โต๊ะช่าง...ขอโชว์ >>> พระเลี่ยม เลี่ยมพระ <<< (ตอนที่ 2)

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย tohchangclub, 5 กุมภาพันธ์ 2011.

  1. tohchangclub

    tohchangclub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    4,745
    ค่าพลัง:
    +793
    ขออนุญาติใช้พื้นที่ เพื่อแลกเปลี่ยนผลงานเลี่ยมพระสวย ๆ
    ทั้งกรอบทอง กรอบเงิน อัดกันน้ำพลาสติก ของช่างทองช่างเงินทุกแขนงนะคะ


    wel lcome_pinkwel lcome_pinkwel lcome_pink



    [​IMG]

    ;41 ;41 ;41

    --------------------------------------------------------------------------------------------

    [​IMG]

    รับตัด แผ่นทองคำแท้ แผ่นเงินแท้ เพื่อทำตะกรุด หรือใช้ในพิธีต่าง ๆ



    [​IMG]

    [​IMG]

    แผ่นทองคำแท้ 96.5% ราคาของแผ่นตะกรุดคิดตามน้ำหนักและราคาทองคำ
    ค่าแรงหลอมรีด ตารางนิ้วละ 50 บาท

    แผ่นทองเบอร์ 3 (ความหนาประมาณ 0.1 มิลลิเมตร)
    ขนาด 1"x1" น้ำหนักประมาณ 0.7 กรัม
    ขนาด 5"x5" น้ำหนักประมาณ 17.5 กรัม

    คิดตามราคาทอง บวกค่าทองสูญ (ค่าซิ)
    น้ำหนัก น้อยกว่า 1 บาท คิดค่าซิ 20% ของน้ำหนักจริง
    น้ำหนัก มากกว่า 1 บาท คิดค่าซิ 15% ของน้ำหนักจริง
    น้ำหนักมากกว่า 10 บาท คิดค่าซิ 10% ของน้ำหนักจริง

    ตัวอย่างเช่น...

    ณ ราคาทอง 25,000 บาท

    แผ่นทองคำ ขนาด 1"x1" ( 1 ตารางนิ้ว)
    น.น. 0.7 กรัม ค่าแรง 50 บาท
    รวมราคา แผ่นละ 1,427 บาท

    แผ่นทองคำ ขนาด 5"x5" ( 25 ตารางนิ้ว)
    น.น. 17.5 กรัม ค่าแรง 1,250 บาท
    รวมราคา แผ่นละ 34,255 บาท

    ** ราคาแผ่นทองคำแท้ ขึ้นอยู่กับน้ำหนักจริงและราคาทอง ณ วันที่ตกลง**
    *** ต้องการผูกราคาทอง ลูกค้าต้องชำระเงินทั้งหมดตามราคาประเมินในวันที่สั่งตัด***

    --------------------

    [​IMG]

    แผ่นเงิน : เงินแท้ (หลอมจากเงินเม็ดไม่ผสมโลหะอื่น)
    ราคา ตารางนิ้วละ 35 บาท

    ความหนา = 0.1 มิลลิเมตร (แผ่นเบอร์ 4)

    ราคา คิดเป็นตารางนิ้ว


    ตัวอย่างขนาดนิยม :

    แผ่นเงินรีด ขนาด 5x5 นิ้ว(สากล)
    น้ำหนักเงิน : ประมาณ 16 กรัม

    ราคา แผ่นละ 875 บาท


    -------------------

    กรุณาสั่งล่วงหน้าอย่างน้อย 2 วัน

    ติดต่อ โต๊ะช่างคลับ (ร้านทองท่าพระ นพคุณ)
    คุณน้อง โทร. 081 820 7951


    [​IMG]


    -------------------------------------------------------------------------------------

    [​IMG]

    ร้าน ทองท่าพระ นพคุณ
    962/13 (ข้างพรานนกพล่าซ่า)
    ถ.พรานนก บ้านช่างหล่อ
    บางกอกน้อย กทม. 10700

    เวลาทำการ : จันทร์-เสาร์ 9.00-18.00 น.
    หยุดวันอาทิตย์ 1 วัน

    คุณ พิมพ์มณี เนาวพรพรรณ (น้อง)
    โทร. 081-820-7951, 02-866-1748
    e-mail : tohchangclub@gmail.com
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มกราคม 2012
  2. tohchangclub

    tohchangclub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    4,745
    ค่าพลัง:
    +793
    เรื่องน่ารู้ ก่อนเลี่ยมพระ

    ก่อนที่จะสั่งช่างเลี่ยมให้เลี่ยมพระสักองค์ สิ่งที่เจ้าของพระควรจะทำความเข้าใจให้ดีก่อนอีกอย่าง
    คือ รูปแบบของการเลี่ยม

    เนื่องจากการเลี่ยมกรอบพระนั้น แม้ดูเผิน ๆ ก็เหมือน ๆ กันหมด
    แต่ในความเป็นจริงแล้วก็มีรายละเอียดปลีกย่อยออกไปไม่น้อยเลยทีเดียวค่ะ
    ทั้งนี้ นอกจากเพื่อสนองความต้องการของผู้ใช้ที่ต่างจิตต่างใจ ต่างรสนิยมแล้ว
    ก็ยังจำเป็นที่จะต้องเลี่ยมให้เหมาะสมกับองค์พระ หรือพระเครื่องที่มีรูปแบบมากมายหลายร้อยหลายพันชนิดอีกด้วย
    เพราะมิใช่ว่าการเลี่ยมพระแบบเดียวกัน จะช่วยให้พระชนิดทุกพิมพ์สวยเหมือนกันได้หมด
    เปรียบไปก็เหมือนกับการสั่งตัดเสื้อผ้าล่ะค่ะ รูปร่างของผู้สวมใส่ที่แตกต่างกันไป
    ก็จำเป็นต้องเลือกแบบเสื้อผ้าใช้สมกับผู้สวมใส่ด้วย ทั้งชุดและผู้สวมใส่จึงจะดูดีและไปด้วยกันได้

