โครงการงานสาธารณะประโยชน์เพื่อไปนิพพานชาตินี หน้า7

ในห้อง 'ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์และสัตว์' ตั้งกระทู้โดย LP_TON, 2 พฤศจิกายน 2012.

  1. LP_TON

    LP_TON รวย ๆ ทุกเวลา นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    3,639
    ค่าพลัง:
    +5,710
    [URLI="http://www.youtube.com/watch?v=PHyVCBLGQwE"][/URLI]:cool:โครงการอภัยทานชีวิต
    เชิญทำบุญสะเดาะเคราะห์ ให้ชีวิตใหม่ ต่ออายุอุปฆาตกรรม เอาอายุเขามาเป็นอายุเรา ปล่อยปลาและสัตว์อื่นๆ ตลอดทั้งปี รวยตลอดชีวิต
    ณ วัดไตรมิตรวิทยาราม สัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯและวัดวีระโชติธรรมาราม เมือง ฉะเชิงเทรา
    ทุกอาทิตย์ที่ 3 และทุกอาทิตย์ที่ 4 ของทุกเดือน ตลอดทั้งปี


    (ก) วันเสาร์ - อาทิตย์ที่ 3 ณ วัดไตรมิตรวิทยาราม กทม.
    (ข) วันเสาร์ - อาทิตย์ที่ 4 ณ วัดวีระโชติธรรมาราม ฉะเชิงเทรา
    .

    หรือทำบุญผ่านบัญชีธนาคาร

    ธนาคารกสิกรไทย สาขาบางนา ชื่อกองทุนลูกพระราชพรหมยาน กทม.
    เลขที่ 731-2-48004-7

    โอนแล้วแจ้ง sms มาที่เบอร์ 087-922-4888

    สอบถาม โทร. 087-922-4888 หลวงพี่ต้น, 084-359-5353 คุณตุ๊ก, 082-899-8466 คุณสมชาย

    หมายเหตุ;
    ขออนุโมทนาบุญล่วงหน้ากับทุกท่าน ทุกคน ขอให้มีสุขภาพแข็งแรง ช่วยไม่ให้ตายก่อนวัยอันควร

    ปล่อยปลา
    ปล่อยปลานี่เขาถือว่าตัดอุปฆาตกรรมได้ เราปล่อยสัตว์ให้รอดนี่มันจะกันได้ คำว่า อุปฆาตกรรม มันหมายถึงว่ากรรมที่มาตัดรอนระหว่างชีวิตคือมันไม่หมดอายุขัยก็ตายเสียก่อน แทนที่จะมีอายุครบ 60 ปี ปีตามอายุขัย แต่อายุได้ 30-40 ปี กรรมที่เป็นอกุศล คือที่เราทำบาปไว้แต่ชาติก่อน ด้วยโทษปาณาติบาตมันมาตัดชีวิตเสียก่อน

    ( ปลาที่จะปล่อย) เขาไม่จำกัดว่าปลาอะไร แต่ว่าปลานั้นมันจะต้องตายต้องเป็นปลาที่มีชีวิต เดี๋ยวไปซื้อปลาพลาสติกมาปล่อย แล้วก็ไม่ใช่เอาแหไปทอดแล้วเอามาปล่อยเองนะ เสร็จ แทนที่จะได้บุญกลับได้บาปหนักเข้าไปอีก ถ้าปลานั้นมันจะต้องตาย เราก็เอาไปปล่อยเพื่อเป็นการช่วยชีวิต จะเป็นปลาอะไรก็ตาม สัตว์อะไรก็ตาม เราปล่อยมันเพื่อเป็นการช่วยชีวิต เป็นเมตตาจิต ใช่ไหม จะต้องไปนั่งเลือกทำไม บางคนเลือกปลานั้นปลานี่ บางทีไอ้ปลาไม่ค่อยจะตายก็ปล่อย

    (ปล่อยแทนคนอื่น) ถ้าเขายังไม่ตายไปอุทิศส่วนกุศลให้ เขาจะได้รับยังไงล่ะ เราเอาไปให้เขาซิ บอกว่าตั้งใจปล่อยปลานะฉันหาปลามาให้ปล่อย ให้ปลามันรอดชีวิต เท่านั้นแหละ ถ้าเขาอนุโมทนา คือยินดีด้วยความเต็มใจ ก็ใช้ได้ล่ะ

    เรื่องการปล่อยปลาเพื่อเป็นการช่วยชีวิตนี่ มีเรื่องเล่ากันมา มันเป็นเรื่องจริงๆ นะ ไม่ใช่นิทาน มีพระทางภาคเหนือองค์หนึ่งท่านเก่ง คำว่าเก่ง หมายความว่า ท่านรู้ล่วงหน้าได้ดีมาก อย่างน้อยที่สุดต้องเป็นผู้ได้อภิญญาหรือวิชชาสาม ท่านมีลูกศิษย์ แกปฏิบัติดี บวชอยู่ด้วย พอสึกออกไปแล้วก็หายหน้าไป ก็ไปมีลูกเมียธรรมดา วันหนึ่งแกก็เอาของมาถวายอาจารย์ คุยไปคุยมาอาจารย์บอก เออ ไอ้ทิดเอ้ย เอ็งรีบทำบุญทำทานเสียนะ อายุของเอ็งไม่เกิน 7 วัน ตายแน่ กรรมของเอ็งเป็นอุปฆาตกรรมนะ

    ไอ้ทิดก็มั่นใจในอาจารย์ เพราะอาจารย์พูดอะไรไม่เคยผิด พอแกกลับบ้านเดินหัวตกหน้าไม่ดี เพราะรู้ว่าอีก7วัน จะต้องตาย เดินไปเดินมาก็ไปเจอหนองน้ำ น้ำมันแห้ง ในหนองน้ำมีปลาอยู่ 3-4 ตัว ถ้าน้ำแห้งมันจะต้องตาย ก็เลยคิดว่าไหนๆ เราจะตายแล้ว ชีวิตเราชีวิตเขา แกก็เลยจับปลาไปปล่อยแม่น้ำ ปล่อยเสร็จแล้วกลับมาบ้าน

    จนกระทั่ง 7 วัน แล้วก็ยังไม่ตาย เดือนหนึ่งก็ยังไม่ตาย สองเดือนก็ยังไม่ตาย แกก็นึก เอ อาจารย์ถ้าจะพูดผิดเสียแล้ว แกเลยเอาของมาถวายอาจารย์ใหม่ ถามว่า หลวงพ่อครับ หลวงพ่อบอกผมจะตายใน 7 วัน แล้วทำไมผมยังไม่ตาย อาจารย์ก็ถามว่า ไอ้วันนั้นที่เอ็งเดินกลับบ้าน เอ็งไปทำอะไร ท่านรู้นี่
    แกบอกว่า ผมนึกว่าผมจะตาย ผมก็เลยช่วยปล่อยปลา เพราะไหนๆผมจะตาย อย่าให้ปลามันตายเลย ถ้าจะกินไม่มีความหมาย เพราะเป็นบาป
    อาจารย์ก็เลยบอก แกเสือกปล่อยปลา แล้วมันจะตายได้ยังไงล่ะ ฉันรู้เหมือนกันว่าแกจะหลุดพ้นเพราะปลานี่แหละ ถ้าฉันไม่บอกแก แกก็จะเอาปลาไปกิน แกก็ต้องตายตามกำหนด และก็ต้องลงนรกด้วยเมื่อแกรู้ตัวว่าจะตาย แกก็จะไม่เบียดเบียนสัตว์ ก็จะทรงตัวอยู่ได้ นี่ก็เป็นตัวอย่างหนึ่งนะ

