แปลกอัศจรรย์ !!! ภูทอก พระอาจารย์จวน สร้างได้ไง วิศวะยังยอม ! ชมวัดภูทอกได้เลยครับ

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย แดนโลกธาตุ, 29 กันยายน 2006.

  1. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976
    " บรรยากาศวัดเจติยาคีรีวิหาร (วัดภูทอก )
    สิ่งมหัศจรรบย์ที่สุดในบรรดาสิ่งก่อสร้างทั้งหลาย
    เป็นวัดของท่านพระอาจารย์จวน (พระผู้เป็นอรหันต์สร้าง )
    วิศวะยังยอมแพ้ในการก่อสร้างว่าท่านพระอาจารย์จวนสร้างบรรไดเวียนวนไปมารอบภูทอก 7 ชั้น ได้อย่างไงแปลกเหลือเกิน นั้นเป็นแค่เพียงแค่สมาธิธรรม บารมีอภิญญาท่านในการก่อสร้าง
    คนธรรมดาก่อสร้างไม่ได้แน่นอน "
    ----------------------------------------------------------

    พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ
    พ.ศ. ๒๔๖๓ - พ.ศ. ๒๕๒๓

    วัดเจติยาคิรีวิหาร (ภูทอก) หมู่ที่ 6 ต.นาแสง อ.ศรีวิไล จ.หนองคาย


    [​IMG]


    อัศจรรย์ภาพนี้ท่านอาจารย์จวน มานั่งตรงนีได้อย่างไร ในขณะที่ตรงนี้ไม่มีบรรไดปีนป่ายขึ้นเลย สูงชันมาก
    --------------------------------------------------------

    [​IMG]

    ภาพนี้ก็อัศจรรย์เหมือนกันท่านมาอยู่ที่นี้ได้อย่างไร

    ท่านเป็นพระป่าสายกรรมฐาน ศิษย์พระอาจารย์มั่น ในยุคก่อนโน้น มรณภาพไปนานแล้ว [​IMG] ( ท่านตกเครื่องบิน ถ้าท่านจะเหาะท่านก็เหาะได้แต่เป็นธรรดาของการตาย ท่านเคยบอกล่วงหน้า )
    ----------------------------------------------------------

    [​IMG]


    ภายหลังมรณภาพจากที่ท่านตกเครื่องบิน ที่ทุ่งรังสิต จ.ประทุมธานี ขณะที่กำลังมาจากไปเจริญพุทธมนต์ในพระบรมมหาราชวัง
    ภายหลังประชุมเพลิงอัฐิท่านได้แปรเป็นพระธาตุ
    ----------------------------------------------------------



     
  2. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976
    [​IMG]


    เจดีย์พิพิธภัณฑ์ท่านพระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ
    ที่บรรจุอัฐบริขาร ในสมัยบำเพ็ญสมณธรรม และเก็บอัฐิธาตุท่าน
    และรูปปั้นขนาดเท่าองค์จริงของท่าน
    ------------------------------------------------------------

    [​IMG]


    เจดีย์ท่านถ่ายจากชั้นที่ 7 บนวัดภูทอก ในเวลายามค่ำคืนประดับประดาด้วยแสงไฟ สว่างไสวงดงาม ทีเดียว
    ------------------------------------------------------------------

    [​IMG]

    ภาพถ่ายเจดีย์บรรจุอัฐิธาตุ ในเวลากลางวัน ข้าสระน้ำ วัดภูทอก
    ----------------------------------------------------------------​
     
  3. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976
    [​IMG]

    มองเห็นเจดีย์บรรจุอัฐิธาตุท่าน
    ---------------------------------------------------------

    [​IMG]


    สวยงามมากบรรยากาศภาพถ่ายวัดภูทอก มองเห็นบรรไดเวียนวน ถึงชั้นที่ 7
    ที่ท่านพระอาจารย์จวนสร้างขึ้น
    -----------------------------------------------------------


    [​IMG]


    ศาลาการเปรียญหลังใหญ่ อยู่หน้าทางขึ้นวัดภูทอก เพื่อต้อนรับแขกพระเถรานุเถระพ่อ
    แม่ครูบาอาจารย์ที่มาเยี่ยมเยียน
    ---------------------------------------------------------------

    [​IMG]

    ทางขึ้นวัดภูทอก
    ---------------------------------------------------------------

    [​IMG]


    บรรไดที่พระอาจารย์จวนสร้าง สมัยที่ท่านยังดำรงขันธ์อยู่
    นี่เป็นชั้นที่ 1 เป็นบรรไดไม้
    ---------------------------------------------------------

    [​IMG]



    [​IMG]


    [​IMG]


    ถ้าใครกลัวไม่อยากปีนป่ายตาม ทางบรรไดเวียนวน ก็มาทางลัดภายในถ้ำ
    เพื่อขึ้นชั้น 7 ก็ได้ แต่มาทางนี้ระวังเจอโครงกระดูกที่ปลงอสุภะกรรมฐาน
    และทางนี้ระวังหลวทาง ต้องมากันเยอะ แต่ให้เงียบ
    พระท่านปฏิบัติธรรม ถ้าป้ายเห็นเขตพระห้ามเข้าไปเด็ดขาด
    ------------------------------------------------------------

     
  4. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976
    [​IMG]

    ทางลัดต่อจากภาพที่แล้ว ก็จะโผล่มาถึง ชั้นต่อไป ระวังงู ก็แล้วกัน
    --------------------------------------------------------------------

    [​IMG]


    เดินไปเดินมาก็จะเห็นศาลาปฏิบัติธรรม ที่ชุ่มเย็นภายในหลืบหิน ที่สะอาดสะอ้าน ภายมีพระพุทธรูป และรูปพ่อแม่ครูบาอาจารย์ เช่น หลวงปู่มั่น หลวงปู่ขาว หลวงตาบัว หลวงปู่แหวน หลวงปู่คำพอง ติดอยู่ผนังถ้ำ
    (อย่าลืมมาแล้วเข้าไปกราบ พระประทานกันก่อน
    ศักสิทธิ์มากครับ )
    --------------------------------------------------------------

    [​IMG]
     
  5. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976
    [​IMG]

