เล่าขานตำนานสยาม ตอน มนต์ตราแห่งคำสาบ "เวียงโยนกนาคพันธุ์"

ในห้อง 'ท่องเที่ยว - อาหารการกิน' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 27 ตุลาคม 2015.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,439
    เล่าขานตำนานสยาม ตอน มนต์ตราแห่งคำสาบ "เวียงโยนกนาคพันธุ์"
    [​IMG]
    ปลาไหลเผือกปรากฏขึ้นในนครโยนก
    เกินกว่าพันปีมาแล้ว เมืองนาคพันธ์ สิงหนวัตร หรือ นครโยนก เกิดจาก การใช้กฎ กลอุบายความโหดร้ายของพระราชา ที่ไม่นับถือธรรมเนียมปฏิบัติ หลังจากนั้นหลายศตวรรษ ของการปกครองที่ดีแผ่นดินก็เต็มไปด้วยโรคระบาดและปัญหาต่างๆวันหนึ่งผู้ติดตามพระราชาจับปลาไหลเผือกตัวใหญ่ได้ในแม่น้ำกกและได้ถวายต่อกษัตริย์ของพวกเขา พระราชารู้สึกประหลาดใจว่า มันไม่เพียงแต่เป็นสีขาว แต่มันยังตัวใหญ่เหมือนกับ ลำตัวของ ปาล์มใบพัด พระองค์ได้รับสั่งให้ผู้ติดตามฆ่าปลาไหลและแบ่งปันให้บริวารในวังพวกเขาต่างกินและดื่มน้ำเมากันอย่างสนุกสนานในค่ำนั้น ต่อมาท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้ม และฝนเริ่มตกหนัก ฟ้าร้องดังสนั่น และสว่างไสว อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน จากนั้นความเงียบเริ่มย่างกลายเข้ามา จนถึงเที่ยงคืน ตอนนั้นพายุเริ่มขึ้นอีกครั้ง เกิดขึ้นรุนแรงกว่าครั้งแรก แต่พอเริ่มสว่าง เหตุการณ์ต่างๆ ก็เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ จากนั้นพายุก็เริ่มขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เกิดแผ่นดินไหวฟ้าผ่า เวลาแห่งความโหดร้ายเกิดขึ้นยาวนาน เมืองเริ่มพังทลายลงมาและน้ำท่วม จนถึงเช้าอีกวันหนึ่ง เมื่อพระอาทิตย์ เริ่มทอแสงอีกครั้ง ทุกอย่างก็หายไป และพังทลายหายไปใต้น้ำหมด เว้นแต่กระท่อมหญ้าหลังเล็กหลังหนึ่ง มีแม่ม่ายสูงวัยอาศัยอยู่ เมื่อชาวบ้านจากเมืองอื่น มาเห็นต่างรู้สึกสงสารผู้ที่หายสาบสูญจากนครโยนก ชาวบ้านได้ถามหญิงม่ายแก่ว่าเกิดอะไรขึ้น นางได้บอกว่า หลังจากเกิดพายุรอบแรก มีชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งมาหาเธอ แล้วกล่าวกับนางว่า นางจะไม่เป็นอะไรเพราะ นางไม่ได้กินปลาไหลยักษ์ นางก็บอกว่าเมื่อตอนที่แบ่งเนื้อปลาไหลกินกันนั้น นางยังไม่กินสักนิด เพราะนางไม่กินเนื้อสัตว์ทุกประเภท แล้วชายหนุ่มคนนั้นก็บอกว่า ดีแล้ว คืนนี้ได้ยินเสียงดัง หรือ เห็นฟ้าผ่า ไม่ต้องกลัว จะปลอดภัยถ้าอยู่ในกระท่อม อย่าออกไปข้างนอกเด็ดขาด จากนั้น ชายหนุ่มก็เดินกลับไปข้างนอก แล้วเดินหายไป จากนั้นไม่นานความรุนแรงของพายุก็พัดโหมกระหน่ำอีกครั้งหญิงม่ายแก่รู้สึกตกใจเป็นอย่างมากและรู้สึกกลัว นางต้องการเปิดประตูเพื่อ มองดูข้างนอก แต่ก็ไม่กล้า เพราะคำแนะนำของชายหนุ่มคนนั้น และเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเหมือนคำพูดของเขาทั้งหมด นางอยู่ในกระท่อมจนสว่าง ต่อจากนั้นเมื่อนางได้เปิดประตูออกมานางก็ตกใจต่อภาพเบื้องหน้า ที่เป็นบึงใหญ่บริเวณกว้าง แทนที่เมืองหลวงของนครโยนก นางได้บอกกับชาวบ้านว่าผู้ที่เข้ามาครอบครอง บริหารเมืองนี้ โดยไม่มีศีลธรรมเป็นเหตุให้เกิดความหายนะ ดังตังอย่างกษัตริย์ ผู้ที่หายสาบสูญ ได้สังหารเอามงกุฎจ้าชาย เพื่อต้องการ ยกตำแหน่งของตนเองขึ้น การฆาตกรรมที่ไตร่ตรองล่วงหน้านี้เป็นผลให้ตนเองต้องจบชีวิตลง จากนั้น นางก็ได้เปิดเผยว่า กษัตริย์ของพวกเขา ผู้ที่ชาวบ้านคิดว่าสิ้นพระชนม์แล้วแต่ก็ไม่เป็นอะไร คนที่ถูกฆ่าตายเป็นลูกของนาง ตอนนี้เธอได้เป็นผู้นำชุมชน โดยชอบธรรมอยู่ไม่ไกลจากบ้านชุมชนชาวบ้านที่อาศัยรอบๆ ได้สร้างเมืองใหม่แห่งหนึ่ง ห่างไปประมาณ 5 กิโลเมตร และขนานนามที่แห่งนี้ว่า “เวียงพฤกษา “ ที่ที่ผู้สืบทอดอย่างถูกต้อง ขึ้นครองบัลลังก์ตามหน้าที่
    ที่มา http://palungjit.org/threads/ขอเชิญร่วมบุญสร้างกำแพงแก้ววิหารหลวงพ่อโต-วัดกุฎีทอง-อยุธยา.553352/
     

แชร์หน้านี้

Loading...