    ที่มาจากหนังสือ (บางส่วน) ....พ่อรักลูก.... โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ:'([MUSIC][/MUSIC]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กรกฎาคม 2015
  2. LP_TON

    LP_TON รวย ๆ ทุกเวลา นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    3,639
    ค่าพลัง:
    +5,710
    ปล่อยปลาที่ซื้อมาจากตลาดรวมทั้งปล่อยสัตว์ไถ่ชีวิตสัตว์ต่างๆอานิสงส์ ช่วยต่ออายุ ขจัดอุปสรรคในชีวิตชดใช้หนี้กรรมให้เจ้ากรรมนายเวรที่เคยกินเข้าไป ให้ทำมาค้าขึ้นหน้าที่การงานคล่องตัวไม่ติดขัด ชีวิตที่ผิดหวังจะค่อยๆฟื้นคืนสภาพที่สดใส
    เป็นอิสระ อนุโมทนากับทุกท่านที่ได้ร่วมด้วยนะครับ
     
  3. LP_TON

    LP_TON รวย ๆ ทุกเวลา นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    3,639
    ค่าพลัง:
    +5,710
    อานิสงส์การปล่อยปลา
    ถาม: อย่างนี้เวลาเราไปปล่อยสัตว์ ?

    ตอบ: ถ้าหากว่าคุณประเภทตาย แล้วต้องไปผ่านการสอบสวนรับรองว่าพวกนี้ไปกับเพียบเลย คนที่เคยช่วยปล่อยกันไว้มันมีตัวอย่างอยู่ครั้งหนึ่งว่า มีผู้ชายคนหนึ่ง พี่สาวเขาจะปล่อยเต่านะ ก็เขียนชื่อเอาติดไว้ที่ใต้กระดอง แล้วก็ให้น้องชายไปปล่อย คราวนี้พระยายมราชท่านสอบสวนว่าเคยทำความดีอะไรบ้าง ? ไล่ไปไล่มาเขาก็บอกว่าเคยปล่อยเต่าไว้ตัวหนึ่ง แต่ปรากฏว่าพอถึงเวลาเต่าก็เดินต้วมเตี้ยมมาให้เห็น พอจับพลิกใต้ท้องขึ้นมา อ้าว ...... กลายเป็นชื่อของพี่สาวตัวเอง แต่ว่าตัวเองเป็นคนปล่อยก็ถือว่าโมทนาในบุญนั้นด้วย ถึงได้เอาไปปล่อยให้ ก็เลยหลุดไป หลุดไปอย่างชนิดหวุดหวิดเลย

    ถาม: อานิสงส์ของการปล่อยสัตว์ใหญ่....?

    ตอบ: อันดับแรกได้ตัวเมตตาบารมี เราไปปล่อยเขาให้มีชีวิตรอดได้รับความสุขความสะดวกสบายน่ะ ต่อไปเราทำอะไรก็จะสะดวกสบายไปหมด แล้วเสร็จแล้ว มีอานิสงส์พิเศษ อีก เรื่องของการปล่อยชีวิตสัตว์ถ้าหากว่าเป็นสัตว์ที่เขาขายเพื่อให้ไว้ฆ่าเป็นอาหารน่ะ ถ้าช่วงนั้นเรามีอุปฆาตกรรมเข้ามามันจะเป็นกุศลต่อชีวิตให้เราด้วย ตัวหนึ่งเท่ากับปีหนึ่ง สมมติว่าคุณปล่อยปลา ๑๐ ตัว นี่อายุยืนต่อไป ๑๐ ปีแน่ๆ แต่ถ้าหากว่าไม่มีอุปฆาตกรรมเข้ามารบกวน อานิสงส์ตัวนี้ก็จะทำให้เรามีความสุขสะดวกสบาย เรื่องเคราะห์กรรมใหญ่ๆ อย่างเช่นว่าหนักอยู่สักหน่อย ถ้าหากว่าปล่อยพวกไก่พวกเป็ดที่เขาจะฆ่าเคราะห์กรรมอันนั้นก็จะเบาไป ถ้ามันจะถึงแก่ชีวิตเลย ปล่อยสัตว์อย่างพวกแพะ แกะ วัว ควาย ก็จะเป็นการต่อชีวิตของเราได้เลย ประเภทที่เรียกว่า ยิ่งกรรมหนักก็ยิ่งปล่อยสัตว์ใหญ่ยิ่งได้เปรียบ แล้วมันมีอานิสงส์แปลกๆ อยู่อย่าง

    คือหลวงพ่อท่านเคยซื้อปูทะเลไปปล่อย เห็นมันโดนมัดอยู่เป็นเข่งๆ ก็สงสาร ซื้อแล้วก็เอาไปปล่อยตัดเชือกปล่อยมันลงทะเลยไป ปรากฏว่าท่านบอกว่า ปกติแล้วท่านจะปวดหลังเมื่อยตัวเป็นประจำ พอปล่อยแล้วมันไม่เป็นอีก ท่านก็เลยมานึกๆ ดู อ๋อ..... ปูมันโดนมัดอยู่ทั้งวันทั้งคืน มันคงเมื่อยแย่อยู่แล้ว มีโอกาสได้ไปปล่อยมันเข้าอานิสงส์ตัวนี้ก็เลยช่วยท่าน ประเภททันตาเห็นเลย อานิสงส์แปลกๆ พวกนี้บางทีก็ต้องเจอด้วยตัวเองน่ะ ไม่งั้นบอกไม่ถูกเหมือนกันว่ามันเกิดจากอะไร

    ถาม: วันก่อนปล่อยกบน่ะค่ะ กบถูกมัดๆ ?

    ตอบ: ลักษณะนั้นน่ะจ๊ะ แต่ว่าปูนี่เขามัดแน่นแน่ๆ เพราะถ้าไม่มัดมันหนีบเขา เคยปล่อยอะไรไปบ้าง ? มันมีอานิสงส์พิเศษอีกอย่างหนึ่งคือว่าถ้าหากว่าปล่อยนก แล้วช่วงนั้นกรรมเกิดจากอทินนาทานคือเคยลักเคยขโมยเขามันเข้ามาถึง จะทำให้เราของหายน่ะ ถ้าเราปล่อยนกนี่มันจะแก้เรื่องของหายได้ แล้วใครที่ประเภทโดนเขาขโมยประจำ ลองปล่อยนกดู เป็นเรื่องแปลกๆ เหมือนกับที่หลวงพ่อท่านพิสูจน์แล้ว ท่านถึงแนะนำต่อมา ปล่อยนกกันของหายได้

    ถาม: ไม่จำกัดว่ากี่ตัว ?

