เห็นเค้าทำบุญเเล้วเราอนุโมทนา สาธุ ได้บุญจริงหรือเปล่าครับ

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย เเสงเทียน, 10 มิถุนายน 2017.

  1. เเสงเทียน

    เเสงเทียน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2017
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +154
    อย่างมีคนใส่บาตรพระตอนเช้า เราเห็นเเล้ว คิดในใจ ขอให้คนทำบุญมีความสุขกายสบายใจเเล้ว ก็ สาธุ เเค่นี้เราได้หรือครับ 90% จริงหรือเปล่า
     
  2. Mdef

    Mdef เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    1,367
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,869

    สติปัญญาก็เหมือนกับ น้ำกลิ้งบนใบบัว อยู่ด้วยกันแต่ไม่เป็นเนื้อเดียวกัน
    การที่เรารู้ว่า สิ่งไหนควรยินดี สิ่งไหนไม่ควรยินดี สิ่งไหนคือกุศล สิ่งไหนคืออกุศล
    นั้นย่อมเป็นเหตุแห่ง สติปัญญา

    ฆราวาสที่มีครอบครัวมีลูกมีเมียก็มีอายุที่ยังปนด้วย กามตัณหา
    พระสงฆ์มีอายุด้วยการสืบพรหมจรรย์ การทำทานจึงไม่ใช่แค่เหมือนฆราวาสเพื่ออิ่มท้อง
    และไปทำการทำงานตามวิสัยโลก การยินดีในการทำทานนี้จึงต้องยินดีไปถึง
    การสืบอายุที่ประพฤติปฏิบัติพรหมจรรย์
    พรหม มีอายุยืน การทำทานในที่ๆมีอายุยืน อานิสงค์ย่อมยาวไกลหลายช่วงอายุ
    กามตัณหา มีอายุสั้น อิ่มได้เพียงชั่วครู่ก็จะวกกลับมาหิวใหม่ อานิสงค์ย่อมน้อยตามช่วงอายุ

    หากมาคิดเป็นเปอร์เซ็นช่วงอายุเวลาหนึ่ง ก็คงต้องสังเกตใจเราว่าเรายินดีไปถึงช่วงอายุแบบไหน
    ในขณะที่ประพฤติปฏิบัติพรหมจรรย์ อายุกามตัณหา ย่อมน้อยลง ลดลง
    ในขณะเสพกามตัณหาอยู่ อายุพรหมจรรย์ ย่อมน้อยลง ลดลง
    ฉะนั้น ตัวบั่นทอนเปอร์เซ็นที่ทำให้เราไปไม่ถึง 90% ก็สังเกตตรง กามตัณหา เราคลายลงใหม
    ยินดีต่อทุกรูปนาม ในทุกบุญบารมี แต่ กิเลสตัณหาในใจเรานั้นมีอยู่มาก ตัวบั่นทอนเปอร์เซ็น
    มันก็ต้องมากเป็นธรรมดา

    ปรามาสก็เป็นตัวตัดรอนเปอร์เซ็น แม้กามตัณหาจะมีคุณน้อยกว่าพรหม แต่ก็ยังจัดได้ว่ามีคุณอยู่
    ผัวเมียทะเลาะกัน ผลสุดท้ายมาคืนดีกันบนเตียง ก็แสดงว่า กามคุณช้วยสานสัมพันธไมตรีได้
    หากเขาไม่ได้เสพนอกลู่นอกทางให้ต้องมีใครเกิดแตกร้าว การพบเห็นพ่อแม่ที่ให้ทานแก่ลูก
    ก็สามารถยินดีได้ ก็เป็นบุญเป็นกุศลเหมือนกัน ไม่ประมาททั้งบุญเล็กบุญใหญ่
    กว่าจะมาเป็นบุญใหญ่ๆ ก็เริ่มมาจากบุญเล็กๆ การปรามาสพลาดพลั้งมักจะเกิดจากสิ่งเล็กๆ
    กับพระสงฆ์นั้นไม่ทะเลาะ แต่กับคนในครอบครัว นิดๆหน่อยๆ ก็มีปากเสียงกันแล้ว
     
