ไส้ติ่งกับภัทรอังคาร

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย ภัทรอังคาร, 12 เมษายน 2009.

  1. ภัทรอังคาร

    ภัทรอังคาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +14,098
    วันนี้วันหยุดของคนอื่น ส่วนภัทรต้องมาทำงาน ทั้งๆที่ไม่มีไรให้ทำ เหงาๆเซ็งๆ ไม่รู้จะทำอะไรให้เป็นประโยชน์ดี เลยคิดว่ามาตั้งกระทู้ให้เพื่อนๆอ่านประสบการณ์ อันน่าตื่นเต้น และระทึกของภัทรตอนไปผ่าใส้ติ่งดีกว่า แล้วเมื่อเพื่อนๆอ่านแล้ว ก็จะได้รู้สึกปลงกับชีวิต อย่าได้ไปยึดติดสังขาร ร่างกายให้มันมาก ตอนแรกก็ไม่รู้ว่าจะไปตั้งกระทู้ห้องไหนดีเพื่อความเหมาะสม อยากให้ไปอยู่ในห้องกฎแห่งกรรม เพราะจริงๆแล้วภัทรเชื่อว่าอะไรที่เกิดขึ้นกับตัวเราล้วนเกิดจากกรรมทั้งนั้น แต่เมื่อคิดอีกทีก็คิดว่ามาตั้งในห้องสุขภาพดีกว่า เพราะว่าหากไปตั้งผิดห้องเจ้าหน้าที่เขาต้องมาเสียเวลาย้ายกระทู้เรา ก็เลยเป็นอันว่่ามาตั้งห้องนี้แหละน่าจะเหมาะสมที่สุดแล้ว ก็ไม่รู้ว่ากระทู้นี้จะเกิดประโยชน์ และสาระประการใดกับท่านผู้อ่่านหรือไม่ แต่ประโยชน์เกิดกับภัทรแน่นอนอยู่แล้วละ คือทำให้มีอะไรทำ แต่สำหรับผู้อ่าน ไม่รู้จิ จะได้ประโยชน์อะไรจากเรื่องเล่าไร้สาระนี้หรือป่าว แต่อย่างน้อยก็เชื่อว่าถึงแม้จะไม่ได้ประโยชน์อะไรมากนะ ก็คงจะได้รับความบันเทิง จะเล่าแบบฮาๆ เลยเนาะ ไม่รู้จะฮาได้ขนาดไหน เพราะเป็นแค่ตลกสมัครเล่นอ่ะ แล้วอีกอย่างการไปโดนขึ้นเขียงเนี่ย มันก็ไม่ใช่เรื่องสนุกเลยนะจะบอกให้ เอาเป็นว่าเข้าเรื่องเลยดีกว่าเนาะ อารัมบทมาเยอะแล้วเดี๋ยวจะขี้เกียจอ่านกันซะก่อน ใจเย็นๆนะจ๊ะ อ่านแล้วต้องทำใจ เพราะมันจะมีตอนต่อๆไปนะ เนื่องจากเขียนทีเดียว คงไม่หมด เพราะคิดไม่ออก 5555555
    [​IMG]

    เรื่องเกิดขึ้นเมื่อตอนดึกของวันอังคารที่ 24 มีนาคม ในขณะที่ภัทรอังคารกำลังนอนหลับสนิท แถมยังฝันดีอีกต่างหาก ก็ถูกปลุกขึ้นด้วยอาการปวดท้องอย่างรุนแรง ตื่นมานอนลืมตา นึกสักพัก ว่าปวดท้องอะไร ก็นึกขึ้นได้ว่า อ๋อ คงปวดท้องหนักมั้ง นอนคิดไปคิดมาอยู่ตั้งนาน ตอนนั้นก็ประมาณตีสองได้ ว่าจะเอาอย่างไรดี จะทนปวด หรือจะไปเข้าห้องน้ำให้มันรู้แล้วรู้รอด ไอ้ที่ยังไม่ยอมลุกไปเพราะมันขี้เกียจ โห ก็คิดดูสิ ตีสองเนี่ยนะ กำลังนอนอร่อยเลย สักพักชักไม่ไหวแล้ว มันปวดจนทนไม่ไหว ก็รีบวิ่งปรื๊ดเดียวสองก้าวได้ ถึงหน้าห้องน้ำ ก็เข้าไปทำธุระเสร็จสรรพออกมา ก็มานอน แต่มันก็ยังนอนไม่หลับ เพราะมันปวดตะหงิดๆอีกแล้ว อ้าว เป็นไรฟระ ยังไม่หมดหรือไงใจก็นึก ไม่เอาแล้วขี้เกียจ จะนอน แต่ก็นอนไม่ได้ ก็ไปอีก รอบ สอง สาม และ สี่ สรุปคืนนั้นทั้งคืนวิ่งเข้าห้องน้ำทั้งหมดสี่รอบ รอบสุดท้ายหมดแรง แต่ความปวดไม่ทุเลาลงเลย ภัทรก็เลยวินิฉัยอาการด้วยตัวเองว่า เอ้อ สงสัยอาหารจะเป็นพิษเนาะ เพราะเมื่อตอนหัวค่ำไปซื้อผัดผักกระเชดมาทานกับข้าว เนื่องจากวันนั้นเป็นวันอังคาร ภัทรไ่ม่ ทานเนื้อสัตว์อยู่แล้ว ก็เลยให้เขาผัดผักกระเชดไฟแดงให้ แต่กว่าจะกินผักกระเชดมันก็เหี่ยวเฉา จากกรอบๆ ก็กลายเป็นเหนียวเคี้ยวไม่ไหว เพราะมันไม่เหมาะกับผู้สูงอายุ 555 ทานไปก็อร่อยไปตามประสาของอาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์เนาะ ก็ทานจนหมดแหละแบบเหนียวๆอย่างงั้นเลย คงเคี้ยวไม่ละเอียดด้วย

    เพราะฉนั้น ภัทรจึงนึกว่าอาหารต้องเป็นพิษแน่ ทำไงดีละ เข้าห้องน้ำก็ตั้งสี่รอบ แ้ล้ว รู้สึกว่าอยากจะอาเจียนด้วย เลยไปคว้ายาหม่อง มาทาทั่วท้อง เย็นๆๆ ดี แต่แหม นึกว่าอาการปวดมันจะลดลง มันไม่นะ กับเพิ่มเป็นเท่าทวีคูณ ตอนนั้นก็ใกล้จะสว่างแล้วภัทรก็นอนบิดไปบิดมากระสับกระส่าย ไข้ก็เริ่มขึ้น นอนไปก็คิดว่าเดี๋ยวก็เช้าแล้วเดี๋ยวมันคงหายเอง นอนภาวนาเถอะ ก็ พุทโธๆๆๆๆๆๆ ไม่รู้กี่ พุทโธ ก็เคลิ้มหลับไปได้หน่อยนึง

