เห็นเจ้าแม่กวนอิมทั้งในสมาธิ และในฝัน2ครั้ง

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย ปมณฑ์, 2 มีนาคม 2008.

  1. ปมณฑ์

    ปมณฑ์ บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    <CENTER>ตอนที่ 7....โศลกทิ้งเงื่อนงำ เห็นการเกิดตายแจ้งในสัจธรรม</CENTER>
    ขณะที่โหลวน่าฝู่ลวี่ถูกคุมตัวไปที่แดนประหาร เสนาบดีคอนาโลผลุนผลันเข้ามากราบทูลว่า ขอฝ่าบาทโปรดหยุดความพิโรธไว้ก่อน โปรดฟังกระหม่อมสักคำ โหลวน่าฝู่ลวี่มีวาจาก้าวร้าวโทษควรประหาร แต่ขณะนี้พระมารดาแห่งแผ่นดินทรงพระประชวรด้วยโรคประหลาด ยังไม่ได้รับการรักษากลับจะมาประหารคนในเวลานี้ จะเป็นอัปมงคล ทำไมจึงต้องหาความขุ่นข้องให้ลำบากตัวเพิ่ม ตามความเห็นของกระหม่อม สู้อภัยโทษเขาดีกว่า เพื่อหาวิธีรักษาพระมเหสี ราชาเมี่ยว จ้วนดำรัสว่า เมื่อข้าแผ่นดินอาวุโสขอเอาไว้ ข้าก็เห็นแก่ท่าน โทษตายอภัยให้ แต่โทษอื่นละเว้นไม่ได้ ว่าแล้วก็มีโองการให้คนไปตามกลับมา แล้วลงโทษตีด้วยกระบองสองร้อยที
    จากนั้นก็นำไปจองจำในแดนนักโทษเด็ดขาดด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำของคอนาโลก็ได้ช่วยชีวิตโหลวน่าฝู่ลวี่ไว้แล้ว จึงได้ยืนนิ่งอยู่ข้าง ๆ พวกมหาดเล็กก็ช่วยกันแก้มัดโหลวน่าฝู่ลวี่ให้หลวม ๆ แล้วผลักเขานอนลงกับพื้น แล้วก็ตีด้วยกระบองสองร้อยที เสร็จแล้วก็นำไปขังในแดนนักโทษเด็ดขาด เข้าขื่อเข้าโซ่เพื่อรับการทรมานต่อไป พอย่างเข้าคืนที่ 6 เมื่อยามเฝ้าห้องคุมขังตรวจไปถึงสถานที่โหลวน่าฝู่ลวี่นั่งอยู่ ก็ถึงกับสะดุ้งตกใจ ไม่มีแม้แต่ร่องรอย พบแต่โซ่ตรวนที่แตกหักทิ้งเกลื่อนอยู่บนพื้น มีกระดาษแผ่นหนึ่งวางไว้ม้านั่ง มีโศลก 4 ประโยคเขียนไว้ดังนี้
    เมี่ยว วิธีอัศจรรย์อายตนะหกสะอาด
    ส้าน สัมพันธ์ดีแปรเปลี่ยนเป็นธาตุแท้
    กวน เพ่งว่างเพ่งรูปรู้สึกแน่
    อิม เสียงแท้หากได้ยินแสวงหา พนักงานแดนขังต่างพากันถามไถ่ ทุกคนต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ขณะที่เข้าคุมขังก็ได้ใส่กุญแจเพิ่มขึ้น เพราะเขาเป็นนักโทษเด็ดขาด ทั้งยังเข้าขื่อไว้ที่คออีกด้วย ถ้าประตูไม่เปิดเขาจะหนีออกไปได้อย่างไร ทุกคนช่วยกันจุดคบไฟขึ้นค้นหา แม้แต่ซอกหินแต่ละก้อนก็ส่องเห็น ไม่มีแม้แต่เงา หัวหน้าหน่วยคุมขังไม่กล้าเอื่อยเฉื่อย รีบ ๆ นำความรายงานต่อขุนนางผู้ใหญ่สัสดีเรื่อนจำนำกระดาษแผ่นนั้นแล้วรีบเข้าถวายรายงานในวังหลวงคืนนั้นเลย
    ขณะนั้นอาการประชวรของมเหสีเป่าเต๋อเพียบหนัก ราชาเมี่ยวจ้วนกำลังปรึกษาถึงเรื่องงานพิธีศพอยู่ เมื่อได้รับข่าวนี้ก็ไม่รู้สึกกริ้วมากนัก กำลังคิดจะมีโองการให้สัสดีเรือนจำนำพนักงานแดนขังไปประหารฐานที่เผลอเรอต่อหน้าที่ อีกทางหนึ่งก็จะให้ทหารนำกองกำลังออกติดตามเพื่อนำโหลวน่าฝู่ลวี่กลับมาลงโทษ ในพระทัยกำลังครุ่นคิดถึงตรงนี้ แต่ยังมิทันเปล่งวาจาออกมา ก็พลันได้ยินนางกำนัลนางหนึ่งลุกลี้ลุกลนกราบบังคมทูลอยู่ตรงพื้นว่า พระมเหสีเสด็จสวรรคตแล้วเพคะ ราชาเมี่ยวจ้วนพอได้ยินข่าวนี้รู้สึกเศร้าสลดพระทัยมาก น้ำพระเนตรไหลอาบแก้มทั้งสองข้าง จึงไม่มีกะจิตกะใจไปถามเรื่องโหลวน่าฝู่ลวี่ รีบลุกจากที่ประทับแล้วผลุนผลันเข้าไปในตำหนัก
    ตั้งแต่วันก่อนที่บรรดานายแพทย์หมดปัญญาจะเยียวยาพระมเหสีเป่าเต๋อแล้ว ก็ได้เขียนใบยาบำรุงขึ้นหนึ่งใบเพื่อถวายให้พระนางเสวย แต่ทว่าเหมือนรดน้ำลงบนก้อนหิน ไม่มีประสิทธิผลแม้แต่น้อย แต่กลับรู้สึกว่าอ่อนระโหยลงทุกวันจนกระทั่งถึงคืนวันที่ 19 เดือน 9 จึงได้เสด็จสวรรคตลาโลกตลอดกาล ขณะนั้นพระราชาเมี่ยวจ้วนกำลังโศกเศร้าพระทัย เรื่องต่าง ๆ ก็สุดแท้แต่ขุนนางผู้ใหญ่จะจัดการ เรื่องของโหลวฝู่ลวี่ที่หายสาบสูญก็ไม่มีการติดตามหา เวลาผ่านพ้นไปหลายวันราชาเมี่ยว จ้วนก็ฉุกคิดถึงโศลกที่โหลวน่าฝู่ลวี่ได้เขียนทิ้งไว้ จึงนำมาอ่านทบทวนดูรู้สึกจะแปลความหมายไม่สู้กระจ่างนัก มีซ่อนเงื่อนงำอะไรไว้ ยากที่จะคาดเดาได้ โศลกทั้งสี่เขียนเรียงแถวกันไปโดยไม่คาดคิด ก็พบคำนำหน้าของโศลกทั้งสี่ได้บอกถึงเลศนัยอะไรไว้
    คำแรกของแถวหนึ่งและสองคือพระนามของพระธิดาเมี่ยวส้าน และคำแรกของแถวสามกับสี่คือกวนอิม แปลความหมายก็ไม่เหมาะนัก ราชาเมี่ยวจ้วนทรงคิดว่า คำว่า กวน (เพ่ง) ต้องใช้ตาดู แต่อิม (เสียง) นี่ซิต้องให้หูฟัง จะใช้ตาดูไม่เห็นแล้วคำสองตัวนี้ทำไมจึงเรียงอยู่ด้วยกัน ราชาเมี่ยวจ้วนไม่อาจเข้าใจได้ถ่องแท้ในโศลกทั้งสี่ได้ แต่ในพระทัยรู้ว่าโหลวน่าฝู่ลวี่ผู้นี้มิใช่บุคคลธรรมดาจึงสามารถเสดาะโซ่ตรวนได้ ราวกับเทพเทวดาที่ล่องหนไปได้ แต่ว่าเมื่อเขาหลบหนีไปแล้ว ย่อมไม่มาใหม่อีกเป็นแน่ คิดถึงเขาก็ไร้ประโยชน์ จะปล่อยความคิดนี้ให้ผ่านเลยไปเราพักเรื่องนี้ไปก่อน
    กล่าวถึงพระธิดาเมี่ยวส้าน นับตั้งแต่พระองค์หกล้มจนหายประชวรแล้ว พระนางเป่าเต๋อก็เฝ้าระมัดระวังเป็นพิเศษต่อการเดินเหิน โดยปกติจะไม่ยอมปล่อยให้ออกไปเล่นข้างนอกตำหนัก แต่ถ้าไปที่อุทยานก็จะให้นางกำนัลไปด้วย 3 ถึง 5 คน และไม่ยอมให้พระธิดาช่วยเหลือมดหรือจักจั่น ถ้าหากพบเรื่องเช่นนี้อีกแล้วไม่ห้ามปรามไว้ หามีเรื่องกลับมา ก็จะลงโทษนางกำนัลอย่างหนัก น้ำพระทัยของพระธิดาเมี่ยวส้านอ่อนไหวมาก เมื่อเป็นเช่นนี้ พระองค์ก็เกรงว่าการกระทำของตนจะทำให้คนอื่นพลอยได้รับโทษไปด้วย จึงแก้ไขเปลี่ยนแปลงไปไม่น้อย ดังนั้นพระองค์จึงไม่ยอมออกไปเที่ยวเล่นข้างนอก แต่ละวันก็หัดอ่านหนังสืออยู่ในตำหนัก ยามว่างก็ทรงเล่นดนตรีกับพระพี่นางทั้งสองเป็นการฆ่าเวลาอันเงียบเหงา จึงสงบสุขไม่มีเรื่องราวอะไร แต่ก็ทรงคาดไม่ถึงว่าความสุขที่ผ่าน ๆ มานี้ก็หมดไป
