แก้กฎแห่งกรรมด้วยสติปัญญา

<!-- Main -->

เมื่อถึงช่วงที่ความทุกข์เข้าถาโถม การแก้ไขพลิกฟื้นสถานการณ์ ดีกว่าการยอมทุกข์ทรมาน!

พยายามมีสติอยู่เสมออย่าเผลอ สำรวมระวังในอากัปกิริยาต่าง ๆ สม่ำเสมอเป็นนิสัย ได้แก่

1) คิดดี ไม่ควรเชื่อความคิดความรู้สึกและทำตามนั้นทันที โดยเฉพาะความรู้สึกที่ไม่เป็นกลาง
เช่น ความอยาก ความไม่อยาก ความดีใจ ความประทับใจ ความเหลิง ความชอบ ความไม่ชอบ ความง่วง
ความเผลอ ความงง ความหงุดหงิด รวมทั้งความคิดที่จะเดินทาง และนึกถึงคนอื่นว่าเขาจะรู้สึกอย่างไร
จะมีผลกระทบกับใครอย่างไร สุดท้ายเมื่อคิดที่จะพูดหรือจะลงมือทำอะไร ควรตรวจสอบก่อน

2) ติดต่อสื่อสารดี ตั้งใจฟัง เพื่อที่จะเข้าใจได้ถูกต้องขึ้น โดยปกติพูดน้อยไว้ดีกว่า
แต่เมื่อถึงเวลาต้องพูดต้องสื่อสารก็ควรพูด ก่อนจะพูดคิดสักสองต่อ
ว่าถ้าพูดแล้วจะเกิดอะไรขึ้น ผู้ฟังจะตอบสนองอย่างไร

3) ทำดี มีสติ รู้ตัว
เมื่อมีความคิดไปถึงเรื่องใด พยายามดึงความคิดกลับมาที่กิจกรรมที่กำลังทำอยู่ รวมทั้งไม่ควรอยู่ที่ใดที่หนึ่งนาน


การที่เราจะต้องพานพบและทุกข์เดือดร้อนเพราะใครนั้น มักจะมีเหตุที่เราจะต้องไปเจอเขา
และต้องมีปัญหากัน เดือดร้อนกันทั้งสองฝ่าย ในหลายกรณีเขาไม่เคยเกี่ยวข้องอะไรกับเราเลย
แต่เนื่องจากเขามีอุปนิสัยและสิ่งแวดล้อมพร้อมที่จะให้เราชดใช้กรรม หรือเขามีกรรมที่ต้องมาถูกเรากระทำ
ถ้าเลี่ยงได้ทั้งสองฝ่ายก็โชคดีไป ถ้าเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องพบปะกันก็พยายามจากกันด้วยดี อโหสิกรรมเขา
ถ้าเราจำ เราเคียดแค้น ก็จะเป็นการสร้างเวรอีกหนึ่งรอบ ให้มันจบที่เรานั้นดีหนอ

อย่างไรก็ตาม ต้องแยกแยะให้เข้าใจว่า การอโหสิกรรมคือการที่จิตไม่คิดอาฆาต ไม่แค้น ยกโทษให้
ถ้ายกโทษให้ต้องยกให้จริง เมื่อเวลาผ่านล่วงเลยไปแล้ว ก็ไม่ควรพูดถึง ไม่ควรเอ่ยชื่อเขา

ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ควรเล่าให้ใครฟัง การเล่านั้นมักจะทำให้รื้อฟื้นความเคียดแค้น
ว่าเขาได้ทำกับเราอย่างนั้นอย่างนี้ จะทำให้ใจเราไม่สงบ นั่นก็ไม่ควรเล่า
ประสบการณ์เหล่านั้นจะทำให้เราระวังตัวมากขึ้นโดยอัตโนมัติ
อย่างไรก็ตาม เมื่อถูกใครทำให้เดือดร้อนแล้วไม่ต่อสู้ ไม่พูดออกมา หรือไม่บอกใคร
ต่างไม่ใช่คำตอบสำหรับทุกปัญหา

กรณีต่อมา ถ้าเป็นฝ่ายที่ถูกต้อง การปกป้องตัวเอง ครอบครัว ลูกน้องผู้อยู่ใต้ปกครอง
และการแก้ไขความเสียหายที่เกิดขึ้น เป็นสิ่งที่ควรทำ

และอีกกรณีหนึ่ง โลกนี้กลม เราอาจจะมีโอกาสต้องเจอะเจอกับผู้ที่เคยทำให้เราเดือดร้อน
ก็ควรมีใจเป็นกลาง ไม่เกลียด ไม่ใกล้เกิน

ขณะเผชิญกับปัญหาความเดือดร้อน ให้มีสติอยู่เสมอ ระมัดระวังประคับประคองเพื่อผ่านพ้นไปด้วยดี
ถ้าทำได้ให้ใช้ปัญญาคิดหาหนทางแก้ไขไปในเวลานั้นด้วย
แล้วเรียนรู้ถึงความเจ็บปวด และจะไม่ทำกับใครอย่างที่ถูกทำ

ถ้าวิบากกรรมหนักหนาจนเหนื่อยล้าอ่อนแรง ให้พักผ่อน ทำให้ตัวเองมีกำลังกาย กำลังใจ
เมื่อร่างกายมีพลังงานสดชื่นขึ้นมาบ้างแล้ว จึงนำปัญหานั้นมาคิดแก้ไขด้วยปัญญา

วิบากกรรมบางอย่างมักเกิดขึ้นซ้ำ ๆ เป็นระยะ ทุกวัน ทุกสัปดาห์ หรือเมื่อเผลอ
ดังนั้นจึงควรคิดหาวิธีหลีกเลี่ยง ป้องกัน แก้ไข ซักซ้อมไว้ก่อนที่วิบากกรรมจะมารอบใหม่

วิบากกรรมบางอย่างเกิดขึ้นถาวรแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว แต่เราต้องอยู่กับผลกรรมนั้น
การเปลี่ยนผลกรรมให้เป็นประโยชน์เป็นสิ่งที่น่าทำ อาจจะใช้จิตจดจ่อพิจารณาอยู่กับผลกรรมนั้น
พิจารณาเพื่อให้เข้าใจพระไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา โดยมีวิบากกรรมเป็นหลักฐานยืนยัน

<!-- End main-->

ที่มา Bloggang.com :

 

ขอขอบคุณสำหรับเรื่องๆดีๆที่นำมาโพสครับ