    เมื่อเดินไปตั้งสติไปตลอดทางดี ๆ ถ้าใครกลัวความสูงอย่ามองลงไปเด็ดขาดนะครับ จุดนี้ท่านสามารถเห็นวิวบนวัดภูทอก อย่างวสยงามมากเลยทีเดียวครับ
    จะสังเกตเห็นบรรไดเวียนวน ล่างล่างหน้าหวาดเสียวเหมือนกัน
    ถ้าตกลงไปคง.. ระวังดีดีครับ

    -------------------------------------------------------------------



    [​IMG]


    ภาพนี้มองลงไป แทบขาสั่นก็มีบางคน ที่กลัวความสูง
    ------------------------------------------------------------

    [​IMG]


    สุดยอดไหมล่ะครับ ทิวทัศน์บนหน้าผาสูงมากเลยทีเดียว ถ้ามีกล้องมาด้วยจะดีมาก ครั้งหนึ่งว่าเราเคยมากราบ มาเที่ยว บนสถานธรรมของท่าน
    จะทำบรรไดเวียนไปเรื่อยๆ จนถึงชั้น 7 บรรไดจะแนนชิดไปตามหน้าผาสูงชัน
    ----------------------------------------------------------------

    [​IMG]

    บางคนเดินมาตรงยุดนี้อาจะหยุดเดินถอยกลับ เพราะกลัวความสูง
    ที่ลัดเลาะโค้งไปตามหลืบผาสูงชัน
    แปลกไหมละครับท่านสร้างได้อย่างไร ท่านคงไม่ใช่พระธรรดาแน่นอน!!
    ( มองลงไปแทบขาสั่น ระริกๆๆ เลยแหละครับ )

    ----------------------------------------------------------------

    [​IMG]


    สวยงามมากครับทิวทัศน์รอบวัดภูทอก ของพระอาจารย์จวน
    จะเห็นแมกไม้นานาพันธ์ขึ้นตามทางเดิน ทั้งนก ทั้งลิง และดอกไม้ป่าที่หอม มาก ครับ
    ----------------------------------------------------------------------

     
  6. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976
    [​IMG]

    ภาพทิวทัศน์ที่ถ่ายได้ครับ เห็นสภาพแวดล้อม ในอำเภอศรีวิไล งดงามมาก เมื่อมองลงมาจากภูทอก ทั้งเดินทั้งถ่ายครับ
    -------------------------------------------------------------------

    [​IMG]


    เมื่อเดินไปเดินมา จะมาเจอพุทธวิหารของท่านพระอาจารย์จวน
    และท่านยังมองเห็น ที่ปฏิบัติธรรมท่านพระอาจารย์จวน
    ที่มีลักษณะก้อนหินขนาดใหญ่วางเป็นหลังคา ปฏิบัติกรรมฐานท่าน

    ---------------------------------------------------------------
    [​IMG]


    เมือนอยู่สวรรค์เลยครับ นี่แหละที่เป็นสมญานาม ภูทอก ว่า สรรค์เจ็ดชั้น
    โอ้โห สูงมากเลยครับ (ใจเต้นนิดหน่อย )

    ------------------------------------------------------------

    [​IMG]



    เดินขึ้นไปประมาณชั้นที่ 5 ของภูทอก จะเห็นพุทธวิหาร ที่เราพึ่งผ่ามาตะกี้และมองเห็นอาณาบริเวณเขตวัด ข้างล่าง
    และเห็นชั้นถัดมาที่เราเดินผ่านมาแล้ว ครับ และเห็นทิวทัศน์เมือง ศรีวิไล
    และท้องไร่ท้องนาชาวบ้านอีกด้วย
    ----------------------------------------------------------------

    [​IMG]


    จะเห็นศาลาการเปรียญปฏิบัติธรรม บนหน้าผาสูงชัน (หลังสีขาว )
    ดูสภาพไม่น่าจะแข็งแรงแต่ขอโทษบรรจุคนได้ถึง 100 คนเลยแหละครับ

    --------------------------------------------------------------------

     
  7. surad

    surad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2006
    โพสต์:
    387
    ค่าพลัง:
    +1,287
    สวยงามจริงๆครับ ขอบคุณที่เอื้อเฟื้อภาพครับ
     
  8. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976
    [​IMG]


    จะพาย้อนลงมาชมภายใน พุทธวิหาร ท่านพระอาจารย์จวน ครับ
    จะเห็นชัดเจนเลย มีทางเดินจงกรม ทำด้วยไม้ เป็นสะพาน
    นี่แหละที่นั่งภาวนาของท่าน ในคราวสมัยนั้น

    -----------------------------------------------------------------


    [​IMG]


    เดินต่อมาจะเห็นหินสีแดง ๆๆๆ เต็มไปหมดเลยครับ หน้าผาสูงชัน
    พกยาดม ไปด้วยก็คงจะดีน่ะครับ
    (ทุกชั้น เวลาเดินขอความกรุณราอย่าคิดอกุศล ลบหลู่ น่ะครับ )

    ------------------------------------------------------
    [​IMG]


    โอย !!! ไม่ไหวแล้วยิ่งเดินยิ่งขาสั่น
    พุทธโธ ธัมโม สังโฆ พ่อแม่ครูบาอาจารย์สาธุ
    --------------------------------------------------------

    [​IMG]


    นี่เป็นจุดที่ตั้งวิหารใหญ่บนภูทอก ตรงข้ามจะเห็นภูเขาต่าง ๆ ล้อมรอบ วัดภูทอก
    แมกไม้นานาพันธ์

    -----------------------------------------------------------------


     
  9. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976
    [​IMG]


    เห็นไหมละครับ ว่าสวยงามขนาดไหน เชิญมาสัมผัสได้ และกราบพ่อแม่ครูบาอาจารย์ได้ เจ้าอาวาส คือพ่อแม่ครูจารย์ท่านพระอาจารย์แยง สุขกาโม
    ผู้ประพฤติตามธรรม ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ตาม
    สายหลวงปู่มั่น ของเรา

    ------------------------------------------------------------


    [​IMG]


