เสด็จแม่พันธุรัตน์ ของขลังป้องกันคลื่นลม อุดมลาภผล

ในห้อง 'กระทู้เก่า' ตั้งกระทู้โดย lekpluto, 10 พฤษภาคม 2008.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. lekpluto

    lekpluto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,064
    นางพันธุรัตน์ หรือ เสด็จแม่พันธุรัตน์ หลายท่านอาจจะคุ้นหูมาแต่เยาว์วัย และหลายท่านอาจจะยังไม่ลืมเลือนชื่อนี้ หากยังจำเรื่องราวของพระสังข์ทองในวรรณคดีไทย อันเป็นบทพระราชนิพนธ์ของล้นเกล้า ฯ รัชกาลที่ ๒ แห่งบรมราชจักรีวงศ์กันได้ เพราะพระนางเป็นผู้ช่วยชีวิตของ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤษภาคม 2008
  2. guawn

    guawn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    10,642
    ค่าพลัง:
    +42,113
    แปลกดีครับ
     
  3. ครึ่งชีวิต

    ครึ่งชีวิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,178
    ค่าพลัง:
    +15,103
    [​IMG]สาธุ ขอรับ
     
  4. lekpluto

    lekpluto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,064
    ผมมาพิจารณาเรื่องราวของ "เจ้าเงาะ" ที่รูปชั่วตัวดำ ทำท่าทางบ้าใบ้ ไม่สมประกอบ เมื่อคราวที่ต้องถูกนำตัวไปให้นางรจนา พระราชธิดาท้าวสามลเลือกเป็นคู่ครอง ซึ่งในเรื่องบอกว่า นางรจนาเห็นรูปทองในร่างเจ้าเงาะ เป็นเพราะพระอินทร์บันดาลให้เห็น แต่ในความเป็นจริงที่เรามาวิเคราะห์กันอีกแง่หนึ่ง เป็นไปได้ที่นางรจนา ต้องมนต์มหาจินดามณีของเจ้าเงาะก็เป็นได้ ดังนั้น มหาจินดามณีมนต์ จึงเป็นพระพุทธมนต์ที่พระเกจิอาจารย์รุ่นเก่าท่านผูกขึ้น เพื่อให้บังเกิดเมตตามหานิยม อุดมโชคลาภ อย่างแท้จริง ใครที่มีพระผงยาจินดามณี ไม่ว่าจะเป็นของอาจารย์ท่านใด ที่สร้างอย่างถูกต้องตามตำราแล้วล่ะก็ หากใช้ควบคู่กับมหาจินดามณีมนต์ ย่อมบังเกิดผลที่ตนต้องการในเร็ววันแน่

    ขอเตือนว่าอย่าไปเสาะหาผงยาจินดามณี ไม่ว่าจะเป็นพระพิมพ์ หรือลูกกลอน จากแหล่งที่เราไม่รู้ที่มาที่ไป ควรเสาะหาจากวัดที่สร้างโดยตรงเป็นดีที่สุด มิเช่นนั้นอาจเจอ "ยาปลอม" ขึ้นมา ถึงคราวคับขัน ผลุนผลันกินเข้าไป นอกจากจะไม่ฟื้นแล้ว อาจทำให้ตายเร็วขึ้น หรือตายอย่างทุกข์ทรมานเพราะพิษยาได้นะครับ
     
  5. sunjiaa

    sunjiaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    670
    ค่าพลัง:
    +2,755
    ไปหาที่วัดเลยคับ น่าจะยังพอเหลือคับ สำหรับ พระ ผงยาจินดามณีคับ
    มีหลายอย่างเหมือนกัน
    แต่ราคาก็เริ่มพุ่งแล้วคับ(บางอย่าง)
     
  6. lekpluto

    lekpluto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,064
    ได้ภาพวัตถุมงคลเสด็จแม่พันธุรัตน์ เป็นเนื้อตะกั่วขนาดเท่ากับหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า เป็นเนื้อตะกั่วผสมดีบุก แม้ภาพพิมพ์จะไม่ชัดนัก แต่ก็พอมองออกว่าเป็นรูปท่านแม่ ในท่า "เทวดาเหาะ" (เหมือนนางมณีเมขลา) เจ้าของเขาว่ามีอายุถึงร้อยกว่าปี อาจจะเป็นของหลวงปู่อ้นก็ได้ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,439
    สวยครับอ.เล็กแล้วนางยักษ์ที่แบกเรือนแก้วพุทธชินราชนี่เป็นเสด็จย่าพันธุรัติหรือเปล่าครับลงข้อมูลให้ด้วยนะครับ
     
