ไม่เคยฝึกมโนมยิทธิ แต่สิ่งที่ตัวเองสื่อได้ คล้ายๆจะมาทางด้านนี้

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย Me, myself, 3 มีนาคม 2009.

  1. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ดิฉันไม่เคยฝึกมโนมยิทธิมาก่อนเลยนะคะ แต่ตัวเองก็สามารถสื่อกับหลายๆสิ่งได้มานานแล้ว โดยที่ไม่รู้ว่าเขาเรียกว่าอะไร แล้วทำไมถึงเกิดขึ้นได้ เคยพบเคยสนทนากับพระโมคคัลลาแล้วก็องค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้ามาก่อนแล้ว ก่อนที่จะมาอ่านเจอเรื่องของหลวงพ่อ

    ตอนที่ได้สนทนากับพระพุทธเจ้า ดิฉันก็ได้ถามคำถามเหมือนกับหลวงพ่อเลย ว่า นิพพานที่เรียนมาหมายถึงสูญ แล้วทำไมองค์ตถาคตถึงยังมีตัวตนได้อยู่ พระพุทธเจ้าทรงตรัสตอบว่า นิพพานหมายถึง ไม่เกิด แก่ เจ็บ ตาย อีกแล้ว ไม่ได้แปลว่าสูญ

    ครั้งนั้นก็เล่นเอามึนไปเหมือนกัน แล้วก็คิดในใจว่า ตัวเองอ่ะบ้า (เพราะพูดไป ก็ไม่มีใครเชื่อเราอยู่แล้ว) ผ่านมาหลายปี ไปอ่านเจอเรื่องที่หลวงพ่อพบพระพุทธเจ้า ก็เลยทำให้คิดว่า ท่าทางเราคงจะไม่ได้บ้าหรอก ก็ขนาดพระอริยสงฆ์ ยังพบมาแล้วเลย แต่ก็ไม่ได้ติดตามอะไรอีก

    พอดีเมื่อไม่นานมานี้ ได้คุยกับเพื่อนที่สนใจในด้านนี้ ก็เลยได้กลับมาดู แล้วก็สนใจจะศึกษาตัวเองมากขึ้นด้วย ว่าสิ่งที่เราเป็น เรารู้ มันคืออะไรกันแน่ แต่โดยส่วนตัวเป็นคนที่ไม่เชื่ออะไรง่ายๆ ตลอดหลายสิบปีมานี่ ก็สังเกตุจากหลายๆเรื่องที่มักเกิดขึ้นจริง ตามที่ได้รู้ ได้เห็นมา ก็เลยคิดว่า มันคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ๆ

    เคยไปนั่งวิปัสสนา แต่รู้สึกว่าไม่ถูกจริตกับตัวเอง เหมือนไม่ใช่เรา มาอ่านเรื่องราวของหลวงพ่อ รู้สึกว่า มันใช่เราเลย เพียงแต่ว่า ไม่เคยฝึกมาก่อน ไม่เคยต้องมานั่งท่อง นะมะพะทะ เพียงแค่เรานึกถึง อยากรู้ อยากคุย ใจเราก็เป็นสมาธิ แล้วไปคุยได้แล้ว ก็เลยยังงงๆ กับตัวเอง ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มฝึกอะไรยังไง

    เมื่อคืนลองมานั่งท่อง นะมะพะทะ เพื่อฝึกดู แล้วหลวงพ่อโต (เป็นพระที่ดิฉันเคารพกราบไหว้ค่ะ แล้วก็มีเรื่องมหัศจรรย์เกี่ยวกับหลวงพ่อด้วย) ก็มาพูดว่า "เจ้าทำอะไรน่ะ" ดิฉันก็ตอบท่านไปว่า "ก็อยากลองฝึกมโนยิทธิ เหมือนที่เขาฝึกกันค่ะ หลวงพ่อ" หลวงพ่อตอบว่า "เจ้าน่ะ มันเกินจากนี้ไปแล้ว ยังจะมาฝึกอะไรอีก" อ้าว เป็นงั้นไป ไปๆมา เลยกลายเป็นว่า ได้ไปสนทนากับองค์ตถาคต แล้วก็เลยพาไปดูจุฬามณี (คือบอกท่านว่า เห็นเขาไปเห็นกันจัง ทำไมเรายังไม่เคยเห็นกะเขาสักที มันมีจริงหรือ) จนถึงตอนนี้ดิฉันก็ยังไม่เข้าใจตัวเองในบางครั้งเหมือนกัน เลยอยากจะมาหาคำแนะนำจากผู้ที่รู้จริง ว่าดิฉันควรทำยังไง

    เรื่องของดิฉันมันยาววววมากค่ะ มีเรื่องราวเยอะแยะมากมาย ไว้จะค่อยๆเอามาเล่าให้ฟังแล้วกันค่ะ ไม่ได้ให้เชื่อค่ะ ใครมาอ่านแล้วไม่ถูกจริต ก็ถือซะว่า อ่านเล่นเพลินๆแล้วกันนะคะ อย่าซีเรียสค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 18 มกราคม 2012
  2. ศุภกร_ไชยนา

