เห็นสีรุ้งรอบดวงไฟ ปวดตา ตาแดง สัญญาณอาการโรคต้อหิน เสี่ยงตาบอดถาวร

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย วิญญาณนิพพาน, 19 ธันวาคม 2016.

  1. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,244
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,001
    [​IMG]

    กรมการแพทย์เตือนผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคต้อหิน คนสายตาสั้นหรือยาวมาก ผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคเกี่ยวกับเลือดและหลอดเลือด และผู้ที่ใช้ยาหยอดตาพวกสเตียรอยด์ ควรตรวจวัดความดันลูกตาและขั้วประสาทตาบ้าง และอาจตรวจซ้ำ ๆ ทุกๆ 1-5 ปี พร้อมแนะผู้สูงอายุที่ใช้แท็บเล็ตหรือสมาร์ทโฟน ควรดูด้วยตัวอักษรขนาดใหญ่ ใช้ตัวอักษรสีดำ พื้นจอสีขาว เพื่อถนอมสายตาให้อยู่ได้นาน ๆ

    นายแพทย์ปานเนตร ปางพุฒิพงศ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า โรคต้อหิน เป็นโรคทางตาที่เป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาตาบอดมากเป็นอันดับ 2 รองจากต้อกระจก ซึ่งต้อหินเกิดจากความดันภายในลูกตาสูง ไปกดขั้วประสาทตา ทำให้ขั้วประสาทตาเสื่อมหรือฝ่อ เนื่องจากขาดเลือดไปเลี้ยงและลานสายตาแคบลง พบได้ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงผู้สูงอายุ ทั้งในเพศชายและหญิง มักพบมากในคนที่มีอายุประมาณ 40-60 ปี ต้อหินเป็นโรคทางตาที่มีอันตรายมากที่สุด เพราะทำให้ตาบอดถาวรได้ เนื่องจากขั้วประสาทตาที่เสื่อมหรือฝ่อแล้วไม่สามารถทำการรักษาให้ดีเหมือนเดิมได้

    สาเหตุของการเกิดต้อหิน คือ เกิดจากความผิดปกติของโครงสร้างของมุมตาแต่กำเนิด การกระทบกระเทือนต่อลูกตาจากสาเหตุภายนอก หรือเกิดจากการอักเสบภายในลูกตา

    ต้อหินมี 2 ประเภท คือ ต้อหินชนิดมุมปิดหรือชนิดเฉียบพลัน เกิดจากมีการขัดขวางการไหลเวียนของน้ำในลูกตาที่เกิดขึ้นเฉียบพลัน จะมองเห็นสีรุ้งรอบดวงไฟ จะปวดตามาก ตาแดง ปวดศีรษะด้านตาข้างที่เป็น ลืมตาไม่ขึ้น บางรายมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ผู้ป่วยควรมาพบแพทย์โดยเร็ว หากปล่อยทิ้งไว้เกิน 2-3 วัน อาจตาบอดได้

    [​IMG]

    ต้อหินชนิดมุมเปิด เกิดจากการสร้างน้ำในตาไม่ปกติหรือรูเปิดระบายน้ำออกผิดปกติ ไม่มีอาการผิดปกติ ไม่เจ็บ ไม่ปวด ผู้ป่วยกลุ่มนี้จึงมาพบแพทย์ช้า ผู้ป่วยจะมีลานสายตาแคบลงมองด้านข้างไม่เห็น มักเดินชนของ จึงเริ่มมาพบแพทย์เมื่อเป็นมากแล้ว

    วิธีป้องกันโรคต้อหิน แนะนำให้ผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นต้อหิน คนสายตาสั้นหรือยาวมาก ผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคเกี่ยวกับเลือดและหลอดเลือด และผู้ที่ใช้ยาหยอดตาพวกสเตียรอยด์ ควรเข้ารับการตรวจวัดความดันลูกตาและขั้วประสาทตาบ้าง และอาจตรวจซ้ำ ๆ ทุก ๆ 1-5 ปี เพื่อไม่ให้ประสาทตาเสื่อมมากขึ้น

    ทั้งนี้ ปัจจุบันการรักษาโรคต้อหินทำได้หลายวิธี เช่น ใช้ยาหยอดตา รับประทานยา ยิงแสงเลเซอร์ ผ่าตัด แต่เป็นเพียงการระงับไม่ให้ประสาทตาถูกทำลายไปมากกว่าเดิม เพราะไม่สามารถรักษาให้ส่วนที่เสื่อมแล้วกลับมามองเห็นได้อีกครั้งเหมือนการรักษาต้อกระจก ซึ่งแต่ละวิธีมีข้อจำกัดขึ้นอยู่กับผู้ป่วยและประเภทของต้อหิน

    ผู้สูงอายุนอกจากเสี่ยงเป็นโรคต้อหินแล้ว ยังเป็นช่วงที่มีการเปลี่ยนสรีระทางสายตาเข้าสู่ภาวะสายตายาวหรือสายตาคนแก่ หากไม่ได้สวมแว่นสายตาช่วยจะต้องใช้กล้ามเนื้อตาเพ่งมองนานกว่าปกติ กล้ามเนื้อตาล้าและปวดเมื่อยตามากยิ่งหากใช้แท็บเล็ตหรือสมาร์ทโฟนที่มีขนาดตัวหนังสือเล็ก ๆ จะทำให้กล้ามเนื้อภายในและภายนอกลูกตาหดตัว เพื่อปรับระยะโฟกัสและมุมตามองใกล้ จึงขอแนะนำให้ดูแท็บเล็ตหรือสมาร์ทโฟนที่มีตัวอักษรขนาดใหญ่มองแล้วสบายตาที่สุดตัวอักษรสีดำ พื้นจอสีขาว เพื่อถนอมสายตาให้อยู่ได้นาน ๆ

    ที่มาบทความสุขภาพจาก ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กรมการแพทย์

    เห็นสีรุ้งรอบดวงไฟ ปวดตา ตาแดง สัญญาณอาการ โรคต้อหิน เสี่ยงตาบอดถาวร
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.jpg
      1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      36.8 KB
      เปิดดู:
      653
    • 2.jpg
      2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      39.6 KB
      เปิดดู:
      163
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 ธันวาคม 2016

แชร์หน้านี้

Loading...