  3. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,280
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,001
  4. เกิดมาสร้างบารมี

    เกิดมาสร้างบารมี สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2017
    โพสต์:
    55
    ค่าพลัง:
    +36
    การอนุโมทนาเป็น วิธีทำบุญอย่างหนึ่ง (ที่ตั้งของบุญ ๑๐ ประการ) ที่อยู่ในพระไตรปิฏก ที่เรียกว่า บุญกิริยาวัตถุ ๑๐ หรือ บุญกิริยาวัตถุ ๓ โดยย่อ ทาน ศีล ภาวนา

    ซึ่งการอนุโมทนาก็อยู่ในส่วนของทาน
    (ปัตตานุโมทนามัย) การอนุโมทนา เป็นบุญพิเศษที่ไม่ควรมองข้าม เป็นบุญที่ได้อย่างง่าย ๆ โดยไม่ต้องเสียเวลา เงินตรา หรือทุ่มเทสรรพกำลังไปทำ เพียงแค่ทำจิตให้เลื่อมใสในบุญที่คนอื่นเขาทำไว้ดีแล้ว และเข้าไปกล่าวถ้อยคำมงคลว่า “สาธุ สาธุ ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ” เมื่ออีกฝ่ายกล่าวรับว่า “สาธุ” ก็เท่ากับว่า ปัตตานุโมทนามัยได้สำเร็จกับตัวเราแล้ว

    ๑ ดังเรื่องในสมัยพุทธกาล มหาอุบาสิกาวิสาขาได้สร้างวิหารถวายสงฆ์มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประมุข ท่านได้สละเครื่องประดับซึ่งมีราคาถึง ๙ โกฏิ สร้างปราสาทหลังใหญ่ให้เป็นที่ประทับของพระพุทธองค์ และเป็นที่อยู่ของภิกษุสงฆ์ถึง ๑,๐๐๐ ห้อง คือ ชั้นล่าง ๕๐๐ ห้อง ชั้นบน ๕๐๐ ห้อง

    5608_P02_02.jpg


    พระมหาโมคคัลลานเถระเป็นผู้ควบคุมการก่อสร้าง ใช้เวลา ๙ เดือนจึงสำเร็จ จากนั้นมีการฉลองวิหารโดยใช้เงินถึง ๙ โกฏิ มหาอุบาสิกาวิสาขาพร้อมด้วยเพื่อนหญิงประมาณ ๕๐๐ คน พากันขึ้นไปชมปราสาท ได้เห็นสิริสมบัติของปราสาทนั้น เกิดความปลื้มปีติในมหาทานบารมีของตน จึงพูดกับเพื่อนหญิงว่า “พวกเธอจงอนุโมทนาบุญที่ฉันได้ขวนขวายทำเถิด ฉันขอให้พวกเธอมีส่วนในบุญที่ฉันได้ทำไว้ดีแล้ว” เพื่อนหญิงทั้งหมดต่างมีใจเลื่อมใส พากันอนุโมทนาว่า “สาธุ สาธุ ดีแล้ว”


    ในบรรดาเพื่อนหญิงทั้งหมดของเธอ มีคนหนึ่งใส่ใจในการอนุโมทนาบุญเป็นพิเศษ เธอนึกถึงด้วยความเลื่อมใสในตัวนางวิสาขาว่า “ช่างมีปัญญาและมีศรัทธามากเหลือเกิน มีคนมากมายในโลกนี้ ที่มีทรัพย์มากมายก่ายกอง แต่จะหาคนที่ทุ่มเทเอามาสร้างวัดเพื่อใช้เป็นสถานที่เผยแผ่พระพุทธศาสนา ได้ยากเหลือเกิน เธอช่างเป็นยอดวีรสตรีที่กล้าทุ่มเทกำลังทรัพย์ทั้งหมดสร้างถาวรวัตถุเพื่อประโยชน์ใหญ่แก่มนุษยชาติ ฉันขออนุโมทนาในมหากุศลอัน ยิ่งใหญ่ของเธอด้วยนะ วิสาขา” ว่าแล้วก็ทั้งอนุโมทนาและยกย่องชมเชยไม่ขาดปาก


