ใครทราบบริจาคเลือด ได้อานิสงค์อย่างไรครับ

ในห้อง 'บุญ-อานิสงส์การทำบุญ' ตั้งกระทู้โดย วสุธรรม, 26 ธันวาคม 2009.

  1. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    ใครทราบบริจาคเลือด ได้อานิสงค์อย่างไรครับ
    รบกวนแนะนำหน่อยครับ
     
  2. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
  3. unix_family

    unix_family เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +217
    การบริจาคเลือด ถ้ากำลังใจถึงถือเป็นทานในขั้นสูง เพราะเท่ากับสละได้แม้แต่เลือดเนื้อของตนเอง ถ้าเกาะกำลังใจดี ๆ พิจารณาวิปัสนาต่ออีกหน่อย ก็อาจได้เกาะกระแส เข้านิพพานครับ อนุโมทนาด้วย เหตุเพราะละสักกายทิฐิ ได้ ครับ
     
  4. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    อานิสงส์การบริจาคเลือด

    --------------------------------------------------------------------------------

    อานิสงส์การบริจาคเลือด เสริมชีวิตให้เป็นแก่นสาร บังเกิดบุญมหาศาล ได้สร้างทานบารมี






    ปัจจุบันมักมีการพูดถึงกันอยู่บ่อยๆ เกี่ยวกับการให้ การบริจาค ไม่ว่าจะเป็นการให้วัตถุหรือให้ธรรมเป็นทาน หรือให้อภัยเป็นทาน ก็ตาม
    แต่มีทานที่สำคัญยิ่งอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งมักไม่มีใครนำมาพูดถึงกันเลย นั่นก็คือ การให้ชีวิตเป็นทาน

    การให้ชีวิตเป็นทาน คนทั่วไปมักเข้าใจกันว่า ต้องสละชีวิตของตัวเอง และต้องตายเพื่อให้คนอื่นมีชีวิตอยู่เท่านั้น จึงจะถือว่าเป็นทานข้อนี้ได้

    แต่ในยุคปัจจุบัน คงจะหาคนที่มีความเสียสละมากมายถึงเพียงนั้นได้ยาก บางทีแม้ว่าจะต้องเสียสละเพื่อท่านผู้มีอุปการคุณ มีบุญคุณ เช่น พ่อ แม่ ที่กำลังป่วยหนักต้องการคนคอยปรนนิบัติดูแลอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะลูกๆ ซึ่งมีหน้าที่โดยตรง ก็มักจะมีการเกี่ยงกันทำ มักอ้างความจำเป็นต่างๆ มากมาย มากีดกันตัวเองออกจากหน้าที่ที่ควรทำ

    ถ้าเป็นไปได้ก็มักจะไม่ทำหน้าที่นี้ด้วยตัวเอง แต่จะใช้วิธีจ้างคนอื่น จ้างพยาบาล ซึ่งทุกวันนี้จะมีหน่วยงานที่มีพนักงานสำหรับรับทำหน้าที่บริการด้านพยาบาล หรือดูแลคนป่วยคนชรา คอยสนองบรรดาลูกๆ ที่ต่างคนก็ต่างพยายามหลีกเลี่ยงหน้าที่สำคัญที่สุด ซึ่งลูกๆ ที่ดีจะพึงปฏิบัติพึงกระทำกัน
    ลูกบางคนพอเห็นว่าได้จ้างพยาบาล หรือคนดูแลพ่อแม่ไว้แล้ว ก็คิดว่าตัวเองหมดหน้าที่แล้ว ไม่เคยสอดส่องดูแลให้ความสนใจ ที่จะมาคอยดูว่า พ่อแม่ต้องการอะไรบ้างด้วยตัวเองเลย นานๆ จะมาให้พ่อแม่เห็นหน้าสักครั้ง บางทีหายไปเป็นเดือน หลายเดือน ความจริงท่านเหล่านั้นคงไม่ต้องการสิ่งใดอื่น นอกจากได้เห็นหน้าลูกๆ บ้าง เห็นลูกๆ ประสบความสำเร็จ มีความสุขกัน พ่อแม่ก็แทบจะหายเจ็บหายป่วยแล้ว สิ่งเหล่านี้นับว่าเป็นเรื่องที่น่าเศร้าสลดหดหู่ที่สุดในสังคมปัจจุบัน