    [​IMG]

    หลายครั้ง ผู้ที่เคยสั่งเลี่ยมพระมาก่อน อาจพบว่าแบบกรอบพระในความคิดของเรา
    กับของจริงที่ช่างเลี่ยมประดิษฐ์ออกมาอาจไม่ตรงกันบ่อย ๆ ใช่ไหมคะ?
    ทั้งนี้ หนึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นอันดับหนึ่ง คือ ลูกค้าไม่รู้จัก "ภาษาช่าง" นั่นเอง

    โต๊ะช่างจึงขอใช้โอกาสนี้ แนะนำทุกท่านให้รู้จักกับความรู้และศัพท์เบื้องต้น
    รวมถึงรูปแบบของการเลี่ยมพระชนิดต่าง ๆ ให้กับทุก ๆ ท่าน ที่สนใจในการเลี่ยมกรอบพระได้ทราบ
    เพื่อที่ในอนาคตอันใกล้นี้ หากท่านต้องการจะเลี่ยมพระสักองค์ให้สวยดั่งใจ
    ก็จะได้ใช้สื่อสารกับช่างเลี่ยมพระได้อย่างถูกต้อง และได้ผลงานเลี่ยมออกมาถูกใจที่สุดค่ะ
     
  3. tohchangclub

    tohchangclub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    4,745
    ค่าพลัง:
    +793
    จับขอบ VS หลังปิด

    ก่อนที่เข้าสู่ชนิดของกรอบพระ มีสองสิ่งที่เราควรทำความรู้จักไว้ก่อนค่ะ นั่นคือ
    การเลี่ยมแบบ... "จับขอบ" และ การเลี่ยมแบบ... "หลังปิด"

    การเลี่ยมแบบจับขอบก็คือการเลี่ยมที่เปิดให้เห็นทั้งด้านหน้าและทางหลังพระ
    ทั้งแบบที่มีพลาสติกใสอยู่ทั้งหน้าและหลัง หรือเปิดโล่งเลยก็ตาม
    ที่มาของการเรียกว่า"จับขอบ"นั้น เนื่องจากเมื่อเราพิจารณาดูดี ๆ ก็จะเหมือน
    การทำกรอบพระเฉพาะขอบโดยรอบ... "จับ" เฉพาะ "ขอบ" นั่นเองค่ะ
    พระเลี่ยมกว่า 90% ที่พวกเราพบนั้น สังเกตุได้ว่าเป็นการเลี่ยมแบบจับขอบเป็นส่วนใหญ่
    เนื่องจากดีตรงที่ว่าสามารถมองเห็นองค์พระได้ทั้งด้านหน้าและด้านหลังนั่นเอง

    [​IMG]

    ส่วนการเลี่ยมแบบ"หลังปิด"นั้น ชื่อก็บอกตรงตัวเลยล่ะค่ะว่า ปิดข้างหลังด้วย
    บางที่จะเรียกกลับคำกันว่า "ปิดหลัง" นั้น ก็ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด ความหมายเดียวกันค่ะ
    (เช่นเดียวกับที่บางที่เรียก "น้ำปลาพริก" และ "พริกน้ำปลา" นั่นล่ะค่ะ
    ไม่ต้องถกเถียงกันให้วุ่นวายว่าใครถูกใครผิด เข้าใจเหมือนกัน เป็นสิ่งเดียวกันก็เป็นอันพอ...)

    ทางเทคนิคก็คือ แทนที่แผ่นเงินหรือแผ่นทองที่ปิดด้านหลังจะเป็นเพียงแค่ขอบเล็ก ๆ
    ก็กลับกลายเป็นแผ่นเงินแผ่นทองทึบ ปิดด้านหลังองค์พระทั้งหมด
    การเลี่ยมแบบปิดหลังนี้เหมาะสำหรับพระเครื่องที่มีด้านหลังองค์พระแบนราบ
    และสำหรับการเลี่ยมทอง เมื่อสั่งเลี่ยมหลังปิด...
    ก็จะมีราคาที่สูงขึ้นกว่าการเลี่ยมแบบจับขอบเนื่องจากใช้เนื้อทองที่มากกว่าค่ะ

    [​IMG]
     
  4. tohchangclub

    tohchangclub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    4,745
    ค่าพลัง:
    +793
    รูปแบบของกรอบพระ

    1. มาตรฐาน
    คือการเลี่ยมกรอบพระโดยทั่วไป ใช้แผ่นเงินแผ่นทองขึ้นเป็นรูปทรงพระและแกะลายเพื่อความสวยงาม
    ด้านหลังจะพับปิดแผ่นหลังโดยช่างผู้ชำนาญ ผู้สวมใส่จะไม่สามารถเปิดปิดกรอบชนิดนี้เองได้
    ข้อดี คือ ขนาดกรอบจะกระทัดรัด ค่าแรงไม่แพง และใช้เนื้อทองในการเลี่ยมไม่มาก

    [​IMG]
     
  5. tohchangclub

    tohchangclub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    4,745
    ค่าพลัง:
    +793
    2. ยกซุ้ม