    ครั้นละโลก ด้วยอานิสงส์ที่เธอได้อนุโมทนาบุญด้วยความบริสุทธิ์ใจ ทำให้ได้ไปบังเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มีวิมานหลังใหญ่ กว้าง ยาว และสูง ๑๖ โยชน์ ประดับประดาด้วยห้องรโหฐาน กำแพง อุทยาน และสระโบกขรณี ปรากฏเหมือนล่องลอยอยู่ในอากาศ แผ่รัศมีไปได้ ๑๒ โยชน์ ครั้นเธอจะไปที่ไหน วิมานก็จะเคลื่อนตามเธอไปด้วย ขณะกำลังฟ้อนรำ เสียงทิพย์ก็เปล่งออกจากปากอันเป็นสิริพร้อมกับกลิ่นทิพย์ที่หอมฟุ้ง ทั้งกลิ่นกายก็หอมฟุ้ง เมื่อเคลื่อนไหวกาย เครื่องประดับที่ช้องผมก็เปล่งเสียงกังวาน พวงมาลัยบนศีรษะก็มีกลิ่นหอมเย็น



    5608_P02_03.jpg


    วิมานของเธอยังมีสระโบกขรณี มีหมู่มัจฉาแหวกว่ายน่าดู มีน้ำใสสะอาด ปูลาดด้วยทรายทอง ดารดาษไปด้วยปทุมหลากชนิด ยามลมรำเพยก็โชยกลิ่นระรื่นจรุงใจ มีรุกขชาตินานาชนิด ต้นไม้ผลไม้นานาพันธุ์เกิดขึ้นภายในนิเวศน์ วิมานนี้กึกก้องไปด้วยเสียงดนตรี เหล่าอัปสรเทพนารีต่างส่งเสียงรื่นเริงยินดี วิมานก็มีรัศมีสว่างไสวไปทุกทิศ


    วันหนึ่ง พระอนุรุทธะเหาะขึ้นไปบนเทวโลก เห็นความพิเศษของวิมานแห่งนี้ จึงถามเจ้าของวิมานว่า “ท่านเทพนารี ท่านมีวรรณะงาม เปล่งรัศมีสว่างไสวไปทุกทิศเหมือนดาวประกายพรึก ผลบุญที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้เป็นเพราะท่านทำบุญอะไรมา”


    เทพธิดาผู้มีบุญตอบว่า “พระคุณเจ้า มหาอุบาสิกาวิสาขาเป็นสหายของดิฉัน เธอได้สร้างมหาวิหารถวายสงฆ์ ดิฉันเห็นมหาวิหารและการบริจาคทรัพย์อุทิศแด่สงฆ์ แล้วบังเกิดความเลื่อมใสในบุญนั้น จึงอนุโมทนาบุญด้วยใจที่เปี่ยมด้วยศรัทธาและมหาปีติ ดิฉันได้วิมานที่อัศจรรย์น่าทัศนาก็เพราะการอนุโมทนาบุญอันบริสุทธิ์ในครั้งนั้น” “เพียงแค่อนุโมทนาบุญในมหาทานที่ผู้อื่นทำ ยังได้เสวย ทิพยสมบัติมากมายถึงเพียงนี้ แล้วมหาอุบาสิกาวิสาขาผู้เป็นต้นบุญในการถวายมหาวิหาร เธอไปบังเกิดที่ไหน” “พระคุณเจ้าผู้เจริญ มหาอุบาสิกาวิสาขาได้สร้างมหาวิหารถวายสงฆ์ บุญที่เธอทำเอาไว้มีมากมาย เธอจึงได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นนิมมานรดี เป็นอัครมเหสีของท้าวสุนิมมิตเทวราช”