  8. ปทุมธานี

    ปทุมธานี ยอมไม่ทำดีกว่าทำร้ายคนอื่น

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    1,876
    ค่าพลัง:
    +1,217
    พี่เล็ก ข้อมูลแน่เนื้อหาเยี่ยมจริงๆ ครับ อย่างที่คุณอดุลย์ เล่าให้ฟังจริงๆ
     
  9. lekpluto

    lekpluto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,064
    ขอบคุณมากครับ คุณปทุมธานี น้องของคุณหน่องทุกคน เลยเป็นน้องของผมทุกคนโดยอัตโนมัติ เพราะผมรับคุณหน่องเป็นน้อง เหมือนหนังจีนน่ะครับ สาบานตนเป็นพี่น้องร่วมสาบานกัน แต่พวกเราเป็นพี่น้องที่เคยร่วมบุญกุศลร่วมกัน มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา และมีอุดมการณ์แห่งความเป็นคนดีมีศีลธรรม พร้อมที่จะจรรโลงพระพุทธศาสนาไว้ให้ลูกหลานเราร่วมกัน อย่าปล่อยให้พระพุทธศาสนาของเราต้องล่มจมอับปาง ในมือของเรา หรือลูกหลานที่ถัดต่อจากเราไปเลยครับ มีลูกสอนลูก มีหลานของหลาน พาเขาเข้าวัด ฟังธรรม เดินตามแนวทางของพระพุทธองค์อย่างถูกต้อง ชอบด้วยสัมมาทิฐิ ไม่หลงเดินทางผิด

    สำหรับวัตถุมงคลของพระเกจิอาจารย์ยุคก่อน ท่านสร้างเพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา และสงเคราะห์ชาวบ้านในเรื่องต่าง ๆ เช่น คุ้มครองเวลาไปรบทัพจับศึก คุ้มครองเวลาเดินทางเข้าป่าเข้าพกเข้าดง จากสัตว์ร้าย งูเงี้ยวเขี้ยวขอ ป้องภัยพิบัติจากธรรมชาติ โรคห่า โรคระบาด ฟ้าผ่า ฯลฯ ขนาดเด็กตกน้ำก็ยังไม่จม หมากัดไม่เข้า คุ้มครองเคหะสถานบ้านเรือนจากโจรผู้ร้าย เช่น วัวธนู ควายธนู เอาไว้เฝ้าบ้าน ฯลฯ

    ขอรับรองว่า วัตถุมงคลรุ่นเก่าก่อน ท่านปลุกเสกด้วยพระเวทวิทยาคม ที่เป็นบทพระพุทธมนต์ เป็นไสย์ขาว ต่างกับวัตถุมงคลของพระเกจิอาจารย์ยุคใหม่ แม้จะสูงอายุเป็นหลวงปู่ก็ตาม แต่หลายองค์ท่านเน้นในเรื่องของ "ไสยศาสตร์มนต์ดำ" ซึ่งมีภูติผีปีศาจคอยกำกับ มีส่วนผสมที่เป็นสิ่งอัปมงคล เช่น ว่านสาวหลง หรือว่านดอกทอง กระดูกผี เช่น ผงพรายกุมาร ฯลฯ เน้นในเรื่องของเสน่ห์ยาแฝด เมตตามหานิยม รูปลักษณ์ก็ไม่ใช่พระพุทธเจ้า เป็นรูปหญิงนั่งถ่างขาคลอดลูก, เป็นชายหนุ่มที่แวดล้อมด้วยสาว ๆ รอบด้าน ฯลฯ อย่างนี้อันตรายต่อสังคมชาวพระเครื่อง และสังคมไทยในภายภาคหน้าครับ เพราะมุ่งเน้นในเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ในเรื่องของอำนาจพระพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ อำนาจแห่งกุศลผลบุญ และกฎแห่งกรรม สร้างความลุ่มหลงมัวเมาให้กับคนที่อยากได้อะไรมาอย่างง่าย ๆ ทำอะไรก็อยากให้ได้ดังใจ โดยไม่คำนึงถึงความทุกข์ยาก ลำบากเดือดร้อนของผู้อื่น เหมือนดังคำพังเพยที่ว่า ไม่ได้ด้วยเล่ห์ ก็ต้องเอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ ก็ต้องเอาด้วยคาถา