    บรรไดมีทั้งทำด้วยไม้และ ทางหิน สลับกันไปสลับกันมา ดังภาพ

    -----------------------------------------------------------

    [​IMG]


    พุทธวิหารครับ สถานปฏิบัติธรรมสมาธิภาวนาอย่างเอาเป็นเอาตาย ของท่านพระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ ของเรา

    -----------------------------------------------------------

    พระอาจารย์จวน เป็นผู้มาบุกเบิกภูทอกแห่งนี้ ให้มีความเจริญ และให้เป็นที่ปฏิบัติธรรมของพระและฆราวาส เดิมที ได้มีพญานาค ณ ที่แห่งนี้ ได้รับพระธรรมจากพระอาจารย์จวน และพญานาคได้ขอให้ท่านอยู่ ณ ที่แห่งนี้ และขอให้บอกกับประชาชนว่า ณ วัดภูทอกแห่งนี้ทั้งส่วนที่อยู่พื้นล่างและภูเขา โปรดอย่าถ่มน้ำลายลงพื้น อย่าทิ้งขยะ อย่าส่งเสียงดัง นะครับ

    [​IMG]

    ------------------------------------------------------------------​
     
  10. หลับตา

    หลับตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    718
    ค่าพลัง:
    +3,151
    พยายามคิดตามไป ได้อารมณ์ขาสั่นไปด้วย พอมีประวัติไหมครับท่านสร้างอย่างไร กี่ปี ใช้คนงานเท่าไหร่
     
  11. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976
    ปิดท้ายด้วย แผนที่​

    [​IMG]

    -------------------------------------------------------------​

    คำตอบที่ 36
    ปิดท้ายแล้วจริง ๆ แผนที่

    [​IMG]


    แผนที่จังหวัดหนองคาย เผื่อท่านแวะมากราบ นมัสการเจดีย์และกราบอัฐิธาตุ ท่าน และชมสวรรค์ 7 ชั้น ภูทอก ที่ขึ้นชื่อของหนองคาย และจังหวัดใกล้เคียง
    (ก่อนมาต้องไปกราบหลวงปู่แยง เจ้าอาวาสก่อนน่ะครับ )​

    ขอความกรุณา อย่าบ้วนน้ำลายเด็ดขาด ถือว่าลบหลู่สถานที่ศักสิทธิ์
    ผุ้หญิงอย่าใส่กระโปรงเขิน สายเดี่ยว เขิน ๆ ขึ้นมาห้ามเด็ดขาด
    เป็นไรมาไม่รับผิดชอบ และอย่าเอาของพนันสุรา ขึ้นมา ไม่เช่นนั้น
    จะหาว่าไม่เตือน น่ะครับ และคนเมาอย่านำขึ้นมา กับคนบ้า ครับ​

    ด้วยความหวังดี ............... ( ศิษย์วัดภูทอก )



    [​IMG]



    [​IMG]



    [​IMG]



    [​IMG]



    [​IMG]



    [​IMG]


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มกราคม 2008
  12. chatyamn

    chatyamn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    664
    ค่าพลัง:
    +4,056
    อนุโมทนาบุญครับ.....ได้มีโอกาสไปกราบอัฐิธาตุท่านหกครั้งแล้ว....ชื่นใจครับ.....ขึ้นไปไม่ถึงข้างบนสักที โรคกลัวความสูงจับจิตใจ ไปได้แค่ครึ่งทาง.....แต่ทิวน์ทัศสวยงามมาก....มองไปสุดลูกตาแล้วสบายใจ.
     
  13. mariam

    mariam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2006
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +106
    Satu satu...I ever been at Nongkai but never go there,I wish to go there once in my life
     
  14. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976
    [​IMG][​IMG]

    [​IMG]
    (แดนสวรรค์เจ็ดชั้น )

    (วัดเจติยาคีรีวิหาร ) วัดภูทอกแดนมหัศจรรย์

    เป็นภูเขาหินทราย เป็นภูเขาโทนลูกเดียวท่ามกลางที่ราบอันกว้างใหญ่ มีสะพานเวียนรอบเขาสูงชันขึ้นสู่ภูทอก สูงถึง 7 ชั้น สร้างขึ้นด้วยวิธีแบบชาวบ้านโดยไม่มีวิศวกรและเครื่องจักรใดในการก่อสร้าง เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมและปฏิบัติศาสนกิจของชุมชนในยามเทศกาลต่าง ๆ


    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]

    [​IMG]

    เริ่มต้นเช้าวันเสาร์กับ กิจกรรมสุดโหด ที่รออยู่เบื้องหน้า...

    ป่ะ ...ไปขึ้นภูทอก กัน ^_^


    [​IMG]
    ภาพส่วนใหญ่เป็นภาพวิว ในมุมที่คล้ายๆกัน
    เลยขอไม่แปะให้ดูนะครับ...

    ป่ะ เราไปที่อื่นกันต่อดีกว่า....

    ก่อกๆๆ...จอดรถก่อนคร๊าบบบบบ.....
    จอดทำไม? ต้องถามคุณไอ้ลูกทุ่งดูเอง?


    [​IMG]


    [​IMG]

    มุมมองจากบนภูทอก แต่ต่างกันตรงที่มองจากชั้น 6

    ภูทอกมีทั้งหมด 7 ชั้น ชั้นสุดท้ายเป็นเพียงป่ารก



    [​IMG]
    ทางเดินเท้าที่ทำด้วยไม้ด้วยฝีมือของมุนษย์ที่เป็นเพียงแค่พระเณร ล้อมรอบเขาหินทรายที่เป็นผาสูง

    [​IMG]
    เชื่อไหมครับหมู่บ้านเล็กที่อยู่เบื้องหน้าภูทอกเนี๊ย ถ้าเราเข้าไปแล้ววกซ้ายวนขวาเข้าหน่อย เป็นอันหลงเลยทีเดียว

    [​IMG]
    รู้สึกโหวงๆ เสียวหว่างขา บางครั้งเซเล็กๆ เมื่อเดินไปตามทางที่ทอดไป

    [​IMG]

