ใครชำนาญทำสิ่งเหล่านี้ได้บ้าง ไม่เอานึก ฝัน มโน นะครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย somkiatfem, 10 กุมภาพันธ์ 2017.

  1. somkiatfem

    somkiatfem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2016
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +195
    1 ถอดจิตออกไปที่ต่างๆได้
    2 ตาทิพย์
    3 อภิญญา
    4 ไปนิพพานมาเเล้ว
     
  2. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ขอตอบแบบ ผู้ไม่ชำนาญ คงไม่ว่ากันนะครับ
    1.ถอดจิตไป....อันนี้ เคยแต่ฝันว่าไป ดาวต่างๆ ได้ดิน ไต้น้ำ ..ฝันแบบรู้ตัว..เหมือนกันมั้ย ไม่รู้นะ
    2.ตาทิพย์...อาจารย์ผมว่า มีหลายระดับ ระดับสูงคือ...ใจทิพย์ ไม่ต้องดู ไม่ต้องเห็น แต่รู้ได้ เข้าใจได้....อันนี้เจ๋งกว่า
    3.อภิญญา...แปลว่า ปัญญาเข้าใจโลก สิ่งเหนือโลก...ไม่สงสัย...ไช่ตัวนี้หรือเปล่า
    4.ไปนิพพานมาแล้ว....(เอาความคิดความเข้าใจของตนเองมาถามหรือเปล่าครับ) เพราะนิพพาน..ไม่ไช่ที่ไป ที่มา...เพราะนิพพานคือ นิพพานแล้ว นิพพานเลย...ไม่ไช่ ไปๆ มาๆ ได้นะครับ

    คุณคงไม่ ขุ่นเคือง ในคำตอบที่ตอบไปนะครับ
    อิอิ
     
  3. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ตอบแบบตรงๆเลยนะครับ
    ไม่อยากให้ใช้คำว่าชำนาญเลยครับ
    เพราะแค่ข้อแรกเนี่ย ก็บอกได้เลย
    ถ้าในระดับใช้งาน การทำอย่างนั้น
    แสดงว่ากำลังสติทางธรรมยังอ่อนมาก
    และถ้ายึดติดประกันได้เลยว่าเป็นพวกหลงตัวเองมากๆ
    มีแต่เด็กน้อยหลงตัวเองหละครับ ที่จะทำอย่างนี้
    จริงๆมันมีวิธีอื่นๆอยู่ครับคุณ ที่มีผลเท่ากัน
    แต่ยังไม่ขอพูดถึงนะครับ..เคยได้ยินเรื่องหลวงพ่อท่านหนึ่ง
    เดินๆอยู่แล้วไปรู้เห็นสถานที่โน้นนั่นนี่หลายๆที่พร้อมกันได้
    ไหมครับ นี่ครับระดับใช้งานครับ ไม่ใช่แบบหลับตาถอดจิต
    หรือมัวเก๊กท่า นั่งเอามาดหล่ออะไรหรอกครับ
    ค่อยว่ากันในอนาคตแล้วกันเนาะ

    และข้อ ๒ เรื่องตาทิพย์ ความละเอียดในการเห็นมัน
    มีหลายระดับครับ เหมือนคุณอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมห้องหนึ่ง
    คุณจุดเทียนหนึ่งเล่มกับคุณจุดเทียนร้อยเล่มมันก็เห็น
    รายละเอียดไม่เท่ากันแล้วครับ เพราะฉนั้นมันวัดกันยาก
    ครับเรื่องนี้ สำคัญตรงนี้ว่า คนนั้นมีเทียนที่พร้อมจะจุด
    จริงๆหรือไม่ หรือแค่นึกหรือมโนเอาครับ...นี่ครับประเด็นสำคัญ


    ๓.เรื่องอภิญญา มันมีแบบทั้งภายในและภายนอกครับ
    เราจะถามแบบไหน แบบภายในก็คือ รู้เห็นเองอยู่คนเดียว
    แต่พิสูจน์ไม่ได้ อยากจะพูดอะไรก็พูดได้ แต่ถามว่า
    ทำให้คนอื่นๆรู้เห็นอย่างตัวเองได้ไหม สอนได้ไหมหละครับ
    ตอบแทนได้เลยว่าไม่ได้ ส่วนใหญ่ให้มโนตาม
    และก็เอาไว้โม้ยกตนเองทั้งนั้นหละครับ
    และมันจะเชื่อได้ไหมหละครับที่สำคัญ...