    ศุภกร_ไชยนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    627
    ค่าพลัง:
    +1,122
    ส่วนตัวแล้วผมชอบเรื่องราวของคุณมากเลยนะคับ
    หาใช่เรื่องแปลกไม่

    โมทนานะคับที่ติดต่อสื่อกับพระอริยเจ้า และพระพุทธเจ้าได้โดยตรง ผมก็ไม่ได้มีความรู้มากนัก แต่คิดว่าในเมื่อติดต่อกับท่านได้แล้ว เราก็ถามท่านโดยตรงเลยคับ ^^

    โมทนาด้วยนะคับกับกุศลที่คุณ me myself กระทำไปในอดีตชาติ ปัจจุบันชาติและในอนาคต

    เห็นพระเห็นเจ้าเป็นสิ่งที่ดีแล้วคับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 23 พฤศจิกายน 2009
  3. tatumabcd

    tatumabcd เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2007
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +3,199
    โมทนากับคุณด้วยครับ

    ที่คุณทำได้นั่นแหละ ที่เรียกว่า มโนมยิทธิ แถมยังคล่องตัวมากอีกด้วย (จากที่คุณบอกว่าแค่นึกก็ไปได้ทันที) คนที่เขามานั่งฝึกภาวนา นะมะพะทะ น่ะ เป็นในขั้นเริ่มต้น เพื่อให้สามารถทำได้แบบที่คุณทำได้ตอนนี้ครับ ดังนั้นที่หลวงปู่โตท่านเมตตามาสอนคุณนั้นก็ถูกแล้วครับ

    ส่วนต่อจากนี้คุณควรจะทำอย่างไร? ด้วยความรู้ที่ผมมีนั้น ผมขอแนะนำดังนี้ครับ
    ๑. หมั่นไปอยู่ที่พระนิพพานบ่อยๆ เช่น ก่อนนอน ให้ยกจิตไปที่พระนิพพาน ไปนอนบนนั้นเลย จิตจะได้ชินกับพระนิพพาน ครับ
    ๒. ขอฟังธรรมจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านครับ หรือจากพระอริยสงฆ์องค์อื่นๆ ครับ หรือขอคำแนะนำจากท่านว่าควรปฏิบัติอย่างไรต่อ
    ๓. ลองย้อนไปดูอดีตที่เคยเกิดมา เช่น เคยเป็นคนรวยมั่งไหม? เคยจนแค่ไหน? นรกขุมไหนบ้างที่เคยไป? เคยลำบากขนาดไหน? ฯลฯ เพื่อให้เบื่อกับการเวียนว่ายตายเกิด จนรู้สึกไม่อยากเกิดต่อไป
    ๔. ฝึกเพื่อละ ในสังโยชน์ ๑๐ ครับ

    ผมคงบอกได้แค่นี้ครับ อาศัยจำมาน่ะครับ เพราะตัวผมเองยังได้แค่นั่ง ภาวนา นะมะพะทะ อยู่เลยครับ ยังไปไหนไม่ได้เลย ๕๕๕๕๕๕๕

    ถ้าอยากได้คำแนะนำที่ดีมากกว่านี้ (มากๆๆๆๆ) แนะนำให้ไปกราบถามจากหลวงพี่เล็ก ที่บ้านอนุเสาวรีย์ครับ

    โมทนาบุญกับท่านเจ้าของกระทู้ที่เคยทำมาทุกอย่างตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบันด้วยครับ
     
  4. jiwcrop

    jiwcrop เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    286
    ค่าพลัง:
    +792
    อนุโมทนา่บุญทุกบุญที่เจ้าของกระทู้บำเพ็ญมาด้วยนะครับสาธุ
     
  5. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ขอขอบคุณทั้งสามท่านมากเลยนะคะ ที่มาให้กำลังใจ

    เมื่อวานเป็นวันพระ ดิฉันก็เลยไปจัดหาดอกไม้ ธูป เทียน แล้วก็ค่าครู มาขึ้นพานครูค่ะ (ได้ความรู้จากในเวปนี้นะคะ) คือว่า เมื่อก่อนไม่เคยทำพิธีอะไรกับเขาเล้ย ทีนี้ก็เลยต้องมาทำค่ะ เพราะว่าก่อนหน้านั้นมันมีเหตุค่ะ ทำให้ดิฉันป่วยไปสองวันเลย เอาย่อๆก่อนนะคะ คือว่าดิฉันมีเพื่อนที่เขามีญาณเทพ (ฮินดู) แล้วเขาต้องมาช่วยคน ก็อย่างมาดูดวงให้ แก้เคราะห์กรรมนี่แหละค่ะ แล้วเราก็ดันไปเป็นพี่เลี้ยงเขา