    ผมเป็นห่วงครับ กลัวว่า ภายภาคหน้า จะไม่มีใครแขวนรูปพระพุทธ และรูปพระสงฆ์กัน แล้วพระพุทธศาสนาของเราจะเป็นอย่างไร ขอให้พวกเราทุกคนลองใคร่ครวญพิจารณากันดู ด้วยเหตุนี้แหละครับ ผมจึงต้องละทิ้งงานในเวปของตนเอง เข้ามาชี้แจง แสดงความรู้ ความเห็น เขียนบทความต่าง ๆ ขึ้นมา เพื่อให้เห็นว่า ของเก่า ของโบราณ ท่านสร้างวัตถุมงคลขึ้นมาเพื่ออะไร ? และแนวทางในการพกพา หรือปฏิบัติตนต่อพระเครื่องรางของขลังต่าง ๆ ควรเป็นเช่นไร ?

    คำถามของคุณ Joni เป็นคำถามที่ดีมากเลยครับ ผมเคยเห็นรูปดังกล่าวเหมือนกัน อย่างไรถ้าหากคุณพอหารูปมาได้ นำมาลงเผยแพร่หน่อยได้ไหมครับ เพราะผมอาจจะต้องนำไปให้ผู้รู้ หรือผู้ที่เขาอาวุโสกว่า อยู่ในวงการพระเครื่องมาก่อน หรืออาจให้เพื่อนฝูงที่ทำงานด้านประวัติศาสตร์ โบราณคดี โดยเฉพาะพวกศิลปากรที่เป็นพวกจิตรกรรม ภาพวาดทางพระพุทธศาสนา เขาคงรู้เรื่องดี ช่วยกันหาข้อมูลให้น่ะครับ เพราะในทัศนะของผมในขณะนี้ ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับเสด็จแม่พันธุรัตน์ครับ แม้รูปลักษณ์จะเหมือนหรือคล้ายคลึงกันก็ตาม

    ผมยินดีที่จะนำบทความที่ผมเขียนขึ้นมาเอง ไม่ได้ไปคัดลอกใคร มีข้อมูลแหล่งที่มาอย่างถูกต้องชัดเจน มาเผยแพร่ในเวปพลังจิต หวังว่าคงจะได้รับความสนใจจากทุกท่านไม่มากก็น้อย หากมีข้อสงสัยอะไรเพิ่มเติมหลังจากอ่านบทความแล้ว ก็ถามมาได้ครับ ถ้ารู้ก็จะตอบให้ทันที ถ้าไม่รู้ก็จะพยายามเสาะหาจากแหล่งความรู้ และผู้รู้มาให้ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤษภาคม 2008
  10. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,647
    ค่าพลัง:
    +16,580
    เท่าที่ผมทราบหลวงปู่อ้น ท่านเป็นสหธรรมิกกับหลวงพ่อแก้ววัดเครือวัลย์(ท่านเป็นผู้สร้างพระปิดตาราคาหลักล้านอันโด่งดังนั่นเอง)
     
  11. lekpluto

    lekpluto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,064
    ขอบคุณครับคุณ phumiput ที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติม ประวัติของหลวงปู่อ้น วัดเหมืองใหม่ ดูค่อนข้างเลือนลาง ทราบว่าท่านเกิดในสมัยรัชกาลที่ ๑ และมีอายุยืนยาวมาถึงช่วงต้น รัชกาลที่ ๕ (พ.ศ. ๒๓๔๐ ถึง พ.ศ.๒๔๑๔) เป็นพระร่วมสมัยกับสมเด็จพระพุฒจารย์ (โต) พรหมรังสี แต่อ่อนอาวุโสกว่ากันประมาณ ๑๐ ปี (สมเด็จโต ชาตะ ๒๓๓๑ มรณภาพ ๒๔๑๕)

    สำหรับหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์นั้น ประวัติก็ลางเลือนเช่นกัน แต่ตำนานเล่ากันว่า ท่านเกิดในราวปลายรัชสมัย รัชกาลที่ ๒ (รัชกาลที่ ๒ สวรรคตในปี พ.ศ. ๒๓๖๗) สมมติว่าหลวงพ่อแก้วเกิดในปี พ.ศ. ๒๓๖๗ ถ้าเอา ๘๐ บวก ๒๓๖๗ ท่านก็จะมรณภาพในราวปี พ.ศ. ๒๔๔๓ หรือในราวปลายรัชกาลที่ ๕ (รัชกาลที่ ๕ สวรรคต พ.ศ. ๒๔๕๒) เราจะเห็นว่า หลวงพ่อแก้วเป็นพระร่วมสมัยกับสมเด็จโต และหลวงปู่อ้น วัดเหมืองใหม่ แต่อ่อนอาวุโสกว่ากันหลายปี (เกือบ ๓๐ ปี) ไม่แน่นะครับ หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ ซึ่งเป็นองค์เดียวกับ หลวงพ่อแก้ว วัดปากทะเล เพชรบุรี อาจจะเป็นลูกศิษย์ของสมเด็จโต และหลวงปู่อ้น ก็ได้ เนื่องจากพื้นเพของหลวงพ่อแก้วนั้น เป็นคนบางแก้ว จ.เพชรบุรี อีกทั้งอัมพวา สมุทรสงคราม (ซึ่งเป็นที่ตั้งวัดของหลวงปู่อ้น และบ้านเกิด ร.๒ พระราชบิดาของสมเด็จโต) กับ เพชรบุรี ไม่ได้ห่างไกลกันเลย และยังเป็นเส้นทางเดินเรือที่ต้องผ่านด้วย

    เมื่อคราวที่สมเด็จโตท่านเดินทางไปจังหวัดเพชรบุรีทางเรือ เมื่อเรือออกปากอ่าวไป จนเรือเกือบจะถึงเมืองเพชรอยู่แล้ว ปรากฎว่า เจอมรสุม สมเด็จโตท่านถือพัดใบลาน ไปยืนที่หัวเรือ แล้วโบกไปมาพร้อมกับบริกรรมพระคาถา แค่ชั่วอึดใจ คลื่นลมมรสุมก็สงบราบคาบ แสดงว่า วิชาสงบคลื่นลม พายุ เป็นของมีจริง และพระอาจารย์แถบชายทะเลเกือบทุกวัด จะต้องมีการสืบทอดวิชานี้ไว้ เพื่อช่วยเหลือชาวบ้าน และวัดของตนจากพายุมรสุม

    เมื่อราว ๑ เดือนที่ผ่านมานี้ ได้รับการบอกเล่าว่ามีหนังสือพระเครื่องฉบับหนึ่ง น่าจะเป็นดัชนีพระ หรือข่าวพระเครื่องนี่แหละครับ ลงรูปโฆษณาวัตถุมงคลเสด็จแม่พันธุรัตน์ เป็นไม้เนื้อขนุนแกะ ของหลวงปู่รอด วัดบางน้ำวน สมุทรสาคร เขาตีราคาไว้ สี่หมื่นห้าพันบาท ผมยังไม่เห็นรูป หากใครมี ลองสแกนนำมาลงเผยแพร่ในกระทู้ ก็จะเป็นการดี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤษภาคม 2008
  12. lekpluto

    lekpluto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,064
    จากคำถามของคุณ Joni ที่ถามว่า

    แล้วนางยักษ์ที่แบกเรือนแก้วพุทธชินราชนี่เป็นเสด็จย่าพันธุรัตน์หรือเปล่าครับลงข้อมูลให้ด้วยนะครับ


    ผมไปหารูป และข้อมูลมาได้แล้ว หมายถึง ยักษ์ (ไม่ใช่ นางยักษ์) สองตน ที่เฝ้าอยู่ด้านซ้ายขวาขององค์พระพุทธชินราช ใต้เรือนแก้ว ใช่ไหมครับ ? ถ้าใช่ผมก็ขอตอบให้ทราบว่า

