โรคภัยไข้เจ็บ อันเกิดจากการนั่งสมาธิ / การฝึกจิต / การฝึกพลัง

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย suwi, 10 ตุลาคม 2008.

  1. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ถามได้เลยครับ หรือไปที่ PM ส่วนตัว

    จะมาตอบให้วันจัทร์นะครับ ผมไปต่างจังหวัด ทุกเสาร์ อาทิตย์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 พฤษภาคม 2009
  2. อนุญฺญา

    อนุญฺญา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    139
    ค่าพลัง:
    +131
    แล้วมันมีกี่โรคค่ะเนี่ย
    ต่อไปจะเกิดการพัฒนาสายพันธุ์อะป่าว อิอิ

    ขอให้หายเจ็บหายไข้นะคะ
    อนุโมทนาสาธุ
     
  3. Inner Smile

    Inner Smile เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    699
    ค่าพลัง:
    +451
    นึกว่ากระทู้หายไปไหน ตกไปหน้าอื่นแล้ว..ดันขึ้นมาหน่อย
     
  4. มังกรบูรพา

    มังกรบูรพา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,539
    ค่าพลัง:
    +9,407
    กราบขอบพระคุณ ท่านอาจารย์ SUWI นันท์ เป็นอย่างสูงครับ

    สิ่งต่าง ๆ ที่ผมสงสัย ตอนนี้กระจ่างแล้ว 5555555 ก๊าก

    ได้พึ่งพาอาจารย์ ในยามติดๆขัดๆ จากมารโลฯ...ถึงมังกร

    ไขปัญหาข้องใจ แจ่มแล้วอ่ะครับจารย์ แจ่ม ๆ ๆ

    ผมมันโง่เองนิ เกือบซวย แล้วมั๊ยล่ะ


    ด้วยกายก็ดี ด้วยใจก็ดี ที่ข้าพเจ้า มังกรบูรพา ได้ปรมาสหรือล่วงเกิน

    ในองค์พระรัตนตรัย อันมีพระพุทธ พระธรรม พระอริยะสงฆ์ ตลอดจน

    บิดามารดา ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย โดยรู้เท่าการณ์ก็ดี และที่รู้เท่าไม่ถึง

    การณ์ก็ดี ข้าพเจ้าฯ ขอกราบ ขอขมากรรม ต่อท่านทั้งหลาย

    ขอท่านทั้งหลาย จงได้อโหสิ และงดโทษ ในกรรม ที่ข้าพเจ้า

    ได้ลุล่วงไปแล้วนี้ และจะพึงระวัง ในกาลต่อไป สาธุ


    ป.ล.มะค่อยถนัดเรื่องบาลี ตามนี้อ่ะ
     
  5. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,157
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +29,709
    OO ต้องแยกให้ออก ว่าสิ่งใดคือปราณ.. สิ่งใดคือใจOO

    --------------------------------------------------------------------------------

    ปราณ คือ พลังงานละเอียดที่เนื่องกับธาตุสี่ ดิน น้ำ ไฟ ลม

    มีผลกับรูปกายโดยตรง ไม่ว่าเป็นรูปหยาบคือ กายเนื้อ และรูปละเอียดเช่น
    กายลม



    ใจ หรือ พลังสมาธิ เป็นนามธรรม เนื่องด้วยธาตุรู้




    OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO




    เมื่อทราบและแยกแยะได้ดังนี้


    จะได้ไม่สับสน......


