หนุมานคชสาร เหรียญลพ.ณรงค์ วัดมะเกลือ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Jumbo A, 17 กุมภาพันธ์ 2016.

  1. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,191
    ค่าพลัง:
    +21,324
    เหรียญหลวงพ่อชู กันตะวีโร วัดหินเหล็กไฟ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ รุ่นแรกรุ่นเดียว สวยมีจารหน้าหลัง อาจารย์ชินพร สุขสถิตย์ สร้างถวาย ปี ๒๕๒๘ สร้างเนื้อเดียวจำนวน ๙,๒๗๒ เหรียญ เมื่อสมัยที่หลวงพ่อท่านยังมีชีวิตอยู่หลวงพ่อเคยพูดว่า " ใครที่บูชาเหรียญรุ่นนี้ของท่านไปถ้าจะถามถึงพุทธคุณเป็นอย่างไรนั้น หลวงพ่อท่านบอกให้เอาปืนเอ็ม 16 ลองยิงได้เลยจะได้รู้และถ้าไม่ดีจริงอย่าเอาไปขึ้นคอ"
    หลวงปู่ชู ผู้สร้างตำนานขุนแผนกัวเผาะ น้ำมันช้างตกมัน อันโด่งดังด้วยพุทธคุณ รวมทั้งเหรียญรุ่นแรกของท่านก็มีประสบการณ์ไม่แพ้กัน ประสบการณ์ล่าสุดเมือกลางปีที่ผ่านมา (กรกฎาคม 2553) นายดาบตำรวจท่านหนึ่ง ขอสงวนนาม ประจำปฏิบัติหน้าที่อยู่ สภ.กระโพ จ.สุรินทร์ ได้ใช้อาวุธปืนทดลองยิงเหรียญรุ่นนี้ ผลปรากฎว่า กระสุนนัดแรกยิงไม่ออก กระสุนไปติดค้างอยู่ในลำกล้องปืน คาดว่าหากยิงนัดที่สองออกไปปืนต้องแตกแน่ เลยตัดสินใจไม่ยิง ข่าวนี้ดังกระฉ่อนไปทั่วพื้นที่สุรินทร์ และเขตอิสานใต้โดยเฉพาะในวงการตำรวจ จนทำให้เกิดกระแสความนิยมอย่างรุนแรง ทำให้หลายคนแปลกใจว่าทำไมราคาพระเครื่องของท่านจึงขยับสูงสึ้นอย่างรวดเร็วเช่นนี้
    ทุกเหรียญจะจารยันต์การะแวก
    เหรียญรูปเหมือนหลวงพ่อชู กัณตวีโร แห่งสำนักสงฆ์หินเหล็กไฟ ต.กะโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ จัดสร้างโดย
    ท่านอาจารย์ชินพร สุขสถิตย์ ประธานมูลนิธิหลวงปู่ทิม อิสริโก จำนวนการจัดสร้างตอนแรก ตั้งใจจะสร้างให้
    ครบ ๑๐,๐๐๐ เหรียญ แต่แม่พิมพ์แตกเสียก่อนทั้งด้านหน้าและด้านหลัง จึงสร้างได้แค่เพียง ๙,๒๗๒ เหรียญ
    เท่านั้น นับเป็นเหรียญรุ่นแรกของหลวงพ่อชู เพราะท่านยังไม่เคยสร้างเหรียญหรือรูปหล่อใดๆมาก่อนเลย และ
    หลวงพ่อได้ปลุกเสกให้ตลอดพรรษา เมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๘ หลวงพ่อชูท่านบอกว่า เหรียญนี้เป็นรุ่นแรกของท่าน
    ต้องทำให้เต็มสติกำลังหน่อย คนเอาไปใช้จะได้ไม่เสียชื่อ หลวงพ่อชูยังบอกต่ออีกว่าเหรียญรุ่นนี้ดีทุกอย่าง มี
    ทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาด บังภัย และป้องกันคุณไสย เข้าป่าหรือนำติดตัวจะป้องกันไข้ป่าได้ด้วย สิ่งสำ
    คัญ หลวงพ่อลงหัวใจการะเวกไว้ด้วย ก็ดุจเดียวกับสาลิกาลิ้นทองล่ะครับ เจรจาพาทีมีมหานิยม
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมุลที่มาอย่างสุงครับ
    เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อชู วัดหินเหล็กไฟ ท่าตูม สุรินทร์ รอยจารยันตืบางๆครับยังพอเห้นครับเหรียญนี้ ปกติคนจะไปนิยมแต่ขุนแผนหลังดาบขุนแผนกัวเผาะท่าน ราคาสูงเหรียญท่านมี่รุ่นแรกรุ่นเดียวครับ

    ให้บูชา1000บาทครับ


    ลพ.ชู.JPG ลพ.ชูหลัง.JPG
     
  2. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,191
    ค่าพลัง:
    +21,324
    เหรียญพระนิรันตรายอธิฐานจิตโดยหลวงปู่บุญมา ฐิตเปโม ครูบาอาจารย์พระป่าสายหลวงปู่มั่นครับ

    ให้บูชา300บาทค่าจัดส่งEMS50บาทครับ

    ลป.บุญมา.jpg ลป.บุญมาหลัง.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กันยายน 2017
  3. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,191
    ค่าพลัง:
    +21,324
    พระพุทธยมกปาฏิหาริย์ปราบมาร พระอาจารย์วัน วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม สกลนคร
    ให้บูชา300บาทค่าจัดส่งEMS50บาทครับ(ปิดรายการ)

    อ.วัน.jpg อ.วันหลัง.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กันยายน 2017
  4. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,191
    ค่าพลัง:
    +21,324
    เหรียญพระพุทธสิหิงค์ ทหารอากาศจัดสร้างหลวงพ่อเกษม เขมโก อธิฐานจิตและเข้าพิธี๖๐ปีธรรมศาสตร์ ที่มีครูบาอาจารยืสายวัดป่าลป.มั่น และหลวงตามหาบัว ร่วมพิธีหลายท่าน
    ให้บูชา300บาทค่าจัดส่งEMS50บาทครับ

    พระพุทธสิหิงค์.jpg พระพุทธสิหิงค์หลัง.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กันยายน 2017
  5. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,191
    ค่าพลัง:
    +21,324
    หลวงพ่อทองอยู่ (พระครูสุตาธิการี) วัดใหม่หนองพะอง จ.สมุทรสาคร

    หลวงพ่อทองอยู่ หรือ พระครูสุตาธิการี (ทองอยู่ ยโส) อายุ ๙๖ ปี ๙ เดือน ๙ วัน อดีตเจ้าอาวาส องค์ที่ ๘ วัดใหม่หนองพระอง จ.สมุทรสาคร ท่านเป็นพระเถระ พระเกจิอาจารย์ยุคเก่าที่แก่กล้าด้วยอาคม มีความเชี่ยวชาญในด้านวิปัสสนาธุระ-คันถธุระ เขียนและอ่านภาษาขอมได้เป็นอย่างดี
    • พ.ศ.2475 เป็นเจ้าอาวาสวัดหนองพะอง
    • พ.ศ.2481 เป็นประทวนสมณศักดิ์ที่ พระครูทองอยู่
    • พ.ศ.2501 เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรีที่ พระครูสุตาธิการี
    • พ.ศ.2521 เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโทที่ พระครูสุตาธิการี
    • พ.ศ.2522 เป็นพระอุปัชฌาย์

    • ชาติภูมิของหลวงพ่อ
    ชื่อ ทองอยู่ นามสกุล ชมปรารภ ต่อมาเปลี่ยนเป็น สิงหเสนี เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ.2430 ตรงกับวันแรม 1 ค่ำ ปีกุน เป็นบุตรคนที่ 3 ของ นายคำ และนางปั่น ชมปรารภ มีพี่น้องร่วมบิดามารดา 5 คน คือ


    1. นายหุ่น ชมปรารภ
    2. นางจิบ ชมปรารภ
    3. พระครูสุตาธิการี (ทองอยู่) ชมปรารภ (สิงหเสนี)
    4. นางหน่าย ชมปรารภ
    5. นางรอด ชมปรารภ

    พระครูสุตาธิการีนั้นท่านเติบโตมากับวัดโดยสมัยที่ท่านยังเป็นเด็กได้มาช่วยสร้างอุโบสถของวัดหนองพะองด้วย และมาช่วยกิจการงานของวัดในเวลาว่างเสมอ ในวัยหนุ่มท่านเป็นคนโอบอ้อมอารีต่อเพื่อนฝูงมาก และมีนิสัยชอบความยุติธรรม ถ้าอะไรไม่ถูกต้องท่านจะต้องเข้าไปช่วยแก้ไขเสมอ จึงเป็นที่รักของเพื่อนฝูง ท่านสนใจวิชาการเล่นแร่แปรธาตุศึกษาจนสามารถนำแร่ปรอทมาหุงให้เป็นทองคำได้ และท่านได้เรียนรู้วิชาอาคมจากพระอาจารย์แห ปัญจสุวัณโณ ซึ่งเป็นเกจิอาจารย์ชื่อดังด้านวิทยาอาคมในสมัยนั้นด้วย