    คือการเลี่ยมกรอบพระแบบที่พิเศษขึ้นมากกว่าการเลี่ยมมาตรฐาน โดยเมื่อขึ้นรูปกรอบพระตามแบบมาตรฐานแล้ว
    ช่างเลี่ยมจะเสริมแผ่นเงินแผ่นทองของกรอบพระตรงยอดและฐานด้านหน้าขึ้นมา 2-3 ชั้น
    และเลื่อยฉลุเป็นลวดลายต่าง ๆ ได้ตามจินตนาการและความถนัดของช่างเลี่ยมพระแต่ละสำนัก
    ส่วนด้านหลังของกรอบจะพับปิดตายเช่นเดียวกันกับกรอบแบบมาตรฐาน
    ที่โต๊ะช่าง มีซุ้มให้เลือกอยู่ประมาณ 5 แบบด้วยกัน คือ


    2.1 ซุ้มหัวสิงห์
    คือแบบซุ้มที่เกือบทุกท่านน่าจะรู้จักและเคยผ่านตางมาบ้าง ถือเป็นแบบยกซุ้มชั้นต้น
    ที่ช่างเลี่ยมทุกคนจะต้องเลี่ยมได้ ให้ความสวยแบบคลาสสิก
    และได้ความรู้สึกถึงพลังที่น่าเกรงขามแห่งพญาสิงห์

    [​IMG]


    2.2 ซุ้มพิกุล
    คือแบบซุ้มที่ดัดแปลงมาจากดอกไม้ไทยเล็ก ๆ ที่สวยเรียบ ทว่าความหอมตราตรึงใจ
    ซุ้มพิกุลต้องใช้แผ่นเงินแผ่นทองรวม 3 ชั้นที่ยอดบน นอกจากความแข็งแรงที่ได้รับแล้ว
    ยังแฝงเสน่ห์ด้วยเม็ดเกสรกลม ๆ เล็ก ๆ ที่กึ่งกลางกลีบดอกทั้ง 4 อีกด้วย

    [​IMG]


    2.3 ซุ้มดอกบัว
    คือซุ้มที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก 2 สิ่งผนวกกัน นั่นคือ
    ดอกบัว...ดอกไม้ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์ ที่เหล่าชาวพุทธใช้บูชาองค์พระรัตนตรัย
    และหยดน้ำ...ใสสะอาดที่เกาะบนกลีบบัว บางแห่งจึงเรียกซุ้มแบบนี้ว่า "หยดน้ำ"

    [​IMG]


    2.4 ซุ้มพิกุล-สุโขทัย
    คือแบบซุ้มที่ได้แรงบันดาลใจมาจากดอกพิกุล และประยุกต์ศิลปะการเลี่ยมโบราณแบบสุโขทัยผนวกด้วย
    จากการเลื่อยฉลุแผ่นเงินแผ่นทองให้เป็นกลีบดอกไม้ ก็กลับกลายเป็นลูกเล่นที่ใช้ขดลวดเงินลวดทอง
    เส้นจิ๋ว มาขดเป็นกลีบดอกและไม่ลืมที่จะหยดเกสรเล็ก ๆ อันเป็นเสน่ห์ของดอกพิกุลโบราณ

    [​IMG]


    2.5 ซุ้มบัว-สุโขทัย
    คือแบบซุ้มที่ใช้การฝีมืองานเลี่ยมแบบสุโขทัย นำมาประยุกต์ กับงานเลี่ยมภาคกลาง
    ใช้ดอกบัวเป็นแบบ จึงได้ผลงานมาเป็นดอกบัวที่เกิดจากการดัดขดลวดเงินลวดทองเส้นน้อย ๆ
    ซ้อนด้วยดอกไม้ดัดดอกจิ๋วไว้ตรงกลาง เป็นแบบซุ้มที่หาได้ที่โต๊ะช่างเท่านั้น

    [​IMG]
     
  6. tohchangclub

    tohchangclub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    4,745
    ค่าพลัง:
    +793
    3. งานเลี่ยมพิเศษ
    คืองานเลี่ยมที่ขึ้นกรอบจากแบบมาตรฐาน
    จากนั้นเพิ่มสีสันและลีลาลูกเล่นฝีมือช่างด้วยงานแบบสุโขทัยประยุกต์
    ซึ่งผู้ใช้ สามารถเลือกที่จะผสมผสานหลาย ๆ เทคนิคหรือเพียงเทคนิคเดียว
    ไว้ในกรอบเดียวกันก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบและแบบทรงขององค์พระค่ะ
    กรอบแบบนี้มักจะมีลูกเล่นที่ด้านหน้าและด้านข้าง
    ส่วนด้านหลังจะพับปิดตายลักษณะเหมือนกรอบมาตรฐาน


    3.1 ไข่ปลา
    ช่างเลี่ยมพระจะตัดแบ่งท่อนเงินท่อนทองเป็นท่อนเล็ก ๆ เท่า ๆ กัน
    จากนั้น ใช้หัวไฟร้อน ๆ เป่าจี้ แต่ละท่อนให้ละลาย และนำส่วนที่ละลายนั้น
    มาแต้มเป็นจุดกลม ๆ เล็ก ๆ ตำแหน่งที่ต้องการ รูปร่างคล้ายไข่ปลา
    นิยมเรียงไข่ปลาเป็นสายยาว หรือไข่ปลาสลับท่อน

    [​IMG]


    3.2 ลวดเกลียว
    ใช้ลวดเงินลวดทองเส้นเล็กจิ๋ว พันเป็นเกลียวคล้ายเชือก นำมาดัดเป็นเส้นสาย
    ตามแบบกรอบทรงต่าง ๆ ได้แทบทุกแบบ