    การให้ชีวิตเป็นทาน ก็มีทางให้เลือกหลายทาง โดยไม่จำเป็นที่ตัวเองจะต้องตายเพื่อผู้อื่นเสมอไป การบริจาคโลหิต คือ การให้ชีวิตเป็นทานอย่างหนึ่ง จะเห็นว่าบางทีคนที่กำลังป่วย อาการทรุดหนัก ไม่ว่าจะเกิดจากอุบัติเหตุหรือโรคร้ายใดๆ ก็ตาม ที่ทำให้เลือดในร่างกายเสียไป หรือทำให้เสียเลือดมาก ถ้าเขามีโอกาสที่จะได้รับโลหิตแม้เพียงหยดเดียว อาจช่วยให้เขามีชีวิตอยู่ในโลกนี้ เพื่อทำความดีทำบุญสร้างกุศล ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวมอีกต่อไปได้

    โลหิต เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับชีวิตของมนุษย์และสัตว์โลกทั่วๆ ไป เพราะเป็นสิ่งที่มีส่วนในการช่วยเหลือชีวิตผู้ป่วยให้อยู่รอดปลอดภัย นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกต่างก็ได้พยายามค้นคว้าวิจัยมาเป็นเวลานาน แต่ยังไม่ประสบผลสำเร็จในการหาสารประกอบอื่นๆ ที่จะนำมาใช้ทดแทนโลหิตในร่างกายได้ ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องจัดให้มีการบริจาคโลหิต เพื่อให้เกิดการถ่ายเท หรือให้โลหิตจากบุคคลหนึ่งไปยังอีกบุคคลหนึ่งได้

    การบริจาคโลหิตคือ การสละโลหิตส่วนเกินที่ร่างกายไม่จำเป็นต้องใช้ เพื่อให้กับผู้ป่วยที่มีความต้องการ เป็นสิ่งที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายเลย

    ผู้บริจาคโลหิต สามารถบริจาคได้ในทุกๆ ๓ เดือน เพราะเมื่อบริจาคออกไปแล้ว ภายในระยะเวลาที่กำหนด ไขกระดูกจะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างเม็ดโลหิต ขึ้นมาทดแทนส่วนที่ขาดหายไป ให้โลหิตในร่างกายมีปริมาณเท่าเดิม ถ้าไม่ได้บริจาคหรือถ่ายเทออกไป ร่างกายก็จะขับเม็ดโลหิตที่สลายตัว ซึ่งไม่มีประโยชน์ต่อร่างกายแล้วเพราะหมดอายุ ออกมาในรูปของปัสสาวะ อุจจาระ หรือเหงื่อ อยู่เป็นประจำทุกวัน

    เมื่อโลหิตมีความสำคัญยิ่งสำหรับชีวิตคนและสัตว์ เมื่อขาดโลหิตทุกชีวิตต้องตาย ให้ความหมายคล้ายต้นไม้ขาดน้ำ มีแต่จะช้ำเหี่ยวเฉาและแห้งตายไปในที่สุด
    ผู้ป่วยที่มีอาการทรุดหนัก สามารถดำรงชีวิตอยู่ต่อไปได้เมื่อได้รับโลหิตทันต่อเวลา จากชีวิตสู่ชีวิต มอบโลหิตช่วยผู้ป่วย ให้เลือดให้ชีวิต บริจาคโลหิตเสริมชีวิตให้เป็นบุญ