    เวลามีความสุขจากการเดินปราณ ร่างกายสบาย เย็น
    โล่ง โปร่ง เบา เป็นอาการทางกายที่สบาย แล้วใจก็สบายตาม

    นีเรียกว่า............มีความสุขเนื่องจากกายเป็นเหตุ ( ผลจากการฝึกปราณ
    ตามสายวิชาต่างๆ )






    เวลามีความสุข เพราะ ใจมีสมาธิสูง อำนาจปิติ สุข เอกัคตา จาก
    กำลังสมาธิของใจมีมาก แผ่ออกมาคลุมกาย และชักนำพลังดินน้ำไฟลม
    ให้เพิ่มพูน กายสบายตามมา..................นี่คือ เหตุมาจากใจ
    ที่ฝึกสมาธิมาดี เหตุมาจากใจ




    แยกออกดังนี้แล้ว ใครจะเริ่มจากไหนก่อน ตำราไหน ครูไหน ก็ตามสบาย



    ............ขอให้มาจบที่ รู้กาย รู้ใจ...........เป็นฐานสู่การพิจารณาสัจธรรมได้ก็พอ




    ............ที่สุดแล้ว พระพุทธองค์ ทรงให้ใจเป็นนายของกาย

    ( เป็นนายของพลังปราณทั้งหลาย ไม่ใช่ให้พลังทั้งหลายมาเป็นนายเรา )


    แล้ว ทำจิตให้พ้นจาก ทุกข์กาย ทุกข์ใจทั้งมวล


    ข้าพเจ้าโง่มามาก ปัจจุบันก็ยังโง่ เลยเอาความโง่มาคุยกันกับพี่น้องทั้งหลาย

    เพื่อจะได้ช่วยขัดเกลาความโง่ให้กับข้าพเจ้าได้บ้าง และความโง่ของข้าพเจ้า

    อาจมีประโยชน์แก่ท่านทั้งหลาย ให้เดินข้ามฝั่งไปได้บางครั้ง


    โมทนากับทุกท่านในความก้าวหน้าที่ดีทางกายและจิต



    หัวใจ ยังมีการบายพาส

    หัวใจบางทีก็อยู่ข้างขวา

    บางคนมีไตข้างเดียว

    คนตาบอด หลายคนมีสัมผัสอื่นยอดเยี่ยม บางคนเหนือคนปกติ ฯลฯ



    ....................จิตที่ฝึกฝนดี จะเป็นนายของกาย...................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 พฤษภาคม 2009
  6. มังกรบูรพา

    มังกรบูรพา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,539
    ค่าพลัง:
    +9,407
    อนุโมทนา สาธุครับ คุณโอม

    คำตอบแจ่มแจ้ง ก็คงเหลือแต่

    อัตตาหิ อัตตโน นาโถ


    ชีวิตนี้ยังอยู่ ก็ต้องฝึกไปเรื่อย

    ไปจนกว่า...วาระสุดท้าย

    ได้เท่าไหน เอาเท่านั้น


    ตัวเรา เป็นผู้กำหนดกรรม

    ไม่ใช่ให้กรรม กำหนดเรา

    ขอบคุณ ที่ไขข้อกระจ่าง


    สาธุ อ่ะจ้า คุณโอม

     
  7. runandyaow

    runandyaow Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    96
    ค่าพลัง:
    +65
    ตอนนี้ผมรู้สึก ปวดทรวงอกตั้งแตลิ้นปี่ขึ้นมา มันจะปวดเป็นจุดๆ ทั่วบริเวน บางทีอกซ้าย บางทีอกขวา บางทีลิ้นปี่ ปวดแบบแป๊ปๆ ทำอย่างไรดีครับ
     
  8. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    บางทีให้อึดอัดในอก บางทีให้รู้สึกหายใจไม่เต็มปอด
    บางทีให้อ่อนเพลีย ไม่อยากทำอะไร อยากอยู่นิ่งๆ
    ครั้นนานไป ขยับตัวเร็วให้รู้สึกอ่อนล้า วิงเวียนงุนงง มึนศีรษะน้อยๆ
    ผู้ฝึกสมาธิ นิ่งในนิ่ง มากเกิน โดนเฉพาะก่อนนอน (ฝึกแล้วเอนตัวนอนเลย)มักเป็นเช่นนี้