    พุทธ 25 มีนาคม 2552

    ตื่นมาอีกที เอ้า หกโมงเช้าแล้ว ดีใจนึกว่าท้องหายปวด จะได้ไปวัดทรงเมตตา เพราะวันนี้เขามีหล่อสมเด็จองค์ปฐม อุตสาห์ลางานไว้เป็นที่เรียบร้อย กะว่าจะไปวัดแต่เช้าถือศีลทั้งวันทั้งคืน เช้าวันพฤหัสค่อยลงมาแล้วก็ไปทำงานเลย ลุกขี้นมาแต่งชุดขาว ตามประสาคนเข้าวัดถือศีล 8 กะเดินไปหน้าปากซอยหาซื้อของที่ต้องใช้ในวัดก่อน ที่ไหนได้เดินไปถึงแค่หน้าปากซอยไม่ทันได้ซื้ออะไรต้องวิ่งจู๊ด กลับมาบ้าน เพราะว่ามันปวดจนทนไม่ไหว เข้าห้องน้ำอีก ออกมาจากห้องน้ำได้ ก็คลานเลยที่นี่ มานอนดิ้นชักกะแด่วๆ อยู่กลางห้องรับแขก นอนร้องโอดโอย รองเอามือกดๆทั่วท้องตั้งแต่สะดือลงมา โห ทำไมมันปวดแปลบๆ ไปหมด ปวดแบบร้าวๆ แต่ที่ปวดหนักคือด้านขวามือ ใต้สะดือนิดเดียว ปวดจนกดตรงไหน มันก็มาปวดมาอีฝั่งนี่แหละ

    คุณแม่ที่เคยนอนตื่นสาย เจ็ด แปด โมงเช้าก็ยังไม่ตื่น วันนี้มีอันต้องตื่นเพราะเสียงลูกสาวร้องหงิ๊งๆๆอยู่ข้างนอก คุณแม่เดินออกมาได้ก็ถาม "เจ้าอุ้มแกเป็นไรไป" เราก็กัดฟันตอบ "แม่จ๋าหนูไม่ไหวแล้ว ถ้าหนูตายไปแม่อยู่คนเดียวได้ไหม" แม่ก็ตกใจอย่างหนักเลยทีนี้ รีบมานั่งข้างๆ "เอา เป็นไรละลูก" เสียงอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด "ก็หนูปวดท้องมากค่ะแม่ปวดตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ยังไม่ยอมหายปวดสักที" แม่ก็บอกว่า "อ้าว ก็กินน้ำร้อน กินยาแก้ปวด สินะลูกนะ จะได้หาย" อิอิอิ เรื่องของเรื่อง แม่กลัวเราตาย เพราะแม่ขาดเราไม่ได้ ภัทรก็ตอบไปว่า "กินอะไรไม่ได้เลยจ๊ะ แม่จ๋า อย่าให้หนูกินเลยนะ" แม่ก็แว๊ดมา "อ้าว ไม่กินยาแล้วมันจะหายปวดได้ไง ไอ้เบื๊อก" "บอกให้กินยาเข้าใจไหม" "ไม่หนูไม่กิน ไม่กินไรทั้งนั้น" โถก็จะกินได้ไงละครับท่านผู้ชม ปากแห้ง ลิ้นขม ไข้ขึ้นไม่รู้กี่องศา รู้อย่างเดียวว่า ตรูจะตายภายในอีกไม่กี่วิ ถ้าไม่ถึงมือหมอ สองคนแม่ลูกไม่รู้จะทำอย่างไร มองหน้ากันไปมองหน้ากันมา เราก็นอนบิดนอนดิ้นเป็นปลาช่อนถูกทุบหัว

    และแล้วก็ได้ยินเสียงสวรรค์ ป๊อกๆๆๆๆ รถมอเตอร์ไซด์เพื่อนมาจอดหน้าบ้าน ที่มันดัง ป๊อกๆๆๆ เพราะมันเก่ามากแล้วไง เสียงมันก็เลยเป็นอย่างไง เจ๊ฉาย (นามสมมุติ) เพื่อนกันสาวใหญ่ๆไปหมด ทั้งอายุ ทั้งรูปร่าง เธอเป็นแขกประจำของบ้านนี้ ไม่่รู้พิศวาสอะไรนักหนา มาได้ทุกวันให้ตายเถอะโรบิ้น แต่วันนี้เธอมาเราแฮปปี้สุดๆ คุณแม่ก็เอาก่อนเลย "ฉายๆ เข้ามาเร็วๆเข้า ไอ้อุ้ม มันเป็นไรไม่รู้ ปวดท้องหนัก ฉายช่วยไปซื้อยามาให้มันกินหน่อยสิ เดี๋ยวมันจะตายเอา (อันนี้เราพูดเองในใจนะ 55555)" เจ้ฉายก็เดินอุ้ยอ้ายเข้ามา นึกในใจ เดินให้มันไวกว่านี้หน่อยไม่ได้หรือไง คนจะตายอยู่แล้ว พอแกเข้ามาได้แกก็ถาม "อุ้มเป็นไรไป" ภัทรก็ตอบแกด้วยเสียงที่เซ็กซี่ที่สุดแล้ว ทั้งแหบทั้งเบา บอกว่า "เจ๊หนูก็ไม่รู้เหมือนกันปวดท้องมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว เข้าห้องน้ำตั้งสี่ห้ารอบ มันก็ยังไม่หายปวด สงสัยหนูจะตายแล้วมั้งเจ๊" เจ๊ก็คงคิดเหมือนแม่แหละ "เฮ้ย ตายไม่ได้นะ ไปๆๆลุกขึ้นไปร้านขายยาหมอหน่อย(นามสมมุติ) ซ้อนท้ายเจ้ไป" แหมคนจะตาย ยังจะให้นั่งซ้อนมอเตอร์ไซด์เก่าๆอีกเนอะ แต่ด้วยแรงเชียร์ของมารดาอันเป็นสุดที่รักว่า "ไปเถอะลูกไปหาหมอหน่อยเดี๋ยวเขาก็จัดยาหรือฉีดยาให้เอง" นึกในใจหมอหน่อยคือร้านขายยา จะช่วยไรได้ แต่ก็หุบปากไว้ไม่พูด พยุงตัวลุกขึ้น เดินกระย่องกระแย่งไปขึ้นรถมอเตอร์ไซด์หน้าบ้าน กว่าจะขึ้นได้ใช้เวลาอยู่พอสมควร เจ๊แกก็ขับบึ่งห้อเลย ตกหลุมหลายรอบ เ้จ็บยิ่งกว่าเ่ก่า ไปถึงร้านหมอหน่อยได้ แทบลมจะใส่ ลงจากรถเดินไม่เป็นเลย

    โห พิมพ์มาตั้งเยอะแล้วเดี๋ยวโพสก่อนดีกว่าข้อมูลหายหมดละแย่เลย เดี๋ยวมาต่อนะค่ะ เรื่องนี้ถ้าจะอ่านจริงๆยาวนะ ขอบอก เพราะเล่าทุกฉากทุกตอนเลย ตอนเข้าโรงพยาบาลยิ่งน่าติดตามเพราะจะรู้เรื่องโรงพยาบาลอีกมากมายที่ไม่เคยมีเปิดเผยที่ไหนมาก่อน ถ้าไม่เบื่ออ่านเสียก่อน ก็จะหมั่นมาเขียน แต่ถ้าขี้เกียจเขียนเสียก่อนก็คงไม่ได้อ่านต่อแล้วนะจ๊ะ อิอิอิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 เมษายน 2009
  2. ภัทรอังคาร

    ภัทรอังคาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +14,098
    [​IMG]

    ลงจากรถมอเตอร์ไซด์ได้ก็แทบจะคลานเข้าร้าน ลืมบอกไปว่าร้านขายยานี้ เขารับฉีดยา ทำแผล รักษาพื้นฐานเบื้องต้นให้ผู้ป่วยด้วย เขาเรียกว่าอะไรนะ หมอชุมชนเหรอ ไม่รู้เหมือนกัน แต่เขาไม่มีใบประกอบแพทย์ คลีนิค หลายๆคลีนิคแถวนั้นพยายามจะปะท้วงให้ร้านนี้เลิกรักษาคน แต่ก็ยังมีคนไปให้เขารักษาอย่างต่อเนื่อง ช่างเถอะ ไม่อยากพูดเรื่องคนอื่นหรอก พูดเรื่องตัวเองดีกว่า พอไปถึงหมอเขาก็รัดคิวให้เลย ภัทรบอกเขาว่าภัทรปวดท้องมาก ปวดจนทนไม่ไหวแล้ว มือเท้าเย็นหมด หน้าซีด ตัวซีดไปหมดแล้ว ช่วยฉีดยาให้หน่อย หมอก็ให้ไปนอนบนเตียง เดชะบุญนะ ที่หมอเห็นแล้วหมอตกกะใจ จับเท้า จับมือเราว่าทำไมมันเย็นเป็นน้ำแข็งเยี่ยงนี้ จากที่เธอเคยรีบรักษา เธอบอกกับเจ๊ที่ตามเข้ามาดูว่า เจ๊พาเขาส่งโรงพยาบาลอย่างด่วนเลย แค่นั้นแหละ คุณภัทรอังคารก็โล่งอก แทบจะกระโดด เย้ๆ ตรูจะรอดตายแล้ว แต่หารู้ไม่ว่าความตายรออยู่ข้างหน้า เจ๊ก็ประคบประหงม เหมือนไข่ในหิน มือโตๆของเจ๊โอบประคองเรากลับขึ้นรถ แล้วพูดกับเราว่า "อุ้มเดี๋ยวเจ๊จะเรียกรถตุ๊กๆมาให้ไปส่งอุ้มที่โรงพยาบาลนะ อุ้มจะได้ไปถึงเร็วๆ มีรถตุ๊กๆรับจ้างแถวบ้านเจ๊ ให้เขาไปส่งที่โรงพยาบาลที่สัตหีบเลยนะ" แล้วเดี๋ยวจะมาเล่าว่าทำไมต้องเป็นโรงพยาบาลนี้ ใจเราก็นึกรถตุ๊กๆๆเนี่ยนะ ไปโรงพยาบาลที่ห่างจากบ้าน 30 กว่ากิโลเนี่ยนะ เจ๊คิดได้ไงฟระ ทำไมไม่หาคนมาขับรถ หรือเช่ารถกระบะใครไป ตุ๊กๆเมื่อไหร่จะไปถึง เจ๊ก็อวดสรรพคุณตุ๊กๆว่า มันกว้างขวางดีนะ ไม่ได้ต้องการกว้างขวาง ต้องการให้ถึงไวแล้วก็ปลอดภัยเฟร้ย เจ๊ส่งเรากลับบ้านแล้วก็รับปากว่าจะไปตามตุ๊กๆๆมาให้นั่ง ภัทรก็อ้อนแกว่า"เจ๊ขับรถไปส่งหน่อยไม่ได้หร๋อนะเจ๊ะนะ" เจ๊สวนกลับทันควัน "เฮ้ยได้ไง เจ๊ต้องทำไก่ เตรียมไก่ให้สามีออกไปขายใช้เวลาเต็มๆวัน ไอ้อุ้มไปกับคนอื่นนะดีแล้ว แล้วว่างๆเจ๊จะไปเยี่ยม" เห้อตรูชีวิต คนจะตายแต่เจ๊แกกับห่วงขายไก่ เอาเถอะ ตายก็ตายคนเดียวฟระ แต่พอส่งกลับถึงบ้านเจ๊แกก็เกิดปิ๋งไอเดียนึงขึ้นมา เดินไปหาเพื่อนข้างบ้านภัทรหลังนึง เขาชื่อพี่เอ (นามสมมุติ) เป็นพ่อหม้าย ขายกล้วยหอม ไปถึงได้พี่เอพึ่งกลับมาจากตลาดพอดี เจ๊แกก็เริ่มเลย "เอๆๆ ไปส่งไอ้อุ้มที่โรงพยาบาลที มันจะตายอยู่แล้ว คิดเสียว่าทำบุญช่วยลูกนกลูกกาเถอะนะ เอนะ" พี่เอก็มองหน้าเราสองคนด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์มากๆ แล้วก็ถามด้วยน้ำเสียงห้วนๆว่า "มันเป็นไรละ โหไปตั้งนู่นเลยหร๋อไม่อยากไปเลย" แล้วก็ทำหน้าเซ็งๆ ไอ้เราก็ปวดท้องแทบขาดใจ หมดอารมณ์ก็เลยแว๊ดขึ้นมา "เจ๊ไปเรียกตุ๊กๆมาให้หนู ไม่ต้องไปขอให้เขาช่วย" แล้วเราก็เดินกลับ สักพักเสียงพี่เอไล่ตามหลังมาว่า "เอ้อๆ ไปส่งให้ก็ได้"แบบไม่เต็มใจนัก เราก็เดินมาถึงหน้าบ้านแล้ว เจ๊แกก็เดินตามมาบอกว่า "ไอ้อุ้ม ไปกับตาเอนะดีแล้ว จะได้ถึงไวๆ ปลอดภัยหายห่วง" อยากจะบอกว่าใครอยากจะไปด้วยฟระ น้ำเสียงและหน้าตาอย่างงั้นนี่นะ พอดีรถเขามาจอดหน้าบ้านเลยไม่ได้พูดเลย ก็พยุงตัวเองขึ้นรถ ไม่มีหรอกที่พี่เอจะมาช่วย คือคนนี้ปกติเขากลับมาจากขายของแล้วอันดับแรกเลย คือเขาต้องนอน แล้วพอมาเจอเรื่องเราก็ต้องทำให้เขาอดนอน เราก็เข้าใจ แต่จะทำไงได้ ถ้ามีคนอื่นเราก็ไม่พึ่งเขาหรอก แล้วอีกอย่างภรรยาเขาก็ป่วยเสียชีวิตที่โรงพยาบาลที่เราจะไปด้วย เราก็เข้าใจว่าทำไมเขาถึงไม่อยากไป

    ตลอดการเดินทางจากบ้านไปโรงพยาบาลพี่เอ ขับรถบึ่งอย่างเดียว กระแทกกระทั้น ใช้เส้นทางลัดเลาะหนองจับเต่า ออกเส้นสาย 331 เชื่อไหมตลอดทางแกไม่พูดไรกับภัทรซักคำ ไม่ถามว่าเจ็บปวดมากไหม แกตั้งหน้าตั้งตาขับเหมือนโกรธแค้นใครมาเป็นชาติ อยากจะบอกให้แกจอดรถแล้วเราก็จะลง แต่ก็แข็งใจว่าจะตายอยู่แล้ว อย่าทำปากเก่ง ไปให้ถึงโรงพยาบาลไวๆเถอะ ภัทรก็นั่งหลับตา ไม่สนใจแกเหมือนกัน ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงกว่าจะถึงโรงพยาบาล พอถึงประตูทางเข้าฉุกเฉิน พี่เอก็เหยียบเบรคกึก ภัทรหัวขมำไปข้างหน้า เราก็ทำใจดีสู้เสือหันไปถามว่า "ค่ารถเท่าไหร่ค่ะพี่เอ" ถามไปตามมารยาทอย่างงั้นแหละ ไม่คิดว่าแกจะเอาจริงๆหรอก แหะๆๆ แกตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่าไม่ต้อง ภัทรก็พูดกับแกว่า "ขอบคุณมากนะค่ะพี่เอ หากตายไปวันนี้อะไรที่เป็นเวรเป็นกรรมกันก็ขอให้อโหสิกรรมกันด้วยนะจ๊ะ" พูดได้แค่นั้นเราก็เปิดประตูออกมาเรียกบุรุษพยาบาลให้มาเข็น ส่วนพี่เอก็บึ่งรถออกจากโรงพยาบาลแทบจะไม่ทันใจเลยมั้ง คงนึกว่าอย่าป่วยบ่อยให้มาเป็นภาระตรูอีก ถ้าจะตายก็ตายไปเลย (อันนี้เราก็คิดเองอีกแล้ว ภัทรอังคาร มีความสามารถพิเศษ คือคิดไรไปได้เรื่อยเปื่อย เขาไม่พูดแต่เราคิดไปเอง อิอิอิอิ ก็คนมันเจ้าคิดนี่ เจ้าค่ะ)


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 เมษายน 2009
  3. ภัทรอังคาร

    ภัทรอังคาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +14,098
    บุรุษพยาบาลให้เรานั่งรถเข็น แล้วเข็นภัทรไปที่ห้องเวชระเบียน (เอ้เรียกถูกไหมหนอ) มือภัทรก็กำอยู่ที่ท้องปวดมากจนพูดจาแทบจะไม่ไหว เจ้าหน้าที่ก็ถามว่า มีบัตรรักษาอะไรไหม ก็บอกว่ามีประกันสังคม เขาก็บอกว่ายื่นบัตรประกันสังคมเลย ภัทรก็ยื่น เขาถามว่ามีญาติมาด้วยไหม บอกไม่มีค่ะ เขาก็บอกว่า เอ้าแล้วใครจะดำเนินยื่นเรื่องให้ละ เขาก็ไม่มีหน้าที่ไปวิ่งเรื่องให้เรา นึกในใจ โอ๊ยอย่ามัวพูดมากอยู่เลย ทำอะไรก็ทำเถอะ คนมันจะตายอยู่แล้ว ยังจะมาห่วงไอ้พวกเอกสาร ขั้นตอนบ้าๆอยู่อีก คือว่าตอนนั้นไม่เข้าใจจริงๆนะ แล้วความเจ็บปวดมันอยู่เหนือเหตุผลอ่ะแล้วที่เลือกมาที่นี่ก็เพราะมีประกันสังคม ส่วนประกันสุขภาพที่ซื้อไว้ของ เอไอเอ มันดันหมดอายุไปแล้ว เลยนั่นแหละต้องเข้าโรงพยาบาลรัฐ เจ้าหน้าที่ก็หันมาถามอีกว่า อ้าว แล้วญาติที่มา่ส่งเมื่อกี้ไปไหนเสียละ ภัทรก็บอกว่า "เขาก็กลับไปแล้วสิคุณ เขาไม่ใช่ญาติ จ้างเขามาส่ง" แค่นั้นแหละถึงได้เงียบกันได้ เจ้าหน้าที่สองคน หญิงและชายมองตากันปริบๆ เหมือนพึ่งจีบกันใหม่ๆ คงจะคิดคำนวณแหละว่าจะเอายังไงกับยัยคนนี้ดี ภัทรก็เริ่มเล่นมุกเลย "โอ๊ย ปวด ปวด เหลือเกิน ไม่ไหวแล้วค่ะคุณ" ผู้ชายกับผู้หญิงเกี่ยงกัน ใครจะเป็นคนวิ่งเอกสารให้ สรุปไปตกลงกันเองละกัน
    [​IMG]

    เจ้าหน้าที่หันมาบอกบุรุษพยาบาลว่า คุณเข็นคุณผู้หญิงเข้าห้องฉุกเฉินไปเลย ให้ขึ้นเตียงนอนเลยนะ ตอนนั้นเป็นเวลา เกือบเก้าโมงเช้า ของวันพุทธที่ 25 มีนาคม วันที่ภัทรรอคอยว่าจะได้ไปถือศีล 8 บนวัด ไปร่วมเททองหล่อพระ ฝันสลาย กลับกลายมาเป็นต้องขึ้นมานอนเตียงที่โรงพยาบาลแทน เรื่องมันเศร้าอย่างบอกไม่ถูก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 เมษายน 2009
  4. ภัทรอังคาร

    ภัทรอังคาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +14,098
    สรุปเรื่องนี้มันแลเหมือนจะยาว นี่พึ่งจะถึงตอนเข้าโรงพยาบาลขั้นแรก ยังไม่ถึงตอนผ่าตัด ตอนเจอเพื่อนร่วมทุกข์ ร่วมสุข อีกหลายเตียง เมื่อยแล้ว แหะๆๆ เอาเป็นว่าใครอยากให้เขียนต่อก็มาลงทะเบียนไว้ละกันจ๊ะ เพราะถ้าไม่มีใครสนใจ ก็จะไม่เขียนอ่ะ เพราะมันจะยืดเยื้อมาก ไหนจะขั้นตอนการผ่าตัด ไหนจะรบกับหมอ ไหนจะต้องเล่่าเรื่องเพื่อนข้างๆที่อาการหนักหนาสาหัสกว่าเราอีก ใครอยากฟังก็ถึงจะกลับมาเล่าให้ฟังใหม่นะจ๊ะ
     
  5. พระไตรภพ

    พระไตรภพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,067
    ค่าพลัง:
    +7,521
    สาธุ ดีแล้ว จงค้นหาพระธรรมจากทุกๆสถานเถิด แล้วจะเกิดบุญล้นอนันหลาย สุขแท้ๆเกิดจากแย่แก่เจ็บตาย มองเห็นคลายห่วงยึดหลุดพ้นมาร

    สาธุ ขออนุโมทนานะ
     
  6. patcharapa25

    patcharapa25 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2009
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +11
    อยากฟังต่อค่ะ รบกวนต่อนะคะ
     
  7. ภัทรอังคาร

    ภัทรอังคาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +14,098
    กราบนมัสการและกราบขอบพระคุณมากเจ้าค่ะ โยมก็เห็นทุกข์ เห็นธรรม ในโรงพยาบาลนี่แหละเจ้าค่ะท่าน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 เมษายน 2009
  8. ภัทรอังคาร

    ภัทรอังคาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +14,098
    ขอบคุณนะค่ะ ที่ให้ความสนใจ เป็นปลื้มเลย แหะๆๆ ไว้ภัทรจะมาเล่าต่อนะค่ะ ต้องเติมพลังก่อน พิมพ์เยอะๆมันก็เหนื่อยเหมือนกันแล้วก็กะเว้นช่องไฟ ไว้ให้คนอื่นพูดบ้าง ไม่ใช่พูดเล่าอยู่คนเดียว เหมือนบ่นกับตัวเองเยย ช่วงหลายวันนี้คงมีโอกาสได้พิมพ์ให้อ่านจนจบ เพราะว่าไม่มีงานอะไรให้ทำ ก็จะนั่งพิมพ์มันแต่กระทู้นี่แหละ จริงๆที่ภัทรอยากจะเล่า มันไม่ใช่เรื่องของภัทรเองซักเท่าไหร่ แต่มันเป็นเรื่องของคนอื่นๆที่เขาทุกข์หนักกว่าเราเจ็บหนักกว่าเรา แต่ถ้าเล่าทั้งหมดเรื่องของแต่ละคน แต่ละเตียงนะ คุณเอ๋ย สงสัยคงหาคนอ่านไม่เจอแล้วละค่ะ 555555 แต่ก็อยากเล่านะ แล้วจากการที่ไปป่วยนี่แหละ ภัทรก็ได้เพื่อนที่ดีมาคนนึง เหมือนกรรมพามาให้พบเจอกัน ณ โรงพยาบาลแห่งนี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 เมษายน 2009
  9. pucca2101

    pucca2101 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    5,805
    ค่าพลัง:
    +20,896
    เจ๊อุ้มอย่าพักเมื่อยนาน รีบๆ มาเขียนให้จบเร็ว ๆ เด้อ อิอิ [​IMG]
     
  10. ภัทรอังคาร

    ภัทรอังคาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +14,098
    อะ ว่าแล้วก็อย่าปล่อยเวลาอันมีค่าให้เสียป่าว มาเล่าต่อเลยละกันจ๊ะ

    พอบุรุษพยาบาลเข็นภัทรเข้าห้องฉุกเฉิน ภัทรก็เหลียวซ้ายแลขวา มองดูรอบๆตัว ด้วยหัวใจที่เต้นระทึกเพราะความกลัว ห้องฉุกเฉินก็มีเตียงหลายเตียง เรียงๆกันไป มีผู้ป่วยอาการหนักๆ นอนอยู่บนเตียง บ้างก็นอนนิ่งๆ บ้างก็ร้องโอดโอย เขาเข็นภัทรมาเกือบจะสุดห้องมั้งก็มาเจอเตียงว่าง พยาบาลก็กรูกันเข้ามาจัดเตียง แล้วก็พยุงตัวเราให้ขึ้นไปนอนบนเตียง พอนอนบนเตียงได้ การซักประวัติก็เริ่มขึ้น เริ่มจากชื่อ นามสกุล เป็นไรมา ทั้งๆที่บอกตรงหน้าห้องเวชระเบียนแล้ว แต่ก็ช่างเถอะ ให้เขาถามเขาคงอยากรู้ นางพยาบาลก็มาถามๆเราก็ตอบอาการไป เสร็จแล้วเขาก็ทิ้งเราไปให้เรานอนอยู่บนเตียงนั้น อีกสักพัก ก็มีนักเรียนแพทย์ผู้หญิงหนึ่ง ผู้ชายหนึ่ง ที่ภัทรบอกว่านักเรียนแพทย์ก็เพราะเขาเป็นนักเรียนแพทย์จริงๆไม่ใช่หมอ เขาก็เดินตรงมาถามเป็นไรมา คำถามเดิมๆที่นางพยาบาลถามไปก่อนหน้านี้แล้ว เราก็นึกจะถามให้ได้โล่กันหรือไงฟระ คนปวดจะตายอยู่แล้ว มัวมานั่งถาม แล้วก็เชื่อไหม ต้องตอบคำถามเดิมๆนี้เป็นอีกสิบๆรอบกว่าจะได้เวลาผ่่าตัด เอ้ามาฟังต่อ พอเขาถามเราก็ตอบเขาด้วยความเซ็งว่า ปวดตรงนู้น ตรงนี้ ก็บอกอาการเขาไป นักเรียนแพทย์นี้ก็เริ่มเลย เปิดท้องเรา ได้ก็เริ่มกด ปวดตรงนี้ใช่ไหม เจ็บตรงนี้หรือป่าว ตรงไหนเจ็บมากกว่ากัน หมอกดตรงนี้ปวดไปถึงตรงไหย ตอนนั้นนะความรู้สึกอยากจะยันหมอที่สุดเลย เพราะพี่แกกดโดนจุดที่ปวดอย่างแรง แล้วภัทรก็บอกว่านี่แหละค่ะเจ็บตรงนี้ที่สุดเลย เธอก็กดๆๆอีก จนเราต้องเอามือปัดออกบอกว่าเจ็บ แล้วก็ดันมีหน้ามาถามเราอีกนะว่าเจ็บตรงนี้แน่เหรอ จริงเหรอ มั่นใจนะ ฮืม แม่เจ้า รีบทำอะไรกับตรูเสียทีเถอะ จะไม่ไหวอยู่แล้ว แต่สุดท้ายนักเรียนแพทย์คนนั้นก็จากไปโดยไม่ได้ทำอะไรให้เลย ไปนั่งหัวเราะต่อกระซิกกับนางพยาบาล สักพักก็มีนางพยาบาลถืออุปกรณ์มาวัดความดัน วัดไข้ ถือกระปุ๊กมาให้เราไปปัสวะใส่ เราก็ไปห้องน้ำมีเจ้าหน้าที่มาเข็น ปัสสวะเสร็จก็กลับมาที่เตียง แ้ล้วก็มีนางพยาบาลอีกท่านมาเก็บเลือดไปตรวจ

    [​IMG]
    ดูไว้หน้าตามันเป็นแบบนี้เอง แค่ไอ้ชิ้นนี้แหละที่ทำให้ปวดแทบตาย

    หมอหนุ่มคนนั้นก็เดินมาบอกภัทรว่าคุณนอนรอไปก่อนนะ เราต้องส่งผลเลือดและปัสวะไปที่แล็ปให้เขาเช็คนะ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าคุณเป็นไส้ติ่งอักเสบ แต่ก็อาจจะเป็นอย่างอื่นได้ด้วย เราก็บอกว่า "หมอค่ะ ขอยาบรรเทาปวดหน่อยไม่ได้เหรอ" หมอบอกมาว่าไม่ได้ ตอนนี้ห้ามกินน้ำ กินอะไรทั้งนั้น ยาอะไรสักอย่างก็ห้ามกิน เห้อ นี่มันเวง หรือกรรมอะไรของภัทรอังคาร ฟระเนี่ย จะตายอยู่แล้วไมไม่ช่วยเลย ภัทรก็นอนบิดไปบิดมาบนเตียง ท่ามกลางสายตาของนักเรียนแพทย์ และพยาบาลทั้งหลาย ที่มีอยู่มากมายให้ห้องฉุกเฉิน ไอ้เราก็นึกว่านอนแป๊บเดียว แต่ผลแล็บนานโคตรๆๆ เวลาผ่านไปประมาณชั่วโมงนึงผลก็ยังไม่มา แล้วอยู่ๆเจ้าหน้าที่ก็เข็นผู้ชายคนนึงเข้ามานอนข้างๆเตียงภัทร ผู้ชายคนนี้ก็ร้องโอดโอยมาแต่ไกล นอนเอามือกุมท้อง ก็เข้าพิธีการเดิมคือโดนถามชื่อ ถามนามสกุลซักประวัติ หมอคนเดิมมาดูมากดท้องเขา ผู้ชายก็บอกว่าปวดตรงนู้นตรงนี้ แต่แลอาการเขาหนักกว่าเราหลายเท่า นอนร้องตลอดเลย หมอก็พูดกับเขาเหมือนพูดกับเราเปะ คุณนอนรอไปก่อนเราต้องเอาฉี่กับเลือดคุณส่งไปตรวจ ห้ามกินไรทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นน้ำหรือยา ผู้ชายคนนั้นก็บอกว่าขอยาแก้ปวดหน่อยได้ไหมหมอ ผมไม่ไหวแล้วจริงๆ หมอก็ปฎิเสธ เขาก็นอนร้องโหยหวน แล้วเตียงเขาอยู่ข้างเตียงภัทรนึกออกไหม มันก็เลยทำให้เราแถบสติแตกไปด้วย นอนร้อง "หมอครับ หมอครับ ผมเจ็บ ไม่ไหวแล้วครับ ขอยาหน่อยครับ โอ๊ย หมอ ไม่ไหวแล้ว ไม่ไหวแล้ว" หมอหรือนางพยาบาล เขาก็ทำนิ่งๆไม่รู้ไม่ชี้ อยากร้องๆไป แหะๆๆ เป็นหน้าที่ของเขาที่ต้องทนฟัง แต่เรานี่สินึกว่าเมื่อไหร่จะเลิกร้องฟระ สักพักชายผู้นี้ก็ร้องขอกระโถนจากนางพยาบาล เขาก็ได้ตามที่ขอ ไม่นานเท่าไหร่ เขาก็อ๊วกแล้วอ๊วกอีก เสียงอ๊วกของเขามันทรมานใจเรามากมายเลย ทั้งน่าลำคาญ ทั้งน่าสงสาร หมอหนุ่มคนนั้นเดินมาบอกเขาว่าคุณใจเย็นๆก่อนนะ ใครจะใจเย็นได้เหมือนนาย นายไม่ได้มาเจ็บด้วยนี่ อันนี้เราคิดเอง อีกแล้วครับท่าน เดี๋ยวรอผลก่อนแล้วถึงจะรู้ว่าคุณเป็นไรแต่หมอสงสัยว่าคุณจะเป็นนิ่วในถุงน้ำดี หมอคนนี้เก่งสงสัยมากเลย สงสัยอยู่นั่นแหละ แต่ไม่ทำไรให้ สรุปเราสองคน ภัทรกับผู้ชายคนนั้น ก็นอนร้องโอดโอย ผลัดกัน เวลาผ่านไปจาก 9 โมงเช้าถึงประมาณเกือบเที่ยงผลก็ยังไม่ออกมา


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 เมษายน 2009
  11. ภัทรอังคาร

    ภัทรอังคาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +14,098
    โห แบบว่าเรื่องมันยาวเด้อน้องรัก ไม่รู้ว่าจะเสร็จ หรือจะค้างไว้ มันยาวจริงๆอ่ะ เขียนไปก็เมื่อยนะนี่ ปุ๊กกะจู้มาช่วยเจ้เขียนต่อหน่อยจิ
     
  12. walaphako

    walaphako ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +1,599
    มาให้กำลังใจน้องอุ้มจ๊ะ ของพี่สาก่อนที่จะไปทำบุญผ้าป่าที่วัดพระธาตุศรีสามรักษ์ ก็งานเข้า พาคุณแม่ที่ปวดท้องแบบรุนแรงไปโรงพยาบาล ซึ่งหมอสันนิษฐานว่ามีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้ อยากให้นอนโรงพยาบาล แต่คุณแม่ห่วงจะไปโอนที่ที่ จว.อยุธยา (เพิ่งหลุดมาจากแบ๊งค์อะ) เพราะว่าถ้าเลยจะเสียค่าโอนแพง ยังไงๆไม่ยอมนอนหมอขู่ก็แล้ว ไม่ยอมจะกลับ เลยขอยาระงับปวด แล้วตอนเช้าเราต้องเดินทางแล้ว ห่วงก็ห่วง สั่งน้องไว้แล้วก็ย้ำกับแม่ว่าโอนเสร็จทนไม่ไหวมาแอดมิทเลยนะ พอไปถึงอีกคืนนึงถึงจะได้ข่าวว่าไปแอดมิทเรียบร้อย
    แล้วอาจจะต้องผ่าตัดเพราะสันนิษฐานว่าเป็นไส้ติ่งอักเสบ (อย่าสงสัยว่าทำไมไม่งดไปทำบุญ เนื่องจากว่าตั๋วที่จองเป็นตั๋วเครื่องบินราคาพิเศษ จ่ายเงินไปหมดแล้ว 2 ที่นั่ง ทั้งไปและกลับ เปลี่ยนไฟว์ไม่ได้ เปลี่ยนคนไม่ได้ )ระหว่างนั้นก็ทำบุญไป ทุกๆวันที่ไปทำบุญตลอดอุทิศมาให้ เพื่อนๆที่ไปด้วยก็ช่วยแผ่มาให้คุณแม่เราอีกแรง สรุปว่าวันสุดท้ายก่อนกลับพลิกล๊อค ไม่ต้องผ่า แค่ให้ยาแก้อักเสบฆ่าเชื้อเท่านั้น ไม่เจอไส้ติ่ง อย่างที่หมอคนแรกสันนิษฐาน เฮ้อ รอดไป กลับบ้านอย่างปลอดโปร่งสะดวก ..
    พี่ได้เจอที่น้องอุ้มปรึกษาเฮียปอ ก็เลยรู้ว่าป่วย แต่ไม่มีโอกาส ได้คุยกันซักที ถือว่าใช้กรรมใช้เวรไปให้มันหมดๆไปนะน้อง พี่เป็นกำลังใจให้นะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 เมษายน 2009
  13. Starpegasus

    Starpegasus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    252
    ค่าพลัง:
    +826
    อ่านแล้วขำปนลุ้นครับ เพราะผมเองก็ผ่ามาแล้ว ตอนนั้นช่วงสอบมิดเทอมตอน ม.4 ด้วย
    ไม่คิดมาก่อนว่าตัวเองจะเป็นไส้ติ่ง ตอนที่ปวด หมอจะตรวจละเอียดมาก ผมเริ่มปวดตั้งแต่ตอนเย็นหลังเล่นบอลเสร็จ นอนปวดอยู่บ้าน ไปหาหมอตอนค่ำ หมอตรวจปัสสาวะและเลือด แล้วผ่าให้ช่วงดึกไม่แน่ใจว่า 5 ทุ่มหรือเที่ยงคืน ดีใจมากที่หมอจะทำอะไรให้สักที จะผ่าหรือทำอะไรก็เถอะ เพราะมันไม่ไหวจริงๆ ใครไม่เป็นไม่รู้นะครับ แต่ขอให้อย่าเป็นกันเลย
     
  14. boontar

    boontar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,718
    ค่าพลัง:
    +5,514
    ป่วยทีนึง ก็เหมือนได้ใช้หนี้ทีนึง
    ผมก็เคยใช้หนี้ด้วยโรคอื่นมาแล้ว
    ถือว่าโชคดีที่เป็นหนี้แบบชดใช้ทีเดียวแล้วจบ
    ผมกลัวหนี้แบบเรื้อรังครับ
     
  15. piakgear24

    piakgear24 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    2,696
    ค่าพลัง:
    +44,505
    เล่าได้เพลินดี แหม เหมือนได้ไปนอนเจ็บด้วยเลย
    เป็นการให้เพื่อนๆได้มองเห็นทุกข์ เพราะว่าทุกข์เป็นข้อแรกที่พิจารณากันให้หนักเพราะว่าเราทั้งหลายล้วนแต่ไม่ค่อยมองเห็นทุกข์
    เมื่อเห็นทุกข์แล้วก็จะเกิดปัญญาว่าเกิดมาเป็นมนุษย์นี่มันแสนจะทุกข์ อิอิ

    จะเห็นว่าเป็นการฝึกภาคปฏิบัติครับเพราะว่านี่มันเป็นอาการเฉียดตาย
    คนเราเมื่ออารมณ์อยู่ในเวทนาหนักนี่จะนึกถึงบุญกุศลได้มากน้อยแค่ไหน
    จะตัดความอยากเกิดได้มากน้อยแค่ไหน
    เพราะว่าคนกำลังจะตายนี่ส่วนใหญ่จะขาดสติไม่คิดถึงบุญกุศลที่เคยทำไว้ ไม่คิดถึงพระเวลาตายก็อาจจะได้ลงอบายภูมิ
    แต่ของคุณอุ้มก็เป็นการซ้อมตายเมื่อวันไหนมาถึงจริงๆก็จะพอรู้ว่าควรทรงอารมณ์อย่างไร

    ความเจ็บปวดต่างๆเวทนาต่างๆที่เกิดขึ้นอย่างที่เราเข้าใจมันเกิดขึ้นแล้วก็ดับไปก็จริงใช่ไหม แต่เวลาเราเจ็บนี่มันไม่ได้ทำง่ายๆ ดังนั้นต้องซ้อมๆไว้ให้มั่นคง

    อย่างพระอัสสชิ ที่ได้รับทุกขเวทนาก่อนนิพพาน ก็ได้เชิญพระพุทธเจ้าไปเทศนาโปรด เพราะว่าเห็นว่าทุกขเวทนามันมากจนแทบทนไม่ไหว
    ก็จะเห็นว่า ขนาดพระอรหันต์ก็ยังเจ็บปวด แทบทนไม่ไหว
    ดังนั้นเราเองก็ต้องนึกถึงแต่พระไว้ให้มั่นคง
    ดูลมหายใจ อาณาปานุสติไว้เสมอ
    ตายเมื่อไรก็พร้อมจะไปยังจุดหมายตามที่ได้อธิษฐานเอาไว้บ่อยๆ

    เท่าที่ได้เจอผีๆทั้งหลาย ก็ได้พบว่าหลายท่านก็ยังเจ็บปวดทรมานอยู่อย่างเช่นก่อนตาย
    เมื่อตายไปแล้วก็ไม่ได้หายปวด แต่พอให้นึกถึงบุญกุศลที่ได้ทำก็ได้มีประกายสว่างไสวไปตามกำลังของแต่ละท่าน
     
  16. อาคม ดอกลั่นธม

    อาคม ดอกลั่นธม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    191
    ค่าพลัง:
    +104
    หวัดดีครับพี่สาวที่รักหายเร็วๆๆนะจ๊ะเปงห่วงจ๊ะ
     
  17. อาคม ดอกลั่นธม

    อาคม ดอกลั่นธม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    191
    ค่าพลัง:
    +104
    โรคแบบนี้นิคก็เคยเป็นมันทรมานจิงๆๆเวลาปวดท้องนี้นะแทบจะขาดจัยตายเลนแหละ 555ยังไงก็รอดมาแล้วดูแลตัวเองด้วยนะเพราะเป็นห่วงมากจิงบอกครับ อิอิ รักและคิดถึงเสมอจ๊ะ
     
  18. ภัทรอังคาร

    ภัทรอังคาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +14,098
    พอผลฉี่กับผลเลือด ของภัทรออกมาประมาณเที่ยงกว่าๆ พยาบาลก็เข็นภัทรไปแผนกศัลยกรรมอีก ก็ไปเจอหมอ (นักศึกษาแพทย์) อีก ไปติดอยู่ที่แผนกศัลยกรรมอีกประมาณชั่วโมงนึงนอนร้องอยู่บนเตียง คนก็เดินมามอง พอเขาเข็นเข้าห้องพบหมอ ก็คำถามยอดฮิตติดอันดับ ครั้งนี้ครั้งที่สามแล้วที่โดนถาม หมอก็เอามือกดๆๆท้องอีก กดซะแบบสะดุ้งปัดมือหมอเลย หมอบอกว่าสงสัยเบื้องต้นว่าคุณเป็นไส้ติ่งอักเสบนะ หมอจะทำการผ่าตัดไส้ติ่งออกโอเคไหม ครั้งนี้น้ำตามาจากไหนไม่รู้ ร้องไห้เลย น้ำตาไหลพรากๆ นึกในใจ จะตัดใส้ ตัดพุงออกทั้งหมดเลยก็ได้ขอให้หายเจ็บ อย่ามัวพูดอยู่ เอาเลย ทำเลย ไอ้เราก็นึกว่าพูดแล้วเขาจะหั่นเราเลย ที่ไหนได้ บอกว่าจะทำการผ่าตัดบ่ายสามโมงนะ ให้รอ ขณะที่รออยู่นี้ห้ามกินไรเลยนะ แม้กระทั่งน้ำ นึกในใจรู้แล้วเฟร้ยอย่าย้ำให้มาก คนยิ่งหิวๆน้ำอยู่ จนกระทั่งหมอเขาไล่ขึ้นตึกผู้ป่วยใน ศัลยกรรมหญิง ชั้นสอง ขึ้นไปก็เห็นสภาพเพื่อนๆเตียงอื่นๆ โหหนักๆกันทั้งนั้นเลยนี่ ไมเอาเรามาอยู่ตรงนี้ฟระ แสดงว่าเราก็อยู่ในข่ายที่อาจจะไม่รอดหร๋อ ก็คิดดูจะไม่ให้คิดได้ไง เตียงที่ติดกับเรา นอนสายอ๊อกซิเจน เต็มหัวเต็มจมูกไปหมด ยังไม่พูดถึงเตียงอื่นๆเอาแค่เตียงที่ติดกันเลย พอขึ้นเตียงได้นางพยาบาลก็กรูกันเข้ามา เจาะเลือด เจาะเส้นใส่สายน้ำเกลือ สายยาระโยงระยาง พอได้น้ำเกลือความอ่อนเพลียก็หายไปนิด แต่ความเจ็บปวดก็ยังคงอยู่ นางพยาบาลบอกว่า คุณหมอจะทำการผ่าตัดบ่ายสามโมงนะค่ะ ตอนนั้นเหลือบไปดูนาฬิกา เกือบจะบ่ายสองแล้ว ใจชื้นว่าอีกแค่ชั่วโมงทนเอา ภัทรอังคารอึดอยู่แล้ว สู้ๆๆ

    ลืม เล่า ตกหล่นนิดนึง ช่วงที่นอนรอผลเลือดผลฉี่อยู่นั้น แบบว่ามันปวดแทบจะขาดใจตายให้ได้เลย ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรแล้วก็เลยนึกได้ว่า หากว่าตรูจะต้องตาย ก็ขอให้ไปดีละกัน ก็เลยนึกถึงคำที่พระท่านสอนไว้ว่าเวลาเรารู้สึกเหมือนจะตาย ให้ยึดหลัก พุทธานุสติ ธรรมนุสติ สังฆานุสติ ก็เลยนึกถึง หลวงปู่ทวดเพราะตอนนั้นแขวนท่านอยู่ที่คอ เป็นพระผงจักรพรรดิ์พิมพ์หลวงปู่ทวดน้องชายสุดที่รักในเวบนี้ ได้มอบไว้ให้ เราโชคดีที่ท่านติดตัวมาโรงพยาบาลกับเราด้วย นึกถึงสมเด็จพระพุฒาจารย์โต หลวงพ่อบุญส่ง วัดทรงเมตตา นอนไปก็ท่อง หลวงปู่ทวด สมเด็จโต หลวงพ่อบุญส่ง ช่วยลูกด้วย อะ จริงๆนะเวลาคนเรามันเจ็บปวดมากๆ มันมองไม่ออกนะ พยายามจะจับภาพพระพุทธรูปนึกยังไงก็นึกไม่ออกจะเอาองค์สวยๆใสๆ มันนึกไม่ออก นึกภาพหลวงพ่อทั้งหลายก็นึกไม่ออก เพราะทุกขเวทนาเข้าครอบงำ เลยใช้เป็นท่องจากปากเอา ไม่รู้ท่องอย่างงี้อยู่นานแค่ไหน แต่ก็ท่องๆไม่เลิก เสียงแหบแ้ห้ง แทบจะไม่ได้ยินเลย รู้แต่ว่าท่องไปได้สักพักก็ฟลุ๊บไปด้วยความง่วงและเพลีย มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนถูกเข็นไปหน้าแผนกศัลยกรรม ก่อนจะถูกส่งขึ้นไปตึกผู้ป่วยใน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 เมษายน 2009
  19. ภัทรอังคาร

    ภัทรอังคาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +14,098
    ขอบคุณนะจ๊ะ นิคที่เข้ามาอ่าน พี่อุ้มก็รักและคิดถึงนิคมากเช่นกันนะจ๊ะ ตอนนี้เดินได้กระย่องกระแย่ง ยังเจ็บแผลอยู่ เมื่อวันก่อนลืมตัววิ่งขึ้นรถ กลัวพวกเสื้อแดง เลยเจ็บแผลอีกเลย
     
  20. ภัทรอังคาร

    ภัทรอังคาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +14,098
    จริงค่ะ คุณอดุลย์ ผู้ใดเห็นทุกข์ ผู้นั้นจะเห็นธรรม เห็นโทษของการเกิดเป็นมนุษย์ ว่าเกิดกี่ภพกี่ชาติมันก็ทุกข์ ภัทรนี่เข็ดเลย ไม่ขอเอาอีกแล้วภพชาติ แต่ยิ่งเราอยากถึงฝั่งมากแค่ไหน เจ้ากรรมนายเวรยิ่งรุมเร้าค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...