    การบริจาคโลหิตจึงถือว่าได้เสียสละสิ่งที่มีค่าที่สุดในร่างกาย ในชีวิตของคนเรา นอกจากจะทำให้เกิดความภาคภูมิใจ ที่ได้เสียสละโลหิตในร่างกายของตัวเอง ช่วยต่ออายุให้ชีวิตแก่คนป่วยที่กำลังจะตาย เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์มหาศาลแก่ผู้อื่นที่ได้รับโลหิตจากผู้บริจาคไปแล้ว สิ่งที่จะเกิดตามมาคือ ผู้บริจาคได้ทราบหมู่โลหิต และได้ตรวจคุณภาพโลหิตของตัวเอง ได้รับการตรวจสุขภาพในทุกๆ ๓ เดือน

    กรณีผู้บริจาคโลหิตตามกำหนด นอกจากจะได้รับการตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี ไวรัสตับอักเสบ ซี เชื้อไวรัสเอดส์ และเชื้อซิฟิลิส (กามโรค) แล้ว ยังเป็นการช่วยสร้างเสริมเพิ่มพูนทานบารมีที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งยากที่ใครจะทำให้เกิดให้มีขึ้นได้ ย่อมได้รับอานิสงส์ส่งผลตามมาภายหลัง ดังคำที่ว่า ผู้ให้ย่อมได้รับการให้ตอบ ผู้ไหว้ย่อมได้รับการไหว้ตอบ เช่นเดียวกับการให้ทานที่ยิ่งใหญ่อื่นๆ

    การให้ทานโดยทั่วไปมี ๑๘ ประการ ดังที่ปรากฏในคัมภีร์อรรถกถามโนรถปูรณี สีหนาทสูตร อังคุตตรนิกาย ๓/๒๓๕-๒๓๖ ดังนี้ คือ

    ๑.ทำให้ชีวิตมีความสุข
    ๒.เป็นรากฐานของสมบัติ
    ๓.เป็นบ่อเกิดแห่งโภคทรัพย์
    ๔.ช่วยต้านภัยให้ชีวิตได้
    ๕.ช่วยคุ้มครองป้องกันอันตราย
    ๖.ช่วยปูทางไปสู่สุคติ
    ๗.เป็นที่อาศัยได้
    ๘.เป็นที่พึ่งพิงได้
    ๙.ช่วยเสริมพลังใจให้เข้มแข็งได้
    ๑๐.เป็นทางเดินของบัณฑิต
    ๑๑.ได้เป็นเชื้อสายของพระพุทธเจ้า
    ๑๒.ทำให้ได้สมบัติในสวรรค์
    ๑๓.ทำให้ได้สมบัติพญามาร
    ๑๔.ทำให้ได้สมบัติพระพรหม
    ๑๕.ทำให้ได้สมบัติพระเจ้าจักรพรรดิ
    ๑๖.ทำให้ได้สาวกบารมีญาณ
    ๑๗.ทำให้สำเร็จปัจเจกโพธิญาณ
    ๑๘.ทำให้สำเร็จอภิสัมโพธิญาณ


    การบริจาคโลหิต เป็นปรมัตถทานบารมีสูงสุดที่มนุษย์สามัญทั่วๆ ไปพึงทำได้ เพราะเป็นการให้ส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของชีวิตตนเพื่อนำไปช่วยต่อชีวิตให้ผู้อื่น ผู้ให้ย่อมเกิดความปีติ ความสุขทางใจ จากผลบุญของการให้ไร้ขีดจำกัดอย่างแน่นอน
     
  5. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,662
    ค่าพลัง:
    +9,236
    เมื่อตอนที่บริจาคครั้งแรก..คิดแต่อยากช่วยคนที่ยากจนเท่านั้น..
    ไม่ทราบเรื่องอานิสงส์ทั้งปวง..
    ขอเชิญชวนทุกท่าน..บริจาคโลหิตค่ะ

    ขออนุโมทนาค่ะ
     
  6. ลุงชาลี

    ลุงชาลี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,958
    ค่าพลัง:
    +4,763
    พยายามไปบริจาก 2 ครั้งแล้ว ตรวจความดันไม่ผ่านสักที
    ครั้งหลังสุดเมื่อวันที่ 18 ธันวามคม ที่โรงพยาบาลยันฮี ก็
    ไม่ผ่าน ความดันสูง 155 เขาไม่เอาขอรับ
    สาธุ สาธุ ขอโมทนา
    อิทัง ปุญญพลัง อิมินา ปุญญะกัมเมนะ

