมาธินั้น สมาธิกิเลสไง จนท่านแก้ไข

    นี่เราจะบอกว่าถ้าไม่ฟังคำสอนของครูบาอาจารย์เลย ถ้าครูบาอาจารย์ที่เป็นธรรมนะ แต่ในปัจจุบันนี้ครูบาอาจารย์ที่ไม่เป็นธรรมอ้างพุทธวจนะ เห็นไหม นี่ดูจิตกันไป ไม่ต้องใช้ปัญญา สติถ้าตั้งใจมันจะเป็นสติปลอม มีสติปลอม สติจริงอีกนะ สติตัวปลอม สติตัวจริง ปัญญาตัวปลอม ปัญญาตัวจริง ปัญญาโจร โอ๋ย พุทธวจนะเนาะ พุทธวจนะเป็นอย่างนั้น ครูบาอาจารย์ถ้าไม่เป็นจริงมันก็พูดออกไปด้วยความฟั่นเฝือ แต่ถ้าเป็นครูบาอาจารย์จริงนะท่านให้อุบายได้ แล้วครูบาอาจารย์จริงอยู่กับท่านเถอะ

    คนอยู่ใกล้ชิดกัน ศีลจะเห็นได้ต่อเมื่อเราอยู่ใกล้ชิดกัน ปัญญาจะเห็นได้ต่อเมื่ออธิบายธรรมะนี่แหละ ถ้าอธิบายธรรมะไม่มีเหตุมีผล อธิบายธรรมะเป็นเหมือนกับวังวนอยู่ในวงกิเลส นี่เราเข้าใจได้ แต่ถ้าครูบาอาจารย์ที่เป็นจริงนะเหมือนเรือวิ่งเข้าฝั่ง ไม่ใช่เรือไม่มีหางเสือ วนอยู่นั่นแหละ หมุนอยู่นั่นแหละกลางทะเล ไปไหนไม่พ้น แต่ถ้าเป็นครูบาอาจารย์ที่มีหลักมีเกณฑ์นะ เรือนั้นจะมีหางเสือ จะแล่นเข้าสู่ฝั่ง แล่นเข้าสู่ฝั่ง ปัญญาของเราจะอยู่ฝั่ง นี้ครูบาอาจารย์ที่เป็นประโยชน์ไง

    ฉะนั้น

    ถาม : ถ้าฟังพุทธวจนะ ปฏิบัติตามพุทธวจนะโดยไม่ฟังครูบาอาจารย์ สามารถบรรลุธรรมได้ไหมครับ

    ตอบ : ได้แน่นอน ได้แน่นอน ได้ แต่คนที่จะผ่านมานี่ขอดูสักคนหนึ่ง มีสักคนไหมที่จะไปได้ ยากนัก แต่ถ้ามีครูบาอาจารย์ ครูบาอาจารย์ท่านทุกข์ยากแสนเข็ญมา องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าปฏิบัติมาองค์เดียว ตรัสรู้องค์เดียวนะ นี่สอนสามโลกธาตุ

    ครูบาอาจารย์ที่ท่านพ้นแล้วนะท่านจะมีวิธีการบอกเรา มีวิธีการคอยแนะนำเรา อันนี้เป็นประโยชน์มาก แต่ส่วนใหญ่แล้วครูบาอาจารย์ที่สับสน ครูบาอาจารย์ที่ไม่ได้ประโยชน์อันนั้นก็เยอะ ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วมันยิ่งเหลวไหลใหญ่ แต่ถ้าเป็นครูบาอาจารย์ที่เป็นความจริง แล้วจะพิสูจน์กันอย่างไรล่ะ? จะพิสูจน์กันอย่างไร? พิสูจน์เราทำสมาธิของใจ เราปฏิบัติเถอะแล้วถามท่าน เรารู้เราเห็นมา ถ้าท่านตอบไม่ถูก ไปไหนมาสามวาสองศอก อันนั้นมันจานกระเบื้อง แต่ถ้าเป็นอาจารย์ของจริง ครูบาอาจารย์ที่ดีท่านจะชี้นำได้

    พุทธวจนะนี้เป็นธรรมและวินัย เป็นศาสดาของเรา เป็นพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นแก้วสารพัดนึก เราเคารพบูชามากนะ พระที่ปฏิบัติมา ถ้าไม่เคารพองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่เคารพธรรมและวินัย เป็นพระได้อย่างใด? ทีนี้บอกว่าถ้าคำสอนของครูบาอาจารย์ ถ้าครูบาอาจารย์ท่านเคารพอยู่แล้ว แล้วท่านปฏิบัติได้ด้วยมันยิ่งบอกอุบาย บอกวิธีการ บอกให้เราชนะตัวเอง ชนะกิเลสของเราเอง ไม่ใช่ว่าพอใจก็เป็นพุทธวจนะ ไม่พอใจก็บอกว่าเขาแต่งเติมเข้ามาในพระไตรปิฎก เอาแต่ใจ แล้วทำแต่ความรู้สึกของตัว แล้วก็เลยวนอยู่ในกิเลสไม่ได้ไปไหนเลย ไม่ได้ปฏิบัติไม่ได้ก้าวหน้าเลย

    แต่ถ้าเราฟังแล้วเราปฏิบัติ เพราะองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบอกแล้วกาลามสูตรไม่ให้เชื่อใคร ไม่ให้เชื่อแม้แต่ครูบาอาจารย์ของเรา ไม่ให้เชื่อใครทั้งสิ้น แล้วเราปฏิบัติมันพิสูจน์ได้ไง พุทธวจนะก็สุดยอด แล้วครูบาอาจารย์ที่เป็นจริงคอยชี้คอยแนะ เหมือนนักมวยมีพี่เลี้ยง พี่เลี้ยงคอยให้น้ำ คอยให้กำลังใจ คอยให้ทุกๆ อย่าง สุดยอดมากเลย แต่ถ้าพี่เลี้ยงเขาไปเล่นการพนัน แล้วเขาเล่นว่าเราแพ้ด้วยนะ เขาจะหลอกให้เรา ให้น้ำก็ให้น้ำผสมยาสลบ ให้เราแพ้ ถ้าพี่เลี้ยงของเราไปเล่นพนันไว้เล่นตรงข้าม แล้วคอยขึ้นมาเป็นพี่เลี้ยงเราด้วย ครูบาอาจารย์อย่างนี้ไม่ควรคบ เอวัง
     

แชร์หน้านี้

Loading...