    และแบบที่สองคือภายนอก
    คือสามารถทำให้คนอื่นๆรับรู้และพิสูจน์ได้ แสดงผลได้จริง
    เห็นผลได้จริง ที่สำคัญทำให้คนอื่นๆรู้เห็นได้เหมือนตน ณ
    เวลานั้นๆนี่คือแบบภายนอกครับ

    ๔.ไปนิพพานมาแล้ว เอาอะไรมาเป็นเครืองยืนยันว่าไปมาแล้ว
    และเข้าสู่สภาวะนิพพานจริงๆหละครับ
    ความสามารถทางจิตสูงส่ง จนเชื่อได้หรือครับ ?
    ความสามารถในการถ่ายทอดธรรมสูงส่งจนเชื่อได้หรือครับ ?
    ความสามารถในการแนะนำการปฏิบัติที่สูงจนเชื่อได้หรือครับ ?
    ความสามารถทางปัญญาทางธรรมสูงสุดจน
    พูดแบบทะลุทุลวงรู้เหตุและผลแบบละเอียดหรือครับ?
    หรือสภาวะจิตตนเอง ณ เวลานั้นที่เชื่อได้ว่าพอมีโอกาส?
    แต่ถ็จะเกิดปัญหาตามมาว่า รู้ได้ไง เอาอะไรมาพิสูจน์
    จริงๆหรือเปล่า ที่ว่าสภาวะนิพพานมันใช่ไหม รู้ได้ไง?
    หรือความสามารถในการโม้สูงส่ง ที่เอาทั้งตำรา สาขาต่างๆ
    เอาความคิดหลายๆแขนง เอาการปฏิบัติที่คิดเอาแล้วบอกว่า
    ปฏิเวธแล้วมาบอกว่าตนเองรู้แจ้ง ณ หรือครับ ?

    คนที่ทำได้จริง ชำนาญจริง เค้าไม่มีใครมาบอกหรอกครับ
    ว่าตนเองเก่ง ตนเองชำนาญ เพราะความสามารถพวกนี้
    ในระดับใช้งานได้จนชำนาญ จิตมันแทบจะตัดความยึดมั่น
    ถือมั่นได้หมดแล้ว ไม่ติดในเรื่องลาภ เรื่องยศ เรื่องสุข
    หรือการอยากได้รับการยอมรับ หรือการสรรเสริญใดๆแล้ว
    เค้าไม่มาพูดหาเรื่องให้ตัวเองหรอกครับ..
    แต่เค้าจะพิสูจน์ตนเองเอา
    ไม่ว่าทางใดทางหนึ่งครับ..
    เช่น การถ่ายทอดการปฏิบัติ การถ่ายทอดทางธรรม
    และการพิสูจน์และแสดงจริงๆ ณ เวลานั้นๆ
    กับบุคคลที่ต้องการพิสูจน์ครับ...
    ที่พูดมาทั้งหมดต่อให้ทำได้จริง พิสูจน์ได้จริง
    ก็ยังไม่พ้นครับ และที่สำคัญไม่ใช่ทางตรง
    ทางพุทธศาสนาครับ...
    เพราะฉนั้นอย่าไปให้ความสำคัญกับมันมากครับ

    ยกเว้นเอาไว้ดัก พวกบุคคลบางประเภทได้อยู่ครับ
     
  4. somkiatfem

    somkiatfem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2016
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +195
    ถ้าจะกรุณา ช่วยจัดให้ผมขุ่นเคือง อย่างเเรงหลายๆที ใครก็ได้จัดมาได้เรื่อยๆคุณเสือ__ทั้งหลาย

    การตอบของคุณทำให้ผมรู้ว่าคุณได้อะไร เเละรู้เเค่ไหน (ผมไม่มีเเรงจะวิจารณ์ต่อ)
     
  5. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    โอ้ย..ไม่ไช่ธุระกงการอะไรของผม ที่จะไป ยั่วกระตุ้นให้คนโง่ๆอย่างคุณ ต้องมาขุ่นเคืองหรอกครับ.....โง่เกินจะ ขุ่นเคืองได้....แบบนี้..ขอบาย

    คำเขาว่า มีศัตรูเป็นบัณฑิต ดีกว่ามีมิตรเป็นคนพาล และโง่ด้วย..ยิ่ง ขอบายครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กุมภาพันธ์ 2017
  6. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    เห็นมั้ยถึงผมตอบไป...ก็ไม่มีปัญญาจะเข้าใจได้ อยู่ดี...เสือ_ชอบถามทั้งหลาย
     