    เมื่ออายุครบกำหนดเข้ารับการคัดเลือกเป็นทหารเรือ ซึ่งตรงกับรัชสมัยของพระพุทธเจ้าหลวง ท่าน เข้ารับราชการเรื่อยมาจนถึงรัชกาลที่ 6 จึงลาออกจากราชการ มาประกอบอาชีพการทำนาอยู่ข้างวัดบึงพระยาสุเรนทร์ เขตมีนบุรี จังหวัดกรุงเทพฯ ท่านได้ช่วยพ่อแม่ประกอบอาชีพกสิกรรมและมีความกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณ ด้วยการเลี้ยงดูท่านเป็นการสนองน้ำใจของพ่อแม่ หลวงพ่อได้ใช้ชีวิตการครองเรือนมีภรรยาคือ นางหนู ชมปรารถ มีบุตรธิดา 2 คน คือ นายย้อย ชมปรารถ และนางแย้ม ชมปรารถ จนกระทั่งเมื่อนางหนูเสียชีวิตจึงได้นางทองสุขเป็นภรรยามีบุตร 1 คน คือ นายหยด ชมปรารถ จนถึงอายุ 31 ปี หลวงพ่อท่านรู้รสชาติของการครองชีวิตคู่เป็นอย่างดี ท่านจึงกราบลาพ่อแม่เพื่อที่จะเข้ารับการ บรรพชาอุปสมบท โดยมีขุนหนองแขมเขมกิจ เป็นผู้ดำเนินการจัดการอุปสมบทให้ ณ วัดใหม่หนองพะอง ตำบลหนองแขม อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดธนบุรี ซึ่งตรงกับวันจันทร์ ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 8 ตรงกับวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ.2461 โดยกราบนิมนต์ท่านพระครูสังวรศีลวัตร (หลวงพ่ออาจ) วัดดอนไก่ดี เป็นพระอุปัชฌาย์ กราบนิมนต์ท่านพระครูถาวรสมณศักดิ์ (หลวงพ่อคง) วัดหงอนไก่ มาเป็นพระกรรมวาจาจารย์ กราบนิมนต์พระอธิการ (หลวงพ่อแห) วัดใหม่หนองพะอง เป็นพระอนุสาวนาจารย์

    สถานะเดิม ตามใบสุทธิ

    นามเดิม ทองอยู่ ชมปรารถ นามบิดา นายคำ สีเนื้อดำแดง สัณฐานสันทัด ตำหนิ แผลเป็นเนือข้อมือขวา อายุ 31 เกิดปีกุน วันที่ 7 เดือน พฤษภาคม พ.ศ.2430 ตำบลหนองแขม อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดธนบุรี บรรพชาอุปสมบท นามฉายา ยสภิกขุ นามพระอุปัชฌาย์ พระครูสังวรศีลวัตร นามพระกรรมวาจาจารย์ พระครูถาวรสมณศักดิ์ นามพระอนุสาวนาจารย์ พระแห ปัญจสุวัณโณ เวลา 14.00 น. ณ วัดใหม่หนองพะอง ตำบลหนองแขม อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดธนบุรี ได้ให้ไว้ ณ วันจันทร์ที่ 15 เดือน กรกฎาคม พ.ศ.2461 ลงนามพระครูสังวรศีลวัตร (ตำแหน่ง) เจ้าคณะแขวง

    นามพระทองอยู่ ฉายา ยสภิกขุ สำนักวัดใหม่หนองพะอง ตำบลหนองแขม อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดธนบุรี


    วันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ.2461
    (ลงนาม) พระครูสังวรศีลวัตร
    (ตำแหน่ง) เจ้าคณะแขวง

    เมื่อหลวงพ่อบวชเข้ามาแล้วได้ศึกษาหลักธรรมวินัยจนมีความรู้พอสมควร ครั้นพอพรรษาแรก จิตใจรู้สึกสงบ และทราบซึ้งในรสพระธรรม พอออกพรรษาแล้วท่านได้ขอลาพระอาจารย์แห ออกธุดงค์เพื่อแสวงหาโมกขธรรม ใน สมัยที่ท่านยังมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ท่านได้ธุดงค์ไปตามป่าเขาลำเนาไพรกว่า ๓๐ ปี ไปในที่ทุรกันดารต่าง ๆ ที่ใดที่มีพระอาจารย์เก่งกล้าทางคาถาอาคม หรือ เก่งทางด้านปฏิบัติธรรม ก็จะไปฝากตัวเป็นศิษย์เพื่อขอศึกษาวิชาความรู้ต่าง ๆ

    ประวัติหลวงพ่อแห ท่าน เป็นสหธรรมิกกับหลวงพ่อพร วัดหนองแขม ตำบลหนองแขม จังหวัดกรุงเทพฯ ท่านได้ศึกษาทดลองวิชาอาคมกับหลวงพ่อพร ที่วงการพระเครื่องรู้จักกันดีว่ามีวิทยาอาคมเพียงใด หลวงพ่อท่านเป็นศิษย์ของหลวงพ่อแห ก็ตั้งใจเจริญสมาธิภาวนากับหลวงพ่อแหเป็นประจำ จนเกิดความชำนาญในสมาธิภาวนาที่ท่านได้ทำเป็นประจำ

    พอออกพรรษาท่านก็ขอลาหลวงพ่อออกธุดงค์ คราวนี้ท่านได้ไปนมัสการพระธาตุพนม การ เดินทางไปธุดงค์ในสมัยนั้นยากมากด้วยสิงห์สาราสัตว์ในป่าดงดิบนั้นมากมาย ครั้งหนึ่งในระหว่างทางท่านได้พบฝูงความยป่าเข้าโดยบังเอิญ หลวงพ่อก็ใช้ปัญญาวิจารณญาณและสมาธิภาวนา ทำจิตให้สงบเจริญเมตตาภาวนาจนฝูงควายป่าที่วนเวียนเพ่นพ่านอยู่ล่าถอยหลบทาง ให้ ในคืนนั้นท่านได้ปักกลดพักในป่า รุ่งเช้าท่านจึงออกเดินทางต่อไป ในพรรษานี้หลวงพ่อกลับวัดไม่ทันก็จำพรรษาที่วัดในระหว่างทาง ท่านได้ศึกษาสมาธิภาวนากับพระอาจารย์ที่วัดนั้นด้วย เพื่อเป็นการเพิ่มเติมความรู้ให้แตกฉานยิ่งขึ้น พอออกพรรษาท่านจึงลาพระอาจารย์เพื่อเดินธุดงค์ต่อไป

    ท่านออกเดินทางไปนมัสการพระแท่นศิลาอาสน์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ใน คืนวันหนึ่งท่านได้ปักกลดเรียบร้อยแล้วอยู่ในแนวป่าเมืองอุตรดิตถ์ ได้มีเสือลายพาดกลอนตัวขนาดใหญ่มากทีเดียว มันคำรามมาแต่ไกลและใกล้เข้ามาทุกที พอเวลาดึกสงัดมันก็เข้ามาใกล้กลดที่พัก ทีแรกหลวงพ่อก็สะดุ้งกลัวภัยอันเป็นธรรมดาของมนุษย์ แต่พอท่านตั้งสติได้ในวินาทีต่อมา หลวงพ่อได้เจริญเมตตาภาวนาและเพ่งกสิณจนเสือลายพาดกลอนตัวนั้นล่าถอยกลับ เข้าป่าดงดิบไป ในเวลาเช้าหลวงพ่อได้เข้าไปรับอาหารบิณฑบาตในเมืองลับแล โดยการนิมาต์ของผู้หญิงคนหนึ่ง ได้อาหารมาพอสมควรในการขบฉันแล้วหลวงพ่อก็เดินทางต่อไป พอใกล้เข้าพรรษาหลวงพ่อก็เดินทางกลับมาจำพรรษาที่วัดใหม่หนองพะอง

    ในปีต่อมาหลวงพ่อได้เดินทางไปนมัสการพระแท่นดงรัง จังหวัดกาญจนบุรี และเลยไปในดงกะเหรี่ยง ท่านออกรับอาหารบิณฑบาตแต่ไม่มีใครใส่บาตรให้เลย พอถึงกลดได้มีชายคนหนึ่งนำอาหารมาถวาย เมื่อหลวงพ่อพิจารณาแล้วก็ห้ามมิให้พระที่ไปด้วยฉัน แล้วหลวงพ่อก็หยิบถุงย่ามข้างกายมา เอาน้ำมนต์พรมไปที่อาหารนั้น อาหารนั้นกลับกลายเป็นตะปูและเศษกระดูกคนทั้งนั้น แต่พอหันมาดูอีกทีชายคนนั้นก็หายไปแล้ว หลวงพ่อท่านออกธุดงค์เป็นประจำทุกปี กว่าหลวงพ่อจะกลับมาวัดก็ย่างเข้าฤดูฝนแล้ว คาถาอาคมต่างๆ หลวงพ่อได้ศึกษาจากอาจารย์หมอพุ่ม และจากตำราของอาจารย์หมอพุ่มที่ได้ประสิทธิ์ประสาทวิชาคาถาอาคม และได้ศึกษาจากพระอาจารย์แห ปัญจสุวัณโณ
    การออกธุดงค์ของหลวงปู่ทุกครั้ง หลวงพ่อแหจะคอยควบคุมดูแลอยู่ที่วัดว่าหลวงพ่อไปอยู่ที่ไหน เมื่อมีญาติพี่น้องของพระที่ออกไปธุดงค์มาถาม ท่านก็จะตอบได้ว่าสบายดี ไม่มีอุปสรรคอันตรายอะไร