    เมื่อพระมเหสีเป่าเต๋อเกิดประชวรด้วยโรคแปลกประหลาด ในขณะนั้นพระธิดาเมี่ยวส้านมีพระชันษาเพียง 7 พรรษาเท่านั้น เป็นผู้ที่มีรากปัญญาลึก พระนิสัยอ่อนโยน เมื่อเห็นเสด็จแม่ประชวรพระทัยก็ร้อนรุ่ม แต่ละวันก็ได้แต่ภาวนาอ้อนวอนพระเจ้า ร้องขอต่อฟ้าดิน ขอตัดทอนอายุขัยตนเอง เพื่อต่อพระชนม์ชีพพระมารดา แต่พระนางเป่าเต๋อบุญมีกำหนด ไม่ว่าจะอ้อนวอนเพียงใดก็ไร้ผล พระธิดาเมี่ยวส้านก็ได้แต่ป้อนยาเฝ้าไข้ ไม่ยอมถอยห่างสักนาที จวบจนสาระสุดท้ายมาถึง พระนางเป่าเต๋อจับพระหัตถ์พระธิดาเมี่ยวส้านดำรัสด้วยความอ่อนระทวยว่า "ลูกเอ๋ย! แม่นี้อนาถรอให้เจ้าเติบใหญ่ แต่ก็ต้องละทิ้งเจ้าไป สุดแสนจะเศร้าพระทัยนัก ! เมื่อแม่จากเจ้าไปแล้ว เจ้าต้องเชื่อฟังเสด็จพ่อนะ อย่าเอาแต่อารมณ์เหมือนเมื่อก่อน จะทำให้เสด็จพ่อเพิ่มความโศกเศร้า" ดำรัสถึงตอนนี้ลำคอก็ตีบตันไม่มีเสียง เมื่อพระธิดาเมี่ยวส้านได้ฟังแล้วราวกับว่าธนูนับหมื่นแล่นผ่านทะลุพระทัยอดกลั้นไม่อยู่ ชลเนตรพรั่งพรูไหลริน ฉับพลันหน้ามืดล้มสลบอยู่กับพื้น พระนางเป่าเต๋อก็เสด็จสวรรคตในฉับพลันนั้นเอง ลาจากโลกนิจนิรันดร์
    ขณะนั้นทุกคนต่างช่วยกันปลุกพระธิดาเมี่ยวส้านให้ตื่นขึ้นมาและปลอบให้คลายเศร้า หลายคนในตำหนกนอกจากพระราชาเมี่ยวจ้วนแล้วนับว่าพระธิดาเมี่ยวส้านสุดแสนเศร้าพระทัย แต่ท่ามกลางสุดแสนเศร้าพระทัยอยู่นั้น พระองค์ก็ได้บรรลุถึงสัจธรรมอีกด้านหนึ่ง พระองค์คิดว่า พระมารดาเป็นผู้ให้กำเนิดเลี้ยงดูฉัน ฟูมฟักอุ้มชูจนฉันเติบใหญ่จนป่านนี้ พระคุณใหญ่หลวงนัก ขณะนี้ยังไม่ได้ตอบแทนพระคุณสักนิด พระมารดาก็ด่วนจากไปเสียแล้ว บาปอันหนักนี้ จะมลายสิ้นไปได้อย่างไรกัน ดวงญาณของพระธิดาสั่นสะเทือน ฉับพลันก็คิดถึงความเมตตาของพระพุทธเจ้า พระธิดาทรงคิดว่า พุทธธรรมสามารถช่วยให้หลุดพ้นทั้งสามโลกทั่วสิบทิศ หากตอนนี้อยากจะตอบแทนพระคุณมารดาและสำนึกบาปของตนเอง ก็คงมีเพียงทางนี้ทางเดียวเท่านั้นที่จะแสวงหา เมื่อพระธิดามีพระทัยเช่นนี้ก็ตั้งปณิธานจะมาบำเพ็ญ อุทิศวรกายสู่พุทธขัณฑสีมา
    แต่ในขณะนั้นพระธิดาไม่เผยความในใจให้ใครรู้ แต่ละวันได้แต่สวดมนต์ไหว้พระ แต่ละวันหมดเวลาไปกับการศึกษาเล่าเรียนพระสูตร บังเอิญพระธิดามีแม่น้าหม้าย นางก็เป็นผู้ศรัทธาในพุทธเจ้า ในตอนนี้นางก็ได้กลายเป็นแม่อุปถัมภ์ดูแลพระธิดา ทั้งสองจะขลุกอยู่ด้วยกันเสมอ เหมือนน้ำกับนมที่ไหลปนกัน เมื่อมีเพื่อนก็ยิ่งรู้สึกถึงรสชาติแห่งการบำเพ็ญ แต่พระพี่นางเมี่ยวอินเมี่ยวหยวนสองพระองค์เห็นจริยาวัตรของพวกเธอแล้วไม่พอพระทัยและอดที่จะหัวเราะเยาะลับหลังในความฝันเฟื่องของพวกเธอว่าอุตส่าห์กำเนิดมาในพระราชวังมั่งมีสูงศักดิ์เป็นบุญวาสนาอย่างยิ่งแล้วไม่รู้จักเสวยสุขกลับทำอันไร้สาระเช่นนี้ จะไม่ทำให้คนเขาเย้ยหยันได้อย่างไร บางครั้งก็กราบทูลแก่ราชาเมี่ยวจ้วน แต่ราชาเมี่ยวจ้วนยังมีพระทัยว้าวุ่นอยู่ในระยะเริ่มแรก จึงไม่ใส่พระทัยไปถามรายละเอียด และคิดว่ามันเป็นวิธีหนึ่งในการฆ่าเวลาดีเสียกว่าไปช่วยจักจั่นหรือฝังพวกมดอีก อันจะทำให้เกิดอันตรายที่คาดไม่ถึง จึงปล่อยตามใจเธอ แต่ก็คิดไม่ถึงว่าพระธิดาเมี่ยวส้านองค์นี้ ได้ถวายตัวสู่พุทธขัณฑสีมาแล้ว ได้ตั้งปณิธานที่จะบำเพ็ญให้ถึงที่สุด
    เรื่องต่าง ๆ ในโลกนี้กว่าครึ่งหนึ่งเกิดจากใจเพ้อฝัน ทำให้ปรากฎสภาวะต่าง ๆ ที่ไม่เหมือนกันขึ้น นี่ก็คือสิ่งที่กล่าวกันว่าสภาวะใจเป็นผู้สร้าง เราไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น เรามาพูดกันถึงเรื่องความฝัน ก่อนที่เราจะมีความฝัน ภายในใจเราจะมีความคิดอย่างหนึ่ง ภายหลังเมื่อนอนหลับสนิทความคิดอย่างนั้นจึงปรากฎขึ้นในความฝัน สภาวะของความเป็นจะไม่พ้นไปจากความคิดในขณะนั้นพระทัยของพระธิดาเฝ้าวนเวียนอยู่กับพุทธเจ้าแดนสุขาวดี กับคิดเสมอว่าเมื่อบำเพ็ญจนบรรลุผลจะปกโปรดความทุกข์ของสรรพสัตว์ให้พ้นจากเภทภัยได้อย่างไร เพื่อให้ชาวโลกได้ขึ้นสู่แดนหรรษายิ่งพร้อมกัน พระองค์คิดคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้เป็นอาจิณจึงไม่พ้นที่จะสร้างสภาวะอันหนึ่งขึ้นมา
    ในวันนั้นขณะที่พระองค์บรรทมอยู่บนที่บรรทม เหมือนหลับแต่ไม่หลับ ในท่ามกลางความมืดสลัวนั้นฉับพลันห้องทั้งสามก็สว่างไสวขึ้น ท่ามกลางความสว่างไสวก็ทอดพระเนตรเห็นพุทธเจ้าที่สง่างาม มีพระวรกายสูงใหญ่ถึงหกวา พระสารีริกธาตุบนพระเศียรเปล่งรัศมีจ้า พระบาทประทับยืนอยู่บนดอกปทุม พระธิดาเมี่ยวส้านเห็นดังนั้นแล้วก็ทรุดพระวรกายกราบบังคมไหว้ ทรงร้องขอให้พุทธเจ้าชี้แนะทางสว่าง พุทธเจ้าดำรัสว่า "เภทภัยยังไม่หมดยังไม่ได้รับความทุกข์ยาก จะบรรลุธรรมได้อย่างไร ถ้าหากสามารถอดทนต่อความทุกข์ยากได้อย่างเข้มแข็งและบำเพ็ญตลอดไปแล้ว สภาวะของจิตก็จะค่อย ๆ สว่างขึ้น จวบจนกระทั่งใสสว่างดุจดั่งกระจกเงาแล้วนั้น ก็จะสามารถบรรลุธรรมได้" พระธิดาเมี่ยวส้านยังได้ทูลถามถึงกำหนดเวลา พุทธเจ้าดำรัสว่า "ในยามเช้า ๆ เมื่อเจ้าได้รับบัวขาวจากซวีหนีซันแล้วและมีคนถวายแจกันสีขาวที่มีน้ำบริสุทธิ์นั่นคือเวลาที่เจ้าสำเร็จธรรม จำจำไว้ ๆ อาตมาไปแล้ว" เมื่อดำรัสจบรัศมีสีทองก็หายไป ภาพที่เห็นก็ดับวูบลง ทุกอย่างกลับมืดสลัวเหมือนเดิม ยังคงบรรทมอยู่บนที่บรรทม ทำไมจึงมีพุทธเจ้าเช่นนี้เล่า มันเป็นเพียงความฝัน แต่สำหรับพระธิดาเมี่ยวส้านแล้วคือการปรากฎกายของพุทธเจ้าเพื่อมาชี้นำตนเองโดยเฉพาะความเชื่อศรัทธาจึงแน่วแน่ นั่นคือ
    สภาวะอัศจรรย์ใจสว่างขึ้น เพียงพริบตาความฝันก็สลาย
     