    ตอบ: ไม่จำกัดว่ากี่ตัวจ้ะ แต่ว่าหมอดูบางคนก็เหลือเกิน มีโยมอยู่คนไปให้หมอดู อายุของเขา ๒๖ หมอดูบอกว่าเคราะห์ร้ายมากให้ปล่อยปลาไหล ๒๗ ตัวคือให้เกินอายุ ๑ ปี แล้วก็ให้เขียนชื่อติดตัวปลาไปด้วย เราได้ยินนี่หัวเราะเลย บอกตายห่าหมดเลยใช่มั้ย ? เขาบอกแล้วทำไมรู้ล่ะ ? บอกไปเชื่ออะไรส่งเดชกับหมอ ปลาไหลตัวมันลื่นๆ ถ้าหากว่าจะเขียนได้ก็ต้องรูดจนเมือกมันหมด และปลามันโดนรูดเมือกจนหมดมันจะรอดหรือ ? ก็หงิกน่ะสิคือบางอย่างมันต้องใช้ปัญญาเหมือนกันน่ะจ้ะ พอเราได้ยินว่าให้เขียนชื่อติดไปด้วยหัวเราะ เลยถามว่าตายหมดเลยใช่มั้ย ? เขาบอกว่าทำไมรู้ล่ะ ก็ต้องรูดเมือกกันหมดแล้วเอาสีเขียนติดไปน่ะ แล้วจะไปเหลือเหรอ เจตนาเขาไม่มีน่ะ พวกนั้นคงเคราะห์กรรมหนักมากเลย แล้วก็กรรมมันเคยเนื่องกันมาในอดีต ทำให้ต้องกลับมาตายเพราะมือของคนๆ นี้ เจตนาดีจ้ะ ปล่อยเขาแท้ๆ ตายหมดเลย

    ถาม: แล้วหมอดูบาปไหมคะ ?

    ตอบ: ประเภทแนะนำห่วยแตกแบบนั้นมันน่าจะได้ส่วนแบ่งไปบ้างคราวหน้าคิดให้ดีๆ นะ ปล่อยปลาไหลแล้วบอกให้เขียนชื่อติดไปด้วย ปล่อยเต่าปล่อยอะไรก็ว่าไปอย่างมันพอเขียนได้

    ถาม: แล้วแทนที่จะไปช่วยปลาไหลเขา ?

    ตอบ: มันกลายเป็นตายไปเลย ตกลง ๒๗ ตัวม่องเท่งหมด

    ถาม: อย่างนี้แสดงว่าการปล่อยนกจะช่วยในเรื่องของของหายนี่หมายถึงว่าเราเคยปล่อยเมื่อช่วง ๑๐ ปีก่อน ?

    ตอบ: ไม่ใช่ หมายถึงช่วงนี้ แบบเดียวกับที่ว่าปล่อยสัตว์แล้วต่ออายุตอนแรกก็ไม่เข้าใจ หลวงพ่อท่านบอกตั้งแต่สมัยเป็นฆราวาสว่า แกเป็นนักรบมาทุกชาติ ฆ่าเขาเอาไว้มาก เศษกรรมปาณาติบาตตัวนี้จะทำให้แกป่วยประจำ ให้ไปปล่อยปลาที่เขาขายเพื่อฆ่าอย่างน้อยๆ เดือนละตัว ๒ ตัว จะได้ตัดกรรมอันนี้ได้ ก็บอกว่าหลวงพ่อครับการปล่อยปลา ผมเข้าใจว่ามันเป็นการต่ออายุ แล้วผมไม่อยากอยู่อยู่แล้ว ผมจะไปปล่อยมันทำไมล่ะ ท่านบอกว่าแกอย่าเพิ่งเข้าใจผิด มันจะต่ออายุก็ต่อเมื่อช่วงนั้นมีอุปฆาตกรรมเข้ามา อุปฆาตกรรมที่จะเข้ามาตัดให้ชีวิตของเราสิ้นลงนี่ มันก็คือเราเคยฆ่าคนฆ่าสัตว์ใหญ่เอาไว้ แล้วช่วงนั้นกรรมอันนี้มันเข้ามาพอดีช่วงบุญของเราหมดลง กรรมอันนี้ถ้าเข้ามาจังหวะพอดี ถ้าเราไม่ได้ทำอะไรที่เป็นลักษณะต่ออายุได้ คือไม่ได้ทำบุญใหญ่ มันจะต้องถึงตายจริงๆ แต่ถ้าหากว่ามันไม่มีอุปฆาตกรรมเข้ามาช่วงนั้น มันก็ไม่เป็นไร

    อานิสงส์ที่ปล่อยปลามันก็ไม่ได้ต่ออายุ แต่ว่าทำให้เราได้รับความสุขได้รับความสะดวกสบายทีหลัง อาตมาเองปัจจุบันทำอะไรมันง่ายจนคนเขาอิจฉากันหมดเพราะว่าปล่อยปลามาติดกัน ๑๗ ปี ปล่อยก่อนบวชมาปี

    ถาม: หลวงพี่ปล่อยปลาทุกเดือน ?

    ตอบ: ทุกเดือนจ้ะ เดือนนี้ก็ปล่อยไป ๕ พันกว่า

    ถาม: อย่างนี้แสดงว่า อย่างพวกหนูร่วมทำบุญกับหลวงพี่ แล้วหลวงพี่เอาไปปล่อยปลา ?

    ตอบ: ก็มีส่วนของพวกเราด้วยจ้ะ แต่ว่าขออภัยไม่ได้บอกเพราะคิดว่ารู้ ปกติจะปล่อยทุกวันอาทิตย์ที่ลงมาสังฆทานตอนเช้าวันอาทิตย์

    ถาม: ............................

    ตอบ: ๕ พันกว่าบาท ก็หลายสิบกิโลอยู่ เดือนนี้ที่ปล่อยไปมีปลาช่อน ปลาดุก ปลาหมอ มีหอยอีก ๔-๕ กิโล แล้วก็วัวตัวหนึ่ง

    ถาม: ปล่อยวัวด้วยหรือคะ ?

    ตอบ: ปล่อยวัวด้วยจ้ะ วัวตัวหนึ่งประมาณ ๑๓,๐๐๐ บาท

    ถาม: หมายถึงทุกเดือนเลยหรือคะ ?

    ตอบ: ก็แล้วแต่จ้ะ ถ้าหากว่าเงินที่เขามาสมทบมามันก็ปล่อยเลย ก็ขำๆ ดีเหมือนกันน่ะ ธนาคารโค-กระบือน่ะมันอยู่หน้าโรงฆ่าสัตว์พอเราจะบริจาคด้วยการปล่อยวัว ก็ไปเลือก แล้วก็จูงข้ามฝั่งมาให้เขาลงบัญชี แหม.. ชัยภูมิดีเหลือเกิน รู้ว่าคนเขานิยมไปปล่อยมันก็เลยตั้งรับเอาไว้ตรงข้างหน้าเลย แล้วถึงเวลาก็จะมีพระมาชยันโต มาพรมน้ำมนต์ให้ แล้วพวกนี้เขาจะเอาไปให้ชาวไร่ชาวนาที่ยากจนไม่มีวัวควายทำนาจ้ะ แต่ว่าจะทำหนังสือสัญญากันเอาไว้ว่าให้ใช้งานได้อย่างเดียวถ้าหากว่าแก่ชราใช้งานไม่ได้ ต้องเลี้ยงเขาจนกว่าจะตาย จะไม่มีการฆ่าไม่มีการขาย

    ถาม: แล้วถ้าเขาแอบฆ่าล่ะคะ ?

    ตอบ: ไม่.. ทางด้านนี้ของเขา เขาทำสัญญาเอาไว้แล้วนี่ เขาปรับโทษได้ เพราะว่ามูลนิธินี่รู้สึกว่าในหลวงจะอุปถัมภ์เอาไว้ซะด้วย

    ถาม: นึกว่าชาวนาบางทีจนๆ เอาซะเลย ?