    5608_P02_04.jpg


    พระเถระได้ถามเทพธิดาก่อนเหาะกลับลงมาเมืองมนุษย์ว่า “แม่เทพนารี เธอมีอะไรจะฝากถึงคนที่อยู่ในโลกมนุษย์ไหม” “ถ้าพระคุณเจ้ากลับลงไปยังเมืองมนุษย์แล้ว ขอพระคุณเจ้าโปรดชักชวน คนอื่น ๆ ว่า พวกท่านจงถวายทานแด่สงฆ์เถิด และจงมีใจเลื่อมใสฟังธรรม การได้อัตภาพเป็นมนุษย์เป็นการได้โดยยาก พระสงฆ์เป็นบุญเขตที่กว้างใหญ่ ไม่อาจคำนวณนับได้ เหมือนน้ำในมหาสมุทรไม่อาจคำนวณปริมาณได้ พระสงฆ์เป็นผู้ประเสริฐสุด เป็นสาวกของพระพุทธเจ้า เป็นผู้สร้างแสงสว่าง กล่าวสอนธรรม ชนเหล่าใดถวายทานอุทิศพระสงฆ์ ทานของชนเหล่านั้นเป็นอันถวายดีแล้ว ทักษิณานั้นถึงสงฆ์แล้วย่อมมีผลมาก ผู้ที่ยังท่องเที่ยวอยู่ในภพพึงกำจัดมลทินคือความตระหนี่พร้อมทั้งบาปเถิด แล้วจะได้บังเกิดในแดนสวรรค์เหมือนดิฉัน”


    ยอดนักสร้างบารมีทั้งหลาย.. เพียงแค่อนุโมทนาบุญในมหาทานบารมีที่คนอื่นทำ ยังได้รับอานิสงส์ใหญ่เกินควรเกินคาดถึงเพียงนี้ การเปล่งถ้อยคำที่ออกมาจากใจว่า “ขออนุโมทนาบุญ” จึงเป็นถ้อยคำมหามงคล เป็นประดุจถ้อยคำเพชรถ้อยคำพลอย หากใจเรามีมหาปีติเลื่อมใสในบุญกุศลที่คนอื่นทำจริง ๆ ผลบุญจะเกิดขึ้นกับเราอย่างเกินควรเกินคาด ดังเรื่องเพื่อนหญิงของอุบาสิกาวิสาขาข้างต้น ดังนั้นให้หมั่นมีมุทิตาจิตกับคนอื่น เมื่อเห็นบุคคลใดทำความดีแม้เพียงเล็กน้อย ก็ให้รีบยกมือกล่าวอนุโมทนากับเขา


    ปัตตานุโมทนามัยมีผลต่อหมู่ญาติที่ล่วงลับไปแล้วอย่างน่าอัศจรรย์ ถ้าพลัดไปเกิดเป็นเปรต หากมีผู้อุทิศส่วนกุศลไปให้ แล้วตนเองคอยอนุโมทนาบุญ บุญก็สามารถหนุนส่งให้พ้นจากอัตภาพที่ทุกข์ทรมานไปสู่สุคติ เสวยสุขในสวรรค์ได้ ถ้าจะให้ดี เพื่อความมั่นใจในการเดินทางไปสู่สัมปรายภพ ว่าเราจะไปสุคติภูมิเท่านั้น ไม่พลัดไปเกิดในอบายภูมิ ตัวเราก็ควรขวนขวายในการทำบุญกุศลให้ได้อย่างเต็มที่ อย่ามัวคิดดูก่อน แต่จงรีบทำก่อนใคร อีกทั้งไม่คอยแต่รออนุโมทนาบุญกับใคร แต่ควรให้คนอื่นมาอนุโมทนาบุญกับเราย่อมดีกว่า เราจะได้เป็นต้นบุญต้นแบบให้ชาวโลก และเป็นที่พึ่งของสรรพสัตว์อีกมากมาย..
     
  5. เกิดมาสร้างบารมี

    เกิดมาสร้างบารมี สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2017
    โพสต์:
    55
    ค่าพลัง:
    +36
     

แชร์หน้านี้

Loading...