  2. nichaboon

    nichaboon สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2008
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +9
    ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่ได้รับความเมตกรุณา จากองค์พระแม่กวนอิม เหมือนกัน ที่เริ่มมาไหว้พระสวดมนต์ก้อเริ่มจากสวดมนต์ของบทพระแม่มาก่อน ขออธิฐานกับท่านให้แม่ที่เป็นอัมพฤษ์ หายป่วย และก้อหายจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่หมอบอกว่าเปอร์เซ็นต์เป็นอัมพาต มีค่อนข้างสูงมาก ตั้งแต่นั้นมา ก้อสวดมนต์ของพระแม่มาตลอด แต่ไม่เคยฝันเห็นท่าน จนกระทั่ง เมื่อประมาณปลายปีที่แล้ว แม่ต้องเข้าทำสวนหัวใจ ในใจเรานั้น เป็นที่กังวลมากอยู่ เนื่องจากแม่เป็นความดันอยู่ด้วย ส่วนตัวแก ก้อกลัวการผ่าตัดด้วยเนื่องจากนี่เป็นครั้งแรกของแก ทำให้ยิ่งเรายิ่งกลัวขึ้นไปอีก แต่เราก็ไม่ได้ขอพรขออธิฐานกับท่านถึงการเข้าทำการผ่าตัดหัวใจในครั้งนี้ เนื่องจากเราสวดมนต์ของท่านมาเป็นสิบปี จนกลายเป็นส่วนนึงของชีวิตเราไปแล้ว เสมือนว่าเราลืมนึกถึงท่านไป (แต่ก้อยังสวดมนต์ก่อนนอนทุกครั้งเป็นปกติ ) และในคืนก่อนที่จะเข้าทำการผ่าตัดเวลาใกล้รุ่งสางแล้ว ฝันเลยว่าพระแม่ท่านมาหาในปางยืน แต่ท่านไม่ได้พูดอะไร และในตอนนั้นฉันก้อรู้สึกเหมือนว่า ตัวเองนั่งคุกเข่ากลางอากาศ พนมมือก้มหน้าอยู่ กลางอากาศ พื้นเบื้องล่างเป็นทะเล ท่านก้อผ่ายมือขึ้น ทันใดนั้นเอง น้ำทะเลก้อแหวกกลางเลย ทำให้เห็นมุก 3 เม็ด แต่มุกนั้นไม่ได้เป็นสีขาวเป็นสีเท่าขุ่น เกลี้ยงเกลาสีเสมอกัน ในฝันนั้น ฉันแค่ก้มลงไปดูใกล้ๆ แต่ไม่ได้หยิบจับแต่อย่างใด เพราะมีความรู้สึกแค่ ว่า ท่านให้ดูเฉย ๆ และฉันก้อน้ำตาไหล และสะดุ้งตื่น ทั้งคราบน้ำตานั้น ยังติดอยู่ พอตื่นขึ้นมาก้อรีบสวดมนต์ท่านทันที ในใจตอนนั้นมีความชุ่มชื้นเป็นอย่างยิ่ง และเชื่อแน่ใจแล้วว่า การผ่าตัดครั้งนี้ต้องประสบผลสำเร็จอย่างแน่นอน และก้อเป็นจริงดังคาด
     