    ตอบ: ประเภทจนแล้วมีวัวเอาไว้ใช้งานเขาคงไม่คิดอย่างนั้นหรอกจ้ะ พวกชาวไร่ชาวนาถ้าไม่จำเป็นถึงขีดสุดจริงๆ เขาจะไม่ขายวัวขายควายหรอกโดยเฉพาะลูกๆ ของตัวเอง มันผูกพันกับวัวควายมากเลยบางคนจูงวัวไปขาย วัวก็ร้องไห้ ลูกๆ ก็ร้องไห้กันกระจองอแงเพราะมันรักวัว ในเมื่อรักแล้วไม่อยากให้วัวโดนเอาไปขาย แต่ไม่รู้หรอกว่าบางทีพ่อแม่ก็จำเป็นสุดขีด ไม่มีเงินไปใช้หนี้เงินกู้เขา เดี๋ยวเขาก็จะยึดไร่ยึดนาก็ต้องรักษาที่เอาไว้ก่อน เลยยอมเสียวัวไป ขายควายส่งลูกเรียนใช่มั้ย ส่งไปส่งมาชักยัวะ รู้งี้ขายลูกส่งควายเรียนดีกว่า

    สนทนากับพระเล็ก สุธมฺปญฺโญ
    เดือนพฤษภาคม ๒๕๔๕
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ
     
  4. LP_TON

    LP_TON รวย ๆ ทุกเวลา นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    3,639
    ค่าพลัง:
    +5,710
    ปล่อยสัตว์

    (ทำบุญด้วยการปล่อยนกได้บุญ...) ได้ ถ้าเราซื้อมาปล่อย มันก็ไม่ตาย ถ้าเราไม่ซื้อมาปล่อยเขาอาจจับมาแกงก็ได้ นกตัวนั้นถึงแม้ว่าเขาจะไม่ฆ่าให้ตายแต่ก็เสียอิสรภาพ ถ้าเราปล่อยไป นกตัวนั้นก็พ้นจากการถูกขัง และเขาถือว่าเป็นการให้อภัยแก่ชีวิตสัตว์เหมือนกัน

    การปล่อยนก มันเป็นเมตตา ส่วนหนึ่งนะ มันมีโอกาสให้นกเป็นอิสรภาพ นกไม่ถูกขัง และเงินที่ให้ไป เขาได้เลี้ยงชีวิต เป็นอันว่าเราได้ 2 ทาง เสียสตางค์ 1 บาท ได้ 2 ส่วนเลย ดีไหม ถ้าคิดว่าเราปล่อยนกอย่างเดียวเป็นการให้อภัยแก่นก เป็นเมตตาบารมี ถ้าเราซื้อนกปล่อย นกก็ไม่ถูกขัง ถึงแม้ว่ามันจะไม่ตายแต่ก็ลำบาก ต้องพลัดพ่อพลัดแม่ ใช่ไหม ถ้าเราซื้อ คนที่ขายเขาก็ได้เงินไปใช้ประโยชน์ ก็เอาทั้ง 2ทางเลย ถือเป็นการให้ทานไป

    (การกินเนื้อสัตว์) ก็มีอานิสงส์ คือไม่บาป บาปแปลว่าความชั่ว บุญเขาแปลว่า ดี คือจิตมันไม่กังวลเรื่องเนื้อสัตว์ จิตที่คิดปรารถนาจะเบียดเบียนสัตว์เอามากินไม่มีสำหรับเรา ใช่ไหม ก็ต้องถือว่ามีบุญ
    แต่ว่าการไม่บริโภคเนื้อสัตว์นี่ดี แต่บริโภคเนื้อสัตว์ก็ดี ถ้าเรากินเนื้อสัตว์แต่เราไม่สั่งให้เขาฆ่า ถ้าเขาฆ่าแล้วเราไปซื้อกินอันนี้ก็ไม่บาปเหมือนกัน (9/2524)




    ปล่อยปลา
    ปล่อยปลานี่เขาถือว่าตัดอุปฆาตกรรมได้ เราปล่อยสัตว์ให้รอดนี่มันจะกันได้ คำว่า อุปฆาตกรรม มันหมายถึงว่ากรรมที่มาตัดรอนระหว่างชีวิตคือมันไม่หมดอายุขัยก็ตายเสียก่อน แทนที่จะมีอายุครบ 60 ปี ปีตามอายุขัย แต่อายุได้ 30-40 ปี กรรมที่เป็นอกุศล คือที่เราทำบาปไว้แต่ชาติก่อน ด้วยโทษปาณาติบาตมันมาตัดชีวิตเสียก่อน

    ( ปลาที่จะปล่อย) เขาไม่จำกัดว่าปลาอะไร แต่ว่าปลานั้นมันจะต้องตายต้องเป็นปลาที่มีชีวิต เดี๋ยวไปซื้อปลาพลาสติกมาปล่อย แล้วก็ไม่ใช่เอาแหไปทอดแล้วเอามาปล่อยเองนะ เสร็จ แทนที่จะได้บุญกลับได้บาปหนักเข้าไปอีก ถ้าปลานั้นมันจะต้องตาย เราก็เอาไปปล่อยเพื่อเป็นการช่วยชีวิต จะเป็นปลาอะไรก็ตาม สัตว์อะไรก็ตาม เราปล่อยมันเพื่อเป็นการช่วยชีวิต เป็นเมตตาจิต ใช่ไหม จะต้องไปนั่งเลือกทำไม บางคนเลือกปลานั้นปลานี่ บางทีไอ้ปลาไม่ค่อยจะตายก็ปล่อย

    (ปล่อยแทนคนอื่น) ถ้าเขายังไม่ตายไปอุทิศส่วนกุศลให้ เขาจะได้รับยังไงล่ะ เราเอาไปให้เขาซิ บอกว่าตั้งใจปล่อยปลานะฉันหาปลามาให้ปล่อย ให้ปลามันรอดชีวิต เท่านั้นแหละ ถ้าเขาอนุโมทนา คือยินดีด้วยความเต็มใจ ก็ใช้ได้ล่ะ

    เรื่องการปล่อยปลาเพื่อเป็นการช่วยชีวิตนี่ มีเรื่องเล่ากันมา มันเป็นเรื่องจริงๆ นะ ไม่ใช่นิทาน มีพระทางภาคเหนือองค์หนึ่งท่านเก่ง คำว่าเก่ง หมายความว่า ท่านรู้ล่วงหน้าได้ดีมาก อย่างน้อยที่สุดต้องเป็นผู้ได้อภิญญาหรือวิชชาสาม ท่านมีลูกศิษย์ แกปฏิบัติดี บวชอยู่ด้วย พอสึกออกไปแล้วก็หายหน้าไป ก็ไปมีลูกเมียธรรมดา วันหนึ่งแกก็เอาของมาถวายอาจารย์ คุยไปคุยมาอาจารย์บอก เออ ไอ้ทิดเอ้ย เอ็งรีบทำบุญทำทานเสียนะ อายุของเอ็งไม่เกิน 7 วัน ตายแน่ กรรมของเอ็งเป็นอุปฆาตกรรมนะ

    ไอ้ทิดก็มั่นใจในอาจารย์ เพราะอาจารย์พูดอะไรไม่เคยผิด พอแกกลับบ้านเดินหัวตกหน้าไม่ดี เพราะรู้ว่าอีก7วัน จะต้องตาย เดินไปเดินมาก็ไปเจอหนองน้ำ น้ำมันแห้ง ในหนองน้ำมีปลาอยู่ 3-4 ตัว ถ้าน้ำแห้งมันจะต้องตาย ก็เลยคิดว่าไหนๆ เราจะตายแล้ว ชีวิตเราชีวิตเขา แกก็เลยจับปลาไปปล่อยแม่น้ำ ปล่อยเสร็จแล้วกลับมาบ้าน