    การออกธุดงค์ท่านได้พบปะสนทนากับพระธุดงค์หลายรูปด้วยกัน ในจำนวนนั้นก็มีเทพเจ้าแห่งล้านนาไทย ครูบาศรีวิชัย หลวงพ่อได้สนทนาธรรมกันเป็นที่ถูกอัธยาศัยของกันและกัน เมื่อเวลาที่หลวงพ่อออกธุดงค์ไปทางเหนือท่านจะแวะไปพักสนทนาธรรมศึกษาวิชา ความรู้ของกันและกันเสมอมาเป็นที่รู้ใจกันในวิชาความรู้ในวิชาสมถภาวนาและ วัปัสสนาภาวนา ซึ่งท่านครูบาศรีวิชัย ได้เคยชักชวน ลพ.ทองอยู่ ให้อยู่กับท่านด้วยกัน แต่ ลพ.ทองอยู่ ยังติดภาระที่ต้องดูแลทางวัดอยู่จึงเดินทางกลับมา ซึ่งครูบาศรีวิชัย ท่านจะถวายปัจจัยสำหรับค่าเดินทางกลับให้อยู่เสมอมิได้ขาด มีอยู่ครั้ง หนึ่ง ลพ.ทองอยู่ได้กราบเรียนถามพระครูบาเจ้าฯว่า ปฏิบัติอย่างไรจึงมีเมตตามีบารมีและมีคนนับถือมากมายขนาดนี้ ซึ่งพระครูบาเจ้าศรีวิไชยก็ได้ตอบแก่ ลพ.ทองอยู่ อย่างเมตตาว่า

    " พุทโธ ธัมโม สังโฆ นี้แหละ ที่เฮาภาวนาเสมอ มิได้ขาด ”

    และ ลพ.ทองอยู่ ได้เคยกล่าวถึงท่านครูบาเจ้าศรีวิชัย ให้ลูกศิษย์ใกล้ชิดฟังว่า ”ครูบาเจ้าศรีวิชัยนี้ ท่านมีญาณสูงมาก" ด้วยเหตุนี้แหละ จึงมีผู้ตั้งอธิกรณ์ฟ้องท่านว่าเป็นผีบุญ เพราะไปไหนก็มีคนติดตามไปเป็นจำนวนมาก บางครั้งก็เดินไปเหนือยอดหญ้า ฝนตกจีวรก็ไม่เปียกทั้งๆที่เดินฝ่าฝนไป แต่สุดท้าย ผู้ที่กล่าวหาท่าน ก็ถูกบาปกรรมตามสนองอย่างน่าสยดสยองที่สุด

    หลวงพ่อทองอยู่ ท่านได้ขอเรียนวิชาเพิ่มเติมจาก หลวงปู่ทอง วัดราชโยธา ท่านเป็นยอดพระเกจิที่เก่งมาก ๆ ในสมัยก่อน หลวงปู่ทอง วัดราชโยธานี้ ท่าน เป็นศิษย์รุ่นน้องของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ซึ่งมีอาจารย์ร่วมสำนักเดียวกัน คือ หลวงปู่แสง วัดมณีชลขันธ์ จ.ลพบุรี (ศิษย์ร่วมสำนักเดียวกันอีกท่าน คือ หลวงปู่แก้ว วัดเครือวัลย์) ซึ่งในสมัยนั้นยังมีพระเกจิอาจารย์อีกหลายท่านที่มาขอเรียนวิชาเพิ่มเติมจาก หลวงปู่ทอง เช่น หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก อยุธยา, หลวงปู่คง วัดบางกะพ้อม สมุทรสงคราม, หลวงปู่จาด วัดบางกะเบา ปราจีนบุรี, หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ, หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขันธ์ นครศรีธรรมราช, หลวงปู่เหลือ วัดสาวชะโงก ฉะเชิงเทรา, หลวงพ่ออี๋ สัตหีบ ชลบุรี และ หลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว จ.สมุทรปราการ จะเห็นว่า ลูกศิษย์ของหลวงปู่ทอง วัดราชโยธา ที่เอ่ยนามมานี้ ล้วนเก่งกล้าวิทยาคม วัตถุมงคลของท่านเป็นที่นิยมของสะสมพระเครื่องทั้งหลาย ดังนั้น หลวงพ่อทองอยู่ ซึ่งเป็นศิษย์รุ่นน้อง หรือ รุ่นสุดท้ายของหลวงปู่ทอง วัดราชโยธา จึงไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

    ท่านเป็นสหธรรมิก กับ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพฯ โดย เรียนวิชายันต์ตรีนิสิงเห มาจาก หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ สมุทรสาคร มาด้วยกัน งานไหนมีปลุกเสกเครื่องรางของขลัง หรือ วัตถุมงคล ที่นั่นจะมี หลวงปู่โต๊ะกับ หลวงพ่อทองอยู่ ด้วยเสมอ

    วิชาที่สุดยอดของท่านอีกอย่างคือ ลงกระหม่อมด้วยน้ำมันจันทร์หอม ใครได้ลงครบสามครั้ง รับรองได้ว่า ไม่มีตายโหง และไม่อดไม่อยาก เป็นที่รักใคร่ของคนโดยทั่วไป ท่านเจริญเมตตา จนมีฝูงปลาสวายมาอยู่หน้าวัดเต็มไปหมดเลย

    ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ ๑ ใน ๔ องค์ ที่หลวงปู่โต๊ะนิมนต์มาในงานครบรอบวันเกิดของท่านทุกปี อีกสามองค์ที่เหลือ องค์แรก คือ หลวงปู่ธูป วัดแคนางเลิ้ง กรุงทพฯ องค์ที่สอง หลวงพ่อฮะ วัดดอนไก่ดี สุพรรณบุรี องค์ที่สามเป็น พระจีน (ไม่ทราบชื่อ) สำหรับงานวันเกิดหลวงปู่โต๊ะนั้น จะนิมนต์หลวงปู่หลวงพ่อทั้ง ๔ องค์นี้เป็นประจำ มานั่งสี่มุม ส่วนหลวงปู่โต๊ะท่านจะนั่งที่หน้าพระประธานเป็นองค์ที่ห้า ซึ่งหลวงปู่โต๊ะท่านยังสั่งลูกศิษย์ลูกหาของท่านว่าหลวงพ่อทองอยู่นั้น สามารถเป็นที่พึ่งพิงของลูกศิษย์ได้อีกรูปหนึ่งให้ไปกราบนัสการ หลวงพ่อทองอยู่ท่านก็เมตตาอนุเคราะห์แก่บรรดาลูกศิษย์ที่มาหาท่านเสมอกันทุก คนไม่เลือกว่ายากดีมีจน ธรรมะที่ท่านจะบอกกับลูกศิษย์เป็นประจำก็คือ

    “ จะทำอะไรก็แล้วแต่มันสำคัญที่ใจ ใจเป็นใหญ่ ใจเป็นหัวหน้า ใจเป็นประธาน ถ้ามีจิตใจแน่วแน่แล้วล่ะก็ผลสำเร็จนั้นย่อมเป็นที่หวังพึ่งพิงได้เสมอ ทำใจให้ดีตั้งใจให้ดีแล้วผลสำเร็จจะมีมาเอง”

    หลวงพ่อท่านยังห่วงใยในวัดวาอาราม ท่านจะบอกอยู่เสมอว่าในขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่นั้นการเงินทองนั้นหาง่าย ให้ขยันทำงานต่างๆ นั้นให้มาก ถ้าท่านมรณภาพไปแล้วการเงินจะฝืดเคืองกว่าตอนสมัยของท่านให้เร่งพัฒนาวัด ช่วยกันทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้วัฒนาถาวรต่อไป ด้วยการประพฤติปฏิบัติของพระเณรที่บวชเข้ามาแล้ว ถ้าประพฤติดีตามพระธรามวินัย ก็จะทำให้พระพุทธศาสนาอยู่ได้ตลอดไป

    คำสั่งเสียของหลวงปู่โต๊ะ ก่อนมรณภาพ

    ในการสร้างพระกริ่ง พระชัยวัฒน์ พุทโธ ของวัดประดู่ฉิมพลี ในขณะที่หลวงปู่โต๊ะชราภาพมากแล้ว ท่านปรารภกับลูกศิษย์ว่า

    "หากหมดบุญฉันแล้วให้ไปหาหลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพระองค์ ท่านแทนฉันได้"

    และท่านยังสั่งลูกศิษย์ใกล้ชิดไว้ว่า หากท่านอยู่ปลุกเสกรุ่นนี้ไม่ทัน ให้นำไปให้หลวงพ่อทองอยู่ปลุกเสกแทน พระ กริ่ง พระชัยวัฒน์ พุทโธ รุ่นนี้ จึงเป็นสุดท้ายของหลวงปู่โต๊ะ ซึ่งทางวัดประดู่ฉิมพลี ได้ประกอบพิธีเททองหล่อภายในวัด เมื่อวันที่ ๑๕ ก.พ. ๒๕๒๔ โดยหลวงปู่เป็นประธานในพิธี และมีเกจิอาจารย์อีก ๙ ท่าน ร่วมนั่งปรกในขณะเททอง

    ขณะที่พระกริ่งพระชัยวัฒน์ พุทโธ กำลังอยู่ในระหว่างตกแต่ง หลวงปู่โต๊ะก็ได้มรณภาพเสียก่อน ในวันที่ ๕ มี.ค ๒๕๒๔ (แสดงให้เห็นถึงอนาคตังสญาณของหลวงปู่โต๊ะ ที่รู้ล่วงหน้าว่าจะมรณภาพในปีนั้น) เมื่อตกแต่งเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลวงพ่อทองอยู่ ได้ปลุกเสกเดี่ยวให้ก่อน ๑ ครั้ง และ ต่อมา เมื่อทางวัดได้ประกอบพิธีพุทธาภิเษกครั้งใหญ่ พร้อมกับ รูปหล่อขนาดเท่าองค์จริงหลวงปู่โต๊ะ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเททองหล่อขึ้น ทางวัดได้นำ พระกริ่ง พระชัยวัฒน์ "พุทโธ" เข้าร่วมในพิธี โดยมีสมเด็จพระญาณสังวร เป็นประธาน และ หลวงพ่อทองอยู่นั่งปรกปลุกเสกด้วย จำนวนสร้างพระกริ่ง ๑,๕๐๐ องค์ พระชัยวัฒน์ ๓,๐๐๐ องค์ ทั้ง ๒ พิมพ์ ตอกโค้ด "ต" สำหรับพระชัยวัฒน์นั้นใต้ฐานอุดด้วยเทียนชัย และเส้นเกศาของหลวงปู่โต๊ะไว้ด้วย

