โทษและคุณของกามนี้...มากหลาย, หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย Lukhgai, 15 พฤษภาคม 2009.

  1. Lukhgai

    Lukhgai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    3,000
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +8,238
    โทษและคุณของกามนี้มากหลาย

    กามคุณเป็นภัยอันร้ายกาจของพรหมจรรย์ยิ่งนัก มันสามารถครอบงำโลกอันนี้ให้อยู่ในกำมือของมันทั้งหมด

    ตัวอย่างเช่น อิสิสิงคดาบส มีตบะกล้าถึงขนาดพระอินทร์ ซึ่งคนทั้งโลกพร้อมด้วยเทวดาทั้งหลายพากันให้สมัญญาว่า “มีฤทธิ์มากเหมือนกับพระอินทร์” ก็ยังกลัวอิสิสิงคฤาษี

    ต้องใช้นางเทพอัปสรลงมาปราบ มนุษย์ชาวโลกทั้งหลายจะประกอบกิจการใดๆ และอาชีพใดๆ ก็ตาม ต้องมาปรารภกามคุณนี้เป็นต้นเหตุ แม้พรหมจรรย์ในพระพุทธศาสนานี้ก็เหมือนกัน ผู้จะหนีจากกามได้ ต้องมาปรารภกามนี้เป็นเหตุทั้งนั้น

    ดอกไม้คือกามคุณทั้งห้าบานสะพรั่งอยู่ในโลกเต็มไปหมด มนุษย์หญิงชายผู้เคราะห์ร้ายเกิดมาแล้วหลงชมชอบรักใคร่เก็บมาประดับ หมู่มารเห็นแล้วหัวเราะพอใจคิดว่าเขาเหล่านี้ตกอยู่ในเงื้อมมือของเราแล้ว แล้วก็ขับเพลงกล่อมให้เต้นไปตามจังหวะของตน

    พระพุทธเจ้าตรัสว่า “การขับร้องคือการร้องไห้” (โอดครวญพิไรรำพันเศร้าโศกคิดถึงผู้ที่ตายแล้ว หรือยังมีชีวิตอยู่ด้วยเสียงอันละห้อยโหยหวนอย่างสุดซึ้ง ทำให้ผู้ได้ยินแล้ววาดภาพเหมือนเป็นจริงเป็นจังขึ้นมา)

    “การเต้นรำเป็นลักษณะของคนบ้า” คือการแสดงกิริยาของคนวิกลจริตต่างๆ เป็นต้นว่าเยื้องกรายหมุนซ้ายหมุนขวา ยักท่าวิปริตผิดมนุษย์สามัญธรรมดา แขนขาสะบัดส่ายงอหงิกแสดงเหมือนคนเป็นบ้า

    “การหัวเราะเป็นอาการของเด็ก” ธรรมดาของเด็กที่ยังไม่รู้เดียงสาเมื่อยังนอนอยู่ในเบาะหรือในอ้อมแขนนั้น เห็นอะไรและสิ่งใดก็มีแต่หัวเราะเป็นประมาณ

    ท่านผู้รู้ทั้งหลายมีพระพุทธเจ้าเป็นต้น ท่านได้เห็นสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ตามเป็นจริงแล้วท่านจึงสลดสังเวชในใจ จึงทรงตรัสว่า “การขับร้องคือการร้องไห้ การฟ้อนรำคืออาการของคนบ้า การหัวเราะเป็นอาการของเด็ก นี่เป็นวินัยของพระอรหันต์”

    นับว่าเป็นโชคดีของเราทั้งหลายที่ได้บำเพ็ญบุญไว้เมื่อแต่ปางก่อน ที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์มีกำเนิดอันบริสุทธิ์ไม่วิปริต แล้วยังได้พบพระพุทธศาสนาที่สอนไม่ให้เราหลงใหลติดอยู่ในคุกของโลกด้วย ถ้าเราไม่ได้เกิดมาในโลก ที่ไหนเราจะรู้ของพรรค์นี้ นี่เพราะเราเกิดมาในโลกนี้แท้ๆ จึงได้รู้ว่าในโลกนี้มีอะไรอยู่บ้าง

    : ของดีมีในศาสนาพุทธ
    : โดย พระนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาจารย์ (เทสก์ เทสรังสี)
    http://www.thewayofdhamma.org/page2/เนื้อหาของดี.htm
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 พฤษภาคม 2009

แชร์หน้านี้

Loading...