    จนกระทั่ง 7 วัน แล้วก็ยังไม่ตาย เดือนหนึ่งก็ยังไม่ตาย สองเดือนก็ยังไม่ตาย แกก็นึก เอ อาจารย์ถ้าจะพูดผิดเสียแล้ว แกเลยเอาของมาถวายอาจารย์ใหม่ ถามว่า หลวงพ่อครับ หลวงพ่อบอกผมจะตายใน 7 วัน แล้วทำไมผมยังไม่ตาย อาจารย์ก็ถามว่า ไอ้วันนั้นที่เอ็งเดินกลับบ้าน เอ็งไปทำอะไร ท่านรู้นี่
    แกบอกว่า ผมนึกว่าผมจะตาย ผมก็เลยช่วยปล่อยปลา เพราะไหนๆผมจะตาย อย่าให้ปลามันตายเลย ถ้าจะกินไม่มีความหมาย เพราะเป็นบาป
    อาจารย์ก็เลยบอก แกเสือกปล่อยปลา แล้วมันจะตายได้ยังไงล่ะ ฉันรู้เหมือนกันว่าแกจะหลุดพ้นเพราะปลานี่แหละ ถ้าฉันไม่บอกแก แกก็จะเอาปลาไปกิน แกก็ต้องตายตามกำหนด และก็ต้องลงนรกด้วยเมื่อแกรู้ตัวว่าจะตาย แกก็จะไม่เบียดเบียนสัตว์ ก็จะทรงตัวอยู่ได้ นี่ก็เป็นตัวอย่างหนึ่งนะ




    ปล่อยปู
    เรื่องการปล่อยปูสัตว์นี่ก็แปลก เมื่อปี 08 ฉันเป็นโรคอย่างหนี่งมันปวดเหมื่อยทั้งตัว คือมันเกินเหมื่อย ให้หมอฉีดยาก็แล้ว หมอให้กินยาก็แล้วมันก็ไม่ได้ผล ก็เลยมากรุงเทพ แล้วเลยไปบางปู ไปถึงบางปูก็เจอะคนขายปู 3 ลัง ก็นึกในใจว่า ไอ้ปูนี่กว่ามันจะตายก็ถูกมัดอยู่ทรมาน มันก็เหมื่อยกับเราเหมื่อยกัน ใช่ไหม มันทรมานมาก ส่วนปลาเขาขังในบริเวณแคบ แต่มันก็ยังน้ำให้ว่าย ใช่ไหม
    ก็เลยคิดถึงตัวเอง ไอ้บาปเก่าๆ เราคงจะมัดเขาไว้อย่างนี้เหมือนกันปล่อยมันเสียเถอะ ให้มันเป็นสุข ก็เลยเหมาหมด เหมาแล้วก็ช่วยกันปล่อย แต่ไม่มีเจตนาต้องการให้หายปวดตัวนะ ไม่ใช่นะ

    มาอีกคราวฉันไปอีก ก็เหมาถึง 3 คราว ไอ้อาการปวดตัวมันหายเลย หายจริงๆ รักษามาเกือบตายไม่หาย นี่ก็แปลกเหมือนกันนะ

    ก็เป็นอันว่า เราปล่อยสัตว์ด้วยมีจิตเมตตา คิดให้มันรอดพ้นจากกาถูกขังก็ดี เห็นว่ามันจะต้องก็ดี อันนี้เป็นของดี เป็นการช่วยชีวิตเขาเราก็รอดพ้นจากอุปฆาตกรรด้วย(10/2524)


    ที่มาจากหนังสือ ...พ่อรักลูก
    โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ
     
  5. LP_TON

    LP_TON รวย ๆ ทุกเวลา นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    3,639
    ค่าพลัง:
    +5,710
    อานิสงส์การปล่อยสัตว์...ช่วยไม่ให้ตายก่อนวัยอันควร
     
  6. LP_TON

    LP_TON รวย ๆ ทุกเวลา นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    3,639
    ค่าพลัง:
    +5,710
    คุณแม่ละเอียด กวักหิรัญ พร้อมบุตร ทำบุญ 1000 บาท (เงินสด)
     
  7. LP_TON

    LP_TON รวย ๆ ทุกเวลา นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    3,639
    ค่าพลัง:
    +5,710
    ให้อธิษฐานว่า ข้าพเจ้าขอนอบน้อมคุณของพระรัตนตรัย พรหม เทวดาทุกพระองค์
    และท่านพญายมราช จงเป็นสักขีพยานบุญ ในครั้งนี้
    ขออานิสงส์นี้ จงไปถึงแก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายของข้าพเจ้า และ…………………………………………. ขอให้ข้าพเจ้าหายป่วย ขอให้ชีวิตข้าพเจ้าหลุดพ้นจากหนี้สิน เป็นอิสระโดยไว กรรมใดติดขัดไว้ ขอให้ข้าพเจ้าคล่องตัวขึ้น เข้านิพพานโดยเร็วฉับพลัน

    จากนั้นก็ปล่อยสัตว์ทั้งหมดนั้น
    พูดกับสัตว์เหล่านั้นว่า ขอให้เธอรักษาตนให้พ้นภัย นะ เราให้ชีวิตเธอเป็นอิสระ แล้ว
     
  8. LP_TON

    LP_TON รวย ๆ ทุกเวลา นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    3,639
    ค่าพลัง:
    +5,710
    อัคคะทายี วะระทายี เสฏฐะทายี จะ โย นะโร
    นรชนผู้ให้สิ่งที่ดีเลิศ ที่ประเสริฐ ย่อมมีอายุยืน มียศ ในภพที่ตนเกิด
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. LP_TON

    LP_TON รวย ๆ ทุกเวลา นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    3,639
    ค่าพลัง:
    +5,710
    ครั้งที่ 1 (ปฐมฤกษ์)
    ณ ใต้พระมหามณฑปวัดไตรมิตรวิทยาราม สัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ
    วันที่ 17-18 พฤศจิกายน พ.ศ.2555
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. LP_TON

    LP_TON รวย ๆ ทุกเวลา นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    3,639
    ค่าพลัง:
    +5,710
    ด้วยอานิสงฆ์แห่งบุญนี้ ขอให้ข้าพเจ้าทั้งหลายเข้าสู่พระนิพพานในชาตินี้ และ ขอให้ข้าพเจ้าทั้งหลายได้มี มนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ นิพพานสมบัติ ขอให้มีสมบัติเกิด ในทุกที่ทุกสถาน ในทุกกาลทุกเมื่อ ทุกภพ ทุกชาติ ให้ประสบแต่ความสุข ความเจริญ ความสำเร็จ ทั้งทางโลกทางธรรม ด้วยความราบรื่นรวดเร็ว นับแต่บัดนี้ ตราบเข้าสู่พระนิพพาน
     
  11. Tai18

    Tai18 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2012
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +90
    ร่วมปล่อยสัตว์ให้เป็นอิสระ 100 บาทค่ะ

    เลขที่บัญชีผู้รับโอน 725-2-63276-4
    ธนาคารผู้รับโอน ธ.กสิกรไทย - KBANK
    ชื่อบัญชีผู้รับโอน PHRA.AONGART RAPAKROO
    จำนวนเงิน (บาท) 100.00
    ค่าธรรมเนียม 0.00
    วันที่ได้รับยอดเงินโอน 05/11/2012 17.30 น.
    วันที่ตัดยอดเงินจากบัญชี 04/11/2012
     