    ด้วยเดชะบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมาแล้วด้วยดี

    ตั้งแต่ปฐมชาติ อดีตชาติ ปัจจุบันวันนี้
    ข้าพเจ้าขอตั้งจิตกุศลนี้เป็น มหาธรรมทาน
    เพื่ออบรมหนทางความดับ
    ไม่มีเหลือเชื้อแห่งอาวสะกิเลสตน แด่ผู้ใฝ่ในธรรม
    และผู้เคารพเลื่อมใสองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    <O:p</O:p
    ขอส่งผลบุญกุศล อันเกิดจากการนี้
    อุทิศให้ ครูอุปัชฌาย์อาจารย์สืบๆ ต่อกันมา
    พ่อเกิดแม่เกิด ผู้มีคุณผู้สูงชาติ
    ผู้สงเคราะห์โลกพิทักษ์ธรรม ตลอดจน
    เจ้าบุญนายคุณ เจ้าบ่าวนายใช้ เจ้ากรรมนายเวร
    เจ้าเกณฑ์ชะตา เจ้าการบัญชี ทั้งหลายในทุกภพทุกชาติ
    ที่ข้าพเจ้าได้เคยสบประมาทล่วงเกิน และมีสัมพันธ์เกี่ยวข้อง
    ขอจงได้รับขมากรรม อโหสิกรรม และอนุโมทนาบุญให้แก่ข้าพเจ้า
    และกรรมอันใดที่ท่านทั้งหลาย ได้ทำไว้กับข้าพเจ้าทุกภพทุกชาตินั้น
    ข้าพเจ้าขอปวารณาให้เป็นอโหสิกรรมเช่นกัน
    พร้อมนี้ขอให้ท่านทั้งหลายพึงปราศจากทุกข์และมีสุข
    เกิดปัญญาญาณยิ่งๆ ขึ้นไป เช่นเดียวกับที่ข้าพเจ้าได้รับ
    ณ กาลบัดเดี่ยวนี้ด้วยเทอญ
    <O:p</O:p
    สาธุ สาธุ สาธุ นะ โม พุท ธา ยะ
    นิพพานัง ปะระมัง สุขขัง
    ขอเชิญร่วมสร้างพระอุปคุต หลวงปู่ทวด วัดนาอุดม อุบลฯ (รับของดีหลายครูบาอาจารย์)
    <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->[​IMG]เต้ากรวดน้ำทองเหลือง<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
    http://www.santi-tham.com/th/topic5.php
    ดีมากของเพื่อนสมาชิกในเวบนี้แหละ เขานำมาฝากกัน<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  7. hon9999

    hon9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    665
    ค่าพลัง:
    +2,430
    อนุโมทนากับผู้บริจาคเลือดด้วยจิตอันเป็นกุศลตั้งแต่ อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ทั่วทั้งสากลโลกด้วยครับ

    ผมบริจาคเลือดไม่ได้เนื่องจาก เลือดจาง ครับ เคยลองไปบริจาคเลือดเกือบ 10 ครั้งได้ แรกคิดว่านอนไม่พอเพราะนอนดึก แต่สุดท้ายตรวจสุขภาพที่บริษัทเลยได้รู้ว่าเลือดจางครับ (ผมว่าตัวผมมีกรรม เลยให้ทำให้บริจาคเลือด เพื่อเป็นทานไม่ได้ เลยขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วย ขอบคุณครับ)
     
  8. kit14

    kit14 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2009
    โพสต์:
    399
    ค่าพลัง:
    +618
    บริจาคมายี่สิบกว่าครั้งแล้วครับ
    ปีใหม่นี้ต้องไปบริจาคให้ได้ครับอยู่ในแผนการทำบุญปีใหม่ด้วยครับ
    ขออนุโมธนาให้กับทุกท่านที่บริจาคโลหิตด้วยครับ
     