    อายุยังน้อย ออกำลังกาย ให้เลือดลมเดินสะดวก
    ฝึกอาณาปราณสติ ประกอบการออกำลังกาย (ก็คือฝึกลมปราณนั่นแหละ-ให้โคจรรอบตัวให้ได้)
    ของสุวิ ใช้ฤๅษีลีลา แก้ อาการเหล่านี้ เซอร์ทหาดู ในกูเกิล
     
  9. runandyaow

    runandyaow Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    96
    ค่าพลัง:
    +65
    ขอบคุณครับอาจารย์ แต่นิ่งในนิ่ง คืออะไร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤษภาคม 2009
  10. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ให้ย้อนกลับไปอ่านตั้งแต่หน้า ๖๐ และดูตำราการฝึก เกศา โลมา ฯ ที่ให้ไว้
     
  11. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,157
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +29,709
    OOนิ่งในนิ่ง ถูกวิธี ไม่มีโรคOO

    --------------------------------------------------------------------------------

    บางคน เข้าใจผิด ว่านิ่งในนิ่งมากเกิน จะก่อโรค....( แล้วแต่จะตั้งชื่อ)



    คำว่า นื่งในนิ่ง ....



    ทีว่านิ่ง คือ ใจนื่ง


    นื่งในที่นี้ ไม่ใช่นื่งที่เกิดจากการตั้งเจตนาให้เป็นสมถะ ป้กจิตด้วยฌาณอย่างเดียวเหมือนสายฌาณโลกีย์ล้วนๆของฤาษี บางท่าน

    แต่ ใจนั้นไมส่ายไปตามสื่งที่รับรู้

    แต่เหมือนศูนย์กลางใบเลื่อยที่หมุนเป็นวงกลม ที่หมุนอยู่ตรงกลาง

    ในแนวการปฏิบัติอื่น ยังไม่กล่าว แต่ตามแนววิชชาธรรมกายนั้น
    เมื่อจิต ไม่ส่าย ก็จะสบายอยู่ในศูนย์กลางดวงธรรมที่เป็นกำเนิดของแต่ละกาย
    อยู่ที่ ศูนย์กลางกายฐานที่ 7

    กลางตรงนั้น มีศูนย์ละเอียดควบคุม ดิน น้ำ ไฟ ลม ของกายแต่ละกาย

    เมื่อจิตอยู่ตรงศูนย์กลาง ธาตุทั้งหมด ก็สมดุลย์



    บางคนพยายามฝึกนิ่งในนิ่ง ก็จริงอยู่หรอก

    แต่ ทำได้แค่ไหนเพียงไร เบนออกศูนย์หรือไม่ นอกครูจนผิดทางหรือเปล่า

    หรือ ตอนแรกนิ่งจริงอยู่หรอกด้วยอำนาจสมถะต้นๆ แต่ต่อมา

    "ความอยากนื่ง" มันทำให้ไม่นิ่ง.... เพราะมัน "อยาก" จะนื่ง
    เลยเป็นสมุทัยหรือเหตุ ให้ ธาตุดินน้ำไฟลม มี่ศูนย์กลางกาย ไม่สมดุลย์
    ระบบการสันดาป การเผาผลาญของกายหยาบก็ผิดปกติ
    เกิดความอึดอัด ตั้งแต่ระดับ กายละเอียด จนมาถึงระดับเซลล์กายเนื้อ
    และ อวัยวะเรื่มผิดปกติ


    เมื่อสัมปชัญญะบกพร่อง อารมณ์หรือความคิดไม่ดีมันแฝงกับอารมณ์นื่งของสมถะ สั่งสมไว้มากๆในใจ นานๆไปก็จะมีอาการอึดอัดไปทั่ว

    คนที่ นิ่งในนิ่ง ถูกส่วน ...........กายเนื้อจะออกใสอมชมพู ลมปราณจะไหลเวียนดี แม้ไม่ได้คร่ำเคร่งฝึกลมปราณ...........



