ไฟไหนเล่า ร้อนเท่าไฟนรก

ในห้อง 'ภพภูมิ-สวรรค์ นรก' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 14 กันยายน 2008.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    ไฟไหนเล่า ร้อนเท่าไฟนรก
    โดย สุทัสสา อ่อนค้อม

    [​IMG]


    คัดลอกจาก...
    http://www.jarun.org/v3/HF001.htm




    เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของหมู
    ยามที่มันถูกมีดปลายแหลมแทงคอนั้น
    ช่างบาดลึกเข้าไปในจิตใจของอาตงทุกครั้งที่ได้ยิน
    เด็กชายวัยสิบสามไม่เข้าใจเลยว่า
    เหตุใดบิดาจึงมายึดอาชีพที่แสนจะทารุณโหดร้ายเช่นนี้
    แม้จะได้ยินมาตั้งแต่เกิด
    เพราะตาแป๊ะเตี๋ยวยึดอาชีพขายหมูชนิดเลี้ยงเองฆ่าเองเสร็จ
    หากเขาก็หดหู่หม่นหมองใจทุกครั้ง
    ที่ได้ยินเสียงมันร้อง เหมือนจะขอให้ไว้ชีวิต
    เด็กชายเคยฟังพวกผู้ใหญ่เขาพูดกันว่า
    คนที่ฆ่าสัตว์เมื่อตายไปจะต้องตกนรก
    เขาไม่อยากให้ผู้บังเกิดเกล้าตกนรก
    เพราะเคยเห็นภาพของนรกที่มีผู้วาดไว้ตามผนังโบสถ์มาแล้ว
    มันช่างน่าเกลียดน่ากลัวเสียเหลือเกิน

    นับแต่มารดาจากโลกนี้ไปตั้งแต่ปี ๒๔๖๐
    เขาก็เหลือบิดาเพียงผู้เดียว ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนอีก
    เนื่องจากผู้บังเกิดเกล้าทั้งสองพากันอพยพมาจากเมืองจีน
    ตั้งแต่เขายังไม่เกิด จำได้ว่าตอนนั้นเขาร้องไห้มากที่สุดในชีวิต
    บิดาของเขาก็โศกเศร้าอยู่นานกว่าจะทำใจได้
    สามปีแล้วสินะที่มารดาจากเขาและบิดาไป
    ก็พวกผู้ใหญ่อีกนั่นแหละที่พูดเข้าหูเขาบ่อยๆ ว่า
    ที่มารดาเขาอายุสั้น ก็เพราะ บิดาของเขาชอบฆ่าสัตว์
    ถ้าเรื่องที่พวกเขาพูดมานั้นเป็นความจริง
    ป่านฉะนี้มารดาก็คงถูกลงโทษอย่างสาหัสสากรรจ์อยู่ในนรก
    ช่างน่าสงสารมารดานัก เด็กชายวัยสิบสามออกสับสนว่า
    ก็ในเมื่อบิดาเป็นคนทำ แล้วใยกรรมจึงไปตกที่มารดา
    คนเราทำกรรมแทนกันได้กระนั้นหรือ
    อาตงเคยขอร้องไห้ตาแป๊ะเตี๋ยวเลิกอาชีพนี้
    แต่กลับถูกตะคอกเอาว่า
     
  2. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876


    อาตงรู้สึกใจหาย
    ที่จะต้องทิ้งตาแป๊ะเตี๋ยวผู้เป็นพ่อให้อยู่เพียงลำพัง
    รู้ว่าแกจะต้องเปล่าเปลี่ยวเดียวดาย หากไม่มีเขา
    ถึงอย่างไร บิดาก็รักเขามาก เขาเองก็รักบิดามากไม่แพ้กัน
    ไม่อยากทิ้งแกไป แต่ก็นั่นแหละ
    วันหนึ่งบิดาคงบังคับให้เขาฆ่าหมู
    แล้วก็คงพากันตกนรกตามมารดาไป
    เด็กชายมีความเชื่อมั่นว่า
    การบวชของตนจะช่วยให้ผู้เป็นพ่อพ้นจากนรก
    มิฉะนั้นท่านสมภารคงไม่พูดว่าเขาจะช่วยบิดาได้
    คืนนั้นเด็กชายตงนอนกระสับกระส่าย
    ไม่อาจข่มตาให้หลับลงได้
    พรุ่งนี้แล้วสินะที่เขาจะต้องจากบิดาไปอยู่วัด