    [​IMG]


    3.3 พิกุล
    เกิดจากการนำขดลวดเงินลวดทอง ตัดแบ่งท่อนละประมาณ 6-8 วง
    จากนั้นดัดให้เป็นม้วนเป็นกลีบดอก เชื่อมปลายทั้งสองเข้าด้วยกัน และแต้มเกสรเล็ก ๆ ตรงกลาง
    เป็นวิชาช่างเลี่ยมโบราณที่สืบทอดต่อกันมาจากครูช่างเลี่ยมโบราณหลายยุคหลายสมัย

    [​IMG]


    3.4 หัวหมุน
    มีชื่อเรียกต่างกันไปแล้วแต่ท้องถิ่น บ้างเรียก"หัวเม็ดมะยม" บ้างก็เรียก"หัวฟักทอง"
    หัวหมุนนี้จะเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างตัวกรอบและห่วงด้านบน
    ลักษณะพิเศษคือสามารถหมุนได้ 180 องศา หรือหมุนได้รอบทิศ แล้วแต่เทคนิค
    การติดหัวหมุนจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถแขวนพระเพื่อโชว์ได้ทั้งหน้าและหลัง

    [​IMG]


    3.5 ห่วงจี้
    เป็นลูกเล่นที่ช่วยเปลี่ยนจากห่วงกลม ๆ ธรรมดา ๆ ให้น่ามองขึ้น
    เป็นงานลูกครึ่งระหว่างช่างเพชร(จิวเวอร์รี่)และช่างเลี่ยมพระ
    แบบห่วงจี้ที่นิยมก็มีอยู่ด้วยกันหลายแบบ เช่น
    ห่วงจี้พิกุล ห่วงจี้หูกระต่าย ห่วงจี้ดอกลิส

    [​IMG]


    3.6 การลงยา
    การลงยาสำหรับกรอบพระและตลับพระนั้น แบ่งเป็น 2 ประเภทด้วยกัน คือ ลงยาร้อน และ ลงยาเย็น
    ยาร้อน เป็นก้อนเล็ก ๆ ก่อนใช้ต้องเอามาบดเป็นผง แตะน้ำเล็กน้อย เอาไปป้ายที่จะลงยา
    แล้วใช้ไฟเป่า (ด้วยความชำนาญ) สีนั้นจะละลายติดทอง
    ยาเย็น มันคือเซรามิคชนิดหนึ่ง ใช้ป้ายลงไปบริเวณที่จะลงยา แล้วอบด้วย UV ให้แห้ง ก็เป็นอันใช้ได้
    แต่ความทนทาน จะสู้ยาร้อนไม่ได้
    สำหรับงานเลี่ยมกรอบพระ ที่โต๊ะช่างจะใช้การลงยาร้อนเท่านั้นค่ะ
    ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกบริเวณที่จะลงยาได้เป็น 4 แบบด้วยกัน

    ลงยา บน-ล่าง
    [​IMG]

    ลงยา เต็มหน้า
    [​IMG]

    ลงยา หน้าหลัง (เฉพาะงานเลี่ยมตลับ)
    ลงยา เต็มใบ (เฉพาะงานเลี่ยมตลับ)
    [​IMG]
     
  7. tohchangclub

    tohchangclub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    4,745
    ค่าพลัง:
    +793
    4. ตลับ

    ตลับพระ แทบจะเรียกว่าเป็นเครื่องประดับรุ่นแรกที่บรรพบุรุษไทยประดิษฐ์ขึ้นมา
    เพื่อบรรจุพระเครื่องและเครื่องรางของขลังต่าง ๆ เลยก็ว่าได้
    ตลับใส่พระในสมัยโบราณ ก็จะมีลักษณะเหมือนตลับแท้ ๆ เลยล่ะค่ะ
    หากใครนึกไม่ออก ให้ลองนึกถึงตลับสีผึ้งของคุณย่าคุณยายดู

    [​IMG]

    กล่าวคือ เกิดจากการใช้ฝาเล็ก ๆ 2 ฝาที่สบกันได้สนิท มาประกบเป็นตลับ
    จากนั้นจึงเริ่มมีการประยุกต์... เช่น
    ...ประดิษฐ์หลอดเล็ก ๆ และเดือยที่ช่วยยึดฝาทั้ง 2 น้้นไว้ด้วยกัน
    ...ใช้ห่วงกลม ๆ มาเชื่อมติดกับตัวตลับเพื่อแขวนพกพา
    ...และเริ่มมีการเจาะฝาตลับหน้าและหลังเพื่อโชว์องค์พระที่บรรจุอยู่ด้านใน

    [​IMG]

    [​IMG]

    จนวิทยาการและเทคโนโลยีที่ทันสมัยของลูกหลานช่างเลี่ยมยุคหลัง ๆ
    ตลับพระจึงมีหน้าตารูปร่างดังที่เราเห็นอยู่ในปัจจุบัน
    "ตลับพระ" แตกต่างจาก "กรอบพระ" ตรงที่ว่า ผู้ใช้สามารถเปิดปิดตลับได้เอง
    เนื่องจากมีการเพิ่มหลอดและเดือยเล็ก ๆ ยึดฝาตลับทั้งสองด้านเอาไว้