    อ้อ....ยืนยันได้จริงๆ เพราะ มีนักกีฬาว่ายน้ำของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่คนหนึ่ง

    แม้ตอนว่ายน้ำ จิตก็นื่งในนื่งดีนะ .........กายเนื้อไหว แต่ ใจนิ่ง........( นั่นแน่ กำลังคิดว่า

    โม้ละสิ 555 )


    ................จะเหมาเอาตามตำราตนเอง หรือประสพการณ์ส่วนตัว ตัดสินไม่ได้หรอกว่า..........
    " นื่งในนื่งมากๆ จะมีร่างกายผิดปกติอย่างนั้นอย่างนี้.."
    ต้องแยกแยะประเด็นให้ดีว่า....นิ่งในนิ่งที่ว่านั้น ทำถูกส่วน หรือไม่


    ........อย่าลืมนะ ที่สุดของนิ่งในนื่ง ทีทำถูกวิธี นั้น ทำให้เข้านิโรธสมาบัติได้

    พระอริยะที่ทรงสมาบัติแปดได้ และเป็นอนาคามีขึ้นไป เวลาท่านทำนื่งในนึ่งจนถึงที่สุดนั้น

    กายเนื้อไม่หายใจนะครับ แต่ปราณละเอียดขั้นสูง หล่อเลี้ยงกายนะ.....ร่างกายจะแข็งแรงมาก


    แม้ไม่ทานอาหารหรือไม่หายใจปกติ เป็นเวลาเจ็ดวัน แต่ละท่านที่ออกนิโรธฯมา ไมมีประวัติว่าองค์ไหนท่านมีอาการเจ็บป่วยนะ...



    การฝึกนิ่งในนิ่งที่ผิดวิธี และ ไม่ถึงที่สุดต่างหาก จะทำให้เจ็บป่วย




    จะเป็นบาปกรรม เพราะความประมาทได้ ถ้าเจตนาดี แต่ ทำให้คนเข้าใจผิดเหมารวมไปถึง
    การกระทำที่เป็นวิหารของพระอริย หรือ คนที่มีจิตบริสุทธิ๋ในระดับต่างๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 พฤษภาคม 2009
  12. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,157
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +29,709
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 พฤษภาคม 2009
  13. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,157
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +29,709
    [​IMG]



    รักษาโรคร้าย ด้วย วิชชาธรรมกาย

    ปัจจุบัน แม้พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำได้จากพวกเราไปแล้ว แต่ชีวประวัติที่งดงามและคุณธรรมอันยิ่งใหญ่ของท่าน ยังคงประทับอยู่ในจิตสำนึกของเหล่าศิษยานุศิษย์อย่างมิรู้เลือน

    เพราะตลอด ๑๒๐ ปี ของเส้นทางมหาปูชนียาจารย์ เริ่มตั้งตั้งแต่สถานที่เกิด สถานที่เข้าถึงธรรม

    สถานที่เผยแผ่ และสถานที่ตั้งหลักมั่นวิชชาธรรมกาย ตลอดจนผู้คนมากมายที่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สำคัญของหลวงพ่อวัดปากน้ำ ทุกเรื่องราวล้วนเป็นพยานยืนยัน ถึงความศักดิ์สิทธ์ของอานุภาพวิชชาธรรมกายได้เป็นอย่างดี และเป็นที่สนใจของผู้คนจำนวนมากจนกระทั่งปัจจุบัน

    ดังตัวอย่างบางตอน จากคำบอกเล่าของผู้ที่เคยรับใช้ใกล้ชิดพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำ ทั้งพระภิกษุ อุบาสก อุบาสิกา และโยมอุปัฏฐากหลายท่าน จะได้มาถ่ายทอดเรื่องราวที่ยังคงแจ่มชัดอยู่ในความทรงจำอย่างมิรู้ลืมเลือน