  7. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    น่าจะยอ
    น่าจะยอมรับตามจริงว่า ไร้ปัญญาจะวิจารณ์ต่อ...แทนที่จะมาอ้างว่าไร้เรี่ยวแรง...ไปอ่านมาใหม่ นะครับ อ่านให้เยอะๆ...เผื่อจะคิดคำถามได้ ดีกว่านี้ และอาจมีประโยชน์กว่านี้ นะครับ
     
  8. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    เออ มันต้อง ท้ากันแบบนี้สิ

    ท้า จัดให้ขุ่นเคือง ..... อย่างแรงด้วยชะมะ

    ปรารภเสร็จ ก็ ปรารภความเพียรในทำนองว่า " จะกำหนดรู้ จิต ของตน "
    ค่อยเหมือน นักวิปัสสนาเข้ามาหน่อย

    ต่างจาก นักสมถะ สมาธิ กลัว การวางอารมณ์สมาธิ จะเสีย เที่ยว
    กอดเข่า งอขิง รับไม่ได้ในการ กระทบ

    เอานะ

    1. ถอดจิต มันไม่ยาก หากจิตเป็น สมาธิ เบากายเบาใจ เกิดปิติ
    แล้วมีอุเบกขา พยาบาทวิตก วิหิงสาวิตก ไม่เกิด ไม่พาไปซื้อ
    ขนมปังวางหน้าโบสถ์ วันนั้น เวลานั้น หาก สถาณที่ กาลเทศะ
    มันเอื้อ ให้ น้อมจิตรำพึงดีๆ มันจะ ถอดจิตได้ ไม่ได้ยากเลย
    ถอดไปแล้วจะไปสวรรคิ์ นรก ก็กำหนดไป ...จะไปวัด เข้าฟังเทศน์
    ก็กำหนดไป

    แต่....เขาไม่ได้วัดที่ มันไปได้ หรือไปไม่ได้

    และ เขาไม่ได้วัดที่ วันนั้นจิตดี ควรแก่การงาน แล้ว วางจิต เป็น

    เขาจะวัดกันที่ จิตมันเคลื่อน เกิดอุปกิเลส10 หรือเปล่า มันอุปทาน
    สร้างภพเพื่อยกตน ยกดาวประดับยศ ใครค้านไม่ได้หรือเปล่า

    แล้วก็ไม่ได้ดูอีกว่า กำหนดรู้อุปกิเลส ได้หรือไม่ได้ อีก

    เรียกว่า กว่าจะเกิด ความรู้ยิ่ง ยิ่งไปกว่าการ " รู้ " ต้องใช้ อุบายสารพัด
    ใช้ไปแล้วก็ใช่ว่า จะบอกว่า รู้อยู่ที่รู้ เป็นหรือไม่เป็น

    ดังนั้น ถอดจิตได้ หรือไม่ได้ มันไม่เกี่ยวกับ การเจริญสติปัฏฐาน ยังเป็น
    ฟ้ากับเหว มองออกหรือเปล่า ถ้ามองออก จะถือว่า เริ่มนับหนึ่ง กำหนดรู้ทุกข์

    ********************************

    2. ตาทิพย์ มันก็เหมือนกับ ถอดจิต จะต้องฉลาดใน จิต ที่มัน วิ่งเข้า
    เสวยอารมณ์ หากอารมณ์ที่มันเสวยขณะเวลานั้น มันไม่มี อุปทาน ตัณหา
    จิตมันอ่อน ควรแก่การงาน เดินอยู่นี่ ก็กำหนดรู้การเห็นไป ข้างหน้า ข้าง
    หลัง ข้างบน ข้างล่าง แล้วถ้า ภาพมันตรง ก็รู้ว่า มันตรง ถ้ามันไม่ตรง
    ก็รู้ไปซื่อว่าไม่ตรง เขาไม่ได้วัดว่า ตาทิพย์นั้น เห็นได้ขนาดไหน

    เขาวัดกันที่ เห็นความเจริญและเสื่อม ของ อายตนะ เป็นหรือไม่เป็น

    ถ้ายกเป็น จะเกิด ตา อีกชนิดหนึ่ง ยิ่งกว่าทิพย์ แต่ก็อาศัย ตาทิพย์

    อ่านดีๆนะ จะเห็นว่า พูดเหมือนข้างบน แต่ต่าง พยัญชนะ ที่ใช่ประกอบ
    เพื่อสื่อการปฏิบัติธรรม