    ตาแป๊ะนอนกรนเสียงดังเช่นทุกคืน
    แกคงไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะต้องถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว
     
  3. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876


    สามเดือนผ่านไป
    อาตงก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะกลับมาอยู่บ้าน
    ตาแป๊ะเตี๋ยวรู้สึกผิดหวังและว้าเหว่ระคนกัน
    แกคงจะต้องทำอะไรสักอย่าง
    นั่นคือ ต้องไปเอาตัวอาตงกลับมาก่อนที่อะไรๆ มันจะสายเกินแก้


    ข้างฝ่ายอาตงนั้นเมื่อได้เปลี่ยนจากเพศฆราวาสมาถือเพศบรรพชิตแล้ว
    ก็ได้ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานอย่างเคร่งครัด
    หลวงตาซึ่งเป็นสมภารวัดได้ให้ความเมตตาแก่เณรตงเป็นพิเศษ
    ด้วยเห็นว่าเป็นเด็กดีมีความกตัญญูสูง

     
  4. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876


    ความหวาดกลัวว่าบิดาจะติดตามมา
    ทำให้เณรตงวิ่งเตลิดไปอย่างไม่คิดชีวิต
    รู้สึกเจ็บระบมที่เท้าทั้งสอง เพราะถูกหนามแหลมทิ่มแทง
    กระนั้นท่านก็มิยอมหยุดผ่านป่าช้าไปทะลุทุ่งกว้างหลังวัด
    แล้ววิ่งตัดทุ่งตรงไปศาลาท่าน้ำ
    นั่งหอบฮั่กๆ อยู่ที่นั่น
    อาศัยแสงสลัวจากพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว
    มองกลับไปยังทางที่วิ่งมา
    ก็ไม่ปรากฏแม้เงาของผู้เป็นบิดา
    จึงค่อยเบาคลายหายหวาดกลัวลงได้บ้าง
    มองลงไปยังแม่น้ำเจ้าพระยาที่นอนสงบนิ่ง
    ภายใต้แสงจันทร์เลือนสลัว
    คิดจะว่ายข้ามฟากไปยังวัดฝั่งโน้น
    ก็เกรงจะหมดเรี่ยวแรงเสียก่อนที่จะถึงฝั่ง
    ครั้นจะกลับไปที่กุฏิ ก็เกรงว่าบิดาจะซุ่มรออยู่
    เพื่อเอาตัวกลับบ้าน

    เณรตงเริ่มว้าวุ่นใจกับปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่
    ในที่สุดจึงใช้อุบายทำให้จิตสงบ ด้วยการเจริญกรรมฐาน
    ท่านเริ่มต้นเดินจงกรมตั้งแต่ระยะที่หนึ่งไปจนถึงระยะที่หกโดยปฏิโลม
    ไม่ยอมนั่งสมาธิ ด้วยต้องคอยระแวดระวังบิดา
    กลัวว่าขณะที่นั่งหลับตาอยู่
    ฝ่ายนั้นอาจจู่โจมเข้ามาจับเอาตัวไปก็เป็นได้
    เดินจงกรมอยู่ประมาณสองชั่วโมง


    จิตของท่านก็สงบตั้งมั่นเป็นสมาธิ
    เกิดปัญญาแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้