    วิชชาธรรมกายรักษาโรค


    คุณครูตรีธา เนียมขำ นายกสมาคมศิษย์หลวงพ่อวัดปากน้ำ มาอยู่วัดปากน้ำตั้งแต่อายุ ๑๓ ปี ภายใต้บารมีธรรมของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ และได้บวชเป็นแม่ชีเพื่อศึกษาธรรมะทั้งปริยัติและปฏิบัติ

    ท่านเป็นผู้หนึ่งที่ได้ศึกษาวิชชาธรรมกาย จนสามารถรับใช้สนองงานที่ท่านได้มอบหมายไว้ ภายหลังได้ลาศีลจากแม่ชี แล้วได้อยู่ปฏิบัติรับใช้หลวงพ่อตลอดมา ปัจจุบันคุณครูตรีธาอายุได้ ๗๘ ปี แล้ว แต่ยังคงปฏิบัติหน้าที่สำคัญ คือเป็นนายกสมาคมศิษย์เก่าหลวงพ่อวัดปากน้ำ ร่วมทำนุบำรุงวัดปากน้ำเป็นเอนกประการ ได้เล่าเรื่องราวในอดีตให้ฟังว่า

    ข้าพเจ้ามาอยู่วัดปากน้ำตั้งแต่ปี พ . ศ . ๒๔๘๑ มีอายุเพียง ๑๓ ปี เพราะบิดาของข้าพเจ้าได้พามารดาซึ่งป่วยหนักมาเป็นเวลานานถึง ๑๒ ปี มารักษาโรคกับหลวงพ่อ เนื่องจากไม่มีหมอคนใดที่จะสามารถรักษาให้หายได้ ข้าพเจ้าจึงได้มีโอกาสมานฝึกนั่งภาวนากับหลวงพ่อ จนปฏิบัติได้วิชชาธรรมกาย และท่านได้รักษาโรคให้มารดาของข้าพเจ้าด้วยวิชชาธรรมกาย จนมารดาของข้าพเจ้าหายจากโรคมีร่างกายแข็งแรงเป็นปกติ มีชีวิตต่อมาอีกได้ถึง ๒๔ ปี หลังจากนั้นหลวงพ่อท่านก็ขอข้าพเจ้าจากบิดามารดา ให้มาบวชชีและอยู่ปฏิบัติภาวนาในวัดปากน้ำ ข้าพเจ้าจึงต้องจากบิดามารดา ญาติพี่น้องมาอยู่ในความอุปการะของพระเดชพระคุณท่านตั้งแต่บัดนั้น หลวงพ่อท่านจึงเปรียบเสมือนบิดาผู้ให้กำเนิดทางธรรมแก่ข้าพเจ้า ท่านได้ให้ความรู้ อบรมดูแลสั่งสอนการประพฤติปฏิบัติ ชี้แนะแนวทางการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง ให้ความเมตตาปรานีห่วงใยสารพัดสุดจะพรรณาได้หมดสิ้น

    นอกจากท่านจะมีอุปการะคุณแก่ข้าพเจ้าอย่างสูงสุดอันจะหาผู้ใดเสมอเหมือนได้ยากแล้ว ท่านยังเป็นผู้ชุบชีวิตมารดาของข้าพเจ้า ซึ่งเปรียบเสมือนตายทั้งเป็นให้ฟื้นขึ้นมาใหม่ และต่อมาทั้งบิดามารดาของข้าพเจ้าก็ได้มารักษาศีลนั่งภาวนาอยู่ภายใต้บารมีธรรมของพระเดชพระคุณท่าน สามคนพ่อแม่ลูก จึงเป็นหนี้พระคุณท่านสุดที่จะชดใช้ได้หมด