    การเลี่ยมตลับนี้เหมาะสำหรับหลาย ๆ กรณี เช่น
    ...พระเครื่อง หรือ พระสมเด็จ บางเนื้อที่จำเป็นต้องปล่อยให้เนื้อพระสัมผัสกับอากาศบ้าง
    ...พระเครื่องที่เจ้าของหรือผู้ใช้จะต้องส่องดูเนื้อพระบ่อย ๆ
    ...หรือแม้แต่ด้วยเหตุผลบางประการกรณีที่เจ้าของพระไม่ต้องการให้พระของตน
    ต้องเปลี่ยนมือแม้เพียงชั่วคราว

    [​IMG]

    [​IMG]

    การเลี่ยมตลับพระก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เหมาะสม เนื่องจากไม่จำเป็นต้องฝากพระไว้ที่ช่างเลี่ยม
    เพียงวาดแบบและขนาดจากองค์พระจริงเอาไว้ ช่างเลี่ยมก็สามารถขึ้นรูปตลับ
    ที่สามารถบรรจุพระองค์นั้นได้พอดิบพอดีได้เช่นกัน
     
  8. tohchangclub

    tohchangclub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    4,745
    ค่าพลัง:
    +793
    5. ตลับพิเศษ (ไข่ปลา ลวดเกลียว พิกุล-สุโขทัย)

    เป็นการผนวกการเลี่ยมตลับและการเลี่ยมแบบพิเศษเอาไว้ด้วยกัน
    ผู้ใช้จะได้ทั้งความสวยงามไม่ซ้ำแบบใคร จากศิลปะงานเลี่ยมไทยแท้
    และความสะดวกในแง่การใช้งานเพราะสามารถเปิดปิดตลับได้ด้วยตนเอง

    [​IMG]
     
  9. tohchangclub

    tohchangclub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    4,745
    ค่าพลัง:
    +793
    6. ผ่าหวาย

    ผ่าหวายเป็นชื่อเรียกวิธีเลี่ยมพระอีกแบบหนึ่ง
    ซึ่งช่างโบราณได้ตั้งชื่อจากลักษณะของกรอบพระที่มีความโค้งยาวไปตลอดเส้น
    เหมือนนำเอา "หวาย" (พรรณไม้ชนิดหนึ่งมีลักษณะกลมยาว ลำต้นประกอบด้วยเปลือกเป็นชั้น ๆ )
    มาผ่าครึ่งตามแนวยาว จึงเป็นที่ของชื่อเรียกการเลี่ยมชนิดนี้ว่า "ผ่าหวาย"

    [​IMG]

    งานเลี่ยมผ่าหวายเหมาะสำหรับองค์พระที่มีลักษณะ กลม หรือ รี
    อย่างไรก็ตามพระที่มีลักษณะเป็นเหลี่ยมเป็นมุมก็สามารถเลี่ยมแบบผ่าหวายได้เช่นกัน
    ขึ้นอยู่กับรูปทรงและความพร้อมของเครื่องมือช่าง

    การเลี่ยมผ่าหวายนี้ เจ้าของพระจำเป็นต้องทิ้งพระไว้กับช่างเลี่ยมค่ะ เนื่องจากช่างเลี่ยมต้อง
    วัดเหลี่ยมมุมและความโค้งจากองค์พระจริงเท่านั้น มิฉะนั้นจะใส่ไม่พอดี
    การเลี่ยมแบบผ่าหวายเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบงานแบบเรียบ ๆ รูปทรงเปรียว ๆ เกลี้ยงและเงา
    อย่างไรก็ตามงานผ่าหวายสามารถสั่งเป็นแบบขัดเงาหรือแกะลายก็ได้แล้วแต่ความชื่นชอบของผู้ใช้

    ซึ่งสำหรับโต๊ะช่างแล้ว
    ผู้ใช้สามารถเลือกแบบ "หัว" ด้านบนของงานเลี่ยมผ่าหวายได้ 3 แบบ ด้วยกัน


    6.1 ผ่าหวาย : ธรรมดา

    [​IMG]


    6.2 ผ่าหวาย : หัวจุกครอบ

    [​IMG]


    6.3 ผ่าหวาย : หัวจุกครอบ & ข้าวหลามตัด

    [​IMG]
     
  10. tohchangclub

    tohchangclub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    4,745
    ค่าพลัง:
    +793
    7. ครอบแก้ว

    งานเลี่ยมครอบแก้ว เป็นงานเลี่ยมที่พัฒนาจากงานผ่าหวายขึ้นไปอีกขั้น
    กล่าวคืองานครอบแก้วจะมีเส้นข้างทั้งสองฝั่งคล้ายผ่าหวาย ทว่าที่ฐานของกรอบ
    จะมีพื้นที่สำหรับวางองค์พระ และกรอบครอบแก้วสามารถตั้งบนพื้นเรียบได้
    เหมาะสำหรับองค์พระรูปหล่อ และการเลี่ยมที่ผู้ใช้ต้องการโชว์องค์พระโดยเฉพาะ

    ซึ่งที่ฐานของครอบแก้ว สามารถเลี่ยมได้ 2 แบบ คือ
    7.1 การเลี่ยมฐานครอบแก้วแบบพับปิดตาย
    7.2 การเลี่ยมแบบมีหลอดสำหรับใส่เดือย กรณีที่ลูกค้าต้องการถอด-ใส่เองได้

    [​IMG]
     
  11. tohchangclub

    tohchangclub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    4,745
    ค่าพลัง:
    +793
    8. ยืดฐาน

