"ในหลวง"รับสั่งคนมีมาก..ควรที่จะเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แบ่งปันคนไม่มี

ในห้อง 'ข่าวในพระราชสำนัก' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 28 กันยายน 2010.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,123
    กระทู้เรื่องเด่น:
    348
    ค่าพลัง:
    +64,476
    "ในหลวง"รับสั่งคนมีมาก ควรที่จะเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แบ่งปันคนไม่มี ส่วนผู้ไม่มี ไม่ควรรอช่วยเหลือต้องพยายาม


    [​IMG]

    เวลา 17.33 น. วันที่ 27 กันยายน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออก ณ ห้องประชุม ชั้น 14 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี นำคณะองคมนตรี และภริยา เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เป็นการส่วนพระองค์ มีพระราชดำรัส ให้คนที่มีมาก ควรแบ่งปันแก่ผู้ไม่มี ส่วนผู้ที่ไม่มี ไม่ควรรอคอยแต่ความช่วยเหลือ หากช่วยเหลือกันดังนี้แล้ว บ้านเมืองก็จะสงบสุข ...


    เวลา 17.33 น. วันที่ 27 กันยายน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออก ณ ห้องประชุม ชั้น 14 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี นำคณะองคมนตรี และภริยา เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เป็นการส่วนพระองค์

    โอกาสนี้ มีพระราชดำรัสเกี่ยวกับหลักการที่จะทำให้บ้านเมืองสงบสุขว่า "บุคคลที่นับได้ว่า มีสิ่งต่างๆ มากกว่าผู้อื่น สมควรที่จะเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่หรือแบ่งปันแก่ผู้ไม่มี อย่างพอเหมาะพอสม และตนเองไม่เดือดร้อน ส่วนผู้ที่ไม่มี ก็ควรพยายาม ไม่ควรรอคอยแต่ความช่วยเหลือ หรือคิดว่าตนเองไม่มีความสามารถ หากช่วยเหลือกันดังนี้แล้ว บ้านเมืองก็จะสงบสุข ... "



    ---------------------------
    ที่มา: มติชนออนไลน์
    http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1285594084&grpid=02&catid=42
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,123
    กระทู้เรื่องเด่น:
    348
    ค่าพลัง:
    +64,476
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ในหลวงรับสั่งคนมีมากควรเอื้อเฟื้อให้คนไม่มี</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการรายวัน</TD><TD class=date vAlign=center align=left>28 กันยายน 2553 00:44 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ASTVผู้จัดการรายวัน - ในหลวงรับสั่ง บุคคลที่มีสิ่งต่างๆมากกว่าผู้อื่น ควรเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แบ่งปันคนไม่มี ส่วนผู้ไม่มีก็ควรพยายาม หากช่วยเหลือกันบ้านเมืองก็จะสงบสุข

    เมื่อเวลา 17.33 น. วานนี้(27 ก.ย.) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออก ณ ห้องประชุม ชั้น 14 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี นำคณะองคมนตรี และภริยา เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เป็นการส่วนพระองค์

    โอกาสนี้ มีพระราชดำรัสเกี่ยวกับหลักการที่จะทำให้บ้านเมืองสงบสุขว่า "บุคคลที่นับได้ว่า มีสิ่งต่างๆ มากกว่าผู้อื่น สมควรที่จะเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่หรือแบ่งปันแก่ผู้ไม่มี อย่างพอเหมาะพอสม และตนเองไม่เดือดร้อน ส่วนผู้ที่ไม่มี ก็ควรพยายาม ไม่ควรรอคอยแต่ความช่วยเหลือ หรือคิดว่าตนเองไม่มีความสามารถ หากช่วยเหลือกันดังนี้แล้ว บ้านเมืองก็จะสงบสุข"

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันพุธที่ 29 กันยายน 2553 เวลา 20.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรคอนเสิร์ต "ศิริราชคอนเสิร์ต เทิดไท้องค์อัครศิลปิน" ในเวลา 20.00 น. เป็นการส่วนพระองค์ เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฐานะทรงเป็นเอกอัครศิลปิน โดยวงดุริยางค์ฟีลฮาร์โมนิกแห่งประเทศไทย อำนวยการดนตรีโดย อาจารย์สุกรี เจริญสุข วาทยกร นายกุดนี่ เอมิลสัน และ พ.ต.ประทีป สุพรรณโรจน์

    ทั้งนี้ เพลงที่จัดแสดงทั้งหมดเป็นเพลงพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวนทั้งสิ้น 19 เพลง ได้แก่ เพลงโหมโรงมหาราช (เป็นเพลงโหมโรงประเภทหนึ่งที่ใช้บรรเลงโหมโรงเสภา หรือโหมโรงมโหรีเครื่องสาย ซึ่งขึ้นอยู่ที่การปรับวง เพลงโหมโรงมหาราชมีอัตรา 3 ชั้น หน้าทับปรบไก่ นายมนตรี ตราโมท ศิลปินแห่งชาติ แต่งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2530 เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงมีพระชนมายุครบ 5 รอบ) เพลงอาทิตย์อับแสง เดี่ยวเปียโนโดย นายดริน พันธุมโกมล เพลงไร้เดือน เดี่ยวแซกโซโฟน โดยนายกฤษติ์ บูรณวิทยวุฒิ เพลงเมื่อโสมส่อง เพลงเกาะในฝัน ขับร้องโดยนางคอลลีน เจนนิ่งส์ เพลงใกล้รุ่ง เพลงยามเย็น ขับร้องโดย น.ส.กมลพร หุ่นเจริญ

    นอกจากนี้ยังมีเพลงกินรี เพลงแสงเทียน เพลงความฝันอันสูงสุด ขับร้องโดยนายณัฐพร ธรรมาธิ เพลงดวงใจกับความรัก เพลงในดวงใจนิรันดร์ เพลงสายฝน เพลงแสงเดือน เพลงพระมหามงคล เพลงชะตาชีวิต ขับร้องโดย นางสาวเชอร์รีล เฮเยส เพลงเราสู้ ขับร้องโดยนายณัฐพร ธรรมาธิ, นายตุลานันท์ นรเศรษฐ์พิศาล, น.ส.กมลพร หุ่นเจริญ และน.ส.กุมาริกา ศุภการ เพลงแผ่นดินของเรา ขับร้องโดย น.ส.กุมาริกา ศุภการ และเพลงราชวัลลภ

    น.ส.กมลพร หุ่นเจริญ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาการแสดงดนตรีตะวันตก วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งขับร้องเพลงพระราชนิพนธ์ยามเย็น และเราสู้ กล่าวว่า รู้สึกภาคภูมิใจและเป็นเกียรติยศครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้มีโอกาสขับร้องเพลงหน้าที่นั่ง ในวันดังกล่าวจะร้องเพลงถวายแด่พระองค์ท่านอย่างสุดความสามารถ ก่อนหน้านี้ได้มีโอกาสขับร้องเพลงเฉพาะพระพักตร์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในงานต่างๆ ของมหาวิทยาลัยมหิดล เช่นงานวันรับพระราชทานปริญญาบัตร งานเลี้ยงสังสรรค์ และเคยร้องเพลงยามเย็นในการประชุมอาเซียนที่ประเทศไทยเมื่อปีที่แล้ว

    "ทุกคนที่ขับร้องเพลงพระราชนิพนธ์ในงานคอนเสิร์ตครั้งนี้ได้ฝึกซ้อมกันมาระยะหนึ่งแล้ว โดยการขับร้องนั้นต้องร้องให้ถูกต้องทั้งโน้ตและการขับร้องเพราะต้องร้องทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ การขับร้องนั้นจะต้องดูถึงความหมายของเนื้อเพลงและโน้ตเพลง เช่น เพลงเราสู้เป็นเพลงปลุกใจ เนื้อเพลงบางท่อนจะร้องค่อยๆ แต่เมื่อถึงเนื้อเพลงท่อนที่ต้องเข้มแข็ง ก็จะต้องร้องอย่างมีพลังและน้ำเสียงเข้มแข็งเสียงดังขึ้น เช่น ท่อนที่ว่าเราสู้ไม่ถอยจนก้าวเดียว ส่วนเพลงยามเย็นทำนองเป็นเมโลดี้หวานๆ เนื้อหาเพลงเกี่ยวกับการอยู่กับคนรักและชมธรรมชาติ จะต้องร้องออกแนวหวานๆ แต่ไม่เศร้ามาก" น.ส.กมลพร กล่าว

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแสดงคอนเสิร์ตนี้ได้เชิญแขกผู้มีเกียรติที่ได้สมทบทุนสร้างอาคารสยามินทราธิราชมาร่วมชมด้วย และครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินมาทอดพระเนตรการแสดงคอนเสิร์ตหลังจากเสด็จพระราชดำเนินมาประทับรักษาพระอาการประชวรเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2552


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    http://www.manager.co.th/daily/ViewNews.aspx?NewsID=9530000135960
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กันยายน 2010
  3. คิดดีจัง

    คิดดีจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,626
    ค่าพลัง:
    +5,353
    ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
     
  4. อรชร

    อรชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,768
    ค่าพลัง:
    +11,465
    [​IMG]
    โอกาสนี้ มีพระราชดำรัสเกี่ยวกับหลักการที่จะทำให้บ้านเมืองสงบสุขว่า "บุคคลที่นับได้ว่า มีสิ่งต่างๆ มากกว่าผู้อื่น สมควรที่จะเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่หรือแบ่งปันแก่ผู้ไม่มี อย่างพอเหมาะพอสม และตนเองไม่เดือดร้อน ส่วนผู้ที่ไม่มี ก็ควรพยายาม ไม่ควรรอคอยแต่ความช่วยเหลือ หรือคิดว่าตนเองไม่มีความสามารถ หากช่วยเหลือกันดังนี้แล้ว บ้านเมืองก็จะสงบสุข ... "

    ขอพระองค์ ทรงพระเจริญ
     
  5. batong

    batong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +107
    ขอทรง...

    ใครรวยบ้างช่วยกันสำรวจและนำออกเผื่อแผ่ชาวบ้านบ้าง เก็บไว้ก็ไม่มีประโยชน์
     
  6. คะรุทา

    คะรุทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,243
    ค่าพลัง:
    +3,477
    ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน พระเกษมสำราญสืบไป
     

แชร์หน้านี้

Loading...