    ท่านรู้ว่าประมาณตีสองของทุกวัน
    เป็นช่วงเวลาที่บิดาลงมือปฏิบัติภารกิจ
    คือ การฆ่าหมูเตรียมไปขายในตอนเช้า
    อย่างไรเสียบิดาจะต้องไม่รออยู่ที่กุฏิ
    เพราะห่วงภารกิจที่บ้าน
    ท่านจะกลับไปที่กุฏิ
    รอจนฟ้าสางแล้วค่อยไปกราบลาท่านสมภาร
    เพื่อขอไปอยู่วัดโบสถ์ทางฝั่งโน้น
    บิดาคงไม่ตามไปเซ้าซี้อีก
    เพราะยามค่ำคืนไม่มีเรือข้ามฟากประการหนึ่ง
    และอีกประการหนึ่งบิดาเป็นคนเกลียดพระเกลียดเณร
    ถึงขนาดไม่ยอบพบปะพูดจาด้วย
    จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะไปตามท่านในตอนกลางวัน
    คิดได้ดังนี้ เณรตงจึงเดินกลับไปที่กุฏิ
    ปิดประตูลงกลอนอย่างแน่นหนา
    แล้วจึงเก็บเครื่องบริขารต่างๆ มัดรวมกันไว้
    เวลาที่เหลือท่านใช้ในการเจริญกรรมฐาน

    โดยเดินจงกรมแล้วจึงนั่งสมาธิ
    ปฏิบัติอยู่อย่างนี้จนกระทั่งฟ้าสาง
    จากนั้นจึงเดินไปที่กุฏิท่านสมภาร
    เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ท่านฟัง


     
  5. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876


    วันเวลาผ่านไปรวดเร็วราวกับติดปีกบิน
    เณรตงหลบเร้นบิดามาอยู่ที่วัดโบสถ์เป็นเวลาหลายปี
    กระทั่งอายุครบบวช วันหนึ่งสมภารกรอดได้มาที่วัดพุทธาราม
    และปรึกษากับสมภารกร่าง เรื่องการอุปสมบทเป็นพระภิกษุให้เณรตง
    ภิกษุทั้งสองตกลงกันว่า จะไม่แจ้งให้ตาแป๊ะเตี๋ยวทราบ
    เพราะถึงอย่างไรแกจะต้องไม่ยินยอมและคงขัดขวางจนถึงที่สุด
    กำหนดวันเวลากันเรียบร้อย
    สมภารผู้เป็นศิษย์ จึงกลับมาแจ้งให้เณรตงทราบ
    ตกค่ำเณรตงจึงขอแรงคนแจวเรือจ้าง
    ให้ช่วยมาส่งที่ฝั่งวัดพุทธาราม
    ให้เรือรออยู่แล้วท่านจึงแอบไปที่ฮวงซุ้ยของมารดา
    จุดธูปบอกกล่าวขออนุญาตอุปสมบท
    สามวันต่อมาท่านก็ได้เข้าพิธีอุปสมบท
    โดยสมภารวัดพุทธารามเป็นพระอุปัชฌาย์
    และสมภารวัดโบสถ์เป็นกรรมวาจาจารย์
    บวชแล้วภิกษุตงคงเป็นคนเดิม
    ที่ขยันหมั่นเพียรและอ่อนน้อมถ่อมตน
    ด้านการปฏิบัติธรรมก็ตั้งอกตั้งใจปฏิบัติอย่างเคร่งครัด
    เปี่ยมด้วยวิริยะอุตสาหะเป็นทีชื่นชอบของพระเณรในวัด
    ตลอดจนอุบาสกอุบาสิกาที่ได้ทราบข้อวัตรปฏิบัติของท่าน
    ต่างพากันอนุโมทนาสาธุการ

    เวลาล่วงเลยไปอีกสามปี
    ภิกษุตงอายุย่างยี่สิบสาม เหตุการณ์ร้ายได้บังเกิดแก่ท่านอีกครั้ง
    กล่าวคือ ในตอนเย็นขณะที่ท่านกำลังกวาดลานวัดอยู่นั้น
    บิดาก็มาปรากฏตัวพร้อมชายฉกรรจ์ร่างกำยำสองคน
    ตาแป๊ะเตี๋ยวขู่ลูกชายทันทีที่พบหน้า


     
  6. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876


    สามทุ่มคืนนั้น ท่านสมภารได้มาหาภิกษุตง
    และปรึกษาหารือเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น
    สมภารกรอดครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงพูดขึ้นว่า
     