  3. nichaboon

    nichaboon สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2008
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +9
    ในปัจจุบันนี้ ฉันยังได้กินเจถวายท่านสัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยเลือกเอาวันเกิดของตัวเอง คือวันอาทิตย์ เพื่อเป็นสิริมงคลกับตัวเองด้วย ถ้ามีเหตุไม่ได้กิน ก้อจะยกยอดไว้ไปกินวันอื่นแทน แต่ก้อไม่เคยละสัจจะที่ต้องกินให้ได้ 1 วันต่อสัปดาห์ และยังมีเหตุการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้นมายังไม่ถึงเดือน เกี่ยวกับความเมตตาของพระองค์ท่าน ที่มีต่อฉัน และแม่ของฉัน เมื่อปลายเดือนมีนาที่ผ่านมานี้ แม่ของฉันเป็นโรคไตวายเฉียบพลัน ถึงขนาดเพ้อไม่มีสติ พูดจาไม่รู้เรื่อง หมอก้อไม่รับรองอาการ ต้องเข้าไปนอนที่ห้อง ไอซียู อาการของแม่เป็นมากแต่ก้อไม่สามารถที่จะทำการรักษาโดยการฟอกไตได้ เนื่องจากเป็นความดันโลหิตสูง ถ้าหากว่าต้องฟอกไตต้องงดยาความดัน ซึ่งไม่ความเสี่ยงที่จะเส้นเลือดในสมองแตกได้ เทียบกันก้อไม่คุ้ม ต้องรักษาด้วยยาเพียงอย่างเดียว ภาวนาให้คนป่วยถูกกับยาเป็นสิ่งเดียวที่ทำได้ วันที่ฉันไปเห็นแม่ที่ห้องไอซียู ฉันร้องปล่อยโฮ แบบไม่อายใคร ถึงณ ตอนนั้น ฉันแทบจะไม่ได้หลับได้นอน จำได้ว่าเคยอ่านหนังสือว่าถ้าใครสวดมนต์ของท่านครบ 108 จบ จะสมความปรารถนาทุกประการ ที่นี้ฉันสวดมนต์ทั้งวัน (แต่ไม่ได้นั่งพนมมือไหว้นะคะ ) นึกคำท่องบทสวดของท่านในใจตลอดเวลา ขอให้ท่านเมตตาฉันอีกสักครั้งนึง 4 วันผ่านไป อาการของแม่ยังขึ้น ๆ ลง ๆ จนครบกำหนดลา ฉันจำใจต้องกลับมาทำงานตามปกติ แต่ยังคงสวดมนต์ท่านอยู่ในใจตลอดมาขอให้ท่านได้ยินคำอธิฐานของฉัน นึกอธิฐาน ถ้าแม่หายป่วยจะทานเจ เจ็ดวันต่อกัน เพื่อถวายท่าน ตลอดเวลาสองอาทิตย์นับจากวันที่แม่ป่วย ในใจของฉันไม่เคยที่จะมีความสุขเลย ทำงานก้อได้ไม่ดีเท่าที่ควร ถ้าหากได้อยู่คนเดียว บางครั้ง แอบร้องไห้ร้องจนหลับ เวลาที่มีความสุขที่สุดคือการได้สวดมนต์ขอพรจากพระแม่ และแล้วคำอธิฐานก้อเป็นจริง วันนั้นเจ้านายเรียกให้ไปเอาเอกสารที้ห้อง ซึ่งในห้องของเจ้านายจะมีทีวีอยู่เครื่องนึง แกจะเปิดไว้ตลอดเวลาทำงานเปิดไว้ดูข่าว วันนั้นไม่รู้เป็นอะไร แกเปิดหนังที่เป็นหนังจีน ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นเรื่องกำเนิดเจ้าแม่กวนอิม เพราะปกติเวลาเข้าห้องทำงานของเจ้านาย จะเห็นแต่แกเปิดข่าว หรือหนังฝรั่ง เป็นประจำ จังหวะที่ฉันเข้าไปเอาเอกสารตามที่เจ้านายเรียก เป็นจังหวะที่มีบทพูดของคนที่แสดงเป็นพระแม่กวนอิม เป็นบทพูดบทเดียวและคนเดียว โดยที่ไม่ได้มีคนอื่นแทรกเลย ท่านพูดว่า " เจ้าจงกลับไปนอนหลับให้สบาย ไม่ต้องคิดมาก ที่เหลือเดี๋ยวกวนอิมจะจัดการเอง " ฉันยืนรับเอกสารจากเจ้านายขณะนั้น น้ำตาซึมเลยค่ะ ใครจะหาว่าฉันบ้า ฉันอุปทาน ทึกทักเอากับบทละคร ฉันไม่สนใจ ฉันถือว่าคำพูดในบทละครนั้น พระแม่ท่านพูดกับฉันคนเดียว ท่านสื่อถึงฉันคนเดียว หลังจากที่ได้ยินบทละครวันนั้น ฉันก้อหายกังวล และมาเริ่มกินเจตามที่เคยตั้งสัจจะไว้ วันที่เริ่มกินนั้น แม่ก้อยังคงอยู่ไอซียูอยู่ แต่ฉันมีความมั่นใจว่าแม่ต้องหายและออกจากโรงพยาบาล และพอกินได้วันที่สอง พ่อก้อโทรมาบอกว่าแม่รู้สึกตัวแล้ว แต่ยังพูดไม่ได้เนื่องจากใส่เครื่องช่วยหัวใจทางปากอยู่ และพอฉันกินเจครบวันที่เจ็ด พ่อโทรมาบอกว่าหมอให้ออกจากไอซียูแล้ว รอดูอาการอีกสองวัน และทำกายภาพนิดหน่อย ก้อกลับบ้านได้ ณ ตอนนี้แม่ฉ้นกลับมาอยู่บ้านได้แล้ว และเริ่มช่วยตัวเองได้แล้ว อาการดีขึ้น เรื่อย ๆ ค่ะ
     