    ทีนี้วันนึง มีเพื่อนอีกคน เขาก็มาดูดวง แต่ว่า ดวงเขาไม่เปิด ทำยังไงก็ดูไม่ได้ งานนี้ก็เป็นเรื่องอ่ะดิ คือว่า ญาณเทพก็ใช้ให้เรามาตรวจดูให้ทีว่าเพราะอะไร (คือดิฉันสายพุทธ) แถมยังพูดอีกด้วยว่า "ค่าครูก็ไม่มี ให้ไปเช็คทุกที" ตอนนั้นก็ยังไม่ค่อยรู้สึกอะไร เขาบอก "องค์พ่อไม่ยอมเปิดให้ดู" เราก็ยังว่า "อ้าว แล้วจะให้เราไปเช็คอะไร ขนาดเทพกับเทพ ยังคุยกันไม่ได้เลย" เขาก็ว่าไปเช็คดูให้หน่อย แล้วเขาก็เอาค่าครูคืนให้เพื่อนไปใส่บาตร

    เราก็บอกว่า จะลองไปเช็คให้แล้วกัน แต่ไม่รับปากว่าจะได้เรื่องหรือไม่ เพราะว่าบางเรื่องหลวงพ่อท่านไม่ค่อยตอบ บอกว่ามันเป็นกฎแห่งกรรม สรุปคืนนั้นดิฉันกลับมาบ้านก็มาถาม ก็ได้ทราบถึงกรรมของเพื่อนนะคะ แต่เพราะว่าดิฉันยังไม่เคยไหว้พานครู (ไม่เคยรู้มาก่อน ส่วนใหญ่ ก็คุยแต่เรื่องตัวเอง เลยไม่มีผลตามมา) เลยกลายเป็นว่า ต้องแลกกับการเจ็บป่วยของดิฉัน วันรุ่งขึ้นป่วยไปวันนึงเต็มๆ กับ อีกวัน (โทษฐานไปขอดูกรรมของชาวบ้าน) ทีนี้เลยต้องมานั่งคิด นอนคิด หาเหตุและผลที่ตัวเองโดน ลองถามหลวงพ่อ ท่านก็ไม่ตอบ บอกว่า ให้ไปเรียนรู้เอาเอง ไหมล่ะ อยากทำอะไรนอกเหนือเรื่องของตัว

    เมื่อคืนก็เลยได้จัดพานไหว้ครูซะให้เป็นเรื่องเป็นราว (แล้วก็รู้สึกว่า สิ่งที่เราทำถูกต้องแล้ว คือมีญาณบอกเหตุให้รับรู้ได้ค่ะ) แล้วก็ลองอีกล่ะ นั่งท่อง นะมะพะทะ (ก็ยังงงๆ อยากรู้อ่ะนะ) ท่องไปๆๆ ก็เห็นหลวงพ่อนั่งยิ้มขำๆ ก็เลยเลิกท่อง แล้วก็เลยไปคุยกับหลวงพ่อซะเลย ก็กำลังคิดว่า จะขึ้นไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ไปฟังธรรมสักหน่อย เพราะเป็นวันพระ จู่ๆก็เห็นพระเดชพระคุณหลวงพ่อ...(ขอละชื่อไว้นะคะ เดี๋ยวเกิดลูกศิษย์ลูกหาเขามาอ่านเจอ จะว่าเอาได้ เพราะท่านสอนคนละสายกับทางนี้) ชัดเจนมาก (เคยไปนั่งวิปัสสนาที่วัดหลวงพ่อ) ท่านก็บอกว่า กำลังจะไปเฝ้าพระพุทธเจ้าเหมือนกัน ก็เลยได้ตามท่านไป

    พอไปถึง โห...ทำไมคนมันเยอะแยะมืดฟ้ามัวดินขนาดนั้น หลวงพ่อก็ให้ดิฉันเดินตามท่าน ไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า ตอนแรกไม่อยากไปหรอก ก็มันต้องเดินผ่านคนเป็นร้อยเป็นพัน เขานั่งเรียงกันไปตามความสำคัญของชั้นอ่ะนะ อย่างมนุษย์ แล้วก็เทวดา พรหม พระอริยสงฆ์ แล้วตรูเป็นใคร จะไปนั่งเสนอหน้าต่อหน้าองค์ตถาคต บอกตรงๆ ตอนนั้นก็เกือบๆจะร้องไห้เหมือนกัน

    แต่หลวงพ่อก็สั่งให้เดินตามไปจนถึงที่ พอเริ่มเข้าเขตของพระอิรยสงฆ์ องค์แรกที่เห็นเลย หลวงปู่ทวด โอย..ชัดมาก เลยเข้าไปกราบ หลังจากนั้นก็มีอีกเยอะ จำได้มั่งไม่ได้มั่ง รู้จักมั่งไม่รู้จักมั่ง ก็ไปจนถึงหน้าพระพุทธเจ้า ท่านก็ตรัสว่า ให้เราไปนั่งใกล้หลวงพ่อ แล้วก็บอกหลวงพ่อว่า ที่ของท่านอยู่ตรงนั้น หลังจากนั้นท่านก็แสดงธรรมให้กับทุกคนที่มาอยู่ ณ ที่นั้น แต่ว่าไม่นาน เพราะเราดันคิดคิดแต่ว่า เออ..มันจริงหรือเปล่าเนี่ย สงสัยอยู่ตลอดเวลา สุดท้าย ท่านเลยให้พระอานนท์รับช่วงไป แล้วก็บอกให้เราตามท่านไป ท่านจะพาไปดูสถานที่ที่หนึ่ง เราก็ถามว่า ไปไหนคะ ท่านก็ยิ้ม แล้วก็บอกว่า ตามมาแล้วกัน