    [​IMG]
    มุมมองจากภูวัว จากซ้ายไปขาว ภูทอก ภูทอกใหญ่ ภู? ภูสิงห์

    [​IMG]
    ชอบจริงๆ มุมนี้

    จากที่ยืนอยู่เป็นลานหินกว้างๆ สลับกอหญ้าแห้งๆ

    ถัดไปเป็นผาสูง ตรงกลางเป็นธารน้ำและน้ำตกไหลหลาก

    อีกด้านก็จะเป็นผาสูงที่ประดับด้วยไม้ใหญ่มากมาย


    [​IMG]
    ผาผึ้ง








    <!-- แสดง ชื่อ - เวลา --><!-- แสดง ชื่อ - เวลา -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มกราคม 2008
  15. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976
    <TABLE cellSpacing=4 cellPadding=4 border=8><TBODY><ROWS><TR><TD>[​IMG] </TD></TR></ROWS></TBODY></TABLE>

    เจดีย์หลวงปู่น่ะครับ (ถ่ายตอนเช้า )
    เมื่อเดินทางมาถึงสิ่งแรกเลยคือ ขึ้นไปกราบนมัสการ
    เจดีย์บรรจุอัฐิธาตุท่านพระอาจารย์จวนก่อน
    แล้วค่อยไปกราบเจ้าอาวาส หลวงปู่แยง แล้วค่อยเดินขึ้นไปชมบนภูทอก

    -----------------------------------------------------------------------

    [​IMG]
    [​IMG]

    เจดีย์หลวงปู่ (ถ่ายตอน ฤดูหนาว )
    จะเห็นว่าบนภูทอกจะมีหมอกปกคลุมมาก


    หน้าผาสูงชันเห็นแล้วหวาดเสียว
    ----------------------------------------------------------------


    <CENTER>[​IMG]
    ภาพที่ 1</CENTER>ริมแม่น้ำโขงที่นั้นสวยมาก น่าตกปลา มากคับ แต่เสียได้ ผมไม่ได้เอาคันเบ็ดไป
    <CENTER>[​IMG]
    ภาพที่ 2</CENTER>ภูทอก คนแถวนั้นเรียกว่าภูทอกคับ เป็นวัดบนเขา ไปเห็นเองแล้วจะตกใจ เพราะแค่เราเดินยังเสียวตกเลยคับ
    <CENTER>[​IMG]
    ภาพที่ 3</CENTER>​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มกราคม 2008
  16. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976
    [​IMG]


    ใครขึ้ไปถึงจุดสุดท้าย ก็จะปรากฏเห็นสวรรค์ทันที คือชั้นที่ 7 ชั้นสุดท้าย จะมีทุ่งดอกไม้ ชึ่งเป็นหญ้า หลากหลายสีมากบานสะพรั่งสวยงามมากเลยทีเดียว ครับ ในบางครั้งบริเวณนี้สูงมาก ก็จะมีหมู่ก้อนเมฆ ก็จะลอยมาชนตัวคุณ คุณจะรู้สึกว่าเย็นวืบ ๆๆ สักพักครับ
    (ห้ามนำอาหาร เครื่องดื่มมึนเมา ขึ้นมา น่ะครับ ห้ามเด็ดขาด เว้นน้ำดื่ม )

    --------------------------------------------------------------------

    [​IMG]

    บนชั้น ที่ 6 ครับ จะมีผลไม้ ชมพู่ จำปาสีชมพูหอม หลายต้น ครับ

    (ต้องขออนุญาติท่านอาจารย์นำกระเป๋าขึ้นมา ไม่จำเป็นไม่ต้องเอาเป้ใหญ่ขึ้นมา นะครับ )

    --------------------------------------------------------------------
    [​IMG]

    ต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง ครับ
    -----------------------------------------------------------

    [​IMG]


    ดอกไม้ป่า และดอกหญ้า บนภูทอก
    หญ้าข้าวก่ำ ขึ้นอยู่ข้างทาง เก็บภาพไว้ก่อน เคยเจอที่หลังแปบนภูหลวงตอนขึ้นภูขวาง ดอกใหญ่มาก ไว้จะหาโอกาสไปอีก รอให้รองเท้านารีบนภูขวางออกดอกก่อน ค่อยขึ้นไปใหม่ แต่คงไม่มีเปราะภูให้ดูแล้ว ได้อย่างเสียอย่างแบบนี้เสมอ.............. [​IMG]

    ------------------------------------------------------------------

    [​IMG]

    ถ่ายมาไม่สวย เก็บมาเป็นบันทึกการเดินทางมาเล่าสู่กันฟังเท่านั้น อย่าว่ากันนะพี่............

    -------------------------------------------------------------------------------------------
    [​IMG]


    [​IMG]

    กล้วยไม้จำพวกเอื้องยังมีให้เห็นอยู่บ้าง ในภาพเป็นเอื้องชนิดหนึ่งดอกสีขาวขึ้นอยู่บนคาคบของต้นก่อ ชื่อว่า เอื้องนางชี

    --------------------------------------------------------------

    [​IMG]

    พวก โฮย่า นี่ก็มีเยอะ แต่ไม่มีดอก................ [​IMG]

    ------------------------------------------------------------------


    [​IMG]


    ด้านซ้ายมือ มองเห็น ภูวัว กับภูสิงห์ ทอดแนวอยู่ไกลๆ
    ----------------------------------------------------------------

    [​IMG]

    ฉากหน้าเป็นดอกไม้ป่า แบล็กกราวด์เป็น ........จนท.........