    สองเกจิร่วมสมัย ร่วมกันโปรดวิญญาณในคลองภาษีเจริญ

    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณปี ๒๕๐๐ กว่า ๆ เป็นเหตุการณ์ที่พระอริยะเจ้าสองรูป ได้โปรดวิญญาณ ที่ต้องทนทุกข์ทรมาน อยู่ในคลองภาษีเจริญ บริเวณประตูน้ำหน้าวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ พระอริยะเจ้าสองรูปนั้น องค์แรกท่าน คือ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี องค์ที่สอง คือ หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง เหตุการณ์ นี้สืบเนื่องจาก บริเวณหน้าวัดปากน้ำภาษีเจริญในขณะนั้น มีคนตกน้ำตายเป็นประจำ ชาวบ้านต้องตกอยู่ในความกลัวตลอด มีลูกศิษย์ไปเล่าเรื่องให้หลวงปู่ทั้งสองท่านฟัง ท่านจึงได้เดินทางมาโปรดวิญญาณทั้งหลาย ที่ต้องทนทุกข์อยู่ในน้ำนั้น โดยมี หลวงพ่อทองอยู่ เดินโปรยข้าวตรอกดอกไม้ และ หลวงปู่โต๊ะนั่งสมาธิอยู่ที่ริมคลองบริเวณประตูน้ำ ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้น ผู้สูงอายุในขณะนี้ที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้น ต่างทราบเหตุการณ์นี้ดี

    จะยกตัวอย่างพลังจิตของหลวงพ่อทองอยู่เรื่องหนึ่ง ในมูลเหตุที่ท่านได้รับฉายาจากศิษยานุศิษย์ทั้งหลายว่า หลวงพ่อทองอยู่ ดับดาวเดือน

    มีเรื่องบอกเล่าโดยพระที่เคยบวชอยู่ที่วัดหนองพะองว่า เมื่อ ว่างเว้นจากภารกิจหน้าที่การงานก่อสร้างและการทำวัตรเรียบร้อยแล้ว ท่านก็ไปชุมนุมกันอยู่หน้ากุฏิหลวงพ่อในเวลากลางคืน หลวงพ่อท่านจึงถามว่า จะไปไหนกัน มากันพร้อมเพรียงเชียว พระที่มาทั้งหมดก็ไม่พูดว่าอะไร เพราะไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร หลวงพ่อท่านจึงเรียกพระทั้งหมดให้ออกมาข้างนอกชานกุฏิของท่าน เมื่อออกมาแล้วหลวงพ่อก็บอกให้ดูดาวประจำเมืองที่มีแสงสุกใสอยู่บนท้องห้า นั้นไว้ให้ดี พระทั้งหลายในที่นั้นก็จ้องมองไปที่ดาวดวงนั้น หลวง พ่อท่านก็เริ่มบริกรรมภาวนาโดยเอาผ้าอาบน้ำฝนที่ท่านนำติดตัวมาด้วยพันกัน และขมวดให้แน่นๆ สักพักหนึ่งดาวดวงนั้นก็ค่อยๆ หรี่แสงลงไปจนกับดับหายไปจากท้องฟ้าเลยทีเดียว แล้วหลวงพ่อก็ค่อยๆ คลายผ้าอาบน้ำฝนนั้น ดาวประจำเมืองก็ค่อยๆ เพิ่มแสงมากขึ้นเรื่อยๆ จนมีแสงนวลใสตามปกติของดวงดาว การดับดาวนี้หลวงพ่อท่านทำให้ดูหลายครั้งด้วยกันในเวลาที่ท่านเห็นว่าสมควร หรือตามวาระโอกาสที่พอจะอำนวยให้ ซึ่งบางครั้งที่ท่านเคยแสดงให้ลูกศิษย์ใกล้ชิดดู โดยถามว่า เธอต้องการให้ดับดาวดวงไหน ให้ลองชี้มาแล้ว ท่านจะดับให้ดู ครั้นพอลูกศิษย์บอกว่าต้องการดูดวงไหนดับแล้ว ท่านจะบริกรรมคาถาสักครู่ แล้วชี้ไปที่ดาวดวงนั้น ซึ่งแสงดาวก็จะหายวับดับไปในทันที ราวกับปาฏิหารย์ แสดงว่า พลังจิตของท่านสูงส่งมากทีเดียว สามารถเพ่งกระแสจิต แล้วชี้ไปที่ดวงดาว จนแสงดาวที่กระพริบอยู่นั้น ดับวูบลงไปทันที

    เมื่อครั้งที่เริ่มทำถนนสายวัดใหม่หนองพะองไปต่อเชื่อมกับถนนสายเลียบคลองภาษีเจริญ ฝั่งทิศเหนือ เริ่ม ทำตั้งแต่เป็นถนนดินแล้วมาเป็นถนนลูกรัง โดยผู้ใหญ่บ้าน กำนัน และหลวงพ่อได้ติดต่อขอลูกรังมาทำถนนโดยว่าจ้างรถบรรทุกสิบล้อมาถมทำถนน เมื่อทำการบรรทุกมาได้ประมาณครึ่งหนึ่งของระยะทาง รถบรรทุกลูกรังวิ่งมาบนสะพานไม้ ได้เกิดการทรุดตัวของไม้สะพาน ทำให้ล้อรถตกลงไปในช่องสะพานไม้ ไม่สามารถจะนำรถขึ้นไปพ้นจากหลุมไม้สะพานนั้นได้ แม้ว่าจะเอารถมาฉุดลากดึงขึ้นมา ก็ไม่ได้ เถ้าแก่รถจึงมาแจ้งให้หลวงพ่อทราบว่ารถติดอยู่บนสะพานข้ามไปไม่ได้เอารถมา ลากก็ไม่ขึ้น หลวงพ่อจึงบอกให้ช่วยกันเข็นขึ้นสิ เถ้าแก่บอกว่าไม่ขึ้นหรอกเสียแรงเปล่าๆ หลวงพ่อบอกให้ไปช่วยกันเข็นแล้วจะขึ้นมาเองแหละ เถ้าแก่ก็บอกว่า ถ้าเข็นขึ้นมาได้จะเอาลูกรังมาถมถนนให้เสร็จเลยทีเดียว หลวงพ่อจึงครองผ้าแล้วเดินไปที่รถบอกคนขับให้เตรียมติดเครื่องแล้วก็เอามือ แตะที่ตัวถังรถ สักประเดี๋ยวก็บอกให้คนขับเดินหน้าแล้วเร่งเครื่องไปเลยนะ พอเร่งเครื่องสักประเดี๋ยวเดียวก็สามารถเดินหน้ารถขึ้นจากสะพานนั้นได้ เถ้าและคนขับก็สงสัยว่ามันขึ้นมาได้อย่างไรทั้งที่ก่อนหน้านั้นเอารถมาดึง ยังไม่ขึ้นมาเลย แล้วคนเข็นเพียงไม่กี่คนก็สามารถขึ้นมาได้ เถ้าแก่คนนั้นจึงมาทำถนลูกรังจนเสร็จเรียบร้อย และมากราบนมัสการหลวงพ่อเสมอมา

    วัตถุมงคลที่สร้างในสมัยที่หลวงพ่อทองอยู่ ยังมีชีวิตอยู่ เมื่อเทียบกับพระเกจิอาจารย์อื่น ๆ ที่ร่วมสมัยเดียวกัน อย่างเช่น หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี , หลวงปู่สุด วัดกาหลง, หลวงปู่ธูป วัดแคนางเลิ้ง, หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู ฯลฯ แล้ว ถือว่า น้อยมาก และมีเพียงไม่กี่แบบ เท่า ที่ทราบมี เหรียญรุ่นแรก สร้างปี พ.ศ. ๒๕๐๙ จากนั้นก็มีเหรียญรุ่นต่าง ๆ อีกเพียงไม่กี่รุ่น, พระกริ่งสุตาธิการี, พระกริ่งตั๊กแตน ฯลฯ เนื่องจากท่านเป็นศิษย์สายวัดสุทัศน์ เคยอยู่วัดสุทัศน์มาก่อน พระกริ่งของท่านจึงได้รับความนิยมอย่างมาก ใช้แทนพระกริ่งวัดสุทัศน์ได้เลย นอกนั้นก็เป็นพวก พระปิดตา, ล็อกเก็ต, ภาพถ่าย, ท้าวเวสสุวัณ (ขนาดบูชา) เป็นต้น

    พระเครื่องที่ ได้รับความนิยมสูงสุด ท่านสร้างมาก่อนปี พ.ศ. ๒๕๐๐ คือ พระสมเด็จ มีพระสมเด็จเนื้อผงขาว และ พระสมเด็จเนื้อผงใบลาน (สีดำ) มีหลาย พิมพ์ แต่ที่เป็นที่รู้จักแพร่หลาย และถือเป็นเอกลักษณ์ของท่านก็เห็นจะเป็น “สมเด็จหลังยันต์” และ“สมเด็จหลังเสือเผ่น” ซึ่งสร้างมา ๒ – ๓ รุ่น หลายรูปแบบ (เสือเล็ก & เสือใหญ่) หลายพิมพ์ ปัจจุบันเป็นที่เสาะแสวงหาของนักนิยมสะสมพระเครื่องอย่างกว้างขวาง