    แห่งแรก พาไปดูนรก ได้เห็น ได้ยิน คนร้องให้พระองค์ช่วย ดูน่าเวทนา (แต่ใจเราก็ยัง อืมม..จริงเปล่าวา) เหมือนท่านรู้ ท่านเลยพาไปดูสวรรค์ชั้นดุสิต เทวดา นางฟ้า ปราสาทสวยงามดี แล้วก็พาไปดูสระโบกขรณี เราก็เฮ้ย มันมีจริงๆด้วยเรอะ ไปเห็นแล้ว อยากมีบ้างจัง สวยจริงๆ แล้วก็พาไปป่าหิมพานต์ ไปดูพวกคนธรรพ์ มักกะลีผล แล้วก็พาลงไปใต้บาดาล ไปดูพวกนาคราช เล่นเอาเหล่าพญานาค ก้มกราบกันแทบไม่ทัน เพราะไม่คิดว่า พระพุทธองค์จะเสด็จไป ท่านก็บอกกับท้าวพญานาคว่า ไม่มีอะไร แค่พาคนที่ยังไม่รู้ตัวเอง ไปดูในที่ต่างๆ จะได้คิด จากนั้นท่านก็พาไปดูวิมานของเรา เป็นทองไปทั้งหลังเลยแฮะ แล้วก็สั่งว่า ให้ขึ้นมาที่นี่บ่อยๆ จิตจะได้คิดถึงแต่นิพพาน แล้วก็พากลับไปยังที่ชุมนุม แต่ท่านก็ว่า เราก็ยังสงสัยอยู่นั่นแหละ ก็บอกว่า ไม่เป็นไร ยังมีเวลา ก็ไปคิดดูแล้วกัน แล้วก็สั่งให้กลับ จากนั้นดิฉันก็ออกจากสมาธิ

    เป็นครั้งที่ยาวนานมาก แล้วก็ไปมาหลายที่ ก็แปลกดี สุดท้ายก็ยังคงสงสัยเหมือนที่พระพุทธองค์ว่าอยู่ดีนั่นแหละ แหะ แหะ
     
  6. พงศ์830

    พงศ์830 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,172
    ค่าพลัง:
    +1,196
    บารมีเก่ามาช่วยอิอิ..
    กำลังนับ 1 2 3 ในการปฎิบัตฺครับ
     
  7. นุภาวัฒน์

    นุภาวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    774
    ค่าพลัง:
    +270
    เยี่ยมยอดมากครับขออนุโมทนาบุญด้วยครับ แล้วมาเล่าเรื่องราวของคุณอีกนะครับ เพื่อเป็นกำลังใจให้นักปฏิบัติทั้งหลาย โดยเฉพาะผมได้แนวทางจากท่านทั้งหลายในเว็บนี้ ทำให้มีกำลังใจสู้กับกิเลสให้ถึงที่สุด ถึงชนะบ้างแพ้บ้างก็ไม่ท้อ หวังไปในที่ที่ทุกคนไปคือนิพพาน
     
  8. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ตอนนี้จะเล่าเรื่องที่ดิฉันเป็นอย่างนี้ได้อย่างไรให้ทุกๆท่านทราบค่ะ ต้องย้อนเวลากลับไปเมื่อตอนอายุ 18-19 ปี จบมัธยมปลายจากต่างจังหวัดก็เข้ามาศึกษาต่อที่กรุงเทพ มาพักอาศัยอยู่กับอาผู้หญิง บ้านอาเป็นอาคารสี่ชั้น มีพวกเราพี่น้อง แล้วก็ลูกอาคนอื่นๆอีกหลายคน ร่วมสิบคน วันหนึ่งน้องสาวกลับมาจากโรงเรียน ก็มาชวนพวกเราเล่น เรียกจิตใส่เหรียญ กัน ลักษณะเหมือนเล่นผีถ้วยแก้ว แต่อุปกรณ์ที่ใช้เป็นเหรียญค่ะ จะเหรียญบาท หรือเหรียญห้าก็ได้ แล้วก็เรียกจิตเพื่อนๆมาเข้าเหรียญ แล้วก็ถามคำถามกัน อยากจะบอกให้ทราบว่า จิตคนเรานั้นไม่ได้มีจิตเดียว จิตละเอียดจะเป็นจิตที่เรียกมาคุยค่ะ แต่ตัวของคนๆนั้นจะไม่รู้เรื่องเลย