    --------------------------------------------------------------------------------------
    [​IMG]

    ต้นไม้แซมกันขึ้นอย่างหนาแน่นเขียวขจี อุดมสมบูรณ์มากเลยทีเดียว
    ----------------------------------------------------------------------------------



     
  17. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976
    [​IMG]

    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" align=center bgColor=#ff9900 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center bgColor=#ffffef height=24>
    วัดเจติยาคิรีวิหาร (วัดภูทอก)
    </TD></TR><TR><TD vAlign=center bgColor=#ffffef height=24>
    วัดสายพระป่า โดย พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ---------------------------------------------------------------------
    [​IMG]

    พุทธวิหาร
    -------------------------------------------------------------------

    [​IMG]

    พระประธาน ที่วิหารชั้นที่ ๕
    นอกจากนั้น กองทัพอากาศดอนเมืองได้ถวายเครื่องไฟฟ้าแรงสูง สำหรับใช้ ภายในวัด 1 เครื่อง กรมวิเทศสหการได้ถวายพระพุทธรูป หล่อขนาดใหญ่เป็นประธาน 1 องค์ ไว้ที่วิหารชั้น 5 และบรรดาญาติโยมได้ช่วยกันสมทบทุนสร้างโรงฉัน และศาลาที่ชั้น 1 หลัง พร้อมกับการก่อสร้างสะพานลอยฟ้าไปรอบ ๆ ภูทอกในชั้นที่ 5 และชั้นที่ 6 และได้สร้างสถานที่บำเพ็ญเพียรภาวนา แทรกไว้ตาม จุดต่าง ๆ โดยรอบหน้าผา สิ้นค่าก่อสร้าง 45,000 บาท ซึ่งการก่อสร้างเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะเป็นการเจาะหินทำนั่งร้านด้วยไม้ เนื้อแข็ง 2 ท่อน ผูกติดกับเสาที่ปักไม้เท้าแขนลงไปแล้วจึงพาดไม้กระดานเป็นสะพานที่ละช่วง ๆ ละประมาณ 1 เมตรเศษ ระหว่างคาน จะมีคานรองรับอีกชั้นหนึ่ง จึงทำให้สะพานแข็งแรงมาก นับว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์แก่ผู้พบเห็นอย่างยิ่ง และเมื่อวันที่ 27 เมษายน พุทธศักราช 2523 พระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐได้รับนิมนต์ไปกรุงเทพฯ และได้ประสพอุบัติเหตุเครื่องบินตก ถึงแก่มรณภาพ สิริรวมอายุได้ 59 ปี 9 เดือน 18 วัน 38 พรรษา
    ------------------------------------------------------------------------------------------------
     
  18. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976
    [​IMG]


    โอ้โห !!! ตรงนี้ทั้งสวย ทั้งแฝงความขาสั่น มาด้วย หลายรูปแบบ มากเลยครับ ท่านพระอาจารย์จวน ท่านขึ้นไปทำสะพานได้ไง หล่ะนี้
    ---------------------------------------------------------------------

    [​IMG]


    จะเห็นก้อนเมฆ ละอองน้ำมากมาย บนชั้นสูงสุด ทำให้ผู้ไปชมเย็นฉ่ำทั่วกัน

    ----------------------------------------------------------------

    [​IMG]

    ภาพสะพานทำด้วยไม้ ภูมิปัญญาท่านพระอาจารย์จวน ผู้สร้างสะพาน เพื่อเดินขึ้นบน ภูทอก

    ----------------------------------------------------------------------

    [​IMG]


    โอย ๆๆ !!! หน้าผาเดินมาเห็นอีกแล้ว เหรอ นิ้

    วัดเจติยาศีรีวิหาร หรือ ภูทอก ตั้งขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช 2483 โดยพระอาจารย์จวนกุลเชฎโฐ ได้มาบำเพ็ญเพียรอยู่ที่ภูวัว อำเภอเซกา จังหวัดหนองคาย คืนหนึ่งได้เกิดนิมิตรขึ้นเห็นปราสาท 2 หลัง ลักษณะสวยงามมากอยู่ทางด้านภูทอกน้อย ดังนั้นพระอาจารย์จวนกุลเชฎโฐ จึงได้เดินทางมาพิสูจน์ตามที่เกิดนิมิตร และได้พบลักษณะภูมิประเทศที่สวยงานร่มรื่น เหมาะที่จะปฏิบัติธรรม จึงได้สำรวจ และปักกรดอยู่ที่ ถ้ำบนภูทอก ทางเดินขึ้น ทำจากไม้ทิ่มไปตามหน้าผา ไม่มีเสา ทางขึ้นจะเป็นหน้าผาตลอดวนขึ้นไปเรื่อยๆ ทิวทัศน์สวยงามมากๆ เตรียมถ่ายรูปไว้เยอะ เลยแระกานอะ 5555

    -----------------------------------------------------------

    [​IMG]

    ดูซิครับ ภาพ สะพานซ้อนสะพาน จากชั้นที่ แล้ว ขึ้นมาได้อย่างไร ก็ไม่รู้
    ประวัติศาสตร์ มาก ใครไม่ถ่ายภาพไว้ น่าเสียดายมากเลยครับ
    โอกาสแบบนี้หาได้ยากมากเลย

    ---------------------------------------------------------------

    [​IMG]

    ไหน ๆๆ ก็มาแล้วครึ่งทาง ตรงนี้มาวัดใจกันสักตั้งหน่อย ดีกว่า !!!!

    --------------------------------------------------------------

    [​IMG]


    ภาพถ่ายจากเครื่องบิน ครับ จะมองเห็นแต่ละชั้น สวยงามมากเลย ครับ

    ----------------------------------------------------------------------

    [​IMG]

    [​IMG]


    นี่หละหนา ที่เขาเปรียบ เสมือน สรวงสวรรค์ เจ็ดชั้น ภูทอก
    -----------------------------------------------------------------------


     
  19. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976
    [​IMG]


    [​IMG]


    โอ !!! พ่อแก้วแม่แก้ว ช่วยลูกด้วย ครับ​

    -----------------------------------------------------------------------​

    [​IMG]


    ทอกเป็นภูเขาโดดเดี่ยวกลางทุ่ง ตั้งอยู่ ณ อำเภอศรีวิไล ห่างจาก
    ตัวเมืองจังหวัดหนองคายประมาณ 160 กม ขับรถไปกลับจาก
    ตัวเมืองเมื่อยขาเลยครับงานนี้ ​

    ------------------------------------------------------​

    [​IMG]


    จริง ๆ แล้วภูทอก คือ วัดภูทอกครับ สมัยก่อนมีสัตว์ป่าชุกชุม
    แต่สมัยนี้คงไม่มีแล้วอ่ะ ใช้เวลาในการก่อสร้างบันไดจากพื้นถึง
    ยอดประมาณ 5 ปีจ้า ไม่ใช่สร้างง่าย ๆ น้า อิอิ​