    รูปหล่อยักษ์ที่ยืนอยู่ทางด้านขวามือของพระพุทธชินราช ในท่าทางเดียวกับแม่พันธุรัตน์นั้น คือ อาฬวกยักษ์ (อ่านว่า อา-ระ-วะ-กะ-ยัก) เป็นยักษ์ที่กล่าวไว้ในพระสูตร คือ อาฬวกสูตร ได้รับการโปรดให้ละมิจฉาทิฐิ (เห็นผิด) เปลี่ยนมาเป็น สัมมาทิฐิ (เห็นชอบ) จนเคารพเชื่อมั่นในคุณพระรัตนตรัย โดยมีเนื้อหาในพระสูตรโดยย่อ คือ

    สมัยหนึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ เมืองอาฬวีพระเจ้าอาฬวีกษัตริย์ผู้ครองเมืองได้เสด็จออกล่าสัตว์ถูกอาฬวกยักษ์จับพระองค์ได้และจะฆ่าเสีย พระองค์จึงทำสัญญากับยักษ์ว่า ถ้าปล่อยพระองค์ไป พระองค์จะส่งมนุษย์มาให้กินทุกวัน ยักษ์ก็ยอมตามนั้น<O:p</O:p
    นับแต่นั้นมา พระเจ้าอาฬวีก็ทรงสั่งให้นำนักโทษส่งไปให้เป็นอาหารของอาฬวกยักษ์ตามสัญญา เมื่อนักโทษหมดคุกแล้วก็ทรงสั่งให้เอาทองคำไปวางล่อไว้ เมื่อมีผู้มาหยิบทองคำก็ให้เจ้าหน้าที่จับกุมหาว่าขโมยของหลวง แล้วนำตัวส่งไปให้ยักษ์กิน ต่อมาเมื่อหาผู้ทำผิดไม่ได้จึงทรงสั่งให้จับเด็กไปให้ยักษ์กิน บรรดาบิดามารดาต่างก็หวาดกลัวพากันหลบหนีไปซุกซ่อนในที่ต่าง ๆในที่สุดพระองค์ได้ให้ส่งราชโอรสของพระองค์ไปให้ยักษ์<O:p</O:p
    พระผู้มีพระภาคทรงเห็นอุปนิสัยของอาฬวกยักษ์ ว่าพอจะกลับใจได้และพระราชกุมารจะเป็นคนดีต่อไป ในภายหน้าจึงได้เสด็จไปที่ต้นไทรที่อยู่ของอาฬวกยักษ์ และประทับบนบัลลังก์ของยักษ์อาฬวกยักษ์โกรธมาก จึงได้แสดงอิทธิฤทธิต่าง ๆ เพื่อทำร้ายพระพุทธเจ้า แต่ไม่เป็นผลจึงได้ทูลถามปัญหาธรรมมีความว่า<O:p</O:p
    บุคคลฆ่าอะไรเสียจึงจะมีความสุขพระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า บุคคลฆ่าความโกรธเสียได้ จึงจะมีความสุขอาฬวกยักษ์ได้ฟังดังนั้นก็เกิดความเลื่อมใสและยอมตนเป็นสาวก<O:p</O:p
    เมื่อราชบุรุษนำพระราชกุมารไปมอบให้ยักษ์ ยักษ์จึงได้ยกถวายพระพุทธเจ้าอาฬวกยักษ์ได้กลับมาเป็น สัมมาทิฐิด้วยประการฉะนี้<O:p</O:p

    สำหรับยักษ์ที่ประทับนั่งชันเข่า คล้ายท่ามหาราชลีลา ถือกระบอง ด้านซ้ายมือ ของพระพุทธชินราช ก็คือ ท่านท้าวเวสสุวัณ โลกบาลประจำทิศเหนือ ผู้บรรลุโสดาบัน เพราะสร้างสมบารมีมามากแต่ครั้งยังเป็นมนุษย์ชื่อ "กุเวร" เป็นยักษ์ฝ่ายสัมมาทิฐิที่คุ้มครองดูแลพระพุทธศาสนา

    รายละเอียดเกี่ยวกับ "พญายักษ์" ทั้งสอง ยังมีอีกมาก หากท่านผู้อ่านสนใจ ผมจะได้นำมาเสนอในภายหลัง