    กิตติศัพท์เรื่องหลวงพ่อวัดปากน้ำสามารถรักษาคนป่วยด้วยโรคร้ายที่สังคมรังเกียจให้หายได้นั้น แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว ทำให้มีคนสนใจวิชชาธรรมกายและเดินทางมาวัดปากน้ำเพื่อศึกษาธรรมะ และขอพึ่งบารมีหลวงพ่อเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ สมัยนั้นมีคนเดินทางมาวัดปากน้ำวันละมากๆ ทั้งๆ ที่การเดินทางมาวัดค่อนข้างลำบาก เพราะยังไม่มีถนนตัดเข้าถึงวัด ต้องเดินมาหรือไม่ก็มาทางเรือ ที่มาด้วยหวังจะยึดหลวงพ่อเป็นที่พึ่งก็มีมาก ที่ต้องการจะพิสูจน์ว่าหลวงพ่อจะเก่งจริงหรือไม่ก็มีไม่น้อย

    ตามปกติเมื่อเราเจ็บไข้ได้ป่วยมักจะไปหาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละโรค แต่หลวงพ่อท่านเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญรักษาทุกโรค ถ้าจะนำเรื่องราวความทุกข์ความเดือดร้อนของผู้คนที่มาพึ่งบารมีหลวงพ่อเรียงลำดับกันแล้วจะได้เรื่องตั้งแต่เกิดจนตายทีเดียว หลวงพ่อท่านต้องการให้ทุกคนฝึกการเจริญภาวนา เพราะมารทั้ง ๕ กำลังคอยจ้องจะตัดรอนมิให้เรามีโอกาสบำเพ็ญบุญบารมี มารทั้ง ๕ ได้แก่ขันธมารทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บ ความลำบากเป็นเหตุให้เบื่อหน่าย กิเลสมารทำให้เศร้าหมองขุ่นมัว อภิสังขารมาร คือ กรรมทั้งฝ่ายกุศลและอกุศล ทำให้ติดอยู่ในภพ สุดท้ายคือ มัจจุมาร คือความตายมาตัดโอกาสในการทำความดี

    ดังนั้น เมื่อมีผู้เจ็บป่วยมาให้หลวงพ่อรักษา ท่านจึงเห็นเป็นโอกาสที่จะฝึกบุคคลให้เจริญภาวนาพุทธานุสสติไปด้วย คนที่เจ็บป่วยไม่มากพอจะลุกนั่งได้หลวงพ่อท่านจะสอนให้นั่งภาวนา ส่วนคนที่ป่วยมากไม่สามารถลุกนั่งได้ หลวงพ่อจะให้ญาติพี่น้องหามกันมานอนที่หน้าที่รับแขกของหลวงพ่อ ท่านจะสอนให้ภาวนา สัมมา อะระหัง ไปด้วย เพื่อโรคภัยจะได้หายเร็ว

    หลวงพ่อท่านชี้แจงว่า การรักษาโรคนั้น ถ้าได้ประกอบกันทั้ง ๒ ฝ่าย คือ ฝ่ายผู้รักษาโรคและผู้ป่วยมีความเชื่อมั่นตรงกันมีกระแสจิตเชื่อมถึงกัน เปรียบเสมือนเครื่องรับวิทยุและเครื่องส่ง ต้องมีคลื่นตรงกันจึงจะหวังโอกาสหายได้มาก วันหนึ่งๆ มีผู้มารักษาโรคกับหลวงพ่อจำนวนมาก เพราะหลวงพ่อท่านรักษาโรคได้ทุกชนิด ทั้งโรคมะเร็ง วัณโรค อัมพาต โรคประสาท เมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ หลวงพ่อต้องรักษาคนที่เป็นโรคประสาทนับเป็นร้อยๆ คน เพราะความตึงเครียด ความทุกข์ความเดือดร้อนจากภัยสงคราม