  4. nichaboon

    nichaboon สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2008
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +9
    แต่ที่กล่าวมาทั้งหมดอย่าคิดแค่ว่า เวลามีเรื่องเดือดร้อน อะไรก้อสวนมนต์ขอพร แต่เราต้องคิดดีทำดีด้วยนะคะ ตามกำลังตามความสามารถที่เรานี้ นอกดิฉันจะกินเจสัปดาห์ละหนแล้ว ก้อเริ่มหัดมาถือศิล ห้าด้วย และฝึกนั่งสมาธิวันละห้านาที สวดมนต์ทุกวันคิดถึงท่าน แล้วจะนำจิตใจเราไปในทางที่ดี คิดดี ทำดี แล้วสิ่ง ดี ๆ จะเกิดตามมาค่ะ
     
  5. seahero

    seahero เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    335
    ค่าพลัง:
    +602
    ใฝ่ดีก็ดีแล้วครับ
     
  6. yaipoo

    yaipoo Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +98
    ควรเอ่ยพระนามท่านว่า พระแม่ค่ะ ไม่ใช่ เจ้าแม่

    ปัจจุบันดิฉันได้ถวายกายธาตุให้พระแม่กวนอิมแล้วค่ะ
     
  7. ปูเเว่น

    ปูเเว่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,614
    ค่าพลัง:
    +6,697
    สวัสดีค่ะ การทานเจหรืออาหารมังสวิรัติ ถ้าคุณคิดอยากปฏิบัติลองเลือกทำวันหยุดดีไหมคะจะได้ปฏิบัติได้ง่ายขึ้น หรือจะทานเฉพาะอาหารมื้อเช้าหนึ่งมื้อค่ะ
    แต่อาหารเจหาทานยาก ลองทานมังสวิรัติก่อนดีกว่าไหมคะ เพราะสามารถหาทานได้ง่ายค่ะ (*)
     
  8. เชตวา

    เชตวา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +40
    สัมผัสท่านองค์กวงอิม

    นำโมออนี้ทอฮุก กวงอิมฮุกโจ้ว ป๋อเผ่งอัง
    ___________________________

    ขอแจมประสบการณ์ที่ได้สัมผัสกับองค์กวงอิมด้วยคนนะค่ะคุณปมณฑ์
    ประสบการณ์ครั้งแรก
    ได้ไปกราบองค์กวงอิมที่โชคชัย 4 ปวารณาตัวเป็นศิษย์ จะไม่ทานเนื้อ ตลอดชีวิต และสวดมนต์ของท่านบ้างในบางโอกาส
    ผ่านไปอีก 2 ปี ได้ผิดคำพูด้ไปทานเนื้อเข้า ตอนเช้า ประมาณ ตี 4 ฝัน(เหมือนจริงมาก) ฝันว่าตัวเองแต่งชุดขาวแบบคนจีนโบราณ และมีคนขนาบข้าง 2 คน แต่งชุดเหมือนกัน ในความรู้สึกขณะนั้น เหมือนตัวเองทำผิดต้องโทษ และต้องไปรับโทษจากองค์กวงอิมท่าน พอคิดจบร่างทั้ง 3 ก็ลอยไป ไม่ได้เดินไปนะค่ะ เบามาก ๆ ไปคุกเข่าต่อหน้าพระพักตร์ขององค์ท่าน และสื่อภาษาทางจิตนะค่ะ ไม่ได้พูดออกจากปาก (ในความรู้สึก เหมือนสื่อออกจากใจ) จำได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่คล้าย ๆ กับว่าท่านให้กลับลงไปปฏิบัติให้ดี แ้ล้วค่อยขึ้นมาใหม่) สักพักดิฉันก็ลอยละลิ่วลงมาเบื้องล่าง คล้ายปุยนุ่นก็ไม่ปานพอลงมาข้างล่าง ดิฉันมองขึ้นไปแทบไม่เห็นเลย สู....ง..........สูงมาก ๆ ดิฉันร้องไห้ จนตื่นขึ้นมายังร้องไห้ไม่หยุด จำได้ทุกขั้นตอน แต่จำคำสื่อได้ไม่หมด (ลืมบอกไปว่า บนนั้นขาวไปหมด ไม่ว่าอะไรจะขาวไปหมดเลย ต้นไม้ก็ไม่มี )
    ดิฉันเสียใจในการกระทำของตัวเองมาก คิดว่าท่านคงทอดทิ้งเราไปเสียแล้ว เราจะโดนทำโทษนานแค่ไหน ดิฉันก็หมั่นสวดมนต์ของท่านตลอดมา

    ประสบการณ์ครั้งที่ สอง
    ดิฉันก็ยังตั้งคำถามว่า ท่านแม่ลดโทษเราหรือยังหนอ ! ท่านแม่ดูแลเราอยู่หรือเปล่าหนอ ! จนมีอยู่วันหนึ่ง หลานสาวไปเล่นกับแมวที่บ้านซึ่งดุมาก ๆ เ่ล่นไปเล่นมา โดนแมวตะครุบกัดเป็นแผลเหวอะหวะ ดิฉันก็ทำการล้างแผลให้ แล้วทายา สักพักแผลก็มีน้ำเหลืองไหลเยิ้มออกมา และบวมเบ่ง ดิฉันตกใจมาก นึกถึงองค์ท่านแม่ รีบไปเด็ดกิ่งหลิว (กิ่งทับทิม) ใส่ในขันน้ำ แล้วไปไว้หน้ารูปองค์ท่าน แล้วสวด นำโมไต่ชื้อไต่ปุย 3 จบ แล้วต่อด้วยกรณีเมตตสูตร 9 จบ ขอท่านแม่พระทานน้ำขันนี้เป็นน้ำทิืพย์อันศักดิ์สิทธิ์ เพื่อรักษาแผลของหลานสาวที่ถูกแมวกัด ให้ดีขึ้นด้วยเถิด หลังจากดิฉันก็เอาน้ำขันน้ำนั้นมาทาโดยใช้กิ่งหลิว ทาไปสวดมนต์ของท่านไป สักพักใหญ่ ! อัศจรรย์มาก ๆ ! แผลแห้ง (จากที่มีน้ำเหลืองเยิ้ม) และยุบเหมือนปกติ ดิฉันดีใจมาก ๆ ที่ท่านแม่ไม่ได้ทอดทิ้งดิฉัน ท่านแม่ทรงเมตตามาก ดิฉันจึงสวดมนต์เพิ่มอีกบทหนึ่งคือ กรณีเมตตสูตร