    พระสมเด็จเนื้อผงของท่าน ท่านสร้างจากผงวิเศษที่ท่านเก็บสะสมไว้ และทำไว้ด้วยตัวของท่านเอง ท่าน มีความสามารถลบผงวิเศษทั้ง ๕ ประการ คือ ผงปถมัง ผงอิทธิเจ ผงมหาราช ผงพุทธคุณ และผงตรีนิสิงเห ตามตำรับเดียวกับสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ได้อย่างเข้มขลัง โดยผสมน้ำมันจันทร์หอม ลงไปในเนื้อพระดังกล่าวด้วย ทำให้พระสมเด็จของท่านนั้น มีพุทธคุณโดดเด่นไปด้วยเมตตามหานิยม อุดมลาภผล แคล้วคลาด และคงกระพันชาตรี เรียกว่าสมเด็จทุกรุ่นของท่านนั้น มีมวลสารสุดยอดจริง ๆ มีทั้งผงสมเด็จเก่า ๆ ที่หลวงพ่อได้รวบรวมไว้ เช่น ผงแตกหักของพระวัดระฆัง ผงแตกหักของพระกรุวัดบางขุนพรหม ซึ่ง แต่ก่อนนั้นหาได้ไม่ยากนัก และที่สำคัญ คือ ผงของวัดพระยาบึงสุเรนทร์ (หลวงปู่ทองเป็นประธานการปลุกเสก) ดังนั้น ในแต่ละรุ่นจึงสร้างได้น้อย และมีไม่มากนัก เพราะท่านพิถีพิถันในการสร้างพระสมเด็จเป็นอย่างมาก ไม่ให้เสียชื่อสำนัก และครูบาอาจารย์ก็ว่าได้
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมุลที่มาอย่างสุงครับ

    ให้บูชา250บาทค่าจัดส่งEMS50บาทครับ

    ลพ.ทองอยู่.JPG ลพ.ทองอยู่หลัง.JPG
     
  6. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,191
    ค่าพลัง:
    +21,324
  7. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,191
    ค่าพลัง:
    +21,324
    พระสมเด็จดิน 9 ประเทศ ปี พ.ศ. 2516 ทำพิธีมหาพุทธาภิเษกและลงพลังจิตโดยพระเกจิอาจารย์ชื่อดังจากทั่วประเทศโดยใช้พระคาถาชินปัญชรเป็นพระคาถาหลักสร้างกฤษดาอภินิหาริย์ปรากฏมากมายทั้งชาวไทยและต่างประเทศสมเด็จพระสังฆราช วัดราชบพิธฯทรงเป็นประธานคณะสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ในพิธีมหาพุทธาภิเษกพระสมเด็จดิน๙ประเทศ พระครูวามเทพมุนี อธิบดีพรามณ์ ประกอบพิธีทำน้ำเทพมนต์ในพิธีมหาพุทธาภิเษกพระสมเด็จดิน 9 ประเทศ บรรดาเกจิอาจารย์ ต่างๆได้ร่วมกันลงพลังจิตในพิธีพุทธาภิเษกในครั้งนั้นอาทิ

    หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    หลวงปู่เทียม วัดกษัตราธิราช
    หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง
    หลวงปู่ส่วน วัดป่าไก่
    หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพระองค์
    หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาณมิตร
    หลวงพ่อบุญ วัดวังมะนาว
    หลวงพ่อบูญมี วัดอ่างแก้ว
    หลวงปู่สาม วัดป่าไตรวิเวก
    หลวงปู่พล วัดหนองคณฑี
    หลวงปู่อ่อน วัดเพียรมาตร
    หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน
    พระอาจารย์วิโรจน์รัตนโนบล วัดทุ่งศรีเมือง

    และเกจิอาจารย์อีกจำนวนมากพิธีมหาพุทธาภิเษกกระทำกัน 9 วัน 9 คืนนอกจากนี้ตัวมวลสารของพระสมเด็จ๙ประเทศยังประกอบด้วยดินจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ แดนพุทธภูมิ๙ประเทศ ไทย,ลาว,พม่า,มาเลเซีย,กัมพูชา,เวียดนามใต้,อินโดนีเซีย,อินเดีย,เนปาล,ผงว่าน108 ชนิดดอกไม้นามมงคล 108 ชนิดและผงพระสมเด็จอิทธิเจของท่านเจ้าประคุณสมเด็จโตซึ่งเป็นพระที่ชำรุดได้บดผสมเป็นส่วนหนึ่งของพระสมเด็จดิน 9 ประเทศ
    ประวัติสังเขปในการจัดสร้าง พระสมเด็จดินเก้าประเทศ สำนักปู่สวรรค์

    มูลเหตุของการจัดสร้าง

    เนื่องด้วยสำนักปู่สวรรค์มีโครงการที่จะสร้างหุบผาสวรรค์ (อาณาจักรหุบผาสวรรค์เมืองศาสนา) ให้เป็นสถานที่ส่งเสริมการปฏิบัติธรรม วิปัสสนากรรมฐาน เป็นดินแดนแห่งธรรมะสันติภาพและศาสนา ส่งเสริมการดำเนินงานตามแนวทางพระโพธิสัตว์
    ในการดำเนินการตามโครงการนี้จำเป็นที่จะต้องใช้ทุนทรัพย์จำนวนมาก เพื่อก่อสร้างกุฏิพระ ศาลาฟังธรรม ตลอดจนสร้างปูชนียวัตถุต่างๆ สำหรับใช้ประโยชน์ในงานพระศาสนา
    มีสาธุชนเป็นจำนวนมากที่แสดงความจำนงที่จะร่วมกุศลนี้ ซึ่งทางคณะกรรมการของสำนักไม่มีสิ่งใดที่จะตอบแทนในกุศลจิตนี้ จึงตกลงกันว่าจะสร้างสิ่งอันเป็นความมหัศจรรย์ชิ้นหนึ่งขึ้นมาเพื่อเป็นการตอบแทนและเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจในการจัดสร้างพระสมเด็จดินเก้าประเทศนี้ ดวงพระวิญญาณของสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต)พรหมรังษี องค์อำนวยการสำนักปู่สวรรค์ประทานดำริว่า “ จะสร้างพระสมเด็จเก้าประเทศจำนวน ๘๔,๐๐๐ องค์ เป็นปูชนียวัตถุชิ้นสุดท้ายให้กับโลกมนุษย์”
    อีกประการหนึ่งคือผู้บริจาคปัจจัยบูชาพระสมเด็จไปจะได้เป็นเครื่องระลึกถึงว่า เมื่อครั้งหนึ่งท่านได้มีส่วนในการร่วมสร้าง กุฏิ ศาลาฟังธรรม ศาลาปฏิบัติธรรม ร่วมกัน
    ปณิธานเบื้องต้นในการสร้างหุบผาสวรรค์เมืองศาสนา
    “ จะใช้สถานที่แห่งนี้สร้างคนให้ดี เป็นศรีแก่ศาสน์ เป็นปราชญ์สร้างชาติให้เจริญ ” ด้วยใช้หลักสมาธิข่มกิเลส ละชั่ว สร้างความดี โดยสนับสนุนการสร้างคนให้เป็นพระ บวชเพื่อละ สู่โลกุตรธรรมเป็นสำคัญ ”
    พิธีลงพลังจิตและมหาพุทธาภิเษก
    ในการจัดสร้างพระสมเด็จดินเก้าประเทศนี้ท่านบรมครูสำนักปู่สวรรค์มีพระบัญชา และประทานขั้นตอนแนวทางในการดำเนินการจัดสร้างอย่างพิถีพิถัน ให้ถูกต้องตาม เทวะบัญญัติ พรหมบัญญัติ เพื่อให้เกิดความ เข้มขลังและศักดิ์สิทธิ์สมเป็นสุดยอดวัตถุมงคลแห่งยุค จึงได้มีการลงพลังจิตมวลสารก่อนที่จะมีพิธีมหาพุทธาภิเษกถึง ๒ ครั้งดังบันทึกต่อไปนี้

    พิธีลงพลังจิตครั้งที่ ๑

    ระหว่างวันที่ ๕ เมษายน ๒๕๑๖ - ๗ เมษายน ๒๕๑๖ เป็นพิธีปลุกเสกดินศักดิ์สิทธ์ ณ สำนักปู่สวรรค์ ( วันเสาร์ ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๕ , เป็นวันเสาร์ห้า ) ในพิธีนี้มีพระเถระฝ่ายโลกมนุษย์ผู้ทรงวิทยาคุณ รอบรู้พุทธศาสน์และวิทยาคม จำนวน ๒ รูป คือ พระราชญาณดิลก ( ชิต กันตสีโล ) วัดเขาเต่า จ.ประจวบคีรีขัณฑ์ และพระราชธรรมกวี วัดเสน่หา จ.นครปฐม ร่วมนั่งปรกด้วย
    พิธีลงพลังจิตครั้งที่ ๒

    พิธีปลุกเสกดินศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่สองนี้ จัดขึ้น เมื่อ วันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๗ ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ ตรงกับวันมาฆบูชา ณ ถ้ำสาลิกา หุบผาสวรรค์เมืองศาสนา ต.ดอนทราย อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ผู้สำเร็จของโลกวิญญาณที่เมตตาเสด็จมาลงพลังจิตในพิธีนี้ได้แก่
    ๑.สมเด็จพระสังฆราชคุรูปาจารย์ หลวงปู่ทวด(เหยียบน้ำทะเลจืด) องค์ประธานสำนักปู่สวรรค์
    ๒.สมเด็จพระพุฒาจารย์( โต ) พรหมรังสี องค์อำนวยการสำนักปู่สวรรค์
    ๓.ท้าวมหาพรหมชินนะปัญจะระ เจ้าพิธีการแห่งโลกวิญญาณ
    ๔.องค์อมรินทร์จอมเทพ
    ๕.ท้าวมหาพรหมสามภพ
    ๖.ท้าวมหาพรหมสามวิจิตร
    ๗.ท้าวจตุรพรหม
    ๘.พระวิษณุมหาเทพ
    ๙.พระนาคราช
    พระสงฆ์ฝ่ายโลกมนุษย์ คือพระอาจารย์ฮ้อ กัสสะโร เป็นผู้ปลุกเสกเดี่ยวตลอดคืน
    พิธีมหาพุทธาพิเษก
    วันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๑๗ เป็นวันเริ่มต้นพิธีมหาพุทธาภิเษก ณ หุบผาสวรรค์เมืองศาสนา ต.ดอนทราย อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี มีบันทึกการจัดงานดังนี้
    เวลา ๑๑.๐๐ น. ถวายภัตตาแด่พระภิกษุสงฆ์และพระราชาคณะที่รับอาราธนามาร่วมในพิธี
    เวลา ๑๓.๐๐ น. รองนายกรัฐมนตรี สุกิจ นิมมาเหมินทร์ เดินทางมาถึงหุบผาสวรรค์เมืองศาสนาเพื่อเป็นประธานเปิดงาน คุณบุญยง ว่องวานิช เลขาธิการสำนักปู่สวรรค์ เป็นผู้กล่าวรายงานการจัดงาน
    หลังจากท่านรองนายกรัฐมนตรีกล่าวเปิดงานแล้ว ศาสตราจารย์ ดร.คลุ้ม วัชโรบล, อาจารย์สุชาติ โกศลกิติวงศ์ , พล.ต. ถวิล เกษตรทัต อัญเชิญธงชาติไทย พานพุ่มและธูปเทียนแพ พร้อมทั้งเรียนเชิญท่านรองนายกรัฐมนตรี อัญเชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอดเสา เป็นปฐมฤกษ์ กองดุริยางค์กองทัพบกบรรเลงเพลงชาติ
    ศาสตราจารย์ ดร.หลวงสมานวนกิจ , พระครูวามเทพมุณี , คุณฉันท์ บุรารักษ์ นำเรียนท่านรองนายกรัฐมนตรีขึ้นสู่ศาลาชินนะปูโตอนุสรณ์ เพื่อจุดเทียนชัย ประจำชาติไทย ต่อจากนั้นจึงเรียนเชิญเอกอัครราชทูตอีก ๘ ประเทศอัญเชิญธงชาติและจุดเทียนชัยของแต่ละประเทศตามลำดับ พระสงฆ์จำนวน ๙๙ รูป สวดชยันโต ตลอดพิธีช่วงเวลาอันสำคัญเวลา ๑๗.๓๕ น. ม.จ.ชุมปกะบุตร ชุมพล ได้อัญเชิญดวงประทีปพระราชทานจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อมาจุดเทียนชัยในพิธีมหาพุทธาภิเษกนี้เป็นกรณีพิเศษ ยังความปลาบปลื้มมายังคณะกรรมการจัดงานและผู้เข้าร่วมงานนี้เป็นอย่างยิ่ง
    ในงานนี้ได้รับพระกรุณาจากสมเด็จพระสังฆราช วัดราชบพิธ ทรงเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วยพระสงฆ์ผู้ทรงคุณทั่วราชอาณาจักรที่เข้าร่วมในพิธีมหาพุทธาภิเษกนี้ จำนวน ๙๙ รูป
    พิธีนั่งปรกลงพลังจิตในแต่ละวันนั้นจะมีพระคณาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณเข้านั่งปรกครั้งละ ๙ รูปเจริญสมาธิ แผ่พลังจิตพุทธาภิเษกไปจนรุ่งสาง เป็นเช่นนี้ตลอด ๙ วัน ๙ คืน ในวันสุดท้ายของพิธี พระอมฤตนันทะมหาเถโร ประธานสงฆ์ประเทศเนปาล ซึ่งมีเชื้อสาย ศากยวงศ์เป็นประธานดับเทียนชัย ตามบันทึกกล่าวไว้ว่า เมื่อทางสำนักเปิดให้ผู้ที่สั่งจองมารับพระได้ ก็ได้มีสาธุชนเข้ามารับพระกันอย่างเนืองแน่นเป็นประวัติการณ์
    มวลสาร มงคล ในพระสมเด็จดิน ๙ ประเทศ

    ๑.มวลสารปฐมบทอันใช้คุลีการพระสมเด็จดิน ๙ ประเทศคือ ดินศักดิ์สิทธิ์จากปูชนียสถาน ๙ ประเทศที่อัญเชิญมาจาก ไทย ลาว เขมร พม่า เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย อินเดีย และเนปาล ผืนแผ่นดินในประเทศดังกล่าว เชื่อว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เคยเสด็จมาโปรดเวไนยสัตว์เมื่อครั้งพระพุทธกาลมาแล้วทั้งสิ้น ทำให้เนื้อดินจากสถานที่เหล่านั้นล้วนเปี่ยมไปด้วยพุทธบารมี แห่ง พระปัญญาคุณ พระกรุณาธิคุณ พระบริสุทธิคุณ พระสมเด็จดินเก้าประเทศจึงเป็นพระพุทธปฏิมากรรมที่ทรงด้วย บุญญฤทธิ์ อิทธิฤทธิ์ ด้วยกระแสแห่งพุทธานุภาพโดยตรงจากองค์พระบรมศาสนดาเอกของโลก

