ไปเป็นเพื่อนเขาทำแท้งรบกวนช่วยให้ความกระจ่างหน่อยค่ะ

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย siriwan2527, 28 มีนาคม 2013.

  1. siriwan2527

    siriwan2527 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +172
    กราบนมัสการค่ะ หนูมีเรื่องรบกวนค่ะ เรื่องมันมีอยู่ว่าเมื่อประมาณหลายปีมาแล้วตอนหนูเรียนหนังสืออยู่ค่ะพอดีพี่สะใภ้เกิดตั้งท้องขึ้นมาแล้วยังไม่พร้อมจะเอาลูกไว้เขาเลยให้หนูไปเป็นเพื่อนค่ะ หนูก็ไปเป็นเพื่อนเขา ถัดมาจากนั้นอีกสองสามปีพี่สาวหนูก็ท้องและไม่พร้อมอีกเขาก็ให้หนูพาไปเป็นเพื่อนหนูก็ไปกับเขาอีก ด้วยความที่ยังเด็กและก็ไม่ได้คิดอะไรเลยนะตอนนั้น หนูก็ไม่รู้ว่ามันเวรกรรมอะไรของหนูเชื่อไหมค่ะพอหนูเรียนในระดับที่สูงขึ้นและออกฝึกงานนอกสถานที่ เพื่อนที่พักอยู่ด้วยดันมาท้องและต้องการเอาลูกออกเพราะเค้าเหลืออีกหนึ่งเทอมก็จบด้วยความเป็นคนหัวอ่อนไม่คิดอะไรหนูก็ดันไปเป็นเพื่อนเค้าอีก เรื่องมันผ่านมาหลายปีจนหนูเรียนจบและได้ทำงาน หนูไม่ได้คิดถึงเรื่องนี่เลยลืมไปด้วยซ้ำและไม่เคยทำบุญอุทิศถึงพวกเขาเลย จนหนูได้มีโอกาสเจอหมอดูท่านหนึ่งและท่านทักเรื่องนี้เข้าหนูถึงได้นึกเรื่องราวทั้งหมดนี้ออก และทราบว่าบาปมากเพราะได้ศึกษาธรรมะมาได้สักระยะหนึ่งและได้อ่านถึงเรื่องราวเหล่านี้มาเยอะหนูน้ำตาไหลเลยค่ะ แต่หนูไม่ได้มีเจตนาจริงๆนะค่ะ ด้วยความสัตย์จริงหนูไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันบาปมากแค่คิดว่าไม่เป็นไรหรอกเพราะเราไม่ได้ทำเราแค่ไปเป็นเพื่อนเขาเท่านั้นเอง ทุกวันนี้หนูก็ได้แต่ทำบุญและอุทิศถึงพวกเขาทุกครั้งหนูจะทราบได้ยังไงว่าเขาอโหสิกรรมให้หนูแล้วยังและต้องการให้หนูทำยังไงถึงจะอโหสิกรรมและยกโทษให้หนู ทุกวันนี้หนูจะนึกถึงเรื่องนี้ตลอดทำให้ทุกข์ใจอยู่บ่อยๆ ช่วยแนะนำด้วยค่ะ
     
  2. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,940
    ก่อนอื่น หนูพึงยุติความเดือดร้อนใจลงเสีย เพราะการตำหนิตน กังวลหวาดกลัวอย่างต่อเนื่องเป็น"บาปทางใจ"ที่ไหลสืบเนื่องยาวนาน เป็นการปล่อยใจให้สั่งสมโทสะ ซึ่งมีผลเสียหายมากในที่สุด จึงพึงยุติความวิตกลงทันที ..

    เมื่อหนูไปเป็นเพื่อนเขา และไม่ได้มีเจตนาไ้ว้ว่า"ขอเด็กนั้นจงตาย" ทั้งไม่นึกยินดีในภายหลัง บาปโทษย่อมไม่หนักหนาสาหัสเท่ากับเจ้าของครรภ์ที่มีเจตนาตรงๆเพื่อจะฆ่าเด็ก...

    การที่หนูยังวิตกบ่อยๆ นั้นไม่มีผลดีอะไรกับใครๆเลย เมื่อจะคิดก็ใหเคิดสมาทานศีลว่า "เราจะละเว้นจากการฆ่าฯ"และ นึกถึงบุญอันดีที่ตนทำมาในโอกาสต่างๆ อันเป็นได้แต่การเพิ่มบุญกุศลแก่ตน...การอุทิศบุญให้เด็กที่ตายไปแล้วเป็นเรื่องดีแก่ตนมาก แต่ไม่ต้องไปพะวงว่าเด็กจะได้รับใหมเพราะไม่มีใครทราบได้จริง ทั้งเด็ก เมื่อตายลงก็เกิดใหม่ทันทีไม่มีระหว่างคั่น หรือเป็นอะไรๆที่ล่องลอยรอเกิดอย่างที่คนที่ไม่ได้สดับคำสอนของพระพุทธเจ้ากล่าวไว้..

    บาปเก่าจบไปแล้ว การนึกถึงบาปเนืองๆนั่นคือการเพิ่มบาปแก่ตน หันมาถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะ ประพฤติศีลอย่างมั่นคงไม่หวั่นไหว ศึกษาพระธรรมที่ถูกแท้ของพรพพุทธเจ้าให้มาก ย่อมได้ทราบวิธีปฏิบีติธรรมที่ถูกต้อง ไม่ตกไปกับความงมงายหรือวิ่งเข้าหาหมอดูอะไรๆใก้จิตตก ทั้งไม่เชื่อเรื่องหรือพิธีแก้กรรมที่ขาดเหตุผลกลายเป็นพาตนจากความหลงที่หนึ่งไปสู่ความหลงอีกที่หนึ่งจนไม่รู้จบ..

    การสั่งสมความหลงมีโทษยิ่งกว่าอนันตริยกรรม เพราะความหลงย่อมขังตนไว้ในวัฏฏะจนหาทางออกไม่เจอ..ส่วนอนันตริยกรรม เมื่อใช้หนี้กรรมแล้วยังมีโอกาสพ้นวัฏฏะได้เพราะสามารถพ้นจากความหลงได้ด้วยการคบกัลยาณมิตร ฟังธรรมของสัตตบุรุษ...


    เวลานี้เรามีโอกาสทำบุญใหม่ๆได้ พึงเจริญบุญทั้งทาน ศีล ภาวนาเพื่อความเกษมปลอดภัยของตนครับ
     
  3. siriwan2527

    siriwan2527 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +172
    ขอบพระคุณมากค่ะ อ่านแล้วรู้สึกดีมากเลย ทิ้งกระทู้ไว้นานไม่ได้เข้ามาอ่าน วันนี้ได้เข้ามาอ่านแล้ว รู้สึกเหมือนได้ปลดปล่อยความรุ้สึกผิดที่เก็บไว้ในใจมาเนิ่นนาน ขอบคุณมากๆนะค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...