  7. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876


    ภิกษุตงมาอยู่บางกอกเป็นเวลาถึงเจ็ดพรรษา
    ได้เรียนบาลีและปริยัติจนเชี่ยวชาญ
    ด้วยความรู้และความประพฤติอันหาข้อบกพร่องมิได้
    ท่านจึงเป็นพระเถระที่ได้รับการยกย่องนับถือทั้งจากอุบาสกอุบาสิกา
    และจากเพื่อนบรรพชิตด้วยกัน

    วันหนึ่งท่านได้ปรารภกับพระครูเชื้อ สมภารวัดยานนาวาว่า
    อยากจะกลับไปอยู่ที่วัดบ้านเกิด
    เพื่ออบรมสั่งสอนและเผยแพร่ความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมา
    แก่พระเณรในท้องถิ่นนั้น
    ท่านพระครูฟังแล้วพลอยเห็นดีเห็นงามไปด้วย
    จึงมิได้ขัดความประสงค์ของพระลูกวัด

    ออกพรรษาปีนั้นภิกษุตง จึงได้เดินทางกลับมาอยู่ที่วัดโบสถ์
    ซึ่งสมภารคนใหม่ก็ให้การต้อนรับอย่างดี
    ด้วยคุ้นเคยกันมาก่อนที่ท่านจะไปอยู่บางกอก

    วันรุ่งขึ้นภิกษุตง ได้นั่งเรือข้ามฟากไปวัดพุทธาราม
    เพื่อกราบเยี่ยมสมภารกร่าง
    ภาพที่เห็นเมื่อไปถึงทำให้ท่านถึงกับน้ำตาซึม

    ภิกษุชรานอนอาพาธอยู่บนเสื่อเก่าๆ ผืนที่เคยใช้มานาน
    ร่างนั้นผอมซีดจนเห็นแต่หนังหุ้มกระดูก
    เรียกพระลูกวัดรูปหนึ่งมาสอบถามดูก็ได้ความว่า
    ท่านสมภารอาพาธมาร่วมปีด้วยโรคชรา
    ประกอบกับวัยกว่าเก้าสิบ ทำให้มดหมอไม่อาจเยียวยา
    รักษาให้หายเป็นปกติได้ ภิกษุตงมองร่างนั้นด้วยใจรันทด
    เป็นเวลาเดียวกับที่ภิกษุอาพาธลืมตาขึ้น เหมือนจะรู้ว่ามีคนมา
    ภิกษุหนุ่มก้มลงกราบที่เท้าบอบบางของท่าน
    แล้วพูดขึ้นว่า
     
  8. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876


    วันหนึ่งเป็นวันเข้าพรรษา
    นายอำเภอกับลูกสาวมาทำบุญที่วัด

    นายอำเภอผู้นี้ท่านเป็นคนใจบุญสุนทาน
    เพิ่งย้ายมาจากอำเภอทางภาคเหนือ
    ภรรยาของท่านเสียชีวิตตั้งแต่ลูกสาวอายุได้ ๓ ขวบ
    ความรักที่ท่านมีต่อภรรยา
    ประกอบกับความห่วงใยในบุตรสาวคนเดียว
    ทำให้ท่านไม่มีภรรยาใหม่
    สู้อุตส่าห์เลี้ยงดูบุตรน้อยแต่เพียงผู้เดียว
    กระทั่งลูกโตเป็นสาว
    สายทองลูกสาวนายอำเภอนั้นมีเค้าสวยมาแต่เด็ก
    ครั้นย่างเข้าสู่วัยที่กำลังสดชื่นเปล่งปลั่ง
    ความสวยงามของหล่อนก็เบ่งบานเต็มที่
    เสียงกล่าวขานเรื่องความงามของหล่อนขจรขจายไปทั่วทิศ
    ผู้ที่ได้พานพบต่างก็เห็นพ้องต้องกันว่า
    หล่อนช่างงามสมคำร่ำลือ


    สมภารหนุ่มถึงกับตะลึงงัน
    เมื่อนายอำเภอพาลูกสาวเข้าไปประเคนภัตตาหาร
    กามเทพได้แผลงศรรักมาปักกลางใจของท่านเข้าแล้ว
    ท่านงกเงิ่นจนทำอะไรไม่ถูก
    มือที่ถือผ้ารับประเคนสั่นไหวด้วยความประหม่า
    ข้างฝ่ายสาวงามนามสายทองนั้นเล่า
    ก็เกิดอาการประหม่าไม่แพ้กัน