    --------------------------------------------------------​

    [​IMG]


    อีกมุมหนึ่ง เมื่อมองลงมาจากภูทอกชั้นที่ 6 ถ้าท้องฟ้าโล่งอาจจะมอง
    ไกลไปถึงฝั่งลาวเลยนะครับ
    ตอนกลางคืน ท้องฟ้าจะเต็มไปด้วยดาวเมื่อมองจากชั้น 5
    เหมาะสำหรับไปนั่งสมาธิ
    ชั้น 5 จะมีศาลาใหญ่ ภายในมีพระพุทธรูป
    ชั้น 5 และชั้น 6 มีทางเดินรอบเขา
    ชั้น 7 จะใกล้ยอดเขา เป็นป่าสมุนไพร​

    ------------------------------------------------------------​

    ท่าจะไปจริง ๆ ต้องเตรียมตัวหน่อยนะครับ เพราะทางที่ไปเนี่ย
    ป้ายบอกแทบไม่มีเลย ผมหลงอยู่ตั้งหลายทีกว่าจะถึง
    การเดินขึ้นสู่ยอดภูทอกมีทั้งหมด 7 ชั้น จะมีทั้งบันได เดินขึ้น และ
    สะพานเดินรอบเขา ผสมกันไปครับ ผมว่าถ้าไปควรไปถึง เช้า ๆ
    จะได้ไม่ร้อน อีกอย่างอากาศตอนเช้าน่าจะดีมาก ๆ เลยครับ
    และถ้าเป็นไปได้ถ้าได้ดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ภูทอกอาจจะเป็นอีกที่
    พระอาทิตย์ขึ้นสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งเลยนะครับ ​

    ------------------------------------------------------------------​

    วัดเจติยาคิรีวิหาร หรือ ภูทอก ตั้งขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช 2483 โดยพระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ ได้มาบำเพ็ญเพียรอยู่ที่ภูวัว อำเภอเซกา จังหวัดหนองคาย คืนหนึ่งได้เกิดนิมิตรขึ้นเห็นปราสาท 2 หลัง ลักษณะสวยงามมากอยู่ทางด้านภูทอกน้อย ดังนั้นพระอาจารย์จวนกุลเชฎโฐ จึงได้เดินทางมาพิสูจน์ตามที่เกิดนิมิตร และได้พบลักษณะภูมิประเทศที่สวยงานร่มรื่น เหมาะที่จะปฏิบัติธรรม จึงได้สำรวจ และปักกรดอยู่ที่ ถ้ำบนภูทอก กับพระครูศริธรรมวัฒน์ ต่อมาชาวบ้านคำแคนเห็นพระอาจารย์จวน ธุดงภ์มาอยู่ที่ภูทอก จึงพร้อมใจกันอารธนาให้สร้างวัด ขึ้นที่ภูทอก

    ในปีพุทธศักราช 2512 ชาวบ้านนาคำแคนได้มาช่วยกันสร้างบันได้ขึ้นภูทอก จนถึงชั้นที่ 5-6 และได้ปลูกสร้างเสนาสนะสำหรับพระสงฆ์อยู่ถึง 2 เดือน 10 วัน จึงเสร็จ

    ในปีพุทธศักราช 2513-2514 พระอาจารย์จวน กุลเชตุโฐ ได้ชักชวนชาวบ้าน สร้างทำนบกั้นน้ำขึ้น 2 แห่ง เพื่อใช้เก็บกักน้ำ และจัดระบบน้ำประปาขึ้นภายในวัดภูทอก

    นอกจากนั้น กองทัพอากาศดอนเมืองได้ถวายเครื่องไฟฟ้าแรงสูง สำหรับใช้ ภายในวัด 1 เครื่อง กรมวิเทศสหการได้ถวายพระพุทธรูป หล่อขนาดใหญ่เป็นประธาน 1 องค์ ไว้ที่วิหารชั้น 5 และบรรดาญาติโยมได้ช่วยกันสมทบทุนสร้างโรงฉัน และศาลาที่ชั้น 1 หลัง พร้อมกับการก่อสร้างสะพานลอยฟ้าไปรอบ ๆ ภูทอกในชั้นที่ 5 และชั้นที่ 6 และได้สร้างสถานที่บำเพ็ญเพียรภาวนา แทรกไว้ตาม จุดต่าง ๆ โดยรอบหน้าผา สิ้นค่าก่อสร้าง 45,000 บาท ซึ่งการก่อสร้างเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะเป็นการเจาะหินทำนั่งร้านด้วยไม้ เนื้อแข็ง 2 ท่อน ผูกติดกับเสาที่ปักไม้เท้าแขนลงไปแล้วจึงพาดไม้กระดานเป็นสะพานที่ละช่วง ๆ ละประมาณ 1 เมตรเศษ ระหว่างคาน จะมีคานรองรับอีกชั้นหนึ่ง จึงทำให้สะพานแข็งแรงมาก นับว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์แก่ผู้พบเห็นอย่างยิ่ง และเมื่อวันที่ 27 เมษายน พุทธศักราช 2523 พระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐได้รับนิมนต์ไปกรุงเทพฯ และได้ประสพอุบัติเหตุเครื่องบินตก ถึงแก่มรณภาพ สิริรวมอายุได้ 59 ปี 9 เดือน 18 วัน 38 พรรษา

    ปีพุทธศักราช 2513 ได้ปรับปรุงการสร้างสะพานใน ชั้นที่ 5 โดยทำทางเดินให้เสมอกันและ ขยายให้กว้างขึ้น

    ปีพุทธศักราช 2517 ได้ปรับปรุงสะพานในชั้นที่ 6 และทำสะพานในชั้นที่ 4 ให้อยู่ในสภาพที่ ใช้การได้ดี

    ปีพุทธศักราช 2519 ได้จัดทำนบกั้นน้ำในเขตวัดและจัดทำถังน้ำบนภูเขาในชั้นที่ 5 และกุฎิ พระภิกษุ สามเณร กุฎิแม่ชี บนชะง่อนเขาในชั้นที่ 5 เพื่อให้ญาติโยมได้พักอาศัยด้วย