  9. พี่พงษ์

    พี่พงษ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +53
    ขออนุโมทนาสาธุ กับทุกๆท่านที่ได้บริจาคเลือดเพื่อเพื่อนมนุษย์ ครับ ผมเองในขณะนี้ก็ได้ร่วมบริจาคเลือดมาได้ 63 ครั้งแล้ว ถ้าได้บริจาคติดต่อไปเรื่อยๆกว่าจะครบอายุ 70 ปี ก็จะได้ราวๆสัก 110 ครั้ง ครับ. ด้วยอานิสงส์ผลบุญของการบริจาคโลหิต จะมีเทพยดาปกปักรักษา ผิวพรรณผ่องใส สุขภาพแข็งแรง สมบูรณ์ในรูปสมบัติ บังเกิดความสุขในชีวิตอย่างคาดไม่ถึง.
     
  10. somjeedz

    somjeedz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +433
    กะว่าจะไปบริจาคเลือดอยู่เหมือนกันค่ะ

    คิดไว้ว่าจะไปบริจาควันเกิดตัวเองอยู่พอดีเลย

    พึ่งรู้นะเนี้ยว่าอานิสงของการบริจาคเลือดมหาศาลเลย

    อนุโมทนาสาธุค่ะ
     
  11. nupavee

    nupavee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +146
    บริจาคทุก 3 เดือนเลยคะ ถือว่าเป็นธุระสำคัญไปแล้ว นี่ครบรอบอีกทีก็วันที่ 15 มีนาคม 2557 หลังจากบริจาคแล้วก็กลับมาดูแลร่างกายให้สมบูรณ์แข็งแรงเหมือนเดิม
    เพราะ 1 ร่างกายแข็งแรง สุขภาพดีๆ ของเราสามารถช่วยได้อีกหลายชีวิตเลยคะ
    อยากเห็นทุกคนมีรอยยิ้มคะ โดยเฉพาะคนที่เขาต้องการโลหิตของเราจริง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มกราคม 2014
  12. ขอนไม้แห้ง

    ขอนไม้แห้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    228
    ค่าพลัง:
    +1,618
    คนที่คิดว่าจะได้รับอานิสงส์โน้นนี่ แล้วจึงทำ ให้ทานด้วยความหวังว่า เมื่อตายไปแล้ว จักได้เสวยผลของทานนี้ เมื่อตายไป ได้เกิดในเทวโลกชั้นจาตุมหาราชิกา สิ้นกรรม สิ้นฤทธิ์ สิ้นยศ หมดความเป็นใหญ่ในเทวโลกแล้ว ก็กลับมาสู่ความเป็นอย่างนี้ คือกลับมาเกิดในโลกนี้อีก ทานอย่างนี้มีผลมาก แต่ไม่มีอานิสงส์มาก

    ๒. บุคคลบางคนไม่ได้ให้ทาน เพราะหวังผลของทาน แต่ให้ทานเพราะรู้ว่าทานเป็นของดี เป็นบุญ เป็นกุศล จึงให้เมื่อตายไป ได้เกิดในเทวโลกชั้นดาวดึงส์ สิ้นกรรม สิ้นฤทธิ์ สิ้นยศ หมดความเป็นใหญ่ในเทวโลกแล้ว ก็กลับมาสู่ความเป็นอย่างนี้ คือกลับมาเกิดในโลกนี้อีก ทานอย่างนี้มีผลมากแต่ไม่มีอานิสงส์มาก

    ๓. บุคคลบางคนไม่ได้ให้ทาน เพราะหวังผลของทาน ไม่ได้ให้ทานเพราะรู้ว่าทานเป็นของดี แต่ให้ทานเพราะละอายใจที่ พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย บรรพบุรุษเคยทำมา ถ้าไม่ทำก็ไม่สมควร ครั้นตายลงได้เกิดในเทวโลกชั้นยามา สิ้นกรรม สิ้นฤทธิ์ สิ้นยศ หมดความเป็นใหญ่ในเทวโลกแล้ว ก็กลับมาสู่ความเป็นอย่างนี้ คือกลับมาเกิดในโลกนี้อีก ทานอย่างนี้มีผลมาก แต่ไม่มีอานิสงส์มาก