    เป็นงานเลี่ยมที่หน้าออกลูกครึ่ง ระหว่างงานเลี่ยมยกซุ้มและครอบแก้วค่ะ
    มีลักษณะกรอบที่เหมือนกรอบยกซุ้มทว่าที่ฐานของกรอบพระทั้งด้านหน้า
    ยืดออกมาจากตัวกรอบ (เป็นที่มาของคำว่า "ยืดฐาน") นิยมแต่งขอบฐานเป็นรูปคล้ายดอกบัว
    บางแห่งจึงเรียกการเลี่ยมแบบยืดฐานนี้ว่า "ฐานบัว"
    ส่วนด้านหลังกรอบพับปิดตาย เหมือนกรอบมาตรฐาน
    เหมาะสำหรับพระรูปหล่อที่มีรูปทรงพื้นที่ฐานยืดออกมามากกว่าปกติ
    เช่นรูปหล่อพระที่นั่งขัดสมาธิบางพิมพ์

    [​IMG]
     
  12. tohchangclub

    tohchangclub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    4,745
    ค่าพลัง:
    +793
    9. ตะกรุด

    งานเลี่ยมตะกรุดมีรูปแบบหลัก ๆ อยู่ 2-3 แบบ
    ขึ้นอยู่กับทิศทางการแขวน และจำนวนท่อนค่ะ
    ตะกรุดห่วงเดี่ยว สำหรับการแขวนแนวตั้ง
    ตะกรุดห่วงคู่ สำหรับการแขวนแนวนอน

    [​IMG]

    ตะกรุด หัวท้าย ประกอบด้วยหัวจุก 2 ชิ้น
    ตะกรุด 3 ท่อน ประกอบด้วยหัวจุก 2 ชิ้น และท่อนกลาง 1 ชิ้นซึ่งมีห่วงสำหรับแขวนเครื่องรางอื่น ๆ ได้อีก


    ลูกเล่นพิเศษของงานเลี่ยมตะกรุดก็สามารถทำได้คล้ายการยุกซุ้มกรอบพระ
    นั่นคือผู้ใช้สามาารถเลือกติดหัวสิงห์ ดอกพิกุล ดอกบัว ฯลฯ ไว้ที่หัวจุกตะกรุดได้ด้วย

    [​IMG]
     
  13. tohchangclub

    tohchangclub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    4,745
    ค่าพลัง:
    +793
    10. งานเลี่ยมพิเศษ กระเช้า สาแหรก ฯลฯ

    ทั้งนี้ เครื่องรางอื่นที่มีรูปร่างเฉพาะตัว เช่น แม่พิมพา งาแกะสลัก กุมาร ลูกกรอก ปลัดขิก ฯลฯ
    ผู้ใช้ก็สามารถสั่งเลี่ยมหรือให้ช่างออกแบบการเลี่ยมแบบพิเศษได้
    เพื่อให้เหมาะกับรูปทรงและการใช้งาน

    [​IMG]
     
  14. tohchangclub

    tohchangclub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    4,745
    ค่าพลัง:
    +793
    นอกจากรูปแบบของกรอบพระที่แตกต่างกันแล้ว
    สิ่งที่ควรทราบก่อนการเลี่ยมพระก็คือเรื่องของการ "อัดกันน้ำ"


    [​IMG]

    อัดกันน้ำ 3 ชั้น
    คือการอัดพลาสติกกันน้ำที่องค์พระโดยใช้พลาสติกหลัก ๆ 3 ชิ้นด้วยกัน
    คือพลาสติกแกนกลางที่ใช้ล็อกองค์พระ และอีกสองชิ้นที่อยู่ด้านหน้าและหลังพระ
    นำทั้งพลาสติกสามชิ้นมาวางเรียงกัน 3 แล้วสมานติดด้วยน้ำยา
    จึงเป็นที่มาของชื่อเรียก "อัดกันน้ำ 3 ชั้น"
    ปัจจุบันนี้ ช่างเลี่ยมพระที่เลี่ยมได้มาตรฐานและช่างเลี่ยมทอง
    จะใช้เทคนิคการอัดกันน้ำ 3 ชั้นทั้งหมด
    เนื่องจากจะได้ทรงที่สวยงาม แข็งแรง และกันน้ำได้ 100%

    อัดกันน้ำ 2 ชั้น
    คือการอัดพลาสติกที่ใช้พลาสติกหลักเพียง 2 ชิ้น คือหน้าและหลังมาประกบกัน
    แล้วหยอดน้ำยาสมานพลาสติก วิธีนี้แม้จะไม่แข็งแรง สวยงาม และอาจกันน้ำสู้แบบ 3 ชั้นไม่ได้
    แต่ก็เหมาะหรับผู้ใช้ที่ต้องการให้ขอบพระด้านข้างเพรียวบางมาก ๆ
    หรือการเลี่ยมกรอบทองคำที่ผู้ใช้ต้องการประหยัดเนื้อทองก็อาจใช้วิธีอัดกันน้ำ 2 ชั้นเหมือนกัน



    ไม่อัดกันน้ำ

    [​IMG]



    ยกหน้า-ยกหลัง

    [​IMG]