    ดิฉันมานึกย้อนดู จะว่าการเล่นเรียกจิตนี่ อาจจะเป็นการฝึกมโนมยิทธิไปก็อาจจะเป็นได้ เพราะว่าคาถาที่ใช้ ถึงจะไม่เหมือนกัน แต่ก็จะคล้ายๆกัน คาถาที่พวกเราใช้จะเป็น พุทโธ ถายะ ต้องพูดก่อนเล่น 3 ครั้ง เราก็เล่นกันไปแบบสนุกๆ เพราะส่วนใหญ่เรียนมาทางสายวิทย์กันทั้งนั้นเลย หลังๆเริ่มพัฒนาลองไปเล่นผีถ้วยแก้วค่ะ (พวกลองของค่ะ) เราก็เริ่มตั้งแต่ใช้ถ้วยน้ำจิ้มเล็กๆเบาๆ เหมือนที่ใส่น้ำจิ้มของร้านแมคน่ะค่ะ มันก็จะเล็กแล้วก็เบา มันก็จะเคลื่อนได้ง่าย แต่พวกเราหรือจะหยุดแค่นั้น ก็เริ่มที่จะเปลี่ยนขนาดของถ้วยไปเรื่อยๆ เพื่อหาข้อโต้แย้งว่า ไอ้ที่เราเล่นน่ะ มันไม่จริง พวกเด็กๆ (ก็นะตั้งเกือบสิบคน) คงจะดันกันไปดันกันมาแน่ๆ สุดท้ายไปเอาแก้วแยม ที่กินหมดแล้ว มาเล่น ลองนึกดูนะคะ แก้วแยมว่ามันใหญ่ แล้วก็หนักขนาดไหน มันจะขยับได้ไง ตอนแรกดิฉันไม่ยอมไปร่วมวงด้วย นั่งดูอยู่วงนอกก่อน แต่ทุกคนในที่นั้น ก็จะรับรู้กันว่า ดิฉันรู้สึกจะจิตแรงกว่าเพื่อน (จากที่เล่นๆกันมา) ก็ให้พวกน้องๆ ลองกันไปก่อน แก้วแทบไม่ขยับเลย สุดท้ายน้องๆ ต้องมาเรียกให้ดิฉันไปลองดู พอนิ้วดิฉันแตะแก้วเท่านั้นแหละ แก้วขยับไปได้อย่างเร็วเลย เล่นเอาทุกคนงง
    <O:p></O:p>
    จากนั้นก็ถามอะไรก็ถามกันไป ไอ้ของที่เราๆรู้แล้ว ก็คิดว่ามันคงบังเอิญ แต่ส่วนใหญ่คำตอบที่แก้วจะวิ่งไปหาพยัญชนะแต่ละตัวนั้น ดิฉันได้คำตอบอยู่ในใจก่อนแล้วทุกครั้ง ก็จะพูดออกมา แล้วแทนที่แก้วจะวิ่งไปหาพยัญชนะอันอื่น ก็วิ่งเข้าไปหาคำว่า ใช่ ทุกครั้งไป (ดีเนอะ วิญญาณในแก้วก็เลยไม่เหนื่อยมาก) ในปีนั้น มีน้องสาวแล้วก็ลูกอาคนอื่น ที่วัยเดียวกันจะต้องเอนทรานซ์พอดี สามคน ก็ถามว่า ทั้งสามคนจะเอนติดไหม น้องสาวดิฉันเอนติด อีกสองคนเอนไม่ติด ทำให้อีกสองคนก็เลยไม่เชื่อ บอกว่าไม่จริงหรอก (ก็แน่ละ คนเรา ถ้าทายในเรื่องที่ตัวเองไม่ได้ มันก็จิตตกล่ะนะ) ทำให้เริ่มจะแบ่งฝ่าย สุดท้ายน้องชายดิฉัน ผู้ซึ่งกลัวผีที่สุด แล้วก็ไม่เคยอยู่วงในเลย อยู่แต่วงนอก ได้พูดท้าทายขึ้นว่า ไม่จริงหรอก แน่จริงก็บอกมาก่อนซิ ว่าเขาใส่กางเกงในสีอะไร พวกเราก็มองหน้าน้องชายกันทันที แต่ไม่มีใครรู้ว่าเขาใส่สีอะไร เพราะทุกคนมีห้องส่วนตัวหมด คำตอบที่ได้คือ สีฟ้า น้องชายดิฉันหน้าซีด แล้วก็โพล่งว่า เออ. จริงวะ จากนั้นไม่ต้องบรรยายเลย วงแตกค่ะ อาการกลัวผีจู่โจมกับทุกคน ทำให้แก้วล้มหงาย ทุกคนก็แตกกระเจิงไปคนละทิศละทาง ส่วนดิฉันก็เฉย จับแก้วขึ้น แล้วก็ขอปล่อยวิญญาณนั้นไป แล้วก็จะทำบุญไปให้ หลังจากคืนนั้นไม่มีใครกล้าเล่นผีถ้วยแก้วอีกเลย จากนั้นอีกหลายเดือน ผลเอนทรานซ์ปรากฏออกมาว่า น้องสาวดิฉันเอนติดคนเดียว อีกสองคนเอนไม่ติด ตามที่ได้รู้มาจริงๆ
    <O:p></O:p>
    ไอ้ที่เล่ามา แค่บอกถึงเหตุที่ทำให้ดิฉันเข้ามาสู่วังวนนี้นะคะ ไฮไลท์มันอยู่ตรงนี้ค่ะ คือหลังจากที่หยุดเล่นผีถ้วยแก้วไปแล้ว คนอื่นเขาก็มีชีวิตเป็นปกติสุข แต่ดิฉันน่ะซี ชีวิตมันไม่ปกติอีกต่อไปแล้ว เพราะถ้าหากว่าเวลาใดที่ดิฉัน จิตว่างๆ ดิฉันจะได้ยินแต่เสียงคนพูดกัน ร้องเรียกดิฉันตลอด ยิ่งเวลาจะเข้านอน นั่นเป็นเวลาที่ทรมานที่สุด เพราะจะได้ยินชัดเจนมาก แต่ดิฉันไม่อยากรับรู้ เพราะไม่รู้ว่า มันเป็นอะไรกันแน่ นอนไม่ได้เลย ต้องพยายามทำตัวเองให้ยุ่งๆ เวลานอนก็ไม่อยากนอน ต้องให้มันง่วงสุดๆ แล้วผล๊อยหลับไปเลย ช่วงนั้นดิฉันเหมือนจะเป็นบ้าไปเลยค่ะ ร่างกายทรุดโทรมมาก นอนก็ไม่หลับ สับสนตลอดเวลา ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรไป ในที่สุดก็ไปเล่าให้น้องสาวฟัง น้องก็ว่า แกบ้าไปแล้ว แกเล่นมากไปแล้ว แกเลยบ้า คิดไปเอง ดูดิ อุตส่าห์ไปเล่าให้มันฟัง หวังว่ามันจะช่วยปลอบเรา มันดันมาว่าซะอีก เวรจริงๆ
    <O:p></O:p>
    ดิฉันเป็นอย่างนั้นประมาณสองสามเดือน แทบตายก็ว่าได้ ไอ้ที่ไม่ได้บ้า ก็จะบ้ากันก็แบบนี้แหละ แล้วสุดท้าย ก่อนที่ดิฉันจะบ้าตายไปซะก่อน ดิฉันไปค้นพบวิธีหยุดรับรู้ได้ด้วยความบังเอิญมากๆ แถมเหมือนเส้นผมบังภูเขาจริงๆ เพราะวิธีปิด มันง่ายยังกะเราเปิดปิดวิทยุหรือโทรทัศน์ หลังจากนั้นดิฉันก็เริ่มกลับมามีชีวิตเป็นปกติสุขอีกครั้ง แต่คราวนี้มีสิ่งแปลกๆ ให้ได้สงสัยกันไปด้วย ดิฉันก็เริ่มที่จะเรียนรู้ไปเรื่อยๆ แล้วก็ลองของ ทดสอบมาตลอดเหมือนกัน นั่นคือเริ่มแรกของการได้รู้และได้ยิน<O:p></O:p>
     
