เวลาสวดมนต์ทำไมต้องหาวตลอด

ผมสวดมนต์ทุกครั้งไม่ว่าจะสั้น ยาว หรือภาวนาพระคาถาเวลาขับรถก็ตามจะหาวขึ้นมาทันที และแน่นหน้าอกเป็นบางครั้ง พอสวดจบหรือภาวนาจบก้ไม่มีอาการหาวหรือง่วงอะไรเลย ขอคำชี้แนะจากท่านผู้รู้ด้วยครับ

 

ไม่แน่ใจนะครับ...ที่เคยรู้มา

ถ้าสวดมนต์แบบมีสมาธิจิตในมนต์นั้น ๆ เหมือนกับว่า เป็นอาการของปิติหรือไม่ก็มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาร่วมสวดมาร่วมโมทนากับเราครับ

หรือไม่ก็อาจจะเกิดจาก อ๊อกซิเจนน้อยเกินไปก็อาจจะหาวได้ครับ

 

ขอคุณครับเฮียปอ ตำมะลัง บางครั้งตั้งใจสวดมนต์จะเหมือนลมตีขึ้นมาจุกที่คอ หนักหน่อยลมออกหู อย่างนี้ใครเป็นบ้างครับ

 

อืม มีคนเป็นเหมือนกันแฮะ แต่ของผมแค่หาวครับ

 

ผมอ่ะหาวแบบจะเป็นจะตายครับ อิอิ

 

เป็นเหมือนกันแต่ไม่ทุกครั้งครับ จะเป็นตอนที่สวดมนต์หลังห้าทุ่มครับ

 

อาการหาว แสดงว่าอยากจะหลับแล้วสิท่า......55555 (ล้อเล่น)

 

ของผมพอหาวเสร็จ หลังมันก็เอนแล้วล้มโดยอัตโนมัติเลยครับ ไม่รู้ทำไม
จากนั้นภาพมันก็จะดำมืดสนิท ลืมตาอีกทีเช้าเลย 555555555555+

 

ผมเองเคยกล่าวคำตามพระเวลาไปถวายเพล หรือสังฆทาน หรือร่วมพิธีกรรมต่างๆ ผมเองมักจะหัวเราะ ไม่รุ้ทำไม ตอนบวชต้องพยายามข่มใจไม่ให้หัวเราะ แต่ก็รอดมาได้

 

ผมก็เป็นครับนึกว่าผมป็นคนเดียว

 

ผมก็เป็นครับ

 

เหมือนกันเลย พอ ว่า นโม... มันหาว แล้ว ..ผมเข้าใจว่า "ขันธมาร"มันประกาศสงครามครับ เพราะเราตั้งใจทำความดี เหมือนกับเราไปแหย่มันให้รู้ตัว เลยส่งหมัดแย๊บๆ ของมันก็ ความง่วงหงาวหาวนอนมาทักทาย ขำๆครับหย่าซีเรียส !

 

เป็นอีกหนึ่งคนที่สวดไปหาวไป มีอาการง่วงมาปนด้วยเล็กน้อย พอสวดเสร็จตาสว่างดังเดิม(ไม่รู้ทำไม สงสัยคงกะขี้เกียจ)

 

จิตเริ่มเป็นสมาธิ นิวรณ์5 เลยเล่นงาน

 

แฮะ พ้มก็ด้วยครับ พอเรี่ม บทกราบพระรัตนตรัย หาวแล้ว บังคับตัวเองแล้วปากไม่หาวแต่น้ำตามันไหล

 

เป็นเหมือนกันค่ะหาวตลอดจนบางครั้งคิดว่าจะหาวอะไรกันนักหนาทั้งๆที่ไม่ได้ง่วงเลยนะค่ะ

น้ำตาก็ไหล พอสวดเสร็จก็ไม่ง่วง ไม่หาวเลย อยากรุ้เหมือนกันว่าเพราะอะไร

 

เป็นเหมือนกันครับน่าจะเกิดจากมารผจญเมื่อเราจะทำความดี ถ้าตั้งใจทำความดีก็เอาชนะ
ได้ครับ ขออนุโมทนา

 

ไม่เหมือนน้ำเวลานั่งฟังพระเทศน์ทีไรอยากหลับ

 

v'k-องไหนลงงับ

 

ถีนมัทธะ ครับ

สาเหตุของถีนมัทธะมี 5 ประการ
1.ความไม่ยินดี
2.ความขี้เกียจ
3.ความอ่อนเพลีย
4.การเมาอาหาร เมาอากาศ
5.จิตหดหู่ ท้อแท้

วิธีละถีนมัทธะ 6 ประการ
1.การกำหนดประมาณการบริโภค
2.รู้จักผลัดเปลี่ยนอิริยาบถ เดินจงกรมก่อนก็ได้
3.การใส่ใจถึงอาโลกสัญญา นึกถึงแสงสว่าง
4.การอยู่ในที่แจ้ง อากาศถ่ายเท ไม่ควรมืดทึบ
5.ความมีกัลยาณมิตรที่ไม่มีความโงกง่วง
6.การเจรจาแต่เรื่องที่สบาย และก็อย่าเครียด