    ๔. บุคคลบางคน ไม่ได้ให้ทานเพราะหวังผลของทาน ไม่ได้ให้ทานเพราะรู้ว่าทานเป็นของดี ไม่ได้ให้ทานตามบรรพบุรุษ แต่ให้ทานเพราะเห็นสมณพราหมณ์เหล่านั้นหุงหากินไม่ได้ เราหุงหากินได้ ถ้าไม่ให้ก็ไม่สมควร ครั้นตายลงได้เกิดในเทวโลกชั้นดุสิต สิ้นกรรม สิ้นฤทธิ์ สิ้นยศ หมดความเป็นใหญ่ในเทวโลกแล้ว ก็กลับมาสู่ความเป็นอย่างนี้ คือกลับมาเกิดในโลกนี้อีก ทานอย่างนี้มีผลมาก แต่ไม่มีอานิสงส์มาก

    ๕. บุคคลบางคน ไม่ได้ให้ทานเพราะหวังผลของทาน ไม่ได้ให้ทานเพราะรู้ว่าทานเป็นของดี ไม่ได้ให้ทานตามบรรพบุรุษ ไม่ได้ให้ทานเพราะเห็นว่า สมณพราหมณ์หุงหากินไม่ได้ แต่ให้ทานเพราะต้องการจำแนกแจกทานเหมือนกับฤาษีทั้งหลายในปางก่อนได้กระทำมหาทานมาแล้ว เขาตายไปได้เกิดในเทวโลกชั้นนิมมานรดี สิ้นกรรม สิ้นฤทธิ์ สิ้นยศ หมดความเป็นใหญ่แล้ว ก็กลับมาสู่ความ
    เป็นอย่างนี้ คือกลับมาเกิดในโลกนี้อีก ทานอย่างนี้มีผลมาก แต่ไม่มีอานิสงส์มาก

    ๖. บุคคลบางคน ไม่ได้ให้ทานเพราะหวังผลของทาน ไม่ได้ให้ทานเพราะว่าทานเป็นของดี ไม่ได้ให้ทานตามบรรพบุรุษ ไม่ได้ให้ทานเพราะเห็นว่าสมณพราหมณ์หุงหากินไม่ได้ ไม่ได้ให้ทานเพราะต้องการจำแนกแจกทานเหมือนฤาษีทั้งหลายในปางก่อนได้กระทำมหาทาน แต่ให้ทานเพราะคิดว่า

    เมื่อให้แล้ว จิตจะเลื่อมใสโสมนัสจึงให้ ครั้นตายไปย่อมเกิดในเทวโลกชั้นปรนิมมิตวสวัตดี สิ้นกรรม สิ้นฤทธิ์ สิ้นยศ หมดความเป็นใหญ่แล้ว ก็กลับมาสู่ความเป็นอย่างนี้ คือกลับมาเกิดในโลกนี้อีก ทานอย่างนี้มีผลมาก แต่ไม่มีอานิสงส์มาก

    ๗. บุคคลบางคนในโลกนี้ ไม่ได้ให้ทานเพราะเหตุที่กล่าวแล้วทั้ง ๖ อย่างข้างต้นนั้น แต่ให้ทานเป็นเครื่องปรุงแต่งจิต คือให้ทานนั้นเป็นเครื่องขัดเกลาจิตใจหมดจดจากกิเลสด้วยอำนาจของสมถะและวิปัสสนา

    จนได้ฌานและบรรลุ จนได้ฌานและบรรลุเป็นพระอนาคามีบุคคล ตายแล้วได้ไปเกิดในพรหมโลก เขาสิ้นกรรม สิ้นฤทธิ์ สิ้นยศ หมดความเป็นใหญ่ในพรหมโลกแล้ว เป็นผู้ไม่ต้องกลับมาเกิดในโลกนี้อีก คือปรินิพพานในพรหมโลกนั้นเอง ทานชนิดนี้เป็นทานที่มีผลมาก และมีอานิสงส์มาก
     

แชร์หน้านี้

Loading...