  9. Klay9

    Klay9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2007
    โพสต์:
    586
    ค่าพลัง:
    +621
    ขออนุโมทนากับเรื่องดีๆที่น่าติดตามครับพี่Me, myself<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1935509", true); </SCRIPT> ผมยังเพิ่งเริ่มต้นครับถ้ามีอะไรติดขัดขอคำแนะนำด้วยนะครับ
     
  10. tbt

    tbt เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +138
    ขออนุโมทนาด้วยครับ เรื่องราวที่เกิดขึ้นที่บ้านผมก็เกิดเหมือนกัน คือ ขึ้นไปสนทนากับพระพุทธเจ้า และได้รับการสั่งสอน พระอริยเจ้าก็พบและได้สนทนารับการสั่งสอน พระยายมราชก็เจอ ยังฝากบอกว่า ช่วยบอกให้คนทำความดีมากๆ ข้างล่างนี้เต็มมากแล้ว
     
  11. ช่างปั้นพระ

    ช่างปั้นพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +178
    อนุโมทนาด้วยคับ...กำลังพยายามอยู่เหมือนกันคับ...คงอีกหลายช่วงตัวคับ
     
  12. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยเช่นกันค่ะ ขอให้พยายามกันให้มากๆนะคะ สำหรับคนที่ยังไม่เคยได้เห็น ได้ยิน ความสำเร็จต้องมาถึงสักวันค่ะ

    คุณ tbt พระยายมราชดิฉันก็เคยพบมาแล้วค่ะ ทั้งตอนปกติแล้วก็เคยเจอตอนโกรธด้วย เหตุเพราะว่า ดิฉันท้อแท้กับชีวิต เพราะเจอกับวิกฤตหนักหนาสาหัสอยู่หลายปี จนสุดท้ายก็น้อยใจในโชคชะตา ถึงกับว่ากล่าวประชดประชันกับทุกสิ่งทุกอย่าง บอกว่าทำดีไม่เคยได้ดี คนทำชั่วเสวยสุข แล้วใครจะอยากมาทำดี มิน่าคนชั่วมันถึงเยอะ ทำดีแล้วไม่ดี ก็ทำชั่วมันซะเลยดีไหม ถ้าไม่งั้นก็เอาให้ตายไปเลย ไม่ต้องให้มีชีวิตอยู่หรอก แล้วก็ว่าพาลไปถึงท้าวยมราชด้วย ท้าให้มาเอาไปลงนรกเลย