    ประสบการณ์ครั้งที่ 3
    (ครั้งนี้เหลวไหลมาก) ไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ หลังเลิกงาน และได้ไปดื่มเหล้าด้วย (ซึ่งผิดศีล 1 ใน 5) กลับถึงบ้านเกือบสว่าง แต่ก็ไปทำงานปกติ ตลอดทั้งวัน ปกติดีทุกอย่าง ไม่เป็นอะไรเลย ตกตอนเย็น รู้สึกอยากอาเจียน วิ่งเข้าห้องน้ำ อาเจียนแบบน่ากลัวมาก อาเจียน ย...า....ว.. มาก แทบหมดไส้หมดพุง ในขณะนั้นจิตได้เตือนว่า อย่าทำอย่างนี้อีกนะ จำไว้ แต่ดิฉันก็คิดว่า บ้า...บ้า..ไปใหญ่แล้ว คิดมากไปได้ ไม่เอาอ่ะ ไม่คิด ไม่คิด
    อาทิตย์ถัดไป ดิฉันไปอีก กับเพื่อน ๆ กลุ่มเดิม ก็เหมือนเดิมอีก ครั้งนี้ 2 โอ๊ก ย....า....ว มาก มาก มาก ไส้เส้ย แทบหลุดออกจากปากด้วย โอ้ยตายแล้ว เกิดอะไรขึ้นนี้ คราวนี้จิตเตือนอีกว่า ไม่มีครั้งที่ 3 นะ จำไว้ จะไม่มีการเตือนอีก จำไว้... ดิฉันก็คิดอีกว่า เรานี่ตลกจริง ๆ พูดกับตัวเองได้ด้วย คนอื่นเขากินกันเยอะแยะ จะเป็นไรไป เรานี้เป็นไปได้ถึงขนาดนี้นะ
    ครั้งที่ 3 ก็ไปอีก กับเพื่อน ๆ กลุ่มเดิมอีก คราวนี้เป็นหนักมาก เหมือนมีคนมาตัดหัว ตัดแขน ตัดขา ลำตัว ทรมานมาก ๆ โทร. เรียกพี่สาวมา หา บอกอาการ พี่สาวก็ให้เด็ก ๆ ลูกจ้างในบ้านมานวดมาบีบ ดิฉันก็บอกว่า ไม่ไหวแล้ว ทนไม่ไหวแล้ว จะไปหาหมอ ก็ไปโรงพยาบาล ไปตัวเปล่า จริง ๆ หมอพาเข้าห้องฉุกเฉิน เพราะดิฉันตัวสั่นไปหมดเลย ถามว่าชื่ออะไร นามสกุล จะทำบัตร ดิฉันในขณะนั้นมันทรมานมาก ตอบไม่ถูกบอกพนักงานว่า จำไม่ได้ โอ้ย ไม่ไหวแล้ว หมอรักษาก่อนเถอะ เรียกหมอให้หน่อย ทนไม่ไหวแล้ว (ทรมานจริง ๆ ค่ะ) หมอก็เข้ามา ตรวจดูไม่เป็นอะไรเลย หมอบอกว่า สงสัยจะเครียด ดิฉันตกใจมาก บอกกับคุณหมอว่า ดิฉันทรมานมาก จะตายอยู่แล้ว คุณหมอบอกว่าไม่เป็นอะไรหรือค่ะ ในขณะบอกกับตัวเองใครก็ได้ช่้วยทีเถอะ จะตายอยู่แล้ว (ทรมานจริง ๆ ) หมอก็บอกว่า เอายาไปกินดูก่อนแล้วกัน ดิฉันก็จำใจนั่งรถกลับกับลูกน้อง (ดิฉันไม่สบายโดยไม่ทราบสาเหตุ ทานอะไรไม่ได้ นอกจากผักกับผลไม้ ซึ่งทานได้เป็นกิโล ๆ แต่อย่านำเนื้อสัตว์เข้าใกล้ ดิฉันจะอาเจียนออกมาเลย แม้แต่จะนึกก็ไม่ได้ ก็จะอาเจียนออกมา ตัวดิฉันผอมทันตาเห็น ลุกก็ไม่ได้ นั่งก็ไม่ได้ลุกขึ้นเมื่อไรก็อาเจียนเมื่อนั่น นอนก็ลำบากมาก ทรมานทุกอิริยาบถ ใคร ๆ ก็พากันหายาดี ๆ มาให้ก็ไม่หาย ไปหาเจ้าเข้าทรง ก็บอกว่าโดนของบ้าง ชงมาบ้าง จิปาถะ ทำพิธีอะไรก็ไม่หาย (ตอนนั้นผอมจนเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก) ไม่สบายเกือบเดือน มีอยู่วันหนึ่ง ดิฉันก็คิดว่า เราถึงคราวต้องตายแล้วหล่ะ เมื่อนึกถึงว่าตัวเองจะต้องตาย ก็นึกถึงพ่อแม่ ว่า ยังไม่ได้ทำอะไรให้พ่อแม่ภูมิใจเลย จะมาจากไปแล้วหรือ แล้วท่านทั้งสองจะร้องไห้เสียใจแค่ไหน เรายังไม่ได้ทดแทนบุญคุณท่านเลย จะต้องมาจากไปเสียแล้ว ก็เสียใจอยู่เหมือนกัน แล้วดิฉันก็มองออกนอกหน้าต่าง ขึ้นไปบนท้องฟ้า ตั้งจิตอธิษฐานถึงองค์ท่านแม่กวงอิม ว่า ท่านแม่ หากลูกถึงคราวต้องไป ก็ขอให้ลูกไปอย่างสงบ อย่างได้ทรมานอย่างนี้เลย แต่ถ้าหากลูกยังไม่ถึงคราวตาย ก็ขอให้ลูกหายวันหายคืนเถอะ แ้ล้วลูกจะกินเจถวายเป็นเวลา 10 วัน
    จากแรงอธิษฐาน ดิฉันเริ่มดีขึ้น จากที่นั่งไม่ได้ เริ่มนั่งได้บ้าง ไม่อาเจียน และดิฉันเริ่มยืนได้บ้าง และหลังจากค่อย ๆ เดินช้า ๆ เบา ๆ และพยายามเดินลงบันได แต่ยังไม่แข็งแรงเท่าไหร่ พยายามอย่างมาก พอรู้สึกเดินได้ไม่มีอาการอะไรแล้ว ก็พยายามลุกขึ้นอาบน้ำ แต่งตัว (คืออยากจะไปทำงานแ้ล้ว) ลงไปเจอใครต่อใคร เขาก็ตกใจมาก เพราะยังเป็นหนังหุ้มกระดูกอยู่
    มีอยู่วันหนึ่ง เด็กแถวบ้านมาถามว่าพี่จะไปหาปู่กันไม๊ (แถวบ้านดิฉันมีทรงเสด็จปู่พิฆเมศ ตอนแรกดิฉันไม่ทราบว่าเป็นใคร) ดิฉันก็ตอบตกลง (เพราะอยากรู้ว่าดิฉันเป็นอะไร) พอไปถึง ปู่พิฆเนศ ท่านก็ทักว่า มาแล้วหรือลูก (เหมือนกับท่านคอยดิฉันอยู่) ท่านก็บอกว่า ท่านแม่กวงอิมผ่านญาณมาบอกปู่เมื่อกี้ว่า ให้ถามลูกว่าลูกจะพร้อมกินเจเมื่อไหร่ ดิฉันตกใจมาก เพราะดิฉันไม่เคยบอกกับใครเกี่ยวกับเรื่องอธิษฐานจิตนี้เลย และยิ่งปู่พิฆเนศด้วยแล้วก็ยิ่งแล้วใหญ่ เพราะไม่เคยรู้จักกันเลยแม้แต่ร่างของท่าน เป็นครั้งแรกที่มากราบท่านด้วยซ้ำไป ทำให้ดิฉันมั่นใจว่า ร่างนี้เป็นร่างองค์เสด็จปู่พิฆเมศจริง ๆำ ไม่ได้หลอกลวง (เพราะจริง ๆ แล้ว เรื่องเจ้าเข้าทรง ดิฉันไม่ค่อยเชื่อและไม่ค่อยศรัทธาเท่าใด แต่ไม่ได้ลบหลู่) ท่านให้ดิฉันเข้าไปจุดธูปบอกกับองค์ท่านแม่กวงอิมว่าจะเริ่มกินเจได้เมื่อไร คราวนี้ดิฉันก็จุดธูปบอกว่า ดิฉันจะกินเจทุกวันพระ ถวายแด่องค์ท่าน แล้วดิฉันก็ปฏิบัติตามที่ได้อธิษฐานไว้ ตั้งแต่วันนั้นดิฉันต้องการอะไรเกี่ยวกับองค์ท่าน ดิฉันจะได้ทันที ราวปฏิหารย์ เช่น มีอยู่ครั้งหนึ่ง ดิฉันไปเห็นรูปองค์ท่านใหญ่มาก ๆ ยืนอยู่บนมังกร ดิฉันนึกอยากได้ไว้บูชา แค่นึกค่ะ พอกลับถึง บ้าน มีอาซิ้มใกล้ ๆ บ้านเดินมาถามว่า อาเจ้ ลื้อกินเนื้อหรือเปล่า (พูดเป็นภาษาจีนค่ะ) ดิฉันก็ตอบว่าไม่ได้กิน เขาก็บอกว่าเดี๋ยวอั้วมา หายไปพักนึ่ง ก็เดินมาหา แล้วบอกว่า อั้วให้ลื้อ ดิฉันก็เปิดดู ขนลุกทันทีเลย ! มันเป็นไปได้อย่างไร เมื่อตะกี้นี้เองที่เห็น ที่นึกอยากได้ พอกลับถึงบ้านก็ได้เลยหรือเนี้ยะ! ภาพองค์ท่านแม่กวงอิมประทับยืนอยู่บนมังกร ดิฉันก็รีีบเอาไปเข้ากรอบรูปทันทีทันใดไม่รอช้า (เพราะร้านถ่ายรูปก็อยู๋ใกล้กัน)
    ประสบการณฺ์ที่ 4 ไว้ค่อยมาเล่าใหม่ค่ะ เหมื่อยมือมาก และปวดตา เพราะพิมพ์มาเป็นชั่วโมงแล้วค่ะ
    ด้วยการแชร์ประสบการณ์ในครั้งหากเกิดกุศลผลบุญใดก็ตามลูกขอถวายเป็นพระราชกุศลแด่องค์ท่านแม่กวงอิมค่ะ นำโมออนี้ทอฮุก กวงอิมฮุกโจ้ว ป๋อเผ่งอัง
     