    *****************************

    3. อภิญญา ถ้าฟัง 2 ข้อบน แล้วเห็นความเป็นหนึ่ง มรรคมีทางเดียว
    ไม่ใช่มีหลายทาง ก็จะเริ่มเห็น อภิญญา ที่เป็นของชาวบ้าน( ของชาวบ้าน
    เป็น ภาษาพระไตรปิฏกของคนโบราณ ภาษาสมัยใหม่คือ ใครอบรม
    บ่อยๆก็ย่อมต้องฝึกได้หา่กไม่หนีไปเสียก่อน )

    ทีนี้ ต้องฟาดด้วยคำว่า ของชาวบ้าน ตรงนี้ไม่ใช่ การตราหน้า หยามเหยียด
    มันเป็น ภาษาปฏิบัติที่จะเอื้อให้ คนใส่ใจพิสูจน์ธรรมของพระพุทธองค์ เกิด
    การขยับมุมมอง ถ้าศีลมีเป็นบารมี จิตตั้งมั่นดี จะไม่ไหลลงต่ำ

    พอจิตไม่ไหลลงต่ำ พอคนเขาฟาดด้วยคำว่า " ของชาวบ้าน " จิตจะสูงขึ้น
    ยกขึ้นเป็นเห็น ธรรมยิ่งกว่า มีไหม ถ้า เออะ อะ อะ เขย่งๆ จะมี เขย่งจะดู
    เขาจะถือว่า ช่วยกันให้อาจหาญ ร่าเริง ในการสมาทานสิกขาบท

    ซึ่งถ้าเข้าใจ ก็จะเห็นว่า พูดเหมือน สองข้อแรก อยู่ดี แต่ ต่างพยัญชนะ
    ที่ใช้ประกอบ เพื่อ ส่งจิตยกจิต

    ********************************

    นิพพาน คนเห็น นิพพาน มีหลายอย่าง

    มี เก้าบุคคล คือ นอกจาก อริยบุคคล4คู่ 8อย่าง

    มันยังมี คนแปลกประหลาดอีกหนึ่งประเภท เห็น แต่ไม่ได้ ชิม
    และรู้แบบ คนวงนอก เห็นคนเป็นจำนวนมากเดินลงไปในสนาม
    ด้วยอาการ ลีลา แตกต่างกัน สารพัด .....ยกตัวอย่าง องคุลีมาน
    นี่ก็เดินเข้า สนามได้ มรรคเป็นหนึ่งเหมือนกัน เป๊ะ กับคนอื่นๆ
    [ ปล. จริงๆ ไม่ได้เห็นจาก คนอื่นหลอก มันมีบางอย่างที่ทำ
    ให้ทราบ ร่องรอยของกงกรรมกงเกวียนอย่างนี้ ก็มี ไม่ต้องมานั่งนึก
    แต่มีพร้อม ส่วนพวกไม่พร้อม ต้องเข้าไปถาม นั่น ขี้ทูตกุดถัง ]


    *******************

    ปล. ตรงที่กล่าวว่า เดินเข้าไปในสนาม อันนี้ ใช้ บัญญัติร่วมสมัย
    ถ้าใช้ภาษาคนโบราณ ก็จะใช้ คำว่า " เดินเข้าไปเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ในวง "
    ซึ่งมันเป็น ภาษาที่ เอื้อ ส่งจิตยกจิต ไม่ใช่ บัญญัตการเป็น บ้าน เป็นเมือง อะไร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กุมภาพันธ์ 2017
  9. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    เนี่ยที่ผมตอบไป..ไม่ได้นึก ไม่ได้มโน ไม่ได้ฝัน..นะที่ตอบไปน่ะ

    แล้วไม่มีปัญญาพอที่จะเข้าใจ...แล้วมาถาม ทำไม๊

    ทำได้เปล่า...ตอบโดยไม่คิดน่ะ..รู้จักเปล่า
     
  10. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    แกมาตอบให้เสียเวลาไปทำไม คนมันไม่มีปัญญาเข้าใจได้หรอก....แกเข้าใจคำถามมั้ย..ตอบแบบไม่คิด ไม่นึก ไม่ฝัน ไม่มโน....แกทำไม่ได้ แกมาตอบทำไม...ฉันทำได้ ตอบไปแล้ว..มันยังเข้าใจไม่ได้เลย...ไป๊ๆ นิวรณ์ ไปกินหญ้า ไปตอบคำถาม ที่ถามเอาไว้สิ
     
  11. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    นิวรณ์ ผมถามแกว่า..คิด กับ รู้ มันต่างกันตรงไหน...ตอบสิ..จะให้กินหญ้า อิอิ
     
  12. somkiatfem

    somkiatfem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2016
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +195
    ผมจะต้องอ่านทำไมให้ปวดตา ในเมื่อผมอยู่เฉยๆผมก็ สบายใจผมอยู่เเล้ว มีสุขอยู่เเล้ว คุณอ่านเยอะไปเปล่า 555
     
  13. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ความจริง การยั่วยุคนให้ขุ่นเคืองเนี่ย...มีหลายระดับนะ

    แต่สำหรับคุณ ถ้าด่ามากกว่านี้...ก็จะโกรธจริงขึ้นมา...แล้วระงับไม่อยู่

    ผมแค่เมตตาสงสาร น่ะ ไม่อยากแกล้ง สัตว์..กลัวโดน..