    ๒.มวลสารทุติยบท คือว่านมงคล ๑๐๘ ประการ อันเป็นเนื้อหาที่เป็นมงคลยิ่งอาธิเช่น
    2..๑.ว่านเศรษฐี มีคุณภาพทางกระทำให้เกิดความมั่งคั่งสมบูรณ์นาฐานะกิจการอาชีพ(สัมมาชีพ) ก่อให้เกิดความมั่นคงในฐานะทางครอบครัวอีกส่วนหนึ่งด้วย
    2..๒.ว่านชัยมงคล มีคุณในทางก่อให้เกิดความเป็นศิริมงคลแก่ชีวิตแก่เคหสถานและอาณาบริเวณอันเป็นที่อยู่อาศัย
    2..๓.ว่านมหาอุตม์ ขึ้นชื่อลือมาแต่ครั้งโบราณว่าใครมีว่านมหาอุตม์แล้วอาวุธปืนไม่ระคายผิวหนังซ้ำสามารถกระทำให้ดินระเบิดหมดอำนาจลงได้ด้วย
    2..๔.ว่านเสน่ห์จันทน์ มีคุณาธิคุณทางพืชอาถรรพณ์ก่อให้เกิดเสน่ห์เกิดความรักใคร่แก่ผู้ที่ได้ประสบพบปะสมาคมด้วย นี้เป็นส่วนหนึ่งของเนื้อหาด้านว่านที่มีอยู่ในองค์พระสมเด็จดิน ๙ ประเทศ
    ๓.มวลสาร ตติยบท คือดอกไม้นานาพันธุ์ ๑๐๘ พันธุ์ อาธิเช่น เกสรดอกบุนนาค เป็นยาบำรุงหัวใจให้กระชุ่มกระชวย เบิกบาน เกสรสัตตบุศย์ เกสรโกมุท เกสรลินจง อันดอกไม้นานาพันธุ์พร้อมด้วยเกสร ๑๐๘ ชนิดทุกๆชนิดล้วนมีอารักขเทพประจำรักษาอยู่ด้วยกันทั้งหมดดังนั้นมวลสารตติยบทในพระสมเด็จดิน ๙ ประเทศ จึงเป็นที่สถิตแห่งเทพเจ้าประจำบุปผาชาติถึง ๑๐๘ องค์ พระสมเด็จดิน ๙ ประเทศจึงทรงด้วย เทวานุภาพ อีกประการหนึ่งด้วย
    ๔.มวลสารจตุตถบท คือผงสมเด็จอิทธิเจ (รวมด้วยผงพระพุทธคุณ ผงตรีนิสิงเห ผงมหาราช ผงปถมัง หรือเรียกอีกนามหนึ่งว่าผงวิเศษ ๕ ประการ
    ผงอิทธิเจ เป็นผงที่เกิดจากดินสอดินขาวปั้นเป็นแท่งๆ มีกรรมวิธีการทำดินสอผงนี้โดยเฉพาะ ผู้ที่จะทำดินสอนี้ชนิดนี้ใช้ได้จะต้องเป็นผู้สำเร็จในวาชาไสยเวทย์วิทยาคุณ ( สายขาว ) อันเป็นวิทยาการที่มีอาจารย์น้อยคนที่จะเรียนสำเร็จได้ แต่เจ้าประคุณ สมเด็จพระพุฒาจารย์ ( โต ) พรหมรังสี ท่านเรียนวิชานี้สำเร็จตั้งแต่ยังเป็นสามเณร
    เมื่อท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯท่านทำผงได้แล้ว ท่านก็เก็บผงนี้ไว้ในเต้าปูนแดง กาลต่อมาได้มีอุบาสกท่านหนึ่งได้เก็บรักษาไว้ ( กล่าวกันว่าอุบาสกผู้นี้เป็นคนวัดสังเวชวิศยาการ บางลำพูบน ได้ติดตามเจ้าประคุณสมเด็จ มาตั้งแต่ครั้งสมเด็จเป็นสามเณร )
    ผงวิเศษห้าประการนี้ได้รับมรดกมาจากท่านผู้เฒ่าแห่งวัดสังเวชฯมอบให้นำมาคุลีการในการสร้างพระสมเด็จดินเก้าประเทศ และการสร้างพระสมเด็จดิน ๙ ประเทศในครั้งนี้มีคณาจารย์ได้นำผงวิเศษห้าประการของสมเด็จฯผสมลงทั้งหมด ( สำนักวัดสังเวชวิศยาราม มีพระอาจารย์คือ พระบวรวิริยเถร )
    ๕.มวลสารปัญจบท ผงพระคาถาชินปัญชร เป็นผงที่เกิดจากดินสอหินขาวบริสุทธิ์ ดินขาวชนิดนี้ในต่างประเทศเรียกว่า ดินกัวลีน เป็นของบริสุทธิ์โดยธรรมชาติมีค่าสูงมาก เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต)พรหมรังสี ท่านเป็นผู้ค้นพบบ่อดินขาวนี้ คราวที่ท่านธุดงค์ไปเมืองกำแพงเพชร เป้นบ่อดินบริสุทธิ์ที่สมเด็จค้นพบได้อย่างอัศจรรย์ ( และจนกระทั่งปัจจุบัน [ ข้อมูลอ้างอิงเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๗ ] ยังไม่มีผู้ใดสามารถค้นพบบ่อดินชนิดนี้อีกเลย )
    ท่านได้นำดินขาวมาทำเป็นดินสอมงคล และเขียนพระคาถาชินปัญชรด้วยอักขระขอมลงในกระดานชนวนไม้มะละกอ จากนั้นก็เก็บผงสีขาวนั้นไว้นำมาสร้างเป้นพระประติมากรรมองค์เล็กๆบังเกิดกิติคุณความศักดิ์สิทธิ์ จนพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวต้องทรงตรัสถามสมเด็จฯ
    ๖.มวลสาร ฉมหามงคล ผงผ้ายันต์พิทักษ์เอกราช ผงนี้เกิดจากผ้ายันต์พิทักษ์เอกราชอันเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่องค์พระพรหมและเทพยเจ้าชั้นสูงในพรหมโลกร่วมเป็น “ เทพสภา ” สร้างไว้ในสำนักปู่สวรรค์ มีความมุ่งหมายเพื่อให้เป็นเครื่องคุ้มครองปกป้องภัยแก่ทหารตำรวจและผู้มีส่วนในการพิทักษ์เอกราชของชาติไทยที่มีชีวิตอยู่ในแดนทุรกันดาร
    ผงผ้ายันต์พิทักษ์เอกราช นับเป็นผงที่มีความพิสดารอัศจรรย์เพราะผงนี้จะรวมตัวกันเป็นรูปร่างต่างๆและจะปรากฏในองค์พระสมเด็จดิน ๙ ประเทศ เมื่อการสร้างพระได้ผ่านไปครบ ๙ ปีแล้ว รูปลายลักษณะเป็นภาพมงคลประจำแต่ละองค์ไม่เหมือนกันแล้วแต่ผู้เป็นเจ้าของพระสมเด็จดิน ๙ ประเทศ จะบูชาหนักไปทางด้านใดด้านหนึ่ง รูปลายลักษณ์มงคลอาจเกิดเป็นภาพ วัตถุทิพย์ ในสรวงสวรรค์อาจเกิดเป็นภาพเครื่องมงคล ๙ ประการอันได้แก่ คธา สังข์ จักร หม้อน้ำ ธงสามชาย กรอบหน้า โคอุคุภราช ขอช้าง อันงดงามในเมื่อถึงวาระปีที่เก้าแห่งการสร้างพระสมเด็จดิน ๙ ประเทศ
    ๗.มวลสารสัตตมงคล น้ำพระพุทธมนต์ในพิธีเสาร์ ๕ สามโลก ตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ของไทยเราถือกันโดยเคร่งครัดว่าวันเสาร์ ๕ ( เดือน ๕ ขึ้น ๕ ค่ำ วันเสาร์ ) เป็นวันสำคัญในทางไสยศาตร์ ( ไสยฝ่ายขาวอันเป็นเวทวิทยาการที่ให้คุณแก่มนุษย์โดยฝ่ายเดียว
    เทพพระเสาร์ อันเป็นดาวประจำดาวเสาร์ จะเสด็จมาประกอบพิธีบวงสรวงเทพยเจ้าพระผู้เป็นเจ้าและบำเพ็ญกุศลในพระพุทธศาสนา ( ด้วยปัตตานุโมทนามัยคือ อนุโมทนาการบุญของมนุษย์ )ในวันเสาร์ห้านี้ น้ำพระพุทธมนต์ในวันเสาร์ ๕ นี้จึงเป็นน้ำพระพุทธมนต์ เทพมนต์ และน้ำพรหมมนต์พร้อมกันในคราวเดียวกัน จึงเกิดความศักดิ์สิทธิ์สูงยิ่ง
    น้ำพระพุทธมนต์พิธีเสาร์ห้า ๓ โลก ที่นำมาผสมสร้างพระคราวนี้สำเร็จโดยการอัญเชิญ พรหมโลก เทวโลก และมนุษยโลก ร่วมทำพระปริตร พร้อมกันไป น้ำพระพุทธมนต์ตำรับนี้จึงเรียกว่า น้ำทิพย์อันเกิดจาก พรหมฤทธานุภาพ และเทวานุภาพ ด้วยกันสองประการ
    ๘.มวลสารอัฏฐมงคล น้ำมันพระพุทธมนต์ครอบจักรวาล มวลสารชุดนี้เป็นตัวประสานให้ผงวิเศษและดินบริสุทธิ์รวมตัวกันเป็นรูปแบบที่นายช่างต้องการ ( เป็นรูปองค์พระ ) นอกจากนั้นยังช่วยให้เกิดความสะอาดแวววาวสะท้อนแสงในเนื้อผงอีกด้วย
    น้ำมันต์พุทธมนต์ครอบจักรวาลเป็นน้ำมันจากพืชบริสุทธิ์ เช่น น้ำมันสกัดจากผลนาฬิเกร์ (ผลมะพร้าวสีแสด เป็นสมุนไพรชนิดหนึ่งในบางแห่ง ) น้ำมันสกัดจากผลมะเค็ด ( คล้ายน้ำมันตังอิ๊ว ที่มาจากประเทศจีน ) น้ำมันสกัดจากผลพระเจ้า ๕ พระองค์ (มีลวดลายเป้นพระเจ้าห้าพระองค์ปรากฏอยู่ที่ผิว) น้ำมันสกัดจากผลไม้ที่ขึ้นในลังกาทวีป เป็นต้น
    ๙.มวลสาร นวมงคล โองการใบลานพิธีมงคลโบราณ ในตำรับไสยเวทวิทยาคม อันเป็นตำรับหนึ่งในไตรเพทางคศาสตร์ ท่านกำหนดให้อัญเชิญเทพเจ้าในเทวโลกเสด็จมาร่วมพิธีมงคลในมนุษยโลกเป็นการ อนุโมทนาการทำบุญเพื่อความศักดิ์สิทธิ์ในพิธีนั้นๆด้วยทุกครั้งทุกคราวไป การพิธีนี้เป็นประเพณีของชาติไทยตั้งแต่สมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราชแห่งกรุงสุโขทัย การอัญเชิญเทพเจ้าก็คือพราหมณ์อ่านโองการอัญเชิญจากคัมภีร์ใบลาน และคัมภีร์ใบลานใบลานโบราณอันเป็นโองการศักดิ์สิทธิ์นี้ใช้ในการคุลีการพระสมเด็จดิน ๙ ประเทศ

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    ให้บูชา300บาทค่าจัดส่งEMS50บาทครับ (ปิดรายการ) สมเด็จ9.jpg สมเด็จ9หลัง.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กันยายน 2017
  8. อาณัติ

    อาณัติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2006
    โพสต์:
    6,126
    ค่าพลัง:
    +22,240
    ขอจองหลวงปู่วัน........
     
  9. jaru

    jaru เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    589
    ค่าพลัง:
    +711
    จองบูชาพระสมเด็จดิน 9 ประเทศครับ
     
  10. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,191
    ค่าพลัง:
    +21,324
    เหรียญจงเจริญหลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม จ.สิงห์บุรี สร้างขึ้นและประกอบพิธีในปี พ.ศ. 2518 โดยพะรครูสุจิตตานุรักษ์ (หลวงพ่อจวน สุจิตโต) เจ้าอาวาสวัดหนองสุ่ม รองเจ้าคณะตำบลอินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี

    ในระหว่างประกอบพิธีัพุทธาภิเษกในวัดพระแก้ว หลวงพ่อจวนขณะนั่งสมาธิแผ่พลังจิตปลุกเสกเหรียญรุ่นนี้ จนเกิดเหตุการณ์น่าอัศจรรย์ใจขึ้นคือสายสิญจน์ที่อยู่บริเวณด้านหน้าของหลวงพ่อจวน มีปฏิกริยาเหมือนโดนความร้อนจนเกิดเป็นควันและลุกเป็นไฟขึ้น คณะผู้ดำเนินการและผู้ร่วมพิธีที่อยู่ในเหตุการณ์ ต่างตกตลึงในเหตุการณ์ที่น่าอัศจรรย์ใจในครั้งนั้นเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้เหรียญรุ่นนี้จึงถูกขนานนามว่า เหรียญรุ่น "สายสิญจน์ไหม้"

    เหรียญรุ่นนี้ได้ทำการแจกจ่ายให้แก่ ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ ที่ปฏิบัติหน้าดูแลปกป้องประเทศ เรื่องพุทธคุณยอดเยี่ยมทางด้านแคล้วคาดคงกระพันชาตรี ช่วยเสริมบารมีแก่ผู้เกิดธาตุไม้ ธาตุดินและธาตุทอง ซึ่งจะช่วยเร่งให้ดวงชะตาประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน การค้าได้อย่างเร็วพลัน