    ปีพุทธศักราช 2523 ได้จัดทำถนนรอบภูเขา 3 ลูก คือ ภูทอกน้อย ภูทอกใหญ่ และภูสิงห์น้อยเพื่อ เป็นการกั้นเขตแดนวัด

    ศักยภาพด้านการท่องเที่ยว

    วัดเจติยาคิีรีวิหาร หรือภูทอก อยู่ห่างจากตัวจังหวัดหนองคาย 186 กิโลเมตร ตามเส้นทางหลวง จังหวัด หมายเลข 212 หนองคาย - บึงกาฬ - ศรีวิไล เป็นสถานที่จัดการเรียนการสอนพระปริญัติธรรม แผนกธรรม ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2525 และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดหนองคาย ที่มีประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเดินทางไปท่องเที่ยว เป็นจำนวนมาก

    นอกจากนั้นยังมีเจดีย์พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ สร้างด้วยคอนกรีต เสริมเหล็กประดับด้วยหินอ่อนขนาดกว้าง 16 เมตร สูง 31 เมตร สร้างเมื่อปีพุทธศักราช 2529



    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]



    [​IMG]


    [​IMG]

    ภาพระหว่างทางเดิน กับ กุฎิ พระอาจาริย์ จวน ที่*งออกไป โน่น ไม่รู้ไปสร้างได้อย่างไร ให้งง ๆ ซะจริง ๆๆ ดูสิ ภาพเล็ก ๆ น่ะ


    [​IMG]

    นี่งัย............... ภาพกุฏิ อาจาริย์จวน บนภูทอก


    [​IMG]

    ดอาไม้ สีเหลือง ๆ นี่ดอก อาราย น้า สวย.....จัง เลย


    [​IMG]

    บนภูทอก ...นั้น มีพระบูชาให้กราบไหว้ อากาศร่มเย็น ลมพัดผ่านสบาย


    [​IMG]


    รูปหล่อ หลวงปู่จวน พระสายอาจารย์มั่น สมาธิจิต ดีมากรู้ๆว่าจะต้องไปตาย ก้อไป ตาย เพื่อชดใช้กรรม พระแบบนี้หายาก จริงๆๆ


    [​IMG]

    สิ่งที่พระอาจารย์จวน ใช้พิจารณา คนเราเอาอารายไปไม่ได้หรอก สังขารยังต้องทิ้ง ๆ ไว้แบบนี้แหละ หาความสุขใส่ตัวไว้เถอะ อย่าหาบาป หาเหาใส่ตัวเลยนะ เพื่อน ๆๆ อารายที่เป็นความสุข ก้อรักษา เอาไว้ สิ่งที่ทำให้ใจเป็นทุกข์ ก้อ ทิ้ง ๆมันซะ ขอให้ทุกคนมีความสุข ทุกๆคน หลังจากอ่านจบ คงจะช่วยให้แนวทางชีวิต สดใส ยิ่งๆขึ้นๆ ไปอีก นะ..ทุก ๆคน

    [​IMG]

    ไม่รู้สพานที่ทอดไปยังกุฎิ และ ตัว กุฎิ สร้างกันอย่างไร ก้อไม่รู้สิ ไม่มีทางลง เป็นหน้าผา อย่างเดียว เลยอะ สงสัยคงต้องหานักไต่ผา ไว้ต้องถามคุณ บัญญัติ ดีกว่า ว่า เขา ทำสะพาน ข้ามกันได้อย่างไร อะ 55555





     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มกราคม 2008
  20. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="94%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=postbody vAlign=top>ประวัติพระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ
    วัดเจติยาคิรีวิหาร (ภูทอก)
    บ้านนาคำแคน ต.นาสะแบง
    อ.ศรีวิไล จ.หนองคาย


    พระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ เกจิฯ สายพระป่า "หลวงปู่มั่น"

    พระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ เป็นพระเถระสายวิปัสสนากัมมัฏฐานอีกรูปหนึ่งแห่งภาคอีสาน ที่มีวัตรปฏิบัติเป็นที่น่าเลื่อมใสของชาวพุทธยิ่งนัก

    อัตโนประวัติ พระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ เกิดในสกุล นรมาส เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ.2463 ที่บ้านแหล่งมันแกว หมู่ 12 ต.ดงมะยาง อ.อำนาจเจริญ จ.อุบลราชธานี (ในขณะนั้น) โยมบิดา-มารดา ชื่อนายสา และนางแหวะ นรมาส

    ในวัยเด็กได้เข้าศึกษาที่โรงเรียนบ้านโคกกลาง ต.มะยาง อ.อำนาจเจริญ และเข้าไปศึกษาในระดับมัธยม ที่โรงเรียนประจำจังหวัดอุบลราชธานี ชีวิตการเรียนของท่าน สอบได้ที่ 1 มาตลอด

    เมื่อเรียนจบชั้น ม.6 ท่านได้สมัครเข้ารับราชการที่กรมทางหลวงแผ่นดินอยู่นานถึง 4 ปี จนอายุครบ 21 ปี ได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุฝ่ายมหานิกาย ที่วัดเจริญจิต บ้านโคกกลาง ต.ดงมะยาง อ.อำนาจเจริญ โดยมีหลวงพ่อบุ เป็นพระอุปัชฌาย์ และพระมหาแจ้งเป็นอาจารย์คู่สวด ได้รับฉายาว่า "กลยาณธมโม"

    อุปสมบทได้ 1 พรรษา ท่านสามารถสอบไล่ได้นักธรรมชั้นตรี ก่อนลาสิกขาบทออกมาเป็นฆราวาส ได้ประกอบอาชีพเป็นช่างเย็บผ้า ทำงานขยันขันแข็งหามรุ่งหามค่ำจนล้มป่วยหนัก เมื่อหายป่วยท่านได้เข้าพิธีอุปสมบทอีกครั้ง ที่วัดสำราญวิเวก อ.อำนาจเจริญ