    ด้วยสายตาคมกริบของสมภารหนุ่มที่จ้องมองมายังหล่อนนั้น
    ก่อให้เกิดความรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ สลับกัน
    เคยถูกเมียงมองด้วยสายตาเช่นนี้มาก่อนนับครั้งไม่ถ้วน
    หากก็ไม่เคยมีความรู้สึกเช่นนี้ หรือว่าจะเป็นเทพอุ้มสม
    หญิงสาวพยายามสลัดความคิดแปลกประหลาดนี้ออกไป
    ด้วยเกรงจะเป็นบาปเป็นกรรมที่คิดอกุศลกับพระกับเจ้า

    กิริยาของสมภารหนุ่มกับสีกาสาว
    มิได้รอดพ้นสายตาของนายอำเภอไปได้
    อาศัยที่เคยอาบน้ำร้อนมาก่อน
    ท่านจึงเข้าใจความรู้สึกของคนทั้งคู่ได้ดี
    นึกพึงใจในสมภารหนุ่มและคงจะไม่รังเกียจ
    หากฝ่ายนั้นจะสึกหาลาเพศมาสมัครเป็นเขย
    ท่านคิดอย่างคนใจบุญใจกุศลว่า
    หากบุตรสาวได้แต่งงานกับคนที่เคยบวชเรียนมาแล้ว
    ชีวิตก็คงจะราบรื่นอยู่เย็นเป็นสุขไปจนตลอดอายุขัย


     
  9. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876


    ทันทีทีศิษย์วัดนำซองสีฟ้ามาให้
    สมภารตงรีบฉีกออกอ่านอย่างรีบร้อน
    ปกติท่านเป็นคนใจเย็น
    แต่รักแรกพบเปลี่ยนท่านให้กลายเป็นคนใจร้อนไปเสียได้


     
  10. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    ๑๐

    ก่อนออกพรรษาเพียงสามวัน
    ตาแป๊ะเตี๋ยวก็ถูกฆ่าตายอย่างอเนจอนาถ
    สันนิษฐานว่าพวกโจรคงรู้ระแคะระคาย
    เรื่องที่แกซ่อนเงินไว้ใต้ดิน จึงพากันมาปล้น

    คืนนั้นตอนตีสองตาแป๊ะตื่นขึ้นปฏิบัติภารกิจดังเช่นเคย
    ขณะที่แกใช้มีดเล่มยาวแทงคอหมู
    พวกโจรก็จู่โจมเข้าถึงตัวและบังคับให้แกบอกที่ซ่อนเงิน
    นอกจากไม่ยอมบอกแล้วตาแป๊ะยังพยายามต่อสู้
    โดยใช้มีดปลายแหลมแทงโจรคนหนึ่งถึงแก่ความตาย
    หัวหน้าโจรโกรธจัดสั่งให้ลูกน้องช่วยกันจับแกไว้
    ใช้มีดเล่มเดียวกันนั้นแทงคอหอยแกจนทะลุ

    ก่อนสิ้นใจตาแป๊ะส่งเสียงร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด
    แวบหนึ่งแกนึกถึงบรรดาหมูที่แกเคยฆ่า
    และดูเหมือนพวกมันพากันมาส่งเสียงเยาะเย้ยอยู่รอบๆ ตัวแก
    ภาพและเสียงเหล่านั้น เพิ่มความเจ็บปวดให้แกเป็นทวีคูณ
    แกดิ้นทุรนทุรายอยู่พักใหญ่ๆ จึงสิ้นใจ