    มาเลยค่ะ กระทืบเท้ามาตั้งกะยมโลกโน่นเลย โกรธจัดมาเลย แต่ดิฉันไม่ได้กลัวนะคะ ตอนนั้นหน้ามืด ฮาฮา ก็โต้เถียงกับท่านอยู่พักใหญ่ สุดท้ายท่านก็อโหสิให้ แล้วก็สอนอะไรต่อมิอะไรอีกหลายอย่าง ทำจนเราก็สงบจิตสงบใจได้แหละ พอรู้ตัวก็ต้องกราบขอขมาลาโทษกันละ

    ช่วงที่ต้องฟันฝ่าวิกฤตของชีวิตไปให้ได้ ทุกอาจารย์ เทวดา พรหม ที่เราสนทนาด้วย ก็สอนให้เราอดทน ให้ทำแต่ความดี แล้วเดี๋ยวชีวิตจะดีขึ้น (เดี๋ยวของท่าน มันหลายปีมากเลย) ก็เพราะได้เหล่าครูบาอาจารย์ทั้งหลายสอนสั่ง เตือนสติอยู่ตลอด ถึงทำให้ดิฉันผ่านพ้นวิกฤตของชีวิตมาได้ เดี๋ยวนี้ชีวิตเริ่มดีขึ้น แต่ก็ยังไม่ดีเสียทีเดียว เพราะยังคงมีหนี้สินที่อดีตสามีทำไว้ให้ ต้องมานั่งใช้หนี้ที่ตัวเองไม่ได้ก่อ แต่ก็ถือว่า วันนี้ดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมากมายนัก นึกขอบคุณบุญกุศลที่ตัวเองได้ทำมาก่อน ที่ทำให้ตัวเองได้ญาณรับรู้นี้ แล้วก็ช่วยให้ดิฉันมีสติอยู่ตลอด นับว่าเป็นบุญของดิฉันจริงๆ ไม่อย่างนั้นคงทำชั่วไปแล้วก็ได้
     
  13. Jenny_Lee

    Jenny_Lee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    414
    ค่าพลัง:
    +1,357
    ขออนุโมทนาค่ะที่นำเรื่องดีๆมาเล่าสู่กันฟัง โชคดีจังนะคะได้ขึ้นไปพบอริยสงฆ์และพระพุทธเจ้าด้วย ชาตินี้ดิฉันจะทำได้หรือเปล่าก็ไม่รู้นะคะ
     
  14. สุภิญโญ

    สุภิญโญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    167
    ค่าพลัง:
    +325
    บุญ บารมี สูง จิตใจก็ไปที่สูงส่งด้วยเช่นกัน

    อนุโมทนาครับ ขอให้ได้ไปอยู่เลยครับ ไหนๆก็ได้โอกาสได้พบแล้ว
     
  15. I Love NIPPan

    I Love NIPPan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    117
    ค่าพลัง:
    +479
    -
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มีนาคม 2009
  16. ฟลัฟฟี้