  9. อุดรเทวะ

    อุดรเทวะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,925
    ค่าพลัง:
    +130
    ผมเคยเห็นเหมือนกันแต่ไม่แน่ใจว่าเป็นเจ้าแม่กวนอิมหรือเปล่า เห็นเป็นแบบพระจีนมา2องค์เลยสวมชุดเหมือนในศาลเจ้าครับ
     
  10. dekmama

    dekmama สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +17
    สวัสดีครับ ผมเป็นสมาชิกใหม่ของบอร์ดพลังจิต ซึ่งส่วนตัวผมนั้นก็นับถือเจ้าแม่กวนอิมมานานแล้ว และผมก็อยากจะถามว่าผมเคยฝันเห็นเจ้าแม่กวนอิมสองปาง ปางหนึ่งเป็นชุดสีเหลืองตอนนั้นเหมือนกับไหว้ท่านอยู่แล้วเห็นแสงสีเหลืองเปล่งประกายออกจากตัวท่านแล้วสักพักนึงท่านก็เหมือนดีดลูกแก้วที่ท่านถือดีดเข้ามาตรงกลางหน้าผาก จากนั้นผมก็หันไปมองเห็นรูปปั้นเจ้าแมชุดสีขาวยืนอยู่
    ฝันครั้งนี้หมายความว่าไงครับ ช่วยชี้แจงแถลงไขหน่อยนะ
    นำมอ ออ นี ท่อ ฮุก
     
  11. ณ.วชิรา

    ณ.วชิรา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +422
    ขอให้ท่านได้พบในสิ่งที่ท่านปรารถนา ข้าพเจ้าเองก็รัก และ เทิดทูนบูชาพระแม่มาก

    ขอให้พระแม่ดูแลให้ท่าน ได้ให้ ตราบเข้านิพพาน ในอนาคต
     
  12. aluntum

    aluntum เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    321
    ค่าพลัง:
    +105
    อนุโมทนากับคำแปลดังกล่าวข้างต้นครับ ก่อให้เกิดศรัทธาในพระโพธิสัตว์กวนอิมมากยิ่งๆๆๆขึ้นไปครับ สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 สิงหาคม 2008
  13. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,157
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +29,709
    ใครมีเบอร์ติดต่อคุณปมณฑ์ แจ้งด่วนนะครับ มีสมาชิกสุภาพสตรีบางท่านอยากคุยด้วย

    เรื่องพระแม่กวนอิมครับ
     
  14. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,157
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +29,709
    [MUSIC]http://audio.palungjit.org/attachment.php?attachmentid=16217[/MUSIC]
     
  15. เมธญา

    เมธญา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    92
    ค่าพลัง:
    +1,584
    ดิฉันก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ติดตามกระทู้เว็ปพลังจิต และเลื่อมใสองค์พระแม่กวนอิม ทักวันนี้ก็พยายามสวดมนต์ละลึกถึงท่านเสมอ และก็เชื่อมั่นในความศักดิ์สิทธิ์ของพระแม่ โดยหลายปีมาแล้วที่ดิฉันได้เริ่มสวดมนต์บูชาองค์พระแม่ ดิฉันฝันว่าดิฉันแต่งชุดขาว ยืนสวดมนต์พร้อมคนอื่นๆ (แต่งชุดขาวด้วยเช่นกัน) โดยมีผู้หญิงแต่งชุดสีขาวนำสวดมนต์ แต่ฝันเพียงครั้งเดียวค่ะ เพราะตบะแตกแอบทานเนื้อ และไม่ฝันอีกเลย ตอนนี้พยายามงดทานเนื้อเพื่อทำบุญถวายพระแม่ค่ะ
     
