โลกนี้มันเลวร้ายขึ้นทุกวัน

ในห้อง 'งานบวช' ตั้งกระทู้โดย Nnnnnnnn, 18 มีนาคม 2016.

  1. Nnnnnnnn

    Nnnnnnnn สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +3
    สวัสดีคับ ผมรู้สึกเบื่อทางโลกมากๆ อยากอยู่ที่ๆสงบๆ แต่มีห่วงเหมือนโซ่ล่ามไว้ ด้วยภาระหนี้สินเป็นปัญหาทางโลกที่ผมคนเดียวแก้ไม่ได้ ได้โปรดช่วยผู้ใจบุญตัดโซ่ให้ได้ไหม ผมพร้อมจะไปในที่สงบแล้ว อยากตายในผ้าเหลือง จะอยู่ในเพศบรรพชิตใจกว่าจะไม่เหลือลมหายใจ ขออยู่วัดป่าบ้านนอกที่ห่างไกลเมืองจะดีมาก ขออ้อนวอนผู้ที่มีกำลังจะช่วยได้คับ ไลน์ผมคับ rjbigmax
     
  2. ไข่หวานน้อย

    ไข่หวานน้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    15,334
    ค่าพลัง:
    +19,015
    วัดป่าซับวารินทร์รัตนมงคล ต.บัววัฒนา อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ ที่นี่สงบเงียบ
     
  3. จิตปราโมทย์

    จิตปราโมทย์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2017
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +103
    ไม่รู้ว่าจะโพสต์ช้าไปไหม แต่การที่คุณยังมีหนี้สินอยู่ ทางวัดเขาจะไม่ให้บวชนะคะ คุณต้องอยู่แล้วทำหน้าที่ของคุณต่อไป เช่น หากมีครอบครัว มีพ่อแม่ต้องดูแล คุณก็ต้องทำหน้าที่นั้นให้ดีที่สุดก่อน การที่ลูกดูแลพ่อแม่ พระพุทธองค์ให้เป็นสุดยอดของกรรมดีเช่นกัน การหาคนช่วยเหลือคุณอาจพอมีก็ได้นะ การจะไปบวชโดยทิ้งปัญหาหนี้ไว้แบบนี้ไม่ใช่การทำที่ถูกต้อง คุณเชื่อเรื่องกรรมที่ทำมาทำหน้าที่จัดสรรการกระทำของเราไหม การที่อยากบวชแต่ไม่ได้บวชเพราะมีกรรมใดก็ตามที่ยังขวางคุณอยู่ คุณต้องทำหน้าที่ของคุณต่อไป แต่อย่าท้อแท้มาก ฉันไม่ได้หมายความว่าให้คุณไปโทษกรรมเก่าหรือกรรมใดๆ การทำหน้าที่ของคุณ ณ ปัจจุบันสำคัญที่สุด คุณลองคิดดูนะฉันเคยอ่านหลายคน บางคนไม่เคยมีความคิดอยากบวชเลย แต่เพราะว่าถึงภาวะที่บุญที่ทำมานำส่งผลักดันให้ต้องไปเป็นนักบวช เช่น พ่อหรือแม่อยากให้บวช อยากให้บวชตามความเชื่อจะเกาะชายผ้าเหลืองของลูกชายไปสวรรค์ เป็นต้น คุณคิดว่าถ้าคุณเป็นพระแล้ว จะหาความสงบใจได้จริงๆหรือเปล่า คุณจะไม่ทุกข์ใจว่าคนในครอบครัวยังมีหนี้อยู่หรือ ถ้าเป็นพระแล้วมีความทุกข์ใจเรื่องหนี้ก็จะเป็นพระที่ไม่ประสบความสำเร็จทางธรรม ฉันก็เป็นหนึ่งในคนที่อยากบวช แต่มีหน้าที่ต้องดูแลพ่อแม่ จึงต้องทำหน้าที่นี้ก่อน ในโลกนี้ไม่ใช่คุณคนเดียวที่เบื่อหรอกค่ะ ทุกสิ่งทุกอย่างหากเราแก้ไขไม่ไหว ลองหาทางปรึกษาคนอื่นดู เป็นฆราวาสถือศีลห้าไว้ให้มั่นคง สวดมนต์ นั่งสมาธิ และแผ่เมตตา ทำการสะสมบุญทุกๆวัน ไม่ทำความชั่วทั้งปวง และทำจิตให้สะอาดบริสุทธิ์อย่างที่พระพุทธเจ้าสอน ทุกอย่างล้วนต้องพยายามด้วยตัวเราเองทั้งนั้น แล้วชีวิตคุณจะดีขึ้นได้อย่างอัศจรรย์ ไม่มีเงินก็ไม่ต้องเดือนร้อน ทำอย่างข้างบนนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นกรรมดีทั้งนั้น หาเงินมาได้ก็นำมาใช้จ่ายในครอบครัว จ่ายหนี้ มีเงินเก็บเมื่อไรทำบุญเท่าที่ไม่เดือนร้อนตนเอง เช่น ห้าบาทสิบบาทก็ได้ เอาตามสะดวก แต่หากเป็นพระ ถือศีล 227 ข้อ จะมาทำย่อหย่อน ทำตามใจตนเอง ข้อนี้ฉันจะทำข้อนี้จะไม่ทำ ทำอย่างนี้ไม่ได้ ลองหาอ่านข้อมูลของหลวงพ่อฤาษีลิงดำดูสิคะ ฉันจำประโยคที่ท่านพูดเป๊ะๆไม่ได้ แต่ท่านบอกทำนองว่า "หากเป็นพระแล้ว หากจะมาถือศีลแค่ 5 ข้อ อย่างเคร่งครัด ก็ลงนรก" ท่านว่าชีวิตของพระไม่ง่าย ท่านยังบอกต่อว่า "ฆราวาสฆ่าปลาหนึ่งร้อยตัว พระฆ่าปลาตัวเดียว พระบาปกว่าฆราวาส"
     