  12. LP_TON

    LP_TON รวย ๆ ทุกเวลา นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    3,639
    ค่าพลัง:
    +5,710
    เชิญทำบุญสะเดาะเคราะห์ ให้ชีวิตใหม่ ต่ออายุอุปฆาตกรรม เอาอายุเขามาเป็นอายุเรา ปล่อยปลาและสัตว์อื่นๆ ตลอดทั้งปี รวยตลอดชีวิต
    ณ วัดไตรมิตรวิทยาราม สัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯและวัดวีระโชติธรรมาราม เมือง ฉะเชิงเทรา
    ทุกอาทิตย์ที่ 3 และทุกอาทิตย์ที่ 4 ของทุกเดือน ตลอดทั้งปี

    https://www.facebook.com/photo.php?...=387296&ref=notif&notif_t=photo_reply&theater
     
  13. LP_TON

    LP_TON รวย ๆ ทุกเวลา นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    3,639
    ค่าพลัง:
    +5,710
    รวยตลอดชีวิต
     
  14. LP_TON

    LP_TON รวย ๆ ทุกเวลา นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    3,639
    ค่าพลัง:
    +5,710
    เชิญทำบุญสะเดาะเคราะห์ ให้ชีวิตใหม่ ต่ออายุอุปฆาตกรรม เอาอายุเขามาเป็นอายุเรา ปล่อยปลาและสัตว์อื่นๆ ตลอดทั้งปี รวยตลอดชีวิต
    ณ วัดไตรมิตรวิทยาราม สัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯและวัดวีระโชติธรรมาราม เมือง ฉะเชิงเทรา
    ทุกอาทิตย์ที่ 3 และทุกอาทิตย์ที่ 4 ของทุกเดือน ตลอดทั้งปี

    (ก) วันเสาร์ - อาทิตย์ที่ 3 ณ วัดไตรมิตรวิทยาราม กทม.
    (ข) วันเสาร์ - อาทิตย์ที่ 4 ณ วัดวีระโชติธรรมาราม ฉะเชิงเทรา.
     
  15. LP_TON

    LP_TON รวย ๆ ทุกเวลา นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    3,639
    ค่าพลัง:
    +5,710
    อนิสงส์การปลดปล่อยชีวิตสัตว์เป็นทาน

    ปล่อยโค-กระบือ เชื่อว่า จะมีอายุยืนแคล้วคลาดปราศจากภัยหรือหมดเคราะห์กรรม

    ปล่อยนก เชื่อว่า จะหมดเคราะห์หมดโศก

    ปล่อยเต่า เชื่อว่า จะช่วยให้มีโชคลาภ มีอายุยืนเนื่องจากพระโพธิสัตว์เคยเสวยชาติเป็นเต่า เป็นสัญลักษณ์ของความมีอายุยืนยาวมั่นคงและโชคลาภ

    ปล่อยตะพาบ เชื่อว่า จะทำให้ไม่มีเภทภัยใดๆ มาคุกคามอายุมั่นขวัญยืน คนที่ป่วยเป็นอัมพาตจะมีอาการทุเลา

    ปล่อยหอยขม เชื่อว่า จะสามารถปลดปล่อยความขมขื่นความทุกข์โศกให้หมดสิ้นไป

    ปล่อยหอยโข่ง เชื่อว่า จะช่วยให้ดำเนินชีวิตสะดวกสบาย เป็นผู้นำคนมีข้าทาสบริวารมาก

    ปล่อยกบ เชื่อว่า เป็นการอุทิศส่วนกุสลห้าเจ้ากรรมนายเวรช่วยให้พ้นวิบากกรรมเก่า

    ปล่อยปลาทั่วไป เชื่อว่า จะส่งผลให้อยู่เย็นเป็นสุข

    ปล่อยปลาไหล เชื่อว่า การดำเนินชีวิตทุกอย่างจะไหลลื่นปลอดอุปสรรคมุ่งสู่จุดหมายได้อย่างรวดเร็ว

    ปล่อยปลาดุก เชื่อว่า จะทำให้ศัตรูหรือคู่แข่งพ่ายแพ้

    ปล่อยปลาดุกเผือก เชื่อว่า จะเป็นสิริมงคล

    ปล่อยปลาช่อน เชื่อว่า จะช่วยช้อนเงินช้อนทอง

    ปล่อยปลาหมอ เชื่อว่า จะทุเลาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ที่เป็นอยู่

    ปล่อยปลาจาระเม็ด เชื่อว่า จะทำให้ได้เงินเต็มเม้ดเต็มหน่วย

    ปล่อยปลาตะเพียน เชื่อว่าจะขยันหมั่นเพียรและหาเงินได้มากขึ้น

    ปล่อยปลาบู่ เชื่อว่า เป็นการระลึกถึงพระคุณบิดามารดา

    ปล่อยปลานิล เชื่อว่า จะช่วยให้ทรัพย์สินเพิ่มพูน

    ปล่อยปลาทับทิม เชื่อว่าช่วยให้ทุกสิ่งทุกอย่างราบรื่น

    ปล่อยปลาสวาย เชื่อว่า จะทำให้เรื่องเงินทองคล่องตัว

    ปล่อยปลาขาว เชื่อว่า จะทำให้เกิดโชคลาภ

    ปล่อยปลาใน เชื่อว่า จะเจริญก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่

    ปล่อยปลาดำราหู เชื่อว่า เป็นการสะเดาะเคราะห์

    ปล่อยปลาซิว เชื่อว่า จะทำให้รอดพ้นจากคดีความต่างๆ
     
  16. man199

    man199 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +48
    ฝากบุญอันนี้ด้วยนะครับ

    เนื้องด้วยตอนนี้ได้จัดตั้งกู้ภัยในเขตทุรกันดาร และยังขาดรถและเรือกู้ภัยที่จะไปช่วยเหลือผู้ที่เกิดอุบัติเหตุต่างๆเนื่องจากตอนนี้มีอุบัติเหตุเยอะมาก และไม่มีรถกู้ภัยที่จะนำส่งโรงพยาบาล ท่านใด สนใจร่วมทำบุญร่วมบริจากปัจจัย เพื่อซื้อ**รถและเรือกู้ภัย*มอบให้กับกู้ภัยเขตทุรกันดาร
    ปัจจุบันในสังคมไทยมีอาสาสมัครร่วมกู้ภัยอยู่เป็นจำนวนมาก บ้างมาด้วยใจ บ้างมาด้วยผลประโยชน์ หลากหลายเหตุผลในการมาร่วมกู้ภัย แต่สาเหตุใดก็ไม่สำคัญเท่ากับการได้ช่วยเหลือคน
    ผมมีเรื่องมาเล่าให็ทุกท่านได้ฟังครับ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาผมเห็นอุบัติเหตุจากการขับขี่เขาได้ขับรถไปชนราวสะพานเขาได้รับอาการบาดเจ็บหลายที่ และผมก็ได้โทรแจ้งกู้ภัยแล้วก็ก็ออกมาช่วย แต่ก็ออกมาช้ามากเพราะรถกู้ภัยมีอยู่แค่ คันเดียว จนทำให้ผู้ขับขี่รถที่ไปชนสะพานเสียชีวิต ผมเลยได้เเต่ส่งสารเขา เราก็พยายามช่วยเขาเติมที่แล้วเเต่ก็ช้าเกินไป
    ส่วนอีกหนึ่งอย่างคืออยู่ทางน้ำ สองสามวันที่ผ่านมามีชาวประมงมาบอกแจ้งผมว่ามี ศพลอยน้ำอยู่ ผมก็ถ่ามเขาว่ายุตรงไหน พอผมทราบแล้วผมก็รีบเเจ้งทางกู้ภัยแต่กู้ภัยไม่มีเรือที่จะออกไป เก็บศพ ทางกู้ภัยพยายามไปพบตำรวจน้ำแต่ก็ไม่สำเร็จ ตำรวจน้ำเขาบอกว่า สารวัตรไม่ อยู่ เอาเรื่อออกไม่ได้ ผมก็ทำไรต่อไม่ได้เเล้ว ก็ต้องลอศพมาติดฝัง ตอนนี้ก็ยังลออยู่ ยังไม่รู้ว่าศพลอยไปไหนแล้วจะติดฝังเมื่อไรก็ไม่รู้
    ผมจึงตั้งโครงการตัวนี้ขึ้นมา เพื่อเชิญช่วนท่านผู้ใจบุญร่วมบริจาค และทำบุญเพื่อซื้อเรือและรถบริจาคด้วยกัน
    *ผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมทำบุญได้ที่*
    *ชื่อบัญชีนาย เทิดศักดิ์ แสงทอง *
    020075855641
    *สาขา คลองใหญ่
    ธนาคาร ออมสิน*