    คือการสั่งเลี่ยมกรอบพระโดยไม่ต้องการให้มีพลาสติกใสเลย เปิดโล่งทั้งหน้าและหลัง
    เหมาะสำหรับพระเครื่องเนื้อโลหะ
    หากผู้ใช้ต้องการจะรักษาเนื้อพระไม่ให้สึกจากการเสียดสี เทคนิคยกหน้า-ยกหลัง นี้ก็เหมาะ
    ก็คือช่างอัดกันน้ำจะเลื่อยแผ่นพลาสติกให้มีรูปร่างเหมือนขอบหน้าและขอบหลังกรอบพระ 2 ชิ้น
    ก่อนที่จะวางองค์พระลงไปในกรอบที่เตรียมไว้ก็ใส่ขอบพลาสติกรองหน้าเสียก่อน 1 ชิ้น
    พอวางองค์พระลงไปแล้ว ก่อนที่จะพับปิดหลังก็วางขอบพลาสติกรองหลังลงไปอีก 1 ชิ้น
    เมื่อพับหลังเสร็จ องค์พระที่มีความนูนความหนาก็จะอยู่ลึกลงไปในกรอบพระได้
    ด้วยเพราะมีพลาสติกรองหน้าและหลังป้องกันอยู่ เป็นการป้องกันพระสึกได้อีกวิธี

    บางครั้งผู้ใช้จะสั่ง "ยกหน้า-หลังเรียบ" ก็ได้เช่นเดียวกันค่ะ
    ช่างอัดกันน้ำก็จะรองขอบพลาสติกเพียงชิ้นเดียวด้านหน้าเท่านั้น
    ส่วนด้านหลังก็จะเรียบ ๆ องค์พระจะติดกับกรอบพระไปเลยค่ะ
     
  15. tohchangclub

    tohchangclub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    4,745
    ค่าพลัง:
    +793
    Q&A Q&A Q&A Q&A Q&A Q&A Q&A Q&A Q&A Q&A


    Q : ต้องทิ้งพระไว้ไหม?
    A : การเลี่ยมพระให้เนี๊ยบและสมกับองค์พระถ้าจะให้ดีต้องทิ้งพระไว้ที่ช่างค่ะ
    แต่ในหลาย ๆ กรณี เจ้าของพระไม่ต้องการให้พระอยู่ห่างตัว จึงมักถามว่า
    "เลี่ยมพระนี่... ไม่ต้องทิ้งพระไว้ได้ไหม?"
    คำตอบก็คือ... มีทั้ง "ได้" และ "ไม่ได้" อยู่ที่รูปแบบของการเลี่ยมค่ะ



    >> เลี่ยมผ่าหวาย กระเช้า สาแหรก <<

    [​IMG]

    ต้องทิ้งพระไว้เท่านั้นค่ะ การเลี่ยมพิเศษแบบนี้หากไม่ทิ้งพระไว้ให้ช่างเลี่ยมวัด
    ก็จะไม่สามารถขึ้นตัวเรือนให้พอดีกับองค์พระได้อย่างแน่นอน



    >> เลี่ยมตลับ <<

    [​IMG]

    สบายมากค่ะ การเลี่ยมตลับนี่เป็นทางออกที่ดีมากสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการทิ้งพระไว้ที่ช่าง
    ผู้ใช้สามารถวัดขนาดพระ แล้ววาดลงบนกระดาษ ให้ช่างเลี่ยมขึ้นตลับจากแบบวาดได้เลยค่ะ



    >> เลี่ยมกรอบอัดกันน้ำ <<

    การเลี่ยมกรอบพระอัดกันน้ำ เป็นการเลี่ยมที่ต้องเน้นที่ขนาดและทรงขององค์พระมาก ๆ
    หากเจ้าของพระสามารถฝากพระไว้ที่ช่างเลี่ยมได้ก็ไม่มีปัญหาค่ะ แต่หากไม่ต้องการฝากพระไว้
    ก็มีอยู่ 2 วิธีด้วยกัน คือ

    วิธีแรก ให้ช่างเลี่ยมเปิดพิมพ์บล็อกเอาไว้

    [​IMG]

    วิธีนี้ช่างเลี่ยมจะนำพระองค์จริงมาวัดขนาดพระรวมถึงความหนา และเปิดแม่พิมพ์ไม้เอาไว้
    ผู้สั่งเลี่ยมรอเปิดบล็อกประมาณ 30 นาที เสร็จแล้วสามารถนำพระกลับบ้านได้
    ช่างเลี่ยมจะขึ้นกรอบโดยอิงจากแม่พิมพ์นั้น
    เมื่อช่างเลี่ยมกรอบพระเสร็จ ผู้สั่งเลี่ยมค่อยก็นำพระมาให้ช่างอัดกันน้ำใส่กรอบอีกครั้ง
    ซึ่งระยะเวลาอัดกันน้ำและใส่กรอบก็อยู่ที่ประมาณ 45 นาที ไปจนถึงชั่วโมงกว่า ๆ
    แล้วแต่ขนาด รูปทรงพระ และฝีมือช่างค่ะ


    วิธีที่สอง วัดขนาดพระ วาดใส่กระดาษเอาไว้
    ซึ่งช่างจะขึ้นกรอบตามแบบที่วาด โดยเผื่อขนาดความกว้างและความหนาไว้เล็กน้อย
    หลังจากนั้นเมื่อช่างเลี่ยมกรอบพระเสร็จ ผู้สั่งเลี่ยมก็นำพระมาอัดกันน้ำและใส่กรอบเหมือนวิธีแรก
    แต่อาจใช้เวลานานกว่าสักเล็กน้อย เนื่องจากต้องรวมเวลาเปิดพิมพ์เข้าไปด้วยค่ะ
    วิธีที่สองนี้ แม้กรอบพระที่ได้ขนาดและรูปทรงอาจไม่พอดิบพอดีเท่าการเปิดบล็อก
    แต่ก็สะดวกในหลาย ๆ กรณี เช่น ไม่สามารถพกพระมาได้
    หรือการสั่งเลี่ยมกรอบพระ กรณีที่ผู้สั่งเลี่ยมอยู่ไกลหรืออยู่ต่างจังหวัด
    ก็สามารถวัดขนาดพระและแฟกซ์ส่งมาก่อนได้ค่ะ
     