    แค่คุณ ยอมรับว่า ไม่กล้าแม้จะอ่าน...เนี่ยคือ การยอมรับว่า...ขี้แพ้แล้วครับ
     
  14. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    โห ตั้งสติ ซะตัวเกร็งเลย...กดข่มด้วยฌาณ...ขนาดหนักเลย

    อนุบาล แท้ๆ...นะเนี่ย
     
  15. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    เชยระเบิด ระเบ้อ

    อย่าไปดู หัวกระทู้ หรือ คำโพสอธิบาย ประกอบ จิฮับ

    ปัญญาหานี้ มันไม่ได้ ปรากฏ ตามตัวหนังสือ

    เรื่องของเรื่อง คือ มันมีการเพ่งเข้าไปเห้น

    " อาการของจิต ที่สร้างขึ้นมา เพื่อ ตอบสนอง ผัสสะ "

    พอเกิด ผัสสะ ชนิดหนึ่ง มันจะเกิด การสร้างภพ เพื่ออยู่ เพื่อเป็น

    เขาอยากเห็นว่า อาการทางจิตแบบนั้น เขายังมีหรือเปล่า

    ถ้าเขามี ผัสสะ ปรากฏ จิตเขาก็ ฉึบ ไม่ฮือ ไม่อือ

    เขาก็พอใจ

    เหมือนว่า ผู้ชายเห็น กระเทย แล้ว ตัวเอง ไม่จุกกรู้ ก็พอใจ
    ที่จะเป็น สิ่งนั้น เสวยสิ่งนั้น ครองความเป็นผู้ข้อง(สัตตะ)อย่างนั้น
     
  16. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    ใครบอก เขาตัวเกร็ง

    เขากด แบบ เบาๆ สบายๆ เยิ้มเคลิ้ม เลยหละ
     
  17. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ตอบเป็นภาษาคน สิเว้ย...
    อย่าตอบแบบ ...หมีเมาน้ำตาล...

    ความต่าง ของ คิด กับ รู้...ตอบมาให้ชัดเจน..อย่าตอบมาแบบให้คนอ่านคิดต่อ สิเว้ย...โง่ดักดาน ตลอดกัปน์จริงๆ
     
  18. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    แกไปรู้ กะเขาด้วยเหรอ...อย่าคิด อย่านึก อย่ามโน ดิ
     
  19. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    เชย ระเบิด ระเบ้อ

    น้าจร ต้องแยบคาย พิจารณา จิฮับ

    บ่อล่อปลา มันก็ต้อง ทำหน้าที่ บ่อล่อปลา

    คนเขา ปรารภ ว่า วันนี้จะขุดบ่อล่อปลา

    ถามว่า เขาขุดเพื่อ ดักปลา หรอ

    ม่ายช่าย หน่าฮับ

    เขาขุด เพื่อจะได้ ทำตัวเป็น นักล่อปลา

    คนขุดล่อปลา แล้วหวังว่า ปลามันจะเหนื่อย จะหน่าย
    นี่ มันก็ยิ่งแสดงออกถึง ความเป็น นักล่อปลา

    เขาพอใจแบบนั้น จะขอ กำหนดรู้ พิสูจน์ จัดการบริหารจิตเขา
    เราก็จัดไป ให้มากๆ ยิ่งมาก เขาก็ยิ่งพอใจ ที่ แสดงอาการ
    อย่างโน้น อย่างนี้ ได้อยู่ จุ๊กกรู้ กันไป
     
  20. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    แค่คำถามว่า....ใครไปนิพพานมาแล้ว.....แค่คำถาม คนที่จะตอบได้ มันก็ตอบได้โดย นึกคิดเอา มโนเอา ฝันเอา....เท่านั้นแหล่ะ มันถึงจะตอบได้

    แกไงนิวรณ์...ไปนิพพานมาแล้ว...
     

แชร์หน้านี้

Loading...