    ฟลัฟฟี้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2009
    โพสต์:
    164
    ค่าพลัง:
    +132
    สาธุ อนุโมทนาค่ะ คุณ Me Myself ที่กรุณาเล่าประสพการณ์ ดี ๆให้ฟัง น่าสนใจมากและเป็นการให้กำลังได้ด้วยค่ะ ดิฉันเองก็มีอะไรแปลก ๆบ้างนิดหน่อย แต่คงจะมีทั้งบุญเก่าและบาปเก่าบ้างใหม่บ้างเลยเหมือน ๆกับไม่ได้ทดลองหรือทำอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอัน จำได้ตอนเด็กประมาณ 6-7 ขวบอยู่บ้านนอกคืนนั้นเดินไปดูหนังกลางแปลงที่วัดกับครอบครัวทุก ๆคนเลย เกือบ 10 คน พอถึงสะพานที่เค้าเรียกว่าสะพานดำและเล่ากันว่ามีผีเยอะ ก็เห็นมีคนห่มผ้าขาวและคลุมศีรษะด้วยด้วยยืนอยู่ข้างเสาไฟฟ้า ก็บอกให้ทุก ๆคนดูก็ไม่มีใคนสนใจ แล้วก็รู้สึกว่าทุก ๆคนเดินนำหน้าออกไปไวมาก ๆ ห่างออกไป ๆ แล้วก็มีมือมาดึงขาดิฉันจนล้มลงเรียกใครให้ช่วยก็ไม่มีใครได้ยินทั้ง ๆที่อยู่ไม่ไกลเลย จนสุดท้ายลุกขึ้นได้เองก็รีบวิ่งตามเค้า อีกครั้ง ประมาณ 7-8 ขวบโดนพี่สาวคนโตตีอย่างไม่มีเหตุผลคือเพียงแค่หาของที่เค้าต้องการไม่เจอ เค้าโมโหมากมาตีเราแบบซ้อมเลย จับศีรษะโคกกับเสาด้วยก็หนีไปปูเสื่อร้องไห้คนเดียวอยู่ลานหลังบ้านซึ่งมีต้นไม้มากมาย มีนกตัวเล็ก ๆบินลงมายืนอยู่ข้าง ๆเข่าแล้วเอาเท้าข้างหนึ่งข่วนหรือเขี่ยเข่าของดิฉันแล้วถามเป็นภาษาคนว่า ใครทำเจ้าหรือเจ้าจึงร้องไห้ถึงเพียงนี้ ดิฉ้นตกใจแทบหยุดร้องไห้ และกำลังจะตอบเค้าว่าใครทำ แต่เค้าก็บินหนีไปก่อน คิดว่าตัวเองฝันไป แต่พอมองดูที่เข่าก็ยังเห็นรอยข่วนที่เข่าแบบเหมือนรอยข่วนจากเล็บนกเลย เล่าให้พ่อ แม่พี่น้องฟังเค้าก็หัวเราะ ก็เลยคิดว่าตัวเองละเมอไปเพราะเสียใจ แต่ก็ยังจำได้ขึ้นใจแม้จะ หลายสิบปีแล้ว ก็มีอะไรเล็ก ๆน้อย ๆอยู่บ้างแต่ไม่สามารถไปพบท่านผู้ได้หรอกค่ะ เล่าเรื่องเล็ก ๆน้อย ๆให้อ่านเฉย ๆ แต่ตอนนี้เชื่อแล้วว่าสิ่งเหล่านี้มีจริง
     
  17. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    คุณ I Love NIPPan ค่ะ ดิฉันไม่ได้มีเจตนาไม่ดีใดๆเกี่ยวกับพระอริยสงฆ์องค์ใดทั้งนั้นค่ะ ที่เรียกตำแหน่งพระแต่ละองค์ไม่เหมือนกันนั้น มิได้มีเจตนาลบหลู่ หรือ คิดว่าองค์ไหนดีกว่าองค์ไหน อาจจะเพราะเคยชินแบบที่เคยเรียกมามั้งคะ เพราะเคยไปนั่งวิปัสสนาที่วัดท่านมาก่อน แล้วดิฉันก็ทราบถึงตำแหน่งของท่าน บางครั้งดิฉันก็เรียกว่า หลวงพ่อ...เหมือนกันค่ะ เพราะว่าง่ายดี ถ้าทำให้ขุ่นข้องหมองใจ ก็ขออโหสิไว้ ณ ที่นี้นะคะ
     
  18. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    คุณฟลัฟฟี้ น่าจะลองศึกษาตัวเองดูนะคะ อาจจะมีบุญเก่าช่วยหนุนให้ปฎิบัติได้เร็วขึ้นค่ะ
     
  19. tbt

    tbt เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +138
    ผมขอเป็นกำลังใจให้นักปฏิบัติทั้งหลาย จะได้มีกำลังใจในการปฏิบัติ เรื่องราวที่เกิดขึ้นที่บ้านผม คือ เกิดกับภรรยาของผมเอง ทีแรกเขาคุยให้ผมฟังผมแปลกใจมาก จะเป็นไปได้ยังไง ตอนหลังมีหลายคนที่มีสมาธิแบบนี้ จึงทำให้ผมเกิดความเชื่อขึ้นมาว่านี้เป็นเรื่องจริงแล้วครับ ขึ้นอย่ที่จิตคนจะเชื่อก็ได้ไม่เชื่อก็ได้แล้วแต่บุญของแต่ละคนครับ
     
  20. สงบระงับ

    สงบระงับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    660
    ค่าพลัง:
    +2,919
    อนุโมทนาบุญ กับผู้มีประสบการณ์ทางบุญทุกท่านด้วยค่ะ ยังไม่เคยได้สนทนากับพระพุทธเจ้าเลยค่ะ แต่มีประสบการณ์สนทนาโต้ตอบกับเทพเบื้องบนอยู่หลายครั้งครั้งแรกๆ ก็ยังงงอยู่ค่ะ นึกว่าอุปทาน แต่เมื่อหลายครั้งเข้าก็เริ่มเรียงลำดับเหตุการณ์ และทราบว่าไม่ใช่เป็นเรื่องบังเอิญ ไม่ใช่เรื่องอุปทาน เคยขึ้นไปดู เรือนไม้หลังใหญ่ ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับสวดมนต์ โดยแยกเป็นห้องๆ มีใครบางคนมารับและเมื่อถึงเวลาก็นำมาส่งด้วยค่ะ ขอบคุณสำหรับการเล่าประสบการณ์ของทุกท่านค่ะ จะหมั่นปฏิบัติต่อไปอย่างไม่ลดละค่ะ สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...