    สำหรับคนที่อาการหนักท่านจะสั่งให้ญาติพี่น้องกลับไป และมอบคนป่วยไว้กับท่าน ญาติพี่น้องไม่ต้องเป็นห่วง หลวงพ่อท่านจะสั่งให้กรอกยาผงบาทจิต ซึ่งท่านสั่งให้ลูกศิษย์ผสมเตรียมไว้และแก้ด้วยวิชชาธรรมกายด้วย ไม่นานคนป่วยก็หายจากโรค ญาติพี่น้องพากลับบ้านได้ ยาผงบาทจิตนี้ ปัจจุบันนี้วัดปากน้ำยังคงผสมตามตำราของท่านไว้แจกคนทั่วไป

    หลวงพ่อท่านให้ตั้งตู้รับใบอาการโรคไว้ที่หน้ากุฏิของท่าน การเขียนใบอาการโรคต้องแจ้งชื่อ สกุล ที่อยู่ วันเดือนปีเกิด และอาการโรคที่ปรากฏอย่างละเอียดลออ การส่งใบอาการโรคมี ๔ เวลา คือ เช้า กลางวัน บ่าย เย็น หลวงพ่อท่านจะสั่งให้คนมาไขตู้ตามเวลานั้น แล้วนำใบอาการโรคมาแจกจ่ายแก่พวกที่ได้วิชชาธรรมกายเพื่อแก้โรค ถ้าเป็นลูกมาส่งใบอาการของพ่อแม่ หลวงพ่อมักจะถามว่าอยากให้พ่อแม่หายป่วยหรือไม่ ถ้าอยากให้หายป่วยต้องนั่งสมาธิเข้า ถ้าได้สมาธิจะได้ช่วยแก้โรคภัยไข้เจ็บของพ่อแม่ได้ และอานุภาพของวิชชาธรรมกาย ทำให้ผู้ป่วยจำนวนมากมายหายจากโรคได้เป็นอัศจรรย์



    อุบล เขียว
     
  14. leia17

    leia17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    331
    ค่าพลัง:
    +1,368
    ขอความกรุณาท่านผู้รู้ทั้งหลายช่วยให้คำแนะนำที่กระทู้นี้ด้วยเถอะค่ะ

    http://palungjit.org/posts/2120850

    _/|\_
     
  15. ญาณเทวี

    ญาณเทวี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +781
    ปวดหัวจนแทบอยากจะตัดทิ้งไป ที่มือที่เท้า เหมือนไฟช้อตตลอดเวลา ช่วยทีค่ะ ไม่ทราบจริงๆว่าต้องทำยังไงถึงจะหาย
     
  16. มังกรบูรพา

    มังกรบูรพา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,539
    ค่าพลัง:
    +9,407
    คุณญาณเทวี ไปขุดกระทู้มาจากไหนเนี่ย ผมก็เกือบลืมไปแล้ว