    ท่ายืนของเสด็จแม่พันธุรัตน์ หรือ ยักษ์ตนอื่นที่เราท่านพบเห็น ในท่านี้ คือ ท่าสำรวมกาย วาจา ใจ ให้สงบ เพื่อเคารพนบนอบบูชา หรือ ท่าสาธยายมนต์ เปรียบได้กับมนุษย์ ก็คือ ท่านั่งพับเพียบ นั่งขัดสมาธิ แล้วพนมมือครับ<!-- / message --><!-- sig -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 พฤษภาคม 2008
  13. akasit7120

    akasit7120 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +0
    ขอบคุณในความรู้ที่นำเสนอครับ
     
  14. phaen

    phaen Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2007
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +63
    แนะนำพระอาจารย์ครับ พระอาจารย์ธวัชชัย หรือที่บรรดาลูกศิษย์เรียกท่านว่า อาจารย์โอ ไม่ก็เรียก พระอาจารย์พุทโธรักษา ผู้มีภูมิธรรมและความรู้ทางด้านไสยเวทที่ไม่ธรรมดา โดยได้ศึกษาสรรพศาสตร์ต่างๆจาก คุณปู่ของท่าน ซึ่งเป็นหมอธรรมผู้มีชื่อเสียงแห่งหล่มสัก ท่านได้ศึกษาทั้งวิชาสายสำเร็จลุน, สายวิชาธรรมเก้าโกฏิ, และฤาษีผู้เป็นตำนานแห่งพุกาม พระอาจารย์โอ ได้จัดสร้างวัตถุมงคลขึ้นมาจำนวนหนึ่งในจำนวนไม่มากนัก เพราะท่านอาจารย์ทำด้วยตนเองทั้งหมดทุกขั้นทุกตอน โดยไม่มีการว่าจ้างโรงงานผลิต วัตถุมงคลที่จัดสร้างจึงมีจำนวนไม่มาก...เพื่อหารายได้สร้างกุฏิสงฆ์-เสนาสนะ และปรับสถานที่เพื่อป็นลานปฏิบัติธรรม ณ วัดศรีสุพล 77 ม.4 ต.ห้วยไร่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์
    หนึ่งในวัตถุมงคลของพระอาจารย์ คือนางโกย หรือพระแม่พันธุรัตน์ สร้าง 108 องค์ รุ่น หนึ่งปี 2550 ปัจจุบันหายากมากครับ ราคาองค์ละ 7,000 ยังหาซื้อไม่ได้เลยครับ<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    รุ่นสอง ปี 2551 นางโกย หรือพระแม่พันธุรัตน์ มี 2 แบบครับ <o:p></o:p>
    วัตถุมงคลในรูปแบบแม่พันธุรัตน์ (แม่นางโกย) เจ้าของมหามนต์จินดามณีอันศักดิ์สิทธิ์ อันเป็นวิชาที่อยู่ในตำรับวิชามหามนต์โบราณ ไม่ได้มีแต่วิชามนต์จินดามณี (มนต์ยักขินี) เท่านั้น ยังมีมนต์บัวศรียักษ์ มนต์ยักษ์ไท้ มนต์ยักษ์แถน มนต์ยักขินีเศรษฐี มนต์ยักษ์เรียกสมบัติ มนต์มหามณีจินดา รวมไปถึงมนต์เศรษฐีนวโกฏิ รวมแล้วต้องจารอักขระมนต์ทั้งหมดถึง 111 มนต์ ในการทำชนวนมวลสารขึ้นมา ใต้ฐานอุดผงพลังเคลื่อนย้ายจักรวาลชุดใหญ่ที่อัญเชิญเหล่าทวยเทพยดาทั้งหลายทั้งมวลในหมื่นโลกธาตุนี้มาสถิต<o:p></o:p>
    ขนาดองค์เล็กสร้าง 900 องค์ ยังมีที่วัดครับ<o:p></o:p>
    ขนาดองค์ใหญ่สร้าง 108 องค์ หมดแล้วครับ<o:p></o:p>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. มันตรัย

    มันตรัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    8,347
    ค่าพลัง:
    +8,189
    ก็ว่ากันไปแล้วแต่คนชอบ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...