    หลวงพ่อจวนเป็นพระเกจิที่มีพลังจิตสูงท่านสำเร็จ วิชาธาตุกสิณไฟ แต่ท่านไม่เคยโอ้อวดหรือบอกกล่าวเล่าให้ใครฟัง ส่วนใหญ่ลูกศิษย์ใกล้ชิดที่เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ทราบกันดี สังเกตได้จากพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ๆ ที่หน่วยงานข้าราชการทหาร ตำรวจ จัดขึ้นมาทุกครั้ง ต้องมานิมนต์หลวงพ่อจวนไปเข้าร่วมพิธีเสมอ วัตถุมงคลทุกรุ่นที่ "หลวงพ่อจวน" เข้าร่วมพิธีนั่งปรกปลุกเสกอัดพลังร่วมกับพระเกจิชื่อดังหลายรูปล้วนมีประสบการณ์สูงมาก

    หลวงพ่อจวน ได้มุ่งศึกษาด้านวิปัสสนากรรมฐานจากหลวงพ่อแป้น วัดบ้านไร่ (วัดโฆสิทธาธรรม) หลวงพ่อกอง จ.สุโขทัย, หลวงพ่อปั้น วัดค้างคาว อ.สรรคบุรี, หลวงพ่อลา วัดโพธิศรี, หลวงพ่อผึ่ง วัดโบสถ์, หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง, หลวงพ่อเจ๊ก วัดระนาม, หลวงพ่อโต๊ะ วัด กำแพง, หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน, หลวงพ่อเอาะ วัดม่วง, หลวงปู่บุดดา วัดกลางชูศรีเจริญสุข เป็นต้น

    “หลวงพ่อจวนเป็นพระองค์หนึ่ง ที่หลวงพ่อฤาษีฯ ให้ลูกศิษย์ไปกราบ และทำบุญด้วย เนื่องจากหลวงพ่อ ไปเจอหลวงพ่อจวนที่พระจุฬามณี โดยหลวงพ่อจวนไปทั้งกายเนื้อ”

    “สมัยที่หลวงพ่อจวนยังอยู่ จะไม่ให้ทำหนังสือวัตถุมงคล ท่านบอกว่า ของ ๆ ฉันถ้าจะดังเดี๋ยวดังเอง”

    ตามประวัติที่บันทึกไว้

    ตอนหลวงพ่อจวน มาเยี่ยมหลวงพ่อกวยที่วัดบ้าแค ท่านทำให้ไฟฟ้าวัดบ้านแคดับ หลวงพ่อกวย จึงรินน้ำชาให้ แต่หลวงพ่อจวน ฉันไม่ได้เพราะน้ำชาในถ้วยไม่ไหล หลวงพ่อจวนถามหลวงพ่อกวยว่า แล้วผมจะฉันน้ำชาได้อย่างไร หลวงพ่อกวยตอบว่าท่านก็ทำให้ไฟมันติดขึ้นมาก่อนสิ

    หลวงพ่อจวน ประกอบด้วยศีลที่งดงาม มีเมตตาธรรมสูง ถือสันโดษ มีปฏิปทาต่อสาธุชน ไม่เลือกยากดีมีจน มีผู้คนไปขอความเมตตาจากท่าน เวลามีทุกข์ร้อน จะไปกราบไหว้ขอพร และรดน้ำพระพุทธมนต์ เพื่อปัดเป่าความทุกข์ร้อน จนเป็นที่เลื่องลือกันว่าน้ำมนต์ของท่านขลังศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก

    หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม เป็นพระองค์หนึ่งที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ให้ลูกศิษย์ไปกราบ และทำบุญด้วย เนื่องจากหลวงพ่อ ไปเจอหลวงพ่อจวนที่พระจุฬามณี โดยหลวงพ่อจวนไปทั้งกายเนื้อ
    มีอยู่เที่ยวหนึ่งหลวงพ่อท่านบอกกับพวกเรา บอกว่า " เฮ้ย ! พวกแกลองสืบดูซิ มีหลวงตาองค์หนึ่งขาว ๆ ท้วม ๆ ล่ะนะ ชื่อ จวน อยู่สิงห์บุรี ลองดูสิว่ามีพระชื่อนี้อยู่สิงห์บุรีวัดไหน ช่วยบอกให้ด้วยหาไม่ยากหรอก ท่านดังด้วย หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม"
    ถาม : หลวงพ่อหาทำไมครับ
    ท่านบอกว่า : "วันก่อนขึ้นไปพระจุฬามณีเห็นหลวงตาจวนเดินตุ๊บ ๆ ตั๊บ ๆ อยู่ เขาเก่งว่ะ เขาไปทั้งตัวเลย ไม่ได้ใช้มโนมยิทธิถอดจิตไปนะนั่น เล่นไปทั้งตัวเลยล่ะ"

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    เหรียญสายสิญจ์ไหม้หลวงพ่อจวนครับ เก็บไก้เก็บครับพระดีมีประสพการณ์ พระสรา้งยุคใหม่ๆยังแพงกว่า 42 ปีแล้วครับเหรียญนี้

    ให้บูชา300บาทค่าจัดส่งEMS50บาทครับ


    ลพ.จวน.jpg ลพ.จวนหลัง.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มกราคม 2018
  11. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,191
    ค่าพลัง:
    +21,324
    เหรียญไตรมาสลป.เมฆ วัดลำกระดาน มีนบุรี หนองจอก บางกอก ไทยแลนด์
    เหรียญนี้ตามประวัติเสกไตรมาส ครับ ปกติท่านดังปลัดขิกไม้เขยตายพราย

    ให้บูชา200บาทค่าจัดส่งEMS50บาทครับ

    ลป.เมฆ.jpg ลป.เมฆหลัง.jpg
     
  12. jaru

    jaru เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    589
    ค่าพลัง:
    +711
    รายการนี้โอนค่าบูชาเรียบร้อยแล้วครับ รายละเอียดแจ้ง PM ครับ

    รายการนี้โอนเรียบร้อยแล้วครับ รายละเอียดแจ้งทาง PM
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,191
    ค่าพลัง:
    +21,324
    เหรียญหลวงพ่อภู วัดช้าง อ.บ้านนา จ.นครนายก ลองหาประวัติท่านอ่านครับ เป็นศิษย์หลวงพ่อเกิดวัดสะพาน สายวัดช้างยุคหลวงพ่อภูมีความสนิทกับสายวัดขนอนเหนือ หลวงพ่อพรหม รุ่นนี้ประวัติว่าลพ.พรหมมานั่งเสกให้ด้วย2รอบ รอบ2เสก4ชั่วโมง หาปัจจัยสร้างตึกสงห์รพ.บ้านนาเมื่อปี2532-33
    และหลวงพ่อภูเสกเดี่ยวในกุฎิอีก

    ให้บูชา300บาทค่าจัดส่งEMS50บาทครับ

    ลป.ภู.jpg ลป.ภูหลัง.jpg
     
  14. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,191
    ค่าพลัง:
    +21,324
    วันนี้จัดส่ง

    ET 6209 3290 9 TH ฉะเชิงเทรา

    ขอบคุณครับ
     
  15. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,191
    ค่าพลัง:
    +21,324
    เบอร์บัญชีผมครับ
    เบอร์บัญชีธ.กรุงไทย KTB125-0-08923-9 supachai thu
    โอนเงินแล้วช่วยแจ้งวันเวลาที่โอนในกระทู้เพื่อง่ายในการตรวจสอบหรือทางPMแล้วจะรีบดำเนินการจัดส่งEMSไปให้โดยด่วนนะครับ..หลายรายการก็ค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    ติดต่อได้ที่ 08..1.70..4..72..64
     
  16. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,191
    ค่าพลัง:
    +21,324
    เบอร์บัญชีผมครับ
    เบอร์บัญชีธ.กรุงไทย KTB125-0-08923-9 supachai thu
    โอนเงินแล้วช่วยแจ้งวันเวลาที่โอนในกระทู้เพื่อง่ายในการตรวจสอบหรือทางPMแล้วจะรีบดำเนินการจัดส่งEMSไปให้โดยด่วนนะครับ..หลายรายการก็ค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    ติดต่อได้ที่ 08..1.70..4..72..64
     
  17. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,191
    ค่าพลัง:
    +21,324
    พระผงรูปเหมือนนั่งตั๋ง หลวงปู่หมุน
    ให้บูชา 10000 บาทครับ
    ลป.หมุนนั่งตั๋ง.jpg ลป.หมุนนั่งตั๋งหลัง.jpg
     
  18. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,191
    ค่าพลัง:
    +21,324
    พระสมเด็จปรกโพธิ์เก้าใบหลังพระแม่ธรณีพิมพ์เล็ก วัดซับลำใย
    ให้บูชา 8000 บาทครับ
    ปรกโพธิ์๙พิมพ์ใเล็ก.jpg ปรกโพธิ์๙พิมพ์ใเล็กหลัง.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 พฤศจิกายน 2017
  19. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,191
    ค่าพลัง:
    +21,324
    พระปิดตาพิมพ์ตุ๊กตา
    ให้บูชา3500บาทครับ
    พระปิดตา.jpg พระปิดตาหลัง.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 พฤศจิกายน 2017
  20. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,191
    ค่าพลัง:
    +21,324
    http://www.panyapatipo.com/
    เข้าไปอ่านฟังธรรมได้เลยครับ
    เหรียญพระอาจารย์เปลี่ยน แม่แตง เชียงใหม่ ออกที่สกลนคร วัดที่ท่านบวช
    ให้บูชา300บาทค่าจัดส่งEMS50บาทครับ

    อ.เปลี่ยน.JPG อ.เปลี่ยนหลัง.JPG
     

แชร์หน้านี้

Loading...