  16. เด็กวัดแขก

    เด็กวัดแขก สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +9
    ดิฉันก้อเป็นอีกคนหนึ่งค่ะที่เคราพและศรัทธาในตัวท่านมากๆ ค่ะ แต่ก่อนนี้ดิฉันก้อเคราพในตัวองค์พระแม่กวนอิมนะค่ะ แต่ก็ไม่ถึงขนาดว่าจะต้องนำท่านมาบูชาไว้ที่บ้าน เพราะดิฉันและครอบครัวชอบทานเนื้อวัวมากๆค่ะ คงจะงดทานไม่ได้ แต่พอช่วงตอนอายุ20 กว่าๆ ดิฉันก้อมีปัญหา จึงไปหาแม่ของเพื่อนแฟน ที่เค้ามีร่างคือพระแม่กวนอิม ดิฉันก้อไปขอให้ท่านช่วยค่ะ. แต่ตอนนั้นก้อยังไม่ได้คิดอะไรมากค่ะ และก้อยังไปบนบานที่วัดแขกขอองค์พระแม่ศรีมหาอุมาเทวีช่วยด้วยค่ะ หากดิฉันสามารถชนะคดีความได้ด้วยดีดิฉันจะเลิกทานเนี้อเป็นเวลา 1 ปี และในที่สุดดิฉันก้อชนะคดีไปได้ค่ะ ดิฉันก็เลยเลิกทานเนื้อ เป็นเวลา 2 ปี เพราะเผื่อๆไว้ค่ะ กลัวงดไม่ครบ และหลังจากนั้นดิฉัน ก้อหันกลับมาทานเนื้อต่อค่ะ จนในปี 2551 ช่วงเดือนตุลาคมค่ะ ดิฉันได้ไปงานบูชาศาลองค์เท้ามหาพรหมค่ะ ในระหว่างที่พราหมณ์กำลังทำพิธีอยู่ ดิฉันก้อเกิดความรู้สึกแปลกๆขึ้นค่ะ คือดิฉันมีอาการมือสั่น และเหมือนกึ่งหลับกึ่งตื่นค่ะ คือเหมือนตัวเองหลับตาและสามารถลืมตาได้ครึ่งเดียว และแถมยังร้องไห้สะอีกสะอื้นแบบไม่มีสาเหตุค่ะ จนเพื่อนและแฟนที่ยืนอยู่ข้างๆ ก้อเข้ามาจับดิฉัน และพยายามดึงมือฉันที่กำลังยืนพนมมืออยู่และมือสั่นๆนั้นออกจากกันค่ะ และพาดิฉันไปนั่งพักที่นอกพิธีค่ะ และจากนั้นมาดิฉันก้อสงสัยตัวเองตลอดค่ะ ว่าดิฉันเป็นอะไร และดิฉันก้อกลับไปหาเพื่อนของแฟนอีกครั้งเผื่อจะขอคำปรึกษาค่ะ แต่ว่าพอไปก้อทราบว่าแม่ของเพื่อนที่เป็นร่างนั้นได้เสียแล้ว โดยการเสียของท่านคือนั่งปอกแอบเปิ้ลให้ลูกๆหลานอยู่ แล้วก้อนั่งหลับไปค่ะ ดิฉันก้อเลยปรึกษาเพื่อนของแฟนแทนค่ะ และเพื่อนแฟนก้อบอกว่า บ้านของเค้า จะมีการทำบุญที่บ้าน คือ 1 ปี จะทำบุญ 3 ครั้ง และครั้งต่อไปจะมีการทำบุญในเดือน พ.ย. ให้ลองมาดูสิ เพราะจะมีลูกศิษย์มากันเยอะ และจะเชิญองค์พระแม่กวนอิมมา ดิฉันก็ไป ค่ะ แต่ในครั้งแรก ก้อไม่ได้อะไรกลับมาค่ะ
    และพออีกประมาณต้นปี 2552 นี้ ที่บ้านเพื่อนของแฟน จะมีการจัดงานอีก แต่ดิฉันก้อยังไม่ทราบวันหรอกค่ะ แต่ก่อนที่จะถึงวันงานนั้นประมาณ 1 อาทิตย์ ค่ะ ดิฉันก้อฝันค่ะ ฝันเห็นองค์พระแม่กวนอิมค่ะท่านมาค่ะ ในฝันท่านค่อยๆหันมายิ้มให้ดิฉันค่ะ แล้วก้อถามดิฉันค่ะ ว่ามีอะไรจะถามไหมลูก และจากที่ดิฉันฝันไปนั้นดิฉันก้ออยากจะไปบ้านเพื่อนแฟนมากๆ พยายามให้แฟนพาไปแต่ก้อไม่ได้ไปสักทีค่ะ จนกระทั้งหลังวันงาน 2 วัน ที่เค้าจัดงานไปแล้ว ดิฉันก้อได้ไปบ้านเพื่อนแฟนค่ะแต่ก้อต้องเสียใจค่ะเพราะเค้ามีงานไปแล้วค่ะ และก้อไม่ได้ไปเฝ้าเลยค่ะ หลังจากนั้นดิฉันก้อไม่เคยพลาดที่จะไปเลยค่ะ.
    เรื่องของดิฉันยังไม่จบค่ะ แต่เอามาเล่าให้ฟังแค่นี้ก่อนค่ะ อ้อลืมบอกไปค่ะว่าดิฉันเลิกทานเนื้อแล้วค่ะตั้งแต่เกิดเหตุการณ์แปลกๆกับดิฉันในครั้งนั้นค่ะ และตอนนี้ดิฉันก็อาราธนาองค์พระแม่กวนอิมมาอยู่กับดิฉันที่บ้านแล้วค่ะ.
     
  17. tiaboukee

    tiaboukee สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    ความฝัน

    ปัจจุบันผมอายุได้17ปีคับ คืนหนึ่งผมวันว่าเห็นเทวรูปเจ้าแม่กวนอิมพูดได้
    ข้างกายท่านมีท่านอังไฮ้ยี่และอีกคนผมก็ไม่รู้จัก ท่านให้ผมขอพรท่านประการหนึ่ง ผมเลยขอไป แต่ไม่ได้ขอเกี่ยวกับเงินทองน่ะคับ แต่ขอไรนั้นผมขอเป็นความลับคับ
     
  18. สรรเสริญมหาโพธิสัตว์

    สรรเสริญมหาโพธิสัตว์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    402
    ค่าพลัง:
    +1,176
    *-*

    กระผมก็เป็นหนึ่งในผู้เคารพท่านเช่นกันครับ ผมฝันถึงพระแม่ทั้งหมด 4 ครั้งครับ

    องค์กษิติครรภ 1 ครั้ง

    และพระอมิตาภพุทธเจ้า 1 ครั้งครับ

    โอม มณี ปัทเม หุม ( 3 คำรบ )
     
  19. สรรเสริญมหาโพธิสัตว์

    สรรเสริญมหาโพธิสัตว์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    402
    ค่าพลัง:
    +1,176
    ไม่ว่าจะเกิด ณ แดนใด ข้าพระองค์คนนี้ขออยู่ใต้พระบาทพระมหาโพธิสัตว์ทั้ง 7 พระองค์

    และ

    ร่มเงาของพระศาสนามหายานสืบไป
     
  20. OrangeHP

    OrangeHP เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2007
    โพสต์:
    148
    ค่าพลัง:
    +160
    ท่านมีจริงๆสาบานได้ ผมเคยได้ยินเสียงท่านบ่อยๆ
    มีอยู่ครั้งหนึ่งผมเป็นคนว่ายน้ำไม่เป็น
    ไปเล่นในสระ และไม่คิดว่ามันจะลึก พอลงก็จมเลย ในใจผมก็บอกว่าผมจะยังไม่ถึงเวลา
    ขอให้พระแม่ช่วยด้วย ในขณะที่ตะเกียกตะกาย
    ก็ไม่มีใครสนใจเลย มีแต่วิ่งมาดูแล้วก็กลับไป
    ในขณะนั้นมือก็ไปแตะขอบสระพอดี รอดตายมาได้ และไม่เล่นน้ำอีกเลยตนปัจจุบันกลัวมาก
    ไม่เอาแล้ว ยิ่งเห็นทะเล หรือลงเรือยิ่งไม่กล้าลงเลย
     

แชร์หน้านี้

Loading...