    พระอาจารย์จวนได้เริ่มปฏิบัติกัมมัฏฐาน โดยบริกรรมด้วยคำว่า "พุทโธ" และงดฉันอาหารประเภทเนื้อสัตว์ทุกชนิด ฉันแต่มังสวิรัติอย่างเดียว ด้วยเป็นอาหารธรรมชาติ ทำให้จิตใจเบาสบาย คลายความกำหนัดในกามคุณ ไม่ตกเป็นทาสของลิ้น

    ต่อมา พระอาจารย์จวนได้ออกเดินธุดงค์ไปยังมุกดาหารและไปนมัสการพระธาตุพนม ระหว่างทางได้อาศัยศพที่พบเห็นเจริญอสุภกัมมัฏฐาน ได้พิจารณาเห็นความจริงในเรื่องเกิด แก่ เจ็บ ตาย อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เกิดขึ้นตามลำดับ และเดินทางแสวงวิเวกไปเรื่อย หยุดพักตามป่าช้าแต่เพียงลำพัง ด้วยจิตใจอันกล้าหาญ

    ในช่วงระหว่างจำพรรษาที่วัดบ้านนาจิกดอนเมย บ้านหนองปลิง ต.นาจิก อ.อำนาจเจริญ ท่านได้ปฏิบัติกัมมัฏฐานด้วยการไม่หลับนอนตลอดระยะเวลา 3 เดือน และฉันอาหารมังสวิรัติ ปรากฏว่าทำได้สำเร็จได้ผลดีในทางกำลังใจและมีสติสัมปชัญญะเข้มแข็ง สามารถใช้สติควบคุมจิตได้ดีขึ้นตามหลักมหาสติปัฏฐาน นอกจากนี้ ยังได้ออกเที่ยวแสวงวิเวกบำเพ็ญเพียรตามป่าเขาลำเนาไพรแถบเทือกเขาภูพานได้ธุดงค์ขึ้นไปทางเชียงใหม่และเชียงตุงด้วย

    เจ้าคุณอริยคุณาธาร (ปุสโส เส็ง) ได้พาพระอาจารย์จวนมาฝากไว้กับหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ซึ่งจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าบ้านหนองผือ อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร หลวงปู่มั่นได้อบรมสั่งสอนพระอาจารย์จวนว่าการปฏิบัติกัมมัฏฐานต้องมุ่งมรรคผลนิพพาน ต้องมีความเพียร ตั้งสัจจะทำจริงอย่างเด็ดเดี่ยว

    หลวงปู่มั่นยังสอนให้พิจารณากายคตาสติ คือ ให้ใช้สติ เพ่งพิจารณาในร่างกายมีผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก เป็นต้น ให้เห็นว่าเป็นสิ่งปฏิกูลน่าเกลียด ต้องคอยบำรุงรักษาอยู่ตลอดเวลา พระอาจารย์จวนได้ปฏิบัติตามคำแนะนำของหลวงปู่มั่น สามารถรวมจิตใจให้สงบลงได้คล่องแคล่วรวดเร็วถูกนิสัย นั่งสมาธิได้ตั้งแต่หัวค่ำยันสว่าง จนจิตผ่องใสสว่างโพลงเป็นปรากฏมหัศจรรย์ยิ่ง

    พระอาจารย์จวนได้ออกธุดงค์เข้าสู่กลางดงศรีชมภู อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย เป็นดินแดนอันสงบสงัดวังเวงใจ สภาพที่เห็นคล้ายซากเมืองโบราณ มนุษย์ถือว่าเป็นถิ่นอาถรรพ์มีภูติผีปีศาจสิงอยู่มากมาย เมื่อธุดงค์เข้าไปอยู่ในถ้ำจันทร์ พระอาจารย์จวนได้ฝึกจิตให้เข้าสู่ร่องรอยของพระโยคาวจร นั่งสมาธิปากเหวลึกให้จิตสงบ สร้างตบะให้แก่กล้า

    หลังอยู่จำพรรษาที่ถ้ำจันทร์นาน 4 ปี พระอาจารย์จวนได้แสวงวิเวกมาทางภูสิงห์ อ.บึงกาฬ จ.หนองคาย บำเพ็ญเพียรอยู่ได้ 1 พรรษา ก่อนมุ่งหน้าไปยังภูวัว

    พ.ศ.2512 พระอาจารย์จวนได้อยู่ภูทอก อ.เซกา จ.หนองคาย โดยปักกลดอยู่ที่ถ้ำเชิงเขา จากนั้นได้เริ่มพัฒนาภูทอกน้อย เป็นวัดภูทอก โดยทำสะพานขึ้นลงบนยอดเขาให้สามารถเดินขึ้นลงโดยสะดวก

    พระอาจารย์จวนเป็นพระอริยะชั้นสูง ท่านมีญาณล่วงรู้เหตุการณ์ในอดีต ปัจจุบันและอนาคต ล่วงรู้จิตใจคน มีหูทิพย์ ตาทิพย์

    กาลต่อมา พระอาจารย์จวนได้ประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตกระหว่างการเดินทางจากเมืองอุดรธานี เข้าสู่กรุงเทพฯ สร้างความเศร้าสลดแก่คณะศิษยานุศิษย์เป็นยิ่งนัก

    แม้ทุกวันนี้ จริยวัตรอันน่าเลื่อมใสศรัทธาของท่าน ยังคงปรากฏอยู่ในความทรงจำของชาวพุทธได้หวนรำลึกและดำเนินตามรอยธรรมของพระอาจารย์จวนต่อไป


    ที่มา : นสพ.ข่าวสด หน้า 29
    คอลัมน์ คอลัมน์ อริยะโลกที่ 6 โดย ประภาพร สอนราช
    วันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2549 ปีที่ 15 ฉบับที่ 5533

    ................................................................

    ประวัติและปฏิปทาหลวงปู่จวน กุลเชฏโฐ
    http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=7754

    --------------------------------------------------------------

    [​IMG]


    เจ้าอาวาสท่านพนระอาจารย์แยง สุขกาโม วัดเจติยาคีรีวิหาร ( ภูทอก ) รูปปัจจุบัน
    ที่ท่านสืบสาน การดูแลวัดภูทอก ต่อท่านพระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ

    -----------------------------------------​

    </TD></TR><TR><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE>​
     

แชร์หน้านี้

Loading...