  4. จิตปราโมทย์

    จิตปราโมทย์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2017
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +103
    ที่สงบๆในโลกแท้จริงแล้วไม่มีหรอกค่ะ ฉันเคยอ่านจากพระที่เป็นนักธุดงค์นักปฏิบัติธรรม ตอนแรกท่านอยู่วัดก็ยังมีเรื่องวุ่นวาย ไหนจะภารกิจทางสงฆ์ ญาติโยมมาหาปรึกษามีแต่เรื่องของมนุษย์ปุถุชน หาความสงบมาปฏิบัติทางจิตได้ยาก แต่ก็ต้องแบ่งเวลาเอง ท่านจึงขอไปอยู่ป่า คิดว่าต้องได้ความสงบแน่นอน แต่ท่านบอกว่าเสียงต่างๆในป่าก็มีแต่เสียงหนวกหู เช่น เสียงสัตว์ต่างๆร้อง เสียงลม เสียงน้ำ เสียงใบไม้ เป็นต้น แท้จริงแล้วพระพุทธองค์จึงให้ฝึกจิตของตนเอง ให้รู้สภาวะเท่าทันจิตใจตนเอง ความนึกคิดหลายอย่างที่เราทั้งชอบไม่ชอบ ล้วนเกิดจากการปรุงแต่งขึ้นมาทั้งสิ้น แน่นอนว่าความทุกข์ในโลกมี ความสุขในโลกมี การที่คนเราจะอยู่ในสภาวะใดๆ ทั้งฆราวาสและนักบวช หากเป็นผู้ฝึกจิตตนแล้ว ย่อมเป็นการพัฒนาจิตวิญญาณของตนเองได้ทุกวัน อย่างฉันมีพ่อแม่ดูแล แม้มีเรื่องเบื่อๆเซ็งๆ แต่เพราะฉันใจใฝ่ธรรมะ หาอ่าน ฟัง ธรรมะของพระพุทธองค์และพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ (พระไหนไม่ดี ไม่สนใจ) จิตใจแม้เมื่อมีทุกข์มาเยือนก็บรรเทาลงได้ เมื่อมีสุขมาเยือนก็ไม่โอเวอร์กับมันเกินไป เพราะสิ่งเหล่านี้มาแล้วไปเป็นช่วงๆ หากเป็นพระไม่ดำเนินตามคำสอนของพระพุทธองค์อย่างเคร่งครัด แม้ตายในผ้าเหลืองจะขึ้นชื่อว่าตายสงบได้หรือ บางรูปอาจดูตายสงบ แต่หากละเมิดศีลของพระแล้ว ชีวิตหลังความตายคืออบายภูมิ แต่บางรูปแม้อาจตายดูไม่สงบ เช่น ประสบอุบติเหตุตาย เป็นต้น แต่หากฝีกจิตดี ตายไปย่อมเข้าสู่สุคติภูมิ ขอเป็นกำลังใจให้กับคุณ ชีวิตก็ต้องสู้กันต่อไปค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...