    อยากรู้ครับว่า ไปฝึกอะไรมามั่ง ลมปราณขึ้นมาเยอะ แต่ว่า

    หาทางระบายออกไม่ได้ ไม่เกิดการหมุนเวียนภายใน

    อวัยวะส่วนที่ปราณคั่งค้างอยู่ เลยชีช้ำกะหล่ำปลี ถ้าปล่อยไว้นาน

    ร่างกายมีปัญหา แน่นอนครับ รีบมาเล่าให้ฟัง ด่วน ด่วน
     
  17. ญาณเทวี

    ญาณเทวี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +781
    ยังไม่ได้ฝึกอะไรจริงจังเลยค่ะ เพิ่งมาสนใจได้ประมาณสองสัปดาห์ เริ่มนั่งสมาธิหมุน ลองทำได้สามสี่วันเองค่ะ วันนึงก็นั่งสมาธิไม่ถึงสิบนาที แล้วก็ลองนั่งเพ่งกสินไฟจากรูปอีกสองสามครั้ง(อันนี้รู้สึกว่ามีความร้อนออกมาจากรูปด้วย เลยไม่กล้าทำต่อ) นอกนั้นก้อจะอาศัยอ่านตามกระทู้ พวกจักระนี่ก็เพิ่งเริ่มมาสนใจ รู้สึกว่าอยากทำเป็นบ้าง (แค่อ่านเฉยๆนะคะ ยังไม่ได้ฝึกเลย)
    ช่วงที่เริ่มมานั่งสมาธิจะปวดหัวทุกวันเลย เมื่อคืนนี้เป็นหนักมาก ปวดหัวแทบจะระเบิด ส่วนอาการหายใจไม่เต็มปอด เหนื่อย ปวดจิ้ดๆตามตัว กล้ามเนื้อกระตุก มือเท้าชาเหมือนช้อตๆ พอเอามือมาจ่อกันไว้ก้อจะร้อน เหมือนมีความร้อนออกมา ยังสับสนกับตัวเองอยู่เลยค่ะ เพราะไม่มีความรู้เรื่องนี้เลยจริงๆ เพิ่งมาเริ่มสนใจและไม่คิดว่ามันจะมีผลกระทบอะไรมากมายขนาดนี้
     
  18. ญาณเทวี

    ญาณเทวี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +781
    ปวดหัวแทบจะระเบิด อยากอยู่คนเดียว ไม่อยากเจอใคร วันๆนั่งอ่านแต่กระทู้ในเวปพลังจิต พยายามหาคำตอบให้ได้ว่าเราเป็นอะไรไป ตั้งแต่เริ่มนั่งสมาธิ เพิ่งมาสนใจเรื่องนี้จริงๆจังๆได้ไม่ถึงสองสัปดาห์ จากนั้นก็รู้สึกว่าจะคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่อง ส่วนเรื่องพลังจิต จักระ พวกพลังงานความร้อนอะไรไม่รู้มันมาจากไหน ไม่เคยฝึก แค่อ่านดู รู้สึกว่าอยากทำได้บ้างแต่ไม่เคยลองทำ ตอนนี้มันร้อนไปทั้งตัว อยากไปนั่งแช่ในน้ำแข็ง มือชาตัวชา ปวดจี้ดๆที่มือ พอเอามาอังดูก้อร้อน ปล่อยออกไม่เป็น อาการอื่นๆก้อเริ่มมีมาเรื่อยๆไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ไปบอกใครที่บ้านเค้าหาว่าเราบ้า โรคจิต คิดไปเอง ตอนนี้คุยกับใครไม่ได้เลยจริงๆ ส่วนอ่านใจหรือตาที่สามก้อไม่มี มีปวดหว่างตาบ้างเป็นครั้งคราว ในหูมีเสียงวิ้งๆบางทีก้อหวีดเหมือนนกหวีดในหู หาคำตอบไม่ได้เลยค่ะ ว่าตัวเองเป็นอะไรไป
     
  19. ธาตุ4

    ธาตุ4 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    84
    ค่าพลัง:
    +91
    มีอาการร้อนวูปวาบ เลื่อนจากปลายเท้ามาที่ศรีษะ แล้วย้อนจากศรีษะไปที่ปลายเท้า รู้สึกเหมือนโล่งแต่อึดอัด เหมือนมีพลังวนเวียนตามฝ่ามือ ตามร่างกายหรือเปล่าครับ
     
  20. ญาณเทวี

    ญาณเทวี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +781
    มันวูบวาบยังไงบอกไม่ถูก อาการเหมือนคนเป็นไข้ร้อนข้างใน เปิดแอร์หนาวๆขนลุกแต่ข้างในมันร้อน วันนี้เหมือนคนเป็นไข้ แต่ตอนเย็นเหมือนมีลมเย็นๆออกมาจากฝ่ามือด้วยค่ะ สับสนในชีวิต เหอๆ งงเหมือนกันว่า นี่เราเป็นไรหว่า ป่วยรึป่าว ส่วนอาการที่ชัดสุดนี่ก้อคงอาการมือชาเหมือนเอาน้ำเย็นจัดๆมาราดที่มือ เป็นตลอดเวลาเลยค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...