ไหว้พระวัดอรุณ รับอรุณรุ่งแห่งปีจอ

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 4 มกราคม 2006.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,487
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>4 มกราคม 2549 16:25 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> โดย : หนุ่มลูกทุ่ง

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>พระปรางค์องใหญ่นี้ แต่เดิมเคยสูงเพียง 16 เมตร</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> สวัสดีปีใหม่กับผู้อ่านทุกท่าน วันหยุดยาวที่ผ่านมานี้แต่ละคนคงจะได้พักผ่อนกันมาเต็มที่เพื่อเตรียมลุยกันต่อในปีนี้แล้วใช่ไหม ฉันเองก็เริ่มฤกษ์ดีปีใหม่ด้วยการไปไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัยที่วัดอรุณราชวรารามฯ ที่ฝั่งธนบุรี ด้วยความหวังว่าชีวิตในปีใหม่นี้จะเป็นดังรุ่งอรุณที่สดใสเหมือนกับชื่อวัด

    ฉันว่าหลายๆคนคงจะได้ยินชื่อ "วัดอรุณ" หรือที่ชื่อเต็มว่า "วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร" กันอยู่บ่อยๆ เพราะพระปรางค์วัดอรุณนอกจากจะงดงามสมส่วนแล้ว ยังมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นหนึ่งสัญลักษณ์ของกรุงเทพมหานครด้วย

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>วัดอรุณราชวราราม วัดประจำรัชกาลที่ 2</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ชื่อเดิมของวัดอรุณฯ นั้นคือวัดมะกอกนอก แต่ต่อมาสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชได้เปลี่ยนชื่อจากวัดมะกอกนอกมาเป็นวัดแจ้ง เพื่อเป็นอนุสรณ์ว่าพระองค์ได้เสด็จมาถึงที่นี่ในยามแจ้ง ในสมัยกรุงธนบุรี วัดอรุณฯ หรือวัดแจ้งในขณะนั้นถือเป็นวัดประจำวัง เพราะอยู่ในเขตของพระราชวังเดิม จึงไม่มีพระสงฆ์อยู่จำพรรษา และในรัชกาลของสมเด็จพระเจ้าตากสินนั้น วัดแจ้งแห่งนี้ยังเคยเป็นที่ประดิษฐานของพระแก้วมรกตและพระบางอีกด้วย โดยได้อัญเชิญมายังประเทศไทยเมื่อครั้งที่เราไปตีเมืองเวียงจันทน์ในปี พ.ศ.2322 ในครั้งนั้นได้มีการจัดงานสมโภชพระแก้วและพระบางถึง 3 วัน 3 คืนด้วยกัน

    มาพูดกันถึงพระปรางค์กันต่อดีกว่า รู้ไหมว่าพระปรางค์สูงสง่าเป็นหน้าเป็นตาของกรุงเทพฯ องค์นี้เดิมสูงเพียง 8 วา หรือประมาณ 16 เมตรเท่านั้น แต่พระปรางค์ที่เห็นกันในปัจจุบันนี้ได้มีการต่อเติมขึ้นใหม่ในรัชกาลที่ 3 เมื่อคราวที่ทรงปฏิสังขรณ์วัดอรุณใหม่หมดทั้งวัด พระปรางค์องค์ที่บูรณะใหม่นี้มีขนาดความสูงถึง 1 เส้น 13 วา 1 ศอก 1 คืบ กับอีก 1 นิ้ว หรือประมาณ 67 เมตร ล้อมรอบด้วยปรางค์ทิศ และมณฑปทิศ องค์พระปรางค์ประดับด้วยกระเบื้องทำเป็นลวดลายต่างๆ สวยงามมาก แต่ที่น่าทึ่งก็คือ การที่จะสร้างพระปรางค์องค์สูงใหญ่อยู่ใกล้ริมฝั่งแม่น้ำ และยังคงแข็งแรงมาจนถึงทุกวันนี้ได้นี้แสดงว่าฝีมือของช่างในสมัยนั้นไม่ธรรมดาเลยทีเดียว

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ยักษ์วัดแจ้ง ยืนเฝ้าซุ้มประตูดูขึงขัง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> วัดอรุณฯ นี้ถือเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 2 เนื่องจากในขณะที่พระองค์ทรงดำรงตำแหน่งเป็นวังหน้าในรัชกาลที่ 1 นั้น พระองค์ได้ประทับอยู่ที่พระราชวังเดิมแห่งนี้ และได้บูรณปฏิสังขรณ์วัดนี้เป็นการใหญ่ มีการจัดงานสมโภชใหญ่ถึง 7 วัน 7 คืน และพระองค์ยังได้เปลี่ยนชื่อวัดจากวัดแจ้งมาเป็น "วัดอรุณราชธาราม" และเปลี่ยนเป็น "วัดอรุณราชวราราม" ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4

    นอกจากนั้นรัชกาลที่ 2 ยังได้เป็นผู้ปั้นพระพักตร์ของพระประธานในพระอุโบสถด้วยพระองค์เองอีกด้วย จึงถือว่าวัดอรุณฯ นี้เป็นวัดที่มีความผูกพันกับพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยที่สุด ซึ่งปัจจุบันนี้ก็มีพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระองค์ท่านตั้งอยู่บริเวณด้านริมแม่น้ำ

    และเมื่อมาวัดอรุณแล้วก็ต้องมาดูยักษ์วัดอรุณ หรือที่เรียกกันติดปากว่า "ยักษ์วัดแจ้ง" ที่มีเรื่องเล่าว่ายักษ์วัดโพธิ์มาตีกับยักษ์วัดแจ้ง ตีกันจนบ้านเมืองแถวนั้นราบเป็นหน้ากลอง เลยเรียกกันต่อมาว่าท่าเตียน เรื่องเล่ายังสรุปไม่ได้ว่ายักษ์วัดไหนเป็นฝ่ายชนะ แต่ที่แน่ๆ ยักษ์วัดแจ้งนี้เป็นยักษ์ชื่อดังที่ทุกคนรู้จักกันดีจากเรื่องรามเกียรติ์ นั่นก็คือทศกัณฑ์ ยักษ์กายสีเขียว ส่วนอีกตนหนึ่งเป็นยักษ์กายสีขาว ชื่อว่าสหัสเดชะ ยักษ์ทั้งสองตนเป็นยักษ์ปูนปั้นประดับกระเบื้องเคลือบสีเป็นลวดลายและเครื่องแต่งตัว สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>พระอุโบสถของวัดอรุณฯ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ยักษ์วัดแจ้งนี้ยืนเฝ้าซุ้มข้างประตูทางเข้าพระอุโบสถ ซุ้มประตูนี้ก็สร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 ด้วยเช่นกัน มีลักษณะเป็นทรงจตุรมุข หลังคา 3 ชั้น มียอดเป็นทรงมงกุฎประดับด้วยกระเบื้องถ้วยสลับสี หน้าบันเป็นปูนประดับกระเบื้องถ้วย มีลวดลายเป็นใบไม้ดอกไม้สวยงาม ซุ้มประตูนี้เคยทำใหม่มาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ยังคงรูปแบบเดิมไว้ครบถ้วน เพราะเมื่อคราวจะสร้างใหม่นั้น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้ถ่ายภาพซุ้มประตูเดิมไว้ และให้สร้างตามรูปแบบเก่านั้น โดยทรงกล่าวว่า "ซุ้มประตูนี้อยากจะให้คงรูปเดิม เพราะปรากฏแก่คนว่า เป็นหลักของบางกอกมาช้านานแล้ว" และ "ขอให้ถ่ายรูปเดิมไว้ให้ มั่นคง เวลาทำอย่าให้แปลกกว่าเก่าเลยเป็นอันขาด อย่าเพ่อให้รื้อจะไปถ่ายรูปไว้เป็นพยาน
     
  2. PyDE

    PyDE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2005
    โพสต์:
    812
    ค่าพลัง:
    +1,318
    โอ้ว อยากไปถ่ายรูปจัง ยิ่งเย็นๆแสงสีส้มงี้ ...
     

แชร์หน้านี้

Loading...