  16. tohchangclub

    tohchangclub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    4,745
    ค่าพลัง:
    +793
    วิธีการวัดขนาดพระ วาดลงกระดาษ
    ให้วาดพระโดยทาบพระลงกระดาษ 3 มุม คือ



    [​IMG]

    1. ด้านหน้า : วาดตามทรงให้ชิดหรือใกล้เคียงองค์พระที่สุด
    หากเป็นพระรูปลอย ให้คว่ำหน้าพระลง และวาดตาม จะได้ขนาดที่ใกล้เคียงที่สุด



    [​IMG]

    2. ด้านข้าง : จับพระหันข้าง แล้วลากเส้นให้แนบองค์พระทั้งสองฝั่งหน้า-หลัง
    เน้นจุดที่หนา(หรือ)นูนที่สุดขององค์พระ




    [​IMG]

    3. ฐาน : หากเป็นพระมีฐาน ให้วางฐานพระบนกระดาษ และวาดเส้นตามรูปฐานพระ
     
  17. tohchangclub

    tohchangclub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    4,745
    ค่าพลัง:
    +793
    Q : "ค่าซิ" คืออะไร?
    A : สำหรับช่างทองทุกแขนง เมื่อเวลาที่ประดิษฐ์ขึ้นมาแต่ละชิ้น
    ทุก ๆ ขึ้นตอนตั้งแต่ต้นสายยันผลงานออกมา เช่น การหลอมทอง การรีดทอง
    การเป่าไฟ เลื่อยลาย ตะไบแต่ง แม้แต่การพับหลังกรอบพระนั้น
    ล้วนมีละอองทองที่สูญหายไปเสมอ ๆ

    [​IMG]

    อธิบายอีกอย่างได้ว่า สมมติว่าเรามีทองดิบ 1 บาท ก่อนขึ้นตัวเรือน
    เมื่อผ่านกรรมวิธีต่าง ๆ จนได้เป็นตัวเรือน 1 ชิ้น
    เมื่อชั่งน้ำหนักตัวเรือนกับเศษทองที่เหลือรวมกันแล้ว
    จะหนักไม่ถึง 1 บาท เท่ากับทองดิบเมื่อตอนตั้งต้นหรอกค่ะ


    หากช่างทองคิดราคางานทองเฉพาะน้ำหนักผลผลิตเพียว ๆ แล้วล่ะก็...
    "ขาดทุน" แน่นอนไม่มีอื่นเลยค่ะ
    แล้วถ้าทำไปขาดทุนไป ช่างทองเลี้ยงชีพตนไม่ได้แน่นอน
    ดังนั้นช่างทองตั้งแต่ยุคโบราณมาจนปัจจุบันนี้จึงต้องมี "ค่าซิ"
    หรือ "ค่าชดเชยทองสูญ" ที่ขาดหายไปในกระบวนการผลิต นำมาคำนวณเป็นต้นทุนด้วยทุกครั้ง
    บางแห่งเรียก "ค่าซิ" บ้างก็ "ค่าขาด" ล้วนสื่อความหมายเดียวกันค่ะ

    [​IMG]

    ที่โต๊ะช่าง หากเป็นงานกรอบพระ คิดค่าซิที่ 15% ของน้ำหนักจริง
    หากเป็นงานตัวเรือนอื่น ๆ หรืองานจิวเวอร์รี่ คิดค่าซิที่ 20% ของน้ำหนักจริง
    เนื่องจากอย่างหลังสูญทองในการผลิตมากกว่าค่ะ
     
  18. tohchangclub

    tohchangclub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    4,745
    ค่าพลัง:
    +793
    ตัวอย่างงานเลี่ยมเงินจับขอบ อัดกันน้ำ

    [​IMG]



    เลี่ยมเงิน จับขอบ อัดกันน้ำ - ซุ้มสิงห์

    [​IMG]

    [​IMG]



    เลี่ยมเงิน จับขอบ อัดกันน้ำ - ซุ้มบัว

    [​IMG]

    [​IMG]



    เลี่ยมเงิน จับขอบ อัดกันน้ำ - ซุ้มพิกุล

    [​IMG]

    [​IMG]



    เลี่ยมเงิน จับขอบ อัดกันน้ำ - ซุ้มบัวสุโขทัย

    [​IMG]

    [​IMG]



    เลี่ยมเงิน จับขอบ ขัดเงา อัดกันน้ำ - ห่วงจี้ดอกลิส

    [​IMG]

    [​IMG]



    เลี่ยมเงิน จับขอบ ขัดเงา อัดกันน้ำ - ห่วงจี้หูกระต่าย

    [​IMG]

    [​IMG]



    เลี่ยมเงิน จับขอบ ขัดเงา อัดกันน้ำ - ห่วงจี้พิกุล

    [​IMG]

    [​IMG]



    เลี่ยมเงิน จับขอบ อัดกันน้ำ (ธรรมดา)

    [​IMG]



    [​IMG]
     
  19. tohchangclub

    tohchangclub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    4,745
    ค่าพลัง:
    +793
    ตัวอย่างเลี่ยมเงิน อัดกันน้ำ จับขอบ แบบพิเศษ

    [​IMG]
     
  20. tohchangclub

    tohchangclub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    4,745
    ค่าพลัง:
    +793
    เลี่ยมเงิน จับขอบ อัดกันน้ำ - ซุ้มสิงห์ ลงยาร้อนเต็มหน้า

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...