    (เป็นบุญของท่านแล้วแต่ท่านจะทำ)
    บอกบุญการให้ธรรมทาน คือ " การสร้างสุขให้แก่โลก"
    การให้ธรรมะเป็นธรรมะทาน จัดเป็นทานที่มีผลมาก ผู้ใดให้ธรรมะเป็นทาน ผู้นั้นชื่อว่า ได้สร้างบารมีอันยิ่งใหญ่
    เพราะนอกจากจะเป็นการให้แสงสว่าง คือ ปัญญาแก่คนแล้ว ยังช่วยให้คนมีคุณธรรมในใจให้เป็นคนดีอีกด้วย
    พระพุทธเจ้าทางสรรเสริญว่า "สัพพทานัง ธัมมทานัง ชินาติ การให้ธรรมะเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง" การที่พระองค์
    ตรัสเช่นนั้นเพราะการให้ธรรมะเป็นทานเป็นการให้สิ่งที่มีค่าที่หาไม่ได้จากให้ทานด้วยวัตถุอื่น ปัจจุบัน โลกกำลังผจญ
    กับปัญหาภาวะโลกร้อน ซึ่งเป็นภัยที่น่ากลัว แต่ภัยที่น่ากลัวและทำให้โลกร้อนยิ่งกว่าก็คือ ภาวะโลกขาดธรรม
    ส่งผลให้จิตใจของมนุษย์ถูกแผดเผาด้วยไฟกิเลส แห้งแล้ง เป็นทุกข์ ไร้ชีวิตชีวา ขาดความชุ่มชื้น
    ธรรมะเปรียบดั่งน้ำที่ฉ่ำเย็น เปรียบเหมือนป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ การช่วยให้ผู้คนในโลกได้เข้าถึงและสัมผัสกับธรรมะ
    จึงเป็นการคืนความสุข ความสดชื่นแก่ผู้คนแก่สังคม และแก่โลก
    ทุกท่านสามารถให้ธรรมะเป็นทานได้ง่ายๆ ด้วยการช่วยบอก ช่วยสอน ช่วยแนะนำให้คนรอบข้างได้รู้จักใช้ธรรมะ
    แก้ไขปัญหาในชีวิตประจำวัน หรือการหยิบยื่นหนังสือธรรมะดีๆสักเล่มหนึ่งให้เขาได้อ่าน ก็ชื่อได้ว่า ได้บำเพ็ญธรรมทาน
    เช่นเดียวกัน การพิมพ์หนังสือธรรมะแจกเป็นธรรมทาน ถือเป็นการเติมเชื้อธรรมะ
    ให้แผ่กระจายอย่างทั่วถึงและยาวนาน

    อานิสงส์ของการให้ทาน
    * เพื่อสติปัญญาที่เฉลียวฉลาดขึ้นทั้งภพนี้และภพหน้า
    * เพื่อจิตใจที่สว่างผ่อนปรนจากกิเลส ปล่อยวางได้ง่าย
    * จิตจะรู้วิธีแก้ปัญหาชีวิตโดยอัตโนมัติ
    * ชีวิตจะเจริญรุ่งเรืองไม่มีวันอับจน
    * ผิวพรรณผ่องใส สุขภาพกายและจิตแข็งแรง
    * เจ้ากรรมนายเวรและญาติมิตรที่ล่วงลับจะได้บุญกุศล


    อานิสงส์ของการทำทาน
    มเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสเอาไว้ว่า แม้วัตถุทานจะบริสุทธิ์ดี เจตนาในการทำทานจะบริสุทธิ์ดี จะทำให้ทานนั้นมีผลมากหรือน้อย ย่อมขึ้นอยู่กับเนื้อนาบุญเป็นลำดับต่อไปนี้ คือ

    ๑. ทำทานแก่สัตว์เดรัจฉาน แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ได้บุญน้อยกว่าให้ทานดังกล่าวแก่มนุษย์ แม้จะเป็นมนุษย์ที่ไม่มีศีล ไม่มีธรรมเลยก็ตาม ทั้งนี้เพราะสัตว์ย่อมมีวาสนาบารมีน้อยกว่ามนุษย์และสัตว์ไม่ใช่เนื้อนาบุญที่ดี

    ๒. ให้ทานแก่มนุษย์ที่ไม่มีศีล ไม่มีธรรมวินัย แม้จะให้มากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่าให้ทานดังกล่าวแก่ผู้ที่มีศีล ๕ แม้จะให้เพียงครั้งเดียวก็ตาม

    ๓. ให้ทานแก่ผู้ที่มีศีล ๕ แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่าให้ทานดังกล่าวแก่ผู้มีศีล ๘ แม้จะให้เพียงครั้งเดียวก็ตาม

    ๔. ให้ทานแก่ผู้ที่มีศีล ๘ แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่าถวายทานแก่ผู้มีศีล ๑๐ คือสามเณรในพุทธศาสนา แม้จะได้ถวายทานดังกล่าวเพียงครั้งเดียวก็ตาม

    ๕. ถวายทานแก่สามเณรซึ่งมีศีล ๑๐ แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่าถวายทานดังกล่าวแก่พระสมมุติสงฆ์ ซึ่งมีศีลปาฏิโมกข์สังวร ๒๒๗ ข้อ

    พระด้วยกันก็มีคุณธรรมแตกต่างกัน จึงเป็นเนื้อนาบุญที่ต่างกัน บุคคลที่บวชเข้ามาในพระพุทธศาสนามีศีลปาฏิโมกข์สังวร ๒๒๗ ข้อนั้น องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังไม่ตรัสเรียกว่าเป็น "พระ" แต่เป็นเพียงพระสมมุติเท่านั้น เรียกกันว่า "สมมุติสงฆ์" พระที่แท้จริงนั้น หมายถึงบุคคลที่บรรลุคุณธรรมตั้งแต่พระโสดาปัตติผลเป็นพระโสดาบันเป็นต้นไป ไม่ว่าท่านผู้นà!
    ��้นจะได้บวชหรือเป็นฆราวาสก็ตาม นับว่าเป็น "พระ" ทั้งสิ้น และพระด้วยกันก็มีคุณธรรมต่างกันหลายระดับชั้น จากน้อยไปหามากดังนี้คือ "พระโสดาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามี พระอรหันต์ พระปัจเจกพุทธเจ้า สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธมเจ้า" และย่อมเป็นเนื้อนาบุญที่แตกต่างกัน ดังต่อไปนี้

    ๖. ถวายทานแก่พระสมมุติสงฆ์ แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่าการถวายทานแก่ - พระโสดาบัน แม้จะได้ถวายทานดังกล่าวแต่เพียงครั้งเดียวก็ตาม (ความจริงยังมีการแยกเป็นพระโสดาปัตติมรรคและพระโสดาปัตติผล ฯลฯ เป็นลำดับไปจนถึงพระอรหัตผล แต่ในที่นี้จะกล่าวแต่เพียงย่นย่อพอให้ได้ความเท่านั้น)

    ๗. ถวายทานแก่พระโสดาบัน แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่าการถวายทานดังกล่าวแก่พระสกิทาคามี แม้จะถวายทานดังกล่าวเพียงครั้งเดียวก็ตาม

    ๘. ถวายทานแก่พระสกิทาคามี แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่าการถวายทานดังกล่าวแก่พระอนาคามี แม้จะถวายทานดังกล่าวเพียงครั้งเดียวก็ตาม

    ๙. ถวายทานแก่พระอนาคามี แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่าการถวายทานดังกล่าวแก่พระอรหันต์ แม้จะถวายทานดังกล่าวเพียงครั้งเดียวก็ตาม

    ๑๐. ถวายทานแก่พระอรหันต์ แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่าการถวายทานดังกล่าวแก่พระปัจเจกพุทธเจ้า แม้จะถวายทานดังกล่าวเพียงครั้งเดียวก็ตาม

    ๑๑. ถวายทานแก่พระปัจเจกพุทธเจ้า แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่าการถวายทานดังกล่าวแด่พระองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แม้จะถวายทานดังกล่าวเพียงครั้งเดียวก็ตาม

    ๑๒. ถวายทานแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่าการถวายสังฆทานที่มีองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประธาน แม้จะถวายสังฆทานดังกล่าวเพียงครั้งเดียวก็ตาม

    ๑๓. การถวายสังฆทานที่มีองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประธาน แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่า "การถวายวิหารทาน" แม้จะได้กระทำแต่เพียงครั้งเดียวก็ตาม "วิหารทาน ได้แก่การสร้างหรือร่วมสร้างโบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ ศาลาโรงธรรม ศาลาท่าน้ำ ศาลาที่พักอาศัยคนเดินทางอันเป็นสาธารณะประโยชน์ที่ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน" อนึ่ง การสร้างสิ่งที่เป็�¸!
    �สาธารณประโยชน์หรือสิ่งที่ประชาชนใประโยชน์ร่วมกัน แม้จะไม่เกี่ยวเนื่องกับกิจในพระพุทธศาสนา เช่น "โรงพยาบาล โรงเรียน บ่อน้ำ แท็งก์น้ำ ศาลาป้ายรถยนต์โดยสารประจำทาง สุสาน เมรุเผาศพ" ก็ได้บุญมากในทำนองเดียวกัน

    ๑๔. การถวายวิหารทาน แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง (๑๐๐ หลัง ) ก็ยังได้บุญน้อยกว่าการให้ "ธรรมทาน" แม้จะให้แต่เพียงครั้งเดียวก็ตาม "การให้ธรรมทานก็คือการเทศน์ การสอนธรรมะแก่ผู้อื่นที่ยังไม่รู้ให้รู้ได้ ที่รู้อยู่แล้วให้รู้ยิ่งๆขึ้น ให้ได้เข้าใจมรรค ผล นิพพาน ให้ผู้ที่เป็นมิจฉาทิฐิได้กลับใจเป็นสัมมาทิฐิ ชักจูงผู้คนให้เข้าปฏิบัติธรรม รวมตลอดถึงการพิมพ์การà!
    ��จกหนังสือธรรมะ"

    ๑๕. การให้ธรรมทาน แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่าการให้ "อภัยทาน" แม้จะให้แต่เพียงครั้งเดียวก็ตาม การให้อภัยทานก็คือ "การไม่ผูกโกรธ ไม่อาฆาตจองเวร ไม่พยาบาทคิดร้ายผู้อื่นแม้แต่ศัตรู" ซึ่งได้บุญกุศลแรงและสูงมากในฝ่ายทาน เพราะเป็นการบำเพ็ญเพียรเพื่อ "ละโทสะกิเลส" และเป็นการเจริญ "เมตตาพรหมวิหารธรรม" อันเป็นพรหมวิหารข้อหนึ่งในพรหมวิหาร ๔ ใà!
    ��้เกิดขึ้น อันพรหมวิหาร ๔ นั้น เป็นคุณธรรมที่เป็นองค์ธรรมของโยคีบุคคลที่บำเพ็ญฌานและวิปัสสนา ผู้ที่ทรงพรหมวิหาร ๔ ได้ย่อมเป็นผู้ทรงฌาน ซึ่งเมื่อเมตตาพรหมวิหารธรรมได้เกิดขึ้นแล้วเมื่อใด ก็ย่อมละเสียได้ซึ่ง "พยาบาท" ผู้นั้นจึงจะสามารถให้อภัยทานได้ การให้อภัยทานจึงเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนและยากเย็น จึงจัดเป็นทานที่สูงกว่าการให้ทานทั้งปวง
    อย่างไรก็ดี การให้อภัยทานแม้จะมากเพียงใด แม้จะชนะการให้ทานอื่น ๆ ทั้งมวล ผลบุญนั้นก็ยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า "ฝ่ายศีล" เพราะเป็นการบำเพ็ญบารมีคนละขั้นต่างกัน


    ที่มา หนังสือการสร้างบุญบารมี
    โดย สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก


    “อิทัง ปุญญะผะลัง” ผลบุญใดที่ข้าพเจ้าทั้งหลายได้บำเพ็ญแล้ว ณ โอกาสนี้ ข้าพเจ้าทั้งหลายขออุทิศส่วนกุศลนี้ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายจงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าตั้งแต่วันนี้ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน
    บทอุทิศส่วนกุศลท่อนแรกนี้ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวร หลวงปู่โตท่านมาบอก และบทอุทิศส่วนกุศลอีก ๓ ท่อน ท่านพระยายมราชท่านมาบอก มีดังนี้
    ท่อนที่สอง
    และข้าพเจ้าทั้งหลายขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลายที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า และเทพเจ้าทั้งหลายทั่วสากลพิภพ และพระยายมราช ขอเทพเจ้าทั้งหลายและพระยายมราชจงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงเป็นสักขีพยาน ในการบำเพ็ญกุศลของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด
    ท่อนที่สาม
    และขออุทิศส่วนกุศลนี้ให้แก่ท่านทั้งหลายที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลายจงโมทนาส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับข้าพเจ้าจะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด
    ท่อนที่สี่
    ผลบุญใดที่ข้าพเจ้าทั้งหลายได้บำเพ็ญมาแล้ว ณ โอกาสนี้ ขอผลบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าทั้งหลายได้เข้าถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้เถิด.

    ท่านที่ร่วมบริจาค โปรส่งชื่อมาทาง
    e-mail:tedsak_man@hotmail.com

    *ขออนุโมทนาบุญ ครับ*
     
  17. พระพิทกุโข

    พระพิทกุโข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +109
  18. พระพิทกุโข

    พระพิทกุโข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +109
  19. พระพิทกุโข

    พระพิทกุโข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +109
  20. พระพิทกุโข

    พระพิทกุโข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +109

แชร์หน้านี้

Loading...