    เสียงร้องของตาแป๊ะปลุกชาวบ้านแถบนั้นให้ตื่น
    และพากันมายังบ้านของแก โดยถือคบไต้เป็นไฟส่องทาง
    พวกโจรพากันหนีไปก่อนที่ชาวบ้านจะมาถึง
    เมื่อเห็นว่าได้เกิดอะไรขึ้นกับตาแป๊ะ
    ใครคนหนึ่งจึงออกความเห็นให้ไปตามสมภารตง
    อึดใจใหญ่ๆ สมภารหนุ่มก็มาถึง
    สภาพศพของบิดา ทำให้ท่านต้องหลั่งน้ำตามากกว่าครั้งใดๆ ในชีวิต
    ไม่มีแก่ใจที่จะตั้งสติกำหนดรู้ถึงความเสียใจ
    ดังที่สมภารกรอดเคยสอนเอาไว้
    รู้ในทันทีว่ากรรมได้ตามสนองบิดาตั้งแต่ในชาตินี้
    ท่านหมดโอกาสที่จะเลี้ยงดูผู้บังเกิดเกล้าให้เป็นสุขดังที่ได้ตั้งใจเอาไว้
    ด้วยมาเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเช่นนี้ขึ้นเสียก่อน


    งานศพของตาแป๊ะถูกจัดขึ้นอย่างดีที่สุด
    เท่าที่สมภารหนุ่มจะทำให้ผู้บังเกิดเกล้าได้
    ท่านคิดว่าจะได้เป็นการทดแทนบุญคุณบิดาเป็นครั้งสุดท้าย


    การสวดพระอภิธรรมศพในคืนแรกผ่านไปด้วยดี
    ตะเกียงเจ้าพายุหลายดวงถูกจุดขึ้นจนสว่างไสวไปทั่วทั้งวัด
    ชาวบ้านมาร่วมฟังสวดกันคับคั่งด้วยความเคารพนับถือสมภารตง
    นายอำเภอกับลูกสาวก็มาร่วมงานด้วย

    หลังสวดศพคืนนั้น สมภารหนุ่มใช้เวลาปฏิบัติ
    วิปัสสนากรรมฐานนานกว่าทุกวัน
    ท่านแผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศลไปให้บิดา
    ซึ่งท่านเชื่อว่าจะต้องไปเกิดในทุคติอย่างแน่นอน
    ตามกรรมที่ได้ทำเอาไว้


    ตกคืนที่สอง ขณะที่พระสี่รูปกำลังเริ่มจะสวด
    โดยมีสมภารตงและพระรูปอื่นๆ นั่งฟังอยู่แถวหน้า
    ถัดไปเป็นนายอำเภอกับลูกสาวและพวกชาวบ้าน
    เสียงกุกกักดังมาจากโลงศพ
    เป็นเหตุให้พวกคนขวัญอ่อนมองหน้ากันเลิกลั่ก
    เพราะคิดว่าผีตาแป๊ะเตี๋ยวคงสำแดงฤทธิ์
    ด้วยเชื่อกันว่า ผีตายโหงนั้นดุอย่าบอกใคร


    เสียงกุกกักดังขึ้นอีก คราวนี้ชัดเจนกว่าครั้งแรก
    หลายคนลุกยืนขึ้น เตรียมพร้อมที่จะวิ่งหากมีอะไรเกิดขึ้น

     
  11. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    ๑๑

    เมื่ออิ่มหมีพีมันดีแล้ว
    ตาแป๊ะเตี๋ยวจึงบอกให้คนช่วยพยุงนั่ง
    มองหน้าพระลูกชายแล้วพูดว่า
     
  12. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    <TABLE cellSpacing=20 width="85%" border=0><TBODY><TR><TD class=postbody vAlign=top>
    ๑๒

    ตาแป๊ะเตี๋ยว เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับแกจบลง
    ทุกคนในที่นั้นพากันนิ่งเงียบราบกับถูกมนต์สะกด
    เป็นเรื่องแปลกประหลาดมหัศจรรย์ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
    พวกที่ประพฤติตนไม่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรมเริ่มได้ข้อคิด
    โดยเฉพาะพวกผู้ชายซึ่งคิดว่าจะเลิกดื่มเหล้าเลิกเจ้าชู้เสียที
    จะได้ไม่ต้องไปตกนรก


     
  13. parnparn

    parnparn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    136
    ค่าพลัง:
    